ตอนที่ 56 : Error : 0x00000052 นรกขุมที่ 1
ERROR Online : Overkill
‘การนำพื้นที่สีเขียว [Safe Zone] ภายในเมืองออกถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทางฝั่งของ ERROR Corporation รับทราบเป็นอย่างดี หากการโจมตีผู้เล่นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกหนทุกแห่งย่อมเป็นสิ่งที่คุกคามแก่ความปลอดภัยของบรรดายูสเซอร์ จนอาจจะทำให้เกิดความสงสัยหวาดระแวงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เพียงแต่ นั่นก็เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับชีวิตบนโลกแห่งความเป็นจริง หากคิดในทางกลับกันแล้ว โลกของเราเองก็เช่นกันที่ทุกคนสามารถเลือกที่จะกระทำอะไรก็ได้ตามที่ตนต้องการ...
โดยมีข้อแม้ที่ทุกคนจะต้องแบกรับผลของการกระทำนั้นๆ
นั่นเป็นเหตุให้ทางบริษัทเลือกที่จะพัฒนา ERROR Online นี้ขึ้นตามหลักเสมือนจริงที่ถูกสร้างสรรค์โดยพระเจ้า นั่นก็คือ ‘กฏ’ ที่ถูกบังคับใช้จะไม่ได้ถูกแฝงไปกับตัวเกม หากแต่จะเป็นสิ่งที่ถูกเหล่าผู้นำดินแดน กษัตริย์หรือเจ้าเมืองของแต่ละเมืองเป็นฝ่ายเลือกบังคับใช้
ชีวิตแม้กระทั่งภายในเกมก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่า การเข่นฆ่ากันไม่เลือกหน้านั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราต้องการจะให้เกิดขึ้น ซึ่งในเรื่องนั้นยูสเซอร์ก็สามารถวางใจได้เป็นอย่างดี
หากเกิดการกระทำผิด ‘กฎ’ ที่ถูกสร้างไว้ ต่อหน้ายามรักษาการณ์หรือ AI ผู้ผดุงความยุติธรรมภายในเมืองแล้วละก็ พวกเขาจะกรูกันเข้าไปจัดการพวกอาชญากรเหล่านั้นอย่างแน่นอน
ซึ่งเหล่ายูสเซอร์ทุกท่านก็รู้ดีอยู่แล้วว่าร่วม 90 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งมีชีวิตภายในเกมนี้นั้นเป็น AI ดังนั้นการกระทำผิดกฎหมายโดยไม่มีพยานรู้เห็นนั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ซึ่งทางเราก็ขอยืนยันว่า...’
เจ้าของร่างในหน้ากากยิ้มรู้สึกตัวตื่นท่ามกลางเสียงพูดที่ลอยเข้าหูอยู่เนืองๆ นาคาค่อยๆ ขยับยกมือขึ้นกุมศีรษะของตัวเองที่ยังรู้สึกมึนๆ แล้วจึงทรงตัวขึ้นนั่งช้าๆ ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกปวดแปลบไปยังบริเวณทรวงอกของตัวเอง
นาคาเลื่อนมือไปจับที่บริเวณอกของตัวเองเพื่อสำรวจ...เพียงแต่น่าแปลกที่ตำแหน่งดังกล่าวกลับไม่มีบาดแผลปรากฏขึ้นเลยสักนิดขัดกับความเจ็บปวดที่เขายังคงรู้สึกอยู่จนถึงตอนนี้ เด็กหนุ่มนั่งตรวจสอบสภาพร่างกายของตนอยู่สักพัก ก่อนที่เสียงของใครบางคนจะดังขึ้นมาว่า
“ตื่นแล้วหรือไง เจ้าหนู”
คำพูดดังกล่าวเรียกความสนใจของเขาให้หันไปหา เพียงแต่นาคาก็ต้องเบิกนัยน์ตาสีดำของตนกว้าง เมื่อภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้ากลับเป็นภาพของปีศาจรูปร่างคล้ายแพะที่กำลังยืนถือเคียวด้วยใบหน้าที่ดูคล้ายกับว่ามันกำลังยิ้ม
ปีศาจ...ที่กำลังยืนจ้องใบหน้าของเขาอยู่ในขณะนี้
“ไม่ต้องทำหน้าตาตกใจอย่างนั้นก็ได้” มันหัวเราะด้วยเสียงที่ดูไม่ต่างอะไรจากชายวัยกลางคน ก่อนที่ร่างดังกล่าวจะเดินไปปิดวัตถุที่ส่งเสียงประกาศที่ยังคงดังต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้
วัตถุที่ดูไม่ต่างอะไรกับโทรทัศน์จอแก้วเก่าๆ เครื่องนึง
หลังจากที่ปิดมันเสร็จปีศาจแพะก็จึงเดินยกมือปิดปากหาวมาหยุดอยู่ยังเบื้องหน้าของนาคาพร้อมกับกล่าวว่า
“ยังไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยไม่ใช่หรือ ยินดี...หรือจะต้องพูดว่าเสียใจดี เอาเถอะ สรุปว่าสำหรับตัวข้าเองก็รู้สึกยินดีที่ได้รู้จักเจ้าน่ะนะ” มันพูดพลางหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี “เอาเป็นว่าชื่อข้าคือ ‘ไซเลนนัส’ [Silenus] ผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารของสถานที่ๆ ไร้ซึ่งความอบอุ่นของแสงอาทิตย์แห่งนี้”
“ไร้ความอบอุ่นของแสงอาทิตย์?”
มันฉีกยิ้มพราย “ใช่แล้ว เจ้าหนู สถานที่ๆ เจ้ายืนอยู่นี่ถูกเรียกว่า ไพรมัม แอเรีย [Primum Area] สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยการลงโทษและความทรมาน แผ่นดินถูกทอดทิ้งที่มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือการชำระล้างเหล่าวิญญาณบาป…” นั่นคือคำพูดที่ปีศาจแพะเอ่ย พร้อมกับชี้ไปที่ป้ายถนนเก่าๆ ซึ่งถูกเขียนไว้ว่า [Primum Area] ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเย็นเยียบกว่าเคยว่า
“นรกขุมที่ 1”
สภาพภูมิประเทศเก่าโทรมไม่ต่างอะไรกับดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง อากาศเย็นยะเยือก ผืนดินแห้งแล้ง เสียงกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานที่ดังขึ้นมาแล้วก็หายไปเป็นจังหวะ ป่าต้นไม้หัวโกร๋นล้อมรอบที่กลืนกินไปกับเหล่ากาตัวใหญ่ที่เกาะอยู่ตามกิ่ง ในขณะที่ซากโครงกระดูกของมนุษย์ก็ปรากฏอยู่ประปรายไปตามเส้นทาง
คงบอกไม่ได้เต็มปากว่าเป็นสถานที่ๆ น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่
หลังจากที่นาคาแนะนำตัวกับอีกฝั่งเสร็จ เด็กหนุ่มก็ตัดสินใจเดินสำรวจรอบด้าน ปลายสุดอาณาเขตที่เขาอยู่เป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายสาหร่ายสีดำบนผิวน้ำจนไม่สามารถมองทะลุ ในขณะที่สุดระยะแม่น้ำก็มีลักษณะเป็นหุบเขาแคบๆ ที่ดูเหมือนจะมีเส้นทางให้เดินอยู่
ทางด้านไซเลนนัสไม่ได้กล่าวอะไร มันปล่อยให้เขาเดินสำรวจตามที่ต้องการ สิ่งที่มันทำก็แค่เพียงเดินตามเขาอย่างเงียบๆ พร้อมกับเคียวที่ถืออยู่ในมือ
น่าแปลกที่เขาไม่ได้ถูกส่งกลับไปใต้ต้นมะพร้าวนั่นเหมือนเคย? แต่จากที่ได้ยินหลังจากที่ผู้เล่นเสียชีวิตจะถูกส่งไปเมืองที่เราเคยไปมาล่าสุดไม่ใช่หรือไง?
หรือจะเป็นเพราะแพทซ์ใหม่ที่ถูกเพิ่มมากันนะ...
ภาพของอาณาเขตที่ดูกว้างขัดกับจำนวนสิ่งมีชีวิตที่มีเพียงแค่สองคน...แม่น้ำที่คาดว่าน่าจะข้ามได้ นอกนั้นคือพื้นดินแตกระแหงที่ถูกล้อมไปด้วยต้นไม้ไร้ใบ
จะแก้สมการนี้ยังไงดี...
ต๋อม...
เสียงก้อนหินสัมผัสกับผิวน้ำที่อยู่ไกลๆ บ่งบอกว่าอย่างน้อยมันก็ยังคงมีสภาพเป็น ‘ของเหลว’ ตามที่เขาคิด
เพียงแต่ว่าไม่มีอะไรบ่งบอกได้ว่าทันทีที่เขาลงไปในผิวน้ำแล้ว มันจะไม่มีสัตว์ประหลาดหรือ ‘อะไรบางอย่าง’ ดักซุ่มรอโจมตีเขาอยู่
ขึ้นชื่อว่า ‘นรกขุมที่หนึ่ง’ ก็เป็นตัวบอกอย่างดีแล้วว่ามันไม่ใช่สถานที่ๆ เต็มไปด้วยสิ่งน่ารัญจวนใจเลยสักนิด
นาคาคิดก่อนที่จะลองเอ่ยปากเรียกหน้าต่างไอเท็มขึ้นมา
ฟุ่บ!
ได้ผล หน้าต่างสีฟ้าเด้งขึ้นมา ในขณะที่สิ่งของที่อยู่ภายในก็ปรากฏชัดเจนว่ามันเป็นของที่ติดตัวเขามาก่อนที่จะมาถึงนรกนี่
รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะเรียกหนังสือปกหนารูปสัตว์ประหลาด เนโครโนมิค่อนขึ้นมาถือในมือ แล้วจึงเอ่ยคำพูดออกมาว่า
Summon Hellhound
สิ้นสุดคำพูด สุนัขสีดำตัวเขื่องก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้า ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เขาจะให้คำสั่งกับมันในทันทีว่า
‘...ว่ายน้ำไปที่หุบเหวอีกฝั่ง’
เพียงแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยอมทำตาม ทันทีที่เจ้าสุนัขสีดำเดินไปถึงปลายสุดของพื้นดิน จังหวะที่มันกำลังจะจุ่มเท้าลงไปยังสายธารสีดำ หมาล่าเนื้อจากนรกก็รีบชะงักเท้าออก ก่อนที่มันจะส่งเสียงเห่าออกมาคล้ายกับว่าต้องการจะเตือนถึงอันตรายบางอย่างที่อยู่ข้างหน้า
นาคาหรี่ตาลงช้าๆ
ในน้ำนั่นมีอะไรอยู่จริงๆ ด้วยสินะ
เขายืนนิ่งไปสักพักก่อนที่จะพับหนังสือเก็บไปในหน้าต่างพร้อมกับร่างของหมาล่าเนื้อตัวยักษ์ที่สลายเป็นไอสีดำไปในช่วงเวลาเดียวกัน แล้วจึงหันไปถามกับแพะปีศาจที่ยังคงยืนพิงเคียวของมันอยู่ว่า
“คุณ...ไซเลนนัส”
“มีอะไรละ เจ้าหนู”
“ถ้าต้องการจะออกจากที่นี่ จะต้องทำยังไง...”
แพะปีศาจเลิกคิ้วขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะเหลือบไปที่สุดแม่น้ำ ก่อนที่จะหันมาพูดกับเขาว่า
“ถ้าไม่ต้องการเดินสำรวจหาทางออกที่นี่ เจ้าก็มีสองทางเลือก” เสียงพูดถูกเอ่ยออกมาจากปากของปีศาจครึ่งคนครึ่งแพะ
“หนึ่งก็คือรออยู่ที่นรกขุมนี้ไปหนึ่งวัน...”
ต้องรออย่างที่คิดจริงๆ ด้วย...
นาคายืนนิ่งไปสักพัก
“ทางเลือกที่สอง...” ไซเลนนัสเมื่อเห็นเขาไม่ได้ว่าอะไรต่อจึงพูดพลางยกมือปิดปากหาว ก่อนที่จะยกเคียวของมันขึ้นทุบกับพื้นส่งคลื่นอากาศกระจายออกด้วยความรุนแรงพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ก็คือการทำให้ข้ายอมรับในตัวเจ้าให้ได้”
ได้ยินดังนั้น นาคาก็ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่เขาจะพูดกับอีกฝ่ายในทันทีว่า
“งั้นเราก็มาเริ่มกันเถอะครับ”
ราวกับว่าคำพูดของนาคาคือคำประกาศศึก สิ้นสุดคำพูด ปีศาจแพะก็พุ่งเข้าโจมตีเขาด้วยความรวดเร็ว ร่างยักษ์เงื้อเคียวของมันอย่างไม่รอที่จะให้อีกฝ่ายตั้งตัว ก่อนที่จะตวัดมันลงไปอย่างรุนแรงหมายจะบั่นศีรษะให้หลุดจากบ่า
คำประกาศการท้าดวลที่นาคาพูดมาหมายความว่าไซเลนนัสจะทำอย่างไรก็ได้กับศัตรูตรงหน้า และแน่นอนว่าศีลธรรมย่อมไม่มีอยู่ในนรก ปีศาจแพ้ตนนี้ไม่มีทางที่จะรอให้ตั้งตัวก่อนอยู่แล้ว การชิงโจมตีก่อนถือเป็นความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ในการต่อสู้
แกร๊ง!
เพียงแต่ว่าช่างน่าเสียดายที่การโจมตีดังกล่าวนั้น กลับไปไม่ถึงตัวของร่างในหน้ากากยิ้ม ทันทีที่มันตวัดเคียวใส่ร่างของอีกฝั่ง เสียงของโลหะประทบกันอย่างรุนแรงก้องกังวานไปทั่วพื้นที่ ในขณะที่ทางฝั่งปีศาจแพะก็ได้แต่ชะงักกับสถานการณ์ที่ตนเองไม่ได้คาดคิด
การกระทำที่เกิดขึ้นจากนาคาที่คาดเดาถึงเจตนาของอีกฝ่ายไว้ก่อนแล้ว
“ไม่มีสัจธรรมในฝูงโจร..ใช่ไหมล่ะครับ”
นั่นคือคำพูดก่อนที่นาคาจะเลื่อนนิ้วไปปิดหน้าต่างใส่ไอเท็มที่ยังคงเปิดค้างอยู่เบื้องหน้า
อาวุธชิ้นสุดท้ายที่เขาได้รับมาจากการต่อสู้กับเคาท์เตสผีดิบ ดาบยักษ์แห่งกองทัพอัศวินดำ [Giant Sword of the Black Knight Army] ที่กำลังปักคาอยู่ที่พื้นได้ช่วยป้องกันการโจมตีที่โดยปกติแล้วเขาไม่ควรจะป้องกันมันได้
ปีศาจแพะผงะกระเด็นถอยหลังไปจากแรงสะท้อนยามอาวุธในมือสัมผัสกับตัวดาบ ซึ่งนาคาเองก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ เขาอาศัยจังหวะที่มันกำลังชะงักอยู่เรียกปืนรีวอลเวอร์สีเงินขึ้นมาถือพร้อมกับยิงสวนไปที่ศีรษะของมันโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถป้องกันได้
35,297!
ปืนในมือถูกลั่นไก ศีรษะรูปแพะของอีกฝ่ายก็ถูกแรงอัดของกระสุนหัวระเบิดฉีกกระชากกล้ามเนื้อแตกกระจายออก ส่งผลให้ร่างของมันกลายเป็นเพียงแค่แพะปีศาจที่ไร้หัว
ผู้เล่น นาคาทำการสังหาร ไซเลนนัสนายทวารของนรกขุมที่ 1 [Silenus, The Gatekeeper of Primum Area] ได้รับค่าประสบการณ์ 47,500 หน่วย ได้รับไอเท็ม เขาของปีศาจแพะ (Goatman Horns) 1 คู่ เคียวปีศาจ [B] (Devil Scythe) 1 อัน และระดับเลเวลเลื่อนขึ้นเป็น 18
ผู้เล่น นาคาผ่านเงื่อนไขในการกลับสู่โลกมนุษย์ จะถูกเคลื่อนย้ายกลับไปที่ทวีปหลักภายใน 1 นาที
เสียงของระบบที่ดังขึ้นบ่งบอกว่าเขาได้ทำการเอาชนะเงื่อนไขสำหรับในการกลับสู่โลกภายนอก
ได้ยินดังนั้นเจ้าของหน้ากากยิ้มก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก บางทีอาจจะเป็นเพราะตำแหน่งที่เขาอยู่เป็นเพียงแค่นรกขุมแรก ดังนั้นปีศาจนายทวารที่อาศัยอยู่ที่แห่งนี้จึงไม่ได้แข็งแกร่งจนเหนือความคาดหมาย
อีกสาเหตุนึงอาจเป็นเพราะแกมบิทรีวอลเวอร์นี่ที่รุนแรงเกินกว่าการโจมตีของผู้เล่นเลเวล 18 ทั่วๆ ไปหลายเท่า
นาคาเช็คหน้าต่างไอเท็มดูสิ่งของ ยืนรอการวาร์ปกลับที่น่าจะเกิดขึ้นไม่นานอีกระบบอยู่สักพักก่อนที่เสียงของปีศาจแพะผู้พ่ายแพ้จะดังขึ้นพร้อมกับภาพของมิติที่เริ่มเคลื่อนย้าย
“ใช้ได้นี่ เจ้าหนู...แต่ถ้าในอนาคตเจ้าถูกส่งกลับมาที่นี่อีก อย่าคิดว่าข้าจะพลาดท่าง่ายๆ แบบนี้นะ”
“คงจะอีกนานเลยละครับ...”
คือสิ่งที่นาคาตอบกลับพร้อมกับเสียงหัวเราะของอีกฝั่งที่ดังขึ้น ก่อนที่สติของเขาจะเริ่มหลุดลอยไป
เป็นช่วงเวลาไม่นานก่อนที่นาคาจะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อเขามาอยู่ในสถานที่ที่มืดมิดยิ่งกว่าขุมนรกที่ตนอยู่เมื่อสักครู่
บรรยากาศที่ดูไม่น่าจะเป็นสถานที่ๆ เขาเคยไปมาก่อน
นาคายืนนิ่งอยู่สักพักสายตาของเขาก็เริ่มที่จะปรับสภาพ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มันจะเบิกกว้างขึ้นช้าๆ
เบื้องหน้าของเขาคือภาพ...ที่ไม่ต่างอะไรจากภายในคฤหาสน์ของชาวตะวันตกที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความลึกลับเร้นซ่อนอยู่ทุกอณู บันไดคู่ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านบริเวณสองฝั่งของห้องขนาบข้างไปสุดที่ระเบียงชั้นสอง พื้นถูกปูด้วยพรมสีเข้มสลักสวยลาย รูปปั้นหินเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยหยากไย้ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง
ห้องโถงในคฤหาสน์โบราณ?
จุดเกิดที่ไม่ใช่ใต้ต้นมะพร้าว ไม่ใช่หมู่บ้านในหุบเขาสีน้ำเงินหรือแม้แต่เรมิน่า...เป็นผลมาจากแพทซ์ใหม่อีกแล้วหรือไง
นาคาเลิกคิ้ว ก่อนที่เขาจะเรียกปืนสีเงินขึ้นมาถือไว้ในมือ
มัวแต่มายืนคิดไปก็คงจะไม่ได้อะไร ในเมื่อมันเกิดแล้วสิ่งที่ต้องทำก็คือหาทางแก้
เขาเลื่อนมือซ้ายขึ้นไปดึงเข้ากับหน้ากากของตนเพื่อกระชับเข้ากับใบหน้า ก่อนที่จะพึมพำกับตัวเองออกมาว่า
“งั้นก็มาหาทางออกจากที่นี่กันเถอะ”
แกร๊ก...แกร๊ก!
นาคาหรี่ตาลงช้าๆ หลังจากที่ลองเดินเปิดประตูทางเข้ามาทั่วชั้นหนึ่งของคฤหาสน์ และตรงตามที่เขาคาดคิด พวกมันถูกล็อค ก่อนที่จะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานแรกที่เขาเพิ่งจะได้ยืนยันอีกเป็นครั้งที่สองว่ามันยังคงปิดแน่นอยู่เหมือนเดิม
หรือว่าจะลองทำลายมันดู...
นาคาเหลือบสายตามาหยุดมองที่ปืนเดสเปอราโดอีเกิลส์ที่อยู่ของตัวเอง ยืนใช้ความคิดไปสักพักก่อนเขาจะได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังขึ้นมาจากโต๊ะไม้เล็กๆ บริเวณใกล้กับหน้าประตู
เสียง...ของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด
กริ๊ง...กริ๊ง!
เขาไม่ได้ผลีผลามรีบเดินเข้าไปรับ นาคายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ทุกอย่างที่เขาทำก็เพียงแค่มองดูภาพของโทรศัพท์โบราณที่กำลังสั่นอย่างต่อเนื่องภายใต้ความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วห้องโถง
กริ๊ง...กริ๊ง!
แน่นอนว่าเขาไม่มีความคิดที่จะยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย โทรศัพท์นั่นดูน่าสงสัยเกินกว่าที่จะยกหูรับหรือแม้แต่จะเดินเข้าใกล้มัน
เพียงแต่ น่าประหลาดใจที่ดูเหมือนว่าแม้ตัวเขาเองจะไม่ได้เข้าใกล้ แม้จะไม่ได้ฝ่ายที่ยกหูโทรศัพท์นั้นขึ้นมา
มัน...กลับกลิ้งตกลงมาอยู่ที่พื้นด้วยตัวของมันเอง
ร่างในชุดเสื้อกันหนาวสีขาวไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด เขาเพียงแค่เลิกคิ้วมองดูมันอย่างงงๆ นาคาเพียงแต่ยืนมองโทรศัพท์สีดำภายในความมืดมิดอยู่สักพัก ก่อนที่คำพูดบางอย่างจะถูกเอ่ยออกมาจากหูโทรศัพท์ด้วยเสียงที่ถึงแม้จะเบา แต่ก็สามารถได้ยินจากห้องโถงที่เงียบอย่างชัดเจน
คำพูดที่...ทำเอาเขาถึงกับขนในกายของเขาถึงกับลุกชันขึ้นมาทั่วร่าง
“ฉันคือคุณแมรี่...”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเด็กผู้หญิงถูกพูดออกมาจากปลายสาย
ความผิดปกติที่ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างดีกระตุ้นสัญชาติญาณในตัวเขาให้เริ่มทำงานอย่างเต็มที่
เพราะมัน...เป็นเสียงที่ดูไร้ซึ่งจิตวิญญาณราวกับว่าไม่ใช่น้ำเสียงของมนุษย์
“ตอนนี้ฉันอยู่ในกองขยะ...”
น้ำเสียงแผ่วเบา...ที่ถูกกล่าวอย่างเต็มไปด้วยความประสงค์ร้ายจนตัวเด็กหนุ่มเองก็รู้สึกได้ถึงเลือดในกายซึ่งเริ่มที่จะแข็งตัวจับตัวกันเป็นก้อน
“และกำลังจะไปหาเธอในอีก...”
น้ำเสียง...ที่ไม่ต่างอะไรจากเสียงสังเคราะห์ของร่างของตุ๊กตาที่ไร้ซึ่งชีวิต
“10 นาที...”
บันทึกข้อมูลลับ [Secret Data Entry]
Monster [มอนสเตอร์]
Name : ไซเลนนัส [Silenus]
Alias : นายทวารของนรกขุมที่ 1 [The Gatekeeper of Primum Area]
Level : 45
Difficulty : D
Category : ทวารบาล [Gatekeeper]
Evaluation [ประเมินความสามารถ]
Strength : C Agility : C+
Endurance : D Range : D
Ability : D Magic : C+
Luck : D Growth Potential : E
Forte [ความถนัด] : Good with Scythe [ใช้อาวุธประเภทเคียวได้ดี] Able to use minor magic [ใช้เวทมนตร์ชั้นต่ำบางประเภทได้]
Weakness [จุดอ่อน] : Slacker [ชอบอู้]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อย่าลืมพนักงานต้อนรับผีบีบคอด้วยนะครับ
GG
ทั้งสนุกและสะใจจริงๆ
พระเอกจิตๆแบบนี้หาอ่านยากมากกก
1.บังเอิญ ในชีวิต มีเพื่อน ญ แค่คนเดียว (จนเป็นเรื่องกับเกมเมอร์)
2.บังเอิญ ซื้อเครื่องเล่นราคาแพงเพราะกลัวจะได้อาชีพเล่นยาก แต่ดันได้ซะงั้น 0.1%
3.บังเอิญ เพื่อนในเกมส์เป็นคนรู้จัก แถมใจปั้ม ให้ของแพงมาใช้ ทั้งที่ บรรยาย มาว่า หายาก มีแค่ 13 ชิ้น
4.บังเอิญ ชนะกิจกรรม บลาๆ..
5.บังเอิญ เล่นเกมส์ไม่เป็น แต่พ่อเคยสอนยิง แล้วเอามาใช้ได้ในเกมส์ซะงั้น
6.บังเอิญ ทุกครั้งที่ชนะ จะมาเพราะความบังเอิญ หรือดวงดี มีคนอื่นช่วยตลอด
บลาๆ ฯลฯ ดูเหมือนว่าจะเขียนให้มัน กาก พร้อม บรรยายให้ โชคช่วยแทบทั้งเรื่อง [มันจำเป็นต้องขนาดนั้นเลยเหรอ]
[อะไรคือแนวทางจะสื่อ ว่ามันจะชนะ อันดับสาม ก็คงไม่พ้น บังเอิญ อีกละมั้งครับ]
ช่วยทำให้ เข้า ใจถึงความพยายของมัน[ตัวหลัก] หรือ การพัฒนา[พัฒนาการ]ของมัน หน่อยเถอะครับ
ห้าสิบกว่าตอนแล้ว ยังไม่ไปใหนเลย นี่ กะจะเขียนเป็นพันตอน เป็นอภิมหา นิยายฟอร์มยักษ์ รึยังไง?
[สุดท้ายนี้...ก็ต้อง ขอโทษที่ต้องบ่น..ขออภัยแค่อยากจะให้..เรื่องนี้น่าสนใจขึ้นแค่นั้นเอง]
ไรท์เตอร์เองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับนิยายเรื่องนี้อยู่แล้ว แค่จะมาสานต่อให้จบเท่านั้น ไม่ได้จะคิดเปลี่ยนมันให้เป็นมหากาพย์หรือนิยายฟอร์มยักษ์อะไรหรอกครับ ฮ่าๆๆ
เนื้อเรื่องจากตรงนี้ไปถึงตอนจบเป็นส่วนที่ไรท์วางไว้หมดแล้วครับ มันไม่ยาวเท่าที่หลายๆ คนคิดหรอกครับ