คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ♡ cornflake and milk 。02 -
0 2
แค่คิดถึงสิ่งที่อยากจะทำก็พอ – จิล
เป็นอีกครั้งที่ชานยอลต้องมานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่ผนังสูงชะลูด นึกสงสารคนกลัวที่แคบขึ้นมาถนัด กับเขาเองที่ไม่ได้กลัวมันยังรู้สึกคล้ายจะเวียนหัวตายเหมือนแรงกดดันจากทุกทิศทางประดังประเดเข้ามายังไงอย่างงั้น
แต่ตราบใดที่ฤทธิ์ยาของไอ้เตี้ยนั่นยังทำหน้าที่ดีขนาดนี้ปาร์คชานยอลคนโก้ก็ยังเสนอหน้าออกไปไม่ได้อยู่ดี ฝ่ามือหนากุมใบหน้าอันซีดเซียวเอาไว้ นึกรันทดใจตัวเองที่ต้องมานั่งอยู่ในห้องน้ำตลอดคาบบ่าย ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก็พบว่าหมดเวลาพักเสียแล้ว เสียงนักเรียนที่ดังจอแจเมื่อครู่คงเป็นเพราะเตรียมตัวขึ้นห้องเรียนและตอนนี้เสียงเหล่านั้นก็เงียบสงบหายไปหลงเหลือไว้แค่เพียงเสียงบรรยากาศโดยรอบที่ไม่น่าพิสมัยนัก
แหงดิ..
นี่มันห้องน้ำในโรงเรียนนะโว้ยไม่ใช่ในห้างถึงจะมีเพลงประกอบการขี้อย่างสบายใจอ่ะ
นั่งแหมะอีกสักพักจนมั่นใจว่าข้าศึกจากเมืองอุน(จิ)บุรีจะไม่มาโจมตีอีก ปาร์คชานยอลลุกขึ้นจาโถส้วมด้วยท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวกดชักโครกเสร็จสรรพก็เลื่อนมือมาใส่กางเกงที่กองอยู่ตรงพื้น
“ เชี่ยเอ้ย กูอยู่ในนี้มานานแค่ไหนแล้ววะเนี่ย ”
พึมพำอย่างหัวเสียก่อนจะใส่เข็มขัดเป็นอันดับสุดท้าย แทบจะเกาะกำแพงห้องน้ำตอนที่เดินไปหนึ่งก้าว ให้ตายเถอะแข้งขาอ่อนแรงแบบนี้แสดงว่าเขากำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ในร่างกายแน่ๆ
เห็นหน้าตาเถื่อนๆก็ตั้งใจเรียนวิชาสุขศึกษานะครับ ไม่ใช่อะไรหรอกแต่ครูฝึกสอนน่ารักชิบหาย ตัวเล็กๆปากเป็นกระจับจิ้มลิ้มๆแบบนั้นแค่เห็นหน้าก็เหมือนโดนสะกดจิตให้ตั้งใจเรียนแล้วครับคุณ
ผ่ามือใหญ่เอื้อมไปยังลูกบิดประตูห้องน้ำก่อนจะออกแรงบิดให้เปิดกว้าง
สิ่งแรกที่เห็นคือร่างร่างหนึ่งมายืนจังงังอยู่หน้าประตูห้องน้ำที่เขาใช้ปลดทุกข์ไปเมื่อครู่
“ เฮ้ย!! ”
อุทานเสียงดังลั่นเพราะตกใจกับคนที่มายืนไม่ให้สุ้มให้เสียง แทบจะสะดุดขาตัวเองลงไปนั่งแหมะกับชักโครกอีกรอบแต่ยังดีที่ใช้มือยันกำแพงไว้ทัน รอยยิ้มซื่อๆของคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังสร้างความช็อคให้กับอีกฝ่ายมากแค่ไหน
“ เป็นบ้าหรือไงถึงมายืนไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้! ”
ชานยอลตะคอกกลับไปพลางทำตาโตใส่ แบคฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยแล้วจึงหุบยิ้มที่ริมฝีปากลง
“ ไม่ต้องมาทำหน้าหงอเลย ”
คนที่เพิ่งถ่ายหนักจนหน้าซีดเซียวเดินผ่านตัวแบคฮยอนไปยังอ่างล้างหน้าปาร์คชานยอลวักน้ำขึ้นสาดใบหน้าตัวเองสองสามรอบก่อนจะมองสบตาคนที่ยังยืนอยู่ผ่านกระจก
“ มีอะไรกับฉันอีกล่ะ ”
ชานยอลทำหน้าตาไม่รับแขกใส่เขาอีกครั้ง รู้บ้างไหมเนี่ยว่าคนเขาสำนึกผิดแล้ว นี่อุตส่าห์วิ่งไปขอน้ำเกลือแร่จากห้องพยาบาลมาให้เชียวนะ
แบคฮยอนเดินมายังอ่างล้างหน้าก่อนจะเอาขวดน้ำแร่ที่มีสีส้มเจือจางวางเอาไว้ตรงเคาน์เตอร์ เห็นไอ้คุณปาร์คเหลือบสายตามองขวดนิดหน่อยก่อนจะมองหน้าเขาพร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่แปะอยู่กลางหน้าผาก
“ เห็นว่าท้องเสีย เลยเอานี่มาให้ ”
ชานยอลเหลือบมองขวดอีกครั้งยกมันขึ้นมาพิจารณาสีดูก็พบว่าน่าจะเป็นน้ำเกลือแร่จริงๆ
อย่างที่ไอ้เต้าหู้หน้าจืดนี่บอกนั่นแหละ
แต่จะให้กระดกกินเลยตอนนี้ก็ไม่สนุกสิ
“ ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่ามันเป็นน้ำเกลือแร่จริงๆ ” ชานยอลกระแทกขวดวางที่เดิมอีกครั้ง “ ถ้านายเกิดหมั่นไส้ฉัน เอาน้ำส้มมาหลอกให้ฉันกินจนท้องเสียอีกรอบขึ้นมาล่ะ.. จะทำยังไง ”
แบคฮยอนทำหน้าเหวอจ้องมองอีกคนที่มองมายังเขาอย่างคาดคั้นคำตอบ อยากจะสวนกลับไปว่าไม่มีตาดูหรือไงว่านี่มันน้ำเกลือแร่รสส้มชัดๆ เจือจางขนาดนี้จะเป็นน้ำส้มไปได้ยังไง แต่ในเมื่อแบคฮยอนอยู่ในสถานะเบ๊ของชานยอล พูดแบบนั้นไปมีหวังตายสถานเดียวอย่างที่หมอนี่เคยขู่เอาไว้ชัวร์
“ ถะ.. ถ้าคุณปาร์คไม่อยากกิน ก็ไม่ต้องกินก็ได้ ”
แบคฮยอนคว้าขวดน้ำเกลือแร่แล้วเดินไปยังมุมห้องน้ำที่มีถังขยะขนาดย่อมวางเอาไว้โดยมีคนป่วยยืนมองเขาอยู่ไม่ห่าง คนตัวเล็กยกเท้าเหยียบที่เปิดฝาถังขยะ
ก่อนจะ
พรึ่บ!
โยนขวดน้ำเกลือแร่รสส้มทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
กลายเป็นปาร์คชานยอลแทนที่อ้าปากเหวอ ไอ้แว่นนั่นมันจะบ้าหรือไงวะ!แค่คิดจะแกล้งเล่นๆ นี่ดันเอาไปทิ้งจริง แล้วอย่างนี้เขาจะเอาน้ำเกลือแร่ที่ไหนกินล่ะโว้ย!
“ นะ.. นาย.. ”
กำลังจะถามว่าบ้าไปแล้วหรือไงถึงได้สมองหมาปัญญาควายแบบนี้ แต่เนื่องจากต้องรักษาฟอร์มอันสุขุมนุ่มลึก ปาร์คชานยอลจึงกระแอมแล้วเอ่ยประโยคอื่นออกไปแทน
“ ฉันจะไปห้องพยาบาล ”
แบคฮยอนหันมองเจ้าของผมสีแดงชานยอลยกมือขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเท่ทั้งที่หน้าไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่นิด ขายาวๆ ก้าวไปทางประตูแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องน้ำไป
แต่เดี๋ยว..
ในเมื่อชานยอลไม่ยอมกินน้ำเกลือแร่ของเขาแบคฮยอนก็ยังไม่หายรู้สึกผิดอยู่ดี คนตัวเล็กทำท่าเหมือนจะเรียกอีกฝ่ายเอาไว้แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับตอนที่ชานยอลหันกลับมาพอดี
“ .... ”
“ แล้วนี่นายไม่เข้าเรียนหรือไง ”
ชานยอลเอ่ยถามตามที่นึกสงสัย นี่ก็เลยเวลาเข้าเรียนมานานพอสมควรแล้ว แถมไอ้พวกหน้าตาหงิมๆเนิร์ดๆ แบบแบคฮยอนเนี่ย ไม่บอกก็น่าจะเดาได้ว่าเป็นพวกเข้าเรียนทุกวิชา ไม่นอนหลับในห้อง การบ้านส่งครบอะไรเทือกนี้แน่ๆ
“ ไม่อะ ” คนตัวเล็กส่ายหัวดิก “ คือ.. ผมมารอคุณ ”
ชานยอลแอบเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าช้าๆให้ดูสุขุมนุ่มลึกเหมือนพระเอกละครหลังข่าวมากที่สุด นึกแปลกใจคนตรงหน้าอยู่เหมือนกัน ทำเค้าปวดท้อง พอรู้สึกผิดก็มีการมารับผิดชอบด้วย เออ แบบนี้มันก็ดีเว้ยเฮ้ย
“ ตกลงจะอยู่รอฉัน? ”
แทนการพูดตอบรับ แบคฮยอนใช้วิธีการพยักหน้ากลับไปแทน
“ งั้น.. ”
“ …. ”
“ มารับผิดชอบที่ทำไว้เลยมา ”
“โอ๊ย แบคฮยอน ฉันปวดท้อง โอ๊ยยย “
เสียงทุ้มโอดครวญดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มพร้อมกับขายาวๆที่ดีดดิ้นอย่างรุนแรงแรง จนแบคฮยอนไม่แน่ใจว่าคนตัวสูงนั้น
เจ็บจริงหรือว่าแกล้งกันแน่..
“คะ..คุณปาร์คลุกขึ้นมาก่อนนะ กินยานี่ก่อน “
เสียงหวานดังขึ้นตะกุกตะกักเบาๆข้างหูก่อนที่มือเรียวจะช่วยพยุงคนป่วยขึ้นมานั่งพิงกับหมอนบนเตียงในห้องพยาบาลคนตัวสูงกำลังทำตัวอ่อนเปลี้ยราวกับสัตว์ไร้กระดูกนั่นทำให้แบคฮยอนต้องใช้แรงเยอะเป็นพิเศษเพื่อจะดึงให้คนแกล้งป่วยขึ้นมานั่งดีๆ
ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในห้องพยาบาลกัน และด้วยพื้นฐานส่วนตัวที่แพ้กลิ่นจำพวกยามาตั้งแต่เล็ก ยิ่งทำให้กลิ่นสะอาดๆที่โคตรจะเกลียดตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับแบคฮยอนได้อย่างรวดเร็วจนเกินไป นิ้วมือเล็กยกขึ้นถูบริเวณปลายจมูกจนมันแดงเถือกไปหมด ในใจอยากจะออกไปตั้งแต่สาวเท้าตามมนุษย์หัวไฟเข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่ก้าวแรก แต่เนื่องจากทางโรงเรียนเรียกประชุมอาจารย์ทุกคนด่วน บยอนแบคฮยอนเด็กดีของบรรดาอาจารย์จึงถูกฝากฝังให้ดูแลคุณคนป่วยหัวแดงที่นอนดีดดิ้นเป็นกุ้งเต้นสะดุ้งน้ำร้อนอยู่แบบนี้โดยไม่มีสิทธิคัดค้าน
“ ไหนยาอ่ะยา.. ยาอยู่หนายยย “
เสียงของชานยอลดังอู้อี้ครวญครางเหมือนเด็กเพิ่งตื่นยังไงอย่างนั้น แน่ล่ะมันดูน่ารัก แต่ที่สำคัญคือมันไม่ได้เข้ากับใบหน้าโหดๆของเจ้าตัวสักนิด
“ อ่ะ นี่ยา “
“ ป้อนหน่อยสินะนะ นี่ฉันปวดท้องมากจนมือยกไม่ไหวแล้วเนี่ย “
เขาโอดครวญขึ้นอีกครั้งพร้อมทำหน้าตาเหมือนลูกแมวที่โดนเจ้าของทิ้ง ดวงตากลมๆของชานยอลลอบสบเข้าไปในเสี้ยวดวงตารีๆของคนที่นั่งเกยขอบเตียงอย่างเว้าวอน มือหนาแกว่งไปมาราวกับอัมพาตกินไปแล้วจริงๆ ริมฝีปากอิ่มเหมือนพุดดิ้งเจลลี่สตรอเบอรี่ที่แบคฮยอนชอบกินก็กำลังเบะออกเล็กน้อย
บอกแล้วไงว่าไอ้ท่าทางแบบนี้น่ะมันไม่เข้ากับหนังหน้าห่ามๆของหมอนี่เลย แบคฮยอนก็อยากจะด่าคุณปาร์คอยู่เหมือนกันว่า ‘ ทอแหร ’... แต่แบคฮยอนก็มองข้ามเรื่องนั้นไปเพราะในตอนนี้เขาเชื่อเสียสนิทใจว่าคุณปาร์คหัวแดงกำลังป่วยจริงๆ
คนตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันอย่างรู้สึกผิด ไม่นึกเคลือบแคลงสงสัยถึงเรื่องพละกำลังแบบที่คนปวดท้องหนักควรจะพึงมี ใบหน้าเรียวพยักหน้าลงหงึกหงักนิดหน่อยแทนการตอบรับ ส่วนมือเล็กก็จัดการเทยาแก้ปวดท้องสีขาวขุ่นพร้อมยกไปจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม
“ อ่ะ อ้ามนะคุณปาร์ค อ้ามม “
คงไม่มีคำไหนเหมาะกับแบคฮยอนไปมากกว่าคำว่าน่ารักแล้วล่ะมั้ง
ไอ้ท่าทางเป็นห่วงกลัวว่ายาจะหกกระเด็นออกมารวมถึงริมฝีปากที่อ้าออกช้าๆราวกับจะบิ้วท์ให้ชานยอลอ้าปากตามนั่นน่ะ.. ใช่ว่าชานยอลจะชอบหรืออะไรนะ เขาเพียงแค่รู้สึกหมันเขี้ยวกับคนตรงหน้านี้ก็เท่านั้น คนตัวเล็กเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆที่น่าฟัด น่าแกล้ง น่างับให้จมเขี้ยวไม่มีผิด
อ่า…จมูกแดงๆนั่นมันน่าหยิกชะมัด แล้วยังแก้มย้วยๆน่ายืดนั่นอีกล่ะ
คิดได้อย่างนั้นมือหนาก็ยกขึ้นทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ เขายกมือจับแก้มสวยของแบคฮยอนที่ตอนนี้กำลังเบิกตาออกกว้างด้วยความตกใจอยู่ก่อนจะส่งนิ้วเรียวขึ้นหยิกแก้มอีกคน
ยืดดดดดดดดดด
“ งื้ออออออ คุณปาร์คทำอะไร มันเจ็บนะครับ งื่อ.. “
เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวหรอกว่าสีหน้าของตัวเล็กในตอนนี้มันน่าแกล้งแค่ไหน ในตอนนี้แบคฮยอนน่ะก็ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาโดนขัดใจหรอก เชื่อปาร์คเถอะ
พี่ปาร์ครู้พี่ปาร์คเห็น
“ฉันก็แค่จะทดสอบเฉยๆว่ายามันได้ผลรึเปล่า ” สีข้างถลอกing “ เนี่ย ยาออกฤทธิ์ดีมากเลย นอนอีกนิดก็คงจะหายแล้วมั้ง “
ริมฝีปากสีเชอรี่นั่นยังคงเบะออก “ งั้นคุณปาร์คก็ต้องนอนนะครับ ”
“ ฉันนอนไม่ได้ ”
โอ้ยยยยยย อะไรอีกล่ะทีนี้!
“ หมอนมันแข็งเกินไปฉันนอนไม่หลับหรอก ” ชานยอลปรายตามองมาทางแบคฮยอน
“ มือของนายน่ะ ”
แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม “ มือของผม? ”
ชานยอลหยักหน้าเล็กน้อยเขาไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่าเดิม มืออุ่นเคลื่อนไปข้างหน้าจับมือเรียวของคนที่ยืนเอ๋ออยู่มาวางปุลงกับหมอนแข็งๆของห้องพยาบาล พร้อมกับขยับตัวนอนลงหนุนมือเล็กๆนั่น
“ แค่นี้ก็นิ่มแล้วเตี้ย “
แบคฮยอนนิ่งเป็นมนุษย์ยุคหินไปแล้ว คนตัวเล็กยังคงอ้าปากค้างนิ่งอึ้งไปกับการกระทำแปลกๆของชานยอล สมองอันชาญฉลาดของเบ๊ตัวน้อยพยายามคิดหาเหตุผลมารองรับการกระทำของคุณปาร์ค
ซึ่งข้อเดียวเท่านั้นที่ปรากฏก็คงไม่พ้นอยากแกล้ง
คนตัวเล็กพรูหายใจออกมาเบาๆอย่างเหนื่อยหน่าย แน่ล่ะ คนปกติที่ไหนจะชอบให้คนอื่นใช้มือของตัวเองต่างหมอนกัน แต่ถึงกระนั้นแบคฮยอนก็ไม่ได้ดึงมือออกมา เขานั่งอยู่บนเก้าอี้สีชมพูพาสเทลของอาจารย์เจ้าของห้องนิ่งๆ ปล่อยให้เส้นผมนุ่มสีแดงสดกระจายทั่วแผ่นมือของเขา พลางนึกสังเกตชานยอลอยู่ในใจ
เขามีแพขนตายาวสีดำสนิท ซึ่งนั่นรับกับสันจมูกโด่งรั้นของเขาเป็นอย่างดี มันช่างเข้ากันคล้ายถูกเลือกสรรมาโดยจิตรกรมือดีสักคน ริมฝีปากสีแดงตุ่นๆของเขาไม่บวมจนน่าเกลียดและไม่บางเฉียบจนน่าขัน มันกลับพอดีกันไปหมด
นี่เป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนอดอิจฉาปาร์คชานยอลไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราอยู่ ชานยอลก็ยังดูหล่อเหลา
และในสายตาของแบคฮยอน
เขาดูน่ารัก
หลับตาพริ้มพร้อมกับแต่งแต้มรอยยิ้มขึ้นจนแบคฮยอนสามารถเห็นรอยบุ๋มเล็กๆตรงข้างแก้มได้อย่างชัดเจน
ซึ่งมันดูน่ารัก
แบคฮยอนกำลังคิดว่าชานยอลน่ารัก
จนกระทั่งตอนนี้บยอนแบคฮยอนก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมชีวิตเขาต้องมาพัวพันกับคนผมแดงที่นั่งหันหลังอยู่ข้างหน้านี่ด้วย
ท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว บยอนแบคฮยอนมองไม่เห็นเส้นผมของชานยอลเพราะหมอนี่ใส่หมวกกันน็อคอันใหญ่ครอบศรีษะเอาไว้ ต่างจากเขาที่ไม่มีอะไรสวมศีรษะอยู่เลย คนตัวเล็กนั่งหน้ามุ่ยให้ลมตีหน้าผากจนเหม่งชาไปหมดแล้ว จะบ่นตอนนี้ก็แน่ใจได้โดยไม่ต้องบอกว่าไอ้มนุษย์เผด็จการตรงหน้าคงไม่ได้ยินเสียงของเขาเป็นแน่ เพราะรอบตัวมีแต่เสียงลมกับเสียงเครื่องยนต์ดังอื้ออึงไปหมด
เขาโดนบังคับ! บังคับโดยไอ้คุณปาร์คหลังจากที่มนุษย์หัวไฟตัวสูงนอนหนุนมือของเขาจนชาไปทั้งมือ แบคฮยอนโดนลากมายังลานจอดรถของโรงเรียนที่เหลือเพียงรถของอาจารย์ไม่กี่คัน และแทนที่คนตัวเล็กจะได้กลับบ้านอย่างสบายใจกลับโดนอีกคนบังคับให้บอกชื่อที่อยู่แถมยังจะให้เค้าซ้อนมอเตอร์ไซค์สีแดงเพลิงนี่ไปด้วยกันอีก
ริมฝีปากสีเชอรี่สดเบะออกพลางนึกตำหนิอีกคนในใจ ไม่รู้ว่าทำไมคุณปาร์คถึงต้องขับเร็วขนาดนี้ด้วย แรงลมราวกับจะตีเขาให้ลอยออกไปแล้วแปลงร่างเป็นว่าวงูน้อยน่ารักยังไงอย่างงั้น แค่แบคฮยอนต้องมานั่งเบียดเสียดแนบแทบจะสิงกับคนที่ไม่อยากจะเสวนาด้วยขนาดนี้มันยังแย่ไม่พออีกหรือยังไง แถมไอ้รถราคาเหยียบแสนเหยียบล้านนี่ก็ไม่เผื่อที่ให้คนซ้อนเลยสักนิด
ขณะที่แบคฮยอนกำลังรู้สึกเหมือนหน้าใกล้จะเป็นอัมพาตเพราะไม่เคยขึ้นมอเตอร์ไซค์มาก่อน แต่คนตัวสูงที่กำลังทำตัวเป็นสารถีกลับยิ้มกริ่มภายใต้หมวกกันน็อค แรงกอดที่เอวมันแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเร่งความเร็วเครื่อง เบ๊ตัวน้อยคงกลัวจนหัวหดถึงได้กอดแน่นแบบนั้น แถมตอนนี้ก็ยังเอาหน้ามาซุกที่แผ่นหลังของเขาอีกต่างหาก
น่าสงสารจังเลยนะเด็กแว่น ㅋㅋㅋ
ความทรมานของคนซ้อนสิ้นสุดลงตอนที่มอเตอร์ไซค์ดูคาติสีแดงเพลิงเคลื่อนเข้าจอดหน้าหอพักตึกสีครีมของแบคฮยอน คนตัวเล็กปล่อยมือออกจากเอวหนาแล้วกระโดดตุ้บลงจากมอเตอร์ไซค์ ยกมือเรียวขึ้นสางๆผมตัวเองนิดหน่อยก่อนจะส่งยิ้มยิงฟันแบบที่เด็กห้าขวบมาดูก็รู้ว่าฝืนธรรมชาติสุดๆไปให้คนที่เพิ่งถอดหมวกกันน็อคออก
“ ขอบใจที่มาส่งนะคุณปาร์ค ”
ชานยอลยกมือขึ้นเสยผมสีแดงเพลิงของตัวเองพร้อมกับมองคนที่ยังยืนยิ้มแฉ่งอยู่
ไม่ทราบว่ามันยิ้มอะไรของมันนักหนาแต่ถึงอย่างนั้นปาร์คชานยอลก็ไม่ได้นึกใส่ใจเท่าไหร่นัก
“ อือ ”
เขาครางฮือในลำคอ ก่อนจะยกหมวกกันน็อคขึ้นใส่อีกครั้ง
ละ.. แล้วเมื่อกี้จะถอดออกทำไม
แบคฮยอนได้แต่งุนงงกับการกระทำคุณปาร์ค เมื่อกี้ถอดหมวกกันน็อคเพื่อจะเสยผมโชว์เขางั้นหรอ แต่คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ ก็หมอนี่ชอบคิดว่าตัวเองเท่นี่นา
อี๋ คนอะไรก็ไม่รู้หลงตัวเองชะมัด
คนตัวเล็กกลอกตาก่อนจะลอบถอนหายใจและเตรียมหันหลังเดินเข้าหอพัก
“ เฮ้ย พรุ่งนี้มารอตรงนี้นะ ”
คนตัวเล็กชะงักฝีเท้าหันหน้ากลับไปมองคุณปาร์คที่เอ่ยเสียงอู้อี้ทะลุหมวกกันน็อคออกมา
แบคฮยอนเอียงคอมองเพราะได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่นัก งงหนักชนิดที่เรียกว่าดูหน้าก็รู้ว่าไม่เข้าใจ และชานยอลเองก็รู้สึกขัดใจเหลือเกินกับความเซ่อของแบคฮยอน
“ ทำไมถึงพาโบจังวะ ”
“ หือ.. พาโบยังไงอะ ._. ”
เออเจริญเถอะครับ ทีโดนด่าล่ะได้ยินชัดเชียว
“ พรุ่งนี้มารอตรงนี้นะ ได้ยินไหม ” เขาพูดไปในขณะที่ดวงตากลมโตดุร้ายนั่นก็จ้องแบคฮยอนไปด้วย “ แล้วตอนเลิกเรียนน่ะ รอฉันด้วยล่ะ “
ชานยอลเอ่ยเสียงดังขึ้นนั่นเป็นผลทำให้แบคฮยอนขมวดหัวคิ้วเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องมารอหมอนี่ด้วย มีธุระด้วยกันหรอก็ไม่ใช่ จะใช้งานเขาก่อนไปเข้าเรียนหรือตอนหลังเลิกเรียนก็คงจะโหดร้ายไปสักนิด
“ จะงงอะไรนักหนาเนี่ย ” คนตัวสูงจิ๊ปากอย่างนึกรำคาญใจ “ พาโบเอ๊ย นายนี่มันพาโบจริงๆ ให้ตายสิ ”
คราวนี้แบคฮยอนได้ยินชัดเจน กำลังจะอ้าปากท้วงว่าเขาไม่ได้พาโบอย่างที่ถูกกล่าวหา
หากอีกฝ่ายก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ พรุ่งนี้จะมารับ แล้วก็จะมาส่งด้วย ”
“ ห้ะ? ” แบคฮยอนทำหน้างง “ ทำไมต้อง เอ่อ.. คอยรับคอยส่งผมด้วย? ”
“ แล้วนายยุ่งอะไรด้วยล่ะ ”
แบคฮยอนพูดเอ้าแบบไม่ส่งเสียง นึกงุนงงกับไอ้หัวแดงนี่ว่ามันต้องการสิ่งใดจากเขา แต่ยังไม่ทันจะได้งงอะไรต่อฝ่ายนั้นก็ชิงพูดออกมาอีกครั้ง
“ หน้าที่ของนายคือเป็นเบ๊ให้ฉัน ลืมแล้วหรือไง ” ชานยอลขมวดหัวคิ้ว “ อ้อ..แล้วเรื่องน้ำส้มก็ยังไม่ได้เคลียร์นะ ”
พอถึงตรงนี้แบคฮยอนก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ โอเค เข้าใจแล้วว่าเขาไม่มีสิทธิ์ไปขัดศรัทธาพ่อคุณชานยอลนี่ได้ เพราะฉะนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือทำๆตามที่ถูกสั่งไปซะ จะได้สิ้นเรื่องเสียที
แต่ความไม่เข้าใจและงุนงงในข้อตกลงก็ยังคงอยู่
“ แล้วผมต้องเป็นเบ๊ให้คุณไปอีกนานแค่ไหน ”
ใช่.. นี่เป็นสิ่งที่แบคฮยอนอยากรู้คำตอบ ไอ้ที่ว่าให้เป็นเบ๊น่ะพอเข้าใจแต่มันต้องนานแค่ไหนถึงจะสมใจคุณปาร์คกันล่ะ สองอาทิตย์ สองเดือน หรือสองปี ถ้านานขนาดนั้นมีหวังเขาได้ผูกคอตายหรือไม่ก็ทำฮาราคีรีตัวเองก่อนครบกำหนดแน่ๆ ใครมันจะได้ทนไอ้บ้านี่ได้นานขนาดนั้นกัน
“ ยังไม่ได้คิด ”
ปาร์คชานยอลเอ่ยออกมาหน้าตาย ทำให้คนที่ยืนฟังอยู่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
“ ห้ะ ”
“ ก็นั่นแหละ ยังไม่ได้คิด ”
แบคฮยอนทำหน้าเหลือเชื่อ เริ่มรู้สึกเสียเปรียบอย่างบอกไม่ถูก ยังไม่ได้คิดนั่นหมายความว่าเขาจะต้องโดนใช้(และโดนแกล้ง)ไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณปาร์คจะพอใจ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เสียเปรียบสุดๆไปเลยไม่ใช่หรือไง
ไอ้เสาไฟฟ้าหัวแดง.. คิดว่ารู้ความลับคนอื่นแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรอ
“ โอเคนะเตี้ย เข้าใจตรงกันนะ ฉลาดแล้วนะ ”
ชานยอลเบิ้ลเครื่องมอเตอร์ไซค์คันโก้ของตัวเองเพื่อเป็นการบอกให้รู้เป็นนัยๆว่าเขากำลังจะขับออกไปในไม่ช้านี้
“ อ้อ ” เจ้าของผมสีแดงเพลิงเอ่ยขึ้นอีกหนเมื่อนึกขึ้นได้ “ แล้วถ้าพรุ่งนี้นายไม่ยอมรอกลับบ้านพร้อมฉันอย่างที่ตกลงกันไว้ คงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น ”
“ ....... ”
“ นายคงไม่อยากถูกพักการเรียนหรืออะไรเทือกๆนั้นหรอกใช่ไหม.. น้องเตี้ยตะแมะแคระ ”
บรรยากาศในห้องเรียนไม่มีอะไรน่าพิสมัยเลยแม้แต่นิด และจะยิ่งแย่กว่านี้ถ้าไม่มีไอ้พวกมิตรสหายทั้งหลายคอยนั่งหลับเป็นเพื่อนกันยามถึงวิชาประวัติศาสตร์เกาหลี
หนังสือบนโต๊ะพร้อมกับสมุดโน้ตนั้นไม่ได้ช่วยให้ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีที่นั่งเรียงกันเป็นสามทหารเสือรู้สึกกระชุ่มกระชวยหรือนึกอยากเรียนมากขึ้นแต่อย่างใด หนำซ้ำมันยังทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนโดนพลังงานบางอย่างสูบจิตใจไปจนหมดสิ้น เสียงอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้องดังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาจนคนผิวขาวที่สุดในกลุ่มอ้าปากหาววอดทำตาเยิ้มจ้องมองไปที่กระดานไวท์บอร์ดซึ่งถูกขีดเขียนด้วยลายมือบรรจงจนเต็มหน้ากระดาน
ยิ่งเห็นก็เหมือนกินยานอนหลับเพิ่มอีกสามเม็ด
เจ้าของผมสีอ่อนสะบัดหัวไล่ความง่วงงุนออกไปถึงแม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่
ตาคมกวาดมองรอบๆห้องเผื่อจะทำให้หายง่วงได้บ้าง พวกเด็กหน้าห้องนั่งหลังตรงแด่วจดอะไรลงสมุดกันยิกๆ เช่นเดียวกับแถบหลังห้องวันนี้เกิดผีเข้าอะไรกันก็ไม่ทราบถึงได้ขยันเรียนกันอย่างกับโดนผีเด็กเนิร์ดเข้าสิง เว้นไว้แต่ไอ้สองตัวที่นั่งขนาบข้างเขา มันหลับไปตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วเลยด้วยซ้ำ
เขาว่ากันว่าเพื่อนกันมักจะมีอะไรที่เหมือนกัน
แต่เดี๋ยว.. ถึงความเชื่อนั้นจะมีความเป็นไปได้หลายเปอร์เซ็นต์ แต่คนอย่างโอเซฮุนก็ไม่ได้ขยันไปมีเรื่องกับชาวบ้านเขาบ่อยเท่าไอ้ปาร์คหัวแดง แล้วก็ไม่ได้หลับทุกสถานการณ์เหมือนไอ้จงอินตัวดำข้างๆ นี่หรอกนะ
แต่ให้ตายเถอะ.. สภาพหนังตาของเขาตอนนี้ไม่สามารถบังคับอะไรได้แล้วจริงๆ
ยอมเป็นเหมือนไอ้จงอินดูสักรอบคงไม่มีอะไรเสียหายมั้ง
คิดได้อย่างนั้นโอเซฮุนคนหล่อฉายารูปหล่อพ่อรวยด้วยฟาร์มโคนมก็ยอมแนบหน้าผากอันสวยงามของตัวเองจรดกับหน้าหนังสือที่เปิดอ้าอยู่แต่โดยดี ยกแขนสองข้างขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะปิดเปลือกตาของตัวเองลง ขยับท่าทางเล็กน้อยเตรียมพร้อมสำหรับการจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักยามนั่งเรียนในห้อง
อากาศเย็นๆเข้าแทรกซึมรอบตัวคนตัวสูงทุกอณูพื้นที่ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว
แต่เซฮุนรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลับลึกอยู่เหมือนกัน ถึงขั้นฝันถึงยุนอาคนน่ารักห้องสามตอนใส่กางเกงขาสั้นเรียนพละ สักพักรุ่นพี่นานะก็เดินส่งยิ้มหวานมาให้ อ้อ.. ในฝันยังมีน้องคริสตัลอีกคน รายนั้นส่งยิ้มแถมยังโบกมือให้เขาอีกต่างหาก
ยิกๆ
ถ้าไม่ติดว่าได้รับแรงสะกิดมาอีกหนหนึ่งล่ะก็เขาก็กะว่าจะฝันต่อถึงน้องนางฟ้าไอรีนอยู่เหมือนกัน..
เดี๋ยว
ใครมันสะกิดกูวะ..
สัญชาตญาณความเป็นคนตั้งใจเรียนในห้องพุ่งทะยานกะทันหัน เซฮุนสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากโต๊ะพร้อมกับนั่งหลังตรง ในใจหวังให้เป็นไอ้เพื่อนเฬวทั้งสองคนที่เป็นคนสะกิดเขาหรือไม่ก็หัวหน้าห้องเดินมาบอกให้ตื่นเตรียมเรียนวิชาต่อไปได้แล้ว แต่ความรู้สึกเหมือนโดนส้นตีนสากๆเหยียบกลางหน้าก็บังเกิดเมื่อพบว่าคนทั้งห้องหันมามองเขาเป็นตาเดียว
“ นอนหลับฝันดีไหมคะคุณโอ ”
เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นข้างหูจนขนแขนลุกลามไปถึงร่องตูด รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นใครที่มายืนพูดอยู่แบบนี้ เซฮุนหันซ้ายหันขวามองเพื่อนชั่วทั้งสองก็พบว่าพวกมันลุกขึ้นมานั่งด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม แถมยังเปิดหนังสืออ่านเหมือนสนใจเรียนอย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย
ไอ้พวกห่า! นี่พวกมึงตื่นกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทีงี้เร็วเลยนะไอ้ชิบหาย!
“ เอ่อ.. ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับจารย์ ”
เซฮุนหัวเราะแหะๆ ความรู้สึกตอนนี้คือโคตรเหี้ย ฟีลเหมือนไปยืนอยู่ตรงที่หน้าผาร้องเพลงเธอจะเหนื่อยเกินไปรึเปล่าของพี่ๆวงมายด์อยู่ อยากมุดตัวเองลงหลุมแล้วไปโผล่คอห่านในห้องน้ำชั้นไหนก็ได้ ณ จุดนี้คือยอมหมดเลยครับ T_T
“ งั้นหรอ ” อาจารย์คิมส่งยิ้มชวนสะพรึงมาให้หนหนึ่ง “ แต่เมื่อกี้คุณละเมอชื่อนานะกับคริสตัลออกมา แถมยังยิ้มคนเดียวด้วยนะ”
ได้ยืนเสียงกลั้นขำของไอ้เพื่อนชั่วทั้งสองก่อนที่พวกมันจะตีเนียนตอนเขาหันไปค้อนใส่คนละที
โอเซฮุนหันหน้ากลับมาส่งยิ้มแหยๆไปให้อาจารย์ประจำวิชาประวัติศาสตร์ที่เหยียดยิ้มเป็นเส้นตรงมาให้เขา
“ดูเหมือนคุณจะว่างนะ”
“.........”
“คนว่างๆก็ต้องหาอะไรทำใช่มั้ย” อาจารย์สาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนจะส่งยิ้มให้อีกรอบ “ตอนนี้ที่โรงอาหารน่าจะต้องการความช่วยเหลือ”
เซฮุนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ถ้าอาจารย์พูดแบบนี้หมายความว่า..
“เชิญที่โรงอาหารค่ะ.. คุณโอ”
นี่กูโดนทำโทษอีกแล้วสินะ ไอ้ซั๊ซ
- - - - - - - -
เกิดมาชาตินึงสาบานได้ว่าเซฮุนไม่เคยโดนทำโทษข้อหานอนหลับในห้องเรียนมาก่อน อย่างมากสุดก็ตอนมัธยมต้นปีสองตอนแกล้งเอานาฬิกาปลุกไปวางไว้ในห้องสมุดให้เสียงมันดังเล่น ส่วนข้อหาอื่นที่หนักกว่านั้นก็จะเป็นของไอ้จงอินหรือไม่ก็ไอ้ชานยอล
ในกลุ่มสามคนมีเขานี่แหละที่ดูจะแสบน้อยสุดแล้วถ้าเทียบกับไอ้สองคนนั้น ไอ้พวกนั้นมันระดับมหากาพย์ อาจารย์ประจำชั้นถึงกับสรรเสริญว่าถ้ามีคนแบบพวกมันสักสิบคน โรงเรียนคงล่มจมและประเทศคงไม่เจริญแน่ๆ แต่เนื่องจากว่าประเทศเจริญไปแล้ว และอีกอย่างจงอินกับชานยอลก็มีแค่อย่างละคน พวกมันเลยไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของอาจารย์เท่าไหร่
เซฮุนเดินจากตึกเรียนมายังโรงอาหาร สิ่งแรกที่เขาเห็นคือรถขนนม มันเป็นรถบรรทุกขนาดย่อมรูปร่างป้อมๆน่ารัก ไม่ได้มีสัญลักษณ์อะไรติดบอกเป็นพิเศษว่าสิ่งของที่บรรทุกมาคือนม
แต่ทำไมเซฮุนถึงรู้น่ะหรอ
ก็ไอ้รถคันนี้มันเป็นรถคู่แข่งฟาร์มโคนมของพ่อเขา โดยนิยมเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังโรงเรียนต่างๆ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่านมโรงเรียนนั่นแหละ ความพิเศษของมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก ฟาร์มของพ่อเขาเจ๋งกว่าเยอะ พูดแล้วจะหาว่าโม้แต่นี่ก็ขอพูดเลย
สองขานำพาร่างสูงเดินไปยังรถคันดังกล่าว ถ้าให้เดานี่คงเป็นเวลาส่งนมโรงเรียน ปกติเซฮุนจะใช้เวลาเรียนอยู่บนห้องเรียนเลยไม่เคยได้เจอรถคันนี้มาก่อน เจ้าของผมสีอ่อนเดินไปยังหลังรถที่เปิดอ้าเอาไว้อยู่ อาจารย์พละสองคนกำลังขนนมลงจากรถคันนั้น
“ อ้าวนักเรียน มายืนทำอะไรตรงนี้ นี่มันเวลาเรียนไม่ใช่หรอ ”
“ อาจารย์คิมให้ผมมาช่วยงานน่ะครับ ”
“ โดนทำโทษล่ะสิ ”
อาจารย์ลีส่งยิ้มแบบรู้ทันมาให้ ก่อนจะยกลังไม้ใส่นมขวดแก้วอีกหนึ่งลังลงไปวางไว้ตรงพื้นเพื่อส่งให้ลุงภารโรงรับช่วงต่อ อาจารย์ลีพยักเพยิดหน้าไปยังลังนมก่อนจะออกคำสั่ง
“ ขนตามลุงเขาไปแล้วกัน ”
เซฮุนอุ้มลังนมขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดสองลังซ้อนเพราะคิดว่าน่าจะเสร็จไวกว่า ลังนึงก็หนักเอาการแต่ไม่น่าจะเหนือบ่ากว่าแรงคนแข็งแรงอย่างเขาเท่าไหร่ ร่างโปร่งค่อยๆเดินไปยังตู้แช่ขนาดใหญ่หลังโรงอาหารด้วยท่าทางทุลักทุเล
“ เฮ้ยๆๆๆ ”
อุทานเสียงดังเมื่อลังด้านบนเริ่มเซอย่างเห็นได้ชัดจนเขารู้สึกผวา เซฮุนหยุดยืนนิ่ง รับรู้ได้เลยว่าไอ้ลังด้านบนมันกำลังจะหล่นไม่หล่นแหล่ ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อลังไม้ด้านบนเริ่มหยุดอยู่กับที่
“ โอ้ย.. อย่าร่วงเชียวนะโว้ยไอ้หมา ”
เซฮุนพึมพำและเริ่มสาวเท้าเดินอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าขวดแก้วในลังไม้มันเริ่มเทน้ำหนักมาทางซ้ายอีกแล้ว..
เพล้งง!!
เสียงของตกและน้ำหนักในมือที่เบาลงทำให้ใบหน้าที่ขาวกระจ่างอยู่แล้วซีดเผือดเข้าไปอีก
โอเซฮุนยืนนิ่งมองซากลังไม้ที่ยังอยู่ในภาพสมบูรณ์แบบเหมือนเดิมเด๊ะ แต่ที่ชิบหายคือที่พื้นมีน้ำสีขาวๆเจิ่งนองเพิ่มขึ้นทีละนิด
นั่นหมายความว่านมขวดแก้วในลังมัน..
“ เฮ้ยน้อง ทำไรวะ! ”
แตก..
ไอ้เหี้ย! นมแตก!!
นี่มันวันอะไรของกูวะเนี่ย!!
ผู้ชายคนหนึ่งที่เซฮุนคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของเสียงเมื่อครู่วิ่งมาจากไหนไม่รู้ด้วยความเร็วแสง
ร่างเล็กๆย่อตัวลงจนเซฮุนมองเห็นเพียงแค่หมวกแก๊ปของอีกฝ่าย มือเล็กยกลังไม้ขึ้นและน้ำนมสีขาวก็ไหลออกมาราวกับเป็นน้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ไม่ปาน แถมเซฮุนยังได้ยินเสียงดังเคร้งตอนที่คนตัวเล็กเขย่าลังไม้ไปมาอีกต่างหาก
อื้อหือ.. ฟังจากเสียงคงไม่เหลือสักขวดให้ชื่นใจ
“ เฮ้ยพี่.. คือผม.. ”
“ไอ้เหี้ยเอ้ย!”
เซฮุนสะดุ้งเฮือกให้กับคำสบถของอีกฝ่าย พร้อมกับทำตาเหลือกแล้วจ้องมองไปยังคนที่นั่งอยู่ตรงพื้น
“ขวดแตกแบบนี้ทำยังไงวะ! ตายแน่ กูโดนหักเงินเดือนแน่”
ร่างเล็กที่ยังยังนั่งยองๆอยู่ตรงพื้นยกมือขึ้นปิดหน้า คำด่าหยาบคายยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน
“ เชี่ยหนังหมา ทุกวันนี้กูก็แทบจะแดกอาหารวัวเป็นอาหารอยู่แล้วยังจะโดนหักเงินอีกหรอวะเนี่ย เทพเจ้าก็ดูจะเอ็นดูกูเหลือเกิ๊น ชีวิตโคตรพ่อซวยเลยสัดเด้ย ”
เห้ย.. ถึงจะคุ้นกับคำด่ามามากมายก่ายกองจากไอ้เพื่อนเวรทั้งสอง แต่ชีวิตของโอเซฮุนไม่เคยโดนคนแปลกหน้ามาแรพคำด่าให้ฟังมาก่อนเลยนะ นี่ไอ้พี่คนนี้เป็นใครก็ไม่รู้แถมยังกล้าพ่นคำด่าแบบเสียหมาออกมาอีก ถึงจะเหมือนด่าให้ตัวเองฟังก็เถอะ แต่ลืมไปแล้วหรือเปล่าว่ามีเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะยืนอยู่ตรงนี้อีกคนนะเว้ย
เล่นเอารู้สึกผิดเลยว่ะ..
“ พี่.. พี่โอเคป้ะ ”
เป็นคำถามที่โคตรปัญญาอ่อน แต่ตอนนี้ไม่รู้จะถามอะไรแล้วจริงๆ ดูท่าพี่แกจะรับไม่ได้อย่างแรงกับการที่เขาทำขวดแตกไปหนึ่งลังแบบนี้ ที่จริงบอกดีๆจะยอมชดใช้ค่าเสียหายก็ได้นะเว้ย พี่เขาจะดราม่าอะไรขนาดนั้นวะ
ร่างเล็กยกมือขึ้นลูบหน้าหนึ่งหนเมื่อได้ยินคำถาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องมองไอ้ตัวต้นเหตุที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่ ตากลมมองจ้องเข้าไปยังดวงตาของอีกคนเหมือนต้องการบอกผ่านทางสายตาว่า ‘ กูเกลียดมึงเหลือเกินไอ้เด็กกะโหลก ’
แต่ดูเหมือนว่าเซฮุนจะไม่ได้รู้สึกเลยว่ากำลังโดนด่าผ่านทางสายตา
คนตัวสูงชะงักไปตั้งแต่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามอง เขาเห็นดวงตากลมโตนั่นมีน้ำหล่อเลี้ยงเหมือนจะร้องไห้ ไหนจะคิ้วที่ขมวดติดกันนั่นอีก ริมฝีปากสีระเรื่อนั่นถูกฟันคมกัดเอาไว้เหมือนพยายามสะกดกลั้นน้ำตาของตัวเอง
โอ้ มาย กั๊ดดด…
สาบานกับกูทีว่านี่ผู้ชาย!
เป็นครั้งแรกที่เซฮุนนึกอยากจับผู้ชายทำเมีย ไม่.. โหดไป เอาเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขานึกชมผู้ชายว่าน่ารัก เออมันน่ารักจริงๆนะ ถ้าไม่นับไอ้พวกเสื้อกล้ามกับแอคเซสเซอรี่ต่างๆที่โคตรจะฮาร์ดcoreบนตัวพี่แกแล้วล่ะก็
บอกเลยว่า โคตร-น่า-รัก!
แต่เดี๋ยว ใช่ว่าเขาจะตกหลุมรักผู้ชายด้วยกันนะโว้ย ไอ้ที่คิดๆทั้งหมดนั่นก็แค่ชื่นชม ดูก็รู้ว่าไอ้พี่นี่มันแมนทั้งแท่งติดแค่หน้าตาไม่ให้เท่านั้นเอง
“ พ่องมึงเถอะ ”
เห็นไหมล่ะ
“ ถ้าโอเคกูคงไม่มานั่งด่าพ่อล่อแม่.มึงแบบนี้หรอกไอ้ควาย! ”
ก็บอกแล้วว่าไอ้พี่หน้าแบ๊วนี่มันโอ..
.
.
.
.
.
โอ้โหไอ้เหี้ยแมนทั้งแท่งเลยค่ะ มึง!!
141013 : 2nd TALK
ตอนที่สวงงงงง แถ่มแทมแท้มมมมมมมม อ่านให้เป็นซาวด์ด้วยแมลงสาบจะขอบคุณมากค่ะ อิคึ
ก็มาถึงตอนที่สองแล้วไม่มีอะไรมากเน้ออ ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้
อาทิตย์ที่ผ่านมาเสียน้ำตาก็เยอะโน๊ะ โอ้ยเจ็บค่ะ อะฮ่าอะฮ่า
แต่ก็อย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะคะ เลิ้บ แล้วก็ขอบคุณๆพี่ๆหลายๆคนที่ติดตามฟิคนี้น้า
ทั้งที่คอมเม้นท์แท๊กฟิคทั้งที่เดินเข้ามาบอกด้วย เขินเจรงๆ
ปริ่มมากเหลยยยยย บ๊ายบายฮะ จูดุ๊บจุ๊บ ♡
– ลูกอมรสแมลงสาบ
สวัสดีกั้บเป็นรอบที่สองของตืดแย้ว ฮิ้ :$ หวังว่ารอบนี้พี่ปาร์คคงไม่น่าหมั่นไส้ไปเนอะ
เปิดตัวอีกคู่แล้วเย่! ใครเอ่ยซังนัมจาที่สุดในโลก พนักงานส่งนมลู่หานนั่นเองงงง
ขอบคุณที่อ่านจนมาถึงตรงนี้นะคะ ซับพอร์ทพวกเราไปเรื่อยๆน้า
อย่าลืมติดตามจนจบเน้อ บ้ายบาย
– ตัวตืด
ครบ 1,000 วิวแล้วจ้า เอ้าจุดพลุ!! ปุ๊งปุ๊ง!!
ตอนที่สองนี้คู่รองของเราก็เปิดตัวแล้วนะคะ ซึ่งเป็นคู่ฮุนฮานอย่างที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่แรก คู่นี้มีความแตกต่างกับคู่หลักของเรามาก แต่รับรองว่าบันเทิงไม่แพ้กันค่ะงานนี้
เรารู้ว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปมันสร้างความสะเทือนใจแค่ไหน ซึ่งเราเองก็สะเทือนใจ แต่ถ้าลองมองโลกในแง่ดีดูทุกอย่างจะโอเคค่ะ :)
ในฐานะที่เป็นฮุนฮานชิปเปอร์คนนึง เราจะยังคงซัพพอร์ทพวกเขาทั้งสองคนต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน เราจะแต่งฟิคคู่ฮุนฮานต่อไป และถ้ามีโอกาสได้แต่งเรื่องหน้า เราก็จะแต่งต่อไปเช่นเดียวกันค่ะ สำหรับฮุนฮานชิปเปอร์คนใดที่หลงเข้ามาอ่าน โปรดเชื่อมั่นในตัวของเซฮุนและลู่หานต่อไปด้วยนะคะ
จงเข้าใจคนที่จากไปและให้กำลังใจคนที่ยังอยู่ต่อค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคำติชมจ้า อย่าลืมติดแท็ก #คอนเฟลคกับนม ด้วยนะเธอ จุ้บจุ้บ
- กล้วยหอมทอด
#คอนเฟลคกับนม
♡
ความคิดเห็น