ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #89 : CHAPTER 83 : จุติมาร VS จุติมังกรซามูไร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.74K
      24
      27 ธ.ค. 59

    CHAPTER 83 : จุติมาร vs จุติมังกรซามูไร


     

     

    "ชิ ยัยซีลาร์แอบไปไม่บอกก่อนเลยนะ"   

     

    หญิงสาวผมดำยาวในชุดเดรสสีชมพูพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด  ขณะนำหอกของตัวเองไล่ฟาดแทงพวกผู้เล่นที่ขวางหน้าเธอจำนวนนับไม่ถ้วนนี่

     

    ฉัวะ! ฉึก!! ฉูดดด!!

     

    "อ๊าก!!"

     

    โครม!!

     

    "เลิกบ่นเถอะน่าอาลีเซียรีบตามไปช่วยยัยซีลาร์เถอะ ยัยนั่นสู้คนเดียวไม่ไหวหรอกถ้าเจอโดนล้อมแบบนี้"   

     

    หญิงสาวผมบลอนด์ในชุดเกราะอัศวินสีขาวบริสุทธ์ ที่พุ่งมาถีบร่างของออร์คนักรบจนกระเด็นไปกระแทกอาคารจนพังครืนก็พูดขึ้นมาพร้อมกับทะยานอยู่ข้างกายหญิงสาวผมดำนำโล่ห์และดาบไล่ฟาดฟันช่วยกำจัดพวกผู้เล่นของเลบิสที่เข้ามาเล่นงานพวกเธอ


     

    " ลูน่าเจอยัยนั่นยัง!"  

     

     อาลีเซียไม่สนคำพูดของอาเธอร์ เธอกระชับหอกของเธอแล้วตวัดกวัดแกว่งฟาดแทงผู้เล่นที่เข้ามาใกล้ ก่อนจะเงยหน้าแล้วตะโกนถามลูน่าที่ลอยอยู่บนฟ้าเหมือนมองหาอะไรอยู่

     


    ตูม!! บรั้ม!!

     

    "เจอแล้ว!อยู่ที่หน้าปราสาทที่ชุนสู้อยู่น่ะ ดูเหมือนกำลังสู้ตัวต่อตัวอยู่น่ะ"  

     

    ลูน่าที่มองซีลาร์จากจุดที่มีระเบิดและเสียงคนเอะอะโวยวายตรงนั้นก็ตะโกนตอบกลับกับอาลีเซีย  


     

    "ฆ่าพวกมันให้ได้!!!"

     

    "รำคาญจริงเดเบียล่าพาพวกเราไปหาซีลาร์ที!!"

     

    อาลีเซียสบถขึ้นเมื่อโดนพวกผู้เล่นของเลบิสมารุมล้อมพวกเธอ เธอมองจุดที่ซีลาร์อยู่ก่อนจะตะโกนเรียกเดเบียล่าร่างมนุษย์หมาป่ามาเพื่อให้ขี่หลังเดเบียล่าทะยานไปช่วยซีลาร์ให้ได้เร็วขึ้น


     

    คว้าง!!!บรึ้ม!!!

     


    "อ๊ากกก!!"


     

    "ไปเลย!!"


    อาลีเซียและอาเธอร์สะบัดท่าโจมตีใส่พวกผู้เล่นจนกระเด็นเปิดทางไป จากนั้นก็ฉวยโอกาสที่เดเบียล่าทะยานวิ่งเข้ามากระโดดขี่หลังเธอแล้วทะยานไปหาจุดที่ซีลาร์อยู่ทันที  

     

    "........"                                                             

     

    ลูน่าที่กำลังลอยอยู่บนฟ้ามองบารอนที่กำลังไล่อัดพวกผู้เล่น และออร์คพวกของตนเล็กน้อย  บารอนตัดสินใจแล้วว่าจะยอมลงมือกับพวกของตนเพื่อให้อะไรๆมันดีขึ้น ถ้าแค่ไม่เอาถึงตายเขาพอทำไหว


     

    "เจ้าไปเถอะข้าไม่ตายง่ายๆหรอก"

     

    "...อือ"

     

    บารอนที่ยืนอยู่ระหว่างร่างของโบกัซและทรากอซที่สลบเหมือบจากการโดนเขาเล่นงาน ก็หันมาพูดกับลูน่าที่ลอยมองเขาอยู่ พลางนำมือไปขยี้ศรีษะของผู้เล่นที่ทะยานเข้ามาโดยไม่มอง


     

    หมับ!

     

    "อึ้ก!อะไรกันวะ..."

     

    โพละ!!

     

    ลูน่ามองแล้วก็เห็นว่าไม่มีการโจมตีไหนทำลายผิวกายของบารอนได้เลย ลูกธนูของพวกผู้เล่นก็ยิงเขาไม่เข้า ทำให้เธอเชื่อแล้วว่าไม่มีใครทำอะไรบารอนได้ง่ายๆ เธอพยักหน้าให้บารอนออร์คที่สูงถึง 7 เมตรในชุดเกราะสีทองก่อนจะบินไปทิศที่พวกอาลีเซียทะยานไป...

     

     

     

     

    เปรี๊ยะ!...เพล้ง!!ตูมมมม!!!!!!!

     

    "อ้อก!!"

     

    โครมๆๆ!!

     

    เสียงเหมือนกับโลหะแข็งกล้าโดนอะไรบางอย่างกระแทกอย่างหนักหน่วง จนเกิดรอยปริแตกร้าวก่อนจะแตกสลายในที่สุด พร้อมกับร่างของชายหนุ่มผมดำที่ลอยไปกระแทกกับกำแพงของปราสาทอย่างรุนแรงจนพังครืนลงมาทับร่างของชายหนุ่มซ้ำ

     

    "...ฟู่ว..."

     

    เสียงเป่าปากเบาๆของชายอีกคนดังขึ้นอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าสามารถทำตามที่คิดไว้ได้จริงๆ  นั่นคือการ...

     

    ทำลายเกราะแดงของชายหนุ่มที่ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นมีระดับพลังปราณตัวของเขา เขาทำตามที่หญิงสาวในแหวนบอกทุกประการ เขารู้ว่าจุดที่ศูนย์พลังของเกราะมังกรแดงนี่อยู่ที่ใจกลางของเกระหรือตรงช่วงลิ้นปี่ หญิงสาวเลยให้เขาทำการใช้หมัดเปล่าที่แสนมั่นใจของเขาบวกกับปราณระดับ 1000 ของเขา

     

    ในการชกอัดอย่างเต็มแรงไปที่ตรงจุดนั้นทุกครั้ง เพื่อทำลายเกราะป้องกันตรงจุดนั้นเรื่อยๆ ต่อให้เป็นวัตถุที่แข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าโดนกระแทกซ้ำๆที่จุดเดิมๆไม่ว่ายังไงก็ต้องแตกสลายพังทลายลงเป็นแน่   

     

    ครึก...

     

    "นี่มันอะไรกัน...เกราะมังกรแดงของฉัน...แล้วทักษะมือเปล่าของแกนั่นมันอะไร...!"

     

    ผัวะ!!

     

    โครม!!ตูมม!!

     

    ไม่ทันที่ชายหนุ่มผมดำในสภาพสะบักสะบอม ที่เพิ่งลุกขึ้นมาจากกองซากกำแพงปราสาทที่พังลงจะพูดจบ ก็โดนชายหนุ่มผมดำชุดคลุมสีเทาขาดหลุดลุ่ยในสภาพโชกเลือด เทเลพอร์ทมาแล้วเตะเสยคางเข้าเต็มแรงจนลอยกระเด็นกระแทกกับหอสังเกตุการณ์ของปราสาทพังลงอีก


     

    'ดีมากในที่สุดเจ้าก็ทำลายเกราะนั่นได้ หึ หึ ทักษะมือเปล่าของเจ้านี่มันแน่นอนจริงๆ'

     

    เสียงหญิงสาวที่ดูห้าวๆแต่ทรงอำนาจ ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาจากแหวนสีแดงที่ชายหนุ่ม หรือชุนสวมใส่อยู่   


     

    ' ก็นะ...แต่ว่าสภาพผมตอนนี้ไม่ไหวแล้วละ สงสัยต้องรีบปิดฉากซักที'

     

    'อือ...ข้าเห็นด้วย'


     

    ชุนตอบในใจไปด้วยสภาะที่หอบแห่กเพราะพลังกายที่บาดเจ็บสาหัส และใช้ทักษะผลาญมานาไปเยอะทำให้เริ่มอ่อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะระดับของชุนอยู่แค่ ขั้น 1 ระดับ 100จากที่เสียขั้นไปจากการใช้กองทัพอสูรกินคนของเบลเลี่ยน ผิดกับเลบิสที่มีระดับถึงขั้น 5 มานาและพลังชีวิตก็ต้องสูงกว่าของชุน

     

    นี่คือข้อที่เสียเปรียบเลบิสอย่างแรง...

     


    ตูมมม!!!

     

    " อึ้ก...แกนี่มันน่าโมโหจริงๆ"   

     

    "เอ้ะ!"

     

    ขณะที่ชุนกำลังเดินหยิบดาบคร่าวิญญาณและดาบกันซอร์ดที่วางอยู่ข้างๆอยู่ ก็ต้องสะดุ้งขึ้นเมื่อเห็นจุดที่เลบิสโดนซากกำแพงฝังอยู่ระเบิดขึ้นมา พร้อมกับเลบิสที่ลอยออกมาพร้อมเช็ดคราบเลือดที่ปาก

     

    ชุนเห็นดังนั้นก็หรี่ตาลงพร้อมดื่มยาฟื้นฟูรักษาบาดแผลตามตัว แต่ก็ไม่ได้ฟื้นคืนจนหมดจดขวดยารักษาก็หมดพอดี 

     

    "ชิ!"


    เพล้ง!

     

    ชุนสบถก่อนจะเขวี้ยงขวดยารักษานั่นลงพื้นจนแตก จากนั้นก็ปักดาบทั้งสองเล่มลงพื้น พร้อมกับตั้งท่าเตรียมสู้ด้วยทักษะมือเปล่ากับเลบิส ที่ตอนนี้อยู่ในสภาพสะบักสบอมเปลือยท่อนบน ทำให้โชว์มัดกล้ามออกมา


     

    "ทีนี้แกละต้อง...เอ้ะ!"

     

    วุ่ม!!

     

    'สำเร็จ!'

     

    เลบิสที่ทำท่าจะชักดาบขึ้นมาแล้วจะชี้ท้าทายไปที่ชุน ก็ต้องสะดุ้งเบิกโพลงเมื่อจู่ๆ...


     

    ม่านบาเรียสีดำที่เขาสร้างขึ้นมาหายไป...

     

     

    "อะไรกัน!"

     

    เลบิสหันไปมองอย่างกระวนกระวายเมื่อเห็นบาเรียสีดำทรงลูกบาศก์ที่เขาสร้างขึ้นมาปกคลุมปราสาทกำลังจะหายไป ชุนมองมันที่ลุกลี้ลุกลนก็คลี่ยิ้มขึ้นมาพร้อมพูดว่า...



    "ทีนี้พลังของแกก็จะลดลงไปอีกสินะ เมื่อไม่มีความมืดเนี่ย...พ่อแวมไพร์"


    ชุนยิ้มกริ่มขึ้นทันที เมื่อบาเรียสีดำรอบๆที่ปกคลุมปราสาทนี้ได้หายไป เลบิสมองและรับรู้ได้แล้วว่าชุนได้ทำอะไรลงไปก็หรี่ตาลงหันมามองชุนแล้วพูดขึ้น



    "แกทำได้ยังไง..."



    ชุนฟังดังนั้นก็คลี่ยิ้มขึ้น เช่นเดียวกับเบลเลี่ยนที่ได้ยินอยู่ในแหวน ก่อนชุนจะตอบกลับด้วยสีหน้าหล่อกวนของเขาว่า



    "เผอิญเมียฉันคนนึงเป็นแวมไพร์ชั้นสูงแบบแกว่ะ"


    ชุนพูดแค่นั้นก่อนจะนึกกลับไปก่อนหน้านี้...




    10 นาทีก่อน




    'เจ้ารู้จักม่านบาเรียนี่รึเปล่าลูน่า?'


    เบลเลี่ยนถามขึ้นผ่านช่องสื่อสารของผู้ติดตาม ในระหว่างที่ชุนกำลังสู้กับเลบิสอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบสุดๆในตอนนี้



    'หือ?บาเรียนั่นเหรอ...อ้ะ!ก็ว่าทำไมคุ้นๆมันคืออาณาเขตทมิฬนี่เอง!"


    'อาณาเขตทมิฬ?x2'


    ชุนกับเบลเลี่ยนถามขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อลูน่าเหมือนจะรู้อะไรจริงๆ ลูน่าก็มองที่บาเรียสีดำนั่นด้วยสีหน้ากังวลพร้อมกับนำมือข้างขวาตบหน้าผู้เล่นคนนึงที่พุ่งเข้ามาทำร้ายจนกระเด็นไปอย่างชิลๆ


    ก่อนจะตอบชุนกับเบลเลี่ยน...



    'มันเป็นความสามารถอย่างนึงของแวมไพร์ค่ะ เป็นการเรียกกางอาณาเขตพิเศษขึ้นมาปกคลุมบริเวณที่ตนอยู่และอาณาเขตนั้นก็จะทำให้บริเวณนั้นแสงสว่างหายไปเหลือแต่ความมืด และนั่นก็ทำให้แวมไพร์ที่จะมีพลังเพิ่มขึ้น50%...


    ...เพราะแวมไพร์จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืดค่ะ...แต่ว่า'



    "แต่ว่า?x2"



    ชุนกับเบลเลี่ยนพูดทวนคำพูดของลูน่าขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ลูน่าก็อมยิ้มขำในคำพูดของพวกเขาเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาทำสีหน้าจริงจังอีกครั้งแล้วพูดขึ้น...



    'แต่...ความสามารถนี้มันต้องเป็นแวมไพร์ชั้นสูงเท่านั้นถึงจะใช้ได้ อย่างฉันกับพี่ลูเชียสก็มีแค่พี่เค้าที่ใช้ได้ นอกจากนั้นก็เสด็จพ่อและก็ญาติของฉันทางเชื้อพระวงศ์เท่านั้น...หรือว่า'


    ลูน่าเบิกตาโพลงขึ้นเมื่อนึกอะไรได้ขึ้นมา จากที่รู้ว่าพวกผู้เล่นจะทำการเปลี่ยนเผ่าได้ก็ต้อง...ได้รับการถ่ายทอดจากเผ่าพันธ์ุนั้นอย่างงี้ก็แสดงว่า



    'ยังมีพวกแวมไพร์ชั้นสูง...ที่อาจเป็นญาติของคุณหลงเหลือสินะ'


    ชุนเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าที่คิดตามเรื่องราวในอดีตของลูน่ากับลูเชียสไปด้วย ที่คิดว่าเหล่าเชื้อพระวงศ์ของลูน่ากับลูเชียสตายไปหมดแล้วนั้นจากการโดนแผนของเซฟิรอธ 1ในพวกมารเข้า ก็เลยไม่คิดว่าจะยังมีเชื้อพระวงศ์หลงเหลืออยู่



    '......'


    ชุนกับเบลเลี่ยนเงียบไปซักพักเหมือนคิดอะไรอยู่ ก่อนจะพูดกับลูน่าต่อ



    'ดูท่าผมคงต้องลองง้างปากถามข้อมูลนั่นกับเจ้าเลบิสหน่อยและ...แต่ตอนนี้ลูน่ารู้รึเปล่าครับว่าจะกำจัดม่านบาเรียนั่นยังไง'





    กลับมาปัจจุบัน...




    "วิธีกำจัดบาเรียนี่ก็ไม่เห็นยากตรงไหน ก็แค่ฆ่าเจ้าค้างคาวลูกกระจ๊อกทั้งสี่ของแกที่อยู่ทั้งสี่มุมของบาเรียทรงลูกบาศก์นั่นก็แค่นั้นเอง"



    ชุนยิ้มเยาะอย่างได้ใจขณะที่มือทั้งสองก็ตั้งท่าเตรียมสู้กับเลบิสต่อ 



    "อย่างงี้นี่เอง ผู้ติดตามของแกเป็นแวมไพร์สินะ หึ หึ"


    เลบิสเอ่ยเบาๆออกมาด้วยสีหน้าขำขัน จนชุนรู้สึกแปลกใจว่าทำไมมันยังดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย ทั้งๆที่ไพ่ตายของมันก็แฉออกหมดแล้วแท้ๆ



    "แกขำอะไรของแก..."


    ชุนถามขึ้นพร้อมจดจ้องสายตาไปที่เลบิสที่ก้มหน้าหัวเราะอยู่...




    "ก็...หัวเราะที่แกกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับอะไรบางอย่างอยู่ไง"







    "คุณนี่แปลกคนจริงนะ..."



    "ก็ไม่แปลกเท่าเธอหรอกน่า"



    เสียงของหญิงสาวสองคนพูดขึ้น...ขณะที่ทั้งสองกำลังหันหลังชนกันพร้อมตั้งท่าเตรียมพร้อมรบกับกลุ่มชายชุดดำที่กำลังล้อมรอบพวกเธออยู่



    'ดูท่าพวกเขาจะไม่สนใจเราแล้วแฮะ...'


    ราชินีออร์คคิดในใจขึ้น ขณะที่เธอกำลังนั่งกุมบาดแผลอยู่บนต้นไม้สูงที่หญิงสาวผมชมพูสไลด์ด้วยสีฟ้าและเขียวอ่อนเป็นคนนำเธอมาไว้ตรงนี้



    ก่อนจะก้มลงมองดูสถานการณ์ตรงหน้าต่อ...



    "ที่จริงนี่มันก็เป็นเรื่องของฉัน...เธอไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งด้วยก็ได้นะ"


    ออโรร่าพูดขึ้นขณะที่หันหลังพิงกับเดียรินี่ โดยสายตาของเธอยังคงจดจ้องไปที่พวกชายชุดคลุมข้างหน้าทั้งหมดอย่างไม่ประมาท



    เดียรินี่ก็เงียบๆปซักพักเมื่อฟังดังนั้น ก่อนจะคลี่ยิ้มขึ้นแล้วพูดว่า...



    "เวลาคนรู้จักของคุณเดือดร้อน...เป็นคุณจะช่วยมั๊ยละ ลุยละนะ!!"


    ฟ้าวว!!!



    "ก็ให้รอซะตั้งนาน!"


    ซีโร่เห็นเดียรินี่ถีบเท้าตรงมาที่เขา ก็แสยะยิ้มขึ้นก่อนจะพุ่งคว้าดาบโค้งยาวของเขาขึ้นมา มันคือดาบซอลโลแบบเดียวกับชุน



    เช้ง!!!ตูมม!!!


    เสียงดาบคาตานะของเดียรินี่ที่ปะทะเข้ากับดาบซอลโลของซีโร่ ก็ทำให้เกิดแรงระเบิดกระจายตัวของอากาศอย่างรุนแรง จนพื้นหิมะบริเวณที่ทั้งสองปะทะกันกลายเป็นหลุมทันที



    "เวลาคนรู้จักเดือดร้อนงั้นเหรอ...แล้วเธอเนี่ยนับเป็นคนรู้จักของฉันแล้วรึไง "


    ออโรร่าพูดขึ้น พร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กๆก่อนจะทำการจับดาบแล้วพุ่งไปหาพวกผู้เล่นกิลสโมสรนักฆ่าทันที




    "ซาเลไลย์คุ้มครองออโรร่าทีนะคะ เดี๋ยวคนคนนี้ฉันจัดการเอง!"


    เดียรินี่ที่กำลังปะดาบกับซีโร่อยู่นั้น หันมาสั่งซาเลไลย์ที่ยังยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ที่เดิม ซาเลไลย์ฟังดังนั้นก็มองเดียรินี่สลับกับออโรร่าอย่างกังวลว่าควรจะช่วยใครดี เพราะเดียรินี่เจ้านายของเธอก็ดูเหมือนยังมีอาการติดพิษอยู่เลย



    แต่ผู้ติดตามอย่างเธอ ก็ไม่อาจปฏิเสธคำสั่งจากเจ้านายได้...



    "เข้าใจแล้วค่ะ...ฟ่อ!!!"


    "เฮ้ยงูยักษ์!"


    ซูม!!!


    พวกผู้เล่นกิลสโมสรอุทานขึ้น เมื่อจู่ๆหญิงสาวผมดำที่ทะยานเข้ามาจู่ๆก็กลายร่างเป็นอสูรพญางูยักษ์สีดำพุ่งใส่พวกเขาทันที เพื่อสนับสนุนออโรร่า



    ฟ้าว!!เคร้ง!!


    "อย่าเมินกันอย่างนี้สิ ถึงฉันจะไม่ได้เป็นระดับจักรพรรดิ์...แต่ก็มีระดับพลังเดียวกันเลยนะ"



    ครืน~



    "เอ้ะ!"


    เดียรินี่ที่สัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่ดูรุนแรงจากซีโร่ จึงรีบสะบัดดาบของเขาแล้วดีดตัวถอยออกมาอย่างรวดเร็ว


    ก่อนจะยืนอยู่ในระยะห่างที่เหมาะสม พร้อมกับหรี่ตามองซีโร่ด้วยสีหน้าที่สงสัย



    "พลังระดับนี้...ทำไมถึงไม่มีชื่อคุณขึ้บนบอร์ด ต่อให้ปิดบังยังไงมันก็น่าจะมีลำดับชื่อที่ไม่แสดงชื่อๆนั้นออกมาด้วย แต่ในบอร์ดมีแค่คนเดียว...


    ...คือนักรบดาบเดี่ยว 



    ...คุณเป็นใครกันแน่"



    ซีโร่มองเดียรินี่พลางหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างมีเลศนัย พร้อมกับลูบดาบตัวเองเบาๆ แล้วทันใดนั้นดาบซอลโลของมันก็เรืองแสงสีแดงออกมา



    ฟุ่บ!!


    "อ้ะ!"


    แล้วทันใดนั้นซีโร่ก็โผล่เข้ามาใกล้ตัวเธอโดยไม่ทันตั้งตัว เดียรินี่ก็เบิกตาโพลงอย่างตกใจ



    "ก็ลองหาคำตอบด้วยตัวเองสิเจ้าหญิงซามูไร..."


    ซีโร่กระซิบข้างหูก่อนจะนำดาบเรืองแสงสีแดงของตนหมุนฟันไปที่คอของเธออย่างรวดเร็ว เดียรินี่เห็นแบบนั้นก็รีบเอนตัวถอยไปด้านหลังและชักดาบขึ้นมากันได้อย่างท่วงที



    แต่ว่า...



    ตูมม!!


    "กรี๊ด!!"


    "เดียรินี่!/ท่านเดียรินี่!"


    ทันทีที่ดาบทั้งสองกระทบกัน จู่ๆก็เกิดเปลวเพลิงระเบิดออกมาจากดาบของซีโร่แล้วเข้าไปเดียรินี่เต็มๆจนเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด 


    ออโรร่ากับซาเลไลย์ที่รับมือกับพวกชายชุดดำที่เหลืออยู่พอเห็นเดียรินี่โดนเล่นงานก็อุทานขึ้นด้วยความตกใจ



    "อึก..."


    "เสียโฉมหมดเลยนะเจ้าหญิง หึ หึ"


    ซีโร่เดินเข้าไปหาเดียรินี่ที่นอนร้องโอดครวญจับใบหน้าครึ่งนึงที่โดนไหม้อยู่กับพื้นอย่างเจ็บปวดด้วยสายตาขบขัน ซาเลไลย์เห็นเจ้านายของตนโดนเล่นงานก็ฉุนขาด



    "แกตาย!!ฟ่ออ!!"


    "ซาเลไลย์อย่า!"


    ออโรร่าร้องห้ามเมื่อเห็นซาเลไลย์กลายร่างเป็นงูยักษ์สีดำพุ่งเข้าไปหาซีโร่โดยไม่คิด แต่ดูท่าออโรร่าจะห้ามไม่ทันซะแล้ว



    ตูมม!!



    "ฟ่ออ!!"


    เสียงซาเลไลย์ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ทันทีที่เธอพุ่งเข้าไปซีโร่ก็สะบัดดาบระเบิดเพลิงใส่เธอจนเกิดระเบิดซัดเธอจนปลิวกระเด็นชนต้นไม้ล้มเป็นแถบๆ



    "ซะ...ซาเลไลย์"


    เดียรินี่ที่นอนกองกับพื้นมองภาพที่ผู้ติดตามตัวเองโดนทำร้ายด้วยความเจ็บใจ ก่อนเธอจะค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมาอย่างทุลักทุเล



    "เดี๋ยวเธอสู้มันไม่ไหวแล้ว รีบหนีไปเถอะมันต้องการตัวฉันไม่ใช่เธอ!"


    ออโรร่าที่ฆ่าชายชุดดำลูกน้องของซีโร่ได้คนนึงตะโกนบอกเดียรินี่ที่กำลังใช้ดาบคาตานะยันตัวเองขึ้นมาอย่างทุลักทุเล



    "ขืนสู้ไม่ได้...ก็เสียชื่อจักรพรรดินีหมดสิคะ"


    เดียรินี่หันไปยิ้มให้ออโรร่าที่กำลังซัดนัวเนียกับชายชุดดำนับสิบ ก่อนจะหันกลับมามองที่ซีโร่ที่ยืนแกว่งดาบเล่นรอเธออยู่



    "นั่นคงเป็นความสามารถของดาบของคุณสินะคะ เมื่อมีสิ่งใดมากระทบมันก็จะเกิดการระเบิดใส่ฝ่ายตรงข้าม...ดาบนี่คงไม่ใช่แค่นะดับ Aแล้วสินะคะ"


    เดียรินี่หรี่ตาลงพร้อมคาดเดาเกี่ยวกับคุณสมบัติของดาบนั่นให้ซีโร่ฟัง เพื่อประมาณจะถามว่าเป็นแบบนี้ใช่มั๊ย



    " หึ หึ แค่ประดาบแค่ครั้งเดียวก็รู้ถึงความสามารถของมันเลยเหรอ เธอนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ...ก็อย่างที่เธอพูดนั่นแหละแล้วทีนี้เธอจะทำไงต่อละ...หืม...เจ้าหญิงซามูไร"


    ซีโร่ยิ้มอย่างท้าทายพร้อมชี้ดาบมาทางเธอ ความร้อนของดาบทำให้บริเวณที่ซีโร่ยืนหิมะเริ่มละลายทันที



    เดียรินี่ฟังดังนั้นก็นำยาขึ้นมาดื่มรักษาแผลที่หน้าของตนจนหาย ก่อนจะเก็บดาบคาตานะสีดำของตนลงเข้าฝัก แล้วหยิบคาตานะสีขาวขึ้นมา


    ซีโร่ก็มองอย่างแปลกใจ เพราะจะว่าไปเดียรินี่พกดาบคาตานะสองเล่มตลอดแต่ที่ผ่านมาก็ใช้แต่เล่มดำไม่เคยใช้เล่มขาวเลย ทำให้ซีโร่รู้ได้เลยว่าดาบเล่มนั้นต้องมีอะไรแน่เลยๆ



    เดียรินี่เห็นซีโร่มองมาก็อมยิ้ม...



    "ดาบเล่มนี้สามารถชนะทางดาบเล่มนั้นของคุณได้แน่ค่ะ เพราะฉันจะฟันคุณโดยดาบเล่มนี้ไม่ได้กระทบกับดาบของคุณเลยแม้แต่น้อย"






    กรงเล็บกระชากวิญญาณ



    ฉัวะ!!!


    ฉูด!!!


    "อ๊ากกก!!"



    "ท่านฟูจิวาระ!"


    ผู้เล่นฝ่ายปฏิวัติและกิลอสูรเพลิงของฟูจิวาระอุทานอย่างตกใจ เมื่อเห็นหัวหน้ากิลของตนโดนกรงเล็บของพยัคฆ์สาวของซีลาร์ขย้ำฟันตรงกลางอกของฟูจิวาระจนเลือดกระฉูดออกมา


    แต่ฟูจิวาระยังคงกัดฟันกลั้นความเจ็บปวด และชักดาบเพลิงของตนสวนกลับไปที่ซีลาร์



    ฉัวะ!!ฟู่!!!



    "อึ้ก!!"



    ซีลาร์รีบทำการเอี้ยวตัวหลบ แต่ดาบที่ได้เพิ่มระยะขอบเขตการโจมตีจากเปลวเพลิงบนตัวดาบ ทำให้ซีลาร์หลบคมดาบไม่พ้นโดนเปลวเพลิงเผาใบหน้าไปส่วนนึงเธอก็กัดฟันอดทนไว้



    ว๊าบ!



    White Queen Tiger



    "โฮกก!!"


    ก่อนจะกลายร่างเป็นเสือยักษ์สีขาวทั้แค่ยืนสี่ขาก็มีความสูงถึง 3 เมตรแล้ว ความใหญ่โตของเธอก็เหมือนกับบอสดีๆเลยละ เพราะแบบนี้พวกผู้เล่นฝ่ายปฏิวัติถึงได้เว้นระยะดูการต่อสู้ระหว่างเธอกับฟูจิวาระเป็นวงกว้างทีเดียว



    ครืน...


    "!!"


    กึก!


    ซีลาร์ที่กลายร่างเป็นเสือยักษ์และกำลังจะพุ่งเข้าไปขย้ำฟูจิวาระที่กำลังบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีที่รุนแรงของเธอ ก็ต้องชะงักเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลมาจากข้างในปราสาท



    'ชุน...'


    ซีลาร์มองไปยังปราสาทเหล็กกล้าที่พังถล่มไปถึงครึ่งนึงแล้วด้วยสีหน้าวิตกกังวล เมื่อเธอเห็นคลื่นพลังสีแดงเข้มข้นแผ่ออกมาอย่างหนักหน่วงจากตัวปราสาท


    พวกผู้เล่นชายหญิงของฝ่ายปฏิวัติและกิลต่างๆในสังกัดของฟูจิวาระและเลบิส รวมไปถึงพวกออร์คทั้งหลายต่างรู้สึกขนลุกขนพองเมื่อได้สัมผัสถึงคลื่นพลังนี้



    หมัดเพลิงโลกันตร์



    "!!"


    ตูมม!!!


    ซีลาร์ที่มัวแต่กังวลชุนอยู่นั้น ฟูจิวาระเห็นเป็นโอกาสดีจึงวาร์ปเข้ามาในระยะประชิดในขณะที่เธอไม่ตั้งตัว เขาก็ใช้ทักษะทำให้หมัดเขามีพลังปราณรวบไว้ที่หมัดฉับพลันและมีเปลวเพลิงปกคลุมหมัดเพื่อเพิ่มพลังทำลาย



    เปรี๊ยะ!...กร๊อบ!



    ตูม!!!ตูมๆๆ!!



    ซีลาร์ด้วยสัญชาตญาณจึงรีบเบี่ยงตัวหลบไม่ให้โดนจุดสำคัญ หมัดของฟูจิวาระจึงเข้าเต็มไหล่ในร่างเสือยักษ์ของซีลาร์ 


    ความรุนแรงของหมัดส่งผลให้กระดูกตรงไหล่ของซีลาร์แตกแถมพลังหมัดทำให้ร่างของเธอลอยกระเด็นไปชนกับอาคารบ้านเรือนล้มพังครืนเป็นแถบๆ



    ว๊าบ!



    "...แฮ่ก...แฮ่ก"



    'หายใจไม่ออก...ทำไมร่างกายเราถึงไม่มีแรงเลยละ'



    ซีลาร์กลับมาร่างมนุษย์ในสภาพบาดเจ็บสาหัส เธอหายใจหอบแฮ่กท่ามกลางฝุ่นตลบอบอวลของซากอาคารที่พังลงมา เธอนึกในใจอย่างไม่เข้าใจทำไมเธอถึงรู้สึกไม่มีแรงแบบนี้ ร่างกายรู้สึกอ่อนแอมาก


    เวลารับการโจมตีของฟูจิวาระแม้กระทั่งหมัดชกธรรมดาของเขา ซีลาร์ก็รู้สึกเหมือนโดนเหล็กหนาอันหนักหน่วงฟาดยังไงอย่างงั้น



    "เฮอะ อะไรของมันโดนแค่ทีเดียวก็หมดสภาพขนาดนี้แล้วเรอะอ่อนแอซะจริงนะ..."


    ฟูจิวาระจับบาดแผลที่สาหัสของตนและเดินเข้ามาดูซีลาร์ที่นอนบาดเจ็บอย่างหมดสภาพ ก่อนจะเอ่ยเย้ยยันเธอพร้อมกับมองปราสาทเหล็กกล้าที่ตอนนี้มีพลังงานมหาศาลแผ่ไปทั่วรอบปราสาท



    "ท่านเลบิสถึงกับใช้ร่างจุติเลยเรอะ...ดูท่าไอ้ชุนของพวกแกจะมีฝีมือพอตัวเลยนะ...หืม...เฮ้อ"


    กึด..


    "อึ้ก!"


    ฟูจิวาระมองปราสาทเหล็กกล้าด้วยสายตาทึ่งไม่น้อย ก่อนจะหันกลับมามองซีลาร์แล้วเห็นว่าเธอกำลังคลานหนีอยู่ เขาจึงถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอแล้วนำเท้าเหยียบกดทับขาเธอไว้อย่างแรง 


    ซีลาร์ก็กัดฟันทนความเจ็บปวด จนถึงตอนนี้เธอก็ไม่เข้าใจว่าแพ้ฟูจิวาระได้ยังไง ทั้งพลังทั้งทักษะเธอเหนือกว่าเขาหมดในช่วงแรก แต่ไม่นานจู่ๆเธอก็รู้สึกล้าไม่มีแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนทำให้ฟูจิวาระกลับตาลปัตรมาเป็นต่อเธอแทน


    ตอนแรกซีลาร์คิดว่าคงเป็นผลทักษะของฟูจิวาระรึเปล่าที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่เพราะดูจากคำพูดของฟูจิวาระเองเขาก็แปลกใจที่เธออ่อนแอลงเช่นเดียวกัน



    'แล้วมันเพราะอะไรกันละ?'


    นี่คือสิ่งที่ซีลาร์คิด...



    "ฉันก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าทำไมแกอ่อนแอลง แต่ก็ดีฉันจะได้ทำให้มันจบๆ ดูซิไอ้ชุนมันจะทำหน้ายังไงเมื่อเห็นผู้หญิงของมันต้องตาย ฮ่าฮ่า!!"


    'ชุน....'


    ฟูจิวาระชักดาบขึ้นมา พวกผู้เล่นฝ่ายปฏิวัติรวมไปถึงลูกน้องกิลอสูรเพลิงของเขาก็เตรียมธนูเลงมาที่ซีลาร์เผื่อเธอตุกติกอะไรขึ้นมา ซีลาร์ก็มองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บใจถ้าเธอไม่หนีมาคนเดียวคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้



    'โดนพวกอาลีเซียโกรธแน่เลยเรา...'


    ซีลาร์ปั้นสีหน้ากังวลและหลับตาลงเตรียมใจตาย เธอไม่กังวลมากเท่าไรเพราะเดี๋ยวเธอก็คืนชีพได้มาอีกเพราะเป็นผู้ติดตาม แต่แค่เสียระดับเท่านั้นและเธอก็แค่จะอ่อนแอลงไปอีก



    "ตายซะ!"


    คว้าง!


    ฟูจิวาระฟาดดาบลงมาที่ซีลาร์ แต่ในขณะที่เธอคิดว่าจะต้องตายแล้วนั้น





    'ถ้ารู้ว่าพวกเราจะโกรธก็อย่าทำแบบนั้นอีกละ'


    'เอ้ะ!'





    Vampire Blood Storm


    (เลือดพายุหมุน)



    ฉัวะๆๆๆ!!



    "อ๊ากก!!!"


    จู่ๆก็มีพายุสีเลือดลูกมหึมามาพัดฟาดฟันผู้เล่นฝ่ายปฏิวัตินับพันที่กำลังเลงธนูมาทางซีลาร์จนเลือดกระฉูดหั่นไม่เหลือซาก



    Shining Thrash


    (คมดาบแสง)



    คว้างๆๆๆ!!!


    บรึ้มๆๆ!!!



    แล้วจากนั้นก็มีคลื่นคมดาบสีทองพุ่งลงมาฟาดฟันพวกผู้เล่นพวกนั้นอีก



    "เฮ้ย!อะไรวะเนี่ย ใครกัน!!"



    ฟูจิวาระที่ชะงักหยุดดาบฟันซีลาร์รีบกระโจนออกไปดู ก็พบว่าบนฟ้ามีหญิงสาวผมดำยาวดวงตาคมสีโลหิตในชุดราตรีสีดำแดงกำลังยิ้มเจ้าเล่ห์มาทางเขา


    ตุบ!


    "อ้ะ!"


    และหญิงสาวผมบลอนด์ยาวชุดเกราะสีขาวอัศวินลงมาจากฟ้าและมายืนบนหลังคามองมาที่ฟูจิวาระด้วยสายตารังเกียจ



    ฉึก!!!


    ฉูดดดด!!!



    ในขณะที่ฟูจิวาระกำลังตกใจอยู่นั้น ก็รู้มีอะไรเย็นผ่านท้องเขาไป เขาก้มมองดูก็เห็นเลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากท้องของเขาและมีปลายหอกโผล่ออกมา



    "......อะ.."


    เขาหันไปดูคนที่ทำเขา ก็เห็นว่าเป็นหญิงสาวผมดำยาวหน้าสวยดวงตาสีมรกตสวมอยู่ในชุดราตรีสีชมพูและกำลังขี่หมาป่ายักษ์ เธอมองมาที่เขาด้วยสายตาอำมหิตเช่นเดียวกับหมาป่ายักษ์ที่เธอขี่



    "บัด..ซบเอ๊ย..."



    ตุบ!



    ฟิ๊ง...


    ฟูจิวาระกัดฟันสบถคำออกมาก่อนจะล้มลงไปพร้อมกับร่างที่สลายหายไปเป็นแสง ซีลาร์มองมาที่หญิงสาวทั้งสามและหมาป่าตัวเมียหนึ่งด้วยสายตาดีใจแต่ไม่ทันที่เธอจะพูดขอบคุณหญิงสาวผมดำที่ขี่หมาป่าก็พูดขัดเธอก่อน




    "ไม่ต้องพูดอะไรยัยบ้า...คราวหลังจะไปไหนก็บอกด้วย...เธอไม่ใช่คนเดียวนะ..."



    อาลีเซียพูดแค่นั้นก็หันไปมองปราสาทเหล็กกล้า พวกอาเธอร์ ลูน่าและเดเบียล่าก็มายืนข้างๆอาลีเซียพร้อมมองในทิศเดียวกัน


    ก่อนอาลีเซียจะพูดต่อว่า...




    "ที่อยากช่วยชุน"






    ครืน....



    "นี่มันตัวอะไรวะเนี่ย..."


    ชุนพูดในสภาพเลือดท่วมตัวมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เพราะตอนนี้ร่างของเลบิสได้กลายเป็นอสูรไปแล้ว แถมพลังที่ชุนสัมผัสได้มันมากมายมหาศาลมาก



    ครืน...



    ฉึบ...


    ชุนเห็นรูปร่างของมันก็ค่อยๆหยิบดาบทั้งสองเล่มชึ้นมา เพราะดูจากลักษณะของเลบิสตอนนี้มันมีหน้าตาลักษณะคล้ายมังกรที่ชุนเคยเห็นในเทพนิยายจีนมีผิวสีน้ำเงินและดวงตาคมกริบสีฟ้า 


    ผมยาวสีขาวคล้ายแผงคอของสิงโตและไม่ใช่แค่ใบหน้าเท่านั้นแขน ขา มือ ทุกส่วนของร่างกายมีผิวสีฟ้าและเกร็ดสีน้ำเงินที่แข็งตามตัวและรูปร่างสูงเกือบถึง


    มิหนำซ้ำตัวมันยังสวมเกราะแบบชุดนักรบซามูไรของญี่ปุ่นด้วย แต่สาเหตุที่ชุนต้องจับดาบซอลโลและดาบกันเบลดขึ้นมา เพราะอาวุธที่มันถือ...



    คว้าง


    เสียงเสียดสีดาบคาตานะสีแดงทั้งสองเล่มของเลบิส ชุนมองดาบทั้งสองเล่มอย่างไม่วางตา เขาจับดาบมั่นเพื่อเตรียมรับมือกับมังกรซามูไรตนนี้



    'ชุนข้าว่าเจ้าสู้กับมันในสภาพนี้ไม่ไหวหรอกนะ พลังของมันตอนนี้มากกว่าเจ้ามากทีเดียวเป็นไปได้เจ้าควรหนี'


    เบลเลี่ยนร้องบอกชุนด้วยน้ำเสียงร้อนรน เพราะเธอรู้ว่าเลบิสในตอนนี้แข็งแกร่งเกินกว่าเขาจะรับมือได้และใจจริงของเธอคือ...


    ไม่อยากเห็นเขาตาย...



    "อา...รู้สึกสดชื่นจริงๆไม่ได้ใช้ร่างนี้ซะนานหลังจากสู้กับผู้หญิงคนนั้น"


    เลบิสพูดด้วยเสียงทรงอำนาจพลางขยับร่างกายไปมาเหมือนเป็นการวอร์มร่างกาย พร้อมกับนึกไปถึงตอนที่เขาใช้ร่างนี้ชนะผู้หญิงคนนึงมา



    'เฮอะๆดูท่ามันจะเก่งจริงๆสินะ ขนาดเบลเลี่ยนจังยังบอกให้ผมหนีเนี่ย'


    ชุนหัวเราะแห้งๆโดยสายตายังมองเลบิสอย่างไม่วางตา เพราะดูท่าขืนเขาละสายตาเพียงครั้งเดียวนั่นคือ...ความตายแน่นอน


    ชุนมองเลบิสในร่างมังกรชุดเกราะนักรบเดินตรงมาที่เขาเรื่อยๆ เบลเลี่ยนก็ยังร้องบอกให้เขาหนีเพราะสภาพบาดเจ็บขนาดนี้เขาไม่มีทางชนะแน่ ชุนไม่สนใจฟังเบลเลี่ยน จิตใต้สำนึกของเขาบอกให้เขาท้าทายกับการต่อสู้นี้แม้ว่าเขาจะต้องตายก็ตาม


    ชุนหลับตาลงพร้อมนึกถึงภาพที่เหล่าภรรยาของเขาถูกฆ่าโดย...นักรบดาบเดี่ยว



    "ถ้าผมไม่ชนะมัน...ผมก็ไม่สามารถก้าวข้ามหมอนั่นได้หรอก"


    ชุนพูดจบก็พุ่งทะยานเข้าไปหาเลบิสทันที เลบิสคลี่ยิ้มก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาชุนเช่นเดียวกันแต่ทว่า...



    ฟ้าวว!!!!


    คว้างง!!


    "อะไรกัน!"


    ชุนอุทานขึ้นเมื่อจู่ๆเลบิสพุ่งมาอยู่ตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ ก่อนจะรีบยกดาบทั้งสองเล่มขึ้นมากันบริเวณลำคอที่ดาบคาตานะของมันกำลังจะฟันเข้ามาตัดลำคอของเขา


    ตูมม!!!


    "อั้ก!!"


    ตูมๆๆ!!!


    ชุนที่ต้านแรงปะทะของดาบมันไม่ไหว ก็กระอักเลือดออกมาคำโต ก่อนที่จะกระเด็นทะลุกำแพงของปราสาทเหล็กกล้านี้ไปหลายชั้น


    เลบิสเห็นแบบนี้ก็ยิ้มอย่างได้ใจ ก่อนจะตวัดดาบทั้งสองเล่มจนเกิดคลื่นคมดาบเข้าใส่จุดที่ชุนอยู่



    "ตายซะๆ!!"


    ตูมๆๆๆ!!บรึ้มๆๆ!!


    "เฮ้ย!!หนีเร็วพวกเรา!!"


    คลื่นคมดาบของเลบิสระเบิดทำลายจุดที่ชุนอยู่จนไม่เหลือซาก ปราสาทเหล็กกล้าของราชาออร์คก็หายไปถึงครึ่งนึงเลยทีเดียว พวกผู้เล่นปฏิวัติพอเห็นพลังทำลายนั่นก็วิ่งพล่านออกจากบริเวณนี้อย่างชุลมุน แต่ก็มีหลายคนที่หลบไม่ทันและตายไป



    แว้บ!


    คว้าง!!



    "เสร็จละ!!"


    ในขณะที่เลบิสกำลังจุดที้ชุนอยู่นั้น ใครๆอาจคิดว่าเขาน่าจะตายแล้วแต่เลบิสรู้ว่าชุนยังไม่ตายเพราะไม่ได้ยินเสียงจากระบบ...


    ...และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ เมื่อจู่ๆชุนก็วาร์ปมาด้านหลังของเขาแล้วนำดาบซอลโลฟันมาที่เขาเต็มแรงด้วยระดับปราณสูงสุดของเขา


    ฟุ่ม


    "เอ้ะ"


    แต่ทันทีที่ชุนสะบั้นใส่เลบิสเท่านั้น ร่างของเลบิสก็กลายเป็นควันไปต่อหน้าต่อตาเขา



    'ข้างหลัง!!'


    เบลเลี่ยนตะโกนบอกชุนจึงรีบสะบัดดาบกันเบลดไปด้านหลังทันที พร้อมกดลั่นไกไปด้วย



    ตูมม!!!


    ชุนใช้กันเบลดยิงโดนหน้าของเลบิสร่างจุติมังกรซามูไรเต็มจนหน้าของมันหงายไป แต่ดูท่าจะไม่ได้ผลกับเลบิสเลยเมื่อมันชักหน้ากลับมาพร้อมคลี่ยิ้ม



    "ไอ้สัตว์ประหลาดเอ๊ย!"


    ชุนสบถออกมา ก่อนจะชักดาบสองเล่มฟันโรมรันใส่เลบิสไม่ยั้ง เลบิสก็ตวัดดาบคาตานะรับคมดาบของชุนได้หมดอย่างสบาย


    เช้งๆๆ!!


    "......."


    เลบิสรับไปนานๆเข้าก็เริ่มรู้สึกชาเล็กน้อย เขามองที่ตัวชุนที่มีออร่าสีดำและสีแดงปกคลุม



    'พลังปราณกับ....ทักษะเดือดดาลงั้นเรอะ'


    เลบิสคิดว่าถ้ามัวแต่เล่นอาจจะแน่ได้ เพราะดูท่าเรื่องพละกำลังของชุนดูท่าจะเหนือกว่าเขาในร่างนี้อยู่ขั้นนึง แต่เรื่องฝีมือการฟันดาบและทักษะที่มีละก็ร่างจุติของเขาเหนือกว่าแน่นอน



    ฉัวะ!!


    ฉูดดด!!!


    "อ้ากก!!"


    'ชุน!!'


    ชุนร้องขึ้นเมื่อเลบิสหมุนตัวหลบคมดาบของเขาและเหวี่ยงดาบฟันเข้าลำตัวเข้าอย่างจังๆ เบลเลี่ยนก็อุทานด้วยความตกใจ



    The Gravity


    ครืน~!!



    "หือ?"


    ชุนดีดตัวถอยมาพลางจับบาดแผลที่เอว ก่อนจะเรียกใช้ทักษะแรงดึงดูดขึ้น เขานำมือขยับเข้าหากันอย่างเกร็งๆ เลบิสสัมผัสได้ว่าที่มือของชุนเต็มไปด้วยพลังปราณที่อัดแน่น


    'มันเอาปราณไปเสริมทักษะแบบนั้นได้ด้วยเหรอเนี่ย แย่ละสิปล่อยไว้ไม่ดีแน่'


    ฟ้าวว!!


    เลบิสพุ่งเข้าหาชุนทันที ชุนก็แสยะยิ้มให้ทั้งๆที่มีเลือดออกมาจากปาก



    'ช้าไปแล้วเฟ้ย!'


    ปึบ!!


    ชุนนำมือประกบกันในที่สุด แล้วสิ่งที่เลบิสเห็นคือ...ปราสาทเหล็กกล้าที่เหลือแต่ซากกลายเป็นกำแพงหนาลอยอยู่ข้างเขาทั้งสองข้าง แล้วทันทีที่ชุนนำมือมาประกบกัน กำแพงเหล็กกล้าที่มหึมาก็ลอยตัวจากผลของทักษะของชุนแล้วพุ่งเข้ามาบดขยี้บี้ให้เลบิสทันที



    ตูมมมมมม!!!!!!!!!!



    เสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหว ทักษะนี้พอบวกพลังปราณมหาศาลเข้าไปทำให้สูญเสียมานาพอสมควรทำให้เขาร่วงลงไปนอนกองกับพื้น



    ".....ท่านเลบิส"


    "......"


    พวกผู้เล่นฝ่ายปฏิวัติมองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ นอกจากสาเหตุที่หัวหน้าจักรพรรดิ์ของตนโดนเล่นงานแล้วทำให้พวกเขามองอย่างนั้น ก็ยังมีภาพการต่อสู้มะกี้นี้พวกเขาไม่คิดว่าจะเป็นการต่อสู้ที่อลังการแบบนี้เล่นยกปราสาททั้งหลังมาสู้กันแบบนี้


    ทำให้พวกเขารู้สึกว่าการต่อสู้กับสองคนนี้จะมีกี่ชีวิตก็ไม่พอ พวกเขาเหมือนกับสัตว์ประหลาดดีๆเลย



    "ชุนx3!/ชุนจัง!/พี่ชุน!"


    เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ชุนที่นอนอยู่บนซากปราสาทเอียงคอหันมามองอย่างอ่อนแรง แล้วเขาก็เห็นเจ้าของเสียงทั้ง5 


    นั่นก็คือเหล่าภรรยาที่น่ารักของเขา...


    "......."


    ชุนมองเหล่าภรรยาที่วิ่งฝ่าดงผู้เล่นปฏิวัติมา พวกนั้นก็หลีกทางให้อย่างจำยอมเพราะพวกเขาสูญเสียหัวหน้าไปแล้วทำให้ไม่มีกำลังใจสู้กันแล้ว




    'ชุนหมอนั่นยังไม่ตาย!'


    เบลเลี่ยนตะโกนขึ้น ชุนได้ยินก็เบิกตาโพลงชักหน้ามองไปทางที่พวกซีลาร์กำลังวิ่งเข้ามาหา



    "ทุกคนอย่าเพิ่งเข้ามา!!"


    ตูม!!ฟ้าววว!!!


    ชุนพูดไม่ทันจบ จุดที่เลบิสโดนฝังก็ระเบิดขึ้นมาก่อนจะมีร่างนึงตรงผ่านเขาไปที่พวกเธอ ร่างนั้นแสยะยิ้มมองมาทางเขา



    "อย่า!!"


    ชุนร้องห้าม เขาอยากจะพุ่งไปช่วยแต่แรงของเขาไม่เหลือแล้ว


    ฟ้าววว!!!


    เลบิสตรงเข้าไปที่ซีลาร์พร้อมชักดาบขึ้นเพื่อหวังสังหารเธอที่ดูอ่อนแอที่สุด ลูน่าที่มีพลังมากสุดในกลุ่มรู้ตัวก็พุ่งเข้าไปเพื่อจะช่วยในขณะที่คนอื่นยังไม่รู้ตัวเพราะเลบิสไวเกินไป


    ลูน่าง้างดาบจะเข้าไปรับดาบของเลบิส แต่ดูท่าจะไม่ทันการ....


    'แย่ละ...'


    ลูน่าเบิกตาโพลงเมื่อเห็นภาพสโลของเลบิสพุ่งผ่านเลยตัวเธอไป 




    "ซีลาร์!!"


    ลูน่ากับชุนร้องออกมาพร้อมกัน



    เช้ง!!!


    "เอ้ะ?/เอ้ะ!"



    แต่ดาบของเลบิสไปไม่ถึงตัวของซีลาร์ เพราะมีดาบคาตานะเล่มนึงรับดาบคาตานะของเลบิสไว้อยู่ เธอไม่ใช่ใครที่ไหน



    "เดียรินี่ ออโรร่า!"


    ชุนอุทานขึ้นเมื่อเห็นสองสาวที่เข้ามาช่วยซีลาร์ได้ทัน อาเธอร์ ซีลาร์ อาลีเซียและเดเบียล่าพอเห็นเลบิสที่โผล่มาแบบนี้ก็รีบดีดตัวถอยและชักอาวุธออกมาทันทีแบบเดียวกับลูน่า


    "เธอ...."


    เลบิสมองหญิงสาวที่มารับดาบของเขาได้เล็กน้อย เพราะเธอคือผู้หญิงที่ตัดแขนเขาได้เมื่อตอนนั้น



    "คู่ต่อสู้ของคุณ...คือฉันค่ะเลบิส"



    เดียรินี่พูดพร้อมกับกลายร่างเป็นร่างจุติจิ้งจอกทันที.....



    "เลือดที่ย้อมด้วยเลือด

    เชกเช่นเดียวกับเล่ห์เหลี่ยม

    ที่ย้อมด้วยเล่ห์กลเพทุบาย

    เผ่าอสูรสัตว์หางแห่งความชั่วร้าย

    อวตารพญาอสูรจิ้งจอกเก้าหาง

    จุติ!!!!!!!"


    ซูมมมม!!!!!!


    สิ้นสุดเสียงของเธอก็มีแสงสีม่วงพุ่งสว่างวาบลงมาจาท้องฟ้าและผ่าลงร่างเธอ กระแสลมที่ระเบิดอย่างรุนแรงทำให้ออโร่ร่าพวกซีลาร์ต้องดีดตัวถอยฉากหลบออกมาและวิ่งอ้อมไปหาชุนแทน


    ครืน...


    ร่างของเดียรินี่ได้เปลี่ยนแปลงไป ดวงตาสีชมพูที่ตามหลักที่กลมโตน่ารักน่าเอ็นดูก็กลายเป็นดวงตาสีชมพูที่คมกริบดูเย็นชา ผมสีม่วงอ่อนของเธอที่เป็นลอนก็ยาวขึ้นจนถึงกลางหลัง ที่ศรีษะของเธอก็มีหูจิ้งจอกสีม่วงสลับชมพูงอกขึ้นมา


    รวมไปถึงหางจิ้งจอกขนาดใหญ่ทั้งหกหางที่งอกขึ้นด้านหลังเธอ...



    "...เธอมาที่นี่ได้ยังไง เธอฆ่าเจ้าซีโร่ได้อย่างงั้นเหรอ"


    เลบิสในร่างจุติมังกรซามูไรหรี่ตาลงมองเดียรินี่ในร่างจุติจิ้งจอก ก่อนจะเอ่ยถามบางอย่างขึ้นในขณะเดียวกันพวกออโรร่าและซีลาร์ก็รีบแบกชุนออกมาจากบริเวณนั้น



    "มะ...มณี"


    ชุนมองแม่เมดสาวที่กลับมาเจอกันในที่สุดด้วยสีหน้าอ่อนแรง มณีมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะรีบยัดยาฟื้นฟูให้ชุน แต่เธอเองก็เหลือแค่ขวดนี้ขวดเดียวเท่านั้นทำให้พลังชีวิตและพลังกายของชุนยังไม่กลับมาในสภาพสมบูรณ์เท่าไร แต่ก็ยังพอเดินเคลื่อนไหวแบบะรรมดาได้แล้ว



    "ชุนโล่งอกไปที....ดีใจจริงๆที่เธอปลอดภัย" 


    "อืม...ขอบใจนะที่เป็นห่วงแต่ผมไม่ตายง่ายๆหรอก ฮี่ๆ"


    ซีลาร์เข้าไปกอดชุนแน่น ชุนก็ยิ้มรับพร้อมลุบหัวภรรยาสาวคนแรกของเขา...


    ก่อนจะมองไปที่เดียรินี่กับเลบิสที่กำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกันอยู่ อาเธอร์ เดเบียล่า ลูน่าและอาลีเซียก็ตั้งท่าเตรียมส้อยู่ล้อมรอบเขาเผื่อเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นมาพวกเธอก็จะได้ปกป้องสามีของพวกเธออย่างสุดชีวิตรวมไปถึงออโรร่าด้วย ในขณะที่รอเขาฟื้นสภาพด้วยตัวเองอยู่



    "........."


    เดียรินี่ที่มองเห็นชุนปลอดภัยดีแล้วก็โล่งอก ก่อนจะหันมาสบตากับเลบิสในร่างจุติพร้อมนึกไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้




    10 นาทีก่อนหน้านี้...





    "ฉันจะฟันคุณโดยที่ดาบเล่มนี้ไม่กระทบโดนคุณเลยแม้แต่น้อย..."


    ซีโร่พอได้ยินแบบนั้นก็เป่าปากพร้อมทำหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัย แต่ไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรเขากับเดียรินี่รวมไปถึงออโรร่าก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลมาจากข้างในตัวอาณาจักร


    "เจ้าเลบิส...จนได้สินะ"


    ซีโร่มองขึ้นไปยังกลุ่มควันที่โพยพุ่งในอาณาจักรนั่น ก่อนจะก้มกลับลงมามองออโรร่า


    "ดูท่าจะหมดเวลาเล่นกันแล้วสินะ เพราะมันถึงเวลาพักของฉันแล้ว...ขอตัวก่อนละและคราวหน้าพวกเราจะกลับมาหาเธอใหม่นะ...ออโรร่า"


    ซีโร่ยิ้มพูดขึ้นก่อนจะสวมฮู้ดสีดำกลับปิดใบหน้าเหมือนเดิม พร้อมมองไปที่ลูกน้องชุดดำของเขา พวกนั้นก็รีบดีดตัวถอยออกมาจากออโรร่าที่กำลังสู้กับพวกเขาอยู่แล้วมาอยู่ด้านหลังของซีโร่



    "งั้นข้าขอตัวก่อนนะท่านเจ้าหญิงซามูไร หึ หึ"


    ซีโร่โค้งเหมือนล้อเลียนในฉายาเธอ ก่อนจะหันหลังทำท่าจะเดินจากไป


    "นี่! คิดจะหนีไปง่ายๆแบบนี้เหรอ...!"  


    เดียรินี่ทำท่าจะวิ่งเข้าไปโจมตีซีโร่ แต่ไม่ทันถึงตัวก็โดนออโรร่าจับแขนไว้ เธอหันมามองออโรร่าอย่างสงสัยว่าจะห้ามเธอทำไม


    "ปล่อยพวกมันไปดีแล้ว ฉันว่าตอนนี้เธอเอาเวลามารักษาพิษที่อยู่ในตัวก่อนเถอะ และรักษาอาการผู้ติดตามของเธอด้วย" 


    ออโรร่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อคงเพราะสู้กับชายชุดดำพวกนั้นมาอย่างยากลำบาก ทั้งๆที่รอบๆเต็มไปด้วยหิมะแท้ๆ แสดงว่าพวกชุดคลุมพวกนั้นดูท่าจะตึงมือเกินไปสำหรับเธอ



    'ไม่สิ....ไม่ใช่แค่เธอ...ฉันเองก็เหมือนกัน'


    เดียรินี่คิดในใจ ก่อนจะพยักหน้าให้ออโรร่า



    "เข้าใจแล้วค่ะ"


    ถึงเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกซีโร่ถึงถอนตัวไปแบบนี้ทั้งๆที่มีชัยเหนือกว่าพวกเธออย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็ต้องเก็บความสงสัยนั่นไว้แล้วรีบรักษาตัวรวมไปถึงซาเลไลย์และพาราชินีออร์คไปหลบซ่อนพร้อมปลดปล่อยพวกฮาร์ฟ แล้วหลังจากนั้นต้องรีบไปช่วยชุน....



    "แล้วฉันก็นึกไว้แล้วว่าพลังนี่ต้องเป็นของคุณ...เลบิส"


    เดียรินี่เล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ให้ฟัง เลบิสฟังดังนั้นก็เหมือนตกใจเล็กน้อย ก่อนจะมองรอบๆตัวของตัวเอง แล้วซักพักเขาก็ถอนหายใจ


    "เออว่ะ...สัญญากับมันไว้แล้วนี่หว่า...ลืมไปเลยแฮะเผลอจนได้ให้ตายสิ"


    เลบิสพูดกับตัวเองเล็กน้อยโดยเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เธอก็ชักดาบคาตานะทั้งสองเล่มขึ้นมาเพื่อเตรียมรับมือกับเลบิสในร่างนี้


    "ครั้งก่อนเธอดันออฟไลน์หนีไป ครั้งนี้ฉันจะไม่ให้เป้นแบบนั้นอีกแล้ว...วันนี้ฉันจะเป็นวันตายของเธอ...เดียรินี่!!!!!!"


    "........."


    เลบิสคำรามขึ้นด้วยเสียงอันดังสนั่นหวั่นไหว จนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วอาณาจักรพวกซีลาร์และชุนถึงขนาดต้องเอามือปิดหูเลยทีเดียว ชุนก็มองอย่างเจ็บใจ เขาไม่อยากให้เดียรินี่มาสู้แทนเขาเลยมันรู้สึกเสียหน้าชะมัด เขาต้องรีบฟื้นฟูพลังให้ไว...


    แล้วจะได้เข้าไปช่วยเธอสู้...



    ฟ้าวววววววว!!!!!!!!!!!!!


    "เฮ้ย!!"


    "อ๊ากกก!"


    ร่างจุติของเลบิสพุ่งด้วยความเร็วแสงไปที่เดียรินี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ความเร้วของเขาทำให้เกิดกระแสลมที่รุนแรงจนพัดสิ่งปลูกสร้างบริเวณนั้นกระเด็นไปเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่พวกผู้เล่ยปฏิวัติของเลบิส


    ซูมมมม!!!!


    ทางเดียรินี่ก็ระเบิดพลังออกมาก่อนจะจับดาบคาตานะแล้วพุ่งไปที่เลบิสเช่นเดียวกัน


    คว้างง!!!


    ตูมมมมมมม!!!


    ดาบของทั้งสองคนปะทะกันอย่างรุนแรง ก่อนทั้งสองจะวาปไปมาด้วยสายตาของคนปกติไม่สามารถมองได้ทัน แต่ที่รู้ๆคือทั้งสองกำลังบินพุ่งฟันใส่กันด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ


    คลื่นคมดาบของทั้งสองกระจายไปทั่วทำให้ฟันใส่อาคารมากมายจนขาดเป็นชิ้นๆเหมือนผลไม้ที่ถูกผ่า พวกผู้เล่นปฏิวัติของเลบิสก็วิ่งหนีกันเจ้าละหวั่นแต่ก็โดนลูกหลงจากฝีมือของทั้งสองคนจนตายเป็นเบือ


    ทำให้พวกเขาที่กำลังจะเข้าไปเล่นงานราชาแห่งออร์คต้องเปลี่ยนแผนเป้นยกเลิกภารกิจนี้ชั่วคราวแล้วเผ่นหนีออกจากบริเวณนี้ทันที ออโรร่ามองพวกผู้เล่นด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะผิวปากเรียกอะไรบางอย่าง


    "เฮ้ยนั่นมัน...เฮ้ยหนีเร็วพวกฮาร์ฟอาละวาด!!!"


    "โฮกกก!!"


    งั่ม!!


    ฉัวะ!!


    "อ๊ากกก!!"


    ขณะที่พวกผู้เล่นทั้งหลายกำลังวิ่งหนีไปที่ประตูทางออกของอาณาจักร พวกเขาก็พบกับพวกฮาร์ฟสาวอสูรที่จู่ๆก็วิ่งเข้ามาจู่โจมพวกเขาหลังจากได้ยินเสียงผิวปากนั่น


    "พวกฮาร์ฟที่ว่านั่นนี่...เธอไปทำอะไรพวกมันถึงเป็นพวกของเธอได้เนี่ย...ออโรร่า"


    ชุนหรี่ตามองแม่เมดของเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ออโรร่าก็หันมามองชุนเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วใส่สองทีประมาณจะบอกว่าฝีมือระดับเธอซะอย่างเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้หมดแหละ


    ชุนก็หัวเราะแห้งๆเบา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมั่ง....


    "ทางฉันเองก็มีเหมือนกันนะ..."


    "หือ?"


    ชุนพูดแค่นั้นก็หยิบบางอย่างขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง พวกซีลาร์ อาเธอร์ อาลีเซีย เดเบียล่า ลูน่าและออโรร่าก็มองผลึกที่ชุนหยิบออกมานั้นอย่างตกใจ


    "ผลึกที่ไอ้เลบิสมันใช้ควบคุมออร์คไงละ ผมหยิบมาได้ตอนที่มัดพลาดท่าผมตอนที่เกราะมันแตก...ทีนี้ก็ได้เวลาตื่นมาช่วยกันแล้วพวกออร์คทั้งหลาย หึ หึ"


    ชุนว่าจบก็บี้ผลึกในมือนั่นจนแตก 


    เพล้ง!


    "!!!!"


    พวกออร์คทั้งหลายที่ตอนนี้หยุดนิ่งเพราะเลบิสไม่ได้ควบคุมแล้ว ก็ทำหน้าเหมือนได้สติขึ้นมาก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป้นความมแค้น เพราะพวกเขารู้เรื่องที่โดนควบคุมดี แล้วทุกตัวพร้อมใจกันมองไปที่ผู้เล่นฝ่ายปฏิวัติก่อนจะคำรามแล้วต่างวิ่งพุ่งเข้าไปฆ่าพวกผุ้เล่นพวกนั้น


    "เฮ้ย!! พวกออร์คก็ด้วยเรอะ ทุกคนเลิกสู้และถอยทัพเร็ว!!!"


    ผู้เล่นระดับหัวหน้ากิลคนนึงสั่งขึ้น ทุกคนก็ไม่ต้องรอสั่งก็พร้อมใจจะหนีออกจากที่นี่แล้ว เพราะถ้าตายไประดับถึงจะเสียไม่มากแต่ของที่ได้มาและเงินต้องตกหายไปหมดแน่ นั่นมันไม่คุ้มเลย 


    พวกผู้เล่นต่างพากันถอนทัพเพราะสู้พวกออร์คที่ร่วมมือกับฮาร์ฟไม่ไหวแล้ว เลบิสที่กำลังสู้กับเดียรินี่อยู่ทักษะการฟังของเขาดีเยี่ยมจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งหมด เขามองชุนอย่างเคียดแค้นไม่คิดว่าเขาจะเผลอโดนเอาไปโดยไม่รู้ตัว เพราะมันคนเดียวทำให้แผนของเขาล่มไม่เป็นท่า


    "เพราะแกคนเดียวไอ้ชุน!!!!!!"


    เลบิสผละจากเดียรินี่แล้วพุ่งเข้าไปหาพวกชุน พวกออโรร่าก้ตั้งอาวุธเตรียมรับมือ โดยลูน่าอยู่หน้าสุดเพราะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ภรรยา แต่เดียรินี่ก็ไม่ยอมให้เขาไปถึงตัวชุนได้หรอก 


    "ไม่มีทางหรอก!!"


    เดียรินี่พุ่งเข้าไปหาทันทีเพื่อขัดขวางไม่ให้เขาทำร้ายชุน...แต่ว่า


    "ซะที่ไหนล่า..."


    "เอ้ะ!?"


    "จงออกมา 'ซันดะโดรากอน'!!"


    เลบิสชี้ดาบคาตานะสีแดงของมาที่เดียรินี่ที่พุ่งมา ก่อนที่ดาบของเลบิสจะส่องแสงสีฟ้าคล้ายสายฟ้าแล้วก็มีอสูรตัวยาวออกมานับหลายหัวหน้าตามันเหมือนมังกรที่เลบิสแปลงอยู่เลย มันพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วมาที่เดียรินี่


    "ชิ!!"


    เดียรินี่แค่นเสียงอย่างไม่พอใจที่หลงกลแผนตื้นๆของเลบิส ก่อนเธอจะตวัดดาบฟันหัวมังกรพวกนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่ดาบเธอสัมผัสกับหัวของมังกรพวกนั้น


    เปรี้ยง!!!


    "กรี๊ดด!!"


    สายฟ้าแรงสูงก็แล่นจากหัวของมังกรนั่นผ่านตัวดาบของเธอแล้วเข้ามาที่ร่างของเธอเต็มๆ จนเดียรินี่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด


    "เดียร์!!"


    ชุนอุทานเรียกชื่อเธอออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาพยายามพยุงตัวแล้วทำท่าจะเข้าไปช่วยเธอ แต่ก็โดนออโรร่าขัดขาเขาล้มพร้อมกับนำดาบของเธอชี้มาที่เขา


    "แค่ยืนยังไม่ไหวเลยไม่ใช่เหรอคะ ตอนนี้คุณชุนรีบฟื้นฟูพลังต่อไปเถอะระหว่างที่เดียรินี่สู้ไม่ว่ายังไงก็เป็นผลดีกับเราไม่ว่าเธอจะชนะหรือไม่ก็ตาม...


    ถ้าชนะก็ดีไปแต่ถึงไม่ชนะร่างกายของคุณชุนป่านนั้นก็พร้อมสู้แล้ว ตอนนี้คุณชุนก็อยู่เฉยๆจนกว่าจะถึงเวลานั้นก็พอ..."


    ออโรร่าพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เช่นเคย ชุนก็กัดฟันไม่พอใจที่โดนห้ามไม่ให้ออกไปช่วยแบบนี้ ซีลาร์มองมาที่ชุนด้วยสีหน้าเป็นกังวลก่อนเธอจะมองไปที่เดียรินี่ที่กำลังสู้กับเลบิส


    "ชุนไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเราจะไปสนับสนุนผู้หญิงคนนั้นเอง"


    "!!!"


    "ห้ะ! เธอพูดอะไรของเธอซีลาร์ พวกเรามีหน้าที่ปกป้องชุนก็พอแล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องไปเสี่ยงชีวิตไปช่วยชีวิตคนอื่นนะ!"


    อาลีเซียโวยขึ้นมา พวกอาเธอร์ ลูน่า เดเบียล่าฟังดังนั้นก็มองมาที่ซีลาร์เช่นเดียวกัน ชุนเองก็มองด้วยสายตาอึ้งเล็กน้อยพร้อมประหลาดใจกับคำพูดของเธอ


    "ก็ถ้าผู้หญิงคนนั้นตายไป ฉันว่าชุนคงจะต้องเสียใจมากแน่และฉันเองก็ไม่อยากเห็นคนที่รักต้องมาเสียใจ...ฉันจะไปช่วยเธอเองไม่ต้องห่วงนะคะชุนรับรองเธอต้องปลอดภัยแน่"


    ฟุ่บ!!


    "ซีลาร์!"


    ชุนร้องเรียกเธอขึ้นเมื่อเห็นเธอกระโจนออกไปทางที่เลบิสกับเดียรินี่สู้กัน



    "ให้ตายสิออโรร่าฝากดูชุนด้วยนะ!"  


    อาลีเซียพูดจบก็ทะยานตามซีลาร์ไป พวกอาเธอร์ ลูน่าและเดเบียล่าก็พยักหน้าให้กันก่อนจะยิ้มให้ชุนแล้วทะยานออกไป


    "พวกเธอเดี๋ยวก่อน..."


    ชุนจะร้องห้ามแต่จู่ๆก็เงียบไป เขากัดฟันที่ตัวเองรู้สึกไร้ประโยชน์แบบนี้ ออโรร่ามองมาทางเขาเล็กน้อยก่อนจะมองไปยังทิศที่เดียรินี่อยู่พร้อมเอ่ยขึ้นเบาๆว่า


    "ฉันเคยไปสืบการต่อสู้ของเดียรินี่ที่ผ่านมาจากพวกจีเอม และก็รู้ได้ว่าเธอเคยสู้กับเลบิสถึงสามครั้ง...


    ...ในครั้งแรกนั้นเธอพ่ายแพ้เลบิสอย่างเทียบไม่ติดในครั้งที่สองเดียรินี่เกือบชนะเลบิสได้แต่เลบิสพึ่งได้ร่างจุติมาตอนนั้นเขาจึงใช้ร่างจุตินั่นที่พึ่งได้มา เลยทำให้ผลกลับตาลปัตรเดียรินี่ที่ตอนนั้นยังไม่มีร่างจุติจึงพ่ายแพ้ไปอีกเป็นครั้งที่สอง


    และครั้งล่าสุด...เธอได้ร่างจุติมาเช่นกันร่างจุติทั้งสองปะทะกันความรุนแรงของมันทำให้วังราชันย์สีเลือดของเลบิสพังทลายไปเลยทีเดียว...


    แต่ทว่าถึงจะบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่แต่เดียรินี่จากมองในมุมตอนนั้นเธอพ่ายแพ้อีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด ก่อนเธอจะออฟไลน์พอดีทำให้เธอไม่โดนเลบิสฆ่าตอนนั้น"


    ออโรร่าเล่าจบ ชุนก็หรี่ตามองมาที่เธอ


    "เธอพยายามจะบอกว่า...เดียรินี่ไม่มีทางชนะเลบิสได้รึไงกัน"  


    "เปล่าค่ะ...ที่ฉันจะบอกก็คือ...เธอจะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ตัวเองได้พ่ายแพ้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตน แต่ทว่าชุนไม่เคยสงสัยมั่งเลยรึไงคะว่าทำไม...เธอถึงต้องสู้กับเลบิสมากมายขนาดนั้น สู้ไปเพื่ออะไร..."


    "........."


    ชุนฟังคำพูดของออโรร่าจบ ก็รู้สึกเห็นด้วยอย่างแปลกประหลาด ออโรร่าพอเห็นสีหน้าของชุนก็อมยิ้มเล็กน้อยก็จะหุบยิ้มลง


    'ฉันเล่าสิ่งที่ชุนควรรู้แล้วจะไม่เสียใจทีหลังให้ฟังแล้วนะ...หวังว่าคุณเองจะพบคำตอบนั่นด้วยตัวเอง และเมื่อถึงตอนนั้นฉันละอยากรู้จริงๆ ว่าคุณจะผ่านกับผลลัพธ์ที่ว่านั่นได้รึเปล่า...


    แล้วดูสิว่าความรู้สึกที่ชุนมีต่อผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเรื่องจริงรึเปล่า..."





    "ซันดะรัดยัยนั่นแล้วทำให้กลายเป็นเถ้าธุลีไปซะ!"


    เลบิสสั่งหัวมังกรสายฟ้าทั้งหลายที่โผล่ออกมาจากดาบของเขา พวกมันก็พุ่งไปหาร่างของเดียรินี่ที่กำลังถอยร่นเพราะหาทางรับมือกับหัวมังกรสายฟ้าพวกนี้ 


    ความเร็วของเธอสู้พวกมังกรไม่ได้จึงพยายามหลบพวกมันที่พุ่งเข้ามาแทน แต่เธอก็หลบไม่พ้นโดนพวกมังกรสายฟ้ารัดตัวเข้าในที่สุดพวกมันก็ปล่อยกระแสฟ้าเข้าใส่ร่างกายเธออย่างจัง



    เปรี๊ยงง!!


    "กรี๊ดด!!!"


    เดียรินี่ร้องด้วยความเจ็บปวดกระแสไฟฟ้านับล้านโวลต์ไหลเข้าร่างกายเธอไม่หยุด ถ้าขืนปล่อยไว้เธอจะต้องกายเป็นเถ้าธุลีอย่างที่เลบิสว่าแน่ๆ


    Vampire Blood Storm


    (เลือดพายุหมุน)


    ฉัวะๆๆๆ!!!


    "ก๊าซซซ!!!"


    พวกมังกรร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อพวกมันโดนพายุสีแดงที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาล้อมรอบเดียรินี่ พายุสีเลือดก็หมุนหั่นพวกมังกรเป็นชิ้นๆจนพวกมันที่รัดตัวเดียรินี่สลายไป


    "พวกแก..."


    เลบิสมองอย่างไม่พอใจไปทางกลุ่มคนที่มาช่วยเดียรินี่ ซีลาร์ ลูน่า อาเธอร์ เดเบียล่าและอาลีเซียทะยานไปประคองร่างของเดียรินี่ที่กำลังร่วงหล่นพื้นไว้ พร้อมชักอาวุธชี้ไปที่เลบิส


    "แกไม่มีทางชนะพวกเราทั้งหมดได้หรอก ยอมแพ้ซะ!"


    อาเธอร์ชักดาบศักดิ์สิทธิสีขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาพร้อมชี้ไปทางเลบิส  เลบิสได้ยินดังนั้นก็รู้สึกขบขันหัวเราะในลำคอก่อนจะโต้ตอบพวกเธอไป


    "เป็นพวกผู้หญิงที่อวดดีไม่ต่างกับสามีของพวกแกที่เพิ่งแพ้ข้าไปเลยนะ ดีแต่ปาก...หึ หึ"


    "แก!!"


    อาลีเซียฟังที่มันกล่าวดูถูกชุนก็ฉุนขาดชักหอกขึ้นมาก่อนจะพุ่งทะยานไปหาเลบิส อาเธอร์หันมาสบตากับทุกคนที่เหลือ ลูน่า เดเบียล่าและซีลาร์ก็พยักหน้าก่อนจะชักอาวุธขึ้นมา ซีลาร์กับเดเบียล่าก็กลายเป็นอสูรพุ่งเข้าไปช่วยอาลีเซียสู้ทันที


    ฟ้าวววว!!!


    "อึก..."


    เดียรินี่ที่โดนพวกเธอวางพิงไว้กับซากอาคารค่อยประคองตัวเองขึ้นมา เธอมองที่พวกซีลาร์ที่กำลังจะกระโจนไปหาเลบิส


    "......"


    เธอหรี่ตาลงมองไปที่พวกเธอ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นพร้อมชักดาบคาตานะขึ้นมาแล้วตะวัดฟาดคลื่นคมดาบตรงไปที่...


    พวกซีลาร์...


    ฉัวะๆๆๆๆๆ!!ฉูดๆๆๆ!!


    "กรี๊ดx5!!"


    "อ้ะ...อ้าว"


    เลบิสเอ่ยเสียงตกใจเล็กน้อย เพราะจู่ๆเดียรินี่ที่ลุกขึ้นมาก็ลุกขึ้นมาทำร้ายพวกเดียวกันซะงั้น คลื่นคมดาบที่รุนแรงจากร่างจุติของเดียรินี่พุ่งตรงไปฟันข้อเท้าของพวกซีลาร์ทั้งห้าคนอย่างแม่นยำจนเท้าของพวกเธอขาดสะบั้น


    ชุนที่มองเหตุการณ์ที่เหล่าภรรยาของเขาโดนหญิงสาวในดวงใจทำร้ายแบบไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้านั้นก็เบิกตาโพลงมองที่เดียรินี่อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...ออโรร่าก็เช่นกัน


    "เดียร์ทำบ้าอะไรของเธอ!!!"


    ชุนร้องลั่นด้วยความตกใจบวกกับความโกรธลึกๆ พร้อมกับมองภาพเหล่าภรรยาทั้งห้าของเธอนอนกองกับพื้นร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด แถมดูท่าคนที่เจ็บหนักสุดจะเป้นซีลาร์เพราะเธอไม่ขยับเลย


    "เลบิสเป็นของฉัน...ถ้าไม่อยากให้ใครเจ็บตัวอีก...ได้โปรดอย่ามายุ่งกับการต่อสู้นี้ เป็นไปได้ก็ออกจากที่นี่ไปซะเถอะค่ะ"


    เดียรินี่กล่าวอย่างเย็นชา ดวงตาคมกริบของเธอในร่างจุติมองมาที่ชุน ชุนมองแวบเดียวก้รู้เลยว่าเดียรินี่ตอนนี้ไม่ใช่คนเดิม...


    ...ชุนมองแค่นั้นก็หลับตาลงอย่างยอมใจเพราะเขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เขามองพวกซีลาร์ที่นอนร้องอย่างเจ็บปวดอาลีเซียก็ด่าทอเดียรินี่ไม่หยุด


    "ออโรร่าช่วยไปหายาฟื้นฟูที่น่าจะตกจากศพของพวกผู้เล่นปฏิวัติทีจะได้นำมารักษาพวกซีลาร์ ตอนนี้พลังของผมกลับมาส่วนนึงแล้วผมจะแบกพวกเธอออกไปเอง พวกเราต้องออกไปจากที่นี่แล้วและที่นี่ให้เดียรินี่จัดการไป..."


    ชุดพูดจบก็เดินไปหาลูน่าเพื่อให้เธอกัดแขนเขาเอาเลือดของเขาไปฟื้นฟุร่างกาย เพื่อจะได้ให้เธอช่วยอุ้มพวกซีลาร์ออกจากที่นี่ด้วย


    ออโรร่ามองเดียรินี่เล็กน้อยก่อนจะเดินไปหายาฟื้นฟูตามที่ชุนสั่ง...


    "...ฝากจัดการเลบิสด้วยนะเดียรินี่"


    "......."


    ชุนอุ้มซีลาร์กับอาเธอร์เดินออกไปก่อนจะพูดอะไรบางอย่างกับเดียรินี่ที่กำลังมองท่าทีของเลบิสที่ยืนคอยให้เธอพูดกับพวกชุนให้จบก่อนจึงจะเริ่มสู้ต่อ 


    เดียรินี่ฟังชุนดังนั้นเธอก็ไม่ตอบอะไรและไม่ได้หันมาสบตาเขาด้วย สายตาเย้นชาของเธอยังคงมองไปที่เลบิสเพื่อเตรียมสู้ตลอด


    เลบิสใจจริงก็อยากฆ่าชุนเพราะแค้นเขามากที่เป็นคนทำลายแผนของเขาพังไม่เป็นท่า แต่ดูท่าเดียรินี่คงไม่ยอมให้เขาปลีกตัวไปฆ่าชุนแน่


    "........"


    ชุนมองออโรร่าที่วิ่งเข้ามาหาพร้อมนำขวดยาฟื้นฟูจำนวนมากมาให้ ชุนเห็นดังนั้นก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย ออโรร่าผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มของชุนก่อนจะพอเดาอะไรได้แล้วว่า


    "นี่คุณชุนหรือว่า..."


    หมับ!


    ออโรร่าพูดไม่ทันจบชุนก็หยิบขวดยาฟื้นฟูจากออโรร่าไปหลายขวดก่อนจะซดพวกมัน


    อึ้กๆๆ


    ฟิ๊งๆๆๆ


    ร่างกายของชุนที่มีบาดแผลตามตัวเริ่มเลือนหายไป จนหายเป็นปลิดทิ้ง พวกเดียรินี่กับเลบิสก็มองมาที่ชุน เดียรินี่ขมวดคิ้วมองมาที่เขา


    "ชุนนี่คุณคิดจะ..."


    "ก็ในเมื่อร่างกายผมกลับมาสภาพสมบูรณ์แล้ว ผมก็ขอทวงเหยื่อคู่ต่อสู้ของผมคืนละกันนะเดียรินี่ ฮ่า ฮ่า!"


    ชุนหัวเราะร่วนพร้อมเปล่งรีดเร้นพลังปราณทั้งหมดที่มีออกมา พร้อมกับนำขวดยาที่เหลืออยู่เยอะแยะนั่นไปให้ออโรร่าเพื่อให้ออโรร่านำไปฟื้นฟูให้เหล่าภรรยาของเขา


    ซูมมม!!!


    พลังปราณสีดำปกคลุมทั่วตัวชุน ก่อนเขาจะมองมาที่เลบิสกับเดียรินี่


    "ขอแจมด้วยละกันนะเดียรินี่ ข้อหาที่เธอทำร้ายเหล่าภรรยาของผมคงต้องขอแย่งส่วนแบ่งซักหน่อยแล้วละ"


    ฟ้าววว!!!


    ชุนพูดจบก็ทะยานเข้าใส่เลบิสทันทีโดยไม่สนใจเดียรินี่




    "แปรเปลี่ยนเป็นดาบแสงศักดิ์สิทธิ!"


    ฟ้าวว!!


    ชุนที่พุ่งเข้าไปหาเลบิสร่างจุติมังกรซามูไร เขาใช้ทักษะลอกเลียนแบบเปลี่ยนดาบซอลโลเป็นดาบแสงของอาเธอร์ ก่อนดาบที่แสงสว่างวาบสีทองนั่นที่แฝงด้วยพลังปราณระดับสูงของชุนจะฟาดลงใส่เลบิส



    คว้างง!!


    เช้ง!!


    "ได้แค่นี้รึไง!!"


    เลบิสคำรามลั่นนำดาบคาตานะที่มีสายฟ้าสถิตมากันการโจมตีของชุน เลบิสเลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะดูเหมือนว่าดาบคาตานะสายฟ้าจะใช้ไม่ได้ผลกับดายของชุน มันไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าผ่านตัวดาบนี่ไปช๊อตชุนได้ นี่คงเป็นความสามารถป้องกันการแพ้ธาตุของดาบแสง


    'เปลี่ยนเป็นดาบธาตุแสงได้โดยไม่ได้มีพลังธาตุนั้นได้ด้วยงั้นเรอะ! ชุนมีธาตุลมในตัวไม่ใช่รึไง...จะว่าไปดาบนั่นมัน!'


    ควับ!


    ออโรร่ามองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง มันมีความสามารถที่ขี้โกงแบบนี้ด้วยเรอะ ก่อนเธอจะสังเกตุว่าดาบของชุนที่แปรเปลี่ยนนั่น...


    ...มันเหมือนกับดาบศักดิ์สิทธิของอาเธอร์ไม่ใช่รึไงกัน?!



    'นี่มันหรือว่าเป็น...ทักษะระดับ S ทักษะลอกเลียนแบบอย่างงั้นเรอะ?!เขาไปได้มายังไงกัน!'


    ออโรร่ามองอย่างเหลือเชื่อ...เธอไม่รู้เลยว่าชุนนั้นยังมีทักษะที่มากมายที่ยังคงเก็บซ่อนไว้ คนที่รู้ก็มีเพียงแต่ตัวเขาเองกับเบลเลี่ยนเท่านั้น



    "กระบวนท่าคาเสะกาโกอน (風が轟音 : สายลมคำราม)!!"


    เดียรินี่ว่าขึ้นก่อนจะเทเลพอร์ทพริบตามาอยู่ด้านหลังเลบิส แล้วนำดาบคาตานะทั้งสองเล่มตะหวัดเป็นรูปกากบาทกลางหลังของเลบิส กระบวนท่านี้ไม่ได้จบเพียงเท่านี้ถึงเธอจะเห็นว่าฟันเพียงครั้งเดียว แต่คลื่นคมดาบที่พุ่งออกมามีเท่ากับสิบเท่าของครั้งที่ฟัน



    ฉัวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!



    ฉูดดดด!!!



    "โฮกกก!!!"



    เลบิสคำรามลั่นด้วยความเจ็บปวด ที่จริงแค่เดียรินี่คนเดียวมันก็ตึงมืออยู่แล้ว พอมีเจ้าชุนอีกคนเห็นได้ชัดเลยว่ามันเสียเปรียบเห็นๆ เลบิสแอบคิดในใจรู้งี้น่าจะรีบฆ่าชุนตั้งแต่มีโอกาสตกลงตอนแรกเขาจะมาอย่างมาดตัวโกง แต่เท่าที่เห็นเหมือนฝั่งที่หมาหมู่เหมือนตัวโกงจะเป็นพวกนี้ซะมากกว่า



    เช้ง!!เช้งๆๆ!!


    ชุนและเดียรินี่อยู่ๆก็ประสานเพลงดาบกันได้อย่างเข้าขากัน ราวกับทั้งสองรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ออโรร่าก็ตกใจทั้งๆที่ชุนไม่มีวิชาฟันดาบเลยแต่สามารถฟันร่วมต่อสู้กับเดียรินี่ที่มีวิชาดาบระดับสูงได้อย่างไม่ติดขัด...


    ถึงเลบิสจะมีใบหน้าเป็นมังกรสีฟ้า แต่ออโรร่าก็รู้ว่าเขากำลังรับมือสองคนนี้ได้อย่างยากลำบาก ด้วยทักษะที่มากมายของชุนนั้นลบล้างความสามารถพิเศษเขาจนหมด



    คว้างง!!เช้งงๆๆๆ!!


    เลบิสก็ไม่เข้าใจว่าชุนมีทักษะที่มากมายขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่ใช้ตั้งแต่แรกละ? ปล่อยให้เขาโจมตีเล่นงานเหมือนสูสีตั้งนานได้ยังไง เลบิสเริ่มเกิดความกังวลขึ้นมาภายในจิตใจ เขารู้สึกว่าชุนนั้นเหมือนกำลังต้องการปิดบังพลังที่แท้จริงของตนเองไว้ 



    'เราต้องงัดทุกอย่าง...ที่มีออกไป!'


    ตอนนี้เขาคงเป็นคนที่สองที่รับรู้ถึงการกระทำอันแสนปริศนาของชายหนุ่มคนนี้ เลบิสไม่รู้ว่าชุนนั้นต้องการอะไรแต่ที่แน่ๆ เขาควรงัดทุกอย่างที่มีและทุ่มการโจมตีจัดการเขาเพียงครั้งเดียว 


    ส่วนคนแรกที่รู้ว่าถึงการกระทำของชุนคือ...เบลเลี่ยน



    'หมอนี่ไม่ได้ใช้ทักษะเซียนศาตราวุธ...นี่มันเกิดจากความเชื่อใจ'


    เบลเลี่ยนมองภาพเหตุการณ์ข้างหน้าผ่านในแหวน ชุนไม่ได้ใช้ทักษะอะไรที่สามารถทำให้การฟันประสานของเขาและหญิงสาวจิ้งจอกคนนี้เป็นไปได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขาใช้แค่ใจที่สื่อถึงกันโดยไม่ต้องกล่าวออกมาเป็นถ้อยคำวาจาสื่อบอกอีกฝ่าย


    'ราวกับสองคนนี้...เกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆ'


    เบลเลี่ยนคิดในใจ เพราะเธอพอเดาได้ว่าชุนและเดียร์มาจากโลกเดียวกันอย่างแน่นอนเมื่อดูจากสายตาของชุนที่ตอนนี้คอยแอบเหลือบยิ้มมองเธอเป็นพักๆ ไม่รู้ทำไมเบลเลี่ยนถึงรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไรกับรอยยิ้มของชุนเลย



    "ทำแสบนักนะพวกแก!!ย่าาาาาห์!!!"



    บรึ้มมม!!!



    ฟ้าววว!!



    ตูมมๆ!!โครมมๆ!!



    "อ้ะ!/อึ้ก!"


    เลบิสเหลืออดระเบิดคลื่นพลังรอบตัวออกมา คลื่นพลังที่รุนแรงผลักชุนกับเดียรินี่ จนกระเด็นไปหลายไมล์จนกับบ้านเรือนพังระเนระนาด 



    'เอาละฉันไม่รู้ว่าแกปิดบังอะไรไว้นะไอ้ชุน...แต่ถ้าจะกำจัดแกก็ต้องเล่นงานที่จุดอ่อน!'


    เลบิสคิดในใจก่อนจะเหลือบมองพวกออโรร่า ซีลาร์ อาลีเซีย เดเบียล่า อาเธอร์และลูน่าที่กำลังมองไปที่ชุนที่กำลังลุกขึ้นมาจากซากอาคารอย่างเป็นห่วง เลยิสคลี่ยิ้มเขาจะใช้ทุกอย่างที่มีแม้จะเป็นวิธีที่สกปรกก็ตาม...


    หากเขาเกิดแพ้ขึ้นมา...ตำแหน่งจักรพรรดิ์คงได้หายไปแน่


    เรื่องนั้นเรื่องเดียวที่เขาไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด!!




    " ซันดะ...โดรากน...อิคาริ...วันวารุโดะ!!"



    サンダードラゴン怒りワンワールド!!




    มังกรสายฟ้าพิโรธโลกา!!



    เลบิสคำรามลั่น ท้องฟ้ามืดครึ้มทันใดเสียงของฟ้าผ่าดังกึกก้อง ก่อนจะมีสายฟ้าลูกใหญ่มันใหญ่มาก ใหญ่มากพอที่จะเห็นทั่วท้องฟ้าเป็นตัวมัน ทุกคนเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้าสายฟ้าลูกยักษ์ที่ใหญ่โตมโหฬารกลืนกินทั่วนภา เมื่อมองดูดีๆมันสามารถเคลื่อนไหวราวกับสิ่งมีชีวิตจะว่าไป...


    รูปร่างมันเหมือนมังกรยักษ์!!เพียงแต่เป็นสายฟ้า!!


    ทุกคนต่างตกอยู่ในความสิ้นหวัง แม้แต่เบลเลี่ยนเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน พลังขนาดนี้มันมากพอที่จะสังหารเทพระดับสูงได้เลยทีเดียว


    ทางด้านออโรร่าเมื่อเจอแบบนี้ก็คิดแผนการอะไรไม่ออกทันที...



    เลบิสที่ลอยอยู่บนหัวมังกรสายฟ้ายักษ์นั่นคลี่ยิ้มมองมาทางชุน ก่อนจะมองมาทางพวกซีลาร์แล้วชี้นิ้วไปที่พวกเธอทันที มังกรสายฟ้าก็พุ่งด้วยความเร็วระดับสายฟ้าผ่าลงจุดที่พวกออโรร่า ซีลาร์อยู่



    ชุนก็เบิกตากว้าง เขากัดฟันอย่างไม่มีทางเลือก เขาไม่รีรอใช้ทักษะต้องห้ามของเขาทันที ทักษะนี้เป็นทางเดียวที่จะช่วยพวกเธอได้ เดียรินี่ที่จะงัดไม้ตายออกมาช่วย แต่ไม่ทันการเพราะ...


    ชุนนั้น...



    "ความตายคือทุกสรรพสิ่ง...

    ความประสงค์คือการสูญสิ้น...

    ความหวาดกลัวนั้นคือทุกสิ่ง...

    ทุกความนั้นล้วนเป็นอนัน...

    แก่ความมืดมิดแสนหยิ่งผยอง...

    อดีตราชันย์แห่งเผ่าความมืด...



    จุติ!!!"







    คว้างงงง!!! ตูมมมมมมม!!!






    บรึ้มมมๆๆๆๆๆ!!!!!!!




    เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว ความรุนแรงของระเบิดถึงกับทำให้เทือกเขารอบๆเกิดการสั่นไหว ผู้คนต่างๆจากทุกดินแดนรับรู้ถึงการสั่นไหวนี้ ราวกับว่ามันคือแผ่นดินไหว พลังอำนาจการทำลายล้างของมังกรสายฟ้าทำให้ภูเขาด้านหลังจุดที่ยิงพวกซีลาร์กลายเป็นรูกลวงโบ๋ขนาดยักษ์



    ครึก...



    ครืน~



    "...นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกัน"


    เลบิสในร่างจุตมังกรกลับสภาพเป็นร่างแวมไพร์เหมือนเดิม เขามองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง พวกซีลาร์ยังไม่ตาย!



    ครืน~


    หลังม่านควันจากการระเบิดจางหาย ก็ปรากฏม่านบาเรียสีดำเข้มข้น เลบิสเห็นคนคนนึงเขาชูแขนที่ขาดมาที่เขา ร่างของเขาคนนั้นทั้งตัวมีสีดำเข้มข้น...


    ราวกับว่ามันคือสีดำของหลุมดำสีดำนั้นช่างดูเหมือนไร้สิ่งใดๆ ความรู้สึกที่หวาดกลัวและความว่างเปล่าพร้อมๆกันนี่มันคืออะไรกัน



    "ชุน..."


    ซีลาร์มองคนตรงหน้าที่บังพวกเธอ เธอเห็นทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ชุนทันที่ที่กล่าวบทคาถาอะไรซักอย่าง ทันใดนั้นเขาก็กลายร่างเป็นสีดำทมิฬที่มีแรงกดดันมหาศาลจนพวกเธอแทบหายใจไม่ออก ดวงตาของเขาเป็นสีดำก่ำดุจโลหิตตอนนี้เธอไม่เห็นนัยต์ตาที่ขี้ทะเล้นของเขาในดวงตาคู่นั้นเลย


    "นั่นมันอะไรกัน..."


    ทุกๆคน รวมถึงออโรร่าและเดียรินี่ก็มองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง คนที่รู้ว่าเป็นอย่างงี้ได้ไงนอกจากตัวเขาเองแล้วก็คงเป็นเบลเลี่ยน


    'จนได้สิน่า...'


    เบลเลี่ยนกล่าวอย่างหน่ายใจ





    'ไอ้ชุนงั้นเหรอ...นี่มันมันร่างอะไรของมันสามารถรับท่าที่เราทุ่มหมดตัวได้งั้นเหรอ ชิ!แบบนี้ก็ไม่มีทางเลือก!'


    เลบิสกล่าวด้วยสีหน้าเครียด ตอนนี้เขาไม่มีพลังอะไรพอจะสู้กับไอ้ชุนหรือเดียรินี่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าเขายังไม่มีหนทางออก


    ว๊าบบ!


    เลบิสพุ่งงวาบไปคว้าตัวซีลาร์


    หมับ!


    "ว้าย!"






    "อย่าเข้ามาใกล้นะเว้ย!!ไม่งั้นผู้หญิงของแกและลูกของแกในท้องนังที่ตายแน่!"



    "...มะกี้นี้หมอนั่นมันพูดว่าไงนะ" อาลีเซียทำหน้าไม่อยากเชื่อหูตัวเองก่อนจะหันมามองอาเธอร์ ลูน่า ออโรร่าและเดเบียล่าว่าได้ยินเหมือนเธอไหม


    "มะกี้...เขาบอกว่าพี่ซีลาร์ท้องค่ะ"


    เดเบียล่าพยุงตัวเองที่บาดเจ็บยังไม่หายดีขึ้นมา พร้อมบอกสิ่งที่ตัวเองเข้าใจ ลูน่าและอาเธอร์ก็เข้าใจสาเหตุได้ทันที ว่าทำไมที่ผ่านมาซีลาร์ถึงได้อ่อนแอดูเหมือนไร้พลังมาตลอดแบบนี้ สัตว์อสูรที่เวลาตั้งครรภ์พลังในช่วงตอนตั้งครรภ์นั้นแทบจะเป็นศูนย์เพราะเอาไว้หล่อเลี้ยงลูกในท้อง


    "....."


    ออโรร่ากับเดียรินี่ถึงกับพูดไม่ออก พวกเธอมองชุนเล็กน้อยไม่คิดว่าเขาจะทำผู้ติดตามของเขาจนท้องได้ แต่สายตาของพวกเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อเห้นสภาพของชุนตอนนี้



    ครืน~


    "....."


    "เอ้าเฮ้ยว่าไง! ฉันบอกให้พวกแกออกไปไม่งั้นฉันจะฆ่า...!"


    เลบิสมองชุนในร่างสีดำในสภาพจิตใจที่หวาดกลัวเล็กน้อย เพราะสัมผัสได้ถึงพลังกดดันที่รุนแรงจากร่างนั้น แต่ไม่ทันที่เลบิสจะพูดอะไรต่อ เขาก็ถึงกับเบิกตาโพลง



    โพละ!!ฉูดดดด!!!


    ร่างสีดำของชุนที่มาตอนไหนไม่รู้ มาอยู่ตรงหน้าของมันและนำหมัดที่เคลื่อนไหวเร็วจนมองไม่เห้นชกท้องของมันจนทะลุ ซีลาร์ที่ทนแรงกดดันของชุนใกล้ๆไม่ไหวหมดสติลงล้มกับพื้น เลบิสกระอั้กเลือดออกมา


    พวกอาเธอร์ ลูน่า อาลีเซีย เดเบียล่า ออโรร่าและเดียรินี่ต่างตกใจเป้นอย่างมากเพราะพวกเธอไม่เห้นการเคลื่อนไหวนั่นเลย...


    มันไวเกินไปเลย...



    "อั้ก!!...บัดซบ!!"


    เลบิสที่โดนมือของชุนทะลุล่างคว้าดาบเร่งพลังเฮือกสุดท้าย ฟันไปที่คอของชุนร่างสีทมิฬ...



    แต่ว่า...



    ตูมมม!!แผละ!!



    ชุนกำหมัดเล็กน้อย ทันใดนั้นก่อนดาบของเลบิสจะถึงคอของเขา ร่างของเลบิสก็แตกกระจายออกเป้นระเบิดเลือด...




    "......"


    "ชุน..."


    ทุกคนพอเห็นว่าเลบิสได้ตายอย่างง่ายดายก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง โดนเฉพาะเดียรินี่ที่เห็นเป้นเลบิสเป็นศัตรูคู่แค้นมาตลอด แต่บัดนี้ชายคนนี้กลับฆ่าเขาอย่างง่ายดาย แล้วร่างสีดำนั่นมันอะไรกัน?


    เดเบียล่ารีบไปประคองซีลาร์ที่สลบ ก่อนพวกเธอจะเข้าไปหาสามีของพวกเธอ ก็มีเสียงในหัวของพวกเธอดังขึ้น เป็นเสียงของเบลเลี่ยน





    'พวกเธอรีบหนีกลับเข้าไปในแหวนหมอนั่นเร็ว! หมอนี่มันไม่ใช่ชุนคนเดิมที่พวกเจ้ารู้จัก!'






























     





































    ปล.ช่วยคอมเม้นด้วยนะค้าบT-T  ถึงจะมีแต่สู้ก็เถอะ  ตอนนี้ผมกะทำให้สู้จบเลยนะ  เพราะฉะนั้นตอนนี้จะยาววววววววว  ผมยอมรับนะว่าแต่งสู้ไม่เก่ง เพราะฉะนั้นขอโทษด้วยที่มันอาจจะค้างนะครับ  ผมจะทำให้มันจบในตอนนี้


    ปล.2เด๋วแต่งต่อรอแปปนะครับ หลายวันนี้จะค้างแต่งอยู่ที่ตอนนี้นะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×