ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #35 : CHAPTER 32 : ความผิดแปลกดันเจี้ยน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.01K
      51
      18 ต.ค. 58

    CHAPTER 32 : ความผิดแปลกดันเจี้ยน

     

    ถ้ำดันเจี้ยนชั้นที่ 13

     

    ฉัวะ!!

    ติ๊ง!

    <กองกำลังลุยดันเจี้ยน  สามารถเคลียร์ชั้นที่ 13 ได้ค่ะ 

    -ปราบก๊อบลินนักรบ     ระดับ  80  จำนวน  500 ตัว

    -ปราบก๊อบลินธนู          ระดับ  85  จำนวน  200 ตัว

    -ปราบก๊อบลินนักเวทย์  ระดับ  90   จำนวน  50  ตัว

    ครบตามเงื่อนไขค่ะ  ค่าประสบการณ์ที่ได้จะแบ่งตามระดับผู้เล่นที่มาเข้าร่วม 

    ได้รางวัลประจำชั้น : แท่งเหล็ก 100 ชิ้น  แท่งทองแดง 60 ชิ้น  แร่ทอง 10 ชิ้น

    ผู้เล่นสามารถเอาได้เท่าที่ต้องการ  ส่วนที่เหลือจะให้แก่กองกำลังอัศวินแห่งเมืองอาเธอร์>

     

    สิ้นสุดจากคมดาบของชายหนุ่มผมดำดวงตาสีน้ำตาลใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร  แต่เป็นใบหน้าดูไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ  สวมผ้าคลุมสีดำชุดเกราะสีเงินที่ทับเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้าอีกที  เขานำดาบยาวเกือบ 3 เมตรที่โค้งตรงปลาย   ฟันเข้าที่ก๊อบลินนักเวทย์ตัวสุดท้ายพอดี

    แล้วหลังจากนั้นเสียงประกาศก็ดังขึ้น....

    ทุกคนหันไปมองอย่างทึ่งในฝีมือคอมดาบของชายผู้นี้  และเหล่าหญิงสาวหลายคนก็มองอย่างหลงใหล   ชายคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือชุนร่างแยกนั่นเอง...

     

    "นั่นใช่ชายในภาพข่าวสารที่อุ้มเดียรินี่เข้าโรงแรมปะวะ"  ชายผู้เล่นคนนึงถามขึ้นกับเพื่อนชายอีกคน

    "เออ หน้าอย่างงี้เลย....เก่งขนาดนี้เลยเหรอวะเพิ่งรู้  แบบนี้พวกแฟนคลับเดียรินี่ที่คิดจะเล่นงานมันก็ต้องคิดใหม่แล้วละว่ะ" 

    เพื่อนชายผู้เล่นตอบขึ้น  ในขณะที่ผู้เล่นสาวๆมองชายหนุ่มผมดำที่พวกเขาพูดขึ้นอย่างชื่นชมและหลงใหล  ชายหนุ่มที่แสดงหน้าไร้อารมณ์ใดๆในตอนนี้ทำให้ดูขรึมแนวเย็นชาถูกใจสาวๆหลายคนเลยทีเดียว

     

    "คนนั้นในข่าวสารหน้าระบบสินะ  ได้ข่าวว่าเขาแข็งแกร่งมากเลยนี่  แถมตัวจริงหล่อกว่าในรูปตั้งเยอะแน่ะ  ฉันว่าเขาเป็นรักแรกฉันแล้วว่ะแก>///<"

    "โหย ยัยบ้าผู้ชายเอ๊ย!....แต่เขาก็ดูเท่ดีนะ  ฉันว่าที่พาเดียรินี่เข้าโรงแรมนี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่เลย  ฉันขอให้เป็นแบบนั้นเท้อ...สาธุ"

    "น่ะ!แกก็ชอบเขาเหมือนกันสิท่า  ว่าแต่ชั้น!"

     

    พวกซีลาร์ อาลีเซีย และแม้แต่เดเบียล่าเห็นพวกผู้เล่นสาวที่เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับชุนแบบนั้นเข้าก็เข้ามาเกาะแขนแสดงความเป้นเจ้าของทันที   ถึงจะรู้ๆอยู่ว่าชายคนนี้เป็นเพียงแค่ร่างแรก    แต่พวกเธอก็แผ่จิตสังหารไปใส่ยัยพวกนั้นทันที

     

    "................"                             

     

    ออโรร่ามองชุนอย่างกังวล  ตามหลักเขาน่าจะกลับมาบอกอะไรได้แล้ว  แต่นี่มันนานเกินไปแล้วนะ  นี่ยังดีที่ร่างแยกถูกชุนตัวจริงก่อนหน้านั้นสั่งให้คอยปกป้องพวกเธอ และฟังตามคำสั่งจากเธอ  ทำให้ร่างแยกสามารถต่อสู้ได้โดยแม้ชุนไม่ต้องย้ายจิตเข้ามา...

     

    " เอาละพักได้  หาอาหารที่เตรียมมาขึ้นมากินกันเอง  และฟื้นฟูพลังให้เต็มที่ก่อนจะไปลงดันชั้นต่อไป!

    รานัลตะโกนขึ้น  พวกผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ต่างพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะสู้มานานพอสมควรแล้วจนมาถึงชั้น 13 และมานาของพวกเขาก็ใกล้จะล่อแล่แล้ว  ถ้าไม่เติมพลังซะก่อนจะแย่(การนั่งพัก และทานอาหาร สามารถฟื้นฟูเลือดและมานาได้)

     

    " เขาเก่งดีนะคะ^^"

     

    ฮยอนอาที่กำลังนั่งอยู่หน้ากระโจมของตัวเอง  ที่พวกลูกน้องเตรียมมาให้พูดขึ้นพลางจิบชาเล็กน้อย  ฟุงยอนหัวหน้าองครักษ์ชายหนุ่มผมเทา  ดวงตาสีดำได้ยินแบบนั้นก็เลิกคิ้วหันมามองหัวหน้าของตน

     

    " ผมว่าก็เฉยๆนะครับ  ผมว่าทางที่ดีพวกเราควรระวังพวกเขาหน่อยก็ดี  เพราะถึงยัยออโรร่านั่นจะลาออกจากกิลสโมสรนักฆ่าแล้วก็ตาม  แต่ผมก็ยังจำได้นะว่าคุณเกือบโดนลูกกิลสโมสรนักฆ่ามาลอบสังหารนะครับ.....พวกนักฆ่าไว้ใจไม่ได้หรอก"

    ฟุงยอนกล่าวเตือนหญิงสาวผมชมพูอ่อนยาวถึงกลางหลังคนนี้.....

     

    "เธอคิดมากไปแล้วฟุงยอน  ตอนนี้เธอไม่ใช่นักฆ่าแล้วแต่เป็นเมดของผู้ชายที่ชื่อว่าชุนนั่นแล้วตังหาก คิก คิก"

     

    ฮยอนอาพอมองชุดของออโรร่าแล้ว  ก็หัวเราะเล็กๆขึ้นมา  ฮยอนอาเธอไม่ใช่คนที่ต่อสู้อะไรเก่งเลย  ต้องเรียกว่าสู้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ  เธอเป็นสายรักษาและซับพอร์ทล้วนๆ 

    แต่ที่เธอได้เป็นถึง 1 ใน 16 องครักษ์นั้น  เพราะการรักษาของเธอแตกต่างจากคนอื่นทั่วไป  และยังมีประสิทธิภาพที่มากจนน่าเหลือเชื่อ  เธอใช้วิธีรักษาอาการพวกโรค  พิษ และสถานะบัพต่างๆโดยการหาวัตถุดิบจากธรรมชาติในเกมส์มารักษา 

     

    ซึ่งแตกต่างจากคนอื่นที่เอะอะก็ใช้ทักษะในการรักษาเพียงอย่างเดียว  พอโดนพิษที่รักษาไม่ได้ฮีลเลอร์หลายคนก็ต้องเรียกว่าไร้ประโยชน์ทันที....

     แต่ฮยอนอานอกจากจะเป็นฮีลเลอร์แล้วยังสามารถใช้การค้นหาวัตถุมาทำเป็นสมุนไพรหรือยาในการรักษา  ซึ่งผู้เล่นส่วนมากแทบไม่มีใครทำได้  และถึงทำเป็นก็ใช่ว่าจะสามารถหาวัตถุแบบนั้นได้ง่ายๆ

    แต่ฮยอนอากลับสามารถหาวัตถุดิบพวกนั้นได้  และปรุงเป็นยาในการรักษาโรค หรือพิษนั้นได้ถูกต้องตลอด

     

    ทำให้เธอถือว่าเป็นเทพธิดาแห่งโอสถจริงๆ....

     

    ".............."

    ออโรร่ามองไปรอบๆของถ้ำ  เธอมองอย่างกังวลมาตลอดทาง  เพราะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นกับดันเจี้ยนแห่งนี้  เหมือนมีอะไรซักอย่างที่ไม่ใช่....ไม่ใช่อย่างที่ควรจะเป็น

     

    "เฮ้อ....คิดไปเองละมั้ง"         

     

    ออโรร่าถอนหายใจออกมา  เพราะเธอคงจะคิดไปเอง  อาชีพตำรวจเก่าของเธอ  และอาชีพที่เป็นบอร์ดี้การ์ดให้ชุนด้วยนั้น  ทำให้เธอต้องมาคอยระแวงพะวงหน้าพะวงหลังให้ชุนตลอด  ทำให้เธอกลายเป็นคนคิดมากมาตลอด

     

    "ยัยผมสามสี  พวกเราติดต่อไปหาชุนแล้ว....แต่เขาไม่ตอบกลับมาเลย  เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า.."  ซีลาร์ถามออโรร่าที่ดูฉลาดที่สุดในกลุ่มของเธอขึ้นอย่างกังวล 

    "ซีลาร์เจ้าจะกังวลทำไม  พวกเราก็ยังรับรู้ว่าชุนยังไม่ตายซักหน่อยก็พอแล้วนี่  ตานั่นอาจจะหลับอยู่ก็ได้นะ"  อาลีเซียกล่าวเสริมเหมือนจะปลอบใจ  แต่ถึงจะไม่เหมือนปลอบใจเท่าไร  แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะ

     

    ".....หนูสัมผัสได้ว่าพี่ชุนใช้มานาจนหมดแล้ว  ตอนนี้จึงอาจแค่หลับอยู่เลยไม่ตอบพวกเราก็ได้นะคะ...."  เดเบียล่าหลับตาสัมผัสไปถึงพลังของชุนทางพันธสัญญา

     

    "เหตุใดเขาจึงใช้มานาจนหมดได้นะ....ไปเจอกับอะไรเข้า.." 

    ซีลาร์ก็เอ่ยต่อหลังจากได้ยินคำพูดของเดเบียล่า  เธอพูดอย่างกังวลอีกครั้ง(ขี้เป็นห่วงมากคนนี้-0-ส่วนอาลีเซียก็จ้องมาที่เดเบียล่าก่อนจะดึงแก้มเธอ

     

    "เด็กบ้าจะไปพูดให้ซีลาร์กังวลเพิ่มอีกทำไมฮะ-*-"

    "ง่า...ก็หนูก็เป็นห่วงพี่ชุนเหมือนกันนี่"

     

    เดเบียล่าพูดบอกเธอทั้งๆที่แก้มโดนดึงจนยื่นออกตามมือของอาลีเซียที่ดึงไป...

     

    "............"

     

    ออโรร่าที่ยังไม่ตอบซีลาร์ในตอนแรกก็ยิ้มมองพวกเธออย่างเอ็นดู  ก่อนจะไอเทมเตาปิ้งบาร์บีคิวขึ้นมา  แล้วเอาเนื้อเสียบไม้มาวางไว้  พวกซีลาร์ที่สลดอยู่ตอนแรกพอเห็นเนื้อพวกนั้นก็ตาลุกวาว  ยกเว้นอาลีเซียที่มองเฉยๆ(ซีลาร์ กับเดเบียล่าเป็นสัตว์ที่กินเนื้อเลยชอบเนื้อมาก)

     

    "รอให้มันสุกก่อนนะ  เดี๋ยวค่อยกินเดี๋ยวฉันขอตัวไปคุยธุระกับรานัลก่อน"

     

    พูดจบออโรร่าก็เดินไป  โดยให้ร่างแยกของชุนอยู่รอตรงที่พวกซีลาร์   ออโรร่าเดินตรงไปที่กระโจมของพวกอัศวิน

     

    "  มีธุระอะไรนักผจญภัย" 

     

     อัศวินสองคนที่กันทางเข้าเขตกระโจมของพวกอัศวินพูดขึ้น  มีชุดเกราะเป็นสีบรอนด์ทำให้รู้ว่าเป็นระดับบรอนด์  ออโรร่าก็มองเข้าไปข้างในเมื่อมองหารานัลและก็เห็นว่าอยู่กระโจมใหญ่ในสุด

     

    "ฉันขอเข้าไปพบรานัลหน่อย"



    กระโจมของพวกอัศวิน

     

    " ไหนๆเธอก็มาแล้วลองตรวจดูสิของสภาพของสิ่งๆนี้"


     ออโรร่าพูดขึ้น  พลางมองไปที่หญิงสาวชุดฮันบกผมยาวสีชมพูอ่อน  ที่เธอเป็นคนสั่งให้ลูกน้องพวกอัศวินของรานัลไปตามตัวเธอมา

     

    " อุตส่าไม่ได้คุยกันมาซะตั้งนาน  มาถึงก็เรียกใช้ซะเหมือนพวกเราเป็นสหายกันเลยนะคะ คุณออโรร่า"  หญิงสาวผมสีชมพูชุดฮันบกยิ้มเล็กๆขึ้น  ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน  จนอัศวินในห้องเห็นก็ต้องเคลิ้ม

     

    " พวกคุณตอนนี้ไม่ใช่เวลามารื้อฟื้นความหลังนะครับ  คุณฮยอนอาถ้าตรวจสอบสิ่งนี้ได้ก็ช่วยตรวจสอบทีเถอะครับ"

      รานัลที่นั่งอยู่หัวโต้ะภายใต้กระโจมใหญ่นี้  ที่พวกเขาสามคนนั่งอยู่กัน  พร้อมกับอัศวินระดับไดมอนซ์เฝ้าหน้ากระโจม และในกระโจมถึง 4 คนด้วย...

     

    ลองเล่าย้อนไปก่อนหน้านี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น  ถึงทำให้พวกเขามาอยู่ที่ตรงนี้กันได้.....

     

    "มีธุระอะไรหรือครับคุณออโรร่า?"

     

    ชายหนุ่มชุดอัศวินสีขาวพูดขึ้น  เมื่อเห็นหญิงสาวชุดเมดผมสีชมพูสลด์ด้วยสีฟ้าและเขียวอีกที  ที่เป็นผู้มีพระคุณในการช่วยเหลือการจัดการอสูรกายในครั้งนั้น  ทำให้เขาพูดกับเธออย่างนอบน้อม  ผิดกับที่พูดกับผู้เล่นคนอื่น

     

    "ฉันรู้ว่านายที่เป็นรองผู้นำที่พามาลงดันเจี้ยนบ่อยๆ  น่าจะรู้นะว่าตอนนี้เกิดความผิดแปลกกับดันเจี้ยนนี้ในตอนนี้"

      สาวชุดเมดที่เดินเข้ามาในกระโจมพร้อมกับอัศวินระดับไดมอนซ์สองคนที่เดินเข้ามาส่งแทน  พวกระดับบรอนด์ก่อนหน้านั้น  เดินมาอยู่หน้าโต้ะยาวทำงานของรานัล  หัวหน้าอัศวินคนปัจจุบันที่มาแทนอาเธอร์

     

    "......คุณก็สังเกตุด้วยเหรอ"

     

    รานัลมองหน้าเธอนิ่งๆก่อนจะลุกขึ้นมาเดินเอามือไขว้หลังไปหาหญิงสาว  พลางหยิบอะไรบางอย่างเอามาให้เธอดู  เป็นก้อนผลึกสีฟ้าที่มีไอเย็นพอที่คนจับด้วยมือเปล่าจะถูกความเย็นกัดกร่อนจนผิดแตกได้ทันที   รานัลจึงหยิบด้วยถุงมือยางแล้วหยิบเศษผลึกเล็กๆสีฟ้านั่นให้เธอดู

     

    "...นี่มั่นน้ำแข็งอย่างงั้นเหรอ...อะอย่าบอกนะว่าที่ดันเจี้ยนที่ฉันสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นและความชื้นที่ผิดกับปกตินี่  เป็นเพราะเศษน้ำแข็งพวกนี้" 

    ออโรร่าพอนึกไปถึงความเกี่ยวข้องระหว่างน้ำแข็งกับสภาพของชั้นดันเจี้ยน  ก็เห็นว่าสอดคล้องลงตัวพอดี

     

    "ใช่แล้วครับ  นี่จึงเป็นสาเหตุให้สภาพบรรยากาศของดันเจี้ยนครั้งนี้ดูแปลกๆจากที่เคย  แถมมันยังส่งผลให้พวกมอนเตอร์ และอสูรมีการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าด้วย เพราะอสูรที่นี่เป็นพวกธาตุไฟซะส่วนมาก  ดันเจี้ยนนี้เองก็เป็นเขตร้อนแทบจะไม่มีทางที่จะมีอุณหภูมิเย็นถึงเพียงนี้ได้เลย....


    ....และอีกอย่างครับน้ำแข็งนี่มีคุณสมบัติระดับสูงเกินกว่าจะเป็นน้ำแข็งทั่วไปเลย "

     

    " แสดงว่ามันไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติสินะ....แต่มีใครทำมันขึ้น  แล้วเศษพวกนี้เจอไปกี่ชิ้นละ"  ออโรร่าถามขึ้นเพื่อเห็นในมือเขามีเพียงแค่เศษเดียว

     

    "พวกเราเจอไม่กี่ชิ้นครับ  ที่เหลือละลายไปก่อน  ส่วนคุณสมบัติของมันเราก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ระเอียดพอ  ทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่ามันมาจากสาเหตุใด "

     

      รานัลพูดขึ้นพลางก้มหน้าอย่างผิดหวังกับตัวเองที่ไม่มีความสามารถพอด้านนี้.....

     

    "..............."

     

    ออโรร่าก็มองเศษน้ำแข็งนั่นในมือของรานัล  ก่อนจะนึกไปถึงฮยอนอาหญิงสาวจากรัฐบาล  ที่มีความรอบรู้ด้านการค้นหาวัตถุดิบทั่วโลกในเกมส์นี้ 

    ดังนั้นก็แสดงว่าเธอต้องมีทักษะหรือความสามารถในการวิเคราะห์อย่างดีแน่จึงสามารถนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาใช้ปรุงยาได้อย่างถูกต้องได้  

     

    ถึงออโรร่าจะไม่ค่อยอยากร่วมมือเท่าไร  แต่ก็ต้องพึ่งฝีมือสาวเกาหลีคนนั้นจากฝั่งรัฐบาล 

    ที่ขึ้นชื่อว่า  'เทพธิดาโอสถ'


     

    กลับมาปัจจุบัน....

     

    นอกจากเรียกฮยอนอามาแล้ว เธอยังเรียกพวกซีลาร์ อาลีเซีย เดเบียล่าและร่างแยกของชุนมาด้วย  เพื่อให้รับรู้เรื่องนี้พร้อมกันถ้าเกิดมันเป็นปัญหากับการอยู่ต่อในชั้นดันเจี้ยนจริงๆ  ก็ควรรับฟังไว้บ้างก็ดี

    ทางฮยอนอาเองก็พาฟุงยอนหัวหน้าองครักษ์ของเธอมาด้วย....

     

    ".....ว่าแต่คุณชุนเนี่ยเป็นคนพูดน้อยจังนะคะ  เอ้ะ..หรือเพราะความขรึมเท่ๆนี่  ทำให้สามสาวนั่นหลงรักคุณได้สินะค่ะ"   

     

    ฮยอนเอ่ยขึ้นพลางหันไปมองชุนที่หน้านิ่งเหมือนไร้ชีวิตจิตใจ  เธอก็คิดว่าเขาอาจเป็นคนเย็นชาประมาณนั้นละมั้ง...

     

    แต่เห็นท่าทีของพวกซีลาร์ที่กอดติดกับชายคนนั้นจนแน่น  ก็ทำให้เธออดเอ่ยแซวไม่ได้  เธอพอรู้ว่าพวกซีลาร์เป็นผู้ติดตามและดูท่าจะฐานะภรรยาซะด้วย  ยิ่งทำให้เธออดแซวชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้ไปใหญ่

     

    "ทำธุระของเธอไปสิ  อย่าพูดมากยัยผู้หญิงใส่ชุดคลุมท้อง!

     อาลีเซียเกาะแขนชุนร่างแยกอย่างหึงหวง  ก่อนจะแขวะฮยอนอากลับเมื่อเห็นชุดฮันบกของเธอ

     

    " แหม....เด็กในท้องก็ลูกของเจ้านายของพวกเธอนะ^^"

     

    "ว่าไงนะยัยนี่!!!"


       อาลีเซียเหมือนบางอย่างขาดผึง  และทำท่าจะเอาหอกไปแทงผู้หญิงที่ดูท่าทางหมั่นไส้คนนี้ให้ตาย  แต่ซีลาร์ก็ห้ามไว้  พร้อมกับออโรร่าที่พูดขัดขึ้นมา

     

    "หยุดเล่นไร้สาระได้แล้ว ฮยอนอา ทำหน้าที่ของเธอซะ..."   ออโรร่าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยๆ

     

    "จ้า จ้า ทราบแล้ว  งั้นฉันขอลองตรวจสอบแปปนึงนะคะ"

      ฮยอนอาก็ยิ้มแห้งๆแล้วเลิกแหย่พวกซีลาร์  แต่เธอก็อดสงสัยท่าทีที่นิ่งเกินไปของชุนไม่ได้จริงๆ  ถึงได้แหย่เล่นออกไปแบบนั้น

     

    วุ่มม....วุ่ม...

     

    ฮยอนอาพูดขึ้น  พลางนำมือยื่นออกไปอยู่เหนือผลึกสีฟ้านั่นที่วางไว้บนโต้ะของรานัล  จากนั้นเธอก็หลับตาพร้อมใช้ทักษะของเธอที่อยู่ในระดับสูง  จากนั้นมือเธอก็เรืองแสงขึ้นพร้อมคลุมผลึกนั่นไปด้วย

     พวกซีลาร์  ออโรร่า  ฟุงยอนและ  พวกรานัลก็มองอย่างใจจดใจจ่อ  ยกเว้นเพียงแต่เดเบียล่าที่เอาบาร์บีคิวมากินต่ออย่างไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาทำตรงหน้า....

     

    เปรี๊ยะ!!เพล้ง!

    "อ้ะ!!โอ๊ย!"

     

    "ท่านฮยอนอา!"

     

    จู่ๆก็เกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นตรงเศษผลึกนั่น  ก่อนจะระเบิดออก  ความเย็นจากผลึกหรือเศษน้ำแข็งนั่นไปบาดมือของฮยอนอาจนมือของเธอโดนกัดกร่อนด้วยความเย็น  ก่อนผิวฝ่ามือเล็กๆของเธอจะแตกออกเล็กน้อยจนเห็นเลือดและเนื้อข้างใน

     

    ฟุงยอนและพวกซีลาร์ ออโรร่า และพวกรานัลกับอัศวินก็มองอย่างตกใจ  โดยเฉพาะฟุงฮยอนที่ตกใจมากเขาไม่คิดว่าแค่เศษน้ำแข็งแตกออกมานี่จะทำร้ายผิวของฮยอนอาได้ถึงขนาดนี้

     

    "ไม่จริงน่า! นี่มันมาจากพลังธาตุของผู้เล่นระดับสูง!"

     

     ฮยอนอาจับมือที่เป็นแผลเหวอะเล็กน้อยแต่เป็นแผลที่น่ากลัว  พร้อมมองเศษน้ำแข็งที่แตกไปแล้วนั่นด้วยตาที่เบิกโพลง  พลังนี้มีระดับที่สูงมากเกินไปจนขนาดทักษะตรวจสอบที่สูงของเธอก็ไม่สามารถตรวจสอบได้หมด  ก็โดนแรงอัดของความต่างของพลังระเบิดใส่

     

    "ธาตุน้ำแข็ง....เกิดจากธาตุลม กับธาตุน้ำ  ฮยอนอาเธอตรวจสอบผิดรึเปล่าการที่จะมีพลังธาตุได้สองธาตุนั้นต้องมีพลังระดับขั้น 5 ขึ้นไปเลยนะ!


    ออโรร่าก็ตกใจด้วยอารมณ์เดียวกับฮยอนอา  ตอนนี้ออโรร่าเริ่มคิดว่าความกังวลของเธอในตอนแรกที่เก็บไว้ในใจตลอดกำลังจะกลายเป็นความจริงขึ้นเรื่อยๆ

     

    " เป็นพลังธาตุไม่ผิดแน่!

     ฮยอนอาหันกลับไปบอกด้วยความตื่นตระหนก....

     

    " ผมเห็นด้วยกับออโรร่านะ  คนที่มีระดับถึงพลังขั้น 5 มีแค่ 3 จักรพรรดิ์นี่ครับ  แต่เลบิสใช้พลังลาวา(ไฟ+ดิน)  เดอะ เกรทใช้พลังสายฟ้า( แสง+ลมและท่านทีรามิสุก็ใช้ดิน  กับลม  ไม่มีใครมีธาตุน้ำกับลมเลยนะครับมันจะเป็นไปได้ไง!"

     

    ฟุงยอนบอกฮยอนอาขึ้น  ถึงความเป็นจริงในตอนนี้เพราะฟุงยอนไม่เห็นเดียรินี่ตอนเปิดเผยพลัง  ถ้าเธอเปิดเผยพลังอันดับของเธอก็จะขึ้นไปอยู่อันดับ 4 และมีระดับพลังขั้น 5 ระดับ 25  ทันที

    ( อันดับ 1 ที่ทุกคนเห็นจะเป็นเดอะเกรท  แต่คนที่มีทักษะตรวจสอบมากถึงระดับสูง  จะเห็นในตารางอันดับว่า  ที่1 นั้น.....ไม่ใช่เดอะ เกรท)

     

    "................."

     

       ฮยอนอาที่มีทักษะตรวจสอบระดับสูง  ทำให้รู้ว่าตอนนี้มีผู้เล่นที่มีขั้น 5 ถึง 5 คนแล้ว  และเธอก็ยังรู้อีกว่าเดอะ เกรท  ที่ทุกคนเข้าใจกันว่าเป็นที่ 1 ของเกมส์นี้ 

    แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นผู้เล่นปริศนาที่ไม่สามารถตรวจสอบได้  อย่างมากคนที่มีทักษะระดับสูงในการตรวจสอบแบบเธอ และ ออโรร่าก็สามารถรู้แค่เพียงว่า  เดอะ เกรทเป็นเพียงแค่ที่ 2  ส่วนที่ 1 นั้นพวกเธอไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจน  เห็นเพียงแค่  '?????'   ตรงชื่อของคนคนนั้น

     

    " เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรายังติดสินอะไรแน่นอนไม่ได้  รานัลพวกเรารีบเดินทางลุยดันเจี้ยนต่อถึงชั้นกลางให้เสร็จๆซะ  แล้วรีบออกกลับไปข้างนอกอย่างด่วนจี๋เลย"



    โฮกกกกก!!!!!!!!!

    "!!!"

     

    ขณะที่ออโรร่ากำลังบอกว่าตอนนี้พวกรานัลควรนำทัพผู้เล่นกองกำลังลุยดันเจี้ยนนี้ลุยต่อยังไงนั้น  ก็มีเสียงคำรามดังก้องขึ้นทั่วชั้นดันเจี้ยน  ผนังถ้ำดันเจี้ยนเริ่มสั่นไหว   จนเศษหินร่วงหล่นมา

    ทำให้พวกผู้เล่นวิ่งหนีเศษหินพวกนั้นอย่างชุลมุน....

     

    "เฮ้ย!เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย"

    "โอ๊ย!เจ็บ!"

     

    " สัตว์อสูรอย่างงั้นเรอะ!"

    รานัลหันไปถามลูกน้องอัศวินใกล้ๆ 

     

    "บอสชั้นกลางครับท่านรานัล!"                   

     

    ติ๊ง!

    <บอสอสูรยักษ์วัวคลั่ง  โคทอรัส    ประเภท:อสูรระดับสูง   ขั้น 4  ระดับ  100   หากผู้เล่นถูกโจมตีจนเสียชีวิตจะลดระดับไปถึง 50 ระดับค่ะ  และรอเวลาเกิดใหม่ 24 ชั่วโมง>    

     

    เสียงระบบดังขึ้นในหัวของผู้เล่นทุกคน  พวกฮยอนอา  พวกซีลาร์  ออโรร่า  พวกรานัลก็ตกใจที่เห็นระดับบอสสูงถึงเพียงนี้   เพราะครั้งก่อนที่พวกเธอและพวกอัศวินเคยมาถึงชั้นบอสชั้นกลางนั้น  อสูรตัวนี้แค่ ขั้น 3 ระดับ 50 เท่านั้น   แสดงว่าต้องมีใครไปทำอะไรกับการกวาดล้างมอนเอตร์ในดันเจี้ยนที่เร็วเกินไป   ทำให้ระดับบอสสูงขึ้นมา

     

    " ทุกคนเตรียมรับมือx2!/ ซีลาร์  อาลีเซีย  เดเบียล่า ชุน  เตรียมพร้อมรบ!!"

     

    ถึงทุกคนจะไม่เข้าใจว่าทำไมบอสชั้นกลางที่ควรอยู่ในชั้น 30  มาอยู่ในชั้น 13 แบบนี้ได้  แต่ก็ไม่ควรคิดมาในตอนนี้  เพราะถ้าระบบดังขึ้นแสดงว่ามันต้องอยู่แถวนี้แล้ว  แล้วเข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อยๆเพื่อจะทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก

    ฟุงยอนสั่งพวกของเขาเตรียมพร้อมรบ  เช่นเดียวกับพวกรานัลที่สั่งอัศวินทุกระดับตั้งค่ายกล  และออโรร่าที่บอกพวกซีลาร์รวมถึงชุนร่างแยกให้เตรียมสู้....

     

    ตึง!ตึง!

    "มาแล้ว!"

    พวกเขามองไปที่ปลายทางอุโมงค์ด้านหน้าที่กว้างสูงถึง 10 เมตร   ซักพักก็มีอสูรยักษ์ที่สูงแทบชิดผนังซ้ำ   มีหน้าเป็นวัวรูปร่างเป็นมนุษย์  ถือขวานยักษ์วิ่งมาทางนี้.....แต่มันวิ่งมาเหมือนไม่ได้มาเพื่อโจมตีพวกเรา

    มันเหมือนหนีอะไรบางอย่าง....

     

    "อ้ะ!........" 

     

      พวกซีลาร์อุทานขึ้นพร้อมกัน  รวมถึงพวกรานัล  ออโรร่าก็มองอย่างแปลกใจที่พวกรานัลแสดงท่าทีหวาดกลัวจนตัวสั่นขึ้นมา  แต่เธอไม่นึกว่าพวกซีลาร์จะเป็นไปด้วย  ออโรร่าเริ่มเห็นลางไม่ดี  ผู้เล่นกับAIนั้น แตกต่างกันตรงที่จุดหนึ่งมากๆ  คือการรับรู้คลื่นพลังและและระดับพลัง


    พวกAI แบบพวกซีลาร์ กับพวกรานัลสามารถรับรู้พลังในตัวฝ่ายตรงข้ามได้หมดว่ามีพลังระดับที่มากหรือน้อย  ถึงจะไม่สามารถบอกระดับที่ชัดเจนได้  แต่ก็พอรู้ว่ามีมากหรือน้อยกว่าพวกเธอ 

     

    แต่สำหรับผู้เล่นถ้าไม่ใช้ทักษะตรวจสอบก็จะไม่รู้ระดับพลังเลย   ส่วนการรับรู้ด้านความรู้สึก  ส่วนมากก็เกิดจากจิตสังหารของผู้เล่นหรือสัตว์อสูรนั่นที่แผ่ออกมาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าอยู่ในระดับสูงหรือเปล่า  ผิดกับพวกAI  ที่ไม่ต้องรับจิตสังหารก้สามารถรู้ได้เลย

    ออโรร่ามองพวกซีลาร์  อาลีเซีย  เดเบียล่า  ที่อยู่ในร่างมนุษย์จับอาวุธขึ้นมาด้วยร่างกายที่สั่นเทา  เช่นเดียวกับพวกรานัล  อย่างหวาดๆ  ก่อนจะกลับมามองข้างหน้า  เพื่อรับมือกับอะไรบางอย่าง

    ที่เธอคิดว่า....เป็นต้นตอของไอบรรยากาศที่เย็นของถ้ำดันเจี้ยนนี่ที่เปลี่ยนแปลงไป.....

     

    " ยัยผมสามสีรีบหนีออกจากที่นี่เถอะ!"                                  

     

      ซีลาร์ตะโกนบอกเธอ  ออโรร่าฟังดังนั้นก็คิดว่าเป็นเหตุผลที่ดีเหมือนกัน  ถึงเธออยากจะรู้ว่าอะไรคือต้นตอของพลังนั่น  และทำให้บอสชั้นกลางที่กำลังวิ่งหนีมาใกล้พวกเธอนี่....ทั้งหมดนั้นอะไรคือสาเหตุกันแน่ 

    แต่มันก็ไม่คุ้มที่ต้องมาตาย...

     

    "พวกอัศวินทำไรอยู่วะ  ออกไปลุยกับวัวยักษ์นั่นดี!!"

    "เออ  ป๊อดรึไงวะ!!"

     

    พวกผู้เล่นด้านหลังเริ่มส่งเสียงขึ้น  เมื่อเห็นพวกอัศวินยืนเหมือนรอตั้งรับไม่ยอมบุกไปก่อนซักที  พวกผู้เล่นพูดแบบนี้เพราะว่าไม่รับรู้พลังอันตรายที่กำลังมาจากด้านหลังของอสูรวัวยักษ์นี่ที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ

    แถมที่พูดเพื่อให้อัศวินออกหน้ารับแทนช่วยลดเลือดมอนเตอร์ หรือ อสูรยักษ์นี่  เพื่อพวกเขาจะได้แจมฆ่ามันตอนท้าย  เพื่อเอารางวัลที่ดรอปและค่าประสบการณ์

     

    "ฮยอนอา รานัลรีบพาพวกของ..."

     

    ครืน!!!!

    "สร้างบาเรีย และใช้ทักษะป้องกันที่ดีที่สุดขึ้นมาเร็วเข้า!!!"

     

    คว้าง!!!!!

    "โฮกกกก!!!!!!!!!"

     

    เปรี๊ยะ!เพล้ง!

     

    พวกออโรร่า  รานัล  ฮยอนอา  และฟุงยอนที่รับรู้ไอพลังที่เข้ามาอย่างรวดเร็วก็ได้สั่งให้พรรคพวกของตนใช้ทักษะป้องกันขึ้นมาอย่างร้อนรน 

    ไอหมอกสีขาวอมฟ้าแผ่กระจายเข้ามาอย่างรวดเร็ว  ราวกับคลื่นสึนามิ  โหมกระหน่ำปกคลุมไปทั่วชั้นดันเจี้ยนนี้   บอสอสูรวัวยักษ์ที่โดนเข้าไปเต็มๆก็ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด  ก่อนจะดนไอบรรยากาศที่เหมือนหมอกนั่นแช่แข็งร่างอสูรอันใหญ่ยักษ์ของมัน  และก็ปริแตกสลายไปทันที

     

    "เฮ้ย!!อ๊ากก!!"

    "อะไรวะเนี่ย!!"

    "กรี๊ด!!หนาวจะตายแล้ว!!"

    "เจ็บๆกรี๊ดดด!!!!!!"

     

    เสียงร้องของผู้เล่นจำนวนนับ 3 พันคนที่อยู่ด้านหลังต่างร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด   จนผ่านไปซักพักไอหมอกนี่ก็หยุดลง  ออโรร่าลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากเรียกใช้ทักษะบาเรียถึง 3 ชั้น

     

    "............."

     

        เธอหันไปก็เห็นพวกซีลาร์ปลอดภัยเพราะไปหลบหลังพวกอัศวินและรานัลที่ใช้โล่ห์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาช่วยป้องกันเกือบพันโล่ห์  จนโล่ห์แสงของพวกเขาหลอมรวมกันกลายเป็นโล่ห์แสงขนาดใหญ่ต้านไอหมอกนั่นได้  แต่เพื่อความชัว  ทั้งสามสาวก็ใช้ทักษะป้องกันของตนเองป้องกันร่างแยกชุนสุดชีวิต

     

    เพราะร่างแยกที่เป็นร่างชุนนั้น  ไม่มีทักษะป้องกันอะไรเลย  ไม่เหมือนกับร่างเบลล์....การจะเปลี่ยนร่างได้ต้องให้ชุนออกปากเท่านั้น  ออโรร่าจึงสั่งไม่ได้  เธอทำได้เพียงแค่ให้เขาสู้ยังไงเท่านั้น 

    อัศวินจำนวนมากเช่นกันที่ต้านไว้ไม่ไหว  ก็ทำให้ตายกันไปถึงครึ่ง  เหลือเพียงแค่ 500 คนรวมรานัลด้วย   พวกฮยอนอาก็ดูเหมือนจะปลอดภัยกัน.....แต่ไม่มาก  ลูกน้องจาก 100กว่าคน  ตายไปจนเหลือเพียงไม่กี่สิบ

     

    ส่วนพวกผู้เล่นด้านหลังนับสามพันคน   ถูกแช่แข็งและแตกสลายหายกลายเป็นแสงแล้ว  บางคนที่ไม่แตกก็แข็งเป็นร่างน้ำแข็งอยู่อย่างงั้น

     

    "อึ้ก....นี่มันอะไรกัน"

     

    ฟุงยอนที่พอเห็นว่าไอหมอกนี่ทำให้กองกำลังดันเจี้ยนนี้  ตายไปเกินครึ่ง  และยังทำให้บอสขั้น 4 ระดับ 100 ตายไปอย่างง่ายดาย  ถึงเป็นเพราะมันไม่มีทักษะป้องกัน  แต่เลือดและพลังของมันก็น่าจะต้านไหว

     

    แต่มันก็กลายเป็นน้ำแข็งแตกสลายหายไป   ทำให้ฟุงยอนไม่คิดใช้ทักษะป้องกันเพียงคนเดียว  จึงใช้ร่วมกับพวกลูกน้องป้องกันกันเองและฮยอนอาสุดชีวิต

     

    " อาลีเซียยืนไหวมั๊ย....

    ซีลาร์ขยับไปหาอาลีเซียที่โดนน้ำแข็งกัดตรงแขนและขาข้างนึง  จนเลือดไหลออกมาเพราะผิวและเนื้อข้างในแตก

     

    "ขะ...ข้าไม่เป็นไร  แต่ว่าพวกเรารีบหนีออกจากที่นี่เถอะ"   อาลีเซียพยุงตัวเอง  พร้อมได้ซีลาร์ช่วยประคองขึ้นมา  ส่วนเดเบียล่าก็เข้าไปช่วยประคองอีกข้าง

     

    "พี่อาลีเซียไม่เป็นไรแน่นะคะ...."   เดเบียล่าถามอย่างเป็นห่วง

    "ตอนนี้อะไม่ แต่ถ้าพวกเราไม่รีบหนี....." 

     

    อาลีเซียที่กำลังจะพูดก็ต้องหยุดไป  พร้อมโดนความกลัวครอบงำจิตใจอีกครั้ง  เช่นเดียวกับซีลาร์ เดเบียล่า อละพวกรานัลเช่นกัน

     

    "ใครกันน่ะ!"

    ฟุงยอนลุกขึ้นอย่างเซๆ  พร้อมชี้ดาบไปที่เงาร่างนึงหลังไอหมอกที่กำลังเจือจางลงนั่น   ชายหนุ่มผมขาวใส่ชุดคลุมสีขาว  ชายเสื้อปล่อยยาวลงมา  กางเกงยาวสีขาวที่สวมบู้ทสีน้ำเงิน  เช่นเดียวกับถูงมือ  และตามขอบรองเท้า ถุงมือ ปกคอมีขนสัตว์สีขาวปอยๆออกมา   เขายืนอยู่ตรงจุดที่บอสวัวยักษ์นั่นตาย

    พลางหยิบของที่ดรอปจากมันขึ้นมาดู....ซักพักก็โยนทิ้งไป

    ถ้าลองสังเกตุดูร่างของชายหนุ่มผู้นี้มีไอสีขาวแผ่มาตลอด  มันเป็นไอความเย็น  สิ่งนี้ทำให้พวกออโรร่า ฮยอนอา และรานัลรู้เลยว่าต้นตอของไอบรรยากาศ  และคลื่นพลังไอหมอกมะกี้  มาจากฝีมือผู้ชายคนนี้

     

    "............"

     

    ผู้ชายคนนั้นพอได้ยินเสียงเรียกของฟุงยอน  ก็หันมามองจากที่หันหลังให้พวกเขาอยู่

    เขาเป็นชายหนุ่มผมขาว  ดวงตาสีน้ำเงิน  ผิวขาวที่ขาวมาก  ใส่ตุ้มหูไม้กางเขนสีน้ำเงิน  ถือดาบคาตานะยาวสีขาวที่มีลายสีน้ำเงินอีกทีตรงกลางดาบ

    ชายคนนั้นไม่ตอบอะไรกลับฟุงยอน  พลางมองด้วยสายตาที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ  พลางเดินไปหาพวกเขาอย่างช้าๆ

     

    ตึก....ตึก

     

    เสียงฝีเท้าที่เบา  แต่ความเงียบที่เข้ากลืนกลินทำให้เสียงดังก้องไปทั่วถ้ำดันเจี้ยน  ที่ตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง

     

    " ใครที่บังอาจทำร้ายท่านฮยอนอามันผู้นั้นก็คือศัตรู   ทุกคนกำจัดมัน!!"

     

    ฟุงยอนเริ่มทรงตัวได้  แผ่พลังขึ้นมาเพื่อเตรียมสู้   พร้อมสั่งลูกน้องที่เหลือประมาณครึ่งร้อยบุกโจมตีเพื่อฆ่าชายผู้นี้ก่อนทันที  ที่บังอาจมาทำให้หัวหน้าของพวกเขาต้องมาบาดเจ็บ

    "เฮ!!!"

    "ทุกคนอย่า!"

    ฮยอนอารีบร้องห้ามอย่างร้อนรน  ฟุงยอนที่กำลังโกรธไม่รอฟังคำสั่ง  เขาและลูกน้องครึ่งร้อยก็วิ่งทะยานเข้าไปหาชายผมขาวทันที

     

    "ตายซะ!!!!!"

     

    "................"

     

    ชายผมขาวที่กำลังเดินมาช้าๆมองไปที่พวกฟุงยอนที่วิ่งเข้ามากัน  ด้วยสีหน้าที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ  ก่อนเขาจะนำมือแตะด้ามดาบอย่างช้าๆ แล้วจากนั้น.....

     

    ฉัวะ!!!!!

    ตุบ

     

    ตึก ตึก

     

    เสี้ยววินาทีนั้นพวกฟุงยอนและเหล่าลูกน้องครึ่งร้อย  ก็รู้สึกมีอะไรซักอย่างลอดผิวหนังใบหน้าของพวกเขาไป   และพอรู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็เห็นว่าชายผมขาวยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาแล้ว

    พวกเขาได้ยินเสียงฟัน  แต่ทำไมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับร่าง......

     

    ในขณะที่พวกเขาคิดอยู่นั้นและกำลังจะวิ่งกลับไปฟันชายผมขาว 

     

    "มะกี้แกทำอะไรวะ  ช่างเถอะตายซะ...!"

     

    ฉูด!!!!ฉูดดด!!!!!!!!

    แผละ!

     

    ร่างของลูกน้องของพวกฟุงยอนก็มีเลือดฟ่งกระจายกระฉูดออกมาจากใบหน้าเป็นเส้นตรง   แล้วซักพักร่างกายของของพวกเขาก็แยกเป็นสองส่วน  ราวกับเนื้อสเต๊กที่ถูกหั่นอย่างประณีต

    พวกออโรร่า ฮยอนอา และพวกรานัลก็มองด้วยสายตาเบิกโพลง....

     

    พวกเขาไม่กล้าที่จะขยับเลยแม้แต่น้อยตอนนี้....แม้แต่ออโรร่าก็มือไม้สั่น....พลางมองคนตรงหน้าอย่างหวาดวิตก

     

    "กะ...แก!!ทักษะเดือดดาลทีนี้ก็ตาย!!!"

     

    ฉึก!!ฉัวะ!ฉูดด!!!

     

    "ฟุงยอน!!!"

     

    ฟุงยอนเห็นลูกน้องที่ตายไปทั้งหมด  ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวของผู้ชายคนนี้  ก็หวาดหวั่นเล็กน้อย  ก่อนจะเรียกทักษะเดือดดาลเพื่อเสริมแกร่งตัวเอง  พลังของเขาลุกโชนขึ้นก่อนจะทะยานไปหาแล้วนำดาบคู่ของเขาเตรียมฟันคอผู้ชายผมขาวคนนี้

     

    แต่แล้วชายคนนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตาเขา  ขนาดการมองด้วยทักษะเดือดดาลของเขาก็ยังมองไม่ทัน   แล้วชายผมขาวก็มายืนด้านหลังเขา  แล้วก็พบจุดจบแบบลูกน้องเขา  หัวของฟุงยอนเลื่อนลงออกจากผ่าด้ายการฟันที่คมกริบ

     

    เลือดของฟุงยอนก้พุ่งกระฉุดออกมาจากคอส่วนบนที่ไร้ศรีษะ.....

    ฮยอนอาตะโกนขึ้นเมื่อเสียลูกน้องคนสนิทไป....

     

    ชายผมขาวหลังฆ่าฟุงยอนไปก็เดินมาอย่างช้าๆแบบเดิม  ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแล้วเดินไปทางพวกออโรร่า  รานัล และฮยอนอา   ซีลาร์ อาลีเซีย เดเบียล่า  มองด้วยอาการตื่นกลัวก็จะกัดฟันเร่งพลังตัวเองเพื่อเตรียมสู้

    เพราะความไวระดับนี้ของชายผมขาวหนียังไงก็คงไม่พ้น   ออโรร่า ฮยอนอา และพวกอัศวินรานัลเห็นพวกซีลาร์ที่พร้อมเตรียมสู้  พวกตนก็กัดฟันเตรียมสู้มั่ง

     

    คลื่นพลังแผ่ออกมาจากทุกคนอย่างรุนแรง.....

     

    " เอาเรื่องนี้ไปรายงานบอสเธอด้วยก็ดีนะหลังจากคืนชีพแล้วฮยอนอา"               

     ออโรร่าพูดขึ้นโดยสายตายังคงจ้องไปที่ชายผมขาวที่กำลังเดินมาอย่างช้าๆ  เธอก็จับดาบยาวสีดำของตนไว้แน่น 

     

    "....นั่นสินะคะ....ต้องกลับไปรายงานว่าได้เจอกับชายคนนี้แล้ว"  ฮยอนอาพูดอย่างเหงื่อตก

    ออโรร่ายิ้มเล็กๆก่อนจะมองไปที่ชุนร่างแยกที่ยืนตั้งท่าพร้อมเรียมสู้เช่นกัน  เพราะรับรู้ได้ถึงพลังอันตราย... เธอและพวกซีลาร์  เดเบียล่า  อาลีเซีย  มองที่ชุนร่างแยกพร้อมคิดในใจด้วยคำพูดเดียวกัน

     

    "ชุน....อย่าเพิ่งกลับมาเข้าร่างตอนนี้นะ"



    ปล.เม้นกันเยอะๆนา><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×