คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♡ cornflake and milk 。01 -
0 1
ทุกๆคนต่างมีปัญหา และมีช่วงเวลาที่เลวร้ายกันทั้งนั้น – โฟบี
ความอดทนของคนเรามีจุดสิ้นสุดอยู่ที่ตรงไหนกัน
“ ฉันอยากกินน้ำส้ม ไปซื้อให้หน่อย ”
ไม่แน่ใจว่านี่เป็นคำสั่งครั้งที่เท่าไหร่ เพราะผมเองก็ไม่ได้นับ
เวลาสองวันสำหรับคนอื่นคงจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่พนันได้เลยว่าหากใครก็ตามที่ต้องมาตกอยูในสถานการณ์เดียวกันกับผม ระยะเวลาเพียงแค่สองวันจะให้ความรู้สึกราวกับสองปี เข็มนาฬิกานั้นช่างเดินเชื่องช้าเสียจนอยากจะแปลงกายเป็นหน้าปัดเร่งให้พวกมันทำงานกันไวขึ้นอีกหน่อย
ริมฝีปากสีหวานเม้มเข้าหากันแน่นพลางทอดสายตามองไปยังคนผมสีแดงเพลิงที่นั่งกระดิกเท้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ฝ่ายนั้นใช้ดวงตากลมโตจ้องมองผมอย่างเย็นชาและไร้ซึ่งความรู้สึกอีกเช่นเคย
ที่หางคิ้วของเขามีพลาสเตอร์ยาปิดเอาไว้ ก็คงจะไม่พ้นเรื่องชกต่อยธรรมดาหรืออะไรที่เลวร้ายกว่านั้น และแน่นอนว่าผมไม่อยากจะรู้ถึงสาเหตุของมันสักนิด
“ ไปซื้อน้ำส้มให้หน่อย ”
คำพูดของเขาเหมือนต้องการเอ่ยเร่ง อาจจะเพราะเห็นว่าผมไม่ยอมไปไหนสักที
แน่นอนว่าคนที่เสียเปรียบทั้งขึ้นทั่งร่องแบบผมคงไม่สามารจะปฏิเสธหรือผลักภาระไปให้ใครได้ ถึงแม้ในใจจะอยากทำมากเพียงใดก็ตาม ผมจ้องมองเขานิ่งๆแบบที่ผมชอบทำอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังแล้วเตรียมสาวเท้าเดินไปยังโรงอาหาร
“ จะไปไหน ”
หากก็ถูกเสียงทุ้มของคนที่ยังนั่งอยู่เอ่ยเรียกเอาไว้เสียก่อน
“ ก็จะไปซื้อน้ำส้มให้ไง ”
ผมไม่แน่ใจว่าทำหน้าแบบไหนออกไปเขาถึงได้เดาะลิ้นตัวเองเล่นแบบที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ ผมไม่แน่ใจว่ามีใครเคยบอกเขาไหมว่าหน้าตาของเขามันไม่รับแขกเอาเสียเลย
แววตาของเขาดุมากแต่ก็เจือปนไปด้วยความเจ้าเล่ห์เสียเต็มหลอด..
“ ฉันบอกให้นายไปซื้อในโรงอาหารงั้นหรอ ” เอ่ยถามแต่เหมือนไม่ได้ต้องการคำตอบ เขาหยุดนิ่งไปเพียงชั่วขณะแล้วจากนั้นเขาก็พูดต่อ “ ฉันจะกินน้ำส้มร้านตรงหัวมุม.. ซอยสิบเอ็ดน่ะรู้จักไหม ถัดจากโรงเรียนเราไปแค่สามซอย ”
หมอนี่พูดเหมือนกับว่าสามซอยมันห่างกันซอยละหนึ่งเมตร ผมสาบานได้เลยว่าซอยหนึ่งต้องห่างกันห้าร้อยเมตรเป็นอย่างต่ำ ทางไกลขนาดนั้นไม่มีใครอยากเดินเท้าแน่ถ้าเป็นไปได้ แน่นอนล่ะว่าผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้น..
“ เร็วเข้าสิ จะยืนทำหน้าเอ๋ออีกนานไหม ”
ผมจะขัดใจอะไรคนที่กุมความลับของตัวเองไว้ได้ล่ะ.. จริงไหม?
เดินจนหอบแฮ่กเป็นลูกหมาเมาแดดมาได้สักระยะหนึ่ง ในที่สุดสองเท้าของผมก็มาหยุดหยุดอยู่หน้าร้านขายน้ำส้มของคุณป้าคนหนึ่ง มันเป็นร้านเล็กๆ ที่ถูกเปิดไว้หน้าบ้านเหมือนเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์มากกว่าจะใส่ใจในการแสวงหากำไรถึงขั้นเลี้ยงชีพ และผมเองก็แน่ใจว่าร้านเล็กๆนี้ไม่ได้ติดโพลของกินน่าอร่อย10 อันดับใกล้โรงเรียนเลยด้วยซ้ำ
ไม่แน่ใจว่าชานยอลติดใจอะไรน้ำส้มร้านนี้จนถึงขั้นต้องใช้ให้ผมถ่อสังขารเดินมาซื้อตั้งไกลเป็นกิโล
“ ป้าครับ น้ำส้มสามขวด ”
ผมสั่งเผื่อๆไปเพราะไม่รู้ว่าคุณชายหัวไฟเขาต้องการกี่ขวด ถ้าซื้อไปขวดเดียวเดี๋ยวก็บอกว่าน้อยไป แต่ถ้าซื้อไปห้าขวดเลยก็เกรงจะหาว่าประชดอีก แล้วอีกอย่าง ผมกลัวว่าเขาจะให้แบกกลับมาคืนหรือไม่ก็มาซื้อเพิ่มให้เนี่ยสิ
ถึงหน้าตาจะดูซื่อบื้อแต่ผมก็ไม่ได้โง่นะ..
และไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ผมก็รู้ได้อยู่ดีว่าหมอนั่นน่ะทำไปเพราะต้องการจะแกล้งผม
ผมรู้ดี.. แต่ที่ไม่พูด เพราะพูดไปก็ทำอะไรไม่ได้เลยต่างหาก..
“ เพิ่งมาซื้อหนแรกหรอจ๊ะ ไม่คุ้นหน้าเลย ”
คุณป้าแกเอ่ยถามพลาง หยิบขวดน้ำส้มใส่ถุงไปพลาง
“ อ่า.. ครับ พอดีมีเอ่อ..เพื่อนฝากมาซื้อน่ะครับ ”
“ มัธยมซออุลนี่นา.. เดินมาไกลเหมือนกันนะหนู ”
คุณป้าคงจะสังเกตจากเครื่องแบบนักเรียนสีน้ำเงินเข้มของผม อยากจะเอากระดาษมาเขียนแปะบนหน้าผากเหลือเกินว่าผมไม่ได้เต็มใจจะเดินมาไกลถึงขนาดนี้หรอก แถมนี่ก็เป็นเป็นเวลาที่ผมควรจะได้นั่งกินอาหารอย่างสบายใจอยู่ในโรงเรียนด้วยซ้ำไป
ผมไม่ได้ตอบอะไรป้าแกไป ทำได้แค่ยิ้มบางๆแล้วพยักหน้ากลับไปเท่านั้น
“ อ่ะนี่ลูก.. สามขวด ” แกยื่นถุงพลาสติกบรรจุน้ำส้มให้ “ น้ำส้มร้านป้าอร่อยนะลูก ไว้มาอุดหนุนบ่อยๆนะ ป้าคั้นเองกับมือดื่มแล้วไม่ท้องเสียแน่นอน ”
แกยิ้มกว้าง ซึ่งผมเองก็ยิ้มกลับไปเช่นเดียวกัน ผมโค้งให้แกเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเตรียมตัวเดินกลับโรงเรียน
แต่เดี๋ยวนะ … ดื่มแล้วไม่ท้องเสียแน่นอน
ผมชะงักขาของตัวเองที่กำลังจะเดินต่อขณะกำลังประมวลคำพูดของคุณป้าที่แว้บเข้ามาในสมอง ยกถุงใส่น้ำส้มขึ้นพินิจพิจารณาสักพัก ก่อนจะยกยิ้มกรุ้มกริ่มแบบที่เคยเห็นอยู่บนมุมปากของคุณปาร์คตัวร้ายออกมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างดีๆออก
อะไรบางอย่างดีๆ..
ผมหันหลังกลับแล้วเดินไปยังร้านเดิม คุณป้าคนเดิมกำลังยืนจัดเรียงขวดน้ำส้มในตู้
“ เอ่อ..ป้าครับ ”
แกเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก ก่อนจะเลิกคิ้วและส่งยิ้มบางๆให้
“ แถวนี้มีร้านขายยามั้ยครับ? ”
เท้าของผมก้าวมาหยุดอยู่บนส่วนที่เรียกว่าดาดฟ้า ดวงตาเรียวรีสอดส่ายหาเจ้าตัวร้ายเงียบๆ ก่อนจะพบปาร์คชานยอลที่ทอดแผ่นหลังพิงลูกกรงเหล็กนิ่งๆ เส้นผมสีแดงเพลิงไหวตามแรงลมที่พัดกระทบกับเสี้ยวหน้าหล่อเหล่าของเขาพร้อมกับเปลือกตาสีอ่อนที่ปิดลง ชานยอลเลือกพื้นที่ในการนอนได้ดีทีเดียวเพราะตรงที่เค้านอนอยู่มีเงาของแท็งก์น้ำสูงบังอยู่พอดี ไอแดดร้อนๆเลยไม่สามารถทำร้ายเจ้ามนุษย์ตัวยาวที่นอนอยู่ได้เลย
ผมยืนจ้องมองเส้นผมสีแดงของเขาเฉยๆ มันดูสวยมากเพราะมันตัดกับสีของท้องฟ้า
นึกสงสัยอยู่ทุกทีเวลาที่มองไปยังกลุ่มผมนุ่มของเจ้าตัว คนเราจะเอาความกล้าที่ไหนลุกขึ้นมาทำผมสีแดงพร้อมกับไถเกรียนได้?
เขาก็มีข้อดีแค่เพียงข้อเดียวเท่านั้นแหละที่ผมนึกชื่นชม
ผมยิ้มออกมาหน่อยๆเพราะภาพตรงหน้ามันช่างดูน่ารักขัดกับความเป็นจริงซะเหลือเกิน เวลาที่ชานยอลหลับอยู่ไม่ต่างอะไรกับเด็กสามขวบเลยสักนิด เสี้ยวนึงในใจอยากให้ปีศาจร้ายในตัวของมนุษย์เผด็จการตรงหน้านอนหลับจำศีลแบบนี้ไปตลอด
“ (゚-゚ )( 。_。) “
ลังเลชะมัด
ถ้าผมปลุก เขาจะโกรธที่ผมมาขัดเวลานอนกลางวันแสนหวานของเค้าไหม?
ผมสาวเท้าไปใกล้ๆเขา มือข้างหนึ่งที่กำขวดน้ำส้มเปิดแล้วในมือแน่น ริมฝีปากเล็กๆของผมอ้าออกจากกันแต่ไร้ซึ่งเสียงใดๆจากลำคอ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจจะเรียกเขา ถ้ารอให้น้ำส้มในมือเย็นลงก็กลัวเขาจะว่าผมอีก
“ ชะ..ชานยอล “
ชานยอลลืมตาและใช้ดวงตากลมๆของเขาจ้องมองมาที่ผมพร้อมกับสื่อสารทางสายตาว่า ‘ ทำไมเพิ่งจะเรียก ’ นิ้วยาวๆของเขายกขึ้นเสยผมที่ปรกอยู่เกือบถึงดวงตาของเขาอย่างติดจะรำคาญนิดๆ ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำติดหูของเขาจะเอ่ยวาจาร้ายกาจพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง
“ เรียกชื่อนี่สนิทกันหรอ? “
และนั่น
“ เรียกฉันว่าคุณปาร์คสิ “
ทำให้ผมสะใจจริงๆ
“ เรียกสิแบคฮยอน “
ที่เลือกใส่ยาถ่ายลงไปในขวดน้ำส้มของเขา
“ คุณปาร์ค.. “
พูดตามที่เขาบอกพร้อมกับยื่นขวดในส้มในมือให้กับเขา ผมเลือกที่จะหลุบตามองพื้นไม่ได้กลัวคนที่ยังนั่งอยู่แต่อย่างใด แต่สาเหตุมันเป็นเพราะรอยยิ้มที่ผมวาดขึ้นเต็มสองข้างแก้มต่างหากล่ะ
เชื่อหรือยังว่าแบคฮยอนคนนี้น่ะ ไม่ได้โง่นะ
ถ้าให้จับเวลาอย่างแน่นอนโดยใช้นาฬิกาล่ะก็ เวลาที่ปาร์คชานยอลอยู่ในห้องน้ำก็คงจะประมาณสามสิบนาทีได้แล้วล่ะมั้ง และระยะเวลาที่ยาวนานเกินกว่าคนทั่วไปใช้เข้าห้องน้ำกันนั้นทำให้ไอ้เพื่อนตัวดีที่นั่งทิ้งตัวรอบนขอบอ่างล้างหน้าอดท้วงขึ้นมาไม่ได้
“ ไอ้เหี้ยชานยอล นี่มึงกะจะปักหลักสร้างแลนด์มาร์คในส้วมเลยรึไงวะ นานชิบ “
“ เออ เสร็จแล้ว.. “
เสียงติดทุ้มโรยแรงดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกมาจากพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่ในเวลานี้ขาวซีดไม่ต่างอะไรกับกระดาษเอสี่ยี่ห้อดับเบิ้ลเอ ชานยอลทาบมือลงกับผนังกำแพงเกลี้ยงๆเพื่อพยุงตัวเองพร้อมกับเสียงหัวเราะชั่วร้ายที่ดังขึ้น ดูเหมือนไอ้เพื่อนตัวดีจะเป็นสุขกันเหลือเกินเมื่อเห็นคนอย่างเขากำลังจมทุกข์ก้อนทองอยู่อย่างนี้
โดนรุมกระทืบยังไม่ขนาดนี้เลยเฮ้ย..
“ มึงไหวป้ะวะชานยอล ”
เป็นเสียงของคิมจงอินเพื่อนซี้ซารังแฮของปาร์คชานยอลที่ดังขึ้น เพื่อนผิวเข้มถามเหมือนเป็นห่วงแต่ถ้าเหลือบไปมองเขาสักนิดก็จะรู้เลยว่าไอ้น้องงินคนนี้น่ะกำลังกลั้นขำอยู่
“ ไหวมากดิ ดูหน้ากูสัส ”
คนโดนเล่นงานตอบเสียงเบา มือหนายกขึ้นปาดเหงื่อบริเวณขมับอย่างเบามือ ไม่สิไม่ได้เบามือเรียกว่าไม่มีแรงน่าจะสมจริงมากกว่า ชานยอลลากตัวเองมาแปะอยู่ตรงขอบอ่างล้างหน้าพลางก็กวักน้ำล้างหน้าตัวเอง
“ แล้วมึงไปกินเหี้ยไรมาวะ ”
เพื่อนสนิทมือซ้ายอย่างเซฮุนถามออกมานิ่งๆอย่างที่มันชอบทำเป็นประจำ ไอ้คนนี้สิที่เป็นห่วงจริงไม่เหมือนไอ้ดำกัมจงที่ชานยอลเหมือนเห็นคำว่าสมน้ำหน้าแปะอยู่กลางหน้าผากดำๆของมันแว๊บๆ
มอบคำว่าเพื่อนเฬวให้..
“ ทั้งวันกูยังไม่ได้กินอะไรเลย ” พูดออกไปแบบนั้นด้วยความแน่ใจเพราะตั้งแต่เช้าเค้ายังไม่ทันจะได้ลงไปที่โรงอาหารเลยด้วยซ้ำ แต่เดี๋ยวนะ.. ตอนเช้า ความทรงจำแล่นปรี่อย่างกากๆขึ้นมาในเสี้ยวสมองของเขาอย่างรวดเร็วจนพี่ปาร์คของพวกเราได้บทสรุปสำหรับอาการท้องเสียจู๊ดๆเป็นคำสองคำสั้นๆว่า
ไอ้-เตี้ย !!
“ กูรู้ละว่าทำไมกูถึงท้องเสีย ” เจ้าของผมสีแดงเพลิงเท้าแขนไว้กับขอบอ่างอย่าหาที่พึ่ง “ เดี๋ยวพวกมึงไปหาไรกินก่อนเลยก็ได้นะ ”
“ ทำไมวะไอ้ชานมึงจะไปไหน? ”
“ ไปขี้ดิ แม่งมาอีกระลอกแล้วโว้ยย ”
พูดได้แค่นั้น ปาร์คชานยอลก็รีบสาวท้าวประดุจดั่งตัวเองเป็นตัวแทนประจำชาติเกาหลีแข่งวิ่งกรีฑาโอลิมปิคเข้าส้วมไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เพื่อนขาวกับเพื่อนดำที่นั่งอยู่ข้างนอกชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางขึ้นมาจับจรดริมฝีปากแล้วยืดไปทางห้องน้ำห้องแรกที่คุณปาร์คใช้ปลดปล่อยขบวนลูกกระสุนเคลือบทองเหมือนอย่างในหนังเรื่องเดอะฮังเกอร์เกมส์ ก่อนจะพูดออกมาพร้อมกันว่า
“ ขอให้โชคเข้าข้างคุณตลอดเกมส์นะเว้ยไอ้คุณปาร์ค “
“ ไอ้..พวก..เหี้ย “
ตามมาด้วยเสียงแพร่ดยาวๆที่เล็ดลอดออกมาจากบานประตู สองซี้หัวเราะออกมาพร้อมกันพลางแปะมือไฮทัชกันอย่างสะใจ สองแสบทอดมองตากันราวกับจะสื่อสาร ปากอ้าออกร้องเพลงเป็นกำลังใจให้พร้อมกับสองขาที่พาก้าวเดินออกจากบริเวณห้องน้ำ
“ จึงอยากจะขอส่งเพลงนี้แทนพลัง ว่าอย่ากลับหลังขอให้เดินต่อไปสักวันต้องถึงจุดหมายที่เธอตั้งใจเอาไว้ เพื่อให้รู้ว่า....มึงจะชนะขี้ตัวเองได้ม้ายยยยยย ”
ไอ้เชี่ยดำกัมจงรอให้กูออกจากส้วมให้ได้ก่อนนะมึ๊งง!!
เกือบชั่วโมงให้หลัง ร่างสูงๆ ก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับสภาพราวกับคนจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ เดินไปวักน้ำตรงอ่างขึ้นล้างคราบเหงื่อที่ท่วมเต็มใบหน้ารวมไปถึงช่วงลำตัว และเมื่อเงยหน้ามองตัวเองในกระจกก็ถึงกับตะลึง
นี่มันคนหรือซากศพบนเทือกเขาธิเบตวะไอ้ชิบหาย
มองดูใบหน้าซีดเผือดก่อนจะหันซ้ายหันขวาสำรวจรอบใบหน้าพร้อมกับทำหน้ายุ่ง อันที่จริงแล้วชานยอลยังปวดตรงช่วงท้องน้อยอยู่หน่อยๆ ด้วยซ้ำ แม้จะใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่เขาก็พอจะเดาได้ว่าข้าศึกล็อตต่อไปคงจะจัดทัพเข้าประชิดประตูทวารในอีกไม่ช้า
แต่มึ๊ง.. จะให้นั่งง่อยอยู่ในห้องน้ำพร้อมกับทนดมกลิ่มเสมลเวลคั่มตั้งสองชั่วโมง ปาร์คชานยอลก็เห็นว่ามันไม่น่าบันเทิงสักนิด
คิดได้อย่างนั้นร่างสูงๆ ก็ตัดสินใจเดินกุมท้องออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพซากศพอย่างที่ว่า แทบจะก้มหน้าเดินตลอดเวลาเพราะไม่อยากจ๊ะเอ๋กับพวกผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาให้ยัยพวกนั้นเอาเขาไปนินทาเล่นกันสนุกปาก
ถ้าโดนอย่างนั้นจริงๆ ชีวิตพี่ปาร์คคนเท่ก็จบเห่กันพอดี อุตส่าห์ย้อมผมสีแดงแถมด้วยไถหลังนิดๆจนสาวต้องเหลียวหลังให้ในระยะสองร้อยเมตร ขืนโดนสบประมาทแบบนั้นคงต้องอับอายขายขี้หน้าไปจนจบชั้นมัธยมปลายเป็นแน่ และมันจะไม่อะไรเลยถ้าชานยอลไม่ได้ท้องเสียจนสภาพไม่ต่างอะไรกับกระดาษถนอมสายตาเดินได้แบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าไอ้สาเหตุหลักที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้น่ะมันก็ชัดเจนทนโท่อยู่แล้วว่าเพราะอะไร
ไอ้มนุษย์เต้าหู้ ไอ้หน้าจืด ไอ้วัดสายตาประกอบแว่น! บังอาจมากนะที่กล้ามาแหยมกับคุณปาร์ค!
“ อย่าให้ฉันเจอนายนะไอ้เตี้ย.. โอ้คุณพระ.. ปวดท้องชิบ ”
ซี้ดปากก่อนจะกดจุดลงไปบนพุงตามประสาคนปวดท้อง ยืนทำตัวงออยู่ใต้ต้นไม้ต้นเบ้อเริ่มอายุเป็นร้อยปีประจำโรงเรียน ก่อนจะสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหางตาของตัวเอง
หันหน้ากลับไปมองตามสัญชาติญาณก็เจอกับไอ้ตัวปัญหาที่ยืนเบิกตารีๆที่รู้ว่าเบิกยังไงก็ตาตี่อยู่ดีอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล คนตัวเล็กกำลังดูดน้ำแดงในแก้วในสภาพที่หลอดยังคาปากพร้อมกับทำหน้าเหมือนเจอผีเมื่อเห็นเขา แบคฮยอนผงะพลางก้าวถอยหลังออกไปสองก้าว
“ บยอนแบคฮยอน.. ”
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ ฝ่ายนั้นก็หันหลังมือเล็กกำแก้วน้ำแดงแรงฤทธิ์แน่นพลางส่งตัวเองวิ่งสี่คูณร้อยเมตรออกไปในทันที
“ ย๊า! ไอ้แว่น! ไอ้เตี้ย! อย่าหนีนะโว้ย! ”
คนตัวสูงตะโกนไล่หลังพร้อมกับวิ่งตามอย่างอ่อนแรงให้ฟีลประมาณเวลาดูวอล์คกิ้งเด๊ด แล้วเห็นซอมบี้ซะเงาะซะแงะวิ่งแท่ดๆมาไล่จับประมาณนั้น วิ่งได้ก็บุญแล้วครับสำหรับสถานการณ์ท้องร่วงแบบนี้ คนตัวสูงมองทอดออกไป แม้จะเห็นแผ่นหลังบางอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะวิ่งไปไกลกว่าที่เขาจะตามทัน
ไม่ใช่ว่าแบคฮยอนวิ่งเร็วขึ้นหรอก แต่เป็นเพราะเขากำลังวิ่งช้าลงต่างหาก
“ ย่าห์.. ”
เริ่มรู้สึกได้ถึงความปวดท้องที่ถาโถมเข้ามาเหมือนใครปล่อยหมัดฮุคซ้ายฮุคขวาใส่อย่างจัง ชานยอลอยากจะวิ่งต่อแต่เขาวิ่งไม่ไหวแล้ว เจ้าของผมสีแดงเพลิงทรุดนั่งลงไปกับพื้นในท่าคุกเข่า ก่อนจะยกมือขึ้นมากดท้องไว้พร้อมกับใบหน้าหล่าเหลาที่เหยเกเพราะความเจ็บปวด
โชคดีที่นั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับตอนที่เจ้าคนต้นเหตุหันหน้ากลับมามองระยะห่าง
แบคฮยอนหยุดขาของตัวเองเอาไว้เพียงเท่านั้น ตาเรียวรีจ้องมองร่างสูงๆที่กำลังคุกเข่าพร้อมกับก้มหน้าลง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและกำลังคิดไม่ตก
เฮ้ย จำได้ว่าใส่ยาถ่ายลงไปในน้ำส้มแค่นิดเดียวเองนะเนี่ย.. ของเขาดีจริงๆแฮะ
เดี๋ยว นั่นไม่ใช่ประเด็น
ที่เขาต้องสนใจคือไอ้มนุษย์ตัวสูงนั่นต่างหาก ไม่ใช่ว่าจะนึกพิศวาสหรือเป็นห่วงอะไรหรอกนะ แต่จากการที่ดูยอดนักสืบโคนันคุงมาเกือบร้อยตอน ถ้าปาร์คเกิดชานยอลตายขึ้นมาแล้วนักสืบมาสืบดูล่ะ ถ้าสาเหตุมาจากยาถ่ายในน้ำส้ม แล้วถ้าที่ขวดน้ำส้มมีลายมือของเขาอยู่ล่ะ!!
อ้อ หรือถ้าหนักกว่านั้น.. ถ้าหมอนั่นเอาเรื่องที่เขาทุจริตการสอบไปฟ้องอาจารย์
คิดได้อย่างนั้นคนตัวเล็กก็ไม่ลังเลที่จะเดินย้อนกลับไปทางเดิม เขาหยุดยืนโดยเว้นระยะห่างกับร่างสูงที่กำลังนั่งคุกเข่าท่าเดิมไม่ผิดเพี้ยน แบคฮยอนยืนเก้ๆกังๆอย่างไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไรให้ดูเป็นปกติมากที่สุด
“ คุณปาร์ค .__. ”
จะใช้ตีนสะกิดก็กะไรอยู่ เลยตัดสินใจย่อขาลงนั่งยองๆกับพื้น ก่อนจะยกนิ้วเรียวขึ้นมาจิ้มๆลงไปบนต้นแขนแน่นแทน
จิ้ม จิ้ม ..
ใจชื้นเมื่อมีสัญญาณตอบรับโดยการเงยหน้าขึ้นมอง เพราะนั่นเป็นการบอกเป็นนัยน์ๆอยู่แล้วว่าชานยอลคงไม่ตายง่ายๆ แต่ก็ตกใจไม่น้อยที่เห็นใบหน้าเจ็บปวดนั้นซีดอย่างกับไข่ต้มซีพีแช่ช่องฟรีส นึกสงสัยว่านี่ยาถ่ายไม่กี่สิบบาทมันทำงานดีเกินไปไหม
“ เป็นอะไรมากไหม.. นายปวดท้องหรอ ”
“ นายก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนี่ ”
เอ่ยเสียงแหบแห้งจนอีกฝ่ายนึกเห็นใจ ความรู้สึกผิดก่อขึ้นเป็นก้อนมวลกลมๆในช่องอกช้าๆ
“ รู้อะไร.. แล้วนายกินอะไรเข้าไปหรอ ‘ ‘ ”
แต่เรื่องอะไรจะสารภาพให้โง่ล่ะว่าเขาเป็นคนทำ
“ กล้าพูด ” คนตัวสูงอยากจะแค่นหัวเราะใส่หน้าแบคฮยอนดังๆ แต่ตอนนี้หมดแรงจนไม่อยากจะขยับปากพูดเลยด้วยซ้ำ “ ในน้ำส้ม.. นายใส่อะไรลงไป ”
“ หือ.. เปล่านี่ ”
ลอยหน้าลอยตาพูดจนคนฟังนึกหมั่นไส้อยากจะยกบาทาไปลูบพักตร์ให้สักที
“ นายจะสารภาพดีๆหรือจะให้ฉันไปหาหมอตรวจหาสารเหวอะไรอยู่ในท้องฉัน ฮะ? ”
ซวยละ..
กลายเป็นแบคฮยอนเองที่กำลังหน้าซีดแทนคนที่กำลังป่วยอยู่ ขืนถ้าชานยอลทำอย่างนั้นก็รู้หมดพอดีว่าเขาใส่ยาอะไรลงไปในน้ำส้ม แถมนั่นน่ะเรื่องใหญ่สุดๆ ถ้าชานยอลเอาเรื่อง แบคฮยอนก็ไม่แคล้วจะต้องโดนจับเข้าคุกหัวโตแน่ๆ
ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังคิดไม่ตกแถมยังทำหน้าตาล่อกแล่กเหมือนลูกหมาหายใจไม่ออกอยู่นั้น ปาร์คชานยอลคนหัวแดงที่นั่งเอามือกุมท้องอยู่ก็เกือบจะขำออกมารอมร่อ ถ้าไม่ติดว่าไม่มีแรงขำล่ะก็นะ ก็หน้าตาแบคฮยอนตอนนี้มันน่าขำน้อยเสียเมื่อไหร่กัน
“ โอ้ย! ”
ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ความปวดท้องก็เข้าแล่นส่งหมัดอัปเปอร์คัตเข้าน๊อคเขาอีกรอบจนต้องร้องออกมา ชานยอลทำหน้าเหยเกก่อนจะรีบกลั้นใจลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าก๊อกระเบิดปรมาณูในร่างกายจะถูกเปิดออกอีกแล้ว
“ เดี๋ยวสิ.. นายจะไปไหน ”
พอเห็นอีกฝ่ายตั้งท่าเตรียมจะวิ่งออกไป บยอนแบคฮยอนก็รีบเอ่ยขัดเอาไว้ทันที
“ ไปไหนก็เรื่องของฉัน! ” ชานยอลทำหน้าเหมือนกำลังจะตาย ขืนยังยืนเถียงกับไอ้เตี้ยอยู่ตรงนี้มีหวังได้ราดก่อนแน่ๆ เขายกมือขึ้นปิดบั้นท้ายของตัวเอง ก่อนจะถลึงตาใส่ไอ้ตัวเจ้าปัญหาที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ตรงหน้า “ ถ้าวันนี้ฉันยังไม่หายท้องเสีย นายตายแน่ไอ้เตี้ย! ”
บยอนแบคฮยอนมองตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่วิ่งจู๊ดเลี้ยวเข้าอาคารสามไป คนตัวเล็กยืนนิ่งพลางคิดถึงประโยคสุดท้ายที่คุณปาร์คพูดทิ้งท้ายเอาไว้
‘ ถ้าวันนี้ฉันยังไม่หายท้องเสีย นายตายแน่ไอ้เตี้ย! ’
โอ้ย.. งานเข้าคุณบยอนแล้วสิแก
นี่เขาแกล้งชานยอลแรงเกินไปไหมเนี่ย ไอ้ประโยคข่มขู่แบบนั้นมันหมายความว่ายังไง จะลากเขาเข้าคุกพร้อมหลักฐานคือน้ำส้มในอุนจิหรอ.. หรือเอาเรื่องการสอบของเขาไปแบล็คเมล์.. จะกรณีไหนมันก็แย่เท่ากันหมดเลยนะแบบนั้นน่ะ
แล้วที่แย่กว่านั้น ถ้าหมอนั่นเกิดตายขึ้นมาล่ะ?
ถ้าตายขึ้นมาที่บ้านของหมอนั่นก็ต้องมาเอาเรื่องเขา ไม่วายเขาก็จะโดนจับเข้าตารางพร้อมกับหมดอนาคตบนโลกใบนี้ แถมดีไม่ดีไอ้คุณปาร์คมันอาจจะมาหาเขาในสภาพวิญญาณเร่ร่อนก็ได้นะ
ฮือ.. แบคฮยอนจะทำยังไงดี
คนตัวเล็กยกมือขึ้นกุมขมับอย่างรู้สึกมืดแปดด้าน แต่สักพักหนึ่งสมองที่มีรอยหยักเต็มเปี่ยมก็ปิ๊งไอเดีย
บรรเจิดนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ในเมื่อเขาเป็นคนที่ทำให้คุณปาร์คท้องเสีย
มันก็ต้องมีหนทางที่ทำให้หมอนั่นหายจากท้องเสียได้ล่ะน่า
ถือซะว่าเป็นการไถ่โทษแล้วกันนะ.. คุณปาร์ค .___.
141008 : 1st TALK
แปะแปะแปะ เฮลโหล้วค่ะทุกคนน ต้องบอกก่อนว่าฟิคเรื่องนี้มีคนแต่งสามคน และเราคือลูกอมรสแมลงสาบนะเฮ้ยยย สาบานว่านั่นชื่อ.. เอาล่ะ เราอยากจะบอกว่าคนแต่งปิติยินดีมานะมานีและชูใจมากๆที่มีคนให้ความสนใจฟิคเรื่องนี้มากขนาดนี้ ขอบคุณมากจริงจังค่ะ .ปาดน้ำตา แล้วก็ฝากติดตามฟิคเรื่องนี้ต่อไปด้วยน้า สัญญาว่าจะตั้งใจนะคะออนนี่ อ้อ! ฝากแท๊ก #คอนเฟลคกับนม หรือไม่ก็คอมเม้นต์ให้อีคนแต่งประหลาดๆ
ทั้งสามคนชื่นใจด้วยนะเอ้อออ ลาก่อยยย เลิ้บค่ะ ♡
---
สวัสดีเอวารี่บาดี้ เราชื่อตัวตืด ฝาก #คอนเฟลคกับนม ไว้ด้วยนะฮับ
คอมเม้นต์ได้ติได้ไม่ว่ากัน อย่าลืมติดตามจนจบเลยนะฮะะ ♡
---
สวัสดีค่ะทุกคน ♡ ตัวเองสามารถเรียกเราว่า 'กล้วยหอมทอด' นะคะ เราเป็นหนึ่งในทีม dearclouds ทีมผู้สร้างฟิคเรื่องนี้นี่แล ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับทุกกระแสตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายไปไกลโพ้นมาก55555555555 มันเป็นฟิคเรื่องแรกของเราและได้มีโอกาสมาแต่งร่วมกับสองผู้มากประสบการณ์ค่ะ ><
ยังไงฝากติชมได้ตลอดเวลาเลยนะคะหากมีข้อผิดพลาดอะไร เรายินดีน้อมรับและนำไปปรับปรุงจ้า♡
อ้อ แล้วหลังจากเสพฟิคมุ้งมิ้ง(?) กันไปเต็มที่แล้ว เราฝากติดแท็ก #คอนเฟลคกับนม พร้อมสกรีมใส่ทวิตเตอร์ด้วยนะคะแม้จะไม่ประกาศตัวตนแต่เราส่องอยู่ตลอดเน้อ อิอิ
#1 taetaytay ♡ ขออนุญาตตอบคอมเม้นท์นี้น้า ขอบคุณมากนะฮับที่ช่วยแก้ให้พวกเรามัวแต่บ้าบอกันไปนิดนึงแต่ตอนนี้ได้แก้แล้วเน่ออ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
#คอนเฟลคกับนม
♡
ความคิดเห็น