คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : sugar daddy ♡ 01
มาร์คมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างสนใจ
เนื้อตัวขาวเนียนดูสะอาดสะอ้านดวงตากลมโตเข้ากับใบหน้าที่ดูดีไม่หยอก
ลีเจโน่หน้าตาน่าเอ็นดูถึงจะทำให้แปลกใจหน่อยก็เถอะที่เด็กนี่มาทำงานแบบนี้ ทั้งที่ไม่ว่ามองยังไงก็ดูใสซื่อเกินกว่าจะเป็นเด็กหนุ่มที่ช่ำชองในเรื่องอย่างว่าหรือภายใต้ท่าทางใสซื่อจะเจนจัด
ดวงตาคมไล่มองตั้งแต่ใบหน้าต่ำลงมาเรื่อยๆโดยไม่ลืมจะหยุดมองจุดสองจุดสีชมพูอ่อนที่แต้มอยู่บนหน้าอกสองข้างของเจโน่
เอื้อมมือไปตรงหน้าถึงเด็กหนุ่มตัวผอมนี่จะเขยิบหนีแต่เมื่อเขามองหน้าร่างเหน่งน้อยก็หยุดพร้อมทั้งเขยิบเข้ามาใกล้
มือใหญ่ลูบผิวเนียนนุ่มมืออย่างใจเย็นเพราะตอนนี้เด็กหนุ่มตัวผอมทั้งสั่นและเกร็งจนต้องจ้องดวงตาสีเข้มที่พยายามมองตอบเขากลับอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ครั้งแรก?” เอ่ยถามออกไปพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างใคร่รู้
“…”
“ฉันถามว่าครั้งแรกของเธอหรอ”
มาร์คย้ำพลางเชยคางมนให้มองตา จ้องมองเข้าไปในดวงตาที่สั่นเครือเหมือนจะร้องไห้
“คะ ครับ”
เจโน่พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ
มาร์คลีส่ายหัวไปมาพร้อมทั้งผละมือออกจากผิวเนียนนุ่มแล้วตวัดผ้านวมห่มตัวอีกฝ่ายเอาไว้
ถอยร่นออกมาอยู่ปลายเตียงมองเด็กหนุ่มที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้รอมร่อ
เขายังไม่ทันได้รังแกอะไรด้วยซ้ำ
ให้ตายสิเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่รังแกเด็กยังไงไม่รู้ตอนนี้
“คะ คุณจะ…ยกเลิกหรอครับ” เจโน่เอ่ยถามเสียงเบา
มาร์คถอนหายใจกลอกตาไปมาพลางมองใบหน้าน่ารักที่จู่ๆก็ทำให้เขายิ้มขึ้นมาเฉยๆ
ลีเจโน่เหมือนแมวชะมัดเหมือนจนคิดว่าถ้าอีกฝ่ายมีหูตอนนี้ก็มันก็คงหูลู่ตกเพราะกลัว
เอาตามตรงมาร์คไม่ได้เป็นคนสนใจศีลธรรมอะไรขนาดนั้นหรอกในเมื่อเด็กมันขายแล้วเจโน่ก็ไม่ได้เด็กขนาดที่ว่าทำให้รู้สึกผิดอะไรด้วย
ยังไงก็เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแล้วถึงจะอายุห่างจากเขาไปหลายปีหน่อยแต่ก็ไม่ได้แย่
“ฉันกำลังคิดอยู่”
มาร์คพูดแล้วนิ่งไปสักพัก “ว่าจะทำยังไงกับครั้งแรกของเธอดี”
เพียงแค่พูดลามกแก้มใสก็ขึ้นสีแถมยังหลบตาแล้วฝังหน้าลงกับผ้านวมผืนหนาอย่างเขินอาย
มาร์คลีมองการกระทำเหล่านั้นอย่างเอ็นดู
เขาไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับเด็กขายเพราะมันก็เป็นอาชีพหนึ่งที่เขาเสียเงินไปอีกฝ่ายก็ให้บริการที่เขาต้องการกลับมา
แต่พอเป็นเด็กหนุ่มตัวผอมตรงหน้าไม่รู้ทำไมถึงได้นึกเอ็นดูในความใสซื่อที่ดูไม่ได้แสดงซักนิด
“คุณมาร์คซื้อผม
เอ่อ คุณมาร์คจะทำยังไงก็ได้” เจโน่ลีตอบเขาด้วยน้ำเสียงเบาแถมยังตะกุกตะกัก
กล้าซะไม่มี…
มาร์คเขยิบเข้าไปใหม่คราวนี้เข้าไปใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเจโน่
เขามองการกระทำของเด็กตรงหน้าอย่างนึกขันอยู่ในใจ ทำเป็นใจดีสู้เสือทั้งที่ตอนนี้ตัวสั่นเหมือนลูกแมวที่กำลังกลัวจนหูลู่หางตก
“ฉันจะทำเจ็บๆแค่ไหนก็ได้ใช่ไหม
ถ้าถึงขนาดเลือดตกยางออกก็จะไม่ว่ากัน” มาร์คถามแล้วเลิกคิ้วใส่อีกฝ่าย
เจโน่เมมปากจนเป็นเส้นตรงมือที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนากำลังกำเข้าหากันอย่างหวาดกลัว
เจโน่จำได้ว่าเขาได้รับการติดต่อมาก็เลยแอบไปเปิดดูหนังอย่างว่าในเว็บหนึ่งที่เป็นที่นิยม
ถึงจะดูไปปิดตาไปเพราะบางเรื่องก็ไม่เหมือนการร่วมรักแต่มันเหมือนหนังฆาตกรรมมากกว่า
ฝ่ายโดนกระทำทั้งร้องไห้ทั้งครางไม่รู้ว่ามีความสุขหรือเจ็บปวดกันแน่
แถมเจโน่ยังเผลอกดไปดูหนังที่มันออกจะโหดไปหน่อย
จำได้ว่าเด็กหนุ่มผอมๆในเรื่องนั่นโดนปิดตาแถมยังโดนเข็มขัดฟาดจนหลังแดง
ทนดูไปครึ่งเรื่องก็ปิดแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าหนังมันดูโหดไม่เห็นจะเร้าอารมณ์ตรงไหนเลย
รสนิยมแบบนี้น่ากลัวจนกังวลว่าลูกค้าคนแรกและคนเดียวเพราะเจโน่ไม่คิดจะทำงานนี้อีกแล้ว
จะเป็นพวกชอบความรุนแรง
และยิ่งตอนนี้โดนถามแบบนี้จะต้องแบบยังไงถ้าถูกเอาเงินที่โอนมาให้แล้วคืนไปแล้วมะรืนจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเทอมมหา’ลัย แค่คิดก็มืดแปดแล้ว
“หึ
ฉันล้อเล่นน่าอย่าทำหน้าเหมือนฉันกำลังจะพาเธอไปฆ่าสิ”
มาร์คยกมือเกลี่ยแก้มนิ่มเบาๆก่อนจะออกแรงบีบแล้วยืดมันอย่างมันเขี้ยว
“ผมไม่เคย”
เจโน่บอกสั้นๆ
“กลัวหรอ”
เด็กหนุ่มตัวผอมพยักหน้าให้นัยน์ตาสีเข้มที่กำลังสั่นระริกน่าจะเป็นตัวยืนยันว่าลีเจโน่กลัวจริงๆ
มาร์คถอนหายใจแล้วเขยิบเข้าไปใกล้กว่าเดิมประกบริมฝีปากลงบนปากนิ่มสีชมพูอ่อน
กลิ่นเชอร์รี่ทำให้มาร์คยิ่งขบกัดความนิ่มหยุ่นนั้นไม่หยุด ถึงอีกฝ่ายจะเกร็งแต่มาร์คก็ไม่คิดว่าจะหยุดมันได้หรอก
เขาสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อนอย่างช่ำชองตวัดเกี่ยวเรียวลิ้นที่พยายามจะทำเช่นเดียวกันกับเขา
เดาว่าเจโน่คงยังไม่เคยแม้กระทั่งจูบใครพอคิดได้แบบนั้นกลับนึกถูกใจเป็นบ้า
บริสุทธิ์เสียจนอยากเห็นตอนที่เขาเข้าไปอยู่ในตัวอีกฝ่าย
อยากเห็นหน้าตอนลีเจโน่ถูกเขารักหรือไม่ก็ตอนที่ครางเป็นชื่อเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
ไม่หยุดปาก
มือเรียวทุบที่บ่าเบาๆเพราะกำลังจะขาดอากาศหายใจ
มาร์คดูดดุนปากอิ่มสีอ่อนก่อนจะผละออกมามองใบหน้าน่ารักที่แดงเถือกลามไปจนถึงใบหูทั้งสองข้าง
“เธอน่ารักดี”
มาร์คออกปากชมก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มนิ่มแล้วคลอเคลียมันอยู่แบบนั้น
“อ่อนโยนกับผมได้ไหมครับ”
น้ำเสียงใสดูอ้อนวอน
มาร์คหัวเราะหึในลำคอก่อนจะถอยออกมามองหน้าเด็กหนุ่มตัวผอม
เขาส่ายหน้าไปมาแล้วจับไหล่บางเอาไว้ลูบเบาๆให้อีกฝ่ายสะดุ้งเล่น
“ฉันยังไม่ทำอะไรเธอวันนี้หรอก
เห็นแล้วทำไม่ลง เฮ้ อย่าทำหน้าตาแบบนั้นสิ” มาร์คเอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มสีเข้ม
“อย่าทำเหมือนจะร้องไห้
ฉันแค่ไม่อยากฝืนใจเธอดูท่าเธอน่าจะยังไม่พร้อม”
“แต่ผมรับเงินคุณมาแล้วนะครับ”
เจโน่สวนกลับทันทีเพราะไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่พร้อมมันก็คือหน้าที่ที่ต้องทำ
“เงินแค่นั้นไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งฉันร่วงหรอกนะเจโน่”
“แต่…”
“ฉันอยากรู้เหตุผลที่เด็กอย่างเธอมาทำงานแบบนี้มากกว่า
รู้ไหมว่ามันไม่ได้เป็นงานที่ดีกับเด็กอย่างเธอเท่าไหร่” เสียงทุ้มติดจะจริงจัง
“ครับผมรู้แต่ผมไม่มีทางเลือก
มันจำเป็นมากจริงๆไม่งั้นผมก็ไม่อยากทำงานแบบนี้” เจโน่ตอบพร้อมดวงตาที่กำลังคลอไปด้วยน้ำสีใส
“อะไรที่ว่าจำเป็นล่ะ”
“ผมจำเป็นต้องจ่ายค่าเทอมภายในอาทิตย์นี้
ฮึก แล้วก็ผมกำลังจะไม่มีที่อยู่ผมจนปัญญาที่จะหาเงินจำนวนมากในเวลาสั้นๆ ฮึก…
ผมรู้ว่ามันไม่เข้าท่าแต่ผมจำเป็นต้องทำมันจริงๆ”
“มันไม่เข้าท่าสุดๆแล้วจริงๆฉันไม่จำเป็นต้องสนใจว่าชีวิตเธอมันจะห่วยแตกยังไง
แต่รู้อะไรไหมตอนนี้ฉันสนใจเธอมากไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้สนใจเด็กที่จูบยังทำไม่เป็น”
เจโน่ก้มหน้างุดหนีสายตาแพรวพราวที่มองมา
ถึงจะไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่าแต่ทำไม่จะไม่รู้ว่าสายตาแบบนั้นมันสื่อถึงอะไร
“ฉันจะไม่เอาเงินคืนนะ
เงินก้อนนั้นที่โอนให้เธอเอาไปจ่ายค่าเทอมซะ” มาร์คบอกแล้วกดจูบลงบนแก้มนิ่ม
“แต่ว่า...”
“ส่วนที่อยู่ใหม่เอาเป็นว่าจะยอมให้เธอย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับฉัน
ฟรีไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายแลกกับการดูแลห้องให้ฉัน”
“แค่นั้นหรอครับ”
“ยังไม่หมด
ต่อจากนี้ไปถ้าจะขายอีกก็ขายให้ฉันคนเดียวพอ”
เสียงทุ้มแหบกระซิบข้างหูแถมยังใช้ลิ้นเลียเบาๆที่ติ่งหูจนเจโน่หดคอหนี
“เข้าใจไหมลีเจโน่”
มาร์คถามซ้ำ
“ครับคุณมาร์ค”
เจโน่คิดว่าตัวเองต้องเป็นบ้าแน่ๆที่ไปตกปากรับคำจนตอนนี้มายืนอยู่ในคอนโดหรูชั้นบนสุดที่มันไม่ได้เล็กกะทัดรัดอย่างที่นึกเอาไว้
ถูกตกแต่งอย่างดีไม่ได้ดูหรูหรามากแต่ทว่าดูทันสมัยแถมยังมีความคลาสสิกนิดๆด้วย
ทุกอย่างดูคล้ายเจ้าของห้องเพราะคุณมาร์คสำหรับเจโน่ยังดูไม่เหมือนคนอายุยี่สิบแปดยี่สิบเก้าอย่างที่เจ้าตัวบอกเขาเลย
ห่างกันเป็นสิบปีเพราะตอนนี้เจโน่เพิ่งจะอายุสิบเก้า
แต่ยังไงคุณมาร์คยังเหมือนคนอายุไม่เกินยี่สิบห้าอยู่ดีทั้งหน้าตา รูปร่าง
หรือจะเป็นนิสัยไม่ได้ดูแก่สักนิด
กระเป๋าลากสองใบถูกขนตามขึ้นมาเจโน่โค้งให้กับคนสนิทที่เดาว่าน่าจะเป็นลูกน้องของคุณมาร์ค
เพราะเห็นผู้ชายคนนี้ตามคุณมาร์คมาตั้งแต่วันนั้นที่โรงแรม
เจโน่ทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนมากมายรอบตัวของมาร์คลี
ทุกคนมองแม้จะดูไม่ได้สนใจแต่เจโน่ก็คิดว่าคนพวกนั้นอาจจะมองว่าเขาขายตัว
ถึงจะขายตอนแรกจริงๆก็เถอะแต่มันก็อึดอัด
“ชอบไหม”
เจโน่สะดุ้งก่อนจะหันหลังไปมองเจ้าของห้องที่อยู่ในชุดลำลองแต่ก็ยังดูดี
เสื้อเชิ้ตสีดำถูกปลดกระดุมออกสองเม็ดจนเห็นแผงอกแกร่งรำไร
กับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้มรองเท้าหนังกับผมที่ถูกเซ็ตนิดๆไม่ได้ดูเป็นทางการแต่ดูหล่อจนเจโน่แอบใจเต้น
“ครับ
ผมนึกว่ามันจะเล็กกว่านี้มันดูหรูมากไม่เหมาะกับผมเท่าไหร่”
เจโน่พูดพลางยิ้มเจื่อนๆ
“เธอเป็นพวกชอบดูถูกตัวเองรึไงกัน”
มาร์คถามเสียงดุ
“ผม ผม คือว่า…”
“เลิกบอกซะทีว่าอะไรมันไม่เหมาะกับเธอ
ของทุกชิ้นของฉันมันเหมาะกับเธอหมด”
เจโน่ก้มหน้าหนีสายตาเจ้าเล่ห์กับรอยยิ้มมุมปาก
ถึงจะดูใจง่ายที่ย้ายมาอยู่กับผู้ชายที่เจอกันแค่ครั้งเดียวแต่เจโน่แค่คิดว่าถ้าเป็นคนอื่นจะสนใจเขาแบบนี้หรือเปล่า
จะยอมจ่ายเงินเพื่อแค่จูบแล้วบอกอย่าทำแบบนี้อีก
นานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ที่ไม่ได้มีใครสักคนเข้ามาแล้วห่วงใยเขาแบบนี้
ถึงแม้จะรู้ว่าสุดท้ายคุณมาร์คอาจจะหวังแค่ร่างกาย
เจโน่ก็ยอมให้คุณมาร์คได้ทุกอย่างในชีวิตของเจโน่อย่างเต็มใจ
“ห้องเธออยู่ตรงนั้นฉันให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเรียบร้อยหมดแล้ว”
มาร์คชี้ไปที่ฝั่งซ้าย
“ขอบคุณนะครับคุณมาร์ค”
“เลิกขอบคุณเถอะน่า
แมวตัวเดียวทำไมจะเลี้ยงไม่ได้” มาร์คพูดแล้วลากกระเป๋าสองใบไปที่ห้องนอนฝั่งซ้ายโดยไม่บอกเกล่าเจ้าของกระเป๋า
“ผมลากไปอะ—”
“ตามมา”
ห้องนอนของเจโน่ถูกตกแต่งอย่างดีในโทนสีขาวตัดน้ำตาลอ่อน
มันดูดีมากจนอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า
“ถือว่ามันเป็นพื้นที่ของเธอจะทำอะไรก็แล้วแต่เลย
แต่ฉันมีกฎคืออย่าพาใครก็ตามมาที่นี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าใจไหม”
“ครับเข้าใจครับ”
มาร์คยิ้มดึงเจโน่ให้ลงมาตักตัวเอง
กอดเอวบางเอาไว้แล้วคลอเคลียแก้มนิ่มก่อนจะหอมแก้มให้อีกฝ่ายเขินเล่น
“แล้วก็นะถ้าเธอพร้อมเมื่อไหร่ห้องฉันอยู่ข้างๆยินดีต้อนรับทุกเมื่อ”
tbc.
อยากแต่งให้มาร์คลีแบบแดดดี้ฟอร์น้องเจโน่มากๆๆๆๆ
เรื่องนี้คุณเขาหล่อและใจดีนะคะ
แล้วก็ดุด้วยแต่ยังไม่ใช่ประเดี๋ยวนี้
แท็ก
#sugardmn
ขอบคุณมากครับ!
ความคิดเห็น