ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: The One I Love ลิขิตหัวใจนายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #5 : The Princess of Purity

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.91K
      3
      3 มิ.ย. 52

    กลิ่นชื้นๆที่ลอยมาพร้อมกับสายลมทำให้เขารู้ว่าฝนกำลังจะตกลงมาในไม่ช้า...และเขาก็ไม่เคยชอบความเปียกชื้นอันเย็นยะเยือกของสายฝน ทงเฮสบถออกมาด้วยเสียงที่เบาที่สุดพลางก้าวเท้าเดินไปตามทางเดินอันไร้ผู้คนอย่างระมัดระวังและเงียบกริบ ไอ้พวกนั้นน่าจะวิ่งเลยไปหรือบางทีอาจจะยอมแพ้และกลับไปแล้วก็ได้ เขาพยายามจะทำตัวเองให้รู้สึกดีเข้าไว้ด้วยการคิดในแง่บวก แต่มันก็เหมือนจะเป็นโชคร้ายที่คนอย่างลีทงเฮไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดีมากนัก มันก็เลยทำให้เขาคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ได้ไม่นานเท่าไร

     

    เสียงบางอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ด้านหลังทำให้ร่างที่ติดออกจะผอมบางของชายหนุ่มชะงักก่อนจะรีบแนบร่างเข้ากับกำแแพงทันทีเพื่ออำพรางตำแหน่งของตน ปืนในมือถูกยกขึ้นมากระชับไว้มั่น...พร้อมจะลั่นไกทันทีที่เห็นใครปรากฏเข้ามาในสายตา คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อทุกอย่างปรากฏเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น เขาก้าวเดินต่อไป...และทุกอย่างก็ยังคงว่างเปล่าจนมันทำให้เขารู้สึกตะหงิดๆขึ้นมา

     

    หมับ!

     

    "ว่าไงครับคุณชาย" เสียงเอ่ยทักที่มาพร้อมกับมือที่เลื่อนขึ้นมาปิดปากไว้แน่นทำให้ดวงตากลมโตขยับเบิกกว้างในทันที ทงเฮดิ้นขลุกขลักพลางกระแทกส้นเท้าใส่เท้าของคนด้านหลังไม่ยั้งจนในที่สุดคนแปลกหน้าก็ทนไม่ไหว ยอมที่จะปล่อยเขาออกมาในที่สุด เปิดโอกาสให้คนร่างบางหมุนตัวไปสะบัดปลายเท้าเสยคางใส่อย่างง่ายดาย ถึงจะหน้าตาน่ารักและรูปร่างบอบบางยิ่งกว่าผู้หญิง แต่ศิลปะการป้องกันตัวที่โดนฝึกสอนมาตั้งแต่เล็กก็ทำให้ทงเฮอันตรายได้พอๆกับผู้ชายทั่วไป ชายแปลกหน้าล้มตึงลงไปนอนสลบอยู่บนพื้นโดยไม่ต้องเหนื่อยแรงอะไรมากนัก ทงเฮหมุนตัวหันหลังเดินจากคนที่เขาคิดว่าสลบไปแล้วอย่างไม่คิดจะใส่ใจอะไรอีกให้มากความ แต่จนแล้วจนรอด...ลีทงเฮก็ยังคงเป็นคนอ่อนโยนเกินไป

     

    ปัง!

     

    ร่างบอบบางทรุดลงทันทีที่สิ้นเสียงปืนพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากต้นขาเพราะฝีมือของคนที่เขาคิดว่าทำให้สลบไปแล้ว ทงเฮหันกลับไปหาด้วยใบหน้าบึ้งตึงและดวงตาที่แข็งกร้าวเย็นชา...กลายเป็นคนไร้หัวใจที่ไม่เคยยกโทษให้ใคร มือเล็กยกปืนในมือขึ้นมากระชับมั่น

     

    ปังๆ!

     

    นิ้วเรียวเหนี่ยวไกปืนอย่างรวดเร็ว...ไม่ปล่อยให้โดนเอาเปรียบอีกเป็นครั้งที่สอง และกระสุนทั้งสองนัดก็ไม่เปิดโอกาสให้เหยื่อได้ทำแบบนั้นเช่นกัน ทงเฮค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น หากแต่เขาก็ต้องเซถลาไปใช้ไหล่ข้างหนึ่งพิงกำแพงเอาไว้อย่างหมดท่าเพราะบาดแผลที่ต้นขานั้นหนักกว่าที่เขาคาดไว้...เสียงปืนจะเรียกพวกนั้นมา เขาต้องรีบหน่อยแล้วล่ะ

     

    "ไอ้ห่าเอ๊ย!...ยิงมาได้" ชายหนุ่มสบถพลางฉีกเสื้อเชิ้ร์ตออกมารัดห้ามเลือดให้แก่บาดแผลที่ต้นขาของตน...ให้ตายสิ!...คืนนี้เขาโดนยิงเยอะเป็นบ้า! แล้วพรุ่งนี้เขาจะไปทำงานไหวได้ยังไงกันวะ!! เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องรีบจัดการกับบาดแผลของตนให้เร็วกว่าเดิมก่อนจะเริ่มก้าวเดินต่อไปด้วยความเร็วที่เขาพยายามจะทำให้มันเร็วขึ้นอย่างที่ใจหวัง แต่ทว่าขาที่เริ่มไร้ความรู้สึกก็ไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนั้นได้ง่ายนัก

     

    "เฮ้ย!!...เจอแล้วๆๆ นั่นไง!"

    คนเจ็บไม่ยอมแม้แต่จะเสียเวลาหันกลับไปมองด้านหลัง เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกเจ็บและสาวเท้าวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว...ไม่ยี่หระต่อเลือดที่ไหลรินออกมาแม้สักเสี้ยววินาที

     

    ปังๆๆๆ!!!

     

    ชายสองคนล้มลงโดยไร้ลมหายใจด้วยการหันกลับไปเพียงครั้งเดียว ทงเฮหอบหายใจ สะดุดปลายเท้าของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะตั้งตัวกลับขึ้นมาใหม่พร้อมกับยันมืออันเย็นเฉียบเข้ากับกำแพงเพื่อใช้มันพยุงตัวให้ได้เดินต่อไป แต่ก็ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะไม่รักคนปากรั่วที่ชอบหลุดคำหยาบคายออกมาทุกสองนาทีอย่างลีทงเฮเท่าไรนัก เพราะไม่นานสายฝนเย็นยะเยือกก็สาดเทลงมาจากท้องฟ้า คนเสียเปรียบตัดสินใจหยุดเดิน หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่วิ่งตามเขาม มือเล็กยกอาวุธสังหารขึ้นเล็ง

     

    ปังๆๆๆๆๆ!!!

     

    กระสุนชุดสุดท้ายที่เขามีเหลือถูกยิงกราดออกไปอย่างรวดเร็ว....ซึ่งมันก็ได้ผลชะงักนัก เพราะชายทั้งหมดที่เหลือต่างล้มลงไปนอนสิ้นเสียงหัวใจในทันทีที่สิ้นเสียงปืน ทงเฮเหยียดยิ้มให้กับผลงานของตนก่อนจะหมุนกลับ ทำท่าจะก้าวขาเดินต่อไปตามทางของตน แต่เขาก็ชนเข้ากับใครบางคนที่มายืนซ้อนอยู่ด้านหลังจนหงายหลังล้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น ริมฝีปากบางถูกขบกัดแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้องโอดโอย เพราะมันเป็นอีกครั้งที่เขาดันเอาบาดแผลกระแทกพื้นเข้าให้เต็มแรง นัยน์ตาสีน้ำตากลมโตตวัดขึ้นมองฝ่าสายฝนไปยังร่างสูงที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าไม่ขยับไปไหน...และดวงตาสีดำสนิทยิ่งกว่ารัตติกาลอันไร้จันทร์ที่กดมองลงมาก็ทำให้ลมหายใจของเขาสะดุดค้างอยู่กลางหลอดลม เพราะมันช่างว่างเปล่าและเย็นชาจนทำให้คนที่นั่งอยู่บนพื้นรู้สึกหนาวสั่น

     

    "ลุกขึ้นมา" เป็นคำสั่งอันห้วนสั้น แต่มันก็แฝงไปด้วยความดุดันจนทำให้คนถูกสั่งจำต้องลุกขึ้นมาโดยที่ดวงตายังจ้องหน้าชายแปลกหน้าไม่หลบ...เฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวอย่างระแวดระวังถึงแม้จะรู้สึกคุ้นเคยอยู่ลึกๆก็ตาม ปืนยังคงถูกถือกระชับมั่นไว้ในมือ ไม่ยอมปล่อยทิ้งไป ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะไร้ประโยชน์ในการใช้ป้องกันตัวแล้วก็ตามที แต่มือใหญ่ที่เอื้อมมาหมายจะคว้าตัวของเขาเข้าไปใกล้ ทงเฮก็หาประโยชน์จากปืนในมือได้ในทันที

     

    ผลั่ก!!

     

    คนตัวเล็กปาปืนใส่หน้าคนแปลกหน้าสุดแรงก่อนจะหมุนตัว พาร่างอันเต็มไปด้วยบาดแผลของตนวิ่งหนีออกมา เสื้อผ้าที่เปียกลู่แนบกายทำให้การขยับร่างกายที่กำลังเจ็บปวดลำบากมากกว่าเก่า ทงเฮปาดน้ำฝนออกจากดวงตาพลางพยายามจะขยับริมฝีปากที่ซีดขาวของตนเพื่อพ่นคำสบถออกมา

     

    "บัดซบเอ๊ย!"

    ร่างบอบบางสะดุดหกล้มลง หากแต่แขนแข็งแรงของใครบางคนกลับสอดเข้ามารั้งเอวของเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะได้เอาหน้าฟาดพื้น ทงเฮเบิกตากว้าง รีบดึงตัวออกมาจากอ้อมกอดของคนแปลกหน้าก่อนจะหันไปชกเปรี้ยงเข้าให้เต็มสันแก้ม ใบหน้าที่เขาเห็นเป็นเพียงโครงร่างอันเลือนรางท่ามกลางความมืดและสายฝนสะบัดหันไปตามแรง เปิดโอกาสให้คนลงมือหมุนตัววิ่งหนีออกมา แต่โอกาสนั้นก็หมดลงอย่างรวดเร็วเมื่อมือใหญ่เอื้อมมาคว้าไหล่บอบบางไว้ได้ทัน ร่างบางถูกกระชากให้หันกลับมาเผชิญหน้าก่อนจะถูกผลักเข้าไปกระแทกกำแพงตึกและโดนกักขังเอาไว้อยู่ในวงแขนที่กางกั้น ชายหนุ่มแปลกหน้าเหยียดยิ้มเย็นชาพลางหันไปถ่มเลือดออกจากปาก

     

    "เหนื่อยรึยัง"

     

    "ยังเว้ย!"

    หมัดข้างเดินถูกส่งออกไปอีกครั้งที่จุดเดิมก่อนจะตามด้วยเท้าเต็มๆหน้าท้อง แรงถีบของร่างเล็กที่ไม่ได้เล็กตามตัวส่งผลให้ชายหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อถึงกับจุกกึก เซถอยหลังเปิดช่องทางให้คนลงมือหลบหนีออกมาอีกครั้ง แต่มันก็เป็นอีกครั้งเช่นกันที่คนหลบหนีถูกจับกลับมาได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที มือใหญ่รั้งไหล่บางมากดไว้กับกำแพงตึก และคราวนี้ก็พร้อมกับปืนที่ยกขึ้นมาจ่ออยู่ที่กลางหน้าผากในมือข้างหนึ่ง ทงเฮยืนหอบหายใจนิ่ง...รับรู้ถึงสภาพที่ตกเป็นรองอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก

     

    "ทีนี้จะพูดกันดีๆได้รึยังครับคุณชาย" เสียงทุ้มอันเย็นชาและเรียบเฉยทำให้เลือดในกายของทงเฮลดอุณหภูมิจนเย็นเฉียบยิ่งกว่าสายฝน แต่เขาก็ยังคงเก็บความหวาดกลัวของตัวเองเอาไว้ได้อย่างมิดชิด...แสดงออกมาเพียงความเย่อหยิ่งและความถือดีในแววตาเท่านั้น

     

    "มีอะไรก็พูดๆมา” คนเย่อหยิ่งย้อนตอบกลับไปเสียงห้วน ดูไม่ยี่หระต่ออาวุธสังหารที่กลางหน้าผากของตัวเองเท่าไรนัก แต่มันก็คงมีเพียงแค่ตัวของทงเฮเองเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองกำลังหวาาดกลัวจนน่าสมเพชมากขนาดไหน

     

    "หนาวจนปากสั่นแล้วยังจะพูดดี"

    ถ้อยคำที่เหมือนจะเยาะหยันทำให้คนถูกกล่าวหาทำอะไรไม่ได้มากนักนอกจากสบถพึมพำออกมาเบาๆ ทงเฮสูดหายใจลึก พยายามจะคงสติของตนเอาไว้ แต่ทว่าเลือดที่ยังคงไหลรินก็ทำให้เขาคงสติของตัวเองได้ไม่นานนัก เพราะเพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา ทุกอย่างในหัวของเขาก็ดับวูบลง

     

     

     

    คิมคิบอมอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆเหยื่อของเขาก็ทำท่าจะล้มลงไปนอนกองกับพื้น เขารีบทิ้งปืนก่อนจะวาดมือโอบกอดเอวของคนตรงหน้าเอาไว้เพื่อรั้งไม่ให้ล้มลงไปกระแทกพื้นเอาจริงๆ

     

    "บ้าเอ๊ย!" เขาสบถออกมาพลางพยายามจะประคองคนตัวเล็กให้เอนไปพิงกำแพงตึกแทนที่จะเป็นร่างของเขา แต่เมื่อเห็นท่าว่ามันจะไม่รอด เขาจึงตัดสินใจอุ้มร่างอันไร้สติขึ้นพาดบ่าและพาเดินออกมาหาที่หลบฝน คิบอมถอนหายใจพลางใช้มือข้างที่ว่างเช็ดน้ำออกจากดวงตา

     

    จะว่ามันผิดแผนมั้ยที่เขาเสียลูกน้องไปเกือบสิบคนแบบนี้โดยฝีมือของคนๆเดียว มันก็ผิดอยู่หรอก แต่ทว่าการที่เขาเดินมาชนเข้ากับเจ้าหญิงฤทธิ์เยอะองค์นี้ก็ผิดแผนเช่นกัน...ผิดแบบมากๆเสียด้วย เพราะแม้แต่คาเงโยชิ ริวยะก็ไม่คิดว่าลีทงเฮจะมาคุมงานธรรมดาๆแบบนี้ด้วยตัวเองในคืนนี้...ไม่รู้นี่จะเรียกว่าเขาโชคร้ายที่ต้องเเสียลูกน้องหรือโชคดีที่เจอเจ้าหญิงกันแน่

     

    เขาถอนหายใจอีกครั้งพลางหันไปถีบประตูไม้บานแรกที่เขาเจอ ซึ่งมันก็ผลักเปิดเข้าไปอย่างง่ายดายราวกับไม่ได้ถูกล๊อคเอาไว้ คิบอมก้าวเข้าไปด้านในก่อนจะวางร่างอันเปียกโชกไปด้วยเลือดของคนที่ไม่ได้สติลงบนพื้นด้วยสัมผัสที่แผ่วเบาที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่เลือดสีแดงเข้มที่เขาเห็นมันไหลรินอยู่ในความมืดก็ทำให้ความอ่อนโยนนั้นเป็นสิ่งไร้ค่า...เป็นเจ้าหญิงที่อึดจริงๆเลยนะลีทงเฮ

     

    เขาทรุดตัวนั่งลงพลางไล้สัมผัสบาดแผลที่ต้นขาเล็กอย่างเบามือ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้สำรวจความเสียหายได้ครบถ้วน คนที่เขาคิดว่าสิ้นฤทธิ์ไปแล้วกลับเปิดเปลือกตาขึ้น ซัดเขาเข้าให้เต็มเบ้าตาด้วยหมัดเล็กๆที่หนักดีเป็นบ้าก่อนจะกระเสือกกระสนวิ่งหนีฝ่าสายฝนออกไปด้านนอกโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง คิบอมกระพริบตาพลางส่ายหน้าไล่ความมึนงงจากการถูกชกจนหน้าหงายก่อนจะเริ่มสบถออกมา

     

    "ให้มันได้อย่างนี้สิลีทงเฮ" เขาเข่นเคี้ยวพร้อมกับชันตัวลุกขึ้นยืนและก้าวเดินออกจากที่มั่นอันแห้งสบายไปยังด้านนอกอันเปียกแฉะไปด้วยน้ำฝนเพื่อตามคนดื้อรั้นให้กลับมา

     

    เขาไม่เข้าใจตัวเองเท่าไรว่าทำไมต้องไปสนใจไอ้หนุ่มตัวเล็กนั่นมากนัก แต่ความจริงที่เอาแต่ตีหัวเขาอยู่ซ้ำๆว่าไอ้หนุ่มตัวเล็กนั่นมีชื่อตามสูติบัตรว่าลีทงเฮ ลูกชายที่ถึงแม้จะนอกสมรสแต่ก็เป็นเพียงคนเดียวของลีดองวุคผู้กุมอำนาจอยู่เหนือพรรคจางซึนกีก็ทำให้เขาต้องต้องสนใจไอ้หนุ่มนั่นอย่างช่วยไม่ได้...ชีวิตของลีทงเฮมีค่ามากมายมหาศาลพอๆกับที่มันสามารถเปลี่ยนอะไรได้มากมายมหาศาล...แค่เป็นกับตายเท่านั้น เพราะทุกคนรู้ดีว่าในตอนนี้ชีวิตของลีดองวุคไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้อีกต่อไป ชีวิตของชายผู้ยิ่งใหญ่แห่งพรรคจางซึนกีกำลังเดินถอยหลัง และลีทงเฮก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พรรคก้าวต่อไปข้างหน้า...หรือดับลงตามนายเหนือหัวที่ใกล้ถึงเวลาหมดลม

     

    คิบอมเสยผมที่ตกลงมาระใบหน้าขึ้นพลางพยายามที่จะไม่สบถออกมา เขากัดฟันก้าวเดินต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้เพราะร่องรอยที่คนหลบหนีทิ้งเอาไว้ทำให้เขาไม่ต้องใช้ความพยายามในการสะกดรอยมากนัก

     

    "ลีทงเฮ!"

     

    "หยุดอยู่ตรงนั้น!" เจ้าของชื่อที่เขาร้องเรียกขานรับเสียงของเขาแทบจะในทันทีที่สิ้นคำ ร่างบางก้าวออกมาจากที่หลบซ่อนโดยมีปืนกระชับมั่นอยู่ในมือ และคิบอมก็สุดที่จะรู้ว่าเจ้าตัวไปเอามันมาจากไหน

     

    "อย่าขยับแม้แต่ก้าวเดียว...ฉันยิงนายแน่!" คนตัวเล็กตะโกนขู่ด้วยเสียงห้วนๆ หากแต่ปืนในมือที่สั่นระริกก็ทำให้คิบอมรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่มีแรงที่จะเหนี่ยวไกด้วยซ้ำ แน่ล่ะ...โดนยิงเสียขนาดนั้นแถมยังตากฝนที่หนาวขนาดนี้ และด้วยตัวบางๆไม่แพ้ผู้หญิงแบบนั้น...วิ่งเตลิดมาไกลขนาดนี้ก็อึดมากแล้ว คิบอมสาวเท้าเข้าไปใกล้มากขึ้น

     

    ปัง!

     

    กระสุนถูกยิงลงพื้นตรงหน้าปลายเท้าของเขาอย่างแม่นยำ หยุดการก้าวเดินของเขาให้ชะงักไปชั่วครู่...แต่มันก็ไม่ใช่เป็นเพราะความหวาดกลัว

     

    "ฉันบอกแล้วว่าฉันจะยิงนายแน่!"

    ทงเฮกระชับปืนในมือแน่นมากขึ้น พยายามจะเกร็งนิ้วที่แข็งชาของตัวเองให้กำด้ามปืนไว้ให้แน่นที่สุด ไม่เผลอปล่อยมันหลุดมือออกมา....เพราะบางทีนั่นอาจหมายถึงความตายของเขา ร่างบางกัดริมฝีปากของตัวเองไว้แน่นเพื่อหยุดมันไม่ให้สั่นเท่าเป็นที่น่าสมเพช...แต่ให้ตายห่าเถอะ!...เขาหนาวจนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว!

     

    "เป็นแผนของพวกนายล่ะสิ...ใช่มั้ย"

     

    "เรื่องอะไร"

     

    "ที่โกดัง...ที่ท่าเรือ"

     

    ปัง!

     

    "ตอบคำถาม!"

    ปืนถูกยิงลงพื้นอีกครั้งเมื่อร่างสูงทำท่าจะขยับก้าวเข้ามาใกล้ ทงเฮสบถพึมพำก่อนจะเป็ฯฝ่ายก้าวเข้าไปประชิดตัวของอีกฝ่าย เขาผลักร่างของคนสูงกว่าไปติดกำแพงตึก รอยยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นมาบนเรียวปากพร้อมกับกระบอกปืนที่ถูกกดอยู่ใต้ปลายคางของคนที่ยังไม่มีท่าทีตื่นตระหนก

     

    "คำตอบ...เดี๋ยวนี้!"

    คนถูกข่มขู่ยังคงสงบนิ่ง ใบหน้าคมที่ทงเฮเห็นอย่างเลือนราวในความมืดนั้นยังคงเรียบเฉยและเย็นชาเฉกเช่นครั้งแรกที่สบตา....มันไม่ได้ทำให้เขาสบอารมณ์เอาเสียเลย

     

    "ตอบมาสิวะ!"

     

    "เป็นแผนของคาเงโยชิ ริวยะ"

     

    "ฉันน่าจะรู้" คนตัวเล็กพึมพำ...เผลอคิดไปถึงลูกน้องของเขาอีกคนที่เขายังไม่ได้ติดต่อไป...แน่ล่ะ...เสียงโทรศัพท์แม้เพียงนิดอาจทำให้หมอนั่นตายได้ง่ายๆ และลีทงเฮไม่เคยชอบความตาย คิบอมอาศัยช่วงเวลาที่ร่างเล็กนิ่งไปปัดกระบอกปืนให้พ้นหน้าก่อนจะรีบยึดจับข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้เพื่อไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนชกอีก

     

    การขยับตัวที่รวดเร็วและรุนแรงของคนที่ถูกฝึกมาอย่างดีทำให้ทงเฮสบถออกมาพลางพยายามจะดิ้นรนร้องหาอิสระ แต่ก็ต้องสิ้นฤทธิ์เมื่อร่างของตนเป็นฝ่ายถูกหมุนเข้ากระแทกกับกำแพง แรงกระแทกที่ไม่ได้เบามือเอาเสียเลยทำให้ร่างบางที่เจ็บตัวอยู่แล้วรู้สึกเจ็บร้าวยิ่งกว่าเก่า ชายหนุ่มกัดฟัน...เป็นอีกครั้งที่ต้องกลั้นเสียงโอดโอยอันน่าสมเพชของตัวเองไม่ให้หลุดรอดออกมา มือใหญ่เกร็งจับข้อมือบอบบางแน่นขึ้น หากแต่มันก็ไม่ได้ทำให้มีอะไรเกิดขึ้นมานอกจากจะเพิ่มรอยแดงช้ำไว้บนผิวขาวๆมากขึ้นก็เท่านั้น

     

    "ทิ้งปืนด้วยครับ"

     

    "ทิ้งให้โง่น่ะสิ!" คนปากดีสวนกลับอย่างไม่หวาดกลัว...หรือบางที่อาจจะเพียงแค่พยายามกลบเกลื่อนความหวาดกลัวของตัวเองเอาไว้ภายใต้ความถือดีก็เป็นได้ เขาเชิดปลายคางขึ้นพลางเหยียดรอยยิ้มที่แลดูหยิ่งยโสขึ้นมาบนเรียวปาก

     

    "ผมจะเลือกที่จะไม่ดื้อนะครับถ้าผมเป็นคุณ"

     

    "แล้วจะทำไม...ก็ในเมื่อนายไม่ใช่"

    แรงที่กดลงมาบนข้อมือมากขึ้นบังคับให้คนเสียเปรียบหมดแรงที่จะถือปืนเอาไว้ในที่สุด คิบอมรีบคว้ามันไว้ก่อนที่มันจะตกถึงพื้นแล้วจึงเอามันมาจี้ประชิดอยู่ที่ข้างซอกคอของอีกฝ่าย...ทำทั้งหมดโดยที่ไม่ยอมละสายตาออกมาจากเหยื่อแม้เพียงเสี้ยววินาที

     

    "แล้วทีนี้..." ร่างสูงขยับเบียดชิดเข้ามาใกล้...และคงเป็นเพราะสายฝนที่เย็นเฉียบ มันจึงทำให้ทงเฮสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รวยรินอยู่บนผิวหน้าได้ชัดเจนนัก

     

    "คุณหนาวจนปากซีดแก้มแดงไปหมดแล้วรู้ตัวรึเปล่า"

     

    "รีบๆพูดธุระของนายมา ถ้าจะฆ่าก็รีบฆ่า อย่ามาพูดพล่ามน่ารำคาญ!"

    เป็นอีกครั้งที่ทงเฮโต้ตอบน้ำเสียงนิ่งเรียบนั่นด้วยคำพูดห้วนกระชากไม่น่าฟัง ความมืดและสายฝนทำให้เขาไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้ามีสีหน้าอย่างไร แต่ปลายกระบอกปืนที่กดแนบเข้ากับผิวมากขึ้นก็ทำให้เขารู้ว่าชายหนุ่มแปลกหน้าคงไม่พอใจกับถ้อยคำของเขามากเท่าไรนัก มือใหญ่อุ่นจัดละออกมาจากข้อมือของเขาเพื่อเลื่อนมากำรอบลำคอของเขาแทนที่ ชายหนุ่มเกร็งมือของตนแน่นขึ้นพลางดันปลายคางของคนปากดีให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา...และดวงตาสีดำสนิทอันเย็นชาราวกับปีศาจก็ทำให้ความหวาดกลัวปรากฏชัดขึ้นมาในแววตาของทงเฮทันที

     

    "อย่าคิดว่าผมไม่กล้านะครับเจ้าหญิงตัวน้อย"

     

    ............................................................................

     

     

     

     

    ในที่สุดคิมคิบอมก็โผล่ออกมาซักที แต่อ่านตอนนี้แล้วต้องมีหลายคนบอกว่าไม่ให้มันโผล่มาอ่ะดีแล้ว เพราะดูท่าว่าจะร้ายเอามากๆเลย- -*...ออกแนวไม่ช่วยแถมยังซ้ำเติมอะไรทำนองนั้น คิบอมในเรื่องนี้อัพเกรดความร้ายมาจากเรื่องที่แล้วอีกนิดหน่อย(นี่นิดหน่อยของเมิงเรอะ!!)  เถอะนะๆๆ...ยังไงๆเขาก็เปนพระเอกนา อย่าไปสาปแช่งมากละกัน ชะตากรรมของนู๋หมวยจะเปนยังไงต่อไปก็รออ่านกันตอนหน้าละกันนะจ้ะ^^(จะโดนยิงอีกรึเปล่าก็มาลุ้นกันต่อไป เพราะดูเหมือนลูกพี่สุดสวยของเราจะโดนยิงแม่งทุกตอน- -*)

     

     

    ไปแระค่ะ รักเธอนะจุ๊บๆ

     

    ปล.   จัสต์ยูไม่มีเหลือแล้วจ้า ต้องไปตามซื้อเอาที่ร้านเองน้า แพงกว่าไม่เท่าไรเอง ไม่ถึง50หรอกค่ะถ้าคิดค่าไปรษณีย์ด้วยอ่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×