ตอนที่ 13 : ความหื่นเริ่มปรากฏ
สรุปแล้ววันนี้ดนัยภัทรไม่ได้ออกไปทำงาน เพราะเป็นห่วงกับอาการเจ็บป่วยของธารธารา ทั้งที่หล่อนก็บอกกับเขาแล้ว ว่าหล่อนอยู่คนเดียวและสามารถดูแลตัวเองได้
ดนัยภัทรหายาแก้ฟกช้ำมาให้หล่อนทา พร้อมกับยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบที่หมอเพียงฟ้าให้ไว้ อีกทั้งยังคอยเป็นแขนและขาให้หล่อนยามต้องการอะไร ทำให้ธารธารานั้นรู้สึกละอายแก่ใจจนมองหน้าเขาแทบไม่ติด
แต่อายอะไรก็ไม่อายเท่าที่เขาช่วยใส่เสื้อผ้าให้ เกิดมาธารธาราไม่คิดว่าจะมีใครมาทำอะไรให้แบบนี้มาก่อนเลย และแม้จะอายแสนอายเพียงใด หล่อนก็ต้องข่มความอายนั้นเอาไว้ แล้วยินยอมให้เขาช่วยหล่อนแต่โดยดี
ยังมีอะไรในตัวหล่อนที่ดนัยภัทรยังไม่เห็นอีกไหม ธารธาราถามตัวเองเงียบๆ ในใจ ระหว่างที่นั่งมองเขากำลังกำลังทำข้าวต้มให้หล่อนกิน
หล่อนบอกให้เขาหลับตา ตอนที่เขาช่วยสวมเสื้อผ้าให้ และหล่อนก็แอบสังเกตเห็นว่าเขาแอบยิ้มขันหล่อนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะขำอะไรหล่อนนักหนา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังตีหน้ายักษ์ใส่หล่อนตอนอยู่ในห้องน้ำอยู่เลย
“ป้อนมั้ย” ชายหนุ่มถามขึ้นหลังจากยกข้าวต้มมาเสิร์ฟให้หล่อนที่โต๊ะกินข้าว
“กินเองได้ค่ะ ไม่ได้เจ็บมือเสียหน่อย” หล่อนหันมาบอกด้วยสีหน้าเง้างอด
“อวดดี กินให้หมดด้วยแล้วกัน ไม่งั้นวันหลังจะไม่ทำให้กินอีก”
คำขู่ของเขาทำให้มือหญิงสาวที่กำลังจะตักข้าวต้มเข้าปาก ถึงกับชะงักไปทันที ก่อนจะหันมาค้อนให้เขาอย่างเสียมิได้ นี่เขาบังคับขู่เข็ญหล่อนไปถึงไหนกัน หล่อนเป็นคนป่วยนะ ไม่ใช่นักโทษของเขา
“กินบ้างสิ” ดนัยภัทรยื่นใบหน้าเขาไปบอก
“ไปตักมากินเองสิคะ เรื่องอะไรมาแย่งของฉัน” ธารธาราบอกหน้าตาย ก่อนจะตักข้าวต้มเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“อยากกินชามนี้นี่นา ตักมาเลยนะอย่าลีลา”
ดนัยภัทรทำหน้าขึงขัง สร้างความหงุดหงิดให้กับธารธาราเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นหล่อนก็ได้แต่เก็บมันไว้ในใจ เพราะถ้าไม่มีเขาหล่อนก็คงไม่มีอะไรกินเหมือนกัน
“ยุ่งจริงคุณนี่” บ่นไปตักข้าวต้มไป ก่อนจะยื่นช้อนมาให้ชายหนุ่มด้วยใบหน้างอง้ำ ที่โดนแย่งของกินดื้อๆ
“เมื่อกี้คนข้าวต้มจนเมื่อยมือ รบกวนคุณน้ำช่วยป้อนหน่อยได้ไหมครับ” คนเจ้าเล่ห์บอกหล่อนด้วยสีหน้ายียวน ก่อนจะอ้าปากเพื่อรอให้หล่อนป้อนให้
ธารธาราหน้าหงิก แต่ทว่าก็ยอมป้อนข้าวต้มให้เขาแต่โดยดี ทั้งที่ใบหน้าหล่อนยังบูดบึ้ง หารู้ไม่ว่าท่าทางของหล่อนในตอนนี้มันทำให้ดนัยภัทรแอบขำจนแทบกลั้นยิ้มไม่ไหว
“อร่อยเนอะ” เขาหันมาพูดกับหล่อนด้วยรอยยิ้มสดใส ต่างจากหล่อนที่เอาแต่แอบบ่นเขาอยู่ในใจ ที่เขาช่างมาวุ่นวายกับข้าวต้มของหล่อนเหลือเกิน
“ยัยด้าโทร. มาถามอาการคุณแต่เช้า ห่วงว่าผมจะดูแลคุณไม่ดี”
อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง ที่แท้ก็เพราะกลัวน้องสาวจะโวยวายว่าดูแลหล่อนไม่ดี เขาถึงได้ใจดีกับหล่อนแบบนี้ นึกอยู่แล้วเชียว
“หรือคะ” ธารธารารู้สึกผิดหวังบางอย่าง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาด้วย
“อืม...ถ้าคุณยังปวดก้นไม่หาย เราไปหาหมอกันนะ” เขาบอกหล่อนเสียงนุ่ม
“คิดถึงหมอเพียงฟ้าหรือคะ” ธารธาราอดที่จะแขวะขึ้นมาไม่ได้
“คิดถึงทำไม นี่กลัวว่าจะพิการไปตลอดชีวิตหรอกนะถึงได้บอก อีกอย่างผมบอกหมอเพียงฟ้าไปแล้วเมื่อคืน ว่าเราแค่ทะเลาะและงอนกัน คุณถึงบอกไปว่าเราไม่มีอะไรกัน แต่ตอนนี้เราคืนดีกันแล้ว”
“หา! ว่าไงนะคะ” ธารธาราตกใจจนรีบวางช้อนลงในมือลงทันที พร้อมกับมองหน้าเขาเหมือนเห็นผีอย่างนั้น
อีตาดนัยภัทร...เขาเคยถามความเห็นหล่อน ก่อนที่จะบอกอะไรใครตามใจตัวเองบ้างได้ไหม
ดนัยภัทรจับมือหล่อนให้หยิบช้อนขึ้นมาเหมือนเดิมด้วยรอยยิ้มขัน พร้อมกับชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานที่เอาแต่จ้องเขาตาแป๋วไม่วางตา หล่อนจะทำหน้าแบบนี้ทำไมกันนะ ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิดใจ เนื่องจากบางอย่างในร่างกายมันกำลังเต้นเร่าอย่างผิดปกติ
“กินไป ไม่ต้องถามอะไรมาก ประเดี๋ยวก็ผอมตายหรอก”
เขาแยกเขี้ยวใส่หล่อน ก่อนจะถอยออกไปแล้วหันหน้าหนีใบหน้าหวานนั้น เพื่อสงบสติอารมณ์บางอย่างที่พุ่งพล่านขึ้นมาโดยไม่ได้รับเชิญ
“จะบอกว่าฉันอ้วนก็พูดมาเถอะ ไม่ต้องอ้อมค้อม” ธารธาราหันมาค้อนใส่ ก่อนจะหันไปตักข้าวต้มใส่ปากต่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“พูดตอนไหน ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้ชอบคิดเองเออเองนักนะ” ดนัยภัทรไม่เข้าใจ ก่อนจะเดินหนีไปเปิดตู้เย็นเพื่อรินน้ำมาให้หล่อนดื่ม และเผื่อตัวเองด้วยแก้วหนึ่ง เนื่องจากรู้สึกร้อนรุ่มผิดปกติ
ความจริงเขาผิดปกติตั้งแต่ช่วยหล่อนสวมเสื้อผ้าแล้วล่ะ เสื้อชั้นใน กางเกงชั้นในลูกไม้สีหวาน รวมไปถึงเนื้อนุ่มๆ ที่มือเขาสัมผัส มันทำให้หนุ่มโสดผู้ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิงอย่างเขาใจสั่น ทั้งที่เขาก็เคยถอดพวกมันออกจากร่างกายของสาวๆ มาจนเคยชินแล้ว
“อวบๆ อ้วนๆ ก็ดีแล้วไง จับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด ได้อารมณ์ดีออกผมว่า”
เขาบอกหล่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ในใจกำลังสับสนกับอาการบ้าๆ ของตัวเอง
“บ้า! คนลามก” หล่อนหันมาแหวใส่เขาเสียงขุ่น
“เอ้า! ก็มันจริง จับตรงไหนก็เนื้อนมไข่ ผอมแห้งแรงน้อยจะไปเร้าใจอะไร”
ธารธาราอยากจะบ้าตาย ยิ่งพูดดนัยภัทรก็ยิ่งพาหล่อนเข้าวังวนตัณหาราคะของเขา อีตาบ้า! เนื้อนมไข่อะไรกัน นี่ในสมองเขาคิดแต่เรื่องพรรค์นั้นเลยหรือ
“หื่น” ธารธาราบ่นอุบ ก่อนจะหันไปกินข้าวต้มต่อเหมือนประชด
“แน่นอน ผู้ชายหล่อๆ มาดดีอย่างผม มันก็ต้องหื่นเป็นธรรมดา ว่าแต่คุณเถอะ อยากลองความหื่นของผมดูบ้างมั้ย”
ธารธาราสตั๊นท์ไปสามวินาที พร้อมกับเงยหน้าจากชามข้าวต้มขึ้นมาสบตาเขาด้วยความรู้สึกตกใจ ก่อนจะกลายเป็นหยิบชามข้าวต้มขึ้นมา แล้วยื่นให้เขาด้วยท่าทางเงอะงะน่าขำ
“ขออีกชามค่ะ”
คราวนี้ดนัยภัทรหัวเราะลั่น ดูหล่อนทำหน้าเข้าเถอะ ตลกชะมัดเลยให้ตาย หล่อนจะตกใจอะไรกันนักกันหนา ทำหน้าเอ๋อๆ เหมือนสาวไร้เดียงสาไปได้ ทั้งที่วัยก็เลยสามสิบไปแล้ว
ดนัยภัทรรับชามมาถือไว้ แล้วเดินไปตักให้หล่อนเพิ่ม พร้อมกับเสียงหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ในขณะที่ธารธารากลับนั่งทำหน้าปั้นยากอยู่ที่โต๊ะ มองตามแผ่นหลังของเขาแล้วแอบค่อนขอดในใจ
อีตาบ้า! จะไปหื่นที่ไหนก็ไปเลยไป พ่อคนหลงตัวเอง
***มาแล้วจ้าาาา จิบอกว่าตอนหน้าสองคนนี้เค้าจะ.....เค้าจะ.....อุ๊บส์!!! ไม่บอกหรอก รอติดตามเองนะ กิกิ
รักทนาย หลงทนาย ฝากโหวตฝากเม้นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
โอบธารา....แฮ่
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

144 ความคิดเห็น
-
#57 ภาวนา ยะถาเทศ (จากตอนที่ 13)วันที่ 9 กรกฎาคม 2559 / 10:34หื่นออกหน้าออกตามาก#570
-
#37 Paiky Klongluang (จากตอนที่ 13)วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 / 09:30เอาตอนหน้ามาเลยดีกว่า#370