ปราสาทตุ๊กตา - นิยาย ปราสาทตุ๊กตา : Dek-D.com - Writer
×

    ปราสาทตุ๊กตา

    ชื่อสถานที่เรื่องมีอยู่จริง ผู้เขียนนำประสบการณ์บางส่วนที่พบเจอตอนไปเที่ยวมาสร้างใหม่ โดยใช้โครงของเรื่องสยองขวัญที่เคยเขียนทิ้งไว้แต่ไม่เสร็จ เนืืองจากผู้เขียนขี้เกียจจึงแบ่งซอยออกเป็นตอนๆครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    82

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    82

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 ส.ค. 58 / 01:28 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

    รถไฟฟ้าความเร็วสูงหยุดลงป้ายสถานีบ่งบอกชื่อย่านการค้า ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกจากชานชาลาไปตามทางเดินหินปูลาด รองเท้าหนังสีดำมันกระทบพื้นเป็นจังหวะ ชุดคลุมสีดำค่อนข้างเก่าแต่สะอาดสะอ้าน ตัดกับหิมะสีขาวบนพื้น เขาเดินด้วยท่าทีผ่อนคลายและหยุดมองเป็นพักๆ กวาดตามองป้ายร้านค้าจนกระทั่งสายตาหยุดอยู่ที่ป้ายไฟสีชมพูอ่อนเหมือนขนมสะดุดตาหน้าร้านแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มลูบคางที่มีเคราหรอมแหรมเบาๆอย่างเคยชินแล้วจึงเดินตรงเข้าไป กระจกบานใหญ่หน้าร้านเผยให้เห็นของเล่นมากมายหลากสีสัน ตั้งแต่ของเด็กทารกไปจนถึงเด็กประถม  พื้นที่กว่าครึ่งบนชั้นเป็นตุ๊กตา ชายหนุ่มยืนมองสินค้าในตู้อยู่พักหนึ่ง เดินวนไปมาที่หน้าประตูท่าทางลังเลเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือล้วงไปหยิบโทรศัพท์มือถือนั้น ประตูกระจกก็เปิดออกออกช้าๆ เผยให้เห็นแสงไฟสีส้มนวลดูอบอุ่น กระดิ่งสีทองดังกรุ๊งกริ๊ง

    หญิงสาววัยรุ่นท่าทางร่าเริงคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตู  เธอมองมาที่ชายหนุ่ม แววตาของเธอดูอ่อนโยนแต่ก็แฝงความขี้เล่น  คุณคัตสึกิ เธอส่งยิ้มเป็นมิตรให้ชายหนุ่ม  หากเธอไม่ได้ใส่เครื่องแบบพนักงานขายแล้วละก็ใครๆก็คงคิดว่าเธอเป็นครูอนุบาล

    “ไง คุณโคโคโระวันนี้อากาศดีนะครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบ น้ำเสียงของเขาฟังดูเด็กกว่าใบหน้า

     “เสียงสั่นใหญ่แล้ว ข้างนอกอากาศหนาวนะคะ เข้ามาสิ”

    หญิงสาวเปิดประตูนำเขาเข้าไปในร้าน 

    ด้านในของร้านขนาดไม่ใหญ่พอๆกับรถบัสโรงเรียนสองคันต่อกันเท่านั้น พื้นที่ทุกส่วนของร้านจึงออกแบบมาไม่ให้มีพื้นที่เสียเปล่า เสียงลูกค้าเด็กๆดังสลับกับเสียงห้ามปรามของพ่อแม่ บรรยากาศในร้านอุ่นสบาย ผิดกับอากาศหนาวเย็นภายนอก ยิ่งบนชั้นมีตุ๊กตาขนฟูๆดูนุ่มนิ่มเรียงรายเป็นแถวแล้ว เด็กๆหลายคนแทบไม่อยากออกจากร้านทีเดียว

    ยังดูเซอๆไม่เปลี่ยนเลย ลมอะไรหอบมาคะเนี่ย ?” หญิงสาวเจ้าของร้านหยอก

    “ผมไม่ได้เจอเพื่อนเก่าอย่างคุณนานมากแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวพลางใช้นิ้วหมุนเน็คไทในมือ 

    “แค่นั้นเหรอคะ?

    เธอถาม เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

    “ผมมีเรื่องคุยกับคุณเยอะเลย”

    “ถ้างั้นตอนนี้มาช่วยฉันในร้านก่อนแล้วกัน ไว้ปิดร้านแล้วค่อยคุยกันให้เต็มที่” พูดจบหญิงสาวก็หยิบลังใบใหญ่ส่งให้

    แม่ขาพี่ผู้ชายคนนั้นแปลกจัง เล่นตุ๊กตาด้วย”    เด็กหญิงท่าทางซุกซนคนหนึ่งพูดยิ้มๆกับแม่

     แม่ของเด็กยิ้มตอบ    พี่เขาอาจจะไม่ได้ซื้อไปเล่นเองเหมือนหนูก็ได้นะ

     “เอาละได้ของขวัญวันเกิดแล้วนะแม่ลูกคู่นั้นจูงมือกันออกไป พร้อมกับเสียงกระดิ่งที่ประตู ดังกรุ๋งกริ๋ง

    “เสียงดังหน่อยนะ แต่ก็น่ารักดี” หญิงสาวพูดลอยๆแล้วหันมาทางชายหนุ่ม “นี่ๆกล่องนี้มันต้องไว้ตรงนี้ต่างหาก!

    “”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””

    “ไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะคุยไปด้วยซ่อมตุ๊กตาไปด้วย” เธอถามพลางหยิบตุ๊กตาเก่าขาดตัวหนึ่งขึ้นมา “เจอมันอยู่แถวถังขยะน่ะ”

    หญิงสาวซ่อมตุ๊กตาเก่าขาดที่เก็บมาอย่างชำนาญ มันไม่มีตา แขนก็หลุดหายไป

    ผมจะมาบอกคุณว่าได้งานสอนที่โรงเรียนในเมืองใกล้ๆนี้ คงจะได้เจอกันบ่อยขึ้น

    “โรงเรียนม.ปลาย? ชื่อนี่มัน..โรงเรียนที่พวกเราเรียนกันตอนเด็กๆนี่ หญิงสาวถามพลางแทงเข็มเย็บผ้าทีละเข็ม ละเข็มค่อยๆเติมชีวิตให้กับตุ๊กตา

    “ทำให้นึกถึงอะไรขึ้นมารึเปล่าครับ?”

    “นึกถึงคนที่มาเรียนสาย ชอบเหม่อลอย ทรงผมประหลาด” เธอพูดยิ้มๆ

    “ผมนึกถึง หัวหน้าชั้นปี นักเรียนดีเด่น..” ชายหนุ่มกล่าว

    แบบนี้แหละถึงจะน่ารักดี..หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ตุ๊กตาหมี เจ้าตุ๊กตาเหมือนจะยิ้มตอบ

    ฉันไม่รู้ว่าสองคนนี้คบกันได้ยังไง เนอะเจ้าหมีคิดว่าไงหือ..” หญิงสาวพูดโดยแกล้งดัดเสียงหมี

    หิมะด้านนอกยังคงโปรยปราย เหมือนปุยนุ่นขาวๆ แม้ว่าจะเป็นกลางคืนย่านการค้าแห่งนี้ก็ยังมีผู้คนเดิน ป้ายไฟหลากสีประชันความเด่นกันในยามราตรี จนกลบรัศมีดวงดาว ยามค่ำคืนนอกจากจะหมายถึงความสงบและเวลาแห่งการพักผ่อนแล้ว บางครั้งมันอาจหมายถึงอันตราย เพราะยามค่ำคืนคือความมืด โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ มักมีความมืดที่มองไม่เห็นมากกว่าที่ใดๆ เพราะสภาพสังคมในเมืองมักสับสนวุ่นวายจนผิดแปลก ส่งผลให้มีอาชญากรรม และเรื่องผิดปกติต่างๆเกิดขึ้น

     

    ประตูเปิดออก ลมหนาวพัดเข้ามาในร้านระลอกใหญ่ หญิงสาวคนหนึ่งก้าวเข้ามาในร้านโดยที่พวกเขาไม่ได้สังเกต

    หญิงสาวเจ้าของร้านสะดุ้ง เธอเงยหน้าขึ้นและพบว่าที่หน้าเคาเตอร์มีคนยืนอยู่ หญิงสาวแปลกหน้าร่างสูง ผมย้อมสีทองตัดสั้น หากมองจากด้านหลังอาจเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายได้

    ขอโทษที่รบกวนนะคะ” หญิงสาวผมสั้นกล่าวเสียงเย็น

    ร้านเราปิดแล้ว” หญิงสาวเจ้าของร้านรีบพูด

    หญิงสาวผมสั้นแกล้งมองไปที่ป้าย “อย่าพึ่งรีบร้อนสิ ฉันมีธุระกับคุณต่างหากคุรเจ้าของร้าน”

    ฉันแค่อยากรู้ว่า เธอ-มี-ธุระ-อะไร หญิงสาวเจ้าของร้านตอบเสียงเรียบ

    “พอดีมาทำงานน่ะ เลยแวะมาเยี่ยม” หญิงสาวผมสั้นกล่าวเสียงเนือยๆพลางกวาดตามองร้าน “อ้าวคุณมีแขกด้วยเหรอคะเนี่ย”

    “เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน”

    “ฉันก็มีคำถามให้คุณเหมือนกัน ” หญิงสาวผมสั้นหยิบกระดาษแผ่นแผ่นหนึ่งออกมายื่นให้เจ้าของร้าน  “ฉันมาเพราะเรื่องนี้..เรื่องที่เกิดขึ้น ฉันต้องการคำตอบที่น่าพอใจ หญิงสาวผมสั้นกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก 

    ประตูเปิดออกอีกครั้ง ชายร่างใหญ่สองคนเดินเข้ามาในร้านยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลังหญิงสาวผมสั้น

    ชายหนุ่มสบตากับหญิงสาวเจ้าของร้านทำท่าหารือแต่หญิงสาวเจ้าของร้านส่ายหน้า

    “เรามีเวลาไม่มากครับหัวหน้า” ชายร่างใหญ่กล่าว

    ประตูยังคงเปิดกว้าง อากาศหนาวเย็นข้างนอกเริ่มผนึกรวมกับอากาศอุ่นภายในเป็นเนื้อเดียว บรรยากาศที่เริ่มเย็นสงบนิ่ง ของเล่นทุกตัวในร้านหากมีชีวิตพวกมันอาจอยากลุกขึ้นมายืนข้างเจ้านายของพวกมัน เผื่อว่าจะช่วยคลายความหนักใจไปได้ หญิงสาวเจ้าของรับกระดาษมาดูหางตาเธอสั่นกระตุก เธออ่านจบแล้วฉีกมันเป็นชิ้นๆ

    หญิงสาวผมสั้นเลิกคิ้ว พลางมองเจ้าของร้าน

    “ฉันยืนยันคำตอบเดิม” หญิงสาวเจ้าของร้านเงยหน้าขึ้น แววตาเธอแน่วแน่

    “ฉันนึกว่าคุณจะเลือกตัวเลือกที่ดีกว่านี้” หญิงสาวผมสั้นแกล้งถอนหายใจ “ฉันคงต้องกลับไปมือเปล่าใช่ไหมคะเนี่ย”

    “ก็คงงั้นแหละ” หญิงสาวเจ้าของร้านพูดเยาะๆ

    หญิงสาวผมสั้นยังคงรักษาสีหน้าไร้ความรู้สึกเอาไว้ได้ เธอโบกมือส่งสัญญาณให้ชายร่างใหญ่ทั้งสอง “ไปรอข้างนอก” เธอพูดเสียงสั้นห้วนเหมือนเสียงที่เจ้านายใช้สั่งสุนัข แล้วจึงหันหลังกลับ เดินไปที่ประตูแต่ละก้าวกระฉับกระเฉงราวกับนักกีฬา

    “ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจเรื่องนี้สักที” หญิงสาวผมสั้น “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน..มันเกิดขึ้นอีกแล้ว”

    “เธอด้วยพ่อหนุ่ม” เธอพูดกับชายหนุ่ม “ฉันแนะนำว่าคุณควรอยู่ห่างๆ ผู้หญิงคนนี้ไว้”

    ประตูปิดลง ปิดกั้นอากาศหนาวจากภายนอก

    “พวกทวงหนี้?” ชายหนุ่มถาม

    “ถ้าใช่ฉันจะรู้สึกดีกว่านี้มาก” หญิงสาวเจ้าของร้านตอบ

    “”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””’””””””

    ชายหนุ่มขี่จักรยานไปตามถนน อากาศยามค่ำคืนเย็นยะเยียบกรีดแทงผิวเนื้อ ราวกับว่าหิมะบนท้องฟ้าเห็นผู้คนและสัตว์บนพื้นโลกเป็นผักปลา สองข้างเป็นมีไร่นา โรงงานขนาดใหญ่ผุดขึ้นกลางทุ่งกว้างเกษตรกรรม ดูราวกับสิวดื้อ ปล่องควันปล่อยไอน้ำสีขาวตัดกับฟ้าสีเทา ถนนสายหลักกว้างพอสำหรับรถจำนวนมาก แต่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้จะมีรถมากแค่ไหนกันเชียว

    ชายหนุ่มสั่นสะท้านเพราะทั้งความหนาวและเรื่องที่เกิดขึ้น โคโคโระไม่ยอมบอกอะไรเขาเลยหลังจากการปรากฏตัวของหญิงสาวแปลกหน้าคนนั้น  และยังปฏิเสธที่จะให้ไปส่ง

    “คุนิทาจิ” ป้ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมทาง

    ต้นไม้สองข้างทางเป็นสีขาวเทา ไม่มีใบ กิ่งก้านแห้งเหี่ยวขึ้นตัดกันเหมือนไยแมงมุม ด้านล่างมีลำธารสายเล็กๆลมหนาวพัดมาทำให้มือของเขาที่กุมแฮนด์จักรยานชาด้านไร้ความรู้สึก แม้ว่าเมืองๆนี้ดูเผินๆจะเป็นเมืองใหม่ แต่ก็มีส่วนที่ทีประวัติยาวนานอยู่ด้วย เขาไม่ค่อยชอบผ่านไปแถวนั้น เพราะค่อนข้างเงียบ มีแต่ศาลเจ้าเต็มไปหมด เขานึกถึงตอนสมัยเรียนตอนที่ไปทัศนศึกษาและพลัดหลง  รอบข้างมีแต่ต้นไม้แห้งสีขาว บนพื้นมีใบไม้แห้งกองสูง มองไกลๆจะเห็นปราสาทของขุนนางสมัยโบราณอยู่บนยอดเขา ถนนหนทางดูชัดเจน แต่ความจริงแล้วเพียงแค่ออกนอกทางไป ก็จะต้องเดินวนอยู่เป็นชั่วโมงๆ นี่เป็นความฉลาดของคนที่สร้างปราสาทนี้ เขาจำได้ว่าทุกๆก้าวที่เขาเดินจะมีเสียงกรอบแกรบ ราวกับว่ามีคนเดินตาม แต่พอหันไปแล้วก็ไม่พบใคร

    กระดาษแผ่นนั้นมีอะไร ผู้หญิงปริศนาคนนั้นคือใคร มีแต่เรื่องให้คิดเต็มไปหมด

    “สิบปี..สิบปี...”แล้วชายหนุ่มก็นึกอะไรบางอย่างออก มันเป็นช่วงที่เขาพบกับโคโคโระพอดีนี่!

     

     

     

     

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น