ก็แค่ของขวัญ - ก็แค่ของขวัญ นิยาย ก็แค่ของขวัญ : Dek-D.com - Writer

    ก็แค่ของขวัญ

    ราคาเท่าไหร่เรอะ... ก็แค่เสียความรู้สึก ขอร้องเถอะอย่ามากระแด่ะได้ไหม ถ้าอยากได้ใหม่บอกกันตรงๆก็ได้

    ผู้เข้าชมรวม

    258

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    258

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ม.ค. 54 / 11:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


    เรื่องที่นำมาเขียนนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆที่ผู้เขียนเจอมากับเจอค่ะ แบบว่ามันเครียดอ่ะนะ ไม่รู้จะระบายให้ใครฟัง ก็เลยนำมาแบ่งให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
     
    ยังไงก็ช่วยเม้นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกีบบทความให้ด้วยนะค่ะ
     
    แบบว่า....จะได้มีหลายๆแนวคิดว่าจะเอาไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี










    ChiN-||- อ่านต่อ : http://writer.dek-d.com/lamlamz/story/viewlongc.php?id=644180&chapter=21#ixzz1BdgPIFM4
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      28  ธันวาคม 2553


      คุณเคยไหมที่ตั้งใจจะซื้อของขวัญให้ใครสักคนแต่เผอิญมีเหตุให้ต้องเอาของขวัญ

      ที่เราเตรียมไว้ไปให้อีกคนหนึ่งแทนแล้วเขาเกิดอาการไม่พอใจกับของชิ้นนั้นซึ่งเป็น

      ชิ้นที่เราตั้งใจเลือกมา



      ฉันเชื่อว่าคุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาบ้างเหมือนกัน ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เจอมากับ

      ตัว ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ซื้อของขวัญแล้วไม่ถูกใจคนรับแต่ไม่มีครั้งไหนเลย

      ที่จะทำให้ฉันเกลียดคนๆหนึ่งได้มากขนาดนี้ คนอื่นๆที่ได้รับของขวัญจากฉันแม้จะ

      ไม่โดนใจเขาแต่เขาก็ยังรักษาน้ำใจคนให้อย่างฉัน ยังยิ้มได้และบอกกับฉันว่าเขา

      ชอบมันมากถึงจะไม่ค่อยตรงกับบุคลิกเขาแค่ไหนก็เถอะ



      แต่คงไม่ใช่กับเขา คนนี้ (อันที่จริงอยากจะเรียกเขาว่ามันด้วยซ้ำ)ช่างเป็นความ

      ประทับใจที่ไม่รู้ลืมจริงสำหรับการแลกของขวัญวันปีใหม่ปีนี้



      เรื่องทั้งหมดเริ่มเกิดขึ้นโดยการที่พวกเราเพื่อนๆทุกตนในห้องอยากจะจับฉลากคู่

      บัดดี้กัน เพื่อที่จะได้ซื้อของขวัญเนื่องในวันปีใหม่ให้ อีกนัยหนึ่งก็เพื่อจะได้เลือก

      ของขวัญให้ถูกใจคนรับด้วยแหล่ะ
        จนกระทั่งมาถึงวันที่จะเฉลยกันว่าใครได้เป็นบัด

      ดี้กับใครก็มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนกติกา  เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาอยากจะแลกของขวัญ

      ด้วย จึงต้องเปลี่ยนจากการให้บัดดี้มาจับฉลากกันใหม่ และเหตุก็เริ่มจากตรงนี้นี่แห

      ล่ะ  เมื่อของขวัญที่ฉันตั้งใจเลือกให้บัดดี้เป็นตุ๊กตากระต่ายสีชมพูราคาร้อยสามสิบ

      เก้าบาท ซึ่งฉันคิดว่ามันเหมาะกับบัดดี้ของฉันมากๆ แต่น่าเสียดายคนที่จับฉลากได้

      ของขวัญของฉันกลับเป็นเขาคนนั้น




        




      คุณรู้ไหม ตอนที่เขาแกะของขวัญออกมาดูแล้วเขาทำยังไง.....จะทำไงนะเหรอ....

      เขาก็ถามก่อนเลยว่าราคาของขวัญชิ้นนั้นราคาเท่าไหร่ ไอ้เราก็ไม่นึกเอะใจอะไรคิด

      ว่าเขาอยากรู้เฉยๆก็เลยบอกไปว่าร้อยกว่าบาท เพราะในกติกากำหยดไว้ว่าของขวัญ

      จะต้องราคาหนึ่งร้อยบาทขึ้นไป พอฉันบอกเสร็จเขาก็เดินกลับไปที่โต๊ะ ส่วนฉันก็

      คุยกับเพื่อนๆคนอื่นตามปกติ



      บางคนอาจคิดว่ามันก็ธรรมดานิ ในเมื่อฉันก็ทำตามกติกาทุกอย่างแล้วมันจะยังมี

      อะไรอีก แต่มันมีมากกว่านั้น เมื่อเขากลับไปที่โต๊ะแล้วไปนั่งร้องให้อยู่ เขาพูดกับ

      เพื่อนที่นั่งอยู่แถวๆนั้นประมาณว่าฉันอัพราคาของเกินจริง เขาคิดว่าตุ๊กตากระต่าย

      ของฉันราคาแค่เก้าสอบเก้าบาท โถๆๆๆ
      !!!! แม่คุณใช้สมองส่วนไหนคิดว่ะ



      และมันคงจะไม่มีอะไร.....ถ้าเผอิญฉันไม่หันไปเห็นเขานั่งร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะ

      ตายให้ได้ พร้อมกับพูดเพื่อนๆที่นั่งอยู่ว่า เขาเสียความรู้สึก แล้วเขาก็พูดวนไปวน

      มาอยู่อย่างนั้น ฉันทนไม่ไหวก็เลยไปถามว่า “ตกลงจะเอาไง” เพราะตอนนั้น

      เพื่อนๆที่นั่งอยู่หันมามองฉันด้วยสายตาประมาณว่า....แกขี้โกงนี่หว่า อีกอย่างฉันไม่

      อยากให้มีอะไรคาใจด้วย จึงถามกลับไปว่า “ถ้างั้นจะเอาอะไร จะได้ไปซื้อให้

      ใหม่”
       แต่มันกลับบอกว่าไม่เป็นไรแถมยังบอกให้ฉันเอาตุ๊กตากลับไปด้วย(แล้วไอ้

      ที่แกทำอยู่ กรูไม่เสียความรู้สึกเหรอ) เชอะ
      !! ถ้ามรึงจะพูดว่าไม่เป็นไร แล้วมรึงจะ

      สะเออะต่อท้ายว่า “ก็แค่เสียความรู้สึก” อีกทำไมกันว่ะ ฉันซึ่งเป็นคนให้ก็เสีย

      ความรู้สึกเหมือนเหมือนกันโว้ยที่ของขวัญน่ารักๆไปอยู่ในมือของคนที่ไม่มีค่าอย่าง

      แก



                                     
       


      แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเจ็บใจเท่กับที่เขาพูดว่า “ไม่เป็นไรไม่ต้องซื้อใหม่หรอก”....แต่ขอ

      หมอนลายมิ้กกี้เม้าที่ฉันจับฉลากได้แทนแล้วคืนตุ๊กตากระต่ายให้ฉัน โอ้
      !โคตรด้าน

      อ่ะ ปูนซีเมนต์ยังอาย



      ฉันว่านะที่เขาไม่พอใจคงเป็นเพราะว่าราคาตุ๊กตาของฉันไม่สูงเท่ากับของขวัญที่

      เขาเอามาให้บัดดี้ละมั้ง เพราะคนที่ได้ของขวัญเขาบอกกับฉันว่ามันบอกว่าราคา

      ของขวัญตั้งสามร้อยกว่าบาท (แต่ที่ฉันซื้อมาใหม่ให้เขานั้นแค่สองร้อยเองเหมือน

      กันเด่ะ ส่วนไซต์ใหญ่ก็แค่สองร้อยสามสิบหกบาทเอง)



      ก็มีเพื่อนๆหลายคนนะที่ห้ามฉันว่าไม่ต้องไปซื้อใหม่ แต่คุณคงจะเข้าใจนะว่าตอน

      นั้นฉันรู้สึกแย่เอามากๆ ก็เลยอยากทำให้เรื่องมันจบๆไป จะได้ไม่ต้องมาทนฟังมัน

      พร่ำเพ้อจะตายเสียให้ได้ว่าเสียความรู้สึกขนาดหนักที่มันย้ำนักย้ำหนา(ทั้งที่ปากมัน

      บอกกับฉันว่าไม่เป็นไร แต่ยังอุตส่าพูดให้ได้ยิน) ถ้าอยากได้ใหม่บอกกันตรงๆ

      ก็ได้ไม่ต้องทำกระแด่ะไปหรอก



      หลังจากที่ซื้อของขวัญมาใหม่(โคมไฟตุ๊กตา) ฉันคิดไว้ว่าจะคุยกับมันสักคำสองคำ

      ว่า “ถ้ากลัวได้ของขวัญไม่ถูกใจหรือไม่คุ้มทุนแล้วมรึงจะสะเหร่อมาแลกห่าเหวอะไร

      ของมรึงห๊ะ
      !!” แต่ว่า..ก็นะ ได้แค่คิดเท่านั้นแหล่ะ ไม่ได้พูดออกไปเพราะเพื่อนๆขอ

      เอาไว้ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ฉันจึงให้เพื่อนเอาโคมไฟไปตั้งไว้ที่กระเป๋าเขา (ไม่

      ต้องห่งต้องห่ออะไรมันแล้ว แค่ซื้อให้ใหม่ก็บุญเท่าไหร่แล้ว)



      แล้วพอได้เวลาจะกลับบ้านบ้านนะ เขาก็ถือโคมไฟเดินเข้ามาหาฉัน (ออ..ตุ๊กตาฉัน

      เอาคืนแล้ว เรื่องไรจะให้ในเมื่อมันไม่เห็นค่า คนอื่นเขาเข้ามาแย่งกันขอตั้ง

      เยอะ) แล้วยื่นมาให้ฉันพร้อมกับทำหน้ายิ้มๆ หรือจะแสยะยิ้มดีล่ะ และพูดขึ้นว่า “เอา

      กลับไปเหอะ เราให้” ยังจะกล้าพูดอีกเนอะ เออะ..มึงยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง

      ว่ะ ถึงจะเห็นว่าปกติฉันเป็นคนเงียบๆเฉยๆไม่ค่อยพูด แต่ความอดทนของฉันก็มีขีด

      จำกัดนะ แมร่งคนยิ่งไม่ค่อยมีตังค์อยู่ยังจะเรื่องมากอีก ก็เลยหันไปมองหน้ามัน

      (อยากบอกว่าตอนนั้นหน้าตางี้ซีเรียสมาก ก็มันเกินทนแล้วง่ะ) แล้วพูดขึ้นมาคำหนึ่ง

      ว่า “อย่ากวน
      TEEN เสร็จแล้วก็หยิบกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนเขาก็หุบยิ้ม

      แล้วเดินจากห้องไป



      ฉันจะคอยดูว่าเรื่องนี้มันจะจบหรือไม่จบ สำหรับฉันถ้าไม่มีใครพูดอะไรก็ปล่อยเลย

      ตามเลย แต่อย่าให้ฉันรู้ว่าเขายังเอาเรื่องเสียความรู้สึกนี้ไปพูดกับเพื่อนๆห้องอื่น

      อีก เรื่องจะไม่จบตามที่เพื่อนๆในห้องขอเอาไว้แน่ คงต้องมีเคลียกันนอกรอบ
      !!




      ถ้าเขาอยากจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เอง ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้
      เมื่อไหร่ที่ความอดทนของฉันสิ้นสุด ก็จะรู้เองว่าตัวตนของฉันเป็นอย่างไร
       
       
      ………by นางมารในคราบนางฟ้า


      ******************************************************************************


      สุภาษิตโบราณว่าไว้ว่า......

      โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า
       

      สุภาษิตของฉัน......

      เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย
       

      แล้วคุณล่ะ!!จะเลือกเป็นแบบไหน
       
      -------------------------------------------------------------------------------------------
      ขอบคุณทุกคนนะที่เข้ามาอ่าน





      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×