คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ♡ cornflake and milk 。00 -
0 0
เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้อยู่ในชีวิตจริง แต่มันอยู่ในจินตนาการ - วอลท์ ดิสนีย์
นึกสงสัยอยู่เสมอว่าเรื่องราวของผมและเขามาถึงจุดๆนี้ยังไง?
ดวงตากลมๆโตๆเหมือนสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์จากนอกโลกของคนตรงหน้าจ้องลึกลงมาภายในดวงตาเรียวรีของผมอย่างเจ้าเล่ห์ เขาอยู่ห่างจากผมไม่ถึงห้าเซนติเมตรเลยด้วยซ้ำ จ้องอยู่อย่างนั้นได้เพียงครู่เดียว ริมฝีปากสีเข้มซึ่งเป็นพวงผลมาจากบุหรี่ราคาแพงที่เขาสูบอยู่ทุกวันก็ขยับเข้ามาใกล้
ห่างกันน้อยกว่า 5 เซนติเมตรเข้าไปแล้ว..
“ นี่แบคฮยอน เย็นนี้เราไปติวกันมั้ย? “
น้ำเสียงของเขาทุ้มนุ่มเหมือนผ้าสักชนิดที่มีคุณสมบัติลื่นๆ อาจจะเป็นเพราะระยะห่างของผมและคนตรงหน้าที่ใกล้จนแทบจะชิดติดกัน ทำให้เวลาที่เขาอ้าปากพูด เสี้ยวริมฝีปากสีแดงเข้มก็จะขยับมาโดนกลีบปากเล็กๆของผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ ตอบสิเจ้าแว่น “
ลังเลอยู่เล็กน้อย พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวๆไม่ต่างอะไรกับจังหวะกลองสามช่าในงานกีฬาสี
“ กะ..ก็ไปสิคุณปาร์ค “
กลีบปากเล็กก็สัมผัสโดนอวัยวะเดียวกันของคนตรงหน้า
คุณปาร์คยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างที่เขาชอบทำอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะขยับลดระยะห่างของเราให้น้อยลง
“ พูดแล้วนะว่าจะไป “
น้อยลง
“ อย่าลืมซะล่ะ “
ในที่สุดริมฝีปากของเราก็แนบชิดกัน
และเขาก็จูบผม
ปาร์คชานยอลกำลังจูบผม
-
ถ้าย้อนเวลากลับไป เรื่องมันเริ่มต้นในตอนที่ฝนกำลังตก
หยาดฝนเม็ดเล็กเม็ดน้อยทิ้งตัวลงสู่พื้นโลกตามทฤษฏีที่เรียกว่าแรงโน้มถ่วง ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาก็พอจะรู้ได้ว่าอากาศข้างนอกก็คงเย็นสบายน่านอนอยู่พอสมควร ดวงตาเรียวรีเหลือบตามองตัวเลขประมาณสี่ตัวที่ทาบทับอยู่ที่หน้าปัดนาฬิกาเรือนโตบนผนังห้องพักครูสีขาวซีดๆแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา
ห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว..ผมควรจะใช้เวลานี้ไปกับการทบทวนบทเรียนของวันนี้มากกว่าอยู่ที่นี่
“ บยอนแบคฮยอน “
“ ครับอาจารย์ “
ผมพาตัวเองมายืนนิ่งๆอยู่ภายในห้องที่มีป้ายตัวบักเอ้กแปะไว้อยู่ที่หน้าบานประตูสีเขียวขี้ม้าว่าห้องพักครูและมาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะขออาจารย์จีโฮ ครูประจำชั้นที่มีหน้าตาหล่อเหลาจนผมมักจะแอบคิดในใจว่าทำไมเขาไม่ไปทำมาหากินอย่างอื่นซะล่ะ
“ ที่ครูเรียกเธอมาพบนะเพราะเรื่องผมการเรียนของเธอนะแบคฮยอน “ เหลือบมองสีหน้าของผมที่กำลังจะซีดเป็นกระดาษก่อนจะพูดต่อ “ สิทธิของนักเรียนทุนน่ะจะต้องมีผลการเรียนไม่เกินลำดับที่ห้าของชั้นนะ เธอรู้ใช่ไหม? “
แน่นอนว่าผมรู้ดี ไม่ต่างอะไรก็สายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจเมื่ออาจารย์พูดถึงเรื่องที่ว่านี้ ผมเป็นนักเรียนทุนของโรงเรียนมัธยมซออุลมาได้สองปีกว่าๆแล้ว เหมือนที่อาจารย์พูดนั่นแหละครับ เราจำเป็นจะต้องรักษาผลการเรียนให้ติดอยู่ในระดับท๊อปไฟว์ แต่เนื้อหาปีนี้มันยากเหมือนเอาภาษาต่างดาวมาสอนเด็กห้าขวบยังไงอย่างนั้น
เกรดของผมถึงได้ร่วงเอา ร่วงเอา
“ ครับอาจารย์ คราวหน้าผมจะรักษาผลการเรียนของผมให้อยู่ในอันดับเดิมให้ได้ครับ “
พูดไปอย่างนั้นทั้งที่ทั้งที่จริงก็รู้ดีว่าคงทำไม่ได้..
“ ดีมาก ครูเอาใจช่วยนะแบคฮยอน “
ผมยิ้มตอบอาจารย์จีโฮเล็กน้อยก่อนจะค้อมตัวสาวเท้าเร็วๆมายังประตูห้องที่เปิดอ้าแง้มๆไว้ แปลกดีที่อากาศเย็นๆภายในห้องมันสามารถแทรกซึมเข้ามาภายในใจของผมได้อย่างง่ายดาย
รู้สึกเหมือนตกอยู่ในพายุหิมะเลย
ว่ากันว่าเมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองปัญหาที่มีอยู่ก็จะได้รับการแก้ไข ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะกลับบ้านให้เร็วที่สุด มือเรียวเล็กเอื้อมจับราวประตูส่งแรงไปเลื่อนมันให้อ้าออกซึ่งผมไม่รู้เลยว่าจังหวะการเปิดประตูออกของผมจะไปซ้อนทับกับใครอีกคน
นั่นก็ทำให้หัวทุยๆของผมชนกับส่วนที่น่าจะเป็นแผ่นอกเขาเข้าเต็มแรง
“ เอ่อ ขอโทษนะ “
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้สบตากับเขาตรงๆ สีผมสีแดงเข้มที่ผิดกฎข้อที่สิบสี่ของโรงเรียนนั้นรับกับดวงตากลมๆแฝงไปด้วยความดุดันอยู่ในทันทีเป็นอย่างดี
ผมเคยได้ยินชื่อของเขานะ..เขาชื่อว่าปาร์คชานยอล
อันธพาลตัวฉกาจที่เด็กติ๋มๆเนิร์ดๆอย่างผมควรจะหลีกเลี่ยงมากที่สุดเพื่อป้องกันการโดนรังแก รีดไถหรืออะไรต่างๆที่พวกตัวร้ายในโรงเรียนชอบทำกัน และในเมื่อเขาไม่ได้ตอบรับหรือแสดงความรู้สึกอะไรกับคำขอโทษของผม ผมก็ควรจะให้คิดอะไร ทางที่ดีควรจะไปให้พ้นสายตาของเขาจะดีกว่า
อย่าบอกใครล่ะว่าผมน่ะกลัวสายตาของหมอนั่นสุดๆไปเลย!
ภายในห้อง5-B ที่ในตอนนี้ถูกจัดให้เป็นห้องสำหรับการสอบกลางภาคประจำภาคเรียนที่หนึ่ง โต๊ะประมาณห้าสิบตัวถูกจัดเรียงให้ตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ นึกอยากให้บนโต๊ะมีชามใบยักษ์หรืออะไรสักอย่างที่ใหญ่พอจะเก็บความกดดันของคนทุกคนไว้เสียจริงๆ
ผมกวาดตามองไปรอบๆตัวด้วยใจหวาดหวั่นก่อนจะพรูลมหายใจออกเมื่อเห็นอาจารย์คุมสอบวัยกลางคนทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้หน้าห้อง เหงื่อเม็ดเป้งไหลซึมจนมือเปียกไปหมด
ให้ตายสิ การทำเรื่องไม่ดีมันยากขนาดนี้เลยหรอ
ผมแอบจดโพยเข้าห้องสอบ..
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในใจตอนนี้ ครึ่งหนึ่งหนักใจส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็โล่งใจ โชคดีที่ข้อสอบชุดนี้ตรงกับแบบฝึกหัดที่ผมทวนไปเมื่อวาน และมันก็ตรงกับโพยที่ผมจดมาพอดี
แต่ผมคิดผิด
ผมไม่ได้โชคดีเลยสักนิดเพราะเมื่อหันหลังไปผมก็พบว่าใครอีกคนกำลังจ้องมองผมอยู่ ใครอีกคนที่มีผมสีแดงเข้ม ใครอีกคนที่มีดวงตากลมๆ ใครอีกคนที่มีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มประดับอยู่บนแก้มที่มีร่องรอยของการต่อสู้ชัดเจน
ใครคนนั้นที่ชื่อว่าปาร์คชานยอล
ผมกำลังกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัยเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆในชีวิตอันแสนสั้นของผม
ก็ได้แต่ภาวนาว่าเขาจะเป็นคนดีพอที่จะไม่บอกเรื่องการทุจริตของผม ส่วนหนึ่งของใจปลอบประโลมตัวผมโดยการบอกว่าเขาคงไม่อยากจะยุ่งเรื่องของผมสักเท่าไหร่นัก ภาวนาให้คราวนี้ผมไม่คิดผิดอีกก็แล้วกัน
ผลสอบการภาคเรียนประจำภาคเรียนที่หนึ่ง
อันดับ 1 คิมยูคยอม 99 คะแนน
อันดับ 2 คิมมินอา 98.5 คะแนน
อันดับ 3 บยอนแบคฮยอน 96 คะแนน
ชื่อของผมบนอันดับสามนั่นทำให้ผมเหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 รอยยิ้มกว้างๆเผยออกมาด้วยความดีใจ เชื่อว่าร่องรอยของความสุขกำลังแผ่กระจายรอบๆตัวผม ถ้ามันมีสีผมก็อยากให้มันเป็นสีเหลืองสด เพราะผมเชื่อว่าสีเหลืองเป็นสีแห่งความสุข
“ แบคฮยอนชื่อของนายน่ะ อยู่อันดับสามเชียวนะ “
ร่างกายสะดุ้งเฮือกทันทีที่ได้ยินเสียงไม่เป็นมิตรจากด้านหลัง เสียงที่รู้ดีอยู่ในใจว่าเจ้าของเสียงคือใคร ผมรู้ว่าความสุขมักจะอยู่กับเราไม่ได้นาน แต่นี่มันจะไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือยังไง
“ รู้อะไรมั้ย ฉันน่ะเกลียดคนขี้โกงที่สุด “
เป็นปาร์คชานยอลนั่นเองที่ก้มลงมากระซิบข้างหูของผมท่ามกลางเสียงดังเอะอะและความวุ่นวายของเหล่านักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสองที่ต่างก็ดาหน้าเข้ามาดูคะแนนสอบของตัวเอง ให้ผมเปรียบปาร์คชานยอลก็เหมือนโรคประขำตัวร้ายแรงที่มักจะเริ่มแสดงอาการเมื่อผู้ป่วยมีความสุขที่สุด
“ นาย..นายต้องการอะไร “
ผมรู้ดีว่าเสียงของผมกำลังสั่นแต่มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับก้อนเนื้อใต้แผ่นอกของผมที่สั่นไหวเพราะเสียงทุ้มๆนุ่มๆของเขา
แต่ในนาทีนั้นไม่ว่าเขาจะขออะไรผมคงจะยอมทุกๆอย่าง
“ บยอนแบคฮยอน มาเป็นเบ๊ให้ฉันซะ “
ยอมหมดแล้วจริงๆ
เริ่มกันเลยกับอินโทรเบาๆของเรื่องนี้นะคะ ♥
ขอรับประกันเลยว่าเรื่องนี้ใสๆกุ๊กกิ๊กๆไม่ดราม่านะคะ
อ่านให้สนุกและฝากติดตามฟิคเรื่องนี้ด้วยน้า
(づ ̄ ³ ̄)づ
#คอนเฟลคกับนม
ความคิดเห็น