กฏในการเอาชีวิตรอด - นิยาย กฏในการเอาชีวิตรอด : Dek-D.com - Writer
×

    กฏในการเอาชีวิตรอด

    กฏนี่เป็นการตั้งขึ้นโดยเหตุการณ์สมมติและเอาเรื่องจริงบางส่วนผสมปนเปกัน เพื่อให้ผู้อ่านได้อรรถรส

    ผู้เข้าชมรวม

    828

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    32

    ผู้เข้าชมรวม


    828

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  อื่นๆ
    จำนวนตอน :  22 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ค. 67 / 12:58 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                  กฏการเอาตัวรอดจากเสียงเรียกยามดึก

    สวัสดีครับผมชื่อทศเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเมื่อไม่นานมานี้และผมจะจำมันจนวันตายเลยครับ เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งที่ผมไปเที่ยวสงกรานต์กับเพื่อนๆในวันแรกนั้นผมยังไม่ได้เล่นน้ำนะครับเพราะต้องเดินทางไปแถวๆบ้านเพื่อนทางภาคเหนือในคืนแรกผมไปถึงบ้านเพื่อนผมเหนื่อยมากกับการขับรถ ผมจึงบอกเพื่อนให้ไปเล่นน้ำกันก่อนเลยจากนั้นผมจึงเอาเวลานั้นงีบสักพักที่รถของผม ผมเป็นคนชอบนอนในรถและเปิดแอร์นะครับ ตัวรถนั้นอยู่นอกบ้านเพราะในบ้านพื้นที่ไม่พอ และผมไม่อยากไปนอนในห้องเพื่อนด้วย มันร้อนไม่มีแอร์ หลังจากนัน้สักพักผมก็ผลอยหลับไปอยู่ๆมีเสียงเรียกผม( เห้ย เห้ย ตื่น เห้ย) แต่ตอนนั้นผมไม่สนใจนึกว่าเพื่อนมาป่วน จึงตะแคงตัวนอนต่อ สักพักผมรู้สึกตัวอีกทีเหมือนมีคนมาสะกิด ตื่นขึ้นมาก็เจอกลุ่มเพื่อนผมกลับมาเมาแอ๋ชวนกกินเหล้า ผมจึงตอบปฏิเสธไป จากนั้นผสจึงถามเพื่อนว่ามะกี้มาเรียกรึเปล่า เพื่อนก็ปฏิเสธกันหมดทุกคนเลย บอกว่าพึ่งกลับมากัน ผมไม่ได้ติดใจอะไรจากนั้นผมก็หลับต่อ คราวนี้ก็เหมือนเดิม มีคนมากระซิบชื่อผม ทศ ทศ ตื่น ทศ ผมก็ตอบไปครับๆกำลังไปเท่านั้นแหละครับ เสียงทุกอย่างเงียบหมด ผมรู้สึกแปลกๆบวกดับหายง่วงพอดี จึงลุกขึ้นมาเจอว่าไฟปิดหมดแลเวเพื่อนผมทั้งกลุ่มขึ้นบ้านนอน มีแต่ผมที่นอนในรถนอกตัวบ้านคนเดียว จากนั้นผมจึงลงจากรถแล้วขึ้นไปที่บ้านเพื่อนปรากฏว่าไม่มีเพื่อนผมอยู่ผมจึงจะเปิดประตูเข้าไปในตัวบ้าน กลับเป็นว่าตัวบ้านกลับล็อค ผมใช้เวลาตะโกนสักพักก็ไม่มีใครตอบผมจึงกลับมาที่รถแลเวพบว่าในรถมีกระดาษเก่าๆใบหนึ่งเขียนด้วยตัวลายมือ บอกว่ากฏการเอาตัวรอดจากเสียงเรียกยามดึก ผมไม่ได้ดชื่ออะไรแต่ก็ไม่มีอะไรทำวังเวงจึงลองอ่านดู กฏข้อที่1หากท่านเป็นคนต่างถิ่นที่มาเที่ยว ณ ที่แห่งนี้จงอ่านกฏข้อต่อไป หากเป็นคนในถิ่นอยู่แล้วให้หลับตานอนต่อไปในทีๆคิดว่าปลอดภัยห้ามลืมตาจนกว่าจะเช้า

    กฏข้อที่2ที่แห่งนีเป็นมิติทับซ้อน หากท่านไม่สามารถกลับไปก่อนรุ่งสางได้ ท่านจะกลายเป็นวิญญาณ ณ ที่แห่งนี้

    กฏข้อที่3ท่านห้ามออกจากพื้นที่แห่งนี้ หรือพื้นที่ๆท่านเข้ามาไกลเกินระยะสายตนท่านเด็ดขาดไม่อย่างนั้นท่านจะหลงทางจนไม่สามารถกลับได้

    กฏข้อที่4 ท่านจงหลีกเลี่ยงที่มืดให้มากที่สุดเพราะที่เหล่านั้นล้วนมีเจ้าของ

    ผมอ่านมาถึงตรงนี้ผมชะงักแล้วจึงคิดว่าเป็นไปได้ด้วยหรอ แต่สักพักมีเสียงกระแทกประตูจากตัวบ้าน เสียงเหมือนคนทุบประตูอย่างแรง3-4ครั้ง จากนั้นผมจึงตะโกนชื่อเพื่อนออกไป สักพักประตูก็ไม่มีเสัยงใดๆออกมา แต่กลับมีเสียงบางอย่างยืนมองผมจากหน้าต่างในตัวบ้าน สายตานั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงเครลาะกระจกหน้าต่างและประตูจากนั้นผมจึงเข้าไปในตัวรถปิดและล็อครถ แล้วจึงนั่งอ่านกฏต่อ

    กฏข้อที่5 พยายามทำเสียงของท่านให้เบาที่สุดเพราะบางอย่างในนี้อาจสัมผัสได้ว่าท่านไม่ใช่คนของที่นี่

    กฏข้อที6 จะมีบางอย่างผ่านไปผ่านมาจากที่ๆท่านมาแต่ท่านไม่ต้องตกใจไป เพราะสิ่งนั้นเปรียบเสมือนคนทั่วไปตามท้องตลาดท่านแค่อยู่ให้กลมกลืนกับพวกเขา หากพวกเขาพยายามเข้ามาพื้นที่ของท่าน ท่านจงจ้องมองพวกเขาเดี๋ยวพวกเขาก็จะไปเอง ห้ามปบ่อยให้พวกเขาอยู่วนพื้นที่ท่านนานเนื่องจากท่านไม่ใช่คนในพื้นที่

    กฏข้อที่7 หากท่านปล่อยให้พวกเขาเข้าพื้นที่ท่านโดยท่านไม่ทำอะไรเลย เมื่อนั้นท่านจะไม่มีพื้นที่ให้กลับอีกต่อไปเพราะพวกเขาเหล่านั้นจะกลับไปแทนท่าน

    ขณะที่ผมกำละงจะอ่านกฏข้อสุดท้ายอยู่ๆก็มีเสียงมาก เหมือนคนกระทืบดินข้างผม ผมจึงชะเง้อมองเห็นเป็นเท้าขนาดใหญ่ ผมมองไม่เห็นตัวมัน ผมเห็นว่าไม่ดีแล้วจึงรีบอ่านข้อสุดท้าย

    กฏข้อที่8 หากมีบางอย่างขนาดใหญ่โตจ้องมองมาที่ท่าน ท่านจงอย่ามองกลับ ห้ามสบตาเด็ดขาด เขาจะจำท่านได้ว่าที่ไม่ใช่คนพื้นที่ จากนั้นมันจะพังที่ๆท่านอยู่ ท่านจงเมินเฉยต่อมันแต่ห้ามตอบโต้มันกลับเดี๋ยวมันจะไปเอง ท่านรอไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีเสียงสวด ให้ท่านรีบออกจากพื้นที่ท่านแล้วไปหาเสียงสวดทันที จากนั้นท่านจะตื่นจากที่นี่เอง 

    เจ้าใหญ่นั้นมันไม่ได้มองมาทางผมทันที มันมองไปทางเสียงเคาะในบ้านจากนั้นพวกสายตาในบ้านจึงค่อยๆหายไป จากนั้นเจ้าตัวใหญ่ก็หันมาทางผม ผมจึงทำเป็นมองกระดาษที่ผมถือ มันไม่ได้สงสัยอะไรแล้วอยู่ๆผมก็รู้สึกว่ามีบางอย่างนั่งใกล้ๆผม ผมจึงหันไปดูพบว่าเป็นลูกหมานั่งอยู่เบาะข้างๆ ผมจึจ้องมันแต่มันไม่หนีแล้วจ้องกลับผม สักพักเหมือนมันจะยอมแพ้แล้วลงไปจากรถผมโดดที่มันทะลุออกหน้าต่างได้ ตอนนั้นผมตกใจมากแต่กลับไม่สามารถส่งเสียงใดๆได้เลย อยู่ๆก็มีมือขนาดใหญ่มาจับลูกหมาตัวนั้นเสียงร้องหมาดังสนั่น สายตาในบ้านกลับมาอีกครั้ง แต่พงกมันไม่ได้จ้องมาที่ผม หลับจ้องไปที่บางอย่างที่กำลังถูกกิน ตอนนั้นหมดไม่มีคำพูดใดๆออกมาสักพักมีเสียงเหมือนพระสวด ในขณะที่เจ้าตัวใหญ่กำลังวุ่นกับกิจของมัน ผมจึงรีบวิ่งตรงไปที่เสียงสวด กลับเจอพระกลุ่มหนึ่ง ผมจึงบอกว่าช่วยด้วยครับ ผมไม่ใช่คนในพื้นที่พระจึงบอกผมว่า ตามมาสิ จากนั้นผมจึงตามไป ทางที่ผมไปมีแต่แสงสว่างจนผมรู้สึกตัวอีกทีคือ6โมงเช้าของวันที่14 ผมจึงลงจากรถแล้วออกไปเจอเพื่อนนอนเมาอยู่ข้างล่างบ้าน บนบ้านไม่ได้ล็อค และก็ไม่มีดวงตาใดๆในบ้านแต่เจอยายของเพื่อนผมกำลังทำกับข้าว เขาถามผมว่าหนุ่มไปไหนมาหรอ ผมตอบว่าผมไม่ได้ฉลองกับเพื่อนครับผมหลับในรถ ยายบอกว่าแปลกทำไมยายไม่สังเกตุเลย ผมจึงเล่าเหตุการณ์นี้ให้ยายฟัง ยายตอบกลับมาดีแล้วที่เอ็งรอดมาได้ จากนั้นผมจึงรีบกลับบ้าน โดยบอกยายเพื่อนให้ฝากบอกเพื่อนทีว่าผมมีธุระ เรื่องที่ผมเล่ามาก็ประมาณนี้แหละครับ อ๋อสำหรับคนที่สงสัยว่า หากเป็นคนในถิ่นทำไมหลับได้ แล้วจะรอดหรอหากว่ามีบางอย่างเข้าพื้นที่หรือไม่ได้ตื่นไปหาพระ เพื่อนผมได้โทรมาหาผมแล้วบอกว่ารู้เรื่องขากยายแล้ว ยายเล่าว่าหากเป็นคนในพื้นที่ เมื่อถึงเวลาพระสวดจะมีวิญญาณบรรพบุรุษออกมาตามลูกหลานคนในพื้นที่กลับไปเอง ก็จบเท่านี้แหละครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น