ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 20
บนหน้าจอปรากฎชื่อของ
ยากาโด โยโรอิ vs อุจิวะ ซาซึเกะ
เรนยะ : (รู้สึกเจ้าโยโรอิจะสามารถดูดจักระได้สินะถึงจะตึงมือสำหรับเจ้าซาซึเกะแต่หมอนั้นคงผ่านมาได้เหมือนกับเนื้อเรื่องเดิมนั่นละนะ)
คาคาชิได้เตือนซาซึเกะว่าให้หลีกเลี่ยงการใช้คาถานินจาเพราะถ้าใช้จักระมากจนเกินไปมันจะไปกระตุ้นอักขระสาปเอาได้ก่อนที่ทุกคนจะโดดขึ้นไปบนชั้นลอยรอบด้านเพื่อดูการประลอง
เก็กโคได้ถามความพร้อมทั้งสองฝ่ายก่อนจะให้สัญญาณเริ่มการต่อสู้
การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นซาซึเกะที่รู้สึกเจ็บที่อักขระสาปได้เป็นฝ่ายโจมตีก่อนเพราะต้องการรีบจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด
แต่เพราะไม่อาจใช้คาถานินจาได้ซาซึเกะจึงต้องเข้าสู้ด้วยกระบวนท่าในระยะประชิด
แต่การบุกเข้าไปสู้กับโยโรอิในระยะประชิดดูเหมือนจะเป็นการเข้าทางของโยโรอิพอดี
ซาซึเกะที่ถูกดูดจักระจนเกือบจะถูกควบคุมโดยอักขระสาปแต่สุดท้ายด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นของซาซึเกะจึงสามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้ด้วยกระบวนท่าเตะจักรผันลูกสิงห์ที่ก็อปปี้และดัดแปลงมาจากร็อคลีอีกที
เมื่อการต่อสู้รู้ผลคาคาชิก็พาตัวของซาซึเกะไปเพื่อผนึกอักขระสาป
รอบที่สอง
ซาคุ อายุมิ vs อาบุราเมะ ชิโนะ
คู่นี้ไม่มีอะไรมากเจ้าซาคุโดนชิโนะแอบส่งแมลงไปอัดในช่องปล่อยอากาศที่ฝ่ามือของซาคุจนแขนเจ้านั่นระเบิดจนหมดสภาพ
เรนยะ : (แมลงน่าขยะแขยงชะมัดเลยแหะดีแล้วที่ไม่ได้สู้กับเจ้าชิโนะ)
รอบที่สาม
ซาบาคุโนะ คันคุโร่ vs ซึรุงิ มิซึมิ
คู่นี้เพราะเจ้าซึรุงิประมาทเพราะนึกว่าใช้วิชาตัวยืดเหมือนของหมวกฟางลูฟี่จับรัดตัวของคันคุโร่ไว้ได้แต่ที่แท้แล้วที่ซึรุงิรัดเอาไว้จนแน่นคือหุ่นเชิดการาสุที่คันคุโร่ปลอมตัวให้สุดท้ายแรงคนก็สู้แรงหุ่นไม่ได้ซึรุงิโดนหุ่นเชิดการาสุรัดคืนจนกระดูกหักทั่วร่างหมดสภาพที่จะสู้ต่อได้
รอบที่สี่
ฮารุโนะ ซากุระ vs ยามานากะ อิโนะ
คู่นี้เสมอกันซะงั้นตกรอบทั้งคู่
เรนยะ : (ดูผู้หญิงตีกันเหมือนดูแรงเงาละนะขนาดพึ่งสู้เสร็จยังจะมีแรงเถียงกันอีกนะพวกหล่อน)
รอบที่ห้า
ซาบาคุโนะ เทมาริ vs เท็นเท็น
รอบนี้บอกเลยว่าน่าสงสารเท็นเท็นซะจริงสายอาวุธลับอย่างเธอเจอกับแม่สาวพายุอย่างเทมาริผลก็อย่างที่รู้ๆกัน
เรนยะ : (ก็นะขนาดเรายังเลือกฝึกคาถาลมเลยเพราะนินจาส่วนมากจะสู้ด้วยอาวุธนินจาเสียมากกว่าไม่ใช่ว่านินจาทุกคนเปิดมาจะยิงคาถากันพร่ำเพรื่อขื่นทำแบบนั้นจักระได้หมดก่อนและไม่พอใช้ต่อสู้และก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะหมดแรงก่อนพอดี)
เทมาริที่จัดการกับเท็นเท็นได้ก็เหวี่ยงตัวของเท็นเท็นออกไปอย่างแรงแต่ก็ได้ร็อคลีมารับเอาไว้ได้แต่ก็เกือบจะมีเรื่องกันแล้วละนะ
รอบที่หก
นารา ชิกามารุ vs คิน ทซึจิ
คู่นี้ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณด้วยIQ200ที่ใครๆก็อยากได้อยากมีทำให้ชิกามารุวางแผนจัดการกับคินอย่างหมดท่าและผ่านเข้ารอบมาได้
รอบที่เจ็ด
อินุซึกะ คิบะ vs อุซึมากิ นารูโตะ
นารูโตะดี๊ด๊าดีใจที่ถึงรอบของตัวเองเสียทีแถมยังหันมาพูดกับเรนยะที่อยู่ข้างๆอีกด้วย
นารูโตะ : “คอยดูฉันเอาไว้นะเรนยะว่าฉันน่ะนะพัฒนาขึ้นแล้วฉันไม่แพ้ใครแน่ !”
เรนยะ : “จ้า จ้า เชิญลงไปได้แล้วนารูโตะ”
ส่วนทางคิบะที่รู้ว่าคู่ต่อสู้ของตนคือนารูโตะก็คิดว่าตัวเองโชคดีและคงผ่านเข้ารอบได้อย่างสบายๆ
ในการต่อสู้คิบะที่ไม่คาดคิดว่าเด็กซำ้ชั้นอย่างเจ้านารูโตะจะสามารถรับมือกับตัวเขาที่ร่วมมือกับอากามารุได้ขนาดนี้ก็เลยคิดที่จะเอาจริงเลยใช้ยาเสบียงศึกดีดป้อนให้กับอากามารุและคิบะก็กินเข้าไปด้วยจนทำให้นารูโตะเป็นฝ่ายเสียเปรียบต้องหลบการโจมตีฝ่ายเดียว
สุดท้ายหลังจากหลบอยู่นานเจ้านารูโตะก็โดนท่าเขี้ยวประสานเขี้ยวของคิบะเข้าไปจนได้แต่นารูโตะก็ยังคงลุกขึ้นมาได้พร้อมกับประกาศว่าตนจะไม่มีวันยอมแพ้
เรนยะ : (มาเห็นฉากนี้ด้วยตาตัวเองก็ทำให้รู้สึกฮึกเหิมดีแหะ ฮะ ฮะ)
การต่อสู้ดำเนินต่อไปแต่ด้วยที่นารูโตะใส่แรงในการรีดเร้นจักระมากไปทำให้เจ้าคิบะที่กำลังจะลอบเข้ามาทางด้านหลังโดนตดพิฆาตของเจ้านารูโตะจนแสบจมูกแถมจมูกของคิบะตอนนี้ยังรับกลิ่นได้ดีกว่าคนทั่วไปซะด้วย
เรนยะที่เห็นฉากนี้ถึงกับรู้สึกขมคอเลยทีเดียวและสุดท้ายเจ้านารูโตะก็สามารถเอาชนะคิบะได้ด้วยท่าลูกเตะจักรผันอุซึมากินารูโตะที่ก๊อปปี้เขามาอีกที
เอรินะ : “ถามจริงเหอะในกลุ่มของคุณคาคาชิจะก๊อปปี้ท่าของชาวบ้านอีท่าเดียวเลยรึไง”
ไก : “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยแหะว่าไหมคาคาชินินจาก็อปปี้”
คาคาชิ : “แหะ แหะ ก็นะ”
ระหว่างที่รอทำความสะอาดสนามประลองเรนยะได้เรียกอาจารย์เอรินะมากระซิบกระซาบกันสองคนเพื่อถามเรื่องของคาริน
เรนยะ : “อาจารย์ครับเรื่องของคารินเธอเป็นยังไงบ้าง ?”
เอรินะ : “ไม่ต้องห่วงหรอกนะตอนนี้ฉันพาตัวเธอไปเช็คอาการที่โรงพยาบาลของโคโนฮะเรียบร้อยแล้วละหมอบอกว่าเธอคงจะตื่นพรุ่งนี้ตอนเช้าถึงตอนนั้นค่อยพาเธอไปพบท่านโฮคาเงะจะดีกว่า”
เรนยะพยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะหันไปดูทางสนามประลองต่อ
เก็กโค : “ฮะแฮ่ม ! งั้นจะเริ่มรอบต่อไปเลยนะ”
หน้าจอมอนิเตอร์ได้เริ่มสุ่มรายชื่อต่อและชื่อที่ปรากฏนั้นก็คือ
รอบที่แปด
ฮิวงะ ฮินาตะ vs ฮิวงะ เนจิ
รอบนี้เป็นศึกสายเลือดปนดราม่านิดๆและแน่นอนว่าฮินาตะโดนเนจิใช้มวยอ่อนอัดอยู่ฝ่ายเดียวจนหมดสภาพและสุดท้ายด้วยความโกรธที่ถูกจุดชนวนเรื่องตระกูลหลักและตระกูลรองทำให้เนจิคิดลงมือสังหารฮินาตะในการโจมตีสุดท้ายแต่ก็ถูกกรรมการเก็กโคและเหล่าโจนินที่เห็นท่าไม่ดีมาหยุดการโจมตีสุดท้ายเอาไว้
ไก : “พอได้แล้วเนจิเธอสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะไม่เอาเรื่องของตระกูลมาเกี่ยวข้องน่ะ”
เนจิ : “ทำไม . . ทำไมพวกโจนินคนอื่นๆถึงช่วยกันละสิทธิพิเศษของพวกตระกูลหลักงั้นรึไงแล้วแม้แต่ท่านเอรินะก็ด้วย”
เอรินะ : “ไม่เกี่ยวกันหรอกนะเนจิเพราะนี่มันเป็นหน้าที่มันก็แค่นั้นละ”
ฮินาตะได้กระอักเลือดออกมาก่อนจะทรุดตัวลงจนคุเรไนต้องรีบมาดูอาการ
นารูโตะ : “ฮินาตะ !!!”
พวกนารูโตะซากุระและร็อคลีร่วมถึงเรนยะได้โดดลงมาดูอาการของฮินาตะด้วยความเป็นห่วงแต่เนจิก็พูดยั่วยุนารูโตะว่าคนที่แพ้ก็คือแพ้โชคชะตามันกำหนดเอาไว้แล้วไม่มีวันเปลี่ยนได้หรอกจนนารูโตะฟิวส์ขาดจะลงมือกับเนจิแต่เรนยะก็ได้มาห้ามเอาไว้ด้วยการมะเหงกเขกหัวเรียกสติมันไปหนึ่งที
โป๊ก !!!
เรนยะ : “เจ้าบ้าใจเย็นๆหน่อยสิเดี๋ยวก็โดนตัดสิทธิ์เอาหรอก”
ร็อคลี : “ใช้แล้วละนารูโตะคุงเอาไว้สู้กันในรอบจริงจะดีกว่านะครับ”
นารูโตะ : “ฮึ่ย ~ เชอะ ! เอาแบบนั้นก็ได้”
คุเรไนที่เห็นว่าฮินาตะเริ่มจะไม่ไหวแล้วก็ได้เรียกหน่วยแพทย์มาพาฮินาตะไปรักษาเจ้านารูโตะก็กำเลือดของฮินาตะขึ้นมาชูใส่เนจิว่าตนจะต้องชนะแต่ก่อนจะแยกย้ายเรนยะก็ได้หันไปบอกกับเนจิว่า
เรนยะ : “รุ่นพี่เนจิก็จริงอยู่ว่าโชคชะตามันอาจจะมีอยู่จริงแต่ว่าถึงมันจะมีอยู่จริงก็ไม่ได้แปลว่ามันจะมาควบคุมตัวเราได้หรอกนะครับ”
เนจิ : “หึ !!! ฉันจะรอดูชะตากรรมของพวกนายละกันเชิญดิ้นรนไปเถอะ”
นารูโตะที่เดินขึ้นมารอดูการประลองเหมือนเดิมแต่พอเขาได้มองลงไปก็พบว่าเรนยะเพื่อนของเขายังคงยืนอยู่ด้านล่างไม่ขึ้นมาด้วยก็เลยตะโกนถามลงไป
นารูโตะ : “นี่ !!! เรนยะทำไมนายถึงไม่ขึ้นมากันละยังไม่รู้รอบต่อไปเป็นใครเลยนะ”
เรนยะที่ขี้เกียจคุยกับนารูโตะก็ได้เรียกมีดเขี้ยวราชันย์ออกมาจากอากาศธาตุมาถือเอาไว้เป็นการเตรียมพร้อมท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน
จนสุดท้ายจอมอนิเตอร์ได้สุ่มชื่อและชื่อที่ออกมานั้นคือ
รอบที่เก้า
อาคุสะ เรนยะ vs กิว เมรุมะ
เมรุมะ : “หึ ! ทีนี้ฉันจะได้ชำระหนี้แค้นที่ถูกเจ้านั่นมันทำตอนสอบจูนินรอบแรกเสียที”
ชินเรน : อย่าประมาทเจ้านั่นละเมรุมะเรายังไม่รู้ความสามารถของมันเลยถ้าแกแพ้ฉันเอาตายแน่
เมรุมะ : “ม . . ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่แพ้หรอก”
เมรุมะได้กระโดดลงมายืนประจันหน้ากับเรนยะ
เมรุมะ : “ไงแกเจ้าอาคุสะคงจะจำฉันได้สินะในการสอบรอบแรกแกทำกับพวกเราเอาไว้แสบมากเลยหนี้แค้นนั้นฉันจะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกเลยคอยดู !!!”
ทางด้านคนดู
ซากุระ : “ถ้าจำไม่ผิดนั่นมันผู้เข้าสอบหมายเลข40ที่ถูกเรนยะคุงจับได้ว่าโกงข้อสอบในการสอบจูนินรอบแรกนี่นา”
นารูโตะ : “เอ๋ งั้นเหรอถึงว่าหน้าตาถึงดูคุ้นๆ”
คาคาชิ : “คู่แค้นงั้นสินะ”
เรนยะที่ได้ฟังเมรุมะพูดเหมือนรู้จักตัวเขาก็เลยสงสัยถามกลับไปว่า
เรนยะ : “หือ ? นายเป็นใครอะ”
----------- -------------
เอรินะ : “เจ้าตัวแสบนั่นมีพรสวรรค์ในการยั่วโมโหคนอื่นเสียจริงนะ”
เอรินะถึงกับกุมขมับกับความกวนประสาทชาวบ้านไปทั่วของเรนยะ
อินามิ : “แหะ แหะ”
อิโนะ : “เจ้าเรนยะนี่มันจริงๆเลยไปไล่เขาออกในการสอบรอบแรกแถมยังจำเขาไม่ได้อีกเนี่ยนะ”
ชิกามารุ : “เห้อ ! เชื่อเขาเลย”
ส่วนเมรุมะที่เห็นว่าเรนยะแกล้ง(?)ทำเป็นลืมตัวเขาก็รู้สึกเสียหน้ามาก
เมรุมะ : “แกนะแก ~”
ปู่รุ่นที่ 3 : (แสดงฝีมือให้ข้าดูหน่อยเถอะเรนยะ)
โอโรจิมารุ : (หึ หึ เอาละแสดงให้ฉันเห็นหน่อยเถอะความสามารถของเธอน่ะ อาคุสะ เรนยะ)
โอโรจิมารุได้กลับมาดูรอบนี้เพราะตัวเขาเริ่มที่จะสนใจในตัวของเรนยะบ้างแล้ว
เก็กโคได้หันไปมองโฮคาเงะรุ่นที่3พอรุ่นที่3พยักหน้าเขาก็ได้เริ่มทันที
เก็กโค : “แค่ก แค่ก เอาละในเมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วก็เริ่มประลองได้ ~”
ทันทีที่การประลองเริ่มเมรุมะก็ได้กะโดดทิ้งระยะพร้อมกับหยิบชูริเคนออกมาปาใส่เรนยะ
ชูริเคนที่ถูกปามาเป็นเส้นตรงจู่ๆก็ได้เบี่ยงทิศทางล้อมรอบตัวของเรนยะทั้งสี่ทิศ
!!!
นารูโตะ : “อะไรน่ะทำไมชูริเคนถึงเปลี่ยนทิศได้ละ”
คาคาชิ : “ดูที่ชูริเคนดีๆสิ”
พอนารูโตะได้ลองมองดูดีๆแล้วก็พบว่าที่ชูริเคนพวกนั้นมีลวดเหล็กผูกเอาไว้ด้วยทำให้นารูโตะเข้าใจแล้วว่าทำไมชูริเคนพวกนั้นถึงได้เปลี่ยนทิศทางได้
แต่นารูโตะที่เห็นเรนยะนั้นไม่ขยับตัวก็ตกใจและคิดว่าเรนยะหาทางหนีจากชูริเคนพวกนั้นไม่ได้เลยตะโกนออกไป
นารูโตะ : “เห้ย !!! เรนยะรีบหลบเร็วเข้า”
ร็อคลี : “อันตรายครับเรนยะคุง !!!”
เนจิ : (อะไรกันทำเป็นพูดดีสุดท้ายก็มาได้แค่นี้เรอะ)
กาอาระ : (ขอดูหน่อยเถอะ อาคุสะ เรนยะ ว่านายจะทำยังไง)
ชินเรน : (เราคงคิดมากไปเองสินะ)
คันคุโร่ : “เหอะ !!! เจ้าเด็กนั่นคงจะกลัวจนขยับตัวไม่ได้ละมั้ง”
ในสายตาของทุกคนชูริเคนเริ่มจะใกล้มาถึงตัวของเรนยะอยู่แล้วแต่ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเรนยะจะต้องบาดเจ็บแน่ๆนั้น
จู่ๆชูริเคนพวกนั้นก็ถูกสายลมปริศนาดีดออกไปจนหมด
ซู่ม !!!
เมรุมะ : “อะไรกันวิชาดาวกระจายเปลี่ยนทิศของฉัน !!!”
พวกเหล่าคนดูก็ตกใจไปตามๆกัน
ซากุระ : “อะไรกัน ! เรนยะคุงเขาทำอะไรน่ะ”
ไก : “เขาไม่ได้ผสานอินเลยด้วยซำ้นี่นาหมายความว่ายังไงกันเอรินะคุง”
เอรินะ : “ฉ . . ฉันก็พึ่งเคยเห็นนี่ละ”
คาคาชิ : “จากที่ดูคงจะเป็นคาถาลมแน่ๆ”
(แต่เนตรวงแหวนมองไม่เห็นการรีดเร้นจักระเลยแปลกจริงๆ)
เนจิ : (อะไรกันจักระในร่างกายหมอนั่นไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแล้วสายลมที่ดีดชูริเคนพวกนั้นมันคืออะไรกันแน่)
นารูโตะ : “สุดยอด เรนยะมีวิชาเจ๋งๆเหมือนกันนี่นา”
เรนยะที่เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขากำลังอึ้งๆไม่โจมตีต่อเสียทีจึงได้พูดเรียกสติให้
เรนยะ : “เสียใจด้วยนะพวกอาวุธระยะไกลทุกชนิดน่ะใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก “
เมรุมะ : “ชิ ! ถ้างั้นก็ต้องใช้คาถานินจา”
เมรุมะที่เห็นว่าอาวุธระยะไกลทำอะไรเรนยะไม่ได้ก็เลยเริ่มผสานอินเพื่อใช้คาถานินจาโจมตีแทน
มะโรง → ขาล → เถาะ
เมรุมะ : “คาถานำ้คลื่นนำ้เชี่ยว !!!”
หลังผสานอินเสร็จเมรุมะได้พ่นคลื่นน้ำที่เชี่ยวกรากออกมาจากปากเพื่อเข้าโจมตีเรนยะ
เรนยะที่เห็นคลื่นนำ้ที่เชี่ยวกรากกำลังมาถึงตัวของเขาก็ได้กระตุ้นการทำงานของโฮกุทันที
ทุกคนได้เห็นว่าจู่ๆก็มีควันสีดำไหลออกมาจากที่มือของเรนยะและควันสีดำนั้นก็ได้ครอบคลุมมีดที่เรนยะได้ถือเอาไว้จนมีดในมือเขาได้เปลี่ยนเป็นสีดำ
เรนยะที่เปิดใช้งานโฮกุแล้วนั้นก็ได้ตวัดมีดเข้าใส่สายนำ้ที่กำลังจะมาถึงตัวของเขาอย่างไม่ลังเล
ทุกคนรู้สึกแปลกใจที่เรนยะทำแบบนั้นแทนที่จะหาทางหลบคาถานำ้นั้น
ซากุระ : “เอ๋ ทำไมเรนยะคุงเขาทำแบบนั้นกันละโจมตีใส่คาถานินจาแบบนั้นมันฆ่าตัวตายชัดๆเลยนี่ !!!”
คันคุโร่ : “หึ ! มันโง่รึป่าวใช้มีดเล่มเล็กๆนั้นโจมตีเข้าใส่คาถานินจาเนี่ยนะ”
เทมาริ : “ฆ่าตัวตายชัดๆ”
กาอาระ : . . .
เมรุมะ : “เสร็จฉันละ !!!”
ชิ้ง !!!
จู่ๆภาพที่ปรากฏต่อสายตาทุกคนมันทำให้ทุกคนตกตะลึงเรนยะที่ควรจะถูกคลื่นนำ้พัดปลิวไปกลับใช้มีดเล่มเล็กๆฟันคาถานินจานั้นหายไปราวกับคาถานินจาถูกลบทิ้งไปเสียอย่างนั้น
(เป็นไปได้ยังไงกัน !!!) นี่คือความคิดของทุกคนที่ดูการประลองในรอบนี้
เรนยะ : “งั้นจบเลยแล้วกันฉันเบื่อแล้ว”
ทุกคนได้เห็นว่าเรนยะได้เก้าเท้าไปข้างหน้าหนึ่งเก้าแต่จู่ๆร่างของเรนยะก็ได้หายไปต่อหน้าทุกคนและไปโผล่อยู่ข้างหลังของเมรุมะและตวัดมีดฟันจากล่างขึ้นบน
ชิ้ง !!! ฉูด !!!
เมรุมะที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเรนยะที่มาโผล่ข้างหลังของเขาก็รีบหันมาป้องกันแต่ก็ถูกเรนยะใช้มีดสีดำในมือฟันใส่จนเลือดกระฉูดออกมาท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคนที่อยู่ที่นี่
เพราะเรนยะนั้นเร็วเกินไปเก็กโคผู้คุมสอบก็เลยไม่อาจหยุดเรนยะได้ทัน
เมรุมะได้ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยร่างที่โชคเลือดและลมหายใจที่รวยริน
เก็กโค : “หน่วยแพทย์ !!!”
ชิกามารุ : “ควันสีดำนั่นมันอะไรกันน่ะ”
อาสึมะ : “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ฉันคิดว่านั่นคงจะเป็นมีดจักระ”
โจจิ : “เหมือนของครูอาสึมะเหรอ ?”
อาสึมะ : “ไม่นะมีดจักระของฉันทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก . . ไม่สิฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีคนที่ใช้มีดจักระสะบั้นคาถานินจาทิ้งแบบนั้นได้”
อิโนะ : “เรนยะคุงสุดยอดไปเลยแหะ”
คาคาชิ : “เร็วมาก !!! เร็วพอๆกับโจนินอย่างพวกเราเลย”
ไก : “เอรินะคุงช่วยอธิบายหน่อยสิว่าเรนยะทำแบบนั้นได้ยัง”
ทุกคนที่ดูอยู่ฝั่งเดียวกับเอรินะได้ขอคำอธิบายกับเธอเอรินะทำได้เพียงถอนหายใจก่อนจะตอบออกไปว่า
เอรินะ : “ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นได้ยังไงเพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นแต่ที่ฉันมั่นใจในตัวของเขาเป็นเพราะว่าตอนที่หน่วยที่9ของเราได้รับมอบหมายภารกิจระดับCภารกิจหนึ่ง”
คาคาชิ : “ภารกิจที่ให้ตามหานินจาโคโนฮะที่หายไปที่เมืองซากะซินะ”
เอรินะ : “ใช่แล้วพวกเราตามเบาะแสไปจนรู้ว่าพวกเขาถูกพวกใต้ดินจับตัวเอาไว้แต่ว่าเรนยะเขาได้บุกเข้าไปคนเดียวและได้เจราจายื่นเงื่อนไขหนึ่งในการปล่อยตัวนินจาโคโนฮะที่ถูกจับ”
เอรินะเล่าถึงตรงนี้ก็ได้เงียบไปเพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันช่างตราตรึงตัวของเธอมากจนนารูโตะทนไม่ไหวเลยเร่งให้เอรินะรีบเล่าต่อ
นารูโตะ : “นี่ ! เงื่อนไขอะไรละ”
เอรินะ : ประลองเป็นตายกับนินจาทั้ง10คนในเวลาเดียวกันในสนามประลองใต้ดินไงละ
!!!
คาคาชิ : “บ้าชัดๆทำอะไรบ้าบิ่นเกินไปแล้ว !!!”
เอรินะ : “ตอนแรกที่ฉันรู้เรื่องเพราะพวกนินจาที่เรนยะได้ช่วยเอาไว้ได้มาบอกกับฉันก็ตกใจไม่แพ้กันฉันเลยรีบวิ่งไปช่วยเด็กคนนั้น”
ไก : “แสดงว่าเอรินะคุงได้ไปช่วยเรนยะคุงได้ทันเวลาสินะแหมก็เกะนินแบบเขาถ่วงเวลาไว้ได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้วละนะ”
เอรินะได้ส่ายหน้า
อินามิ : “เอ๋ ไม่ใช่ว่าอาจารย์ไปช่วยเรนยะออกมาได้หรอกเหรอ
เอรินะ : “เมื่อฉันไปถึงที่สนามประลองใต้ดินสิ่งที่ฉันได้เห็นฉันยังแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลยที่กลางสนามประลองนั้นมีเด็กชายผมสีทองสวมหน้ากากกะโหลกสีขาวยืนอยู่ท่ามกลางนินจาทั้งสิบคนที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพิ้นและร่างชุ่มไปด้วยเลือด”
!!!
เอรินะ : “ใช่ . . เขาจัดการฆ่านินจาในสนามประลองใต้ดินที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแล้วได้ด้วยตัวคนเดียวทั้งที่ฝึกกับฉันได้ไม่กี่วัน”
คาคาชิ : “บ้าชัดๆเท่าที่ฉันรู้ในการประลองใต้ดินนินจาที่มีความแข็งแกร่งตำ่สุดก็ระดับจูนินเข้าไปแล้วด้วยซำ้แบบนี้ไม่ใช่ภารกิจระดับCแล้วภารกิจนั้นควรจะเป็นระดับBค่อนไปทางระดับAซะด้วยซำ้ !!!”
ไก : “แบบนี้เราก็ไม่แปลกใจแล้วละในรุ่นเกะนินไม่สิพวกจูนินน่ะแทบจะไม่มีใครต่อกรกับเขาได้เลย อาวุธลับถูกดีดทิ้งส่วนคาถานินจาเขาก็สามารถใช้มีดนั่นสะบั้นให้หายไปได้แบบนี้มันเกือบจะไร้เทียมทานแล้วนะ “
ความจริงที่เรนยะสามารถลบคาถานินจาของศัตรูได้เป็นเพราะว่าโฮกุที่เขาใช้
Knight of Owner / อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่าประเภท : ต่อต้านบุคคล
-เปลี่ยนสิ่งที่ตนจับและคิดว่าเป็นอาวุธให้เป็นสมบัติวีรชนระดับDของตนรวมถึงคาถานินจาต่างๆก็ด้วย
ในจังหวะที่เรนยะโจมตีเข้าใส่คาถานินจานั้นเขาก็ได้ทำการปล่อยควันสีดำที่เป็นโฮกุของเขาแทรกตัวเข้าไปในคาถานินจาของเมรุมะผ่านใบมีดและพอคาถาอยู่ในการควบคุมของโฮกุแล้วนั้นเขาก็ได้ทำการสั่งให้มันหายไปจึงดูเหมือนว่าเรนยะสามารถฟันคาถานินจาได้ด้วยมีดเล็กๆนั้่นเอง
ชินเรน : “เจ้าเมรุมะไอ้ไร้ประโยชน์ทำให้หมู่บ้านเราเสียชื่อหมด !!!“
โอโรจิมารุ : (หึ หึ ชักถูกใจเธอซะแล้วสิเรนยะคุง อยากชำแหละหาความลับนั่นจังเลย) แผล่บ ~(แลบลิ้น)
ปู่รุ่นที่ 3 : (โฮะ โฮะ ทำเอานึกถึงเขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะเลยนะเนี่ยเจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆเรนยะ)
เก็กโค : “อาคุสะ เรนยะ เป็นผู้ชนะ”
เรนยะได้เดินกลับขึ้นมาทางฝั่งของพวกนารูโตะเพื่อดูการประลองต่อแต่เขาก็พบว่าทุกคนมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
เรนยะ : “มีอะไรพวกนายหน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือไง ?”
นารูโตะ : “ป . . ป่าวครับคุณเรนยะ”
เจ้านารูโตะส่ายหน้ารัวจนเรนยะสงสัยว่ามันเป็นอะไร
เรนยะ : “พิลึกคน . .”
พอหน่วยแพทย์ได้หามเจ้าเมรุมะออกไปแล้วเก็กโคก็เริ่มสุ่มรายชื่อต่อโดยคราวนี้กาอาระได้ลงมารอก่อนที่หน้าจอจะแสดงชื่อเสียอีก
รอบที่สิบ
ร็อคลี vs ซาบาคุโนะ กาอาระ
รอบนี้ถือว่าสุดยอดเรนยะได้ลองใช้เนตรพันลี้กับตาแห่งดวงจิตลองจับการเคลื่อนไหวของร็อคลีดูก็ปรากฏว่าเขายังมองตามได้ทันอยู่
การต่อสู้ได้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของร็อคลีและพอหน่วยแพทย์มาดูอาการก็บอกว่าอาการหนักเกินไปอาจจะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนินจาได้อีกแล้วทำให้ไกรู้สึกเสียใจมากจนคาคาชิต้องช่วยเรียกสติเพราะการประลองยังไม่จบ
รอบที่สิบเอ็ด
ซาโต้ อินามิ vs ยาโตะ ชินเรน
เรนยะ : “นี่เธอสู้ไหวแน่นะ ?”
อินามิ : “อย่ามาดูถูกกันนะ คอยดูไปเถอะ”
อินามิได้กลายเป็นผีเสื้อแล้วไปโผล่ที่ลานประลอง
ตูม !!!
ส่วนชินเรนก็กระโดดลงมาที่ลานประลองจนพื้นแตกออกมาเลย
เอรินะ : “จากที่ดูเจ้าชินเรนนั่นคงจะเป็นนินจาสายต่อสู้แน่ๆ”
จู่หนูเงียบก็ได้บอกอะไรบางอย่างกับเรนยะผ่านตราเรย์จู
หนูเงียบ : Master . . ผู้ชายคนนั้นมีอะไรบางอย่างที่คล้ายๆกับผู้หญิงในคุกใต้ดินคนนั้น . . ไม่สิ . .ดูพิเศษกว่าด้วยซำ้ค่ะ
!!!
เรนยะ : (เหมือนกับผู้หญิงคนนั้น ยูกิ คานะ ก็หมายความว่า !!! เป็นผู้มีขีดจำกัดสายเลือด !!!)
เรนยะถึงกับเหงื่อตกเพราะเพื่อนสาวอินามิของเขาคงต้องเจอศึกหนักแน่ๆ
เก็กโค : “เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วก็เริ่มได้”
ฟุ่บ !!!
อินามิได้เริ่มผสานอินใช้คาถาและหายไปจากสายตาของทุกคนทันทีแต่เรนยะยังคงสามารถมองเห็นตัวของอินามิได้เหมือนเดิมเพราะคาถาลวงตาใช้กับตัวเขาไม่ได้
ชินเรนที่เห็นว่าเด็กผู้หญิงตรงหน้าได้หายตัวไปก็รู้สึกหัวเสียนิดหน่อย
ชินเรน : “เชอะ ! พวกคาถาลวงตาเรอะ เกียจเป็นบ้า”
ระหว่างที่ชินเรนกำลังหัวเสียอยู่นั้นอินามิก็ได้ปรากฎตัวขึ้นจากด้านหลังของชินเรนแต่ดูเหมือนชินเรนจะรู้ตัวเลยเหวี่ยงหลังมือโจมตีใส่ตัวของอินามิแต่ปรากฎว่าอินามิที่ถูกโจมตีนั้นกลับกลายเป็นผีเสื้อบินให้ว่อนบัดบังวิสัยทัศน์ของชินเรนจนเขารู้สึกรำคาญ
อินามิได้ใช้จังหวะนั้นชักดาบออกมาฟันใส่ชินเรนที่ลำตัว
ในขณะที่ทุกคนคิดว่ารู้ผลแล้วนั้นภาพต่อมามันกลับทำให้พวกเขาตกใจมากเพราะดาบที่ควรเฉือนเข้าไปในเนื้อของชินเรนกลับแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
เพล้ง !!!
เอรินะ : “อะไรน่ะ !!!”
นารูโตะ : “ร่างของหมอนั่นทำจากเหล็กหรือยังไงกัน !!!”
ด้านอินามิที่ตกใจที่ดาบของตนที่ฟันใส่ชายตรงหน้ากลับแตกเป็นชิ้นๆนั้นไม่ทันได้ระวังตัวจึงได้ถูกชินเรนต่อยเข้าไปที่สีข้างของเธอจนกระเด็นออกไป
อัก !!! แค่ก !!!
อินามิที่โดนหมัดนั่นเข้าไปถึงกับกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียวอินามิที่คิดจะขยับก็พบว่าตัวเธอขยับไม่ได้ชินเรนที่เห็นแบบนั้นจึงได้รวมจักระเอาไว้ที่มือขวาของตนชินเรนได้ยกตัวของอินามิขึ้นมาด้วยมือซ้ายและตบฝ่ามือที่ตนได้รวมจักระเอาไว้เข้าใส่กลางลำตัวของอินามิจนเธอล่วงลงไปกับพื้นแน่นิ่งไป
ชินเรนเตรียมที่จะจัดการอินามิซำ้นั้นก็ได้รวมจักระเอาไว้ที่มืออีกครั้งและได้ตบลงไปที่ตัวอินามิที่กำลังไม่ได้สติ
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วบวกกับความตกใจจนกรรมการและเหล่าโจนินไม่ทันได้เข้าไปห้าม
ในจังหวะที่ฝ่ามือของชินเรนกำลังจะถึงตัวของอินามินั้นจู่ๆก็มีมีดสีดำมาป้องกันการโจมตีนี้เอาไว้
ปัง !!!
อึก !!!
เรนยะ : (หนักอะไรแบบนี้ !!!)
เรนยะที่มากันการโจมตีนี้เอาไว้ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าวเลยทีเดียว
แฮ่ก แฮ่ก !!!
เรนยะได้หอบหายใจออกมาและมองดูที่มีดเขี้ยวราชันย์ในมือก็พบว่ามีรอยร้าวเกิดขึ้นเขาจึงได้ลองตรวจสอบดู
อาวุธระดับ 2ดาว (ชำรุด)
มีดเขี้ยวราชันย์อสรพิษสีรุ้ง (ชำรุด)
-ไม่สามารถแสดงผลความสามารถได้
เรนยะ : “ชิ !!!” (ขนาดทำให้มีดเป็นโฮกุระดับDแล้วยังถึงกับมีรอยร้าวเลยเหรอเนี่ย !!!)
นารูโตะ : “เรนยะ !!!”
เอรินะได้รีบเข้ามาดูอาการของอินามิด้วยเนตรสีขาว
!!!
เอรินะ : (เจ้านั้นปล่อยจักระคุณสมบัติธาตุไฟและหยางเข้าใส่ทำลายเส้นชีพจรจักระของอินามิแบบนี้แย่แน่ !!!)
เรนยะ : “เกิดอะไรขึ้นครับอาจารย์ !”
เอรินะ : “จักระหยางกับไฟกำลังทำลายเส้นชีพจรของเธอฉันหยุดมันไม่ได้ !”
เรนยะที่เห็นแบบนั้นจึงได้ใช้มือทาบลงที่บริเวณกลางลำตัวของอินามิและเปิดใช้งานโฮกุของเขาเพื่อควบคุมจักระธาตุหยางและจักระไฟแทรกซึมอยู่ในตัวของอินามิ
หน่วยแพทย์ที่กำลังมาหามตัวผู้บาดเจ็บและทุกคนที่สงสัยว่าเรนยะจะทำอะไรจู่ๆควันสีดำก็เริ่มออกมาจากมือของเรนยะและเริ่มแทรกซึมเข้าไปในตัวอินามิ
ด้วยเนตรสีขาวของเอรินะทำให้เธอมองเห็นอย่างชัดเจนว่าควันสีดำของเรนยะนักเรียนของเธอกำลังครอบคลุมจักระธาตุหยางและไฟที่กำลังเข้าไปปั่นป่วนอยู่ในตัวของอินามิ
เอรินะ : “เธอจะทำอะไรเรนยะ !”
เรนยะ : “อีกนิดเดียวครับ”
โฮกุของเรนยะได้เริ่มเปลี่ยนจักระธาตุหยางและไฟให้เป็นของเขาและเมื่อเรนยะควบคุมพวกมันได้แล้วเรนยะก็สั่งให้มันหายไป
เอรินะ : “หายไปแล้ว !!!”
เอรินะได้มองนักเรียนของเธอด้วยความซับซ้อนแต่ก็ได้ปล่อยวางข้อสงสัยเอาไว้ก่อนเพราะอาการของอินามิสำคัญกว่าแต่เมื่อเธอได้มองดูอินามิด้วยเนตรสีขาวดีๆแล้วนั้นเธอถึงกับหน้าถอดสี
พวกหน่วยแพทย์ก็ได้เข้ามาดูอาการของอินามิและพอตรวจดูแล้วก็ได้บอกกับเอรินะด้วยความเสียใจ
หน่วยแพทย์ : “เสียใจด้วยนะครับเส้นจักระของเธอได้รับความเสียหายมากเกินไปเธอคงจะเป็นนินจาอีกไม่ได้แล้วละครับ”
เมื่อเส้นจักระเสียหายหนักต่อให้เป็นนินจาที่เก่งกาจสักแค่ไหนก็จะทำให้ไม่สามารถใช้จักระได้อีกต่อไปแทบไม่ต่างจากคนธรรมดาและการรักษานั้นต่อให้เป็นหมอเทวดามาจากไหนก็ช่วยไม่ได้ทั้งนั้น
นารูโตะ : “อ . . อะไรกัน หน๊อย ~ แก !!!”
ชินเรน : “เหอะยัยสวะนั่นมันอ่อนแอและคนอ่อนแอไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่”
นารูโตะ : “ว่าไงนะ !!!”
นารูโตะที่เห็นว่าอีกฝ่ายทำเกินไปก็ได้เตรียมที่จะจัดการกับชินเรนแต่ก็ถูกเรนยะจับไหล่ห้ามเอาไว้
นารูโตะ : “เรนยะ ปล่อยฉันนะไอ้คนพรรค์นี้ฉันจะซัดมันให้แหลกเลย !!!”
เรนยะ : นารูโตะ !!!
!!!
นารูโตะที่ถูกเรนยะตะโกนใส่ก็เลยยอมหยุดด้วยความเจ็บใจแต่ทุกคนก็ตกใจกับคำพูดต่อมาของเรนยะ
เรนยะ : “เจ้านั่นมันเป็นเหยื่อของฉัน”
เรนยะได้เผลอปล่อยจิตสังหารออกมาจนขนาดพวกโจนินอย่างคาคาชิยังรู้สึกหวั่นเกรง
ชินเรน : “เหอะ !!! ฉันเนี่ยนะเหยื่อของแกมีดของแกยังฟันฉันไม่เข้าเลยด้วยซำ้จะบอกให้เอาบุญตระกูลยาโตะของฉันเป็นผู้มีขีดจำกัดสายเลือดคัดสรรแห่งหมู่บ้านทากิด้วยคุณสมบัติธาตุดินกับไฟและหยางที่เข้มข้นกว่าคนทั่วไปทำให้ร่างกายของพวกเรามีความทนทานมากเป็นพิเศษและวิชานินจาของตระกูลเรายังมีการปล่อยจักระออกมาจากตัวและสร้างเป็นม่านพลังเคลือบเป็นเกราะทั่วร่างกายได้ทุกส่วนขนาดคาถานินจาระดับAยังไม่ระคายผิวเลยด้วยซำ้อาวุธกิ้กก๊อกของแกฟันฉันไม่เข้าหรอก !!!”
!!!
ปู่รุ่นที่ 3 : (หมู่บ้านทากิถึงขนาดมีนินจาสายเลือดคัดสรรซ่อนเอาไว้เชียวรึเนี่ย)
โอโรจิมารุ : (เจ้าทากินั้นก็น่าสนใจนิดหน่อยละนะ หึ หึ ถึงอยากจะฝากอักขระไว้ให้กับเรนยคุงกับเจ้านั่นแต่ตอนนี้ฉันมีแผนการที่ต้องเตรียมตัวก่อน น่าเสียดายจริงๆ หึ หึ)
โดยไม่มีใครรู้ตัวโอโรจิมารุที่ปลอมตัวได้แอบหลบออกไปจากที่นี่เสียแล้ว
บรรยากาศในลานประลองเริ่มดุเดือดเพราะทุกคนไม่คาดว่าจะมีผู้เข้าสอบที่ร้ายกาจแบบนี้อยู่อีก
เรนยะ : “หึ ! จะฟันแกเข้าหรือไม่ฉันจะเป็นผู้ตัดสินเองแกไม่ต้องมายุ่งหรอก . . .ไปกันได้แล้วนารูโตะการประลองคัดตัวยังไม่จบ”
ถึงเรนยะจะตกใจที่อีกฝ่ายเป็นสายเลือดคัดสรรที่ร้ายกาจแต่ตัวเขายังมีระบบอยู่กว่าจะถึงการประลองเขาคงจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าตอนนี้เป็นแน่
เมื่อหน่วยแพทย์ได้หามผู้บาดเจ็บไปแล้วทุกคนก็ขึ้นมาชมการประลองต่อโดยคู่สุดท้ายคือ
รอบที่สิบสองรอบสุดท้าย
โดซึ คินุตะ vs อาคิมิจิ โจจิ
คู่นี้เรนยะไม่ได้สนใจอะไรเพราะคงจะไม่ต่างจากที่เขารู้เรนยะเลยได้เรียกใช้งานระบบในใจ
เรนยะ : “ระบบย่อยมีดเขี้ยวราชันย์อสรพิษสีรุ้งซะ”
ระบบ : “รับทราบ . . ท่านได้รับ”
การ์ดExpระดับ 2 ดาว(สีส้ม)
Torch of Wisdom x 1
เรนยะ : “ชิ ! เพราะชำรุดจากมีด4ดาวเลยเหลือแค่2ดาวเองเหรอเนี่ย . . ระบบใช้สิทธิ์การสุ่มประจำวัน6ครั้ง”
ระบบ : “รับทราบท่านเรนยะ”
การ์ดที่เรนยะได้รับมีดังนี้
การ์ดExpระดับ 4 ดาว
Roaring Flames of Wisdom x 4
การ์ดสกิลระดับ 4 ดาว(สีทอง)
Divinity B / ความเป็นเทพ ระดับ B
-ความเป็นเทพจะทำให้ ความเสียหายที่ตนโดนโจมตีลดลงทั้งยังป้องกันการโจมตีจากคาถาลวงตาทั้งหมดและการโจมตีของตัวเองจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปกติ
การ์ดสกิลระดับ 5 ดาว(สีทอง)
Charisma A / ความน่านับถือ ระดับ A
-สามารถพูดปลุกใจเหล่าผู้คนและทำให้เป็นที่น่านับถือและถ้าพูดให้กำลังใจผู้คนที่กำลังตกอยู่ในคาถาลวงตาจะทำให้หลุดจากคาถาลวงตาได้
เรนยะได้ทำการสั่งให้ระบบทำการติดตั้งการ์ดสกิลที่ได้มาและได้เปิดดูค่าสถานะของเขา
ชื่อ อาคุสะ เรนยะ
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์ครึ่งเทพสายเลือดเข้มข้น
STR พละกำลัง : D+
DFFความแข็งแกร่ง : D++
AGIความว่องไว : D++ (สวมแหวน+1ระดับอยู่)
MAGจักระ : B++
LUCโชค : C+
NP : Knight of Owner / อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่าประเภท : ต่อต้านบุคคล
ระดับ : A++
-ความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งของที่ตนจับให้กลายเป็นสมบัติวีรชน ซึ่งสิ่งของที่ถูกจับนั้นจะมีระดับเท่ากับสมบัติวีรชนระดับ D และเมื่อจับอาวุธจะได้รับความสามารถในการใช้อาวุธชิ้นนั้นอย่างชำนาญ สิ่งที่จับจะกลายเป็นสีดำและแม้ว่าจะปล่อยมือจากสิ่งที่จับไปแล้ว มันก็จะยังคงเป็นของตนอยู่ระยะเวลาหนึ่งรวมทั้งคาถานินจาด้วย
สกิล
Independent Action A(Max) / ความเป็นอิสระระดับ A(สูงสุด)
-ทำให้สามารถลดการใช้จักระได้ครึ่งหนึ่งและทำให้จักระฟื้นฟูเร็วมาก
Golden Rule A(Max) / กฎแห่งทองคำ ระดับ A(สูงสุด)
-เกิดมาเพื่อเป็นเศรษฐี ปัญหาเรื่องเงินไม่มีทางเกิดขึ้น
Eye of the Mind(True) B /ตาแห่งดวงจิต(แท้) ระดับ B
-ทำให้อ่านการเคลื่อนไหวล่วงหน้าของศัตรูได้และถ้าใช้จักระร่วมกับสกิลนี้จะสามารถมองทะลุภาพลวงตาได้
Clairvoyance B / เนตรพันลี้ ระดับ B
-สามารถมองเห็นเป้าหมายในระยะไกลหรือสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆได้ สามารถเห็นที่ซ่อนตัวของศัตรูได้และมองเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ 1 นาที (เฉพาะในการต่อสู้)
Hawk Eye B+ / ตาเหยี่ยว ระดับ B+
-สามารถมองศัตรูจากมุมมองด้านบนเหมือนเหยี่ยวได้ใช้คู่กับ สกิลเนตรพันลี้ หรือ ตาแห่งดวงจิต ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสกิล
Territory of concealment A+(max) / อาณาเขต แห่ง การปกปิด ระดับ A+(สูงสุด)
-ทำให้ตนเองและ Servant ได้รับสกิล Presence Concealment A+(Max) / การปกปิดตัวตน ระดับ A+(สูงสุด) ทำให้สามารถลบตัวตนออกไปอย่างสมบูรณ์ทั้งกลิ่นอายและจิตสังหารแต่ถ้าเริ่มโจมตีเมื่อไหร่สกิลนี้จะถูกยกเลิกทันที
Protection from Arrow A(Max) / การป้องกันจากลูกศร ระดับ A(สูงสุด)
-ป้องกันการโจมตีจากอาวุธระยะไกลทุกชนิดได้ (เฉพาะอาวุธ)
Divinity B>>A / ความเป็นเทพ ระดับ B>>A
-ความเป็นเทพจะทำให้ ความเสียหายที่ตนโดนโจมตีลดลงครึ่งเดียวทั้งยังป้องกันการโจมตีจากคาถาลวงตาทั้งหมดและการโจมตีของตัวเองจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปกติ
Instinct A(Max) / สัญชาตญาณ ระดับ A(สูงสุด)
-สามารถรับรู้อันตรายได้ล่วงหน้าถึงแม้ว่าการรับรู้อย่างการมองเห็นหรือการได้ยินจะถูกรบกวน
Charisma A / ความน่านับถือ ระดับ A
-สามารถพูดปลุกใจเหล่าผู้คนและทำให้เป็นที่น่านับถือและถ้าพูดให้กำลังใจผู้คนที่กำลังตกอยู่ในคาถาลวงตาจะทำให้หลุดจากคาถาลวงตาได้
หลังจากที่ดูค่าสถานะเรียบร้อยแล้วเรนยะกำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับการ์ดExpทั้ง4ชิ้นนี้ดีแต่การประลองรอบสุดท้ายก็ได้จบลงพอดีทำให้เรนยะตัดสินใจเก็บมันเอาไว้ก่อน
เก็กโค : “เอาละขอประกาศว่าการสอบรอบที่สามได้จบลงแล้ว”
ทุกคนรวมถึงเรนยะได้ลงมาเข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง
ปู่รุ่นที่ 3 : (ในที่สุดก็ได้ผู้ที่เหมาะสมที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปเสียที)“งั้นฉันจะเริ่มอธิบายการสอบในรอบจริงละนะ”
ในอีกด้านหนึ่งในสถานที่เงียบสงบของโคโนฮะ
โอโรจิมารุได้มารับข้อมูลที่คาบูโตะไปสืบมาและได้พูดคุยกันนิดหน่อย
โอโรจิมารุ : “หึ หึ ถ้าอย่างนั้นก็ฝากเธอด้วยแล้วกันนะคาบูโตะ”
คาบูโตะ : “ครับ”
หลังจากคาบูโตะไปแล้วโอโรจิมารุก็กำลังบ่นพึมพำกับตัวเองคนเดียว
โอโรจิมารุ : “ถ้าข้อมูลที่คาบูโตะให้มาเป็นเรื่องจริงมันก็น่าแปลก หึ หึ รอบจริงช่วยทำให้ฉันประทับใจในตัวเธอมากกว่านี้หน่อยแล้วกันนะ อาคุสะ เรนยะ หึ หึ”
ยากาโด โยโรอิ vs อุจิวะ ซาซึเกะ
เรนยะ : (รู้สึกเจ้าโยโรอิจะสามารถดูดจักระได้สินะถึงจะตึงมือสำหรับเจ้าซาซึเกะแต่หมอนั้นคงผ่านมาได้เหมือนกับเนื้อเรื่องเดิมนั่นละนะ)
คาคาชิได้เตือนซาซึเกะว่าให้หลีกเลี่ยงการใช้คาถานินจาเพราะถ้าใช้จักระมากจนเกินไปมันจะไปกระตุ้นอักขระสาปเอาได้ก่อนที่ทุกคนจะโดดขึ้นไปบนชั้นลอยรอบด้านเพื่อดูการประลอง
เก็กโคได้ถามความพร้อมทั้งสองฝ่ายก่อนจะให้สัญญาณเริ่มการต่อสู้
การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นซาซึเกะที่รู้สึกเจ็บที่อักขระสาปได้เป็นฝ่ายโจมตีก่อนเพราะต้องการรีบจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด
แต่เพราะไม่อาจใช้คาถานินจาได้ซาซึเกะจึงต้องเข้าสู้ด้วยกระบวนท่าในระยะประชิด
แต่การบุกเข้าไปสู้กับโยโรอิในระยะประชิดดูเหมือนจะเป็นการเข้าทางของโยโรอิพอดี
ซาซึเกะที่ถูกดูดจักระจนเกือบจะถูกควบคุมโดยอักขระสาปแต่สุดท้ายด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นของซาซึเกะจึงสามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้ด้วยกระบวนท่าเตะจักรผันลูกสิงห์ที่ก็อปปี้และดัดแปลงมาจากร็อคลีอีกที
เมื่อการต่อสู้รู้ผลคาคาชิก็พาตัวของซาซึเกะไปเพื่อผนึกอักขระสาป
รอบที่สอง
ซาคุ อายุมิ vs อาบุราเมะ ชิโนะ
คู่นี้ไม่มีอะไรมากเจ้าซาคุโดนชิโนะแอบส่งแมลงไปอัดในช่องปล่อยอากาศที่ฝ่ามือของซาคุจนแขนเจ้านั่นระเบิดจนหมดสภาพ
เรนยะ : (แมลงน่าขยะแขยงชะมัดเลยแหะดีแล้วที่ไม่ได้สู้กับเจ้าชิโนะ)
รอบที่สาม
ซาบาคุโนะ คันคุโร่ vs ซึรุงิ มิซึมิ
คู่นี้เพราะเจ้าซึรุงิประมาทเพราะนึกว่าใช้วิชาตัวยืดเหมือนของหมวกฟางลูฟี่จับรัดตัวของคันคุโร่ไว้ได้แต่ที่แท้แล้วที่ซึรุงิรัดเอาไว้จนแน่นคือหุ่นเชิดการาสุที่คันคุโร่ปลอมตัวให้สุดท้ายแรงคนก็สู้แรงหุ่นไม่ได้ซึรุงิโดนหุ่นเชิดการาสุรัดคืนจนกระดูกหักทั่วร่างหมดสภาพที่จะสู้ต่อได้
รอบที่สี่
ฮารุโนะ ซากุระ vs ยามานากะ อิโนะ
คู่นี้เสมอกันซะงั้นตกรอบทั้งคู่
เรนยะ : (ดูผู้หญิงตีกันเหมือนดูแรงเงาละนะขนาดพึ่งสู้เสร็จยังจะมีแรงเถียงกันอีกนะพวกหล่อน)
รอบที่ห้า
ซาบาคุโนะ เทมาริ vs เท็นเท็น
รอบนี้บอกเลยว่าน่าสงสารเท็นเท็นซะจริงสายอาวุธลับอย่างเธอเจอกับแม่สาวพายุอย่างเทมาริผลก็อย่างที่รู้ๆกัน
เรนยะ : (ก็นะขนาดเรายังเลือกฝึกคาถาลมเลยเพราะนินจาส่วนมากจะสู้ด้วยอาวุธนินจาเสียมากกว่าไม่ใช่ว่านินจาทุกคนเปิดมาจะยิงคาถากันพร่ำเพรื่อขื่นทำแบบนั้นจักระได้หมดก่อนและไม่พอใช้ต่อสู้และก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะหมดแรงก่อนพอดี)
เทมาริที่จัดการกับเท็นเท็นได้ก็เหวี่ยงตัวของเท็นเท็นออกไปอย่างแรงแต่ก็ได้ร็อคลีมารับเอาไว้ได้แต่ก็เกือบจะมีเรื่องกันแล้วละนะ
รอบที่หก
นารา ชิกามารุ vs คิน ทซึจิ
คู่นี้ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณด้วยIQ200ที่ใครๆก็อยากได้อยากมีทำให้ชิกามารุวางแผนจัดการกับคินอย่างหมดท่าและผ่านเข้ารอบมาได้
รอบที่เจ็ด
อินุซึกะ คิบะ vs อุซึมากิ นารูโตะ
นารูโตะดี๊ด๊าดีใจที่ถึงรอบของตัวเองเสียทีแถมยังหันมาพูดกับเรนยะที่อยู่ข้างๆอีกด้วย
นารูโตะ : “คอยดูฉันเอาไว้นะเรนยะว่าฉันน่ะนะพัฒนาขึ้นแล้วฉันไม่แพ้ใครแน่ !”
เรนยะ : “จ้า จ้า เชิญลงไปได้แล้วนารูโตะ”
ส่วนทางคิบะที่รู้ว่าคู่ต่อสู้ของตนคือนารูโตะก็คิดว่าตัวเองโชคดีและคงผ่านเข้ารอบได้อย่างสบายๆ
ในการต่อสู้คิบะที่ไม่คาดคิดว่าเด็กซำ้ชั้นอย่างเจ้านารูโตะจะสามารถรับมือกับตัวเขาที่ร่วมมือกับอากามารุได้ขนาดนี้ก็เลยคิดที่จะเอาจริงเลยใช้ยาเสบียงศึกดีดป้อนให้กับอากามารุและคิบะก็กินเข้าไปด้วยจนทำให้นารูโตะเป็นฝ่ายเสียเปรียบต้องหลบการโจมตีฝ่ายเดียว
สุดท้ายหลังจากหลบอยู่นานเจ้านารูโตะก็โดนท่าเขี้ยวประสานเขี้ยวของคิบะเข้าไปจนได้แต่นารูโตะก็ยังคงลุกขึ้นมาได้พร้อมกับประกาศว่าตนจะไม่มีวันยอมแพ้
เรนยะ : (มาเห็นฉากนี้ด้วยตาตัวเองก็ทำให้รู้สึกฮึกเหิมดีแหะ ฮะ ฮะ)
การต่อสู้ดำเนินต่อไปแต่ด้วยที่นารูโตะใส่แรงในการรีดเร้นจักระมากไปทำให้เจ้าคิบะที่กำลังจะลอบเข้ามาทางด้านหลังโดนตดพิฆาตของเจ้านารูโตะจนแสบจมูกแถมจมูกของคิบะตอนนี้ยังรับกลิ่นได้ดีกว่าคนทั่วไปซะด้วย
เรนยะที่เห็นฉากนี้ถึงกับรู้สึกขมคอเลยทีเดียวและสุดท้ายเจ้านารูโตะก็สามารถเอาชนะคิบะได้ด้วยท่าลูกเตะจักรผันอุซึมากินารูโตะที่ก๊อปปี้เขามาอีกที
เอรินะ : “ถามจริงเหอะในกลุ่มของคุณคาคาชิจะก๊อปปี้ท่าของชาวบ้านอีท่าเดียวเลยรึไง”
ไก : “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยแหะว่าไหมคาคาชินินจาก็อปปี้”
คาคาชิ : “แหะ แหะ ก็นะ”
ระหว่างที่รอทำความสะอาดสนามประลองเรนยะได้เรียกอาจารย์เอรินะมากระซิบกระซาบกันสองคนเพื่อถามเรื่องของคาริน
เรนยะ : “อาจารย์ครับเรื่องของคารินเธอเป็นยังไงบ้าง ?”
เอรินะ : “ไม่ต้องห่วงหรอกนะตอนนี้ฉันพาตัวเธอไปเช็คอาการที่โรงพยาบาลของโคโนฮะเรียบร้อยแล้วละหมอบอกว่าเธอคงจะตื่นพรุ่งนี้ตอนเช้าถึงตอนนั้นค่อยพาเธอไปพบท่านโฮคาเงะจะดีกว่า”
เรนยะพยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะหันไปดูทางสนามประลองต่อ
เก็กโค : “ฮะแฮ่ม ! งั้นจะเริ่มรอบต่อไปเลยนะ”
หน้าจอมอนิเตอร์ได้เริ่มสุ่มรายชื่อต่อและชื่อที่ปรากฏนั้นก็คือ
รอบที่แปด
ฮิวงะ ฮินาตะ vs ฮิวงะ เนจิ
รอบนี้เป็นศึกสายเลือดปนดราม่านิดๆและแน่นอนว่าฮินาตะโดนเนจิใช้มวยอ่อนอัดอยู่ฝ่ายเดียวจนหมดสภาพและสุดท้ายด้วยความโกรธที่ถูกจุดชนวนเรื่องตระกูลหลักและตระกูลรองทำให้เนจิคิดลงมือสังหารฮินาตะในการโจมตีสุดท้ายแต่ก็ถูกกรรมการเก็กโคและเหล่าโจนินที่เห็นท่าไม่ดีมาหยุดการโจมตีสุดท้ายเอาไว้
ไก : “พอได้แล้วเนจิเธอสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะไม่เอาเรื่องของตระกูลมาเกี่ยวข้องน่ะ”
เนจิ : “ทำไม . . ทำไมพวกโจนินคนอื่นๆถึงช่วยกันละสิทธิพิเศษของพวกตระกูลหลักงั้นรึไงแล้วแม้แต่ท่านเอรินะก็ด้วย”
เอรินะ : “ไม่เกี่ยวกันหรอกนะเนจิเพราะนี่มันเป็นหน้าที่มันก็แค่นั้นละ”
ฮินาตะได้กระอักเลือดออกมาก่อนจะทรุดตัวลงจนคุเรไนต้องรีบมาดูอาการ
นารูโตะ : “ฮินาตะ !!!”
พวกนารูโตะซากุระและร็อคลีร่วมถึงเรนยะได้โดดลงมาดูอาการของฮินาตะด้วยความเป็นห่วงแต่เนจิก็พูดยั่วยุนารูโตะว่าคนที่แพ้ก็คือแพ้โชคชะตามันกำหนดเอาไว้แล้วไม่มีวันเปลี่ยนได้หรอกจนนารูโตะฟิวส์ขาดจะลงมือกับเนจิแต่เรนยะก็ได้มาห้ามเอาไว้ด้วยการมะเหงกเขกหัวเรียกสติมันไปหนึ่งที
โป๊ก !!!
เรนยะ : “เจ้าบ้าใจเย็นๆหน่อยสิเดี๋ยวก็โดนตัดสิทธิ์เอาหรอก”
ร็อคลี : “ใช้แล้วละนารูโตะคุงเอาไว้สู้กันในรอบจริงจะดีกว่านะครับ”
นารูโตะ : “ฮึ่ย ~ เชอะ ! เอาแบบนั้นก็ได้”
คุเรไนที่เห็นว่าฮินาตะเริ่มจะไม่ไหวแล้วก็ได้เรียกหน่วยแพทย์มาพาฮินาตะไปรักษาเจ้านารูโตะก็กำเลือดของฮินาตะขึ้นมาชูใส่เนจิว่าตนจะต้องชนะแต่ก่อนจะแยกย้ายเรนยะก็ได้หันไปบอกกับเนจิว่า
เรนยะ : “รุ่นพี่เนจิก็จริงอยู่ว่าโชคชะตามันอาจจะมีอยู่จริงแต่ว่าถึงมันจะมีอยู่จริงก็ไม่ได้แปลว่ามันจะมาควบคุมตัวเราได้หรอกนะครับ”
เนจิ : “หึ !!! ฉันจะรอดูชะตากรรมของพวกนายละกันเชิญดิ้นรนไปเถอะ”
นารูโตะที่เดินขึ้นมารอดูการประลองเหมือนเดิมแต่พอเขาได้มองลงไปก็พบว่าเรนยะเพื่อนของเขายังคงยืนอยู่ด้านล่างไม่ขึ้นมาด้วยก็เลยตะโกนถามลงไป
นารูโตะ : “นี่ !!! เรนยะทำไมนายถึงไม่ขึ้นมากันละยังไม่รู้รอบต่อไปเป็นใครเลยนะ”
เรนยะที่ขี้เกียจคุยกับนารูโตะก็ได้เรียกมีดเขี้ยวราชันย์ออกมาจากอากาศธาตุมาถือเอาไว้เป็นการเตรียมพร้อมท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน
จนสุดท้ายจอมอนิเตอร์ได้สุ่มชื่อและชื่อที่ออกมานั้นคือ
รอบที่เก้า
อาคุสะ เรนยะ vs กิว เมรุมะ
เมรุมะ : “หึ ! ทีนี้ฉันจะได้ชำระหนี้แค้นที่ถูกเจ้านั่นมันทำตอนสอบจูนินรอบแรกเสียที”
ชินเรน : อย่าประมาทเจ้านั่นละเมรุมะเรายังไม่รู้ความสามารถของมันเลยถ้าแกแพ้ฉันเอาตายแน่
เมรุมะ : “ม . . ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่แพ้หรอก”
เมรุมะได้กระโดดลงมายืนประจันหน้ากับเรนยะ
เมรุมะ : “ไงแกเจ้าอาคุสะคงจะจำฉันได้สินะในการสอบรอบแรกแกทำกับพวกเราเอาไว้แสบมากเลยหนี้แค้นนั้นฉันจะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกเลยคอยดู !!!”
ทางด้านคนดู
ซากุระ : “ถ้าจำไม่ผิดนั่นมันผู้เข้าสอบหมายเลข40ที่ถูกเรนยะคุงจับได้ว่าโกงข้อสอบในการสอบจูนินรอบแรกนี่นา”
นารูโตะ : “เอ๋ งั้นเหรอถึงว่าหน้าตาถึงดูคุ้นๆ”
คาคาชิ : “คู่แค้นงั้นสินะ”
เรนยะที่ได้ฟังเมรุมะพูดเหมือนรู้จักตัวเขาก็เลยสงสัยถามกลับไปว่า
เรนยะ : “หือ ? นายเป็นใครอะ”
----------- -------------
เอรินะ : “เจ้าตัวแสบนั่นมีพรสวรรค์ในการยั่วโมโหคนอื่นเสียจริงนะ”
เอรินะถึงกับกุมขมับกับความกวนประสาทชาวบ้านไปทั่วของเรนยะ
อินามิ : “แหะ แหะ”
อิโนะ : “เจ้าเรนยะนี่มันจริงๆเลยไปไล่เขาออกในการสอบรอบแรกแถมยังจำเขาไม่ได้อีกเนี่ยนะ”
ชิกามารุ : “เห้อ ! เชื่อเขาเลย”
ส่วนเมรุมะที่เห็นว่าเรนยะแกล้ง(?)ทำเป็นลืมตัวเขาก็รู้สึกเสียหน้ามาก
เมรุมะ : “แกนะแก ~”
ปู่รุ่นที่ 3 : (แสดงฝีมือให้ข้าดูหน่อยเถอะเรนยะ)
โอโรจิมารุ : (หึ หึ เอาละแสดงให้ฉันเห็นหน่อยเถอะความสามารถของเธอน่ะ อาคุสะ เรนยะ)
โอโรจิมารุได้กลับมาดูรอบนี้เพราะตัวเขาเริ่มที่จะสนใจในตัวของเรนยะบ้างแล้ว
เก็กโคได้หันไปมองโฮคาเงะรุ่นที่3พอรุ่นที่3พยักหน้าเขาก็ได้เริ่มทันที
เก็กโค : “แค่ก แค่ก เอาละในเมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วก็เริ่มประลองได้ ~”
ทันทีที่การประลองเริ่มเมรุมะก็ได้กะโดดทิ้งระยะพร้อมกับหยิบชูริเคนออกมาปาใส่เรนยะ
ชูริเคนที่ถูกปามาเป็นเส้นตรงจู่ๆก็ได้เบี่ยงทิศทางล้อมรอบตัวของเรนยะทั้งสี่ทิศ
!!!
นารูโตะ : “อะไรน่ะทำไมชูริเคนถึงเปลี่ยนทิศได้ละ”
คาคาชิ : “ดูที่ชูริเคนดีๆสิ”
พอนารูโตะได้ลองมองดูดีๆแล้วก็พบว่าที่ชูริเคนพวกนั้นมีลวดเหล็กผูกเอาไว้ด้วยทำให้นารูโตะเข้าใจแล้วว่าทำไมชูริเคนพวกนั้นถึงได้เปลี่ยนทิศทางได้
แต่นารูโตะที่เห็นเรนยะนั้นไม่ขยับตัวก็ตกใจและคิดว่าเรนยะหาทางหนีจากชูริเคนพวกนั้นไม่ได้เลยตะโกนออกไป
นารูโตะ : “เห้ย !!! เรนยะรีบหลบเร็วเข้า”
ร็อคลี : “อันตรายครับเรนยะคุง !!!”
เนจิ : (อะไรกันทำเป็นพูดดีสุดท้ายก็มาได้แค่นี้เรอะ)
กาอาระ : (ขอดูหน่อยเถอะ อาคุสะ เรนยะ ว่านายจะทำยังไง)
ชินเรน : (เราคงคิดมากไปเองสินะ)
คันคุโร่ : “เหอะ !!! เจ้าเด็กนั่นคงจะกลัวจนขยับตัวไม่ได้ละมั้ง”
ในสายตาของทุกคนชูริเคนเริ่มจะใกล้มาถึงตัวของเรนยะอยู่แล้วแต่ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเรนยะจะต้องบาดเจ็บแน่ๆนั้น
จู่ๆชูริเคนพวกนั้นก็ถูกสายลมปริศนาดีดออกไปจนหมด
ซู่ม !!!
เมรุมะ : “อะไรกันวิชาดาวกระจายเปลี่ยนทิศของฉัน !!!”
พวกเหล่าคนดูก็ตกใจไปตามๆกัน
ซากุระ : “อะไรกัน ! เรนยะคุงเขาทำอะไรน่ะ”
ไก : “เขาไม่ได้ผสานอินเลยด้วยซำ้นี่นาหมายความว่ายังไงกันเอรินะคุง”
เอรินะ : “ฉ . . ฉันก็พึ่งเคยเห็นนี่ละ”
คาคาชิ : “จากที่ดูคงจะเป็นคาถาลมแน่ๆ”
(แต่เนตรวงแหวนมองไม่เห็นการรีดเร้นจักระเลยแปลกจริงๆ)
เนจิ : (อะไรกันจักระในร่างกายหมอนั่นไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแล้วสายลมที่ดีดชูริเคนพวกนั้นมันคืออะไรกันแน่)
นารูโตะ : “สุดยอด เรนยะมีวิชาเจ๋งๆเหมือนกันนี่นา”
เรนยะที่เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขากำลังอึ้งๆไม่โจมตีต่อเสียทีจึงได้พูดเรียกสติให้
เรนยะ : “เสียใจด้วยนะพวกอาวุธระยะไกลทุกชนิดน่ะใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก “
เมรุมะ : “ชิ ! ถ้างั้นก็ต้องใช้คาถานินจา”
เมรุมะที่เห็นว่าอาวุธระยะไกลทำอะไรเรนยะไม่ได้ก็เลยเริ่มผสานอินเพื่อใช้คาถานินจาโจมตีแทน
มะโรง → ขาล → เถาะ
เมรุมะ : “คาถานำ้คลื่นนำ้เชี่ยว !!!”
หลังผสานอินเสร็จเมรุมะได้พ่นคลื่นน้ำที่เชี่ยวกรากออกมาจากปากเพื่อเข้าโจมตีเรนยะ
เรนยะที่เห็นคลื่นนำ้ที่เชี่ยวกรากกำลังมาถึงตัวของเขาก็ได้กระตุ้นการทำงานของโฮกุทันที
ทุกคนได้เห็นว่าจู่ๆก็มีควันสีดำไหลออกมาจากที่มือของเรนยะและควันสีดำนั้นก็ได้ครอบคลุมมีดที่เรนยะได้ถือเอาไว้จนมีดในมือเขาได้เปลี่ยนเป็นสีดำ
เรนยะที่เปิดใช้งานโฮกุแล้วนั้นก็ได้ตวัดมีดเข้าใส่สายนำ้ที่กำลังจะมาถึงตัวของเขาอย่างไม่ลังเล
ทุกคนรู้สึกแปลกใจที่เรนยะทำแบบนั้นแทนที่จะหาทางหลบคาถานำ้นั้น
ซากุระ : “เอ๋ ทำไมเรนยะคุงเขาทำแบบนั้นกันละโจมตีใส่คาถานินจาแบบนั้นมันฆ่าตัวตายชัดๆเลยนี่ !!!”
คันคุโร่ : “หึ ! มันโง่รึป่าวใช้มีดเล่มเล็กๆนั้นโจมตีเข้าใส่คาถานินจาเนี่ยนะ”
เทมาริ : “ฆ่าตัวตายชัดๆ”
กาอาระ : . . .
เมรุมะ : “เสร็จฉันละ !!!”
ชิ้ง !!!
จู่ๆภาพที่ปรากฏต่อสายตาทุกคนมันทำให้ทุกคนตกตะลึงเรนยะที่ควรจะถูกคลื่นนำ้พัดปลิวไปกลับใช้มีดเล่มเล็กๆฟันคาถานินจานั้นหายไปราวกับคาถานินจาถูกลบทิ้งไปเสียอย่างนั้น
(เป็นไปได้ยังไงกัน !!!) นี่คือความคิดของทุกคนที่ดูการประลองในรอบนี้
เรนยะ : “งั้นจบเลยแล้วกันฉันเบื่อแล้ว”
ทุกคนได้เห็นว่าเรนยะได้เก้าเท้าไปข้างหน้าหนึ่งเก้าแต่จู่ๆร่างของเรนยะก็ได้หายไปต่อหน้าทุกคนและไปโผล่อยู่ข้างหลังของเมรุมะและตวัดมีดฟันจากล่างขึ้นบน
ชิ้ง !!! ฉูด !!!
เมรุมะที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเรนยะที่มาโผล่ข้างหลังของเขาก็รีบหันมาป้องกันแต่ก็ถูกเรนยะใช้มีดสีดำในมือฟันใส่จนเลือดกระฉูดออกมาท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคนที่อยู่ที่นี่
เพราะเรนยะนั้นเร็วเกินไปเก็กโคผู้คุมสอบก็เลยไม่อาจหยุดเรนยะได้ทัน
เมรุมะได้ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยร่างที่โชคเลือดและลมหายใจที่รวยริน
เก็กโค : “หน่วยแพทย์ !!!”
ชิกามารุ : “ควันสีดำนั่นมันอะไรกันน่ะ”
อาสึมะ : “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ฉันคิดว่านั่นคงจะเป็นมีดจักระ”
โจจิ : “เหมือนของครูอาสึมะเหรอ ?”
อาสึมะ : “ไม่นะมีดจักระของฉันทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก . . ไม่สิฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีคนที่ใช้มีดจักระสะบั้นคาถานินจาทิ้งแบบนั้นได้”
อิโนะ : “เรนยะคุงสุดยอดไปเลยแหะ”
คาคาชิ : “เร็วมาก !!! เร็วพอๆกับโจนินอย่างพวกเราเลย”
ไก : “เอรินะคุงช่วยอธิบายหน่อยสิว่าเรนยะทำแบบนั้นได้ยัง”
ทุกคนที่ดูอยู่ฝั่งเดียวกับเอรินะได้ขอคำอธิบายกับเธอเอรินะทำได้เพียงถอนหายใจก่อนจะตอบออกไปว่า
เอรินะ : “ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นได้ยังไงเพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นแต่ที่ฉันมั่นใจในตัวของเขาเป็นเพราะว่าตอนที่หน่วยที่9ของเราได้รับมอบหมายภารกิจระดับCภารกิจหนึ่ง”
คาคาชิ : “ภารกิจที่ให้ตามหานินจาโคโนฮะที่หายไปที่เมืองซากะซินะ”
เอรินะ : “ใช่แล้วพวกเราตามเบาะแสไปจนรู้ว่าพวกเขาถูกพวกใต้ดินจับตัวเอาไว้แต่ว่าเรนยะเขาได้บุกเข้าไปคนเดียวและได้เจราจายื่นเงื่อนไขหนึ่งในการปล่อยตัวนินจาโคโนฮะที่ถูกจับ”
เอรินะเล่าถึงตรงนี้ก็ได้เงียบไปเพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันช่างตราตรึงตัวของเธอมากจนนารูโตะทนไม่ไหวเลยเร่งให้เอรินะรีบเล่าต่อ
นารูโตะ : “นี่ ! เงื่อนไขอะไรละ”
เอรินะ : ประลองเป็นตายกับนินจาทั้ง10คนในเวลาเดียวกันในสนามประลองใต้ดินไงละ
!!!
คาคาชิ : “บ้าชัดๆทำอะไรบ้าบิ่นเกินไปแล้ว !!!”
เอรินะ : “ตอนแรกที่ฉันรู้เรื่องเพราะพวกนินจาที่เรนยะได้ช่วยเอาไว้ได้มาบอกกับฉันก็ตกใจไม่แพ้กันฉันเลยรีบวิ่งไปช่วยเด็กคนนั้น”
ไก : “แสดงว่าเอรินะคุงได้ไปช่วยเรนยะคุงได้ทันเวลาสินะแหมก็เกะนินแบบเขาถ่วงเวลาไว้ได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้วละนะ”
เอรินะได้ส่ายหน้า
อินามิ : “เอ๋ ไม่ใช่ว่าอาจารย์ไปช่วยเรนยะออกมาได้หรอกเหรอ
เอรินะ : “เมื่อฉันไปถึงที่สนามประลองใต้ดินสิ่งที่ฉันได้เห็นฉันยังแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลยที่กลางสนามประลองนั้นมีเด็กชายผมสีทองสวมหน้ากากกะโหลกสีขาวยืนอยู่ท่ามกลางนินจาทั้งสิบคนที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพิ้นและร่างชุ่มไปด้วยเลือด”
!!!
เอรินะ : “ใช่ . . เขาจัดการฆ่านินจาในสนามประลองใต้ดินที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแล้วได้ด้วยตัวคนเดียวทั้งที่ฝึกกับฉันได้ไม่กี่วัน”
คาคาชิ : “บ้าชัดๆเท่าที่ฉันรู้ในการประลองใต้ดินนินจาที่มีความแข็งแกร่งตำ่สุดก็ระดับจูนินเข้าไปแล้วด้วยซำ้แบบนี้ไม่ใช่ภารกิจระดับCแล้วภารกิจนั้นควรจะเป็นระดับBค่อนไปทางระดับAซะด้วยซำ้ !!!”
ไก : “แบบนี้เราก็ไม่แปลกใจแล้วละในรุ่นเกะนินไม่สิพวกจูนินน่ะแทบจะไม่มีใครต่อกรกับเขาได้เลย อาวุธลับถูกดีดทิ้งส่วนคาถานินจาเขาก็สามารถใช้มีดนั่นสะบั้นให้หายไปได้แบบนี้มันเกือบจะไร้เทียมทานแล้วนะ “
ความจริงที่เรนยะสามารถลบคาถานินจาของศัตรูได้เป็นเพราะว่าโฮกุที่เขาใช้
Knight of Owner / อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่าประเภท : ต่อต้านบุคคล
-เปลี่ยนสิ่งที่ตนจับและคิดว่าเป็นอาวุธให้เป็นสมบัติวีรชนระดับDของตนรวมถึงคาถานินจาต่างๆก็ด้วย
ในจังหวะที่เรนยะโจมตีเข้าใส่คาถานินจานั้นเขาก็ได้ทำการปล่อยควันสีดำที่เป็นโฮกุของเขาแทรกตัวเข้าไปในคาถานินจาของเมรุมะผ่านใบมีดและพอคาถาอยู่ในการควบคุมของโฮกุแล้วนั้นเขาก็ได้ทำการสั่งให้มันหายไปจึงดูเหมือนว่าเรนยะสามารถฟันคาถานินจาได้ด้วยมีดเล็กๆนั้่นเอง
ชินเรน : “เจ้าเมรุมะไอ้ไร้ประโยชน์ทำให้หมู่บ้านเราเสียชื่อหมด !!!“
โอโรจิมารุ : (หึ หึ ชักถูกใจเธอซะแล้วสิเรนยะคุง อยากชำแหละหาความลับนั่นจังเลย) แผล่บ ~(แลบลิ้น)
ปู่รุ่นที่ 3 : (โฮะ โฮะ ทำเอานึกถึงเขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะเลยนะเนี่ยเจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆเรนยะ)
เก็กโค : “อาคุสะ เรนยะ เป็นผู้ชนะ”
เรนยะได้เดินกลับขึ้นมาทางฝั่งของพวกนารูโตะเพื่อดูการประลองต่อแต่เขาก็พบว่าทุกคนมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
เรนยะ : “มีอะไรพวกนายหน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือไง ?”
นารูโตะ : “ป . . ป่าวครับคุณเรนยะ”
เจ้านารูโตะส่ายหน้ารัวจนเรนยะสงสัยว่ามันเป็นอะไร
เรนยะ : “พิลึกคน . .”
พอหน่วยแพทย์ได้หามเจ้าเมรุมะออกไปแล้วเก็กโคก็เริ่มสุ่มรายชื่อต่อโดยคราวนี้กาอาระได้ลงมารอก่อนที่หน้าจอจะแสดงชื่อเสียอีก
รอบที่สิบ
ร็อคลี vs ซาบาคุโนะ กาอาระ
รอบนี้ถือว่าสุดยอดเรนยะได้ลองใช้เนตรพันลี้กับตาแห่งดวงจิตลองจับการเคลื่อนไหวของร็อคลีดูก็ปรากฏว่าเขายังมองตามได้ทันอยู่
การต่อสู้ได้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของร็อคลีและพอหน่วยแพทย์มาดูอาการก็บอกว่าอาการหนักเกินไปอาจจะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนินจาได้อีกแล้วทำให้ไกรู้สึกเสียใจมากจนคาคาชิต้องช่วยเรียกสติเพราะการประลองยังไม่จบ
รอบที่สิบเอ็ด
ซาโต้ อินามิ vs ยาโตะ ชินเรน
เรนยะ : “นี่เธอสู้ไหวแน่นะ ?”
อินามิ : “อย่ามาดูถูกกันนะ คอยดูไปเถอะ”
อินามิได้กลายเป็นผีเสื้อแล้วไปโผล่ที่ลานประลอง
ตูม !!!
ส่วนชินเรนก็กระโดดลงมาที่ลานประลองจนพื้นแตกออกมาเลย
เอรินะ : “จากที่ดูเจ้าชินเรนนั่นคงจะเป็นนินจาสายต่อสู้แน่ๆ”
จู่หนูเงียบก็ได้บอกอะไรบางอย่างกับเรนยะผ่านตราเรย์จู
หนูเงียบ : Master . . ผู้ชายคนนั้นมีอะไรบางอย่างที่คล้ายๆกับผู้หญิงในคุกใต้ดินคนนั้น . . ไม่สิ . .ดูพิเศษกว่าด้วยซำ้ค่ะ
!!!
เรนยะ : (เหมือนกับผู้หญิงคนนั้น ยูกิ คานะ ก็หมายความว่า !!! เป็นผู้มีขีดจำกัดสายเลือด !!!)
เรนยะถึงกับเหงื่อตกเพราะเพื่อนสาวอินามิของเขาคงต้องเจอศึกหนักแน่ๆ
เก็กโค : “เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วก็เริ่มได้”
ฟุ่บ !!!
อินามิได้เริ่มผสานอินใช้คาถาและหายไปจากสายตาของทุกคนทันทีแต่เรนยะยังคงสามารถมองเห็นตัวของอินามิได้เหมือนเดิมเพราะคาถาลวงตาใช้กับตัวเขาไม่ได้
ชินเรนที่เห็นว่าเด็กผู้หญิงตรงหน้าได้หายตัวไปก็รู้สึกหัวเสียนิดหน่อย
ชินเรน : “เชอะ ! พวกคาถาลวงตาเรอะ เกียจเป็นบ้า”
ระหว่างที่ชินเรนกำลังหัวเสียอยู่นั้นอินามิก็ได้ปรากฎตัวขึ้นจากด้านหลังของชินเรนแต่ดูเหมือนชินเรนจะรู้ตัวเลยเหวี่ยงหลังมือโจมตีใส่ตัวของอินามิแต่ปรากฎว่าอินามิที่ถูกโจมตีนั้นกลับกลายเป็นผีเสื้อบินให้ว่อนบัดบังวิสัยทัศน์ของชินเรนจนเขารู้สึกรำคาญ
อินามิได้ใช้จังหวะนั้นชักดาบออกมาฟันใส่ชินเรนที่ลำตัว
ในขณะที่ทุกคนคิดว่ารู้ผลแล้วนั้นภาพต่อมามันกลับทำให้พวกเขาตกใจมากเพราะดาบที่ควรเฉือนเข้าไปในเนื้อของชินเรนกลับแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
เพล้ง !!!
เอรินะ : “อะไรน่ะ !!!”
นารูโตะ : “ร่างของหมอนั่นทำจากเหล็กหรือยังไงกัน !!!”
ด้านอินามิที่ตกใจที่ดาบของตนที่ฟันใส่ชายตรงหน้ากลับแตกเป็นชิ้นๆนั้นไม่ทันได้ระวังตัวจึงได้ถูกชินเรนต่อยเข้าไปที่สีข้างของเธอจนกระเด็นออกไป
อัก !!! แค่ก !!!
อินามิที่โดนหมัดนั่นเข้าไปถึงกับกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียวอินามิที่คิดจะขยับก็พบว่าตัวเธอขยับไม่ได้ชินเรนที่เห็นแบบนั้นจึงได้รวมจักระเอาไว้ที่มือขวาของตนชินเรนได้ยกตัวของอินามิขึ้นมาด้วยมือซ้ายและตบฝ่ามือที่ตนได้รวมจักระเอาไว้เข้าใส่กลางลำตัวของอินามิจนเธอล่วงลงไปกับพื้นแน่นิ่งไป
ชินเรนเตรียมที่จะจัดการอินามิซำ้นั้นก็ได้รวมจักระเอาไว้ที่มืออีกครั้งและได้ตบลงไปที่ตัวอินามิที่กำลังไม่ได้สติ
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วบวกกับความตกใจจนกรรมการและเหล่าโจนินไม่ทันได้เข้าไปห้าม
ในจังหวะที่ฝ่ามือของชินเรนกำลังจะถึงตัวของอินามินั้นจู่ๆก็มีมีดสีดำมาป้องกันการโจมตีนี้เอาไว้
ปัง !!!
อึก !!!
เรนยะ : (หนักอะไรแบบนี้ !!!)
เรนยะที่มากันการโจมตีนี้เอาไว้ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าวเลยทีเดียว
แฮ่ก แฮ่ก !!!
เรนยะได้หอบหายใจออกมาและมองดูที่มีดเขี้ยวราชันย์ในมือก็พบว่ามีรอยร้าวเกิดขึ้นเขาจึงได้ลองตรวจสอบดู
อาวุธระดับ 2ดาว (ชำรุด)
มีดเขี้ยวราชันย์อสรพิษสีรุ้ง (ชำรุด)
-ไม่สามารถแสดงผลความสามารถได้
เรนยะ : “ชิ !!!” (ขนาดทำให้มีดเป็นโฮกุระดับDแล้วยังถึงกับมีรอยร้าวเลยเหรอเนี่ย !!!)
นารูโตะ : “เรนยะ !!!”
เอรินะได้รีบเข้ามาดูอาการของอินามิด้วยเนตรสีขาว
!!!
เอรินะ : (เจ้านั้นปล่อยจักระคุณสมบัติธาตุไฟและหยางเข้าใส่ทำลายเส้นชีพจรจักระของอินามิแบบนี้แย่แน่ !!!)
เรนยะ : “เกิดอะไรขึ้นครับอาจารย์ !”
เอรินะ : “จักระหยางกับไฟกำลังทำลายเส้นชีพจรของเธอฉันหยุดมันไม่ได้ !”
เรนยะที่เห็นแบบนั้นจึงได้ใช้มือทาบลงที่บริเวณกลางลำตัวของอินามิและเปิดใช้งานโฮกุของเขาเพื่อควบคุมจักระธาตุหยางและจักระไฟแทรกซึมอยู่ในตัวของอินามิ
หน่วยแพทย์ที่กำลังมาหามตัวผู้บาดเจ็บและทุกคนที่สงสัยว่าเรนยะจะทำอะไรจู่ๆควันสีดำก็เริ่มออกมาจากมือของเรนยะและเริ่มแทรกซึมเข้าไปในตัวอินามิ
ด้วยเนตรสีขาวของเอรินะทำให้เธอมองเห็นอย่างชัดเจนว่าควันสีดำของเรนยะนักเรียนของเธอกำลังครอบคลุมจักระธาตุหยางและไฟที่กำลังเข้าไปปั่นป่วนอยู่ในตัวของอินามิ
เอรินะ : “เธอจะทำอะไรเรนยะ !”
เรนยะ : “อีกนิดเดียวครับ”
โฮกุของเรนยะได้เริ่มเปลี่ยนจักระธาตุหยางและไฟให้เป็นของเขาและเมื่อเรนยะควบคุมพวกมันได้แล้วเรนยะก็สั่งให้มันหายไป
เอรินะ : “หายไปแล้ว !!!”
เอรินะได้มองนักเรียนของเธอด้วยความซับซ้อนแต่ก็ได้ปล่อยวางข้อสงสัยเอาไว้ก่อนเพราะอาการของอินามิสำคัญกว่าแต่เมื่อเธอได้มองดูอินามิด้วยเนตรสีขาวดีๆแล้วนั้นเธอถึงกับหน้าถอดสี
พวกหน่วยแพทย์ก็ได้เข้ามาดูอาการของอินามิและพอตรวจดูแล้วก็ได้บอกกับเอรินะด้วยความเสียใจ
หน่วยแพทย์ : “เสียใจด้วยนะครับเส้นจักระของเธอได้รับความเสียหายมากเกินไปเธอคงจะเป็นนินจาอีกไม่ได้แล้วละครับ”
เมื่อเส้นจักระเสียหายหนักต่อให้เป็นนินจาที่เก่งกาจสักแค่ไหนก็จะทำให้ไม่สามารถใช้จักระได้อีกต่อไปแทบไม่ต่างจากคนธรรมดาและการรักษานั้นต่อให้เป็นหมอเทวดามาจากไหนก็ช่วยไม่ได้ทั้งนั้น
นารูโตะ : “อ . . อะไรกัน หน๊อย ~ แก !!!”
ชินเรน : “เหอะยัยสวะนั่นมันอ่อนแอและคนอ่อนแอไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่”
นารูโตะ : “ว่าไงนะ !!!”
นารูโตะที่เห็นว่าอีกฝ่ายทำเกินไปก็ได้เตรียมที่จะจัดการกับชินเรนแต่ก็ถูกเรนยะจับไหล่ห้ามเอาไว้
นารูโตะ : “เรนยะ ปล่อยฉันนะไอ้คนพรรค์นี้ฉันจะซัดมันให้แหลกเลย !!!”
เรนยะ : นารูโตะ !!!
!!!
นารูโตะที่ถูกเรนยะตะโกนใส่ก็เลยยอมหยุดด้วยความเจ็บใจแต่ทุกคนก็ตกใจกับคำพูดต่อมาของเรนยะ
เรนยะ : “เจ้านั่นมันเป็นเหยื่อของฉัน”
เรนยะได้เผลอปล่อยจิตสังหารออกมาจนขนาดพวกโจนินอย่างคาคาชิยังรู้สึกหวั่นเกรง
ชินเรน : “เหอะ !!! ฉันเนี่ยนะเหยื่อของแกมีดของแกยังฟันฉันไม่เข้าเลยด้วยซำ้จะบอกให้เอาบุญตระกูลยาโตะของฉันเป็นผู้มีขีดจำกัดสายเลือดคัดสรรแห่งหมู่บ้านทากิด้วยคุณสมบัติธาตุดินกับไฟและหยางที่เข้มข้นกว่าคนทั่วไปทำให้ร่างกายของพวกเรามีความทนทานมากเป็นพิเศษและวิชานินจาของตระกูลเรายังมีการปล่อยจักระออกมาจากตัวและสร้างเป็นม่านพลังเคลือบเป็นเกราะทั่วร่างกายได้ทุกส่วนขนาดคาถานินจาระดับAยังไม่ระคายผิวเลยด้วยซำ้อาวุธกิ้กก๊อกของแกฟันฉันไม่เข้าหรอก !!!”
!!!
ปู่รุ่นที่ 3 : (หมู่บ้านทากิถึงขนาดมีนินจาสายเลือดคัดสรรซ่อนเอาไว้เชียวรึเนี่ย)
โอโรจิมารุ : (เจ้าทากินั้นก็น่าสนใจนิดหน่อยละนะ หึ หึ ถึงอยากจะฝากอักขระไว้ให้กับเรนยคุงกับเจ้านั่นแต่ตอนนี้ฉันมีแผนการที่ต้องเตรียมตัวก่อน น่าเสียดายจริงๆ หึ หึ)
โดยไม่มีใครรู้ตัวโอโรจิมารุที่ปลอมตัวได้แอบหลบออกไปจากที่นี่เสียแล้ว
บรรยากาศในลานประลองเริ่มดุเดือดเพราะทุกคนไม่คาดว่าจะมีผู้เข้าสอบที่ร้ายกาจแบบนี้อยู่อีก
เรนยะ : “หึ ! จะฟันแกเข้าหรือไม่ฉันจะเป็นผู้ตัดสินเองแกไม่ต้องมายุ่งหรอก . . .ไปกันได้แล้วนารูโตะการประลองคัดตัวยังไม่จบ”
ถึงเรนยะจะตกใจที่อีกฝ่ายเป็นสายเลือดคัดสรรที่ร้ายกาจแต่ตัวเขายังมีระบบอยู่กว่าจะถึงการประลองเขาคงจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าตอนนี้เป็นแน่
เมื่อหน่วยแพทย์ได้หามผู้บาดเจ็บไปแล้วทุกคนก็ขึ้นมาชมการประลองต่อโดยคู่สุดท้ายคือ
รอบที่สิบสองรอบสุดท้าย
โดซึ คินุตะ vs อาคิมิจิ โจจิ
คู่นี้เรนยะไม่ได้สนใจอะไรเพราะคงจะไม่ต่างจากที่เขารู้เรนยะเลยได้เรียกใช้งานระบบในใจ
เรนยะ : “ระบบย่อยมีดเขี้ยวราชันย์อสรพิษสีรุ้งซะ”
ระบบ : “รับทราบ . . ท่านได้รับ”
การ์ดExpระดับ 2 ดาว(สีส้ม)
Torch of Wisdom x 1
เรนยะ : “ชิ ! เพราะชำรุดจากมีด4ดาวเลยเหลือแค่2ดาวเองเหรอเนี่ย . . ระบบใช้สิทธิ์การสุ่มประจำวัน6ครั้ง”
ระบบ : “รับทราบท่านเรนยะ”
การ์ดที่เรนยะได้รับมีดังนี้
การ์ดExpระดับ 4 ดาว
Roaring Flames of Wisdom x 4
การ์ดสกิลระดับ 4 ดาว(สีทอง)
Divinity B / ความเป็นเทพ ระดับ B
-ความเป็นเทพจะทำให้ ความเสียหายที่ตนโดนโจมตีลดลงทั้งยังป้องกันการโจมตีจากคาถาลวงตาทั้งหมดและการโจมตีของตัวเองจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปกติ
การ์ดสกิลระดับ 5 ดาว(สีทอง)
Charisma A / ความน่านับถือ ระดับ A
-สามารถพูดปลุกใจเหล่าผู้คนและทำให้เป็นที่น่านับถือและถ้าพูดให้กำลังใจผู้คนที่กำลังตกอยู่ในคาถาลวงตาจะทำให้หลุดจากคาถาลวงตาได้
เรนยะได้ทำการสั่งให้ระบบทำการติดตั้งการ์ดสกิลที่ได้มาและได้เปิดดูค่าสถานะของเขา
ชื่อ อาคุสะ เรนยะ
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์ครึ่งเทพสายเลือดเข้มข้น
STR พละกำลัง : D+
DFFความแข็งแกร่ง : D++
AGIความว่องไว : D++ (สวมแหวน+1ระดับอยู่)
MAGจักระ : B++
LUCโชค : C+
NP : Knight of Owner / อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่าประเภท : ต่อต้านบุคคล
ระดับ : A++
-ความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งของที่ตนจับให้กลายเป็นสมบัติวีรชน ซึ่งสิ่งของที่ถูกจับนั้นจะมีระดับเท่ากับสมบัติวีรชนระดับ D และเมื่อจับอาวุธจะได้รับความสามารถในการใช้อาวุธชิ้นนั้นอย่างชำนาญ สิ่งที่จับจะกลายเป็นสีดำและแม้ว่าจะปล่อยมือจากสิ่งที่จับไปแล้ว มันก็จะยังคงเป็นของตนอยู่ระยะเวลาหนึ่งรวมทั้งคาถานินจาด้วย
สกิล
Independent Action A(Max) / ความเป็นอิสระระดับ A(สูงสุด)
-ทำให้สามารถลดการใช้จักระได้ครึ่งหนึ่งและทำให้จักระฟื้นฟูเร็วมาก
Golden Rule A(Max) / กฎแห่งทองคำ ระดับ A(สูงสุด)
-เกิดมาเพื่อเป็นเศรษฐี ปัญหาเรื่องเงินไม่มีทางเกิดขึ้น
Eye of the Mind(True) B /ตาแห่งดวงจิต(แท้) ระดับ B
-ทำให้อ่านการเคลื่อนไหวล่วงหน้าของศัตรูได้และถ้าใช้จักระร่วมกับสกิลนี้จะสามารถมองทะลุภาพลวงตาได้
Clairvoyance B / เนตรพันลี้ ระดับ B
-สามารถมองเห็นเป้าหมายในระยะไกลหรือสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆได้ สามารถเห็นที่ซ่อนตัวของศัตรูได้และมองเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ 1 นาที (เฉพาะในการต่อสู้)
Hawk Eye B+ / ตาเหยี่ยว ระดับ B+
-สามารถมองศัตรูจากมุมมองด้านบนเหมือนเหยี่ยวได้ใช้คู่กับ สกิลเนตรพันลี้ หรือ ตาแห่งดวงจิต ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสกิล
Territory of concealment A+(max) / อาณาเขต แห่ง การปกปิด ระดับ A+(สูงสุด)
-ทำให้ตนเองและ Servant ได้รับสกิล Presence Concealment A+(Max) / การปกปิดตัวตน ระดับ A+(สูงสุด) ทำให้สามารถลบตัวตนออกไปอย่างสมบูรณ์ทั้งกลิ่นอายและจิตสังหารแต่ถ้าเริ่มโจมตีเมื่อไหร่สกิลนี้จะถูกยกเลิกทันที
Protection from Arrow A(Max) / การป้องกันจากลูกศร ระดับ A(สูงสุด)
-ป้องกันการโจมตีจากอาวุธระยะไกลทุกชนิดได้ (เฉพาะอาวุธ)
Divinity B>>A / ความเป็นเทพ ระดับ B>>A
-ความเป็นเทพจะทำให้ ความเสียหายที่ตนโดนโจมตีลดลงครึ่งเดียวทั้งยังป้องกันการโจมตีจากคาถาลวงตาทั้งหมดและการโจมตีของตัวเองจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปกติ
Instinct A(Max) / สัญชาตญาณ ระดับ A(สูงสุด)
-สามารถรับรู้อันตรายได้ล่วงหน้าถึงแม้ว่าการรับรู้อย่างการมองเห็นหรือการได้ยินจะถูกรบกวน
Charisma A / ความน่านับถือ ระดับ A
-สามารถพูดปลุกใจเหล่าผู้คนและทำให้เป็นที่น่านับถือและถ้าพูดให้กำลังใจผู้คนที่กำลังตกอยู่ในคาถาลวงตาจะทำให้หลุดจากคาถาลวงตาได้
หลังจากที่ดูค่าสถานะเรียบร้อยแล้วเรนยะกำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับการ์ดExpทั้ง4ชิ้นนี้ดีแต่การประลองรอบสุดท้ายก็ได้จบลงพอดีทำให้เรนยะตัดสินใจเก็บมันเอาไว้ก่อน
เก็กโค : “เอาละขอประกาศว่าการสอบรอบที่สามได้จบลงแล้ว”
ทุกคนรวมถึงเรนยะได้ลงมาเข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง
ปู่รุ่นที่ 3 : (ในที่สุดก็ได้ผู้ที่เหมาะสมที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปเสียที)“งั้นฉันจะเริ่มอธิบายการสอบในรอบจริงละนะ”
----------- -------------
ในอีกด้านหนึ่งในสถานที่เงียบสงบของโคโนฮะ
โอโรจิมารุได้มารับข้อมูลที่คาบูโตะไปสืบมาและได้พูดคุยกันนิดหน่อย
โอโรจิมารุ : “หึ หึ ถ้าอย่างนั้นก็ฝากเธอด้วยแล้วกันนะคาบูโตะ”
คาบูโตะ : “ครับ”
หลังจากคาบูโตะไปแล้วโอโรจิมารุก็กำลังบ่นพึมพำกับตัวเองคนเดียว
โอโรจิมารุ : “ถ้าข้อมูลที่คาบูโตะให้มาเป็นเรื่องจริงมันก็น่าแปลก หึ หึ รอบจริงช่วยทำให้ฉันประทับใจในตัวเธอมากกว่านี้หน่อยแล้วกันนะ อาคุสะ เรนยะ หึ หึ”
True Wallet 0830743639
ค่าซูกัสกระตุ้นสมอง ขอขอบคุณผู้สนับสนุนและผู้ติดตามด้วยครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น