Fic TempG
Title : We belong together
Paring : Choi Seunghyun X Kwon Jiyong
Fandom : Bigbang
Rate : NC 15
Genre : Romantic, Drama
.
.
.
.
.
.
.
คนเราจะรักกันได้นานแค่ไหน??
จนตาย???
หรือ
ตลอดไป???
.
.
.
.
.
“เก็บเอาคำแก้ตัวของนายไปบอกผู้หญิงอีกคนเถอะ” มือบางสะบัดการเกาะกุมของอีกฝ่าย “ชั้นเบื่อแล้วนะซึงฮยอน เบื่อที่ต้องมาเหนื่อยอย่างนี้แล้ว พอเถอะนะ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะจียง” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างอ้อนวอนคนตรงหน้า “ได้โปรดนะเถอนะจียง ฟังชั้นหน่อยนะ”
มือหนาเอื้อมไปดึงมือบางทั้งสองข้างขึ้นมากอบกุม ใบหน้าคมคายเว้าวอนจนอีกคนเกือบจะใจอ่อน หากแต่เมื่อนึกถึงความผิดของอีกคนได้ ความบึ้งตึงก็เข้ามาแทนที่ทันที ใบหน้าที่ติดจะหวานเกินผู้ชายของจียงแสดงความบึ้งตึงออกมาอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนไม่แม้แต่จะมองคนตรงหน้า
“ได้โปรดนะจียง มันไม่มีอะไรจริงๆ” ซึงฮยอนประทับริมฝีปากลงไปกลางมือบางของอีกฝ่าย “เชื่อชั้นนะ”
“ชั้นเชื่อนายมากี่รอบแล้ว ชเวซึงฮยอน!!!” จียงสะบัดมืออกอย่างไม่ไยดี สีหน้าและแววตาของจียงทำให้ซึงฮยอนรู้สึกกลัว
ได้โปรดนะ จียง....อย่าทิ้งชั้นไป
“ชั้นเจ็บมาพอแล้วซึงฮยอน”
จียงจ้องมองอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังเดินจากไป ชั้นเข็ดกับนายแล้ว ชเวซึงฮยอน จียงได้แต่คิดในใจอย่างปวดร้าว น้ำใสๆไหลรินออกมาจากดวงตาโดยปราศจากเสียงสะอื้น
ซึงฮยอนได้แต่มองดูอีกฝ่ายเดินจากไปอย่างช้าๆ ร่างบางที่เขาสัญญาว่าจะปกป้องดูแล บัดนี้กลับเป็นตัวเขาเองที่ทำร้ายคนที่เขารักให้ต้องเจ็บปวด ดวงตาคู่สวยทอดมองจียงที่กำลังก้าวขาลงไปในถนนอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก
“ไม่ จียง จียง!!!!!”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดด
โครมมมมม!!!
เสียงแรกที่จียงได้ยินคือเสียงล้อรถบดกับพื้นถนน ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงผลักกระแทก และเสียงสุดท้ายที่มันเหมือนกระชากหัวใจของเขาไป ณ วินาทีนั้นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับภาพยนตร์ที่เขาเคยดูก่อนหน้านี้ แสงสว่างจ้าจากไฟหน้าของรถยนต์และเสียงโครงเหล็กที่ปะทะเข้ากับตัวคนมันทำให้เขาแทบคลั่ง แขนบางค่อยๆหยัดกายตนขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ภาพตรงหน้า
.
.
.
ทำไม!!!
ทำไมซึงฮยอน!!!
นายช่วยชั้นทำไม!!!
.
.
.
ขาเรียวสวยก้าวไปหาคนรักที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน แรงปะทะอย่างรุนแรงเมื่อครู่ส่งผลให้ซึงฮยอนกระเด็นห่างจากจุดเดิมถึงสิบเมตร จียงค่อยๆทรุดตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะดึงร่างสูงให้นอนบนตักของตน มือสั่นระริกยามยกมันขึ้นลูบใบหน้าคมคายที่เขาหลงใหล นิ้วเรียวยกขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลออกมาตามมุมปากอย่างเบามือ ใบหน้าสวยก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากยักเบาๆ
“อ...อย่า...อึก...โกรธ...ช...ชั้น...อ่อก...นะ...” ซึงฮยอนพยายามอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสอีก “ชั้น...ข...ขอ...โทษ....”
จียงส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เขารู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป คนรอบข้างเริ่มโหวกเหวกโวยวาย จียงใช้มือลูบไล้ใบหน้าของอีกฝ่าย ดวงตาสีนิลของซึงฮยอนยังคงทอประกายแห่งความรักเสมอยามที่ทอดมองเขา
“ชั้นรักนายนะ ซึงฮยอน”
คำบอกรักของจียงมาพร้อมกับรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของซึงฮยอน มือที่วางอยู่ข้างตัวตกลง ศีรษะได้รูปสวยเอนซบจียง ดวงตาที่ครั้งนึงเป็นประกายน่าหลงใหลบัดนี้ถูกแทนที่ด้วยเปลือกตาหนา และคงไม่มีวันที่จะเปิดขึ้นมาอีก
รอยยิ้มจางๆครั้งสุดท้ายยังคงประดับอยู่ที่ใบหน้า
รอยยิ้มที่มอบให้แด่...คนที่เขารักที่สุด
ซึงฮยอนจากไปแล้ว.....
จียงรู้ว่าซึงฮยอนจากไปแล้ว ไปในที่ๆไกลแสนไกลซึ่งตอนนี้เขายังตามไปไม่ได้ หัวใจของเขาเหมือนถูกกระชากออกมาอย่างรุนแรง จียงก้มลงไปจูบคนตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย กระซิบชิดริมฝีปากที่เขารู้ว่าคนรักคงไม่มีโอกาสได้ยิน
“แล้วชั้นจะตามไป...”
.
.
.
.
.
ไม่มีน้ำตา..
ไม่มีอาการโศกเศร้าใดๆปรากฏให้เห็น...
ไม่มีอาการฟูมฟายอย่างที่ใครๆคิดไว้....
แต่เพื่อนสนิทอย่างเขารู้ดี....
ว่าจียงตายไปแล้ว....
ตายไปพร้อมกับซึงฮยอน.....
ยงเบได้แต่ยืนมองเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ วันที่ซึงฮยอนโดนรถชนพอเขาไปถึงที่โรงพยาบาลก็เจอแต่จียงที่ตัวเปื้อนเลือด สีหน้านิ่งสนิท นิ่งจนหน้าใจหาย หลังจากวันนั้นจียงแทบจะไม่พูดคุยกับใคร เขารู้ดีว่าในใจของจียงนั้นเจ็บปวดแค่ไหน แต่เขาเป็นได้แค่คนนอก เรื่องนี้จียงต้องเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง
จียงนั่งคุกเข่าอยู่หน้าแท่นหินสีขาวอ่อน ในมือถือช่อดอกลิลลี่ไว้ ดอกไม้ที่ซึงฮยอนบอกว่าชอบ ใบหน้าสวยระบายรอยยิ้มน้อยๆออกมา แต่ภายในใจนั่น ใครเลยจะรู้...
ว่ามันเจ็บเจียนตายแค่ไหน...
“ซึงฮยอน นายนอนอยู่ที่นี่คนเดียวหนาวไหม?” เสียงหวานเอ่ยเบาๆ “เหงาหรือเปล่า นี่ก็จะครบเดือนแล้วนะที่นายมานอนอยู่ที่นี่ ขอโทษนะที่ชั้นไม่ได้มาหาทุกวันอย่างที่ตั้งใจไว้”
น้ำตาไหลลงมาหยดลงบนดอกไม้ที่เขาตั้งใจนำมาให้ซึงฮยอน ร่างเล็กใช้มือเช็ดไปที่กลีบดอกไม้เบาๆก่อนจะบรรจงจัดแจงวางไว้หน้าแท่นหินอย่างสวยงาม แม้น้ำตาจะยังคงไหลอยู่แต่จียงก็ไม่ได้มีอาการของความเสียใจให้เห็น รอยยิ้มยังคงแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าหวาน แหวนทองคำขาวเป็นประกายหยอกล้อกับแสงอาทิตย์ อีกวงถูกสวมไว้เป็นจี้สร้อยแทน แหวนวงใหญ่กว่าที่นิ้วแกว่งไกวไปมาเบาๆไม่ต่างอะไรกับหัวใจของจียงที่นับวันมันยิ่งเต้นช้าลง
ราวกับรอวันที่มันจะหยุดเต้น......
.
.
“จียงที่จริงแล้วที่ซึงฮยอนมันไปผับเกือบทุกวัน มันไปทำงานพิเศษ” ยงเบพูดกับอีกคนที่ยังคงมองไปนอกหน้าต่าง “มันเก็บตังซื้อไอ้นี่ให้มึง”
ร่างสันทัดเดินไปหยุดตรงหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะยื่นกล่องกำมะหยี่ขนาดพอดีมือให้จียงซึ่งมือที่ขาวซีดกว่าเดิมก็เอื้อมมารับไปอย่างเต็มใจ
แหวนทองคำขาวสองวงส่องประกายอยู่ภายใน จียงหยิบวงเล็กกว่าขึ้นมาสวมไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายก่อนจะมองไปที่แหวนอีกวง เขารู้ดีว่ามันควรจะเป็นของใคร แต่เขาจะเก็บรักษามันไว้อย่างดี
“ขอบใจมาก” รอยยิ้มอ่อนถูกส่งมา “ซึงฮยอนเค้าจะเกลียดกูไหมวะ ที่กูดันโง่ไม่เข้าใจอะไรสักเรื่อง”
“ไม่หรอก มันรักมึง” ยงเบพุดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ชีวิตมันก็มีแต่มึงคนเดียว แค่นี้ไม่ทำให้มันโกรธมึงหรอก”
มือหนาลูบหัวอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน จียงกำลังโกรธ...โกรธตัวเอง ถ้าวันนั้นเขาถามเหตุผลของซึงฮยอนอีกสักนิด หรือถ้าวันนั้นเขาไม่เดินหนีไปอย่างนั้น ซึงฮยอนก็คงไม่
ตาย...
ที่สุดแล้วคนที่ฆ่าซึงฮยอนก็เป็นเขาเองนั่นแหล่ะ
อ่า... ซึงฮยอนอย่าโกรธชั้นเลยนะ
เดี๋ยวชั้นก็จะตามนายไปแล้ว
ขอเวลาให้ชั้นอีกนิด
อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นแหล่ะ
.
.
.
.
.
มือขาวซีดลูบไล้แท่นหินอ่อนอย่างรักใคร่ ดวงตาคู่สวยยังคงทอประกายแห่งความรักเสมอยามมองชายคนนี้ จียงทำได้แค่ยิ้ม...ยิ้มเท่านั้นที่เขาจะทำให้ซึงฮยอนได้ ซึงฮยอนไม่ชอบให้เขาร้องไห้ ดังนั้นเขาจะไม่ร้อง จียงปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อน
“ยงเบ..ถ้ากูตายไป กูจะได้เจอซึงฮยอนไหมวะ?”
ดวงตาเรียวของยงเบปิดลงอย่างปวดร้าว เขาเสียเพื่อนรักไปคนนึงแล้ว และอีกคนกำลังจะตามไป “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าซึงฮยอนอยากจะเจอนายไหม” ยงเบฝืนยิ้มส่งไปให้อีกคนที่กำลังมองเขาอยู่
“งั้นหรอ” จียงพึมพำ “วันนี้กลับเหอะนะ”
คนตัวเล็กกว่าเดินมาฉุดแขนเพื่อนให้เดินจากไป ใบหน้าหวานหันไปมองที่สุสานครั้งสุดท้ายก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้
ต่อให้ซึงฮยอนไม่อยากเจอเขา...
เขาก็จะไปหาซึงฮยอนอยู่ดี...
โลกที่ไม่มีซึงฮยอนเนี่ย...มันทรมานสิ้นดี...
มองไปทางไหนก็เจอแต่ความทรงจำที่มีร่วมกับซึงฮยอนทั้งนั้น...
ชั้นอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกนะ.....
นายใจร้ายจัง...ที่ทิ้งให้ชั้นอยู่คนเดียว...
แต่อีกไม่นานหรอกนะ....
อีกแค่นิดเดียว....
ใกล้แล้วล่ะ.....
ใกล้ได้เวลาที่ชั้นจะไปหานายแล้ว.....
รอชั้นก่อนนะ......
.
.
.
.
.
หลังจากที่กลับจากไปหาซึงฮยอน ยงเบก็เอาแต่มองจียงอยู่เสมอๆจนเขาโดนด่าว่าโรคจิต แต่ก็ช่างเถอะ จะโดนด่าว่ายังไงก็ได้ แต่ขอให้เขาได้มองภาพเพื่อนรักของเขาก่อนที่เขาจะไม่ได้เห็นอีก ถึงแม้ภายนอกจียงจะดูร่าเริงแค่ไหนก็ตาม แต่เขารู้ดีว่าดวงตาคู่นั้นไม่เคยบ่งบอกว่ามีความสุขเลยสักครั้งตั้งแต่ซึงฮยอนจากไป แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่ดวงตาก็จะนิ่งสนิทอยู่เสมอ ไร้แววตาของคนชีวิต ไม่ต่างอะไรกับ...
คนตาย....
“จียง...”
“หือ?” เสียงหวานขานรับก่อนจะหันมามองหน้าเขา ยงเบพยายามกลืนก้อนอะไรสักอย่างที่มาจุกอยู่บริเวณลำคอ แสบตาชะมัด...
“นาย...เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้นนะ”
ริมฝีปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มก่อนจะเอ่ย
“นายก็เหมือนกันนะ รู้ใจชั้นที่สุด นายจะเป็นเพื่อนที่ชั้นรักตลอดไป” จียงโถมเข้ามากอดเพื่อนไว้อย่างแนบแน่น มันคงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราสองคนได้ทำอะไรอย่างนี้ ใบหน้าคมของยงเบเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงตาเรียวแดงก่ำ อา...แสบทั้งตา แสบทั้งจมูกเลย
แดดแรงดีจังเลย...เล่นเอาน้ำตาไหลเลย
แสบตาจริงๆ....
.
.
.
.
.
เมฆสีดำทะมึนลอยเคลื่อนตัวผ่านท้องฟ้าอย่างเอื่อยๆตามแรงลมที่พัดมา ฝนกำลังจะตก นั่นคือสิ่งที่ควอนจียงรับรู้ เขาไม่เคยชอบเวลาที่ฝนตก ทุกครั้งที่ฝนตกเขาจะมีอ้อมกอดของอีกคนเสมอ เสียงทุ้มต่ำจะคอยปลอบโยนเขา แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม มันไม่มีอ้อมกอดอันอบอุ่น ไม่มีเสียงทุ้มที่เขาคิดถึง
ไม่มี...ไม่มีอีกแล้ว
เหลือแค่เขา...คนเดียว
จียงลุกขึ้นจากเตียงเดินไปปิดผ้าม่าน สายตาเหลือบไปมองวันที่บนปฏิทิน 18 สิงหาคม วันเกิดเขา เป็นวันเกิดที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ
มันแปลกตรงที่...
ปีนี้มีเขาอยู่คนเดียว
สายตามองผ่านไปยังกรอบรูปที่วางอยู่หัวเตียง สองคนในรูปนั่นช่างดูมีความสุขเหลือเกิน ไม่เหมือนเขาตอนนี้...บางทีจียงแอบคิดว่าถ้าวันนั้นคนที่ตายเป็นเขามันก็คงจะดีกว่านี้
เขาคงไม่ต้องทนทุกทรมานอย่างนี้...
ไม่ต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่เผลอคิดเรื่องเก่าๆ.....
ปลายมีดสีเงินสะท้อนกับแสงของหลอดนีออนส่งแสงเป็นประกายก่อนที่จะสัมผัสกับข้อมือซีดขาว ออกแรงกดอีกนิด ของเหลวสีแดงสดก็ไหลออกมา หยาดโลหิตไหลรินไปตามข้อมือก่อนจะหยดลงบนพื้นห้อง จียงยกมีดออกก่อนจะจับจ้องหยดเลือดที่เกาะอยู่บนใบมีด
มันทำให้เขานึกถึงซึงฮยอน...
ภาพที่ซึงฮยอนนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นถนนนั่น.....
เลือดสีแดงที่ไหลออกจากร่างของซึงฮยอน....
ยิ่งคิดจียงก็ยิ่งกดใบมีดลงไปอีกจากหนึ่งแผล...สองแผล...สามแผล...จนข้อมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยกรีดมากมาย เลือดยังคงไหลรินออกมา พื้นห้องสีอ่อนเริ่มเกิดรอยเลือดเป็นรอยกว้าง
ตอนนั้นนายเจ็บอย่างนี้หรือเปล่า?....
นายกลัวเหมือนที่ชั้นกลัวไหม?.....
ชั้นกลัว...ซึงฮยอน
ชั้นไม่ได้กลัวความตายหรอกนะ....
ชั้นแค่กลัว....
ชั้นกลัว...ว่าจะไม่ได้เจอนายอีก....
ใบมีดที่ชุ่มไปด้วยเลือดตกกระทบลงกับพื้น ร่างผอมบางของจียงนอนทอดกายไปบนเตียงกว้าง เตียงที่ครั้งหนึ่งมีใครอีกคนนอนด้วย...จียงปิดเปลือกตาลง สูดดมกลิ่นหอมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของคนรัก กลิ่นของซึงฮยอนทำให้จิตใจเขาสงบลง ดวงตาสีสวยเหลือบมองไปยังกรอบรูปที่วางอยู่เป็นครั้งสุดท้าย การเสียเลือดมากจนเกินไปมันทำให้เริ่มหมดแรง สติพร่าเลือน แต่เขาไม่กลัว...เพราะอย่างน้อย เขาก็ยังคงอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของซึงฮยอน
ชั้นพร้อมแล้วนะ...
ชั้นพร้อมที่จะไปหานายแล้ว....
มาสิ...
มารับชั้น....
มารับชั้นไปอยู่นายสิ ซึงฮยอน....
สัมผัสอย่างอ่อนโยนที่ใบหน้าทำให้จียงยิ้มออกมาอย่างเป็นสุข นายมารับชั้นแล้ว ซึงฮยอน จียงหลับตาลงปล่อยให้ความเจ็บปวดค่อยๆเลือนหายไป ความมืดมิดเริ่มเข้ามาแทนที่ แต่สัมผัสอ่อนโยนที่เขารู้สึกนั้นทำให้เขาไม่กลัวกับอะไรทั้งนั้น
ใกล้แล้วล่ะ จียง
นั่นเสียงนายหรือเปล่าซึงฮยอน เสียงนายใช่ไหมที่กำลังปลอบโยนชั้นอยู่ จียงได้แต่คิดอย่างดีใจ ร่างกายชาไปทั้งตัว สติเริ่มหายออกไปจากตัวเอง
ชั้นอยู่ตรงนี้นะ จียง
สัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นซึงฮยอนแน่นอน พยายามที่จะยิ้มให้ แต่มันทำได้ยากเหลือเกิน สิ่งสุดท้ายทำได้แค่...
“ชั้นรักนาย ซึงฮยอน”
.
.
.
.
.
อาการชาเริ่มหายไปจากร่างกาย จียงลองขยับตัวเบาๆ ความเจ็บปวดที่ข้อมือทั้งสองข้างหายไปหมดแล้ว ร่างบางมองไปรอบด้านอย่างตื่นตกใจ หมอกควันสีขาวมากมายอยู่รอบตัว
นายโกรธชั้นจริงๆสินะ....
ใบหน้าหวานสลดลงทันที ดวงตาเริ่มแดงก่ำ น้ำใสๆคลอหน่วยเต็มดวงตา แต่แล้วอ้อมกอดจากทางด้านหลังก็ทำให้เขารู้สึกราวกับได้ขึ้นสวรรค์
“ซ...ซึงฮยอน...ฮึก...” จียงสะอื้นไม่เป็นภาษาเมื่อหันกลับไปแล้วพบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมส่งยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เสียงทุ้มต่ำที่เขาคุ้ยเคยดังขึ้นอย่างแผ่วเบาที่ข้างหู แต่มันกลับดังเหลือเกินในใจของเขา
“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...”
.
.
.
.
Fin.............................
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ภาพที่ยงเบเปิดประตูเข้ามาทำเจอทำให้หัวใจแทบสลาย ควอนจียงนอนหลับตาอยู่บนเตียง ข้อมือทั้งสองข้างถูกกรีดจนเหวอะหวะ ร่างเล็กนอนทอดกายอยู่บนเตียงสีขาวที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีชาด วูบหนึ่งยงเบคิดว่าจียงเพียงแค่นอนหลับ หากแต่รอยเลือดที่มากมายขนาดนั้นทำให้ยงเบรู้ดีว่ามันไม่ใช่
น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาย ร่างสันทัดนั่งลงบนขอบเตียง มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าของจียงอย่างแผ่วเบา ทำอย่างที่ในเวลาปกติไม่เคยได้ทำ
ขอเถอะ...แค่สักครั้ง
ขอทำอย่างที่ใจต้องการ...
ครั้งสุดท้าย...
“ใกล้แล้วล่ะ จียง” ใกล้แล้ว นายจะได้ไปหาคนที่นายรักแล้วนะ ยงเบคิดในใจอย่างร้าวราน
“ชั้นอยู่ตรงนี้นะ จียง”
ก็แค่พูดออกไป หวังจะให้นายรับรู้บ้าง...ว่าชั้นเองก็อยู่เคียงข้าง คอยเฝ้ามองนายมาตลอด...ไม่ต่างกับซึงฮยอน ยงเบก้มลงไปประทับริมฝีปากเบาๆก่อนจะผละออกมา
อย่างน้อย...ชั้นก็จะถือว่า...
ได้จูบนายตอนที่นายยังมีชีวิต....
จียงพยายามที่จะส่งยิ้มมาให้เขา นั่นทำให้หัวใจเขาแทบพองโต ขอแค่จียงรับรู้ก็เพียงพอแล้ว...ก่อนที่หัวใจของเขาจะถูกทำร้ายย่อยยับด้วยประโยคต่อมา
“ชั้นรักนาย ซึงฮยอน”
เสียงแผ่วเบานั้นดังก้องอยู่ในหัวของเขาๆ ชั้นไม่ใช่ซึงฮยอนยะจียง ทำไมไม่ยอมรู้ตัวบ้าง ว่าชั้นก็รักนายไม่ต่างกับที่ซึงฮยอนรัก
ชั้นอาจจะผิดที่คิดดีใจตอนซึงฮยอนตาย แต่แล้วชั้นก็รู้ว่ามันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้นเลย สายตานายยังคงมองที่ซึงฮยอนอยู่เสมอ นายไม่เคยใช้สายตาที่มองซึงฮยอน มองชั้นเลยสักครั้ง นายเห็นชั้นเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นหรอ
ชั้นขออวยพรให้พวกนายรักกันไปตลอด...
ซึงฮยอน...
รักจียงแทนชั้นด้วย....
ยงเบมองใบหน้าหวานของจียงที่ประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ หน้าอกนิ่งไม่สนิทไม่สะท้อนถึงการหายใจ ก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากมนเป็นครั้งสุดท้าย มือข้างหนึ่งก้มลงไปหยิบมีดเปื้อนเลือดขึ้นมาพินิจ ก่อนจะตัดสินใจ....
.
.
.
.
.
.
.
อีซึงรีเด็กหนุ่มวัย 19 ปีนั่งดูข่าวกับเพื่อนรุ่นเดียวกันด้วยความสยดสยอง ใบหน้าหวานที่มีรอยดำคล้ำที่ใต้ตาบิดเหยเกด้วยความกลัวหลังจากที่ฟังข่าว
“เย็นวันนี้ได้มีการพบศพของชายสองคน สภาพศพคนหนึ่งนอนบนเตียง ที่ข้อมือมีรอยแผลเหวอะหวะ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากอาการขาดเลือด ชายอีกคนหนึ่งนอนอยู่เคียงข้าง ที่ลำคอมีร่องรอยของการใช้มีดปาดเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ ตรวจสอบรอยนิ้วมือแล้วคาดว่าทั้งสองศพเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะมีแรงจูงใจอะไรนั้นยัง....”
ฟึบ
“ปิดทำไมอ่า ซึงรี” คังแดซองถามอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนดันกดปิดทีวีทั้งที่เขายังดูข่าวไม่เสร็จ
“น่ากลัวออกแดซอง” ซึงรีเบ้ปากเตรียมจะร้องไห้ “ทำไมเค้าต้องฆ่าตัวตายด้วยอ่ะ”
คังแดซองยิ้มจนตาปิดเหมือนทุกที ก่อนจะตอบ
“บูชาความรักละมั้ง.........”
.
.
.
.
คนเราจะรักกันได้นานแค่ไหน??
จนตาย???
หรือ
ตลอดไป???
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Fin for real...........................................
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น