ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: Just You พรหมลิขิตหัวใจบอกฉันให้รักเธอ

    ลำดับตอนที่ #19 : Missin' You

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.19K
      16
      18 ก.ค. 51

    ทงเฮสูดหายใจลึกๆ....ซึบซาบอากาศที่มีกลิ่นอายของทะเลลอยปะปนอยู่อย่างเจือจางเข้าปอดราวกับอยากจะให้มันชำระล้างฝุ่นควันและมลพิษที่เขาสะสมมาจากในเมืองออกไป...ครั้งที่สองแล้วสินะที่มาที่นี่...แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย

     

    "ว้าวววว~!...อากาศดีจังเลย!" ฮยอแจร้องออกมาเสียงดังพลางหยีตาเงยหน้าท้าแดดขึ้นมองท้องฟ้าสีฟ้าสดของเชจู...สีฟ้าสดใสจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นท้องฟ้าผืนเดียวกับในตัวเมือง แถมตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ร่วงแท้ๆ...ท้องฟ้าปลอดโปร่องและแดดดีขนาดนี้ได้ยังไงนะ

     

    "ไว้ใจไม่ได้หรอกครับอากาศที่นี่น่ะ ตอนกลางวันแดดีแบบนี้ เดี๋ยวตกดึกผนก็ตกอีก" ฮันคยองที่เพิ่งก้าวตามลงมาจากบนเรือโดยสารเอ่ยพลางยกมือป้องตาเพื่อมองหาพาหนะของตนที่จอดทิ้งไว้

     

    "อ้านั่นไง...ทางนั้นครับคุณทงเฮ ฮยอกแจ"

    ชายหนุ่มชี้นิ้วไปยังรถคันหรูสีดำสนิทที่จอดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลก่อนจะเดินถือกระเป๋าของคนตัวเล็กทั้งสองคนนำออกไป

     

    "อยากเล่นน้ำทะเลจัง" ฮยอกแจบ่นออกมาเบาๆด้วยดวงตาลอยๆเหมือนกำลังจินตนาการถึงอะไรบางอย่าง ท่าทางแบบนั้นทำให้ทงเฮที่เดินอยู่เคียงข้างอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

     

    "ไปกันพรุ่งนี้มั้ยล่ะครับ...ไปกับผมนะ"

     

    "ดีๆ!...อ้า...อยากให้ถึงพรุ่งนี้ไวๆจัง" ชายหนุ่มผมสีแสบตากล่าวอย่างดีใจก่อนจะมุดตัวเข้าไปนั่งในรถทางฝั่งที่นั่งข้างคนขับอันเป็นที่ประจำของเขา

     

    ทงเฮอมยิ้มพลางเอื้อมมือไปดึงที่เปิดประตู หากแต่มือบางก็ต้องชะงักเมื่อกระจกที่ติดฟิล์มสีดำทึบจนไม่สามารถมองเห็นตัวรถด้านในเลื่อนเปิดลงมา...เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มอันหล่อเหลาของคิมคิบอมผู้ซึ่งนั่งคอยอยู่ด้านใน

     

    และยังไม่ทันที่เขาจะวิเคราะห์สีหน้าของคนที่นั่งอยู่ในรถออก ปลายคางของเขาก็ถูกคว้าจับก่อนจะโดนรั้งลงไปเพื่อรับจูบดูดดื่มลึกซึ้งที่ริมฝีปาก...เนิ่นนานกว่าที่เขาจะถูกปล่อยกลับออกมาให้ยืนตัวตรงเหมือนเดิม

     

    "ขึ้นรถสิ"

     

    "คะ...ครับ"

    ทงเฮรีบเปิดประตูและก้าวเข้าไปนั่งด้านในด้วยใบหน้าแดงก่ำอีกทั้งหัวใจที่เต้นระรัว กระจกค่อยๆถูกเลื่อนปิดตามเดิมเป็นขณะเดียวกับที่รถคันหรูค่อยๆเคลื่อนตัวออกสู่ถนนใหญ่


    ความเงียบงันเข้ามาครอบคลุมอยู่ในรถทันทีที่ล้อเริ่มหมุน...ฮันคยองเงียบเพราะต้องตั้งใจขับรถ...ฮยอกแจเงียบเพราะมัวแต่สนใจทะเลที่ตีเลียบคู่ไปกับถนน...หากแต่คิบอมและทงเฮเงียบเพราะไร้ซึ่งคำพูดใดๆที่จะใช้พูดคุย

     

    ทั้งๆที่ตอนแรกสัญญากับตัวเองแล้วแท้ๆว่าต้องไม่รู้สึกแบบนี้...ต้องไม่ทำตัวแบบนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ...เขาก็อดไม่ได้อยู่ดี ทงเฮอยากจะโกรธ...อยากจะงอนคนตัวใหญ่...อยากจะถามว่าทำไมไม่มาเยี่ยมเขาบ้าง...แค่กลับมาเยี่ยมเขาหน่อยมันเสียเวลาเกินไปหรอ....แค่ไม่กี่วินาทีก็ได้....อยากจะรู้ว่าสำหรับคิมคิบอม มันไม่มีอะไรสำคัญที่จะต้องรีบกลับโซลจริงๆหรอ...การที่เขาโนรถชนถึงขนาดนั้น...มันไม่มีค่าพอสำหรับความห่วงใยของคิมคิบอมเลยหรอ

     

    แต่ทงเฮก็ขลาดกลัวเกินไปที่จะเอ่ยปากถามแบบนั้น...ที่จะให้อีกคนรู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง ร่างบางจึงเลือกที่จะนั่งนิ่งเงียบและเหม่อสายตาออกไปมองนอกหน้าต่างแทนที่...มอบความนิ่งเฉยที่เจือปนไปด้วยความเศร้าสร้อยให้แก่ท้องทะเลที่เขาเห็นอยู่นอกหน้าต่างรถ...ไม่อยากให้ใครก็ตามเห็นแววของความน้อยใจที่เอ่อล้นอยู่เต็มดวงตา

     

    "เธอโกรธฉัน?" เสียงเข้มที่เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆไม่ได้เรียกนัยน์ตากลมโตให้หันตวัดกลับมาสนใจ ผิดกับฮยอกแจและฮันคยองที่ถูกดึงความสนใจกลับเข้ามาในรถโดยทันทีที่เสียงของผู้เป็นนายถูกเอ่ยออกมา ความกดดันที่เริ่มก่อตัวขึ้นทำให้อากาศในรถดูจะเบาบางลงจนยากจะหายใจ

     

    "คุณรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าผมโกรธ"

     

    "มันไม่สำคัญที่ฉันจะรู้ได้ยังไง ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอโกรธฉันเรื่องอะไร"

     

    "ผมไม่ได้โกรธคิบอม...ผมเคยบอกไปแล้วนี่ ผมไม่โกรธหรอก"

    ปากบอกว่าไม่โกรธ หากแต่ใบหน้ายังคงเบนหนี...สนใจภาพทิวทัศน์ด้านนอกมากกว่าคนข้างกายอยู่ดี และมันก็ทำให้คนที่พยายามจะใจเย็นโมโหขึ้นมาทันที...เขาไม่ชอบน้ำเสียงเย็นชากับท่าทางหยิ่งยะโสแบบนี้เลยให้ตายสิ!

     

    "จอดรถ!"

     

    "ครับ?"

     

    "ฉันบอกให้จอดรถ!"

    ฮันคยองรีบเลี้ยวรถเข้ามาจอดข้างทางก่อนทั้งเขาและฮยอกแจจะรีบพากันระเห็จออกมาจากรถอย่างรู้งานโดยไม่ต้องให้ผู้เป็นนายเอ่ยปากไล่ให้เสียเวลาแต่อย่างใด

     

    ทันทีที่ได้ความเป็นส่วนตัว มือใหญ่ก็เอื้อมไปกระชากไหล่บางให้เจ้าตัวหันกลับมาเผชิญหน้า...และแววตาอันนิ่งเฉยก็ทำให้เขายิ่งโกรธ...ลืมฉุกคิดไปซักนิดว่านัยน์ตาสีฟ้าที่เขาหลงใหลนักหนานั้นก็นิ่งเฉยแบบนี้มาเนิ่นนานแล้ว จะมีก็แต่แววบางอย่างที่มักจะวูบไหวไปมาอยู่เสมอ...ติดก็แต่คิมคิบอมที่ไม่เคยสนใจรายละเอียดเล็กน้อยอันไร้สาระแบบนั้น

     

    "เป็นอะไรของเธอน่ะฮะลีทงเฮ!"

     

    "ผม?...เปล่านี่ครับ"

    ถึงแม้ใบหน้าบึ้งตึงของคิบอมจะทำให้เขาหวาดกลัวจนมือสั่น หากแต่ทงเฮก็ยังคงรักษาน้ำเสียงให้นิ่งเรียบได้อย่างน่าอัศจรรย์ คนใจกล้าพยายามกลืนน้ำลายลงคอเพื่อข่มความหวาดกลัวของตน

     

    "เปล่าหรอ?!...ถ้าเปล่าก็อย่าทำแบบนี้ ฉันไม่ชอบ!"

     

    "ทำแบบไหนล่ะครับ"

     

    "ทำท่าเหมือนเธอ...เหอะ!"

    คิบอมชะงักคำพูดของตนเพื่อเปลี่ยนถ้อยคำที่เหลือนั้นให้กลายเป็นจุมพิตที่เร้าร้อนและรุนแรงแทนที่ เขาดันร่างบางของคนที่กำลังจะผลักเขาออกไปชิดประตูรถ ใช้มือข้างหนึ่งยึดจับท้ายทอยของคนตัวเล็กเอาไว้เพื่อให้เขาได้เข้าไปสัมผัสภายในโพลงปากหวานได้ลึกขึ้น ส่วนอีกมือหนึ่งนั้นก็รวบจับข้อมือเล็กที่กำลังผลักไสเขาออกเอาไว้แนบอก...สัมผัสชิดอยู่ที่หัวใจที่กำลังเพิ่มจังหวะขึ้นเรื่อยๆ

     

    "อื้อ!"

    เสียงร้องประท้วงขออากาศหายใจทำให้คิบอมยอมละริมฝีปากออกมา ปล่อยให้เจ้าของริมฝีปากแดงช้ำหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงใช้ริมฝีปากของตัวเองประกบลงไปอีกครั้ง...หากแต่คราวนี้เป็นเพียงสัมผัสอันแผ่วเบาและรวดเร็วคล้ายเป็นคำขอโทษของความรุนแรงเมื่อครู่

     

    "คิ...บอม"

     

    "อย่าทำแบบเมื่อกี้อีก ฉันไม่ชอบ...เข้าใจนะลีทงเฮ" ร่างสูงว่าพลางผละกลับไปนั่งอยู่ที่เบาะอีกด้านตามเดิม ใบหน้าคมเบื่อนออกไปมองนอกหน้าต่าง ข้อศอกข้างหนึ่งวางอยู่บนขอบหน้าต่างเพื่อใช้มือเท้าคาง...เป็นฝ่ายนิ่งเงียบไปบ้าง

     

    ดวงตาสีฟ้าจ้องมองคนตัวสูงอย่างงุนงง...หัวใจเต้นผิดจังหวะ...เช่นเดียวกับที่มันกำลังปวดหนึบๆ...ยังคงเขินอายจากจุมพิตทั้งๆที่กำลังรู้สึกน้อยใจโดยไร้สาเหตุ

     

    "แล้วผมทำอะไรล่ะครับ" เขาถามออกไปเบาๆ...ไม่หวังว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน หากแต่รถที่เงียบกริบก็ทำให้มันดังขึ้นมาจนเป็นที่ได้ยิน นัยน์ตาคมตวัดกลับมามองคนถามเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้ากลับไปมองนอกหน้าต่างรถตามเดิม

     

    "ทำท่าเหมือนเธอ...ไม่คิดถึงฉัน"

    คำตอบที่เบาไม่แพ้คำถามทำให้ทงเฮคลี่รอยยิ้มออกมา...เป็นอีกครั้งที่คิมคิบอมทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดก่อนจะทำให้มันเต็มไปด้วยความอบอุ่นภายในเวลาต่อมาไม่นาน...ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะลีทงเฮ...ไม่ดีเลย...นายกำลังทำให้ตัวเองเสียใจนะลีทงเฮ

     

    "คิบอม..."

     

    "อะไร" ชายหนุ่มตอบรับกลับมาด้วยเสียงห้วนๆที่ฟังดูคล้ายจะรำคาญ ผิดกับแก้มป่องๆของเขาที่ระบายไปด้วยสีแดงระเรื่อจางๆอย่างเห็นได้ชัด...ซึ่งนั่นก็ทำให้ทงเฮยิ้มออกมาได้มากกว่าเก่า

     

    คนตัวเล็กคลานบนเบาะไปนั่งอยู่เคียงข้าง'เด็กที่ชอบเรียกร้องความสนใจตัวโข่ง'พร้อมด้วยรอยยิ้มหวานยิ่งกว่านางฟ้าที่ทาทาบอยู่บนเรียวปากสวยไม่จาง....แล้วจึงชะโงกหน้าไปกดปลายจมูกโด่งรั้นของตนลงบนแก้มป่องๆนั่นเบาๆ

     

    "ผมคิดถึงคิบอมนะครับ"

     

     

     

     

     

     

     

    "ทงเฮจะเป็นอะไรรึเปล่านะ" ฮอยกแจเปรยออกมาเบาๆหลังจากเดินข้ามถนนมายืนคอยอยู่อีกฝากหนึ่ง ดวงตาเรียวรีได้รูปจ้องตรงไปยังรถคันหรูราวกับอยากจะมองทะลุผ่านเฟิล์มทึบแสงเข้าไปข้างใน แต่เขาก็ไม่ได้จ้องมองมันนานนักเพราะร่างสูงของฮันคยองที่ก้าวเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า

     

    "ดูคุณเป็นห่วงคุณทงเฮจังนะครับฮยอกแจ"

     

    "ก็แหงล่ะ!...นั่นมันหน้าที่ฉันนี่ อีกอย่าง หมอฝากให้ฉันดูแลเขาด้วย นายไม่รู้หรอกว่าเขาดูแย่ขนาดไหนตอนอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ...สุขภาพของทงเฮน่ะอ่อนแอมากเลยนะ"

     

    "ดูฮยอกแจรู้ดีจังนะครับ" ฮันคยองแกล้งเปรยออกมาพลางพาร่างของตนเองไปยืนพิงอยู่ตรงขอบรั้วกั้นเพื่อเหม่อมองทะเลที่อยู่ต่ำลงไปด้านล่าง โดยมีฮยอกแจแอบเหลือบมองตามเพราะเขากำลังรู้สึกเหมือนโดนประชดอย่างไรพิกล...แต่สมองไก่ๆของเขาก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าฮันคยองต้องการสื่อสิ่งใด

     

    "อืม...หมอบอกฉันมาน่ะ ทงเฮกินน้อยเกินไป พักผ่อนน้อยเกินไป ต้องบังคับให้เขากินกับนอนเยอะกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สบาย"

     

    "ฮยอกแจก็กินน้อยเหมือนกันนั่นแหละ" คนที่นิ่งไปครู่หนึ่งสวนกลับขึ้นมา และมันก็เรียกใบหน้าบึ้งตึงจากคนกินน้อยให้ปรากฏออกมาทันที...ซึ่งนั่นก็ทำให้ฮันคยองกลับมาคลี่ยิ้มเหมือนเดิม

     

    "เหอะ!...เออ!...ฉันมันกินน้อย แล้วใครจะทำไมล่ะ"

     

    "ผมกลัวฮยอกแจจะไม่สบายไปน่ะสิครับ ผมเป็นห่วงฮยอกแจนะ"

    ใบหน้าของฮยอกแจร้อนวูบทันทีที่สิ้นเสียงทุ้มที่ทอกระแสของความห่วงใยออกมาอย่างเต็มเปี่ยมของฮันคยองก่อนเขาจะสะบัดตัวฮึดฮัดพลางขยับตัวห่างออกมาราวกับกลัวว่าอีฝ่ายจะหาเรื่องทำให้ใบหน้าของเขาร้อนขึ้นมาอีก

     

    ฮันคยองหัวเราะในลำคอเบาๆพลางหมุนตัวอิงสะโพกเข้ากับราวกั้นด้วยท่าทางแสนสบาย...ยอมละสายตาออกมาจากทะเลแสนสวยเพื่อมองอะไรบางอย่างที่สวยกว่านั้น

     

    "ผมตกใจมากเลยนะครับตอนที่ฮยอกแจโทรมาวันนั้นน่ะ ฮยอกแจพูดไม่รู้เรื่องเลย ผมได้ยินแค่คำว่าเลือดเท่านั้นเอง"

     

    "ก็ฉันตกใจนี่ ทงเฮน่ะเลือดอาบอยู่เต็มตัวเลยตอนฉันไปถึงน่ะ"

     

    "อ่าว...ตอนนั้นฮยอกแจไม่ได้อยู่กับคุณทงเฮหรอครับ

     

    "เปล่า เขาออกไปซื้อของกับพี่ที่ร้านน่ะ...ออกไปยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ" ร่างบางตอบกลับมาเบาๆพลางส่ายหน้าคล้ายพยายามจะไล่สีแดงฉานของเลือดที่ติดตาเขามาหลายวันให้จางหายไป หากแต่มือใหญ่ที่เอื้อมมาใช้ข้อนิ้วลูบแก้มของเขาก็ทำให้เขาชะงักพร้อมกับเหลือบสายตาไปมองเจ้าของมือด้วยหัวใจที่จู่ๆก็กระตุกขึ้นมาผิดจังหวะ

     

    "แค่ฮยอกแจปลอดภัยผมก็ดีใจแล้วล่ะครับ" เสียงอันแผ่วเบาที่ถูกเอ่ยออกมาพร้อมกับเสียงคลื่นทำให้หัวใจของฮยอกแจเต้นระรัวหนักกว่าเก่าจนเขากลัวว่ามันจะดังกว่าเสียงของทะเลซึ่งมันอาจทำให้คนตัวใหญ่ได้ยิน

     

    "ฉัน...ฉันไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ทงเฮต่างหากที่โดนรถชนน่ะ" ฮยอกแจพูดด้วยเสียงสั่นๆพลางยกมือขึ้นทำท่าจะปัดมือใหญ่ที่ยังคงไล้สัมผัสผิวแก้มของเขาออก หากแต่มือของเขาก็สั่นไม่แพ้น้ำเสียงจนทำให้เขาขยับมันไม่ได้อย่างใจหวัง มือใหญ่อุ่นๆจึงเลื่อนลงไปจับปลายคางของเขาไว้เสียก่อน ฮันคยองคลี่ยิ้มพลางรั้งใบหน้าหวานให้เข้ามาใกล้

     

    "ผมถึงดีใจไงครับที่ฮยอกแจไม่เป็นอะไร" ริมฝีปากอุ่นขยับเอ่ยกล่าวถ้อยคำชิดอยู่กับเรียวปากบางของอีกฝ่ายก่อนจะเลื่อนไปที่ข้างแก้ม เลยไปยังใบหูนิ่มที่กำลังขึ้นสีแดงจัด

     

    "ผมคิดถึงฮยอกแจจัง"

    แล้วในที่สุดริมฝีปากบางของฮยอกแจก็โดนรังแกอย่างอ่อนหวานจากริมฝีปากอุ่นที่ป้วนเปี้ยนอยู่กับข้างแก้มของเขามาพักใหญ่ จุมพิตอ่อนหวานและอ่อนโยนทำเอาฮยอกแจเข่าอ่อนจนเซไปพิงกับรั้วกั้น แต่ยังไม่ทันที่ฮันคยองจะได้เข้าไปสำรวจหาความหวานล้ำภายใน...เทพธิดาคนสวยก็มาขัดโอกาสของเขาเสียก่อน

     

    "คุณฮันคยอง!...ฮยอกแจ!..." ทงเฮที่ชะโงกหน้าออกมานอกกระจกตะโกนเรียกพลางกวักมือเรียกไหวๆ

     

    เสียงร้องเรียกหวานหูที่แฝงไปด้วยแววขบขันทำให้คนโดนเรียกทั้งสองคนรีบผละออกจากกันในทันที ฮยอกแจก้มหน้างุด แก้มแดงก่ำ ผิดกับฮันคยองที่ยิ้มร่าพร้อมกับหันกลับไปขานตอบคนเรียก

     

    "ครับๆ!...ไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ!...ไปเร็วครับฮยอกแจ"

    ฮยอกแจยอมโดนจูงมือข้ามถนนกลับไปหารถด้วยอาการที่ยังคงงงๆ และสายตาล้อเลียนจากทั้งทงเฮและคิบอมที่นั่งมองเขาอยู่ในรถก็ยิ่งทำให้เขาแทบอยากจะเอาหัวมุดดินหนีกลับโซลไปให้รู้แล้วรู้รอด

     

    ชายหนุ่มผิดประตูรถเสียงดัง ก้มหน้าก้มตาคาดเซฟตี้เบลต์แล้วจึงก้มหน้างุด ไม่สบตากับใครทั้งสิ้นฮันคยองที่เพิ่งมุดเข้ามานั่งในรถอมยิ้มกับท่าทางแบบนั้นของคนตัวเล็กก่อนจะเอื้อมมือของตนไปลูบผมสีแสบตาที่ยุ่งเหยิงเพราะแรงลมจากทะเลให้เข้าที่เข้าทาง แล้วจึงหันกลับพารถเคลื่อนตัวออกจากที่

     

    ภายในรถยังคงเงียบงันอยู่เช่นเดิมเมื่อล้อเริ่มหมุนไปตามถนน หากแต่มันก็เป็นความเงียบที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นที่ทุกคนพอใจ

     

    ..................................................

     

    ฮยอกแจพลิกตัวกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียงของตนพลางกระชับผ้าห่มเข้าแนบตัวมากขึ้น...เสียงคร่ำครวญของสายฝนที่กำลังตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตาทำให้คนที่ไม่เคยนอนค้างที่ไหนนอกจากอพาร์ทเม้นต์เล็กๆของตนนอนไม่หลับเพราะความไม่คุ้นเคยและความหวาดกลัว

     

    ดวงตาเรียวรีจ้องมองไปยังเตียงเดี่ยวว่างเปล่าที่ตั้งอยู่อีกด้านของโต๊ะหัวเตียงอย่างไม่พอใจก่อนร่างบางจะพลิกตัวหันหลังให้...เที่ยงคืนกว่าแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาซักทีนะ จะทำงานอะไรนักหนากัน! ฮยอกแจค่อนขอดอยู่ในใจพร้อมกับดึงผ้าห่มให้สูงขึ้นมาถึงปลายจมูกเพราะเสียงฟ้าร้องที่ดังครืนๆอยู่ข้างนอก...แล้วพรุ่งนี้เขาจะตื่นไปเล่นน้ำกับทงเฮไหวได้ยังไงล่ะ

     

    "ไอ้บ้าฮันคยองเอ๊ย..." ชายหนุ่มบ่นพึมพำพร้อมกับพลิกตัวอีกรอบ พยายามข่มตาให้หลับต่อไปเพียงลำพัง หากแต่ดูเหมือนในที่สุดพระเจ้าจะได้ยินเสียงของเขา เพราะทันทีที่เขาพลิกตัว ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆที่ก้าวเข้ามาในห้อง ฮยอกแจลืมตาแป๋วขึ้นมาทันที แต่ก็ยังไม่ยอมชันตัวลุกขึ้นนั่งราวกับไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขายังไม่ได้หลับ

     

    ฮันคยองก้าวไปมาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาภายในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนผู้อยู่ในชุดกางเกงขายาวสีดำและเสื้อกล้ามสีขาวเดินมาทรุดตัวนั่งที่เตียงเดี่ยวของตนพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่กำลังใช้เช็ดผมสีน้ำตาลของตน เขาขยับขยุกขยิกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟที่โต๊ะหัวเตียง

     

    "อ้าว...ยังไม่นอนอีกหรอครับฮยอกแจ" ฮันคยองร้องออกมาอย่างแปลกใจเมื่อแสงไฟทำให้เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นตาแป๋วๆของคนที่นอนซุกตัวอยู่ในต้ผ้าห่ม

     

    "ผมทำฮยอกแจตื่นรึเปล่าครับ"

    คนตัวเล็กส่ายหน้า ท่าทางที่ดูเงียบๆซึมๆผิดปกติทำให้ฮันคยองคลี่ยิ้มออกมาได้เล็กน้อย เขาเอาผ้าขนหนูผืนเล็กคล้องคอของตนไว้ก่อนจะลุกเดินมานั่งยังขอบเตียงของคนที่ยังไม่ยอมนอนเสียที

     

    "ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะครับ...นี่ดึกแล้วนะ"

     

    "ก็มันหนาวนี่"

     

    "หนาวก็ห่มผ้าดีๆสิครับ ฝนตกก็หนาวแบบนี้ล่ะ...เดี๋ยวผมไปหรี่แอร์ให้นะครับ"

    ร่างสูงจัดการห่มผ้าให้คนบนเตียงอย่างเรียบร้อยก่อนจะลุกเดินไปปรับแอร์ที่มุมห้อง แล้วจึงเดินกลับมาทรุดตัวนั่งยังที่เดิม เขาหันไปคลี่ยิ้มให้อีกฝ่ายพลางเอื้อมมือไปกระชับผ้าห่มให้แนบตัวคนตัวเล็กเข้าไปอีก

     

    "อุ่นขึ้นรึยังครับ"

     

    "อือ"

     

    "งั้นก็นอนเสียนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปเล่นน้ำไม่ไหวนะ" ฮันคยองว่าด้วยรอยยิ้มพลางเลื่อนมือขึ้นไปลูบผมนิ่มสีแสบตาเบาๆก่อนจะก้มลงไปกดปลายจมูกลงบนแก้มนิ่มที่กรุ่นกลิ่นจางๆของสบู่กลิ่นเดียวกับเขาเบาๆแล้วจึงลุกเดินกลับมานั่งยังเตียงของตนตามเดิมเพื่อเช็ดผมที่ยังไม่แห้งดีต่อ

     

    แต่คนที่ควรจะนอนกลับยังคงเบิกตาโพลง...ไม่มีทีท่าว่าจะนอนง่ายๆ หนุ่มชาวจีนเห็นดังนั้นก็ได้แต่อมยิ้ม เขาละมือออกมาจากผ้าขนหนู ปล่อยให้มันคลุมศีรษะของตนอยู่อย่างนั้นเพื่อเอาข้อศอกทั้งสองข้างไปวางไว้บนหัวเข่า นัยน์ตาคมจ้องมองคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างขบขัน

     

    "เป็นอะไรอีกล่ะครับฮยอกแจ นอนไม่หลับหรอครับ"

     

    "อือ"

    คนนอนไม่หลับพยักหน้ากลับมาเล็กน้อบด้วยท่าทางที่ดูน่ารักสุดๆในสายตาของฮันคยอง

     

    "กลัวรึไงครับ"

     

    "อ่ะ...อือ...ก็มันไม่เหมือนบ้านนี่นา" ฮยอกแจพึมพำตอบกลับมาเบาๆพลางมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มมากเข้าไปอีกเพราะเสียงฟ้าร้องที่ดังอยู่ด้านนอก ซึ่งมันก็ทำให้ฮันคยองคลี่ยิ้มออกมาได้กว้างมากขึ้น...ตอนดูเซื่องๆซึมๆแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบแฮะ

     

    ร่างสูงดึงผ้าขนหนูลงมาจากศีรษะมาวางไว้บนเตียง เอื้อมมือไปปิดไฟแล้วจึงลุกเดินอยู่ในความมืดอ้อมเตียงมาล้มตัวนอนซ้อนอยู่ด้านหลังคนตัวเล็กที่ทำท่าจะลุกหนีทันที หากแต่เขาก็ไวพอที่จะคว้าเอวบางๆนั่นเอาไว้ทัน

     

    ฮันคยองจัดการสอดตัวเองเข้าไปใต้ผ้าห่มพลางรั้งเอวบางเข้ามาแนบตัว และด้วยความที่ว่าเตียงของห้องนี้เป็นเคียงเดี่ยว เขาจึงต้องเบียดร่างเข้าแนบชิดมากขึ้นจนแผ่นหลังบอบบางแนบสนิทอยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา

     

    ฮยอกแจขยับตัวขยุกขยิกอย่างไม่พอใจครู่หนึ่งแล้วจึงเริ่มสงบลง...พอใจกับไออุ่นอันอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างสูงเช่นเดียวกับที่ร่างสูงพอใจกับร่างกายอุ่นๆอันนุ่มนิ่มของร่างบาง

     

    "ฮยอกแจไม่เคยเดินทางไกลล่ะสิ...ไม่มีอะไรหรอกครับ เดี๋ยวฝนก็หยุดแล้วล่ะ หลับเสียนะครับ...ผมจะอยู่ตรงนี้ ไม่ทิ้งฮยอกแจไปไหนหรอก"

    ฮยอกแจคลี่ยิ้มออกมาให้ความมืดมิดเพราะถ้อยคำแสนอ่อนโยนที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นที่หัวใจจนเผลอขยับกายเข้าหาแผ่นอกอุ่นมากขึ้นพร้อมกับปิดเปลือกตาลงช้าๆ

     

    "สัญญากับฉันแล้วนะ"

     

    "ครับ...สัญญา"

    ฮันคยองกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น...ขณะเดียวกับที่ฮยอกแจค่อยๆผล่อยหลับไป

     

    ..........................................................

     

    กว่าคิมคิบอมจะได้ฤกษ์กลับมายังห้องพักของตนมันก็เลยเที่ยงคืนมาอยู่มากโขจนเขาไม่หวังว่าจะมีใครมานั่งรอเขาอยู่...ซึ่งก็โชคดีที่เขาไม่ได้หวังเอาไว้ เพราะห้องพักของเขาทั้งมืดสนิทและเงียบกริบยามที่เข้าก้าวเข้าไป

     

    คิบอมปิดประตูอย่างแผ่วเบาที่สุดเพื่อไม่ให้คนที่เขาเห็นเป็นโครงร่างเลือนลางอยู่บนเตียงขนาดคิงส์ไซส์ภายใต้ความมืดต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา

     

    สายฝนทำให้อากาศภายในห้องเย็นยะเยือกจนเขาต้องห่อไหล่และเดินไปปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศที่มุมห้อง นัยน์ตาคมเหลือบไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงแล้วก็ต้องส่ายหน้า...ขดตัวเสียกลมดิกอยู่ใต้ผ้าห่มขนาดนั้นคงต้องหนาวมากเป็นแน่ เดี๋ยวก็ได้ไม่สบายไปอีก...ปกติก็ดูไม่ค่อยจะมีแข็งแรงอยู่แล้ว

     

    ชายหนุ่มเดินไปกระชับผ้าห่มให้คนที่หลับใหลไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงให้แนบเข้ากับร่างบางมากขึ้นก่อนจะเกลี่ยผมนิ่มให้ออกจากแก้มนิ่มอันเย็นเฉียบ

     

    ใช่เขาไม่ห่วงที่ทงเฮโดนรถชน

     

    เขาห่วง...

     

    ห่วงมาก...

     

    กลัวมาก...

     

    และกลัวมากเกินไปจนเขาหวาดกลัวใจตัวเอง

     

    หากแต่งานที่รัดตัวก็ทำให้เขาปลีกเวลากลับไปไม่ได้ มันจึงทำให้เขาทำได้เพียงแค่เพียงโทรเช็คอาการของร่างบางจากนายแพทย์เจ้าของไข้ที่ฮยอกแจให้ชื่อไว้วันต่อวันเท่านั้น...และมันก็ไม่ใช่นิสัยของคิมคิบอมที่จะเอ่ยบอกในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเอ่ยออกมา...สิ่งที่ไม่มีใครจำเป็นต้องรู้

     

    คิบอมผละออกมาจากเทพธิดาผู้จมอยู่ในห้วงนิทราเพื่อไปจัดการอาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วจึงกลับออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนแขนสั้นสีดำตัวเก่ง เขาสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนใหญ่พลางเอื้อมมือไปรั้งเอวบางด้วยหวังว่าจะดึงมันเข้ามาแนบตัว หากแต่ทันทีที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสลงไป ร่างบางของทงเฮก็สะดุ้งขึ้นตื่นและเริ่มดิ้นขลุกขลักเพื่อปฏิเสธการสัมผัสจับต้อง

     

    "ทงเฮ...ฉันเอง คิบอม" เสียงทุ้มที่กระซิบบอกเบาๆทำให้ทงเฮสงบลง ร่างบางพลิกตัวกลับมาหาเขาเล็กน้อย นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยปรอยปรือมองหน้าเขาอย่างคนที่ยังไม่ตื่นดี

     

    "คิบอมเองหรอ"

     

    "อืม...ฉันเอง"

     

    "หนาวจังเลยคิบอม" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงง่วงงุนพร้อมกับร่างบางที่พลิกกลับมาหาเขา...ซุกตัวแนบอยู่กับแผ่นอกอุ่นอย่างเคยชินด้วยรอยยิ้มพึงใจบนริมฝีปาก...เคยชินกับการที่มีอ้อมกอดอุ่นของคิมคิบอมกอดเอาไว้ตลอดค่ำคืน...เคยชินกับการมีกลิ่นกายของคิมคิบอมติดอยู่ที่ปลายจมูกทุกค่ำคืน

     

    คิบอมกระชับผ้าห่มเช่นเดียวกับอ้อมแขนของตนที่โอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้แนบกาย เขากดจูบเบาๆลงบนกลุ่มผมนุ่ม

     

    "อุ่นขึ้นมั้ยทงเฮ"

     

    "อืม...อุ่นมากๆเลย"

    ศีรษะเล็กขยับแนบเข้ามามากขึ้นจนปลายจมูกเชิดรั้นแนบชิดกับแผ่นอกกว้างก่อนทงเฮจะจมกลับลงไปในห้วงนิทราตามเดิมได้อย่างง่ายดายโดยมีเสียงเต้นของหัวใจเป็นเพลงกล่อมนอนคู่กับเสียงสายฝนเหมือนดังเช่นทุกคืน

     

    ...................................................

     

    หยุดเข้าพรรษาต้องไปต่างจังหวัดเลยมาลงให้ก่อนวันเสาร์นะ^^ 

    แม่ยกอยู่หนายยยย~!!!....แม่ยกคิเฮ ฮันฮยอกปลื้มป่ะล่ะ!!!...มาแบบอบอุ่นปนหวานกันเลยทีเดียว(หลังจากหั้ยคุ่คยุมินหวานมาทุกตอน- -*) ตอนหน้าก้อยังคงเปนคิเฮกะฮันฮยอกอยุ่เหมือนเดิมนะ...แม่ยกปลื้มรึเปล่า!!!

    ยุนแจใจเย้นกันนิดนึงนะจ้ะที่รัก อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่ายุนแจเปนคุ่แขกรับเชิญ บทก้อจาไม่เยอะเท่าไร นานๆจาโผล่มาซักที(แตต่โผล่มาที่ไรมี้แจน้ำตาท่วมทุกที- -*) แต่ที่sfของคุ่นี้ที่ไรเตอร์สันยาไว้มมีแน่ๆค่ะ แต่ไม่รุ้ว่าจะเปนตอนไหนแค่นั้นเอง- -*...ตาเถรเวรกำจิงจัง


    เจอกันตอนหน้านะจ้ะคนอ่านที่รัก ขอบคุนคนอ่าน+คนเม้นทุกคนเลยจ้า ใกล้สอบกันแร้ว ตั้งใจสอบกันเน้อ^^


    พีเอส. ในคอนไรเตอร์เห้นแต่คังทึกกะคยุมินอ่ะ(คังทึกนี่เห้นกันแบบจะๆ ส่วนคยุมินนี่หันไปทันเหนแว้บๆ เหนมินโดนชายโจวแกล้งอ่ะ!)....ส่วนคิเฮ...- -*...เอ่อ....ขอยืนไว้อาลัยให้สองวิ เห้นแว้บๆ(แว้บยิ่งกว่าของคยุมินอีก)ตอนคอนจบพอดี...แต่แบนเนอร์ของคิเฮสวยนะ แต่แม่ยกเล่นไปอยู่กันซะชั้นบนสุดเลย ด้านล่างมองม่ะค่อยเหนเลยอ่ะ^^;;



    ไปแระค่ะ โม้มากอีกตามเคย^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×