คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เพื่อนรัก
เด็กหนุ่มร่างบางที่เพิ่งจบมัธยมปลายซึ่งสังเกตได้จากทรงผมที่ดูเหมือจะเป็นทรงรองทรงที่กำลังยาวขึ้นมานิดนึงกำลังตกอยู่ในอารมณ์นิทรานอนแผ่แขนขาอยู่กลางเฟอร์นิเจอร์ทรงสี่เหลี่ยมมีเบาะสปริงนุ่ม ท่ามกลางเสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ตกแต่งทันสมัยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสมกับเป็นโรงแรมสี่ดาวเท่าที่ฐานะเขาพอจะสู้ไหว
เอี๊ยด.......ตูม
“ไอ้ต้น” เสียงเรียกที่กึกก้องทั่วท้องถนน พร้อมกับภาพคนมารุมล้อมรอบร่างที่นอนไร้วิญญาณรอบกายเต็มไปด้วยของเหลวสีแดงที่หลั่งไหลออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มไว้ผมรองทรงที่มองก็รู้ว่าเขาเป็นนักเรียน อีกแล้วภาพเหตุการณ์ที่น่าหดหู่เกิดขึ้นในสมองของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับใหลอยู่
“ไม่.....ต้น ไม่......” ไข่เจียวสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อโทรมกาย ภาพเหตุการณ์เพื่อนรักของเขาที่ต้องสังเวยไปกับยานพาหนะสี่ล้อที่ไร้ความรับผิดชอบได้ปรากฏให้เห็นอยู่เป็นประจำ
“ต้นเราคิดถึงนายหวะ ทำไมมาทิ้งกันไปง่ายๆอย่างนี้วะ”
“กริ๊ง...กริ๊งงงง...”เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้บอกเวลาตื่นของไข่เจียว
“อ้าว...เช้าพอดี”ไข่เจียวพูดพร้อมลุกไปล้างหน้าล้างตาและเตรียมตัวไปเดินเล่นริมชายหาดรับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า
ลมทะเลที่พัดมาพร้อมกลิ่นอายความเค็มของน้ำทะเลประกอบกับแสงอรุณแห่งโลกยามเช้าอันสดใสสาดส่องสะท้อนกับเม็ดทรายขาวละเอียดระยิบระยับเข้าตา ช่างเป็นภาพที่ควรจะเก็บไว้ในความทรงจำ
“เห้อ...คิดถึงเพื่อนทุกคนเลยหวะ” ไข่เจียวพูดพร้อมกับนั่งลงบนเปลที่เรียงรายไปตามชายหาดในมือของไข่เจียวมีสมุดหน้าปกเก่า ๆขลังๆ ดูโบราณๆ ที่ไปซื้อมาจากตลาดนัดเปิดท้ายแถวบ้าน จะว่าไปแล้วสมุดมือสองเก่าๆแต่ยังสภาพดีนี้ ก็น่าจะเป็นสมุดที่หายากเล่มนึงซึ่งอาจจะมีประวัติที่ใครๆก็ไม่เคยรู้
ความคิดถึงของไข่เจียวทำให้เขาเอาสมุดเฟรนชิพที่เขาถือมาด้วยเปิดดูรายชื่อพร้อมรูปเพื่อนๆที่อยู่ห้องเดียวกันแม้จะไม่ครบทุกคนเนื่องจากเวลากะทันหันเกินไปแต่ก็ยังพอมีอยู่บ้างบางทีอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเฟรนชิพที่มีเพื่อนเขียนให้น้อยที่สุดเลยก็ว่าได้อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์และความเก่าของสมุด
หน้าแรกที่เปิดออกมา ทำให้ไข่เจียวถึงกับอึ้งไป สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือรูปเด็กหนุ่มสามคนที่สนิทและรักกันมากที่สุด ภาพการกอดคอ ยืนเก๊กท่าอย่างยิ้มแย้ม ดูสดใส ทำให้รู้สึกได้ถึงความผูกพันที่มีต่อกัน ไข่เจียวยืนอยู่ซ้ายสุดถัดมาคือต้นและไผ่ ภาพนี้ก็ทำให้ไข่เจียวอมยิ้มได้เล็กน้อยและสัญญากับตัวเองว่าจะเก็บภาพนี้ให้ดีที่สุด
ไข่เจียวพยายามพลิกหาหน้าของไผ่ในเฟรนชิพแต่ไม่เจอและนึกออกว่าไผ่ยังเป็นอีกคนที่ยังไม่ได้เขียนเฟรนชิพอันนี้
“ไอ่ห่าไผ่เอ้ย..แมร่งยังไม่เขียนเฟรนชิพให้เลยไปอยู่ไหนเนี่ย”ไข่เจียวบ่นพร้อมปิดสมุดเฟรนชิพเตรียมกลับไปโรงแรม
ไข่เจียวมองดูนาฬิกาก็รู้ว่าถึงเวลาจะต้องเช็คเอาท์กลับกรุงเทพฯแล้วจึงหยิบอุปกรณ์สื่อสารที่ดูโทรมๆมีหนังยางสองสามเส้นลัดไว้ออกมาดูที่หน้าปัดเครื่องมือถือ
“ชิบหายแล้ว....สี่สิบสามสายไม่ได้รับ”ไข่เจียวอุทานออกมาเบาๆพอให้คนเดินไปเดินมาตกใจเล่น และเริ่มรู้สึกแปลกๆ
“แอม...แอมโทรมาทำไมวะร้อยวันพันปีไม่เห็นโทรมา”ไข่เจียวสงสัยเล็กๆ
“ไม่โทรกลับหรอกเดี๋ยวก็โทรมาใหม่เองแหละ”ไข่เจียวนอกจากจะเป็นคนตลกแล้วยังงกอีกด้วย แต่พอคิดอีกทีก็รู้สึกแปลกๆ
“ร้อยวันพันปียายนี่ไม่เคยโทรมาและวันนี้สี่สิบกว่าสายมันแปลกๆหวะ”
“ลองโทรไปถามดีกว่าเผื่อมีเรื่องอะไรกับเรา”ไข่เจียวพูดกับตัวเองและหยิบมือถืออันโทรมๆออกมาโทร
“ขออภัยค่ะยอดเงินของคุณใกล้จะหมดกรุณาเติมเงินด้วยค่ะ”เสียงเตือนยอดฮิทที่พูดทุกครั้งที่ไข่เจียวโทรออก
“ฮัลโหล..แอมหรอ”
“อืม....ไข่เจียว”เสียงคล้ายๆกับคนเป็นหวัดคงมีน้ำมูกอยู่เต็มจมูก
“แอมมีไรป่าว”
“ไข่เจียว....แกทำใจดีๆนะ “ เสียงสั่นเครือเหมือนคนใกล้จะร้องไห้
“อะไรนะ..แอมมีอะไร..มีอะไร” น้ำเสียงรีบร้อนปนกับความกังวน
“พลอย............ตายแล้ว!!” โทรศัพท์มือถือตกลงสู่พื้นยางที่ลัดอยู่หลุดขาดกระจายไปคนละทิศทาง
เหงื่อไหลออกมาจากร่างกายด้วยสารอะดีนัลลีนที่หลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัวมือเย็นชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งๆที่อากาศยามเช้าช่างเย็นสบายเหมาะกับการนอนพักและทำอารมณ์ให้สงบแต่ไข่เจียวสงบไม่ได้เพราะเพื่อนอีกคนได้จากไปอีกแล้ว
พลอยเป็นเพื่อนที่จะว่าไปก็สนิทเหมือนกันเพราะชอบหยอกเล่นกันบ่อยๆอีกอย่างยังชอบทำงานอยู่กลุ่มเดียวกันอีกเด็กสาวผมสั้นจัดฟันตัวเล็กๆ ได้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณนอนอยู่อย่างสงบท่ามกลางเสียงร้องไห้ของพ่อแม่และเพื่อนๆ
“สวัสดีครับพ่อพลอย”ไข่เจียวเพิ่งมาถึงอละทักทายญาติพลอยและเพื่อนๆ
เมื่อไข่เจียวมาถึงก็เห็นเพื่อนๆที่ยืนอยู่นั้นและคิดว่าคงจะรู้เรื่องกันหมดว่าเป็นยังไงมายังไงแต่ไข่เจียวเลือกที่จะเดินไปถามเด็กสาวร่างอวบท่าทางห้าวๆแน่นอนเธอเป็นหัวหน้าห้องเธอต้องรู้เรื่องของคนในห้องดีกว่าใครๆ
“เอ้ๆๆ..เอ้มานี่หน่อยดิ”ไข่เจียวกระซิบเอ้เบาๆ
“อะไรวะ”เอ้พูด สังเกตุได้เลยว่านิสัยห้าวๆนั้นไม่เคยลดน้อยลง
“เอ้เล่าเรื่องให้ฟังหน่อยดิเกิดอะไรขึ้น”
“เดี๋ยวสิวะ...เห็นไม๊ว่าเค้ากำลังทำอะไรกันอยู่”เอ้พูดพร้อมใช้สายตามองไปที่กลุ่มเพื่อนที่อยู่รอบๆร่างของพลอย
“ก็อยากรู้นี่นา”
“เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังเดี๋ยวรออาจารย์ทิพย์มาก่อน”
“ถ้างั้นเสร็จแล้วเราไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันนะ”
“เออ...เออ..เออ..” เอ้ตอบแบบปัดๆแต่ก็รับคำไปแล้ว
ระหว่างนั่งรอไข่เจียวก็เอาสมุดเฟรนชิพขึ้นมาดูเล่นและเอาขึ้นมารอเผื่อไผ่จะมาก็จะเอาให้ไผ่ไปเขียน ระหว่างเปิดเฟรนชิพดูเปิดผ่านหน้าแรกซึ่งเป็นหน้าของต้นเพื่อนสนิทแต่พอเปิดหน้าถัดมาซึ่งตอนแรกไข่เจียวตั้งใจจะเว้นไว้ให้ไผ่เขียนเพราะไข่เจียวจะเรียงลำดับจากเพื่อนที่สนิทมากสุดไปน้อยสุดจากหน้าแรกไปยังหน้าสุดท้ายแต่ต้องตกใจเพราะหน้าที่ถัดจากของต้นนั้นคือหน้าที่พลอยเขียนให้
“พลอยเขียนหน้านี้หรอ”
“เอ้ๆ แกดูสิ”
“อะไรอีกวะ”
“นี่ไง” ไข่เจียวพูดพร้อมกับยื่นเฟรนชิพให้ดู
“อะไรวะเนี่ย หนังสือเก่าน่ากลัวขนาดนี้เอามาจากศพไหนวะ”เอ้พูดโดยไม่คิดอะไรและก็ไม่เคยเห็นและเขียนให้ไข่เจียวเลย
“เอ้แกลองสังเกตุดูสิว่าเพื่อนเราที่ตายอ่ะเขียนเฟรนชิพให้เค้าทั้งคู่เลย”
“และมันแปลกอะไรวะ”
“แกเปิดดูคนแรกอ่ะคือต้นหน้าต่อมาคือพลอยมันเหมือนกับเรียงลำดับกันนะ”
“คิดมากไปป่าวมันคงบังเอิญน่ะอย่าคิดมากดิวะไร้สาระหวะ”
ไข่เจียวนั่งคิดอะไรอยู่เพียงคนเดียวไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรและจะช่วยเพื่อนได้อย่างไรทำไมต้องเกิดเหตุการณ์ประหลาดเหล่านี้ พอนั่งไปสักพัก มองไปเห็นไผ่ ไผ่เดินมา
“ไอ่ไผ่มาช้าจังวะ”
“รถติดจะตาย เพิ่งรู้เหมือนกันหวะ”
“ไอ่เจียวไปเดินเล่นข้างนอกกัน”
“เดี๋ยวก่อนสิวะนัดกับเอ้ไว้เดี๋ยวไปพร้อมกัน”
“นั่นอาจารย์ทิพย์มานี่หว่าไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวโดนด่าเราสอบได้เกรดน้อย”
“เห้อ...เดี้ย....เดีย..เดี๋ยวดิ อ่ะไปแระ ไอ่นี่หนิ”ไข่เจียวพลาดที่จะเอาเฟรนชิพให้ไผ่เขียนอีกครั้ง
อาจารย์ทิพย์พูดคุยกับตำรวจและก็ต้องตามไปให้ปากคำที่โรงพักแต่มีเพื่อนไข่เจียวบางคนที่กลับบ้านและตามอาจารย์ไปด้วยเพราะอยากรู้เรื่องแต่เอ้มีนัดกับไข่เจียวแล้วจึงต้องลากลับบ้านก่อนแวะหาอะไรกินและรื่องต่างๆด้วย
“เอ้ไปกินร้านไหนดีหละ”
“ร้านไหนก็ไปดิ”
“งั้นร้านก๋วยเตียวอี่เจ้าเก่าดิ อร่อยนะ”
“เอาอีกแระ ไอ้ไข่เจียวทำไมชอบกินแต่ร้านนี้วะเออๆ ไปก็ไป”
ระหว่างเดินไปหาร้านที่ไข่เจียวชวนเอ้ก็เงียบไปซักพักจากนั้นน้ำตาหยดแรกในรอบ 6 ปีก็ไหลออกมาจากตาของเอ้
“เอ่อ เอ้ เอ้เป็นไรไป” ไข่เจียวพูดหลังจากสงเกตุเห็นน้ำตาเอ้
“ทำไมทำไมเพื่อนเราต้องตายด้วย”
“เราเสียใจเหมือนกัน”ไข่เจียวพูดเพื่อให้เอ้ดีขึ้น (หรือเปล่า)
“ทำไมวะ ...”
“ใจเย็นเอ้”
“ไข่เจียวแกคิดยังไงเกี่ยวกับสมุดของแก”
“ไม่รู้สิ”
ทั้งคู่เดินต่อไปอย่างเงียบๆซักพักนึง
“ไข่เจียว ที่เราพูดว่าสมุดนายอ่ะไปเอามาจากศพไหน เราคิดมากเหมือนกันนะ”
“เราๆ..เราไม่รู้อ่ะ”
“นายไปซื้อมาจากไหน”
“เราไปซื้อมาจากเปิดท้ายของมือสองไง”
“หรอ...อยากรู้ว่าเป็นของใครอาจจะเป็นเหตุผลที่เพื่อนเราต้องตายก็ได้นะ”
“แสดงว่าเอ้ก็เชื่อเรื่องที่เพื่อนเราตายเรียงเป็นลำดับในสมุดใช่ไหม”
“ยังไม่แน่ใจหวะ”
“อาจจะเป็นอาถรรพ์ของสมุดเล่มนั้นก็ได้”
“ไม่รู้สิ หรืออาจจะเป็นคดีฆาตกรรมก็ได้”
“ไอ้บ้าไข่เจียว อะไรของแกเพื่อนเราไม่เคยมีเรื่องกับใครเว้ย”
“ไม่รู้สิ ความรู้สึกอย่างนั้นน่ะ”
“ไอ่บ้าเอ้ยเลิกพูดได้แล้วไม่เห็นมันจะฆาตกรรมตรงไหน”
“เอ้...ขออะไรอย่างดิเราต้องช่วยกันนะ”
“ช่วยอะไรวะ”
“ช่วยกัน..........สืบ”
ความคิดเห็น