ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #88 : CHAPTER 82 : ชุน vs เลบิส (3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.42K
      30
      16 ม.ค. 59

    CHAPTER 82 : ชุน vs เลบิส (3)

     

    ฟ้าววว!!!

     

    ตูมมมม!!! บรึ้ม!!

     

    เสียงของอะไรบางอย่างที่ที่แห่งหนึ่งที่ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว....

     

    ร่างของชายหนุ่มผมขาวในชุดคลุมสีขาวสลับน้ำเงิน  ที่ตอนนี้ท่วมไปด้วยเลือด  หล่นลงมาจากฟากฟ้าที่สูงแค่ไหนไม่อาจทราบ  ชายหนุ่มได้ตกลงใจกลางป่าลึกแห่งหนึ่ง   ความรุนแรงของแรงปะทะทำให้จุดที่ชายหนุ่มตกกลายเป็นหลุมทันที

     

    พร้อมกับไอน้ำแข็งที่กระจายแผ่ออกมาจากร่างชายหนุ่มอย่างฉับพลัน   ทำให้มอนเตอร์ อสูรเล็กๆแถวนี้ตายกันไปเป็นจำนวนมาก

     

    "กี๊ กี๊!"

     

    ครึก....

     

     

    ".............."

     

    ฝุ่นที่ตลบอบอวลแผ่กระจายพร้อมกับละอองไอความเย็น  ก่อนที่ชายหนุ่มร่างท่วมเลือดทั้งตัวจนที่ใครเห็นก็รู้ได้ทันทีว่า....อีกไม่กี่นาทีชายคนนี้ต้องถึงแก่ความตายแน่ๆ  จะปรือตาขึ้นมองท้องฟ้าจุดที่ตัวเองตกลงมา

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้ติดตาม  ราชามังกรขาว 'ไอซ์เดรค'   ประเภท : ราชาอสูรระดับต่ำ   ระดับ : ขั้น  7 ระดับ 10  เสียชีวิตสูญเสียระดับ 10 ระดับ  จะทำการเกิดใหม่อีก 24 ชั่วโมงให้หลังค่ะ >

     

    ชายหนุ่มผมขาวปรือตาได้ไม่นาน  ก็ได้ยินเสียงระบบดังขึ้นในหัว...

     

     

    "........."

     

    เขามองขึ้นไปบนฟ้าจากจุดที่ตัวเองตกลงมาด้วยสายตาไร้อารมณ์ใดๆ   ก่อนจะมองหญิงสาวคนนึงที่กำลังลอยร่อนลงมาอย่างช้าๆจากบนฟ้าจุดที่เขาตก  และเธอก็ร่อนแตะลงสู่พื้นข้างๆตัวเขาในที่สุด

     

    ตุบ

     

    "........."

     

    ชายหนุ่มผมขาวหรี่ตาลงมองเธอเล็กน้อย  ก่อนจะหลับตาลงเพื่อให้หญิงสาวทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ...

     

    "ดูท่าจะเตรียมใจแล้วสินะคะ....แต่ว่าฉันจะยังไม่ฆ่าคุณหรอก"  เสียงเล็กๆของหญิงสาวผมม่วงอ่อนยาวสวยในชุดสีขาวพร้อมคฑาสีทองในมือ  เอ่ยขึ้นมาเบาๆ  

     

    ".........."

     

    คำพูดของเธอทำให้ชายหนุ่มหน้าคมผมขาวต้องปรือตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วมองด้วยท่าทางไร้อารมณ์เช่นเดิม  แต่ในสายตานั่นก็เต็มไปด้วยความสงสัยกับคำพูดนั้น   ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ

     

    "แล้วเธอต้องการอะไร......"

     

    ชายหนุ่มผมขาวถามขึ้น....

     

    "............"

     

    หญิงสาวผมม่วงอ่อนมองมาที่เขาเล็กน้อย  ก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วย่อตัวลงหยิบอาวุธอะไรบางอย่างออกมาจากด้านข้างของเขา....มันคือ 'หอกอานาสุกุ'  1 ใน 12 อาวุธราชันย์ข้ามฟ้าที่อาลีเซียเคยครอบครองไว้

     

    "  ดาบคาตานะสีขาวนั่น....คุณได้มาด้วยความสามารถของคุณเพราะฉะนั้นฉันจะให้ไว้  แต่หอกเล่มนี้คุณได้ขโมยมันมา  ฉันจะเอามันมาเพื่อรอที่คนคนนั้นจะมาแล้วส่งคืนให้กับเขา"

     

    "..........."

     

    หญิงสาวผมม่วงหยิบหอกปลายด้ามที่เป็นมรกตเสร็จก็คลี่ยิ้มออกมาพร้อมลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าจะลอยกลับขึ้นไปบนฟ้า 

     

    " หมอนั่นคือผู้ถือครองคัมภีร์สินะ...." 

     

     ชายหนุ่มผมขาวพูดเป็นเชิงถามขึ้นมาเบาๆ   หญิงสาวผมม่วงฟังดังนั้นก็ต้องหยุดเดินลงแล้วฟังคำพูดของชายหนุ่มต่อ  และคำพูดของชายหนุ่มต่อจากนั้นก็ทำให้หญิงสาวเบิกตาโพลงอย่างไม่เข้าใจ

     

     

    "  สิ้นสุดของภารกิจของหมอนั่นคือการปราบจอมมารสินะ....แต่ฉันจะบอกอะไรให้....ถึงจะฆ่าจอมมารได้แต่มันยัง.....

                   ............ไม่จบหรอกนะ"

     

     

     

    ฟิ๊ง....

     

    สิ้นสุดเสียงของชายหนุ่มผมขาว  ร่างของเขาก็สลายหายไปเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว   จึงทำให้หญิงสาวผมม่วงที่จะคิดถามความหมายของคำพูดนั้นก็ต้องชะงักที่จะถามออกไป  พร้อมคิดในใจอย่างสงสัย

     

     

    'ที่พูดมันหมายความว่ายังไงกัน......จะบอกว่ามีอะไรที่น่ากลัวกว่าจอมมารอีกงั้นเหรอ'        








    ตูมม!!! โครม!! โครม!! โครม!!

     

    ทางด้านปราสาทในอาณาจักรออร์ค  การต่อสู้ของชายหนุ่มทั้งสองก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจบลงแม้แต่น้อย   ตัวปราสาทในม่านบาเรียทรงลูกบาศก์สีดำที่ปกคลุมที่ปราสาทเหล็กยักษ์นี่ก็มีระเบิดจากการโจมตีที่รุนแรงของทั้งสองเป็นระลอกระลอก 

     

    ตูม!!

     

    " ไม่น่าเชื่อว่าท่านเลบิสจะยังกำจัดไอ้ชุนนั่นไม่ได้ซักทีนะ  หรือว่าไอ้ชุนนั่นมันเก่งมาก?"

     

    เสียงของผู้เล่นชายคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในพวกของเลบิส  ถามขึ้นกับพวกผู้เล่นคนอื่นๆที่อยู่ที่นี่นำหลายหมื่นคนพร้อมพวกออร์คนักรบที่ไร้สติอีกหลายพันตนคอยเฝ้ารอบๆปราสาทนี่ไว้เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาขัดขวางการต่อสู้ของเลบิส

     

    "หึ เชื่อเถอะอีกไม่นานมันก็จะจบแล้ว  ท่านเลบิสจะเป็นฝ่ายชนะอย่างไม่ต้องสงสัย....หือ?"

     

    "มีอะไร?"

     

    ผู้เล่นอีกคนในชุดฝ่ายปฎิวัติผ้าโพกสีแดงถามกับเพื่อนของเขาเมื่อเห็นจู่ๆเขาก็เงียบไป 

     

     

    "ตรงนั้นมันเกิดอะไรขึ้น"

     

    "หา?"

     

    เขาพอเห็นเพื่อนของตนว่าแบบนั้นก็มองตามนิ้วของเขาที่ชี้ออกไปยังข้างหน้า  พวกผู้เล่นคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆก็มองตามเช่นเดียวกัน  และพอมองออกไปยังข้างหน้าที่ประตูทางเข้ากำแพงของปราสาทรอบนอก....

     

    ตูม!! ตูม!!

     

    "อ๊าก!"

     

    พวกเขาก็เห็นพวกของตนจำนวนมากต่างลอยละลิ่วกลางอากาศไปมา ราวกับถูกบางอย่างซัดจนปลิวเป็นระลอก  และพอเขามองไปยังจุดนั้นชัดๆก็เห็น....

     

    "โฮกก!!!"

     

    เสือยักษ์สีขาวกำลังไล่ขย้ำพวกของตนและตรงเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว....

     

     

    "เฮ้ย! นั่นมันอสูรของไอ้ชุนส่งคนไปกำจัดเร็วมันมาแค่ตัวเดียวอย่าไปกลัว!!"

     

    พอพวกเขาเห็นแบบนั้นก็รีบตะโกนสั่งพรรคพวกของตนเข้าไปรุมกระหนาบเสือยักษ์ขาวตนนั้นทันที 


     

    "โฮกกกก!! (อย่ามาขวางทางนะ)"


    ซีลาร์เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่มีคนมาขัดขวางเธอในการไปหาชุน  ทำให้เธอเดือดดาลมากแล้วนำอุ้งมือใหญ่หนาของเธอพร้อมกรงเล็บขย้ำพวกผู้เล่นพวกนั้นจนแหลกคามือไปนับหลายสิบคน


     

    ฉัวะ!!ฉูดดดด!!

     

    "อ๊ากกก!!"

     

    "เอาธนูกับปืนยิงมัน  หน่วยพาราดินเข้าไปต้านไว้!"

     

    ผู้เล่นคนนึงพอเห็นว่าการเข้าไปสู้ระยะประชิดตรงๆดูท่าจะไม่ไหว  เพราะทำให้พรรคพวกตายไปหลายคน  ก็เลยสั่งหน่วยพลธนูและปืนทำการกำจัดซีลาร์ด้วยระยะไกลทันที

     


    ฟ้าว! ฟ้าว!

     

    ฉึก! ฉึก!

     

    "โฮกก!!!"

     

    ซีลาร์ที่โดนโล่ของพวกพาราดินของพวกผู้เล่นต้านไว้จำนวนมากทำให้หลบหลีกได้ลำบาก  ก็ทำให้โดนลูกธนูพวกนั้นปักเข้าตัวไปเต็มๆหลายดอกทำให้เธอคำรามร้องออกมาอย่างเจ็บปวด   ปกติถ้าโดนลูกธนูมากแบบนี้เข้าคงตายในคราเดียว  แต่เพราะซีลาร์มีพลังระดับปราณที่มากพอต้านได้พอสมควรจึงยังสามารถยื้อไว้ได้

     

    แต่ถ้าโดนมากๆเข้าก็ใช่ว่าจะปลอดภัย....

     


    "หยุด!"

     

    และในขณะที่พวกผู้เล่นเห้นซีลาร์เคลื่อนไหวช้าลงก็หมายจะยิงซ้ำเอาให้ตาย  ก็โดนเสียงหนึ่งขัดขึ้นมา


     

    "อ้ะ! ท่านฟูจิวาระ!"

     

    พวกผู้เล่นพอเห็นร่างชายหนุ่มที่ร่อนลงมาจากขอบกำแพงปราสาท พร้อมลูกน้องอีกจำนวนมากก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนที่มานั่น   ซีลาร์มองไปที่ฟูจิวาระก็รู้สึกคุ้นหน้าเพราะเธอจำได้ว่าเป็นคนที่เธอเคยเจอที่เมืองกันสแลซแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นศัตรู


     

    "โฮะ โฮ่ นี่มันแม่ยอดยาหยีของชุนนี่นา  ไหนๆก็ไม่มีโอกาสฆ่ามันและฉันจะฆ่าเธอแทนก็แล้วกัน  พวกแกไม่ต้องยุ่งละฉันจะจัดการแม่เสือนี่เอง"

     

    ฟูจิวาระร้องบอกกับลูกน้องและพวกของเลบิสขึ้น  ก่อนจะชักดาบเพลิงของตนขึ้นมาชี้ไปทางซีลาร์ในร่างเสือยักษ์สีขาวพร้อมกับเสยผมตั้งสีแดงขิองตนขึ้นอย่างมั่นใจว่าจะชนะเธอได้

     

    ".........."

     

    ซีลาร์เห็นแบบนั้นก็หรี่ตาลงก่อนจะกลับร่างเป็นร่างสาวสวยผมขาวดังเดิม 


     

    แว้บ....

     

    พวกผู้เล่นพอเห็นซีลาร์กลับมาร่างนี้ก็ตกใจกับความสวยไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นชัดๆ   ซีลาร์มองพวกเขาเล็กน้อยก่อนจะชักดาบสีขาวของตนขึ้นแล้วชี้ไปทางฟูจิวาระพร้อมกับเอ่ยเบาๆว่า....

     

    "ถ้าอยากตายขนาดนั้นก็เชิญเข้ามา"






     

    " แฮ่ก...แฮ่ก..."

     

    ครึก....

     

    ทางด้านในของปราสาทที่เละเทะจากการต่อสู้ที่รุนแรง  ตัวปราสาทเหล็กกล้าที่หายไปเกือบครึ่งพร้อมกับร่างชายหนุ่มสองคนที่กำลังยืนประจันหน้ากันอยู่บนยอดของปราสาท 

     

    ตึก!

     

    "หึ หึ  ดูท่าแกจะมาได้แค่นี้สินะ"  

     

    เสียงของชายหนุ่มผมดำนัยต์ตาสีแดงในชุดเกราะสีแดงโลหิตที่มีร่องรอยการปะทะเล็กน้อย  ก็หัวเราะในลำคอขึ้นมาเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มหน้าหล่อชุดคลุมสีเทาตรงหน้า  ที่มีสภาพบาดแผลจากของมีคมทั่วทั้งร่างทำให้มีเลือดท่วมตัวจนดูเหมือนคนใกล้ตายไปทุกที


     

    ' บัดซบเอ๊ย....ทักษะเราใช้อะไรกับมันไม่ค่อยได้ผลเลย  แถมมานาเราก็เหลือไม่มากพอจะใช้ทักษะระดับ S แต่ละอันแล้วด้วย  และถ้าขืนใช้หมดร่างแยกเบลล์ก็ต้องหายไปแน่....หรือเราจะใช้ร่างเบลล์ดี'


     

    ชุนที่ตอนนี้กำลังอยู่ในท่านำดาบคร่าวิญญาณมาพยุงตัวเองที่มีสภาพบาดแผลท่วมทั้งตัว  ก็คิดในใจขึ้นอย่างไร้หนทาง  ชุนคิดว่าถ้าตัวเองใช้ร่างเบลล์เขามั่นใจว่าโอกาสชนะมากกว่าร่างของชุนเป็นแน่  

     

    เพราะทักษะดาบของเขาถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่ผ่านมาเพราะพลังกายและความสามารถของดาบล้วนๆ   ในโลกจริงเองเขาก็ไม่เคยฝึกการใช้ดาบมาก่อนมีแต่ท่ามือเปล่าเท่านั้น....

     

     

    'มือเปล่า....จริงสิ! เรายังมีฝีมือของเราจากโลกจริงนี่นา แถมปราณนี่ด้วย  โอกาสชนะใช้ว่าจะศูนย์...'

     

    'เจ้าคิดจะสู้ด้วยวิธีนั้นจริงๆงั้นเหรอ...'

     

    แต่ในขณะที่ชุนคิดจะใช้ทักษะฝีมือในโลกจริงนั้น  ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆที่ดูห้าวๆของเบลเลี่ยนดังออกมาจากแหวนสีแดงของเขา                                                                                  

     

     

    'ครับ...มันทำไมเหรอ หรือคุณคิดว่าผมมีวิธีชนะมันด้วยวิธีอื่น'

     

     ชุนฟังคำที่ขัดขึ้นมาของเบลเลี่ยนก็ทำให้เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหรี่ตาลงถามกลับ  เพราะในใจลึกๆก็แอบเคืองเธอเล็กน้อยที่ถ้าเธอมีวิธีชนะทำไมถึงไม่รีบบอกตั้งนานจะรอเขาตายก่อนรึไง


     

    'ฮึ ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างงั้นกับข้าเลยนะ  เจ้าควรหาหนทางชนะด้วยตัวเองสิไม่ใช่คิดแต่จะพึ่งพาแต่คนอื่น  แล้วตอนเจอจอมมารเจ้าคิดจะพึ่งพาแต่พวกข้ารึไง!!'

     

    'อึ้ก....'

     

    เบลเลี่ยนมองสีหน้าของชุนก็พอดูออกว่าเขาเคืองเธอที่ไม่ยอมช่วยเหลืออะไร  เธอเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจก่อนจะกล่าวเทศชุนไปฉาดนึง  ชุนฟังดังนั้นก็ผงะไปเลยทีเดียว  ก่อนเขาจะลองมานึกดีๆว่าตั้งแต่เขาเข้าเกมส์นี้มาก็มัวแต่พึ่งพาคนอื่นและมัวแต่หลีสาวไม่อันทำกิน  ทักษะกับของดีๆก็มาจากดวงแห่งความโชคดีของเขาเท่านั้น

     

    ทำให้เขาลองกลับมาคิดว่าถ้าเขาเกิดเป็นคนไม่โชคดีขนาดนั้นและไม่ได้ของพวกนี้มาจะทำยังไง   พอชุนคิดได้ดังนั้นก็ถอนหายใจก่อนจะพูดขอโทษกับหญิงสาวที่อยู่ในแหวนสีแดงของตนเอง


     

    'ผมขอโทษครับเบลเลี่ยน....' 

     

    ชุนพูดขึ้นในใจกับเบลเลี่ยน  พลางเหลือบมองไปที่เลบิสที่กำลังบ่นพำพัมอะไรอยู่ไม่รู้คนเดียว  แต่เขาไม่สนใจหันมาพูดกับเบลเลี่ยนต่อ


     

    'ฮึ  เข้าใจก็ดีแล้ว....งั้นข้าจะแนะนำเจ้าแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น'

     

    'ครับ'

     

    เบลเลี่ยนหัวเราะในลำคออย่างได้ใจก่อนจะยิ้มเล็กๆอยู่ในแหวนนั่นแล้วพูดบอกชุนเกี่ยวกับสิ่งที่จะบอกกับเขา....

     

     

    "ไงละไอ้ชุนทีนี้รู้ถึงความต่างชั้นของคำว่าจักรพรรดิ์...."

     

    เลบิสที่มีสภาพบาดแผลตามตัวเล็กน้อย  เดินมาท่ามกลางความมืดของม่านบาเรียสีดำที่ปกคลุมรอบปราสาทเหล็กกล้านี่  ไม่เว้นแต่บนหลังคาของปราสาทที่พวกเขาอยู่กัน 

     

    เลบิสที่จะเดินหมายจะไปสังหารชุนก็ต้องหรี่ตาลงแล้วมองไปที่ชุนที่ยืนอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว  พร้อมวางดาบอาวุธทั้งสองทิ้งลงพื้นอย่างเบาๆ.....

     

     

    "นี่คิดจะสู้อีกรึไง สภาพแบบแกตอนนี้เนี่ยนะ...."  

     

    เลบิสหรี่ตาลงแล้วพูดเสียงเย็นชาขึ้น  พร้อมกับกระชับดาบสั้นของเขาที่มีเลือดชุนเปื้อนอยู่ขึ้นมาเพื่อเตรียมที่จะสังหารเขา

     

     

    "  ก็ใช่น่ะสิ....เพราะฉันรู้แล้วว่าจะจัดการแกยังไงไงละเลบิส" 

     

     

     

     

    ปล.ค้างงงงงงงงงงงงงงโทษครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×