ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black N Blue (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #30 : Black N Blue❖I called her 'heroine' 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 830
      70
      7 ก.พ. 63

    คำเตือน :: บางช่วงบางตอนมีความรุนแรง เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของตัวเกมแต่อย่างใด ฉากที่มีเนื้อหาเรท R จะไม่อัพลงเด็กดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    Song :: J-fla - Attention


    EPISODE03

    Alternative Universe 03I called her 'heroine'


    จิ้ม >> ฉากที่หายสาปสู


    Long Chan's Talk

    สิ่งแรกที่เห็นหลังจากหอบสังขารอันเหนื่อยล้าของตัวเองกลับมาที่บ้าน คือใบหน้าเคร่งขรึมของลิโป้ที่มองตรงมา ส่วนเซียร์ซีที่ยืนขนาบฉันอยู่สายตาก็แวววาวไม่แพ้กัน ที่ทำให้ทั้งสองไม่ฉะกันก็คงเป็นแม่ของฉันกับมาดามจางที่นั่งคุยกันเสียงใส

    "เตียวเสี้ยน แม่รอลูกอยู่พอดีเลย" แม่เรียกฉันเป็นภาษาจีนแล้วพยักเพยิดให้ ส่วนคนอื่นก็คุยเป็นภาษาจีนปกติ

    ฉันจำใจนั่งลงบนโซฟาข้างๆลิโป้เพราะมาดามจางคาดหวังให้ฉันนั่ง เซียร์ซีมองมา เธอถือวิสาสะนั่งเบียดลงข้างฉัน มือร้อนผ่าวแอบเลื่อนมาโอบเอวฉัน ไม่สังเกตดีๆคงไม่มีใครเห็น แต่เพราะลิโป้นั่งอยู่ข้างๆเรา... เขาเห็น

    "มาดามจาง นี่เซียร์ซี กอร์ดอนค่ะ" เพราะไม่อยากต้องรับหน้ากับการกระทำของเซียร์ซี แม่ฉันถึงต้องแนะนำเธอให้แม่ของลิโป้รู้จัก

    "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" เซียร์ซีตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษพร้อมรอยยิ้ม

    มาดามจางนึกอยู่ครู่หนึ่งเท่านั้น เธอขมวดคิ้ว แต่สักพักก็ปรับใบหน้าเป็นรอยยิ้มแล้วพยักหน้าเล็กน้อย

    "แม่ครับ" ลิโป้เรียกแม่ของเขา

    มาดามจางกระแอมเล็กน้อย "คือที่จริงที่มาวันนี้ก็เพราะชดเชยที่ไม่ได้มาเมื่อวานด้วยค่ะ แล้วก็มีเรื่องอยากมาคุยกับหลงจินนิดหน่อย เกี่ยวกับเรื่องลูกเราหมั้นหมายกัน"

    หลงจินเทียนคือชื่อแม่ของฉัน

    วินาทีนั้นฉันรู้สึกว่าเซียร์ซีเปลี่ยนอากาศรอบข้างเป็นการคุกคามย่อมๆ แม่ของฉันหันมามองแวบหนึ่ง แม่ค่อนข้างอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเพราะลิโป้เองก็ตกลงจะให้มั่นหมายกันไปนานแล้ว แต่เซียร์ซีก็เพิ่งโผล่มา ฉันเดาว่าเซียร์ซีต้องพูดอะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆกับแม่ไปแล้ว

    ไม่อย่างนั้น แม่คงบอกกับมาดามจางไปแล้วว่าจะให้ฉันแต่งแน่นอน

    เธอคงไม่มีท่าทางลังเลขนาดนี้

    "ลิโป้ร้อนใจมากค่ะ กลัวไม่ได้แต่งกับหนูเตียวเสี้ยน" มาดามจางหันมายิ้มให้ฉัน "หวังว่าหนูเตียวเสี้ยนจะไม่ตกลงปลงใจเป็นของคนอื่นไปก่อน"

    ส่วนฉันส่งยิ้มกลับไปอย่างเต็มกลืน

    ลิโป้คงไม่ได้เล่าให้พ่อกับแม่เขาฟัง เรื่องรอยบนตัวฉันตอนนั้น

    "ลูกสาวของดิฉันยังบริสุทธิ์ผุดผ่องแน่นอนค่ะ มาดามจาง โฮ่ะๆ" คำพูดของแม่ทำให้ฉันสะดุด ไม่แปลกหรอกที่แม่จะมั่นใจมากขนาดนั้น เพราะฉันไม่เคยทำตัวไม่ดีเลยสักครั้ง ยกเว้นแต่... นั้นแหละ

    "...แม่คะ" หางตาฉันเหลือบมองเซียร์ซี เธอเองก็เหลือบมองฉัน ฉันเลยกดดันเธอทางสายตาไป

    อย่าพูดอะไรเชียวนะ!

    "หืม มีอะไรรึเปล่าเตียวเสี้ยน" มาดามหลงหันมามองท่าทีของเราทั้งคู่ ส่วนลิโป้นั่งตัวแทบไม่ติดเก้าอี้ไปแล้ว

    ฉันเม้มริมฝีปาก ไม่อยากพูดอะไรที่เป็นการหักหน้าแม่ในตอนนี้

    "เปล่าค่ะ"

    "เตียวเสี้ยนไม่มี แต่ฉันมีค่ะ" เซียร์ซีพูดขึ้นเป็นภาษาจีนท่ามกลางความคาดไม่ถึงของทุกคน ฉันเหลือบไปมองเธอตอนที่เอวถูกบีบเบาๆ "เรามีเรื่องต้องคุยกัน ส่วนเรื่องแต่งงานของเตียวเสี้ยนกับลิโป้ค่อยมาตกลงกันหลังจากเราคุยกันดีกว่าค่ะ"

    "มาดามหลง..." มาดามจางพูดขึ้น ใบหน้าไม่เป็นมิตรแล้ว

    แต่เรื่องใบหน้าไม่เป็นมิตรน่ะ เซียร์ซีเก่งกว่าเยอะ ถึงตอนนี้เธอจะไม่ได้ทำก็เถอะ

    แม่ของฉันถอนหายใจ "เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ มาดามจาง ขอโทษด้วยนะคะ แต่วันนี้เอาหนูลิโป้กลับไปก่อนเถอะค่ะ ฉันมีเรื่องต้องจัดการเล็กน้อย"

    ไม่นานมาดามจางกับลิโป้ก็ขอตัวลาไป นัยน์ตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอิจฉาที่ใช้มองเซียร์ซี

    "มากับพี่สิ" เซียร์ซียื่นมือมาให้ฉันจับ "ไปฟังกันว่าเรื่องมันเป็นมายังไง เพราะเราก็... เป็นของพี่แล้วนี่"

    ฉันหน้าร้อนวูบเพราะเธอแทนตัวเองว่าพี่ และเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าตอนที่เรามีอะไรกันในห้องน้ำตอนนั้นน่ะ ฉันพูดอะไรออกไปบ้าง

    ฉันบอกรักเธอ

    บอกรักเซียร์ซี กอร์ดอน คนที่ฉันไม่อาจเอื้อมถึงเลยแม้แต่นิดเดียว

    "พาเตียวเสี้ยนมาด้วยทำไม" แม่ของฉันพูดเมื่อเราสองคนเดินจับมือกันจนมาถึงห้องทำงาน สายตาของเธอมองมือของเรา "อยากจะให้ลูกฉันรู้จริงๆเหรอ ว่าเรื่องนี้มันจะจบยังไง"

    "หากคุณเคารพความคิดลูกของคุณมากพอ ฉันว่าฉันพอจะรู้ตอนจบ มาดาม" เซียร์ซีฝีปากกล้าสมกับเป็นนักธุรกิจจริงๆ "และหากคุณมีศักดิ์ศรีมากพอ ได้โปรดทำตามสัญญาเถอะค่ะ คุณเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว"

    ฉันยังไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเลย

    "ฉันให้เวลาคุณสองอาทิตย์ แต่วันนี้ฉันไม่สนแล้ว อีกสองวันเตียวเสี้ยนจะไปพบคุณพ่อของฉัน กับฉัน"

    "ลูกรักผู้หญิงคนนี้เหรอ เตียวเสี้ยน" แม่หันมากดดันฉัน สายตาของคนสองคนหันมาหยุดอยู่ที่ฉันพร้อมเพรียง มันดูเหมือนกับว่า... แม่ไม่อยากให้ฉันรักกับเซียร์ซี

    แต่เซียร์ซีขอให้ฉันซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง

    "หนูขอพูดเรื่องลิโป้ก่อนนะคะ" ฉันปล่อยมือออกจากมือของเซียร์ซี "หนูไม่ได้รักเขา และไม่เคยคิดจะรักเขาเลยด้วยซ้ำ ต่อให้ไม่มีเซียร์ซีโผล่มาทำท่าทางแปลกๆใส่แม่ หนูก็บอกได้เลยว่าหนูจะปฏิเสธการหมั้นหมายกับลิโป้แน่นอน"

    "..."

    "การหนีเป็นหนึ่งในตัวเลือก และหนูทำมันลงไปแล้วด้วย"

    "..."

    "แต่หนูก็ได้พบเซียร์ซี" หากเซียร์ซียื่นโอกาสให้ฉันจริงจังกับความสัมพันธ์ และหากแม่ยอมตัดสินใจรับฟัง ฉันก็จะพูด "ถึงมันจะใช้เวลาไม่นานก็เถอะ แต่มาวันนี้หนูเชื่อหัวใจตัวเอง ว่าหนูรักเซียร์ซี"

    แม่ดูอึ้งไปเลย ส่วนเซียร์ซียิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนน่าหมั่นไส้

    "ขอบคุณนะ แต่ขอพี่พูดกับคุณแม่หน่อยแล้วกัน" เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดก่อนยื่นมันไปให้แม่ของฉัน เมื่อถือโอกาสตีเนียนได้เธอก็เปลี่ยนสรรพนามของแม่ใหม่โดยที่แม่มึนจนคัดค้านไม่ทัน

    "..." แม่รับโทรศัพท์จากมือเซียร์ซี ส่วนฉันรู้สึกเหมือนถูกกีดกัน

    "มันเป็นความลับน่ะค่ะ แต่แค่... อยากให้คุณรู้จักไว้เฉยๆ"

    "..." แม่เงียบและอึ้ง ฉันเลยถือวิสาสะชะโงกหน้าไปมอง ก่อนพบว่าเป็นเด็กผู้ชายผมดำตัวเล็กๆ อายุประมาณห้าขวบ นัยน์ตากลมใสไร้เดียงสาของเขาทำให้ฉันชะงัก

    สีตาแบบนั้น... เหมือนกับของเซียร์ซีเลย

    มีลูกงั้นเหรอ...

    "ไม่เชิงว่าเราจะคุยธุรกิจกันนะคะคุณแม่ แต่หากคุณยอมรับและให้เตียวเสี้ยนเป็นของฉันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฉันจะให้ลูกชายของฉัน... เป็นผู้สืบทอดของตระกูลหลงต่อไป ตระกูลของเราจะกลับมาเกี่ยวดองกันเหมือนเดิม สนิทชิดเชื้อกันเหมือนเดิม และฉันยินดีจะมอบเครือข่ายบริษัทที่ประเทศจีนให้แก่คุณในชื่อของเตียวเสี้ยน"

    เครือข่ายกอร์ดอนของที่นี่งั้นเหรอ มัน... เยอะจนจำไม่หมดเลยนี่

    แม่น่ะ อยากได้ลูกชายมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นหลานชายเลยเป็นสิ่งที่อ่อนไหว

    ฉันมองใบหน้าลังเลจนซีดเผือดของแม่ ได้ยินเสียงทักทายใสๆสุดแสนจะน่ารักน่าชังมาจากโทรศัพท์ ก่อนหันไปมองรอยยิ้มของเซียร์ซี เธอรู้ดีว่าตัวเองกุมทุกอย่างไว้ในกำมือแล้ว

    ฉันกำลังรักคนแบบไหนอยู่กันแน่...

    "เซียร์ซี ฉันคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะหน่อยนะ" ฉันพยายามคุมเสียงตัวเองให้ราบเรียบ จนเธอไม่น่าจะจับได้ว่าคิดหรือกังวลอะไรอยู่

    "แน่นอนค่ะ ฮันนี่" เธอตอบรับแบบไม่คิดอะไรเลย ดูจากการตอบกลับก็รู้แล้ว

    ฮันนี่เหรอ...

    "มาเดี๋ยวนี้เลย" ฉันตัดสินใจจับมือแล้วดึงให้เธอออกมาคุยกันหน้าห้อง "สรุปว่าฉันยังไม่รู้เรื่องจริงๆของเรื่องนี้เลย คุณตกลงกับแม่ไว้ยังไงกันแน่"

    "พี่เปล่าตกลงอะไรไว้ พ่อของพี่ต่างหากที่ทำ" เธออธิบาย "สิ่งที่พี่ทำใกล้จะเสร็จแล้ว และพี่หวังว่าเราจะไม่พังมัน"

    "..."

    "เราไม่อยากเป็นศัตรูกัน ทั้งๆที่เราตกหลุมรักกันอยู่ ใช่มั้ย?" นี่คงเป็นครั้งแรกที่ฉันมองเข้าไปนัยน์ตาสีเทาคู่นั้นแล้วไม่เห็นความโหดร้าย

    "ฉัน..."

    "พี่ขอให้เราเชื่อในตัวพี่... พี่มั่นใจว่าเราจะไม่ผิดหวัง"


    Searcy Gordon's Talk

    ฉันคิดว่าทุกอย่างที่นี่เสร็จเรียบร้อยดีแล้ว มาดามหลงโดนดาเมจความน่ารักของเซฟเข้าไปเต็มๆ นอกจากน่ารักแล้วยังเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอีกต่างหาก

    แน่นอน เพราะเขาเป็นสายเลือดของฉันเอง

    ลูกชายกับน้องสาวเป็นสองบุคคลที่ฉันซ่อนไว้จากพื้นที่สื่อและการตีแผ่ในสังคม เพราะหากยังมีฉันพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องออกมาแบกรับความตึงเครียดอะไรด้วย ถ้ายังมีฉันอยู่ กอร์ดอนจะปลอดภัยและไม่โดนโจมตี

    "นี่เซียร์ซี" เตียวเสี้ยนดึงมือฉันไว้

    "หืม?"

    "คุณมีลูกกับใครเหรอ แล้วตอนนี้เขา..." เธออ้ำอึ้ง นัยน์ตาล่อกแล่ก ฉันเพียงแค่วางมือลงบนศีรษะของเธอเบาๆ

    "เขาเป็นเพื่อนของพี่เอง และเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่ด้วย" ฉันอธิบาย "เพราะพี่รู้ดีว่าตัวเองต้องรักเธอ พี่เลยอยากมีเด็กตัวเล็กน่ารักที่พี่ต้องดูแลเขาก่อนสักคน"

    "ที่จริงคุณเลือกจะไม่ทำแบบนี้ก็ได้สิ" เธอลูบแขนฉัน

    "แบบไหน?" ฉันถาม แม้จะรู้อยู่แล้ว

    "แบบที่ต้องมารักฉันไง คุณไม่จำเป็นต้องทำ"

    "ถ้าตอนนี้เรารักกัน เราจะไม่พูดถึงอดีต เข้าใจมั้ย" ฉันพูดกึ่งๆออกคำสั่ง ไม่ชอบให้ใครมาพูดว่าฉันอาจจะตัดสินใจพลาด "สิ่งที่เธอควรทำต่อจากนี้ไปคือการทำตัวเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย และรักพี่กับครอบครัวของพี่ให้มากๆพอ"

    "น้องๆของพี่จะชอบฉันเหรอ" เธอยังกังวล แม้ดวงตาจะใกล้ปิดมากแล้วก็ตาม

    "ถึงไม่ชอบ พวกมันก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเธออยู่ดี" ฉันจูบเธอเบาๆที่เปลือกตา "พักผ่อนซะ เตียวเสี้ยน"

    ฉันปล่อยให้เตียวเสี้ยนหลับอยู่ในห้องคนเดียว เดินกลับไปเอาโทรศัพท์คืนจากมาดามหลง เธอไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองออกไปนอกหน้าต่าง

    "ตกลงว่าคุณจะเปิดทางให้ฉันกับเตียวเสี้ยนจริงๆใช่มั้ยคะ" ฉันถามเพื่อเป็นหลักประกัน

    "ใช่ แต่ยังไม่เต็มร้อย" มาดามหลงตอบ "ในเมื่อฉันยอมยกลูกสาวให้กับเธอแล้ว เธอก็ควรทำให้มันถูกต้องด้วย และฉันไม่ได้ให้เพราะ..."

    "ฉันไม่สนหรอกว่าคุณยอมยกให้เพราะอะไร สำหรับฉันแค่ได้เตียวเสี้ยนมาก็พอแล้ว"

    "เธอพูดเหมือนมันยังเป็นแค่สิ่งที่เธอต้องทำตลอดเลยนะ ตกลงว่าเธอได้รักลูกสาวของฉันจริงๆบ้างมั้ย เซียร์ซี กอร์ดอน"

    "รักสิ แต่พูดกับคุณไปก็เท่านั้น พวกเราเป็นนักธุรกิจ เมื่อนักธุรกิจพูดถึงความรักมันก็ทำใจเชื่อได้ยาก" นัยน์ตาของฉันเคร่งขรึมยามที่มองตรงไปยังแผ่นหลังของมาดามหลง "ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง และฉันขอให้เตียวเสี้ยนไปอยู่กับฉันที่อเมริกา รวมถึงเรียนต่อที่นั่นด้วย"

    "ฉันปฏิเสธเธอได้เหรอ" มาดามหลงปรายตามามองอย่างวางมาด

    ก็หลังจากฉันกับเตียวเสี้ยนจดทะเบียนสมรสกันแล้ว...

    ทุกอย่างมันก็จะกลายเป็นเรื่องของเรา

    คนอื่นพูดเกี่ยวกับเราได้ แต่การตัดสินใจอยู่ที่เรา

    "ฉันจะไม่ทำให้ลูกสาวคุณเสียหาย สัญญาด้วยเกียรติ คุณแม่" ฉันเน้นย้ำคำหลัง

    "ฉันจะไปคุยกับมาดามจาง เรื่องของหนูลิโป้" มาดามหลงถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสาย ส่วนฉันคิดว่าเธอคงจัดการเองได้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยเลือกจะหันหลังเดินออกมาจากห้อง

    "เซียร์ซี" ก่อนหันกลับไปเมื่อโดนเรียก

    "..."

    "ฉันขอ... ไปหาพ่อของเธอด้วยได้มั้ย"

    "ได้ค่ะ พ่อต้องดีใจมากแน่ถ้าได้เจอคุณ" ฉันระบายรอยยิ้มจริงใจออกมาให้เธอเป็นครั้งแรกนับจากย่างก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้


    Sister's Gordon Talk

    "ชอบมั้ย เซฟ" ฉันยื่นรูปโพลารอยด์ไปให้เซฟิส กอร์ดอนดู นัยน์ตากลมโตใสแป๋วพิจารณาใบหน้าออกหมวย แต่ก็สวยเหมือนนางแบบในรูปอย่างเชื่องช้าแล้วพยักหน้างึกงัก ตามมาด้วยเสียงอ้อแอ้จะเอารูปในมือ ฉันเลยให้ไป

    "ใช้หลักการแบบนั้นตัดสินคนอีกแล้วเหรอ" พี่ชายของฉันส่ายศีรษะ เขาหยิบแก้วนมสดของตัวเองแล้วยกขึ้นดื่ม

    "เด็กทารกโกหกไม่เป็นหรอก หากเซฟชอบ คนคนนั้นก็เป็นคนดี" ฉันลูบหัวเซฟิสแล้วจุมพิตลงกลางหน้าผาก แต่สักพักเด็กตัวเล็กก็ดิ้นหลุดออกจากอ้อมกอดไปถูตัวอยู่ที่ขาของคริกแนคแทน "แต่หากเซฟไม่ชอบ ฉันก็คงไม่ยอมรับ"

    "ความชอบมันเปลี่ยนกันได้หลังจากรู้จัก เธอจะไปยึดติดอะไรมากมาย" คริกแนคใช้ขาโยกตัวเซฟิสไปมา หลังจากพี่สาวฝากลูกไว้ให้เลี้ยงมันก็จะเป็นแบบนี้ตลอด แต่ดีหน่อยที่เซฟิสเลี้ยงง่ายมาก เป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดู ไม่อย่างนั้นคงปวดหัวกันไปหมดทั้งบ้าน เซียร์ซีเลี้ยงเขามาดีอยู่แล้ว

    "อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน จัสติน" ฉันกระซิบ "ขนาดพี่สาวที่ไร้พ่ายของเรายังไปหลงรักเด็กผู้หญิงอายุสิบแปดคนนึงง่ายๆเลย"

    "แม่ฝั่งนั้นยอมรับแล้วใช่มั้ย"

    "แลกกับเซฟิสและธุรกิจที่จีนทั้งหมด" ฉันอธิบายแล้วเดินไปอุ้มเซฟิสมากอดไว้ "ที่พี่ยอมเสี่ยงขนาดนั้นแสดงว่าอาจจะมีตัวแปรบางอย่างอยู่"

    "ถึงจะไม่แปลกใจที่เซียร์ซีมีความรัก แต่ภายในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์น่ะมัน..."

    "บางครั้งฉันก็สงสัยนะว่าทำไมเซียร์ซีไม่ส่งพี่ไป จัสติน แต่เลือกจะจัดการทั้งหมดด้วยตัวเอง... สงสัยเราคงต้องจัดการเลี้ยงต้อนรับพี่สะใภ้กันหน่อย" ฉันพูดเคร่งขรึม

    จังหวะนั้นเองเซฟิสก็ทำรูปถ่ายใบนั้นตกลงกับพื้น เมื่อฉันก้มลงไปหยิบก็พบว่ามีน้ำลายเปื้อนอยู่บางจุด ไม่รู้เขาเลียหรือมันหยดใส่ ฉันไม่ได้ดู

    "ช่างเถอะเซฟ" ฉันกระซิบ ปล่อยรูปใบนั้นลงถังขยะไป

    "..."

    "รูปของผู้หญิงคนนั้นในห้องแม่นายมีอีกเป็นร้อย"

    อืม... ไม่แน่ ฉันอาจจะไม่เคยเข้าใจเซียร์ซีเลยก็ได้


    Long Chan's Talk

    ของบางอย่างกรีดฉัน เสียดแทงฉันจากที่ที่มองไม่เห็น กลิ่นคาวเลือดคลุ้งอยู่ทั่ว และบีบให้ฉันหายใจไม่ออกเพราะมัน

    คนบางคนก้าวออกมาจากความมืด นัยน์ตาสีมรกตมองฉันอย่างโรคจิต ใบหน้าของ 'ใครคนนั้น' ทำให้ฉันสะดุ้งเฮือกจนตื่นจากความฝันในที่สุด

    "..." ฉันตัวสั่นเทิ้มในอ้อมกอดของเซียร์ซี

    "ฝันร้ายเหรอ" เซียร์ซีกระซิบถามเสียงอ่อนโยน เธอกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นเพื่อปลอบประโลมฉันที่หน้าไร้สีเลือด

    "ค่ะ' ฉันพึมพำแล้วก้มหน้าลง

    "ไม่ต้องกลัว"

    'ไม่มีใครและอะไรที่ทำร้ายเธอได้' หลังจากย้ายมาอยู่ด้วยกัน เซียร์ซีบอกฉันแบบนี้เสมอ นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้ว นานพอจะทำให้ฉันสนิทกับคนในบ้านแล้วนิดหน่อย

    "เล่าได้มั้ย" เซียร์ซีถาม

    "ก็แค่ฝันเห็นใครคนหนึ่งที่ไม่รู้จัก ตาสีเขียวของมัน..." ฉันพึมพำแล้วก็หยุด เพราะเผลอนึกไปถึงประกายโรคจิตที่ได้เห็น

    "สีเขียวเหรอ" เซียร์ซีขมวดคิ้ว "สงสัยเธอจะชอบสีตาของฉันมากกว่า"

    ถึงเซียร์ซีจะไม่เข้าใจความหมายของความฝันที่ฉันเจอ แต่เธอทำให้ฉันหลุดขำในที่สุด

    "แน่นอน ฉันต้องชอบคุณมากกว่าอยู่แล้ว" ฉันจูบเธอ "นอนเถอะค่ะ ฉันจะไม่ฝันร้ายอีกแล้ว" เพราะฉันมีคุณอยู่ตรงนี้... ฉันตัดสินใจไม่พูดต่อและเก็บมันไว้ในใจ

    ดุร้าย ป่าเถื่อน เปี่ยมไปด้วยอำนาจ แต่ก็อ่อนโยนกับฉัน ปกป้องฉัน 

    นั่นแหละคนที่เซียร์ซีควรจะเป็น










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×