ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( exo ) ♡ cornflake and milk ll chanbaek 。ft.hunhan ☁

    ลำดับตอนที่ #3 : ♡ cornflake and milk 。02 -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.05K
      4
      15 ต.ค. 57

     


     

    0 2

     





     

     

     




     

    แค่คิดถึงสิ่งที่อยากจะทำก็พอ จิล









     

    เป็นอีกครั้งที่ชานยอลต้องมานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่ผนังสูงชะลูด นึกสงสารคนกลัวที่แคบขึ้นมาถนัด กับเขาเองที่ไม่ได้กลัวมันยังรู้สึกคล้ายจะเวียนหัวตายเหมือนแรงกดดันจากทุกทิศทางประดังประเดเข้ามายังไงอย่างงั้น

     

     

    แต่ตราบใดที่ฤทธิ์ยาของไอ้เตี้ยนั่นยังทำหน้าที่ดีขนาดนี้ปาร์คชานยอลคนโก้ก็ยังเสนอหน้าออกไปไม่ได้อยู่ดี ฝ่ามือหนากุมใบหน้าอันซีดเซียวเอาไว้ นึกรันทดใจตัวเองที่ต้องมานั่งอยู่ในห้องน้ำตลอดคาบบ่าย ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก็พบว่าหมดเวลาพักเสียแล้ว เสียงนักเรียนที่ดังจอแจเมื่อครู่คงเป็นเพราะเตรียมตัวขึ้นห้องเรียนและตอนนี้เสียงเหล่านั้นก็เงียบสงบหายไปหลงเหลือไว้แค่เพียงเสียงบรรยากาศโดยรอบที่ไม่น่าพิสมัยนัก

     

     

    แหงดิ..

     


    นี่มันห้องน้ำในโรงเรียนนะโว้ยไม่ใช่ในห้างถึงจะมีเพลงประกอบการขี้อย่างสบายใจอ่ะ

     

     

    นั่งแหมะอีกสักพักจนมั่นใจว่าข้าศึกจากเมืองอุน(จิ)บุรีจะไม่มาโจมตีอีก ปาร์คชานยอลลุกขึ้นจาโถส้วมด้วยท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวกดชักโครกเสร็จสรรพก็เลื่อนมือมาใส่กางเกงที่กองอยู่ตรงพื้น

     

     

    เชี่ยเอ้ย กูอยู่ในนี้มานานแค่ไหนแล้ววะเนี่ย

     

     

    พึมพำอย่างหัวเสียก่อนจะใส่เข็มขัดเป็นอันดับสุดท้าย แทบจะเกาะกำแพงห้องน้ำตอนที่เดินไปหนึ่งก้าว ให้ตายเถอะแข้งขาอ่อนแรงแบบนี้แสดงว่าเขากำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ในร่างกายแน่ๆ
    เห็นหน้าตาเถื่อนๆก็ตั้งใจเรียนวิชาสุขศึกษานะครับ ไม่ใช่อะไรหรอกแต่ครูฝึกสอนน่ารักชิบหาย ตัวเล็กๆปากเป็นกระจับจิ้มลิ้มๆแบบนั้นแค่เห็นหน้าก็เหมือนโดนสะกดจิตให้ตั้งใจเรียนแล้วครับคุณ

     

     

    ผ่ามือใหญ่เอื้อมไปยังลูกบิดประตูห้องน้ำก่อนจะออกแรงบิดให้เปิดกว้าง

     

     

    สิ่งแรกที่เห็นคือร่างร่างหนึ่งมายืนจังงังอยู่หน้าประตูห้องน้ำที่เขาใช้ปลดทุกข์ไปเมื่อครู่

     

     

    เฮ้ย!!

     

     

    อุทานเสียงดังลั่นเพราะตกใจกับคนที่มายืนไม่ให้สุ้มให้เสียง แทบจะสะดุดขาตัวเองลงไปนั่งแหมะกับชักโครกอีกรอบแต่ยังดีที่ใช้มือยันกำแพงไว้ทัน รอยยิ้มซื่อๆของคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังสร้างความช็อคให้กับอีกฝ่ายมากแค่ไหน

     

     

    เป็นบ้าหรือไงถึงมายืนไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้! ”

     


     

    ชานยอลตะคอกกลับไปพลางทำตาโตใส่ แบคฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยแล้วจึงหุบยิ้มที่ริมฝีปากลง
     


     

    ไม่ต้องมาทำหน้าหงอเลย

     

     

    คนที่เพิ่งถ่ายหนักจนหน้าซีดเซียวเดินผ่านตัวแบคฮยอนไปยังอ่างล้างหน้าปาร์คชานยอลวักน้ำขึ้นสาดใบหน้าตัวเองสองสามรอบก่อนจะมองสบตาคนที่ยังยืนอยู่ผ่านกระจก

     

     

    มีอะไรกับฉันอีกล่ะ

     

     

    ชานยอลทำหน้าตาไม่รับแขกใส่เขาอีกครั้ง รู้บ้างไหมเนี่ยว่าคนเขาสำนึกผิดแล้ว นี่อุตส่าห์วิ่งไปขอน้ำเกลือแร่จากห้องพยาบาลมาให้เชียวนะ

     

    แบคฮยอนเดินมายังอ่างล้างหน้าก่อนจะเอาขวดน้ำแร่ที่มีสีส้มเจือจางวางเอาไว้ตรงเคาน์เตอร์ เห็นไอ้คุณปาร์คเหลือบสายตามองขวดนิดหน่อยก่อนจะมองหน้าเขาพร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่แปะอยู่กลางหน้าผาก

     

     

    เห็นว่าท้องเสีย เลยเอานี่มาให้

     

     

    ชานยอลเหลือบมองขวดอีกครั้งยกมันขึ้นมาพิจารณาสีดูก็พบว่าน่าจะเป็นน้ำเกลือแร่จริงๆ
    อย่างที่ไอ้เต้าหู้หน้าจืดนี่บอกนั่นแหละ

     

     

    แต่จะให้กระดกกินเลยตอนนี้ก็ไม่สนุกสิ

     

     

    ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่ามันเป็นน้ำเกลือแร่จริงๆชานยอลกระแทกขวดวางที่เดิมอีกครั้งถ้านายเกิดหมั่นไส้ฉัน เอาน้ำส้มมาหลอกให้ฉันกินจนท้องเสียอีกรอบขึ้นมาล่ะ.. จะทำยังไง

     

     

    แบคฮยอนทำหน้าเหวอจ้องมองอีกคนที่มองมายังเขาอย่างคาดคั้นคำตอบ อยากจะสวนกลับไปว่าไม่มีตาดูหรือไงว่านี่มันน้ำเกลือแร่รสส้มชัดๆ เจือจางขนาดนี้จะเป็นน้ำส้มไปได้ยังไง แต่ในเมื่อแบคฮยอนอยู่ในสถานะเบ๊ของชานยอล พูดแบบนั้นไปมีหวังตายสถานเดียวอย่างที่หมอนี่เคยขู่เอาไว้ชัวร์

     

     

    ถะ.. ถ้าคุณปาร์คไม่อยากกิน ก็ไม่ต้องกินก็ได้

     

     

    แบคฮยอนคว้าขวดน้ำเกลือแร่แล้วเดินไปยังมุมห้องน้ำที่มีถังขยะขนาดย่อมวางเอาไว้โดยมีคนป่วยยืนมองเขาอยู่ไม่ห่าง คนตัวเล็กยกเท้าเหยียบที่เปิดฝาถังขยะ

     

     

    ก่อนจะ

     

     

    พรึ่บ!

     

     

    โยนขวดน้ำเกลือแร่รสส้มทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

     

     

    กลายเป็นปาร์คชานยอลแทนที่อ้าปากเหวอ ไอ้แว่นนั่นมันจะบ้าหรือไงวะ!แค่คิดจะแกล้งเล่นๆ นี่ดันเอาไปทิ้งจริง แล้วอย่างนี้เขาจะเอาน้ำเกลือแร่ที่ไหนกินล่ะโว้ย!

     

     

    นะ.. นาย..

     

     

    กำลังจะถามว่าบ้าไปแล้วหรือไงถึงได้สมองหมาปัญญาควายแบบนี้ แต่เนื่องจากต้องรักษาฟอร์มอันสุขุมนุ่มลึก ปาร์คชานยอลจึงกระแอมแล้วเอ่ยประโยคอื่นออกไปแทน

     

     

    ฉันจะไปห้องพยาบาล  ”

     

     

    แบคฮยอนหันมองเจ้าของผมสีแดงชานยอลยกมือขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเท่ทั้งที่หน้าไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่นิด ขายาวๆ ก้าวไปทางประตูแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องน้ำไป

     

     

    แต่เดี๋ยว..

     

     

    ในเมื่อชานยอลไม่ยอมกินน้ำเกลือแร่ของเขาแบคฮยอนก็ยังไม่หายรู้สึกผิดอยู่ดี คนตัวเล็กทำท่าเหมือนจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับตอนที่ชานยอลหันกลับมาพอดี

     

     

    “ .... ”

     

     

    แล้วนี่นายไม่เข้าเรียนหรือไง

     

     

    ชานยอลเอ่ยถามตามที่นึกสงสัย นี่ก็เลยเวลาเข้าเรียนมานานพอสมควรแล้ว แถมไอ้พวกหน้าตาหงิมๆเนิร์ดๆ แบบแบคฮยอนเนี่ย ไม่บอกก็น่าจะเดาได้ว่าเป็นพวกเข้าเรียนทุกวิชา ไม่นอนหลับในห้อง การบ้านส่งครบอะไรเทือกนี้แน่ๆ

     

     

    ไม่อะคนตัวเล็กส่ายหัวดิกคือ.. ผมมารอคุณ

     

     

    ชานยอลแอบเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าช้าๆให้ดูสุขุมนุ่มลึกเหมือนพระเอกละครหลังข่าวมากที่สุด นึกแปลกใจคนตรงหน้าอยู่เหมือนกัน ทำเค้าปวดท้อง พอรู้สึกผิดก็มีการมารับผิดชอบด้วย เออ แบบนี้มันก็ดีเว้ยเฮ้ย

     

     

    ตกลงจะอยู่รอฉัน?

     

     

    แทนการพูดตอบรับ แบคฮยอนใช้วิธีการพยักหน้ากลับไปแทน

     

     

    งั้น..

     

     

    “ …. ”

     

     

    มารับผิดชอบที่ทำไว้เลยมา

     

     

               



     

    โอ๊ย แบคฮยอน ฉันปวดท้อง โอ๊ยยย

     

     

                เสียงทุ้มโอดครวญดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มพร้อมกับขายาวๆที่ดีดดิ้นอย่างรุนแรงแรง จนแบคฮยอนไม่แน่ใจว่าคนตัวสูงนั้น

     

     

                เจ็บจริงหรือว่าแกล้งกันแน่..  

               
     

    คะ..คุณปาร์คลุกขึ้นมาก่อนนะ กินยานี่ก่อน

     

     

     เสียงหวานดังขึ้นตะกุกตะกักเบาๆข้างหูก่อนที่มือเรียวจะช่วยพยุงคนป่วยขึ้นมานั่งพิงกับหมอนบนเตียงในห้องพยาบาลคนตัวสูงกำลังทำตัวอ่อนเปลี้ยราวกับสัตว์ไร้กระดูกนั่นทำให้แบคฮยอนต้องใช้แรงเยอะเป็นพิเศษเพื่อจะดึงให้คนแกล้งป่วยขึ้นมานั่งดีๆ

     

               

    ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในห้องพยาบาลกัน และด้วยพื้นฐานส่วนตัวที่แพ้กลิ่นจำพวกยามาตั้งแต่เล็ก ยิ่งทำให้กลิ่นสะอาดๆที่โคตรจะเกลียดตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับแบคฮยอนได้อย่างรวดเร็วจนเกินไป นิ้วมือเล็กยกขึ้นถูบริเวณปลายจมูกจนมันแดงเถือกไปหมด ในใจอยากจะออกไปตั้งแต่สาวเท้าตามมนุษย์หัวไฟเข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่ก้าวแรก แต่เนื่องจากทางโรงเรียนเรียกประชุมอาจารย์ทุกคนด่วน บยอนแบคฮยอนเด็กดีของบรรดาอาจารย์จึงถูกฝากฝังให้ดูแลคุณคนป่วยหัวแดงที่นอนดีดดิ้นเป็นกุ้งเต้นสะดุ้งน้ำร้อนอยู่แบบนี้โดยไม่มีสิทธิคัดค้าน

     

     

                ไหนยาอ่ะยา.. ยาอยู่หนายยย

     

     

     เสียงของชานยอลดังอู้อี้ครวญครางเหมือนเด็กเพิ่งตื่นยังไงอย่างนั้น แน่ล่ะมันดูน่ารัก แต่ที่สำคัญคือมันไม่ได้เข้ากับใบหน้าโหดๆของเจ้าตัวสักนิด

     

                อ่ะ นี่ยา 

     

     

                ป้อนหน่อยสินะนะ นี่ฉันปวดท้องมากจนมือยกไม่ไหวแล้วเนี่ย

     

     

                เขาโอดครวญขึ้นอีกครั้งพร้อมทำหน้าตาเหมือนลูกแมวที่โดนเจ้าของทิ้ง ดวงตากลมๆของชานยอลลอบสบเข้าไปในเสี้ยวดวงตารีๆของคนที่นั่งเกยขอบเตียงอย่างเว้าวอน มือหนาแกว่งไปมาราวกับอัมพาตกินไปแล้วจริงๆ  ริมฝีปากอิ่มเหมือนพุดดิ้งเจลลี่สตรอเบอรี่ที่แบคฮยอนชอบกินก็กำลังเบะออกเล็กน้อย

     

     

                บอกแล้วไงว่าไอ้ท่าทางแบบนี้น่ะมันไม่เข้ากับหนังหน้าห่ามๆของหมอนี่เลย แบคฮยอนก็อยากจะด่าคุณปาร์คอยู่เหมือนกันว่า ทอแหร... แต่แบคฮยอนก็มองข้ามเรื่องนั้นไปเพราะในตอนนี้เขาเชื่อเสียสนิทใจว่าคุณปาร์คหัวแดงกำลังป่วยจริงๆ

     

    คนตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันอย่างรู้สึกผิด ไม่นึกเคลือบแคลงสงสัยถึงเรื่องพละกำลังแบบที่คนปวดท้องหนักควรจะพึงมี ใบหน้าเรียวพยักหน้าลงหงึกหงักนิดหน่อยแทนการตอบรับ ส่วนมือเล็กก็จัดการเทยาแก้ปวดท้องสีขาวขุ่นพร้อมยกไปจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม

               

    อ่ะ อ้ามนะคุณปาร์ค อ้ามม

     

     

                คงไม่มีคำไหนเหมาะกับแบคฮยอนไปมากกว่าคำว่าน่ารักแล้วล่ะมั้ง

     

     

    ไอ้ท่าทางเป็นห่วงกลัวว่ายาจะหกกระเด็นออกมารวมถึงริมฝีปากที่อ้าออกช้าๆราวกับจะบิ้วท์ให้ชานยอลอ้าปากตามนั่นน่ะ.. ใช่ว่าชานยอลจะชอบหรืออะไรนะ เขาเพียงแค่รู้สึกหมันเขี้ยวกับคนตรงหน้านี้ก็เท่านั้น คนตัวเล็กเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆที่น่าฟัด น่าแกล้ง น่างับให้จมเขี้ยวไม่มีผิด

     

     

                อ่าจมูกแดงๆนั่นมันน่าหยิกชะมัด แล้วยังแก้มย้วยๆน่ายืดนั่นอีกล่ะ

     

     

                คิดได้อย่างนั้นมือหนาก็ยกขึ้นทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ เขายกมือจับแก้มสวยของแบคฮยอนที่ตอนนี้กำลังเบิกตาออกกว้างด้วยความตกใจอยู่ก่อนจะส่งนิ้วเรียวขึ้นหยิกแก้มอีกคน

     

     

              ยืดดดดดดดดดด

     

     

                งื้ออออออ คุณปาร์คทำอะไร มันเจ็บนะครับ งื่อ..
     

               

                เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวหรอกว่าสีหน้าของตัวเล็กในตอนนี้มันน่าแกล้งแค่ไหน ในตอนนี้แบคฮยอนน่ะก็ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาโดนขัดใจหรอก เชื่อปาร์คเถอะ

     

     

    พี่ปาร์ครู้พี่ปาร์คเห็น

     

               

                ฉันก็แค่จะทดสอบเฉยๆว่ายามันได้ผลรึเปล่าสีข้างถลอกing “ เนี่ย ยาออกฤทธิ์ดีมากเลย นอนอีกนิดก็คงจะหายแล้วมั้ง

     

               

                ริมฝีปากสีเชอรี่นั่นยังคงเบะออกงั้นคุณปาร์คก็ต้องนอนนะครับ

     

               

                ฉันนอนไม่ได้

     

               

                โอ้ยยยยยย อะไรอีกล่ะทีนี้!

     

               

    หมอนมันแข็งเกินไปฉันนอนไม่หลับหรอกชานยอลปรายตามองมาทางแบคฮยอน


     

    มือของนายน่ะ

     

     

                แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามมือของผม? ”

     

     

                ชานยอลหยักหน้าเล็กน้อยเขาไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่าเดิม มืออุ่นเคลื่อนไปข้างหน้าจับมือเรียวของคนที่ยืนเอ๋ออยู่มาวางปุลงกับหมอนแข็งๆของห้องพยาบาล พร้อมกับขยับตัวนอนลงหนุนมือเล็กๆนั่น

     

               

    แค่นี้ก็นิ่มแล้วเตี้ย

     

     

    แบคฮยอนนิ่งเป็นมนุษย์ยุคหินไปแล้ว คนตัวเล็กยังคงอ้าปากค้างนิ่งอึ้งไปกับการกระทำแปลกๆของชานยอล สมองอันชาญฉลาดของเบ๊ตัวน้อยพยายามคิดหาเหตุผลมารองรับการกระทำของคุณปาร์ค
     


     

    ซึ่งข้อเดียวเท่านั้นที่ปรากฏก็คงไม่พ้นอยากแกล้ง


     

                คนตัวเล็กพรูหายใจออกมาเบาๆอย่างเหนื่อยหน่าย แน่ล่ะ คนปกติที่ไหนจะชอบให้คนอื่นใช้มือของตัวเองต่างหมอนกัน แต่ถึงกระนั้นแบคฮยอนก็ไม่ได้ดึงมือออกมา เขานั่งอยู่บนเก้าอี้สีชมพูพาสเทลของอาจารย์เจ้าของห้องนิ่งๆ ปล่อยให้เส้นผมนุ่มสีแดงสดกระจายทั่วแผ่นมือของเขา พลางนึกสังเกตชานยอลอยู่ในใจ

     

     

    เขามีแพขนตายาวสีดำสนิท ซึ่งนั่นรับกับสันจมูกโด่งรั้นของเขาเป็นอย่างดี มันช่างเข้ากันคล้ายถูกเลือกสรรมาโดยจิตรกรมือดีสักคน ริมฝีปากสีแดงตุ่นๆของเขาไม่บวมจนน่าเกลียดและไม่บางเฉียบจนน่าขัน มันกลับพอดีกันไปหมด

     

     

    นี่เป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนอดอิจฉาปาร์คชานยอลไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราอยู่ ชานยอลก็ยังดูหล่อเหลา

     

     

    และในสายตาของแบคฮยอน

     

     

    เขาดูน่ารัก

     

     

    หลับตาพริ้มพร้อมกับแต่งแต้มรอยยิ้มขึ้นจนแบคฮยอนสามารถเห็นรอยบุ๋มเล็กๆตรงข้างแก้มได้อย่างชัดเจน

     

     

    ซึ่งมันดูน่ารัก

     

     

    แบคฮยอนกำลังคิดว่าชานยอลน่ารัก

     


     

     

    จนกระทั่งตอนนี้บยอนแบคฮยอนก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมชีวิตเขาต้องมาพัวพันกับคนผมแดงที่นั่งหันหลังอยู่ข้างหน้านี่ด้วย

     

     

    ท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว บยอนแบคฮยอนมองไม่เห็นเส้นผมของชานยอลเพราะหมอนี่ใส่หมวกกันน็อคอันใหญ่ครอบศรีษะเอาไว้ ต่างจากเขาที่ไม่มีอะไรสวมศีรษะอยู่เลย คนตัวเล็กนั่งหน้ามุ่ยให้ลมตีหน้าผากจนเหม่งชาไปหมดแล้ว จะบ่นตอนนี้ก็แน่ใจได้โดยไม่ต้องบอกว่าไอ้มนุษย์เผด็จการตรงหน้าคงไม่ได้ยินเสียงของเขาเป็นแน่ เพราะรอบตัวมีแต่เสียงลมกับเสียงเครื่องยนต์ดังอื้ออึงไปหมด

     

     

    เขาโดนบังคับ! บังคับโดยไอ้คุณปาร์คหลังจากที่มนุษย์หัวไฟตัวสูงนอนหนุนมือของเขาจนชาไปทั้งมือ แบคฮยอนโดนลากมายังลานจอดรถของโรงเรียนที่เหลือเพียงรถของอาจารย์ไม่กี่คัน และแทนที่คนตัวเล็กจะได้กลับบ้านอย่างสบายใจกลับโดนอีกคนบังคับให้บอกชื่อที่อยู่แถมยังจะให้เค้าซ้อนมอเตอร์ไซค์สีแดงเพลิงนี่ไปด้วยกันอีก

     

     

    ริมฝีปากสีเชอรี่สดเบะออกพลางนึกตำหนิอีกคนในใจ ไม่รู้ว่าทำไมคุณปาร์คถึงต้องขับเร็วขนาดนี้ด้วย แรงลมราวกับจะตีเขาให้ลอยออกไปแล้วแปลงร่างเป็นว่าวงูน้อยน่ารักยังไงอย่างงั้น แค่แบคฮยอนต้องมานั่งเบียดเสียดแนบแทบจะสิงกับคนที่ไม่อยากจะเสวนาด้วยขนาดนี้มันยังแย่ไม่พออีกหรือยังไง แถมไอ้รถราคาเหยียบแสนเหยียบล้านนี่ก็ไม่เผื่อที่ให้คนซ้อนเลยสักนิด

     

     

    ขณะที่แบคฮยอนกำลังรู้สึกเหมือนหน้าใกล้จะเป็นอัมพาตเพราะไม่เคยขึ้นมอเตอร์ไซค์มาก่อน แต่คนตัวสูงที่กำลังทำตัวเป็นสารถีกลับยิ้มกริ่มภายใต้หมวกกันน็อค แรงกอดที่เอวมันแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเร่งความเร็วเครื่อง เบ๊ตัวน้อยคงกลัวจนหัวหดถึงได้กอดแน่นแบบนั้น แถมตอนนี้ก็ยังเอาหน้ามาซุกที่แผ่นหลังของเขาอีกต่างหาก

     

     

    น่าสงสารจังเลยนะเด็กแว่น ㅋㅋㅋ
     

     

    ความทรมานของคนซ้อนสิ้นสุดลงตอนที่มอเตอร์ไซค์ดูคาติสีแดงเพลิงเคลื่อนเข้าจอดหน้าหอพักตึกสีครีมของแบคฮยอน คนตัวเล็กปล่อยมือออกจากเอวหนาแล้วกระโดดตุ้บลงจากมอเตอร์ไซค์ ยกมือเรียวขึ้นสางๆผมตัวเองนิดหน่อยก่อนจะส่งยิ้มยิงฟันแบบที่เด็กห้าขวบมาดูก็รู้ว่าฝืนธรรมชาติสุดๆไปให้คนที่เพิ่งถอดหมวกกันน็อคออก

     

     

    ขอบใจที่มาส่งนะคุณปาร์ค

     

     

    ชานยอลยกมือขึ้นเสยผมสีแดงเพลิงของตัวเองพร้อมกับมองคนที่ยังยืนยิ้มแฉ่งอยู่
    ไม่ทราบว่ามันยิ้มอะไรของมันนักหนาแต่ถึงอย่างนั้นปาร์คชานยอลก็ไม่ได้นึกใส่ใจเท่าไหร่นัก

     

     

    อือ

     

     

    เขาครางฮือในลำคอ ก่อนจะยกหมวกกันน็อคขึ้นใส่อีกครั้ง

     

     

    ละ.. แล้วเมื่อกี้จะถอดออกทำไม

     

     

    แบคฮยอนได้แต่งุนงงกับการกระทำคุณปาร์ค เมื่อกี้ถอดหมวกกันน็อคเพื่อจะเสยผมโชว์เขางั้นหรอ แต่คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ ก็หมอนี่ชอบคิดว่าตัวเองเท่นี่นา

     

     

    อี๋ คนอะไรก็ไม่รู้หลงตัวเองชะมัด

     
     

    คนตัวเล็กกลอกตาก่อนจะลอบถอนหายใจและเตรียมหันหลังเดินเข้าหอพัก

     

     

    เฮ้ย พรุ่งนี้มารอตรงนี้นะ

     

     

    คนตัวเล็กชะงักฝีเท้าหันหน้ากลับไปมองคุณปาร์คที่เอ่ยเสียงอู้อี้ทะลุหมวกกันน็อคออกมา
    แบคฮยอนเอียงคอมองเพราะได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่นัก งงหนักชนิดที่เรียกว่าดูหน้าก็รู้ว่าไม่เข้าใจ และชานยอลเองก็รู้สึกขัดใจเหลือเกินกับความเซ่อของแบคฮยอน

     

     

    ทำไมถึงพาโบจังวะ

     

     

    หือ.. พาโบยังไงอะ ._. ”

     

     

    เออเจริญเถอะครับ ทีโดนด่าล่ะได้ยินชัดเชียว

     

     

    พรุ่งนี้มารอตรงนี้นะ ได้ยินไหม เขาพูดไปในขณะที่ดวงตากลมโตดุร้ายนั่นก็จ้องแบคฮยอนไปด้วย แล้วตอนเลิกเรียนน่ะ รอฉันด้วยล่ะ

     

     

    ชานยอลเอ่ยเสียงดังขึ้นนั่นเป็นผลทำให้แบคฮยอนขมวดหัวคิ้วเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องมารอหมอนี่ด้วย มีธุระด้วยกันหรอก็ไม่ใช่ จะใช้งานเขาก่อนไปเข้าเรียนหรือตอนหลังเลิกเรียนก็คงจะโหดร้ายไปสักนิด

     

     

    จะงงอะไรนักหนาเนี่ยคนตัวสูงจิ๊ปากอย่างนึกรำคาญใจพาโบเอ๊ย นายนี่มันพาโบจริงๆ ให้ตายสิ

     

     

    คราวนี้แบคฮยอนได้ยินชัดเจน กำลังจะอ้าปากท้วงว่าเขาไม่ได้พาโบอย่างที่ถูกกล่าวหา
    หากอีกฝ่ายก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน

     

     

    พรุ่งนี้จะมารับ แล้วก็จะมาส่งด้วย  

     

     

    ห้ะ? ” แบคฮยอนทำหน้างง ทำไมต้อง เอ่อ.. คอยรับคอยส่งผมด้วย?

     

     

    แล้วนายยุ่งอะไรด้วยล่ะ

     

     

    แบคฮยอนพูดเอ้าแบบไม่ส่งเสียง นึกงุนงงกับไอ้หัวแดงนี่ว่ามันต้องการสิ่งใดจากเขา แต่ยังไม่ทันจะได้งงอะไรต่อฝ่ายนั้นก็ชิงพูดออกมาอีกครั้ง

     

     

    หน้าที่ของนายคือเป็นเบ๊ให้ฉัน ลืมแล้วหรือไงชานยอลขมวดหัวคิ้วอ้อ..แล้วเรื่องน้ำส้มก็ยังไม่ได้เคลียร์นะ

     

     

    พอถึงตรงนี้แบคฮยอนก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ โอเค เข้าใจแล้วว่าเขาไม่มีสิทธิ์ไปขัดศรัทธาพ่อคุณชานยอลนี่ได้ เพราะฉะนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือทำๆตามที่ถูกสั่งไปซะ จะได้สิ้นเรื่องเสียที

     

     

    แต่ความไม่เข้าใจและงุนงงในข้อตกลงก็ยังคงอยู่

     

     

    แล้วผมต้องเป็นเบ๊ให้คุณไปอีกนานแค่ไหน

     

     

    ใช่.. นี่เป็นสิ่งที่แบคฮยอนอยากรู้คำตอบ ไอ้ที่ว่าให้เป็นเบ๊น่ะพอเข้าใจแต่มันต้องนานแค่ไหนถึงจะสมใจคุณปาร์คกันล่ะ สองอาทิตย์ สองเดือน หรือสองปี ถ้านานขนาดนั้นมีหวังเขาได้ผูกคอตายหรือไม่ก็ทำฮาราคีรีตัวเองก่อนครบกำหนดแน่ๆ ใครมันจะได้ทนไอ้บ้านี่ได้นานขนาดนั้นกัน

     

     

    ยังไม่ได้คิด

     

     

    ปาร์คชานยอลเอ่ยออกมาหน้าตาย ทำให้คนที่ยืนฟังอยู่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก

     

     

    ห้ะ

     

     

    ก็นั่นแหละ ยังไม่ได้คิด

     

     

    แบคฮยอนทำหน้าเหลือเชื่อ เริ่มรู้สึกเสียเปรียบอย่างบอกไม่ถูก ยังไม่ได้คิดนั่นหมายความว่าเขาจะต้องโดนใช้(และโดนแกล้ง)ไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณปาร์คจะพอใจ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เสียเปรียบสุดๆไปเลยไม่ใช่หรือไง

     

     

    ไอ้เสาไฟฟ้าหัวแดง.. คิดว่ารู้ความลับคนอื่นแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรอ

     

     

    โอเคนะเตี้ย เข้าใจตรงกันนะ ฉลาดแล้วนะ

     

     

    ชานยอลเบิ้ลเครื่องมอเตอร์ไซค์คันโก้ของตัวเองเพื่อเป็นการบอกให้รู้เป็นนัยๆว่าเขากำลังจะขับออกไปในไม่ช้านี้

     

     

    อ้อเจ้าของผมสีแดงเพลิงเอ่ยขึ้นอีกหนเมื่อนึกขึ้นได้แล้วถ้าพรุ่งนี้นายไม่ยอมรอกลับบ้านพร้อมฉันอย่างที่ตกลงกันไว้ คงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น

     

     

    “ ....... ”

     

     

    นายคงไม่อยากถูกพักการเรียนหรืออะไรเทือกๆนั้นหรอกใช่ไหม.. น้องเตี้ยตะแมะแคระ

     

     

     

     

    บรรยากาศในห้องเรียนไม่มีอะไรน่าพิสมัยเลยแม้แต่นิด และจะยิ่งแย่กว่านี้ถ้าไม่มีไอ้พวกมิตรสหายทั้งหลายคอยนั่งหลับเป็นเพื่อนกันยามถึงวิชาประวัติศาสตร์เกาหลี

     

     

    หนังสือบนโต๊ะพร้อมกับสมุดโน้ตนั้นไม่ได้ช่วยให้ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีที่นั่งเรียงกันเป็นสามทหารเสือรู้สึกกระชุ่มกระชวยหรือนึกอยากเรียนมากขึ้นแต่อย่างใด หนำซ้ำมันยังทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนโดนพลังงานบางอย่างสูบจิตใจไปจนหมดสิ้น เสียงอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้องดังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาจนคนผิวขาวที่สุดในกลุ่มอ้าปากหาววอดทำตาเยิ้มจ้องมองไปที่กระดานไวท์บอร์ดซึ่งถูกขีดเขียนด้วยลายมือบรรจงจนเต็มหน้ากระดาน

     

     

    ยิ่งเห็นก็เหมือนกินยานอนหลับเพิ่มอีกสามเม็ด

     

     

    เจ้าของผมสีอ่อนสะบัดหัวไล่ความง่วงงุนออกไปถึงแม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่
    ตาคมกวาดมองรอบๆห้องเผื่อจะทำให้หายง่วงได้บ้าง พวกเด็กหน้าห้องนั่งหลังตรงแด่วจดอะไรลงสมุดกันยิกๆ เช่นเดียวกับแถบหลังห้องวันนี้เกิดผีเข้าอะไรกันก็ไม่ทราบถึงได้ขยันเรียนกันอย่างกับโดนผีเด็กเนิร์ดเข้าสิง เว้นไว้แต่ไอ้สองตัวที่นั่งขนาบข้างเขา มันหลับไปตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วเลยด้วยซ้ำ

     

     

    เขาว่ากันว่าเพื่อนกันมักจะมีอะไรที่เหมือนกัน
     

     

    แต่เดี๋ยว.. ถึงความเชื่อนั้นจะมีความเป็นไปได้หลายเปอร์เซ็นต์ แต่คนอย่างโอเซฮุนก็ไม่ได้ขยันไปมีเรื่องกับชาวบ้านเขาบ่อยเท่าไอ้ปาร์คหัวแดง แล้วก็ไม่ได้หลับทุกสถานการณ์เหมือนไอ้จงอินตัวดำข้างๆ นี่หรอกนะ

     
     

    แต่ให้ตายเถอะ.. สภาพหนังตาของเขาตอนนี้ไม่สามารถบังคับอะไรได้แล้วจริงๆ

     

    ยอมเป็นเหมือนไอ้จงอินดูสักรอบคงไม่มีอะไรเสียหายมั้ง

     

     

    คิดได้อย่างนั้นโอเซฮุนคนหล่อฉายารูปหล่อพ่อรวยด้วยฟาร์มโคนมก็ยอมแนบหน้าผากอันสวยงามของตัวเองจรดกับหน้าหนังสือที่เปิดอ้าอยู่แต่โดยดี ยกแขนสองข้างขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะปิดเปลือกตาของตัวเองลง ขยับท่าทางเล็กน้อยเตรียมพร้อมสำหรับการจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักยามนั่งเรียนในห้อง

     

     

    อากาศเย็นๆเข้าแทรกซึมรอบตัวคนตัวสูงทุกอณูพื้นที่ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว
    แต่เซฮุนรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลับลึกอยู่เหมือนกัน ถึงขั้นฝันถึงยุนอาคนน่ารักห้องสามตอนใส่กางเกงขาสั้นเรียนพละ สักพักรุ่นพี่นานะก็เดินส่งยิ้มหวานมาให้ อ้อ.. ในฝันยังมีน้องคริสตัลอีกคน รายนั้นส่งยิ้มแถมยังโบกมือให้เขาอีกต่างหาก

     

     

    ยิกๆ



     

    ถ้าไม่ติดว่าได้รับแรงสะกิดมาอีกหนหนึ่งล่ะก็เขาก็กะว่าจะฝันต่อถึงน้องนางฟ้าไอรีนอยู่เหมือนกัน..



     

    เดี๋ยว



     

    ใครมันสะกิดกูวะ..



     

    สัญชาตญาณความเป็นคนตั้งใจเรียนในห้องพุ่งทะยานกะทันหัน เซฮุนสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากโต๊ะพร้อมกับนั่งหลังตรง ในใจหวังให้เป็นไอ้เพื่อนเฬวทั้งสองคนที่เป็นคนสะกิดเขาหรือไม่ก็หัวหน้าห้องเดินมาบอกให้ตื่นเตรียมเรียนวิชาต่อไปได้แล้ว แต่ความรู้สึกเหมือนโดนส้นตีนสากๆเหยียบกลางหน้าก็บังเกิดเมื่อพบว่าคนทั้งห้องหันมามองเขาเป็นตาเดียว



     

    นอนหลับฝันดีไหมคะคุณโอ



     

    เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นข้างหูจนขนแขนลุกลามไปถึงร่องตูด รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นใครที่มายืนพูดอยู่แบบนี้ เซฮุนหันซ้ายหันขวามองเพื่อนชั่วทั้งสองก็พบว่าพวกมันลุกขึ้นมานั่งด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม แถมยังเปิดหนังสืออ่านเหมือนสนใจเรียนอย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย



     

    ไอ้พวกห่า! นี่พวกมึงตื่นกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทีงี้เร็วเลยนะไอ้ชิบหาย!



     

    เอ่อ.. ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับจารย์



     

    เซฮุนหัวเราะแหะๆ ความรู้สึกตอนนี้คือโคตรเหี้ย ฟีลเหมือนไปยืนอยู่ตรงที่หน้าผาร้องเพลงเธอจะเหนื่อยเกินไปรึเปล่าของพี่ๆวงมายด์อยู่ อยากมุดตัวเองลงหลุมแล้วไปโผล่คอห่านในห้องน้ำชั้นไหนก็ได้ ณ จุดนี้คือยอมหมดเลยครับ T_T



     

    งั้นหรออาจารย์คิมส่งยิ้มชวนสะพรึงมาให้หนหนึ่งแต่เมื่อกี้คุณละเมอชื่อนานะกับคริสตัลออกมา แถมยังยิ้มคนเดียวด้วยนะ



     

    ได้ยืนเสียงกลั้นขำของไอ้เพื่อนชั่วทั้งสองก่อนที่พวกมันจะตีเนียนตอนเขาหันไปค้อนใส่คนละที
    โอเซฮุนหันหน้ากลับมาส่งยิ้มแหยๆไปให้อาจารย์ประจำวิชาประวัติศาสตร์ที่เหยียดยิ้มเป็นเส้นตรงมาให้เขา



     

    ดูเหมือนคุณจะว่างนะ



     

    “.........”



     

    คนว่างๆก็ต้องหาอะไรทำใช่มั้ยอาจารย์สาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนจะส่งยิ้มให้อีกรอบตอนนี้ที่โรงอาหารน่าจะต้องการความช่วยเหลือ



     

    เซฮุนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ถ้าอาจารย์พูดแบบนี้หมายความว่า..



     

    เชิญที่โรงอาหารค่ะ.. คุณโอ



     

    นี่กูโดนทำโทษอีกแล้วสินะ ไอ้ซั๊ซ



     

     

    - - - - - - - -



     

     

    เกิดมาชาตินึงสาบานได้ว่าเซฮุนไม่เคยโดนทำโทษข้อหานอนหลับในห้องเรียนมาก่อน อย่างมากสุดก็ตอนมัธยมต้นปีสองตอนแกล้งเอานาฬิกาปลุกไปวางไว้ในห้องสมุดให้เสียงมันดังเล่น ส่วนข้อหาอื่นที่หนักกว่านั้นก็จะเป็นของไอ้จงอินหรือไม่ก็ไอ้ชานยอล
     

     
     

    ในกลุ่มสามคนมีเขานี่แหละที่ดูจะแสบน้อยสุดแล้วถ้าเทียบกับไอ้สองคนนั้น ไอ้พวกนั้นมันระดับมหากาพย์ อาจารย์ประจำชั้นถึงกับสรรเสริญว่าถ้ามีคนแบบพวกมันสักสิบคน โรงเรียนคงล่มจมและประเทศคงไม่เจริญแน่ๆ แต่เนื่องจากว่าประเทศเจริญไปแล้ว และอีกอย่างจงอินกับชานยอลก็มีแค่อย่างละคน พวกมันเลยไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของอาจารย์เท่าไหร่

     

    เซฮุนเดินจากตึกเรียนมายังโรงอาหาร สิ่งแรกที่เขาเห็นคือรถขนนม มันเป็นรถบรรทุกขนาดย่อมรูปร่างป้อมๆน่ารัก ไม่ได้มีสัญลักษณ์อะไรติดบอกเป็นพิเศษว่าสิ่งของที่บรรทุกมาคือนม

     

     

    แต่ทำไมเซฮุนถึงรู้น่ะหรอ

     

     

    ก็ไอ้รถคันนี้มันเป็นรถคู่แข่งฟาร์มโคนมของพ่อเขา โดยนิยมเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังโรงเรียนต่างๆ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่านมโรงเรียนนั่นแหละ ความพิเศษของมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก ฟาร์มของพ่อเขาเจ๋งกว่าเยอะ พูดแล้วจะหาว่าโม้แต่นี่ก็ขอพูดเลย

     
     

    สองขานำพาร่างสูงเดินไปยังรถคันดังกล่าว ถ้าให้เดานี่คงเป็นเวลาส่งนมโรงเรียน ปกติเซฮุนจะใช้เวลาเรียนอยู่บนห้องเรียนเลยไม่เคยได้เจอรถคันนี้มาก่อน เจ้าของผมสีอ่อนเดินไปยังหลังรถที่เปิดอ้าเอาไว้อยู่ อาจารย์พละสองคนกำลังขนนมลงจากรถคันนั้น

     

     

    อ้าวนักเรียน มายืนทำอะไรตรงนี้ นี่มันเวลาเรียนไม่ใช่หรอ


     

    อาจารย์คิมให้ผมมาช่วยงานน่ะครับ


     

    โดนทำโทษล่ะสิ


     

    อาจารย์ลีส่งยิ้มแบบรู้ทันมาให้ ก่อนจะยกลังไม้ใส่นมขวดแก้วอีกหนึ่งลังลงไปวางไว้ตรงพื้นเพื่อส่งให้ลุงภารโรงรับช่วงต่อ อาจารย์ลีพยักเพยิดหน้าไปยังลังนมก่อนจะออกคำสั่ง


     

    ขนตามลุงเขาไปแล้วกัน


     

    เซฮุนอุ้มลังนมขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดสองลังซ้อนเพราะคิดว่าน่าจะเสร็จไวกว่า ลังนึงก็หนักเอาการแต่ไม่น่าจะเหนือบ่ากว่าแรงคนแข็งแรงอย่างเขาเท่าไหร่ ร่างโปร่งค่อยๆเดินไปยังตู้แช่ขนาดใหญ่หลังโรงอาหารด้วยท่าทางทุลักทุเล


     

    เฮ้ยๆๆๆ


     

    อุทานเสียงดังเมื่อลังด้านบนเริ่มเซอย่างเห็นได้ชัดจนเขารู้สึกผวา เซฮุนหยุดยืนนิ่ง รับรู้ได้เลยว่าไอ้ลังด้านบนมันกำลังจะหล่นไม่หล่นแหล่ ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อลังไม้ด้านบนเริ่มหยุดอยู่กับที่


     

    โอ้ย.. อย่าร่วงเชียวนะโว้ยไอ้หมา


     

    เซฮุนพึมพำและเริ่มสาวเท้าเดินอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าขวดแก้วในลังไม้มันเริ่มเทน้ำหนักมาทางซ้ายอีกแล้ว..


     

    เพล้งง!!


     

    เสียงของตกและน้ำหนักในมือที่เบาลงทำให้ใบหน้าที่ขาวกระจ่างอยู่แล้วซีดเผือดเข้าไปอีก
    โอเซฮุนยืนนิ่งมองซากลังไม้ที่ยังอยู่ในภาพสมบูรณ์แบบเหมือนเดิมเด๊ะ แต่ที่ชิบหายคือที่พื้นมีน้ำสีขาวๆเจิ่งนองเพิ่มขึ้นทีละนิด



     

    นั่นหมายความว่านมขวดแก้วในลังมัน..



     

    เฮ้ยน้อง ทำไรวะ!



     

    แตก..



     

    ไอ้เหี้ย! นมแตก!!



     

    นี่มันวันอะไรของกูวะเนี่ย!!



     

    ผู้ชายคนหนึ่งที่เซฮุนคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของเสียงเมื่อครู่วิ่งมาจากไหนไม่รู้ด้วยความเร็วแสง
    ร่างเล็กๆย่อตัวลงจนเซฮุนมองเห็นเพียงแค่หมวกแก๊ปของอีกฝ่าย มือเล็กยกลังไม้ขึ้นและน้ำนมสีขาวก็ไหลออกมาราวกับเป็นน้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ไม่ปาน แถมเซฮุนยังได้ยินเสียงดังเคร้งตอนที่คนตัวเล็กเขย่าลังไม้ไปมาอีกต่างหาก



     

    อื้อหือ.. ฟังจากเสียงคงไม่เหลือสักขวดให้ชื่นใจ



     

    เฮ้ยพี่.. คือผม..



     

    ไอ้เหี้ยเอ้ย!



     

    เซฮุนสะดุ้งเฮือกให้กับคำสบถของอีกฝ่าย พร้อมกับทำตาเหลือกแล้วจ้องมองไปยังคนที่นั่งอยู่ตรงพื้น



     

    ขวดแตกแบบนี้ทำยังไงวะ! ตายแน่ กูโดนหักเงินเดือนแน่

     

     

    ร่างเล็กที่ยังยังนั่งยองๆอยู่ตรงพื้นยกมือขึ้นปิดหน้า คำด่าหยาบคายยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน

     

     เชี่ยหนังหมา ทุกวันนี้กูก็แทบจะแดกอาหารวัวเป็นอาหารอยู่แล้วยังจะโดนหักเงินอีกหรอวะเนี่ย เทพเจ้าก็ดูจะเอ็นดูกูเหลือเกิ๊น ชีวิตโคตรพ่อซวยเลยสัดเด้ย
     

     

    เห้ย.. ถึงจะคุ้นกับคำด่ามามากมายก่ายกองจากไอ้เพื่อนเวรทั้งสอง แต่ชีวิตของโอเซฮุนไม่เคยโดนคนแปลกหน้ามาแรพคำด่าให้ฟังมาก่อนเลยนะ นี่ไอ้พี่คนนี้เป็นใครก็ไม่รู้แถมยังกล้าพ่นคำด่าแบบเสียหมาออกมาอีก ถึงจะเหมือนด่าให้ตัวเองฟังก็เถอะ แต่ลืมไปแล้วหรือเปล่าว่ามีเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะยืนอยู่ตรงนี้อีกคนนะเว้ย

     

     

    เล่นเอารู้สึกผิดเลยว่ะ..



     

    พี่.. พี่โอเคป้ะ



     

    เป็นคำถามที่โคตรปัญญาอ่อน แต่ตอนนี้ไม่รู้จะถามอะไรแล้วจริงๆ ดูท่าพี่แกจะรับไม่ได้อย่างแรงกับการที่เขาทำขวดแตกไปหนึ่งลังแบบนี้ ที่จริงบอกดีๆจะยอมชดใช้ค่าเสียหายก็ได้นะเว้ย พี่เขาจะดราม่าอะไรขนาดนั้นวะ



     

    ร่างเล็กยกมือขึ้นลูบหน้าหนึ่งหนเมื่อได้ยินคำถาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องมองไอ้ตัวต้นเหตุที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่ ตากลมมองจ้องเข้าไปยังดวงตาของอีกคนเหมือนต้องการบอกผ่านทางสายตาว่า กูเกลียดมึงเหลือเกินไอ้เด็กกะโหลก



     

    แต่ดูเหมือนว่าเซฮุนจะไม่ได้รู้สึกเลยว่ากำลังโดนด่าผ่านทางสายตา

     

     

    คนตัวสูงชะงักไปตั้งแต่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามอง เขาเห็นดวงตากลมโตนั่นมีน้ำหล่อเลี้ยงเหมือนจะร้องไห้ ไหนจะคิ้วที่ขมวดติดกันนั่นอีก ริมฝีปากสีระเรื่อนั่นถูกฟันคมกัดเอาไว้เหมือนพยายามสะกดกลั้นน้ำตาของตัวเอง

     

     

    โอ้ มาย กั๊ดดด

     
     

    สาบานกับกูทีว่านี่ผู้ชาย!

     

     

    เป็นครั้งแรกที่เซฮุนนึกอยากจับผู้ชายทำเมีย ไม่.. โหดไป เอาเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขานึกชมผู้ชายว่าน่ารัก เออมันน่ารักจริงๆนะ ถ้าไม่นับไอ้พวกเสื้อกล้ามกับแอคเซสเซอรี่ต่างๆที่โคตรจะฮาร์ดcoreบนตัวพี่แกแล้วล่ะก็



     

    บอกเลยว่า โคตร-น่า-รัก!



     

    แต่เดี๋ยว ใช่ว่าเขาจะตกหลุมรักผู้ชายด้วยกันนะโว้ย ไอ้ที่คิดๆทั้งหมดนั่นก็แค่ชื่นชม ดูก็รู้ว่าไอ้พี่นี่มันแมนทั้งแท่งติดแค่หน้าตาไม่ให้เท่านั้นเอง



     

    พ่องมึงเถอะ



     

    เห็นไหมล่ะ



     

    ถ้าโอเคกูคงไม่มานั่งด่าพ่อล่อแม่.มึงแบบนี้หรอกไอ้ควาย!

     

     

    ก็บอกแล้วว่าไอ้พี่หน้าแบ๊วนี่มันโอ..

    .

    .

    .

    .

    .

    โอ้โหไอ้เหี้ยแมนทั้งแท่งเลยค่ะ มึง!!






     

     

     




     

     

    141013 : 2nd TALK

     

    ตอนที่สวงงงงง แถ่มแทมแท้มมมมมมมม อ่านให้เป็นซาวด์ด้วยแมลงสาบจะขอบคุณมากค่ะ อิคึ
     ก็มาถึงตอนที่สองแล้วไม่มีอะไรมากเน้ออ ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้
     อาทิตย์ที่ผ่านมาเสียน้ำตาก็เยอะโน๊ะ โอ้ยเจ็บค่ะ อะฮ่าอะฮ่า
    แต่ก็อย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะคะ เลิ้บ แล้วก็ขอบคุณๆพี่ๆหลายๆคนที่ติดตามฟิคนี้น้า
     ทั้งที่คอมเม้นท์แท๊กฟิคทั้งที่เดินเข้ามาบอกด้วย เขินเจรงๆ
    ปริ่มมากเหลยยยยย บ๊ายบายฮะ จูดุ๊บจุ๊บ

    ลูกอมรสแมลงสาบ

     

    สวัสดีกั้บเป็นรอบที่สองของตืดแย้ว ฮิ้ :$ หวังว่ารอบนี้พี่ปาร์คคงไม่น่าหมั่นไส้ไปเนอะ
     เปิดตัวอีกคู่แล้วเย่! ใครเอ่ยซังนัมจาที่สุดในโลก พนักงานส่งนมลู่หานนั่นเองงงง
    ขอบคุณที่อ่านจนมาถึงตรงนี้นะคะ ซับพอร์ทพวกเราไปเรื่อยๆน้า
     อย่าลืมติดตามจนจบเน้อ บ้ายบาย

    – ตัวตืด

     

    ครบ 1,000 วิวแล้วจ้า เอ้าจุดพลุ!! ปุ๊งปุ๊ง!!
    ตอนที่สองนี้คู่รองของเราก็เปิดตัวแล้วนะคะ ซึ่งเป็นคู่ฮุนฮานอย่างที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่แรก คู่นี้มีความแตกต่างกับคู่หลักของเรามาก แต่รับรองว่าบันเทิงไม่แพ้กันค่ะงานนี้
    เรารู้ว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปมันสร้างความสะเทือนใจแค่ไหน ซึ่งเราเองก็สะเทือนใจ แต่ถ้าลองมองโลกในแง่ดีดูทุกอย่างจะโอเคค่ะ :)
    ในฐานะที่เป็นฮุนฮานชิปเปอร์คนนึง เราจะยังคงซัพพอร์ทพวกเขาทั้งสองคนต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน เราจะแต่งฟิคคู่ฮุนฮานต่อไป และถ้ามีโอกาสได้แต่งเรื่องหน้า เราก็จะแต่งต่อไปเช่นเดียวกันค่ะ สำหรับฮุนฮานชิปเปอร์คนใดที่หลงเข้ามาอ่าน โปรดเชื่อมั่นในตัวของเซฮุนและลู่หานต่อไปด้วยนะคะ
    จงเข้าใจคนที่จากไปและให้กำลังใจคนที่ยังอยู่ต่อค่ะ
    ขอบคุณสำหรับทุกคำติชมจ้า อย่าลืมติดแท็ก
    #คอนเฟลคกับนม ด้วยนะเธอ จุ้บจุ้บ

    - กล้วยหอมทอด

     

     

    #คอนเฟลคกับนม

     


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×