ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:KIHAE] :: Bad Romance แผนรักร้ายมัดหัวใจนายตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #1 : Beginning of The Bad Things: จุดเริ่มต้นของจุดจบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.33K
      6
      30 พ.ค. 53

    "นี่ฮยอกแจเป็นอะไรหรอครับ ยิ้มหน่อยนะๆ ผมพาไปทานไอติมเอามั้ย ร้านที่ฮยอกแจอยากทานวันนั้นไงครับ"

    คนตัวโตยังคงมีความพยายามเป็นเลิศในการง้องอนเขาไม่เปลี่ยน...ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปี เชวซีวอนคนนั้นก็ไม่เคยเหนื่อยที่จะคอยตามเอาใจคนขี้งอนที่ชอบทำตัวเย็นชาอย่างลีฮยอกแจคนนี้เลยสักครั้ง...ไม่เคยสัมผัสความรักได้น้อยลงกว่านี้เลยแม้เพียงนิด แต่ตอนนี้ฮยอกแจกลับรู้สึกอยากร้องไห้มากกว่าที่จะดีใจไปกับมัน คงเป็นเพราะบางที...พระเจ้าอาจจะคิดได้แล้วว่าคนแสนดีคนนั้นดีมากเกินไปสำหรับเขาคนนี้ และไม่เคยเหมาะสมกับเขามาตั้งแต่ต้นแล้ว

     

    ในที่สุด...ก็ทรงคิดเหมือนที่คนอื่นๆคิดเสียที

     

    เขาจะไม่ร้องไห้...เขาสัญญากับตัวเองไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เขาจะไม่ให้เชวซีวอนคนนั้นเห็นว่าลีฮยอกแจคนนี้หายใจไม่ออกมากขนาดไหนเพียงแค่คิดว่าพรุ่งนี้จะไม่มีเชวซีวอนคนนั้นมาคอยปกป้องตอนใกล้ล้มและปลอบโยนยามล้มลงอีกต่อไปแล้ว...ต้องไม่อ่อนแอให้คนแสนดีต้องลำบากใจ เพราะนั่นจะทำให้ทุกอย่างยากขึ้น ฮยอกแจผลักร่างสูงของเด็กหนุ่มในชุดเครื่องแบบมัธยมปลายปีสุดท้ายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังให้ถอยห่างออกไปด้วยท่าทางที่แสร้งทำเป็นว่ารำคาญจนเกินทน ทั้งๆที่ในความเป็นจริง...ลีฮยอกแจไม่เคยต้องทน...ลีฮยอกแจรักการมีเชวซีวอนอยู่ใกล้ๆแบบนั้นมากเหลือเกิน

     

    แล้วนายเคยต้องทนที่จะคอยเอาใจฉันรึเปล่านะ

     

    ไม่อยากเห็นแววตาของนายให้เจ็บปวดเลยจริงๆ

     

    "หยุดสักทีเชวซีวอน มันน่ารำคาญ"

    รอยยิ้มของซีวอนเจื่อนลงไปนิดเพราะถ้อยคำตัดรอนของชายหนุ่มร่างบางผู้อยู่ในชุดเครื่องแบบคนละโรงเรียนกับเขา หากแต่เขาก็ทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรด้วยการขยับรอยยิ้มให้กว้างขึ้นและตรงเข้าไปจับมือของคนเย็นชาเอาไว้แน่น...บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่ยอมถูกสะบัดทิ้งอีกเป็นครั้งที่สอง คนชอบเอาชนะอย่างซีวอนไม่เคยยอมแพ้ ฮยอกแจรู้...ตรงข้ามกับเขาแทบจะโดยสิ้นเชิง เพราะตอนนี้ฮยอกแจกำลังอยากยอมแพ้...กำลังอยากจะทรุดตัวลงไปร้องไห้ออกมาดังๆ คนตัวเล็กที่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งบีบกระชับมืออุ่นข้างนั้นเอาไว้แน่นๆชั่วครู่...ซึมซับไออุ่นจากมันเข้าสู่หัวใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสะบัดมันออกสุดแรง

     

    เพราะฮยอกแจรักเชวซีวอนหรอกนะ

     

    เพราะลีฮยอกแจไม่อยากทำลายเชวซีวอนหรอกนะ

     

    อนาคตของเชวซีวอน...สำคัญกว่าความรู้สึกของเขาอยู่แล้ว

     

    ทุกอย่างของเชวซีวอน

     

    ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง

     

    มันมีค่ามากจนเทียบอะไรไม่ได้เลยกับทุกคความรู้สึกของลีฮยอกแจ

     

    ไม่ได้เลยจริงๆ

     

    "เลิกกันเถอะ ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว"

     

    ทนทำลายอนาคตของนายทั้งชีวิต...ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

     

    ..........................................................

     

    ความร้อนของไอแดดที่สาดส่องผ่านรอยแง้มของม่านเข้ามาทำให้ร่างบอบบางที่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาต้องขยับตัวเล็กน้อยเพื่อสะบัดผ้าห่มให้พ้นตัวออกมา มือเล็กควานเปะปะไปมาทั่วเตียงเพื่อหวังจะดึงร่างอุ่นๆของคนที่มักจะนอนอยู่ข้างกายเสมอมากอดเอาไว้อย่างเคยชิน หากแต่ความว่างเปล่าอันเย็นฉืดก็ทำให้เขาชะงักไป

     

    ชายหนุ่มค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมายอมรับความจริงอย่างเชื่องช้า...เขากำลังหลอกตัวเองว่าบางทีเขาอาจจะแค่ควานหาไปผิดที่...บางทีอีกฝ่ายอาจจะแค่กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ ดวงตาแสนหวานจ้องมองอีกด้านของเตียงด้วยสายตาอันว่างเปล่าเหมือนกำลังมองหาความผิดปกติบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่มันก็ไม่มี...ไม่มีอะไรเลย ห้องอันเงียบงันทำให้คำโกหกที่เขาใช้หลอกตัวเองนั้นพังครืนลงมาไม่เป็นท่า

     

    "ฮัน..."

    ชื่อของคนที่หายไปถูกกระซิบผ่านริมฝีปากบางออกมาอย่างแผ่วเบาคล้ายอยากจะให้สายลมพัดพามันไปให้เจ้าของชื่อได้ยินที่หัวใจ...แค่กระซิบแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว เพราะเขารู้ดี...ต่อให้ตะโกนดังจนสุดเสียง...ตะโกนจนน้ำตาไหลออกมาเป็นเลือด...ตะโกนจนไม่มีแรงจะเปล่งเสียง คนใจร้ายคนนั้นก็จะไม่มีทางหันกลับมา...ไม่มีทางเดินกลับมาหาเสียงเรียก มันเป็นแบบนั้นมาตลอดอยู่แล้ว...มีแค่เขาคนนี้ที่เอาแต่คอยวิ่งตามอยู่ฝ่ายเดียว

     

    ไม่มีแม้แต่คำบอกลา

     

    มันหมายถึงเราจะไม่ได้เอ่ยทักทายกันอีกเลยรึเปล่านะ

     

    คนตัวเล็กเม้มริมฝีปากแน่นทั้งๆที่รู้สึกอยากจะยิ้มออกมา เขาพยายามที่จะไม่รู้สึกว่างเปล่า...พยายามที่จะไม่หวาดกลัวที่ต้องอยู่คนเดียว แต่คนที่หันหลังให้กับอนาคตเพื่อมีฮันคยองเป็นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างคนนี้กลับกำลังหายใจไม่ออกเพียงเพราะไม่มีใครอีกคนร่วมหายใจอยู่ในห้องด้วยเหมือนที่เคย เขาขดตัวเข้าหากัน ขยับกายเข้าซุกใต้ผ้าห่มจนมิดศีรษะ แล้วจึงวาดแขนโอบกอดตัวเองเอาไว้แน่นๆ...ทำให้เหมือนยังมีใครอีกคนอยู่ใกล้ๆ...ยังคงนอนอยู่ข้างๆ...ทั้งๆที่ก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่มีวันอุ่นเท่า

     

    ปาร์คจองซูร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนสุดเสียงรับเช้าวันใหม่พร้อมด้วยหัวใจที่พังทลาย

     

    ........................................................

     

    คิมแจจุงไม่เคยชอบผู้ชายคนนั้น...ผู้ชายที่แม่ของเขาระเริงรักด้วยทุกค่ำคืน...ผู้ชายที่ทำให้แม่ของเขากลับมายิ้มและหัวเราะอีกครั้งหลังจากที่พ่อเสียไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้ใบหน้าน่ารักๆที่คนกว่าค่อนมหา'ลัยหลงใหลนั้นมักจะบึ้งตึงอยู่เสมอเมื่อจำต้องเห็นหน้าชายหนุ่มที่ชื่อชองยุนโฮ...แสงดาวดวงใหม่ในคฤหาสต์อันซึมเศร้าหลังนี้ และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน

     

    ร่างบางยกมือขึ้นกอดอก ขยับขึ้นนั่งไขว่ห้างพร้อมกับใช้ดวงตากลมๆของตัวเองถลึงมองคนตัวโตที่นั่งทำหน้าทองไม่รู้ร้อนอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามอย่างเหม็นขี้หน้า แต่กระนั้นแล้ว...ชองยุนโฮผู้เป็นแสงดาวของทุกๆคนในบ้านก็ยังคงมีรอยยิ้มให้เขา...มีรอยยิ้มอบอุ่นแบบนั้นให้เขาเสมอนั่นล่ะ

     

    "ทำหน้าบึ้งแบบนั้นไม่เหนื่อยหรอแจจุง ฉันกับแม่นายมีอะไรจะบอกนายนะ เรื่องสำคัญด้วย คอยหน่อยสิยัยตัวเล็ก"

     

    ถ้าคิมแจจุงไม่ชอบชองยุนโฮคนนี้มากเท่าไร

     

    เขาก็เกลียดแม่ของตัวเองได้มากยิ่งไปกว่านั้น

     

    ผู้หญิงแพศยาที่ขาดผู้ชายไม่ได้พรรค์นั้น...น่าจะตายตามพ่อเขาไปสักที!

     

    กลิ่มน้ำหอมราคาแพงที่ลอยเข้ามาแตะจมูกทำให้แจจุงเหยียดรอยยิ้มหยันออกมาพลางกระแทกหลังพิงพนักโซฟาที่ตนนั่งอยู่แรงๆ เด็กหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะออกมานิดเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าที่เขาต้องมานั่งแกร่วอย่างน่าอึดอัดอยู่ตรงนี้กว่าครึ่งชั่วโมงนั้นก็เพราะรอผู้หญิงคนนั้นแต่งตัว

     

    ท่าทางดูแคลนที่ส่งผ่านออกมาทางแววตาอย่างชัดเจนทำให้ชายหนุ่มอีกคนที่เหลือบไปเห็นเข้าต้องส่ายหน้านิดๆคล้ายจะเอือมระอา ทว่าเขาก็ไม่ได้เอ่ยทักท้วงอะไรด้วยรู้ว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องนั้น...แต่มันก็แค่ตอนนี้เท่านั้นล่ะ

     

    ร่างสูงลุกขึ้นมาจากที่นั่ง เดินไปจับมือของคิมแจวอนเอาไว้แล้วจึงพาเธอมานั่งที่โซฟาเคียงข้างกับตน แจจุงยิ่งเบ้หน้าหนักกว่าเก่าเสียอีกเมื่อเห็นแม่ของตัวเองหัวเราะคิกคักพร้อมกับตีเข้าที่ต้นแขนคนรักของเธอเบาๆด้วยท่าทางราวกับสาววัยรุ่นที่กำลังเขินอายแฟนหนุ่มคนแรกของตน...น่ารังเกียจสิ้นดี!

     

    "มีอะไรก็พูดมา ได้กลิ่นน้ำหอมของแม่แล้วจะอ้วก!"

    คนตัวเล็กเปล่งวจาเชือดเฉือนออกมา และมันก็ทำให้คิมแจยอนผู้เป็นแม่ชักสีหน้าในทันที เธอตั้งท่าจะต่อว่ากลับด้วยคำพูดที่เจ็บแสบไม่แพ้กันอย่างที่คนในบ้านทุกคนคุ้นเคย ทว่าเธอก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพราะถูกชองยุนโฮห้ามปรามเอาไว้เสียก่อน ซึ่งแน่ล่ะ...คิมแจวอนเชื่อฟังผู้ชายอายุคราวลูกคนนั้นยิ่งกว่าผัวของเธอที่เพิ่งสิ้นใจตายเพราะโรคมะเร็งเสียอีก!

     

    เธอยิ้มหวานให้กับคนรักก่อนจะหันมาหาลูกชายคนเดียวของเธอที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้าม...ยังคงมีรอยยิ้ม หากแต่ก็เป็นรอยยิ้มเหยียดเหมือนกำลังประกาศชัยชนะอะไรสักอย่าง มันน่าชังเสียจนแจจุงต้องเบือนสายตาหนีออกมา

     

    "ฉันกับยุนโฮจะแต่งงานกัน แกอยากเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเพื่อนเจ้าสาวล่ะแจจุง"

     

    คิมแจจุงไม่เคยชอบผู้ชายคนนั้น

     

    เพราะชองยุนโฮคนนั้น...มีรอยยิ้มอบอุ่นให้คิมแจจุงคนนี้เสมอ

     

    เพราะชองยุนโฮคนนั้น...คอยเช็ดน้ำตาให้คิมแจจุงคนนี้เสมอ

     

    เพราะชองยุนโฮคนนั้น...เป็นดั่งแสงดาวในโลกอันโสมมของคิมแจจุงคนนี้เสมอ

     

    เพราะชองยุนโฮคนนั้น...ทำให้คิมแจจุงคนนี้ตกหลุมรักได้มากมายเหลือเกิน

     

    ...............................................

     

    "ทงเฮครับ..."

     

    "คิบอมมีอะไรรึเปล่า ตอนนี้นายมีเรียนไม่ใช่หรอ"

    เดือนเด่นประจำภาควิชาการถ่ายภาพของคณะวารสารฯผู้ซึ่งมีกล้องดิจิตอลอันใหญ่คล้องอยู่ที่หัวไหล่เอนคอเอ่ยย้อนถามคนที่อุตส่าห์ถ่อมาหาตนถึงตึกคณะด้วยรอยยิ้มน่ารักบนเรียวปาก และมันก็คงน่าเอ็นดูมากๆจนทำให้นักศึกษาแพทย์คนเก่งที่ตีหน้าเครียดมาแต่เช้าอดไม่ได้ที่จะคลี่รอยยิ้มออกมาจางๆพลางเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ระอยู่ที่ข้างแก้มเนียนของอีกฝ่ายออกขึ้นไปถัดใบหูด้วยสัมผัสอันแผ่วเบา ร่างสูงในเสื้อกราวด์สีขาวซึ่งมีชื่อปักอยู่ที่หน้าอกด้านซ้ายว่าคิมคิบอมขยับตัวเล็กน้อยด้วยท่าทางลำบากใจ

     

    "คือว่า...ผมมีอะไรจะบอกคุณน่ะครับ"

     

    "บอกฉัน?...เรื่องอะไรล่ะ"

    คิบอมถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาเบือนสายตามองออกไปนอกหน้าต่างของตึกคณะวารสารฯที่เขาเพิ่งเคยมาเหยียบเป็นครั้งแรกชั่วครู่แล้วจึงหันมาสบตากับคนที่ห้าเดือนมานี้ เขาสามารถเรียกว่าคนรักได้อย่างเต็มปาก ความยุ่งยากใจปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา หากกระนั้นแล้วทงเฮก็ยังคงมีรอยยิ้มมาให้เขา...เหมือนตุ๊กตาเลยล่ะ มีรอยยิ้มให้กับทุกคนโดยไม่เคยเหนื่อย คิบอมเคยชอบที่มันเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้เขากลับทนมันไม่ไหวแล้ว

     

    "เรา...เลิกกันเถอะนะครับ"

     

    "คิบอม..."

     

    "ผมว่า...เราไม่เคยเข้ากันได้มาตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ"

     

    ลีทงเฮไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะทำยังไง

     

    ควรจะยิ้ม...หรือว่ามีน้ำตาดีนะ

     

    ควรจะบอกว่าไม่เป็นไร...หรือโวยวายฟูมฟายดีนะ

     

    ก็ตอนนี้น่ะ...เขาโคตรดีใจที่สลัดหมอนี่หลุดไปได้สักทีน่ะสิ!

     

    ..............................................................

     

     





     แอบเอามาลงให้ดูแนวกันเล็กน้อย มาหยั่งเชิงนิดหน่อยแล้วก็จะปล่อยให้ค้างคาใจกันแบบนี้ต่อไปอีกนานๆนะ= = ถ้าจะถามว่ามันเรียงยังไง ความหดหู่ไรเตอร์ให้จากมากไปน้อย แต่ความแรงไรเตอร์ให้จากน้อยไปมากนะ ซึ่งถ้าใครตามมาจากเรื่องมาเฟียก็คงเล็งเห็นอีกแล้วว่าคิเฮของเราคงโดนแย่งซีนอย่างสม่ำเสมออีกแน่ๆ (เพราะไรเตอร์ก็เล็งเห็นแบบนั้นเหมือนกันนะ- -")



    เรื่องนี้มากันเปนคู่ดีๆเราไม่ขาย เราขายกันเป็นแพ๊คๆนะเคอะ= = สามแพ๊คสามเรื่องราว คนแต่งมีความสุขสุดๆไปเลยล่ะ


    รอตอนต่อไปอย่างใจเย็นนะคะ^^


    คำถาม...สี่ปีต่อจากนี้ อยากรู้เรื่องของใครเปนคนแรกคะ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×