คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แปลกๆ
เช้าวันใหม่กับการเปิดเรียนวันแรกของชั้นมัธยมปลายที่เต็มไปด้วยเสียงนกเสียงกาและละอองน้ำค้างที่ยังหลงเหลืออยู่ อีกทั้งยังอบอวลไปด้วยความตื่นเต้นความปิติยินดีในการกลับมาเจอกันใหม่ของเพื่อนๆโดยเฉพาะเพื่อนห้องเดียวกัน
ไข่เจียวอยู่ชั้นมัธยมปลายห้อง D ส่วนใหญ่ในสายตาของห้องอื่นมองห้อง D ว่าเป็นห้องเด็กเรียน ห้อง king แต่สงสัยหลายคนจะคิดผิด จริงอยู่เด็กห้องD เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนแต่ก็ไม่ถึงขนาดเงียบไม่คบกับใคร ส่วนใหญ่เพื่อนเกือบหมดทุกคนในห้องมีความเป็นมิตร ความสดใส ต่างคนก็ต่างมีเพื่อนสนิทกัน ก็แน่หละ 3 ปีมาแล้วนี่ที่ได้คบกันมา
“หวัดดีเว้ยต้น ไอ่ไผ่หละ”ไข่เจียวพูดด้วยอาการยิ้มแย้ม
“ดี.... อ๋อ ไอ่ไผ่ยังไม่มาเลย”
“มันทำอะไรอยู่วะ....”คิ้วขมวดเล็กน้อยพร้อมกับมองไปรอบๆ
“มันบอกแม่มันไม่สบายง่ะพาแม่ไปหาหมอก่อน”
“อ่ะหรอ.....นั่นไอ่วายุหรือป่าววะ”
“เออ....มีไรก่ะมันอีกหละ”
“ป่าวแค่เกือบลืมหวะ แมร่งตั้งแต่ม.4ไม่เคยพูดกับใครเลย”
“จะไปทักมันหรอ”
“อืม...”
เด็กห้อง D เป็นเด็กที่ดูเหมือนเด็กเรียนแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยทั้งยังชอบโดดเรียน ชอบนั่งเล่น ชอบขอคาบว่างจนโดนอาจารย์หลายท่านด่า แต่ต้องขอบอกว่าไม่ใช่ทุกคน วายุเป็นเด็กหนุ่มลักษณะนิสัย เงียบ ไม่เคยคบกับใครตั้งแต่ ม.4 อีกทั้งยังชอบเก็บตัว ไปไหนไปคนเดียวเด็กหนุ่มใส่แว่นไม่ผอมมากหน้าตาเหมือนกับคนไม่เคยยิ้มมาก่อนนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือ ด้วยเหตุนี้เพื่อนๆในห้องจึงไม่ค่อยอยากจะคบด้วยและชอบแกล้งวายุอยู่เสมอ อาจเป็นเหตุผลนึงที่วายุไม่เคยคบกับใครเอาแต่หมกอยู่กับหนังสือซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้นก็ไม่มีใครสนใจ แต่สำหรับไข่เจียวแล้ววายุเป็นเพื่อนคนนึง ไข่เจียวคิดว่าวายุต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างที่เป็นแบบนี้ จึงเข้าไปขอพูดคุยอยู่เรื่อยๆแต่โดนปฏิเสธกลับมาทุกที แต่ไข่เจียวต้องแปลกใจเมื่อมองเห็นหน้าหนังสือที่วายุอ่านมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับฆาตกรรมออกแนวโรคจิตนิดๆ ยิ่งทำให้ไข่เจียวยิ่งอยากรู้เข้าไปอีกว่า วายุมีปัญหาอะไรทางบ้านหรือที่โรงเรียนหรือป่าว
“หวัดดีวายุ”
“..............”เงียบ
“ทำไมมานั่งคนเดียวหละ”
“..............”เงียบ
“อ่านอะไรอยู่ง่ะ ....ไหนดูหน่อย....พิศวาสฆาตกรรม”ไข่เจียวแทบจะอุทานออกมา
“............”วายุนั่งก้มหน้า ..เงียบ
“งั้นๆๆ....เราขอตัวก่อนนะไอ่ไผ่มาแระ”ไข่เจียวเหงื่อตกแระรีบออกไปจากตรงนั้นอย่างเร็ว
ระหว่างไข่เจียวกำลังเดินไปหาไผ่ที่เพิ่งมาถึงพร้อมกับแม่ของเขาที่นั่งลงบนโต๊ะหินอ่อนหน้าหอประชุม ในใจก็เดินคิดไปว่าควรจะทำอย่างไรกับวายุดี ไหนๆปีนี้ก็จะจบจากกันไปและก็อยากจาให้ไปอย่างมีความสุขทุกคน
“สวัสดีครับแม่ไผ่”
“อ้าว ไข่เจียวหวัดดีลูก”
“ไผ่หละครับ”
“นั่นไงยืนคุยกับต้นอยู่นั่นอ่ะลูก”
“ครับ...”
ไผ่เป็นคนตัวสูงๆพอๆกับไข่เจียวจึงมองเห็นได้ง่ายๆแม้จะอยู่ตรงคนเยอะขนาดไหนก็ตาม
“หวัดดีเว้ยไผ่ มาแล้วหรอ”
“เออดิ...ไงไข่เจียวไปคุยก่ะไอ่วายุมาหรอ ไม่มีใครครบแล้วไงวะ”
“ว่าไป วายุมันก็ดูแปลกจริงๆแหละ มีปัญหาอะไรป่าวก็ไม่รู้”
“อือ...อย่าไปสนใจเลยหวะ...ไปกินข้าวกัน”
“ไปดิไป”
เสียงทะเลาะกันของพ่อแม่ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในบ้านทำให้หญิงและชายคู่นี้ที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมา 20 ปีต้องแยกทางกันไป วายุอยู่กับพ่อที่ พอจะมีฐานะอยู่บ้างแต่ความสุขที่เคยมีก็ลดน้อยลงกว่าตอนที่อยู่ด้วยกันที่สำคัญพ่อได้นำเด็กสาวอายุห่างจากวายุไม่มากนั้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขาซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนเพื่อน ครู ไม่มีใครรู้และช่วยเขาได้ซักคน
“เลว.... ฉันบอกให้เลิกทำได้แล้ว”แม่พูดกับพ่อด้วยอารมณ์ขอร้อง
“ถ้าฉันเลิกราจะเอาอะไรกินกัน”
“แก..แกไม่อายลูกมันหรอไง ลูกมันรู้เรื่องแล้ว”แม่เริ่มมีอารมณ์
“รู้หรอ...รู้ก็ดีสิมันจะได้รู้ว่าเงินที่ซื้อข้าวไว้ราดหัวมันน่ะเอามาจากไหน”
“งั้นหรอ...และถ้าพ่อแม่มันตายหละ มันจะมีอะไรราดหัวมันอีกไม๊”
“เพี๊ยะ.....”พ่อตบแม่อย่างแรง
“อ๊าก .....มึงกล้าตบหน้ากูหรอไอ้เลว”
“เออ.....ถ้ามึงไม่พอใจมึงก็ออกไปเดี๋ยวกูเลี้ยงลูกเอง”
“เออ...มึงจำคำพูดไว้ พรุ่งนี้กูไปแน่ ไอ้แสด”
หลังจากนั้นพ่อกับแม่ของวายุก็ต้องแยกทางกันและพ่อก็เลี้ยงวายุเป็นต้นมาด้วยเงินสกปรกๆที่ได้มาจากการค้าสิ่งเสพติดซึ่งไม่ได้เป็นที่น่าภาคภูมิใจของวายุนักแต่พ่อก็ห้ามวายุไม่ให้บอกใครโดยขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย จึงเป็นอีกสาเหตุนึงที่วายุไม่ค่อยคบกับใคร และใครก็ไม่มีใครรู้เรื่องของวายุเลย
“ไอ้ยุมาหาพ่อซิ”
“..........”
“ไอ่นี่...พูดบ้างก็ได้โว๊ยเออ”
“ครับพ่อ”
“เหอ...เองรู้เรื่องพ่อแล้วใช่มะห้าบอกใครหละและจากนี้ไปมาช่วยกันทำมาหากินด้วย”
“อะ..อะ..อะไรนะครับพ่อ....มะ..มะ..ไม่อ่ะ”วายุตกใจกับงานที่ตัวเองไม่ปรารถนา
“ไม่มีคำว่าไม่โว๊ย ถ้าเองไม่ทำก็ออกจาบ้านนี้ไป”
“..........”
“คะ..คะ ครับพ่อ..”วายุจำยอมที่ต้องตอบรับไป
ท่ามกลางเสียงผู้คนในโรงอาหาร ไข่เจียว ต้น และไผ่กำลังนั่งอร่อยกับอาหารมื้อเช้าที่ถูกแสนถูกเพราะเป็นอาหารภายในโรงเรียน โดยไม่สังเกตว่า วายุได้เดินมานั่งโต๊ะข้างพอที่จะได้ยินทั้งสามคนคุยกัน
“ไข่จียว...ไผ่ เอาน้ำไรวะเดี๋ยวไปซื้อให้”ต้นถาม
“น้ำแดง”
“น้ำแดงเหมือนกัน”
“เออไอ่ไผ่..ไอ่วายุมันแปลกๆหวะ”
“เออรู้แล้ว จาพูดแล้วพูดอีกทำไมวะ”ไผ่เริ่มรำคาญ
“ก็มันแปลกจริงๆนี่หว่า”ไข่เจียวย้ำ
“และนายจะทำอะไรวะ”
“เราว่าเรา.....เราต้องสืบหาความจริงหวะ”
“อะ...อะไรนะ....ฮะฮะฮะ ไอ่นี่เพิ่งอยู่ม.ปลายริอาจจะเป็นนักสืบ” ไผ่ทำหน้าเครียดเล็กน้อย
“อย่าดูถูกเรานะเว้ย...”
“เออ...เออ...เออ โชคดีนะโว๊ย”
การพูดของไข่เจียวทำให้ไผ่ตกใจเหมือนกันแต่มีคนที่ตกใจมากกว่านั่นก็คือวายุ เขาจึงคิดว่าเขาต้องทำอะไรซักอย่างกับไข่เจียวเพื่อไม่ให้มาสืบเรื่องราวของเขามากเกินไปจนทำให้บางสิ่งบางอย่างที่ปิดบังไว้ถูกเปิดเผยและอาจทำให้ตัวเองและพ่อต้องเดือดร้อน แต่วายุตัดสินใจไม่บอกพ่อของเขา แต่เขาจะจัดการด้วยวิธีของเข้าเอง
หลังจากอาหารเช้าทุกคนก็ต้องไปเข้าแถวแต่เป็นวันเช้าที่แปลกมากเพราะวันนี้วายุเลือกที่จะมายืนข้างหน้าไข่เจียวและ
ไข่เจียวเมื่อเช้าเราขอโทษนะที่ไม่ได้คุยก่ะนาย
อะ...อะไรนะ อ้อ...วายุหรอ ขอโทษทำไมไม่เป็นไรหรอก
“ความจริงเราก็อยากคุยกับนายเหมือนกันแหละ”
“หรอ จริงสิ เราก็อยากเป็นเพื่อนนายเหมือนกันตั้งแต่ม.4และดูนายแปลกๆ”
“เพราะอย่างนี้เองสินะเราถึงโดนเพื่อนๆแกล้งเป็นประจำ”
“เอ่อ...”
“นายด้วยสินะไข่เจียว”
“เราไม่เคยแกล้งนายนะวายุ...เอ่อ...แต่บางทีเพื่อนๆก็พาไป ..ฮะฮะฮะ”
“นั่นไงหละ ....แต่ถึงนายไม่แกล้งอ่ะนายก็ไม่ได้ห้ามเพื่อนๆคนอื่นไม่ใช่หรอ”
“เอ่อ...ขอ..ขอโทษนะวายุและนายมาว่าเราคนเดียวได้ไงเนี่ย”
“นั่นสิเราจะต้องมาพูดกับนายเรื่องนี้ทำไม เราควรหาวิธีจัดการของเราเอง”
“นายจะทำอะไรหรอ”
“นั่นสิเราจะทำยังไงดีนะ เหอ เอ่อ เพลงชาติขึ้นแล้วหยุดคุยเถอะ”
การพูดคุยของวายุนั้นทำให้ไข่เจียวรู้สึกแปลกๆอาจเป็นเพราะไม่เคยคุยกันมาก่อนหรือไม่ก็เป็นการคุยที่แปลกจริงๆก็ไม่รู้
ความคิดเห็น