คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #88 : CHAPTER 82 : ชุน vs เลบิส (3)
CHAPTER 82 : ชุน vs เลบิส (3)
ฟ้าววว!!!
ตูมมมม!!! บรึ้ม!!
เสียงของอะไรบางอย่างที่ที่แห่งหนึ่งที่ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว....
ร่างของชายหนุ่มผมขาวในชุดคลุมสีขาวสลับน้ำเงิน ที่ตอนนี้ท่วมไปด้วยเลือด หล่นลงมาจากฟากฟ้าที่สูงแค่ไหนไม่อาจทราบ ชายหนุ่มได้ตกลงใจกลางป่าลึกแห่งหนึ่ง
ความรุนแรงของแรงปะทะทำให้จุดที่ชายหนุ่มตกกลายเป็นหลุมทันที
พร้อมกับไอน้ำแข็งที่กระจายแผ่ออกมาจากร่างชายหนุ่มอย่างฉับพลัน ทำให้มอนเตอร์
อสูรเล็กๆแถวนี้ตายกันไปเป็นจำนวนมาก
"กี๊ กี๊!"
ครึก....
".............."
ฝุ่นที่ตลบอบอวลแผ่กระจายพร้อมกับละอองไอความเย็น
ก่อนที่ชายหนุ่มร่างท่วมเลือดทั้งตัวจนที่ใครเห็นก็รู้ได้ทันทีว่า....อีกไม่กี่นาทีชายคนนี้ต้องถึงแก่ความตายแน่ๆ จะปรือตาขึ้นมองท้องฟ้าจุดที่ตัวเองตกลงมา
ติ๊ง!
<ผู้ติดตาม ราชามังกรขาว 'ไอซ์เดรค' ประเภท :
ราชาอสูรระดับต่ำ ระดับ : ขั้น 7 ระดับ 10 เสียชีวิตสูญเสียระดับ 10 ระดับ จะทำการเกิดใหม่อีก 24 ชั่วโมงให้หลังค่ะ >
ชายหนุ่มผมขาวปรือตาได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงระบบดังขึ้นในหัว...
"........."
เขามองขึ้นไปบนฟ้าจากจุดที่ตัวเองตกลงมาด้วยสายตาไร้อารมณ์ใดๆ
ก่อนจะมองหญิงสาวคนนึงที่กำลังลอยร่อนลงมาอย่างช้าๆจากบนฟ้าจุดที่เขาตก และเธอก็ร่อนแตะลงสู่พื้นข้างๆตัวเขาในที่สุด
ตุบ
"........."
ชายหนุ่มผมขาวหรี่ตาลงมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลงเพื่อให้หญิงสาวทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ...
"ดูท่าจะเตรียมใจแล้วสินะคะ....แต่ว่าฉันจะยังไม่ฆ่าคุณหรอก"
เสียงเล็กๆของหญิงสาวผมม่วงอ่อนยาวสวยในชุดสีขาวพร้อมคฑาสีทองในมือ เอ่ยขึ้นมาเบาๆ
".........."
คำพูดของเธอทำให้ชายหนุ่มหน้าคมผมขาวต้องปรือตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วมองด้วยท่าทางไร้อารมณ์เช่นเดิม
แต่ในสายตานั่นก็เต็มไปด้วยความสงสัยกับคำพูดนั้น ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ
"แล้วเธอต้องการอะไร......"
ชายหนุ่มผมขาวถามขึ้น....
"............"
หญิงสาวผมม่วงอ่อนมองมาที่เขาเล็กน้อย
ก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วย่อตัวลงหยิบอาวุธอะไรบางอย่างออกมาจากด้านข้างของเขา....มันคือ
'หอกอานาสุกุ' 1 ใน 12
อาวุธราชันย์ข้ามฟ้าที่อาลีเซียเคยครอบครองไว้
"
ดาบคาตานะสีขาวนั่น....คุณได้มาด้วยความสามารถของคุณเพราะฉะนั้นฉันจะให้ไว้ แต่หอกเล่มนี้คุณได้ขโมยมันมา ฉันจะเอามันมาเพื่อรอที่คนคนนั้นจะมาแล้วส่งคืนให้กับเขา"
"..........."
หญิงสาวผมม่วงหยิบหอกปลายด้ามที่เป็นมรกตเสร็จก็คลี่ยิ้มออกมาพร้อมลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าจะลอยกลับขึ้นไปบนฟ้า
"
หมอนั่นคือผู้ถือครองคัมภีร์สินะ...."
ชายหนุ่มผมขาวพูดเป็นเชิงถามขึ้นมาเบาๆ หญิงสาวผมม่วงฟังดังนั้นก็ต้องหยุดเดินลงแล้วฟังคำพูดของชายหนุ่มต่อ
และคำพูดของชายหนุ่มต่อจากนั้นก็ทำให้หญิงสาวเบิกตาโพลงอย่างไม่เข้าใจ
"
สิ้นสุดของภารกิจของหมอนั่นคือการปราบจอมมารสินะ....แต่ฉันจะบอกอะไรให้....ถึงจะฆ่าจอมมารได้แต่มันยัง.....
............ไม่จบหรอกนะ"
ฟิ๊ง....
สิ้นสุดเสียงของชายหนุ่มผมขาว
ร่างของเขาก็สลายหายไปเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
จึงทำให้หญิงสาวผมม่วงที่จะคิดถามความหมายของคำพูดนั้นก็ต้องชะงักที่จะถามออกไป พร้อมคิดในใจอย่างสงสัย
'ที่พูดมันหมายความว่ายังไงกัน......จะบอกว่ามีอะไรที่น่ากลัวกว่าจอมมารอีกงั้นเหรอ'
ตูมม!!! โครม!!
โครม!! โครม!!
ทางด้านปราสาทในอาณาจักรออร์ค
การต่อสู้ของชายหนุ่มทั้งสองก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงแม้แต่น้อย ตัวปราสาทในม่านบาเรียทรงลูกบาศก์สีดำที่ปกคลุมที่ปราสาทเหล็กยักษ์นี่ก็มีระเบิดจากการโจมตีที่รุนแรงของทั้งสองเป็นระลอกระลอก
ตูม!!
" ไม่น่าเชื่อว่าท่านเลบิสจะยังกำจัดไอ้ชุนนั่นไม่ได้ซักทีนะ หรือว่าไอ้ชุนนั่นมันเก่งมาก?"
เสียงของผู้เล่นชายคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในพวกของเลบิส ถามขึ้นกับพวกผู้เล่นคนอื่นๆที่อยู่ที่นี่นำหลายหมื่นคนพร้อมพวกออร์คนักรบที่ไร้สติอีกหลายพันตนคอยเฝ้ารอบๆปราสาทนี่ไว้เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาขัดขวางการต่อสู้ของเลบิส
"หึ เชื่อเถอะอีกไม่นานมันก็จะจบแล้ว
ท่านเลบิสจะเป็นฝ่ายชนะอย่างไม่ต้องสงสัย....หือ?"
"มีอะไร?"
ผู้เล่นอีกคนในชุดฝ่ายปฎิวัติผ้าโพกสีแดงถามกับเพื่อนของเขาเมื่อเห็นจู่ๆเขาก็เงียบไป
"ตรงนั้นมันเกิดอะไรขึ้น"
"หา?"
เขาพอเห็นเพื่อนของตนว่าแบบนั้นก็มองตามนิ้วของเขาที่ชี้ออกไปยังข้างหน้า
พวกผู้เล่นคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆก็มองตามเช่นเดียวกัน
และพอมองออกไปยังข้างหน้าที่ประตูทางเข้ากำแพงของปราสาทรอบนอก....
ตูม!! ตูม!!
"อ๊าก!"
พวกเขาก็เห็นพวกของตนจำนวนมากต่างลอยละลิ่วกลางอากาศไปมา
ราวกับถูกบางอย่างซัดจนปลิวเป็นระลอก
และพอเขามองไปยังจุดนั้นชัดๆก็เห็น....
"โฮกก!!!"
เสือยักษ์สีขาวกำลังไล่ขย้ำพวกของตนและตรงเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว....
"เฮ้ย!
นั่นมันอสูรของไอ้ชุนส่งคนไปกำจัดเร็วมันมาแค่ตัวเดียวอย่าไปกลัว!!"
พอพวกเขาเห็นแบบนั้นก็รีบตะโกนสั่งพรรคพวกของตนเข้าไปรุมกระหนาบเสือยักษ์ขาวตนนั้นทันที
"โฮกกกก!! (อย่ามาขวางทางนะ)"
ซีลาร์เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่มีคนมาขัดขวางเธอในการไปหาชุน
ทำให้เธอเดือดดาลมากแล้วนำอุ้งมือใหญ่หนาของเธอพร้อมกรงเล็บขย้ำพวกผู้เล่นพวกนั้นจนแหลกคามือไปนับหลายสิบคน
ฉัวะ!!ฉูดดดด!!
"อ๊ากกก!!"
"เอาธนูกับปืนยิงมัน
หน่วยพาราดินเข้าไปต้านไว้!"
ผู้เล่นคนนึงพอเห็นว่าการเข้าไปสู้ระยะประชิดตรงๆดูท่าจะไม่ไหว เพราะทำให้พรรคพวกตายไปหลายคน
ก็เลยสั่งหน่วยพลธนูและปืนทำการกำจัดซีลาร์ด้วยระยะไกลทันที
ฟ้าว! ฟ้าว!
ฉึก! ฉึก!
"โฮกก!!!"
ซีลาร์ที่โดนโล่ของพวกพาราดินของพวกผู้เล่นต้านไว้จำนวนมากทำให้หลบหลีกได้ลำบาก
ก็ทำให้โดนลูกธนูพวกนั้นปักเข้าตัวไปเต็มๆหลายดอกทำให้เธอคำรามร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
ปกติถ้าโดนลูกธนูมากแบบนี้เข้าคงตายในคราเดียว แต่เพราะซีลาร์มีพลังระดับปราณที่มากพอต้านได้พอสมควรจึงยังสามารถยื้อไว้ได้
แต่ถ้าโดนมากๆเข้าก็ใช่ว่าจะปลอดภัย....
"หยุด!"
และในขณะที่พวกผู้เล่นเห้นซีลาร์เคลื่อนไหวช้าลงก็หมายจะยิงซ้ำเอาให้ตาย ก็โดนเสียงหนึ่งขัดขึ้นมา
"อ้ะ! ท่านฟูจิวาระ!"
พวกผู้เล่นพอเห็นร่างชายหนุ่มที่ร่อนลงมาจากขอบกำแพงปราสาท
พร้อมลูกน้องอีกจำนวนมากก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนที่มานั่น
ซีลาร์มองไปที่ฟูจิวาระก็รู้สึกคุ้นหน้าเพราะเธอจำได้ว่าเป็นคนที่เธอเคยเจอที่เมืองกันสแลซแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นศัตรู
"โฮะ โฮ่ นี่มันแม่ยอดยาหยีของชุนนี่นา
ไหนๆก็ไม่มีโอกาสฆ่ามันและฉันจะฆ่าเธอแทนก็แล้วกัน
พวกแกไม่ต้องยุ่งละฉันจะจัดการแม่เสือนี่เอง"
ฟูจิวาระร้องบอกกับลูกน้องและพวกของเลบิสขึ้น
ก่อนจะชักดาบเพลิงของตนขึ้นมาชี้ไปทางซีลาร์ในร่างเสือยักษ์สีขาวพร้อมกับเสยผมตั้งสีแดงขิองตนขึ้นอย่างมั่นใจว่าจะชนะเธอได้
".........."
ซีลาร์เห็นแบบนั้นก็หรี่ตาลงก่อนจะกลับร่างเป็นร่างสาวสวยผมขาวดังเดิม
แว้บ....
พวกผู้เล่นพอเห็นซีลาร์กลับมาร่างนี้ก็ตกใจกับความสวยไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นชัดๆ
ซีลาร์มองพวกเขาเล็กน้อยก่อนจะชักดาบสีขาวของตนขึ้นแล้วชี้ไปทางฟูจิวาระพร้อมกับเอ่ยเบาๆว่า....
"ถ้าอยากตายขนาดนั้นก็เชิญเข้ามา"
" แฮ่ก...แฮ่ก..."
ครึก....
ทางด้านในของปราสาทที่เละเทะจากการต่อสู้ที่รุนแรง
ตัวปราสาทเหล็กกล้าที่หายไปเกือบครึ่งพร้อมกับร่างชายหนุ่มสองคนที่กำลังยืนประจันหน้ากันอยู่บนยอดของปราสาท
ตึก!
"หึ หึ
ดูท่าแกจะมาได้แค่นี้สินะ"
เสียงของชายหนุ่มผมดำนัยต์ตาสีแดงในชุดเกราะสีแดงโลหิตที่มีร่องรอยการปะทะเล็กน้อย
ก็หัวเราะในลำคอขึ้นมาเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มหน้าหล่อชุดคลุมสีเทาตรงหน้า ที่มีสภาพบาดแผลจากของมีคมทั่วทั้งร่างทำให้มีเลือดท่วมตัวจนดูเหมือนคนใกล้ตายไปทุกที
' บัดซบเอ๊ย....ทักษะเราใช้อะไรกับมันไม่ค่อยได้ผลเลย แถมมานาเราก็เหลือไม่มากพอจะใช้ทักษะระดับ S แต่ละอันแล้วด้วย
และถ้าขืนใช้หมดร่างแยกเบลล์ก็ต้องหายไปแน่....หรือเราจะใช้ร่างเบลล์ดี'
ชุนที่ตอนนี้กำลังอยู่ในท่านำดาบคร่าวิญญาณมาพยุงตัวเองที่มีสภาพบาดแผลท่วมทั้งตัว ก็คิดในใจขึ้นอย่างไร้หนทาง
ชุนคิดว่าถ้าตัวเองใช้ร่างเบลล์เขามั่นใจว่าโอกาสชนะมากกว่าร่างของชุนเป็นแน่
เพราะทักษะดาบของเขาถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่ผ่านมาเพราะพลังกายและความสามารถของดาบล้วนๆ ในโลกจริงเองเขาก็ไม่เคยฝึกการใช้ดาบมาก่อนมีแต่ท่ามือเปล่าเท่านั้น....
'มือเปล่า....จริงสิ!
เรายังมีฝีมือของเราจากโลกจริงนี่นา แถมปราณนี่ด้วย โอกาสชนะใช้ว่าจะศูนย์...'
'เจ้าคิดจะสู้ด้วยวิธีนั้นจริงๆงั้นเหรอ...'
แต่ในขณะที่ชุนคิดจะใช้ทักษะฝีมือในโลกจริงนั้น
ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆที่ดูห้าวๆของเบลเลี่ยนดังออกมาจากแหวนสีแดงของเขา
'ครับ...มันทำไมเหรอ
หรือคุณคิดว่าผมมีวิธีชนะมันด้วยวิธีอื่น'
ชุนฟังคำที่ขัดขึ้นมาของเบลเลี่ยนก็ทำให้เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย
ก่อนจะหรี่ตาลงถามกลับ
เพราะในใจลึกๆก็แอบเคืองเธอเล็กน้อยที่ถ้าเธอมีวิธีชนะทำไมถึงไม่รีบบอกตั้งนานจะรอเขาตายก่อนรึไง
'ฮึ
ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างงั้นกับข้าเลยนะ
เจ้าควรหาหนทางชนะด้วยตัวเองสิไม่ใช่คิดแต่จะพึ่งพาแต่คนอื่น แล้วตอนเจอจอมมารเจ้าคิดจะพึ่งพาแต่พวกข้ารึไง!!'
'อึ้ก....'
เบลเลี่ยนมองสีหน้าของชุนก็พอดูออกว่าเขาเคืองเธอที่ไม่ยอมช่วยเหลืออะไร เธอเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจก่อนจะกล่าวเทศชุนไปฉาดนึง ชุนฟังดังนั้นก็ผงะไปเลยทีเดียว ก่อนเขาจะลองมานึกดีๆว่าตั้งแต่เขาเข้าเกมส์นี้มาก็มัวแต่พึ่งพาคนอื่นและมัวแต่หลีสาวไม่อันทำกิน ทักษะกับของดีๆก็มาจากดวงแห่งความโชคดีของเขาเท่านั้น
ทำให้เขาลองกลับมาคิดว่าถ้าเขาเกิดเป็นคนไม่โชคดีขนาดนั้นและไม่ได้ของพวกนี้มาจะทำยังไง พอชุนคิดได้ดังนั้นก็ถอนหายใจก่อนจะพูดขอโทษกับหญิงสาวที่อยู่ในแหวนสีแดงของตนเอง
'ผมขอโทษครับเบลเลี่ยน....'
ชุนพูดขึ้นในใจกับเบลเลี่ยน พลางเหลือบมองไปที่เลบิสที่กำลังบ่นพำพัมอะไรอยู่ไม่รู้คนเดียว แต่เขาไม่สนใจหันมาพูดกับเบลเลี่ยนต่อ
'ฮึ เข้าใจก็ดีแล้ว....งั้นข้าจะแนะนำเจ้าแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น'
'ครับ'
เบลเลี่ยนหัวเราะในลำคออย่างได้ใจก่อนจะยิ้มเล็กๆอยู่ในแหวนนั่นแล้วพูดบอกชุนเกี่ยวกับสิ่งที่จะบอกกับเขา....
"ไงละไอ้ชุนทีนี้รู้ถึงความต่างชั้นของคำว่าจักรพรรดิ์...."
เลบิสที่มีสภาพบาดแผลตามตัวเล็กน้อย
เดินมาท่ามกลางความมืดของม่านบาเรียสีดำที่ปกคลุมรอบปราสาทเหล็กกล้านี่ ไม่เว้นแต่บนหลังคาของปราสาทที่พวกเขาอยู่กัน
เลบิสที่จะเดินหมายจะไปสังหารชุนก็ต้องหรี่ตาลงแล้วมองไปที่ชุนที่ยืนอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว พร้อมวางดาบอาวุธทั้งสองทิ้งลงพื้นอย่างเบาๆ.....
"นี่คิดจะสู้อีกรึไง
สภาพแบบแกตอนนี้เนี่ยนะ...."
เลบิสหรี่ตาลงแล้วพูดเสียงเย็นชาขึ้น
พร้อมกับกระชับดาบสั้นของเขาที่มีเลือดชุนเปื้อนอยู่ขึ้นมาเพื่อเตรียมที่จะสังหารเขา
" ก็ใช่น่ะสิ....เพราะฉันรู้แล้วว่าจะจัดการแกยังไงไงละเลบิส"
ปล.ค้างงงงงงงงงงงงงงโทษครับ
ความคิดเห็น