ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Love Of War]สงครามแค้นแสนรัก WonHanHyuk Kihae Kyumin

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER:1(รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 53




    ย้ายก้นเน่าๆ ของเธอออกไปจากตักของฉันเดี๋ยวนี้น้ำเสียงโหดปนรำคาญแผดใส่หูของหญิงสาวแต่งหน้าจัดนุ่งน้อยห่มน้อยที่ดูก็รู้ว่ามีอาชีพบริการประเภทใด  แม่สาวแป้งหนาหน้าเจื่อนไปนิดเมื่อลูกค้าวีไอพีรูปหล่อท่าทางมีฐานะปฎิเสธเธอที่เดินเข้ามาหาอย่างไม่ไว้หน้า  แต่มีหรือที่สาวสวยเบอร์หนึ่งของเบอร์โทรศัพท์ยอดฮิตอย่างเธอจะยอมเสียหน้า  เธอรีบปรับสีหน้าและแววตาให้ยั่วยวนมากกว่าเดิม  มือบางลูบไล้บริเวณแผงอกแบนราบหวังปลุกอารมณ์ของชายหนุ่มโดยไม่รู้ชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลยสักนิด

    ไก่อ่อนหรือจ๊ะพ่อหนุ่ม คิกคิก  ไม่ต้องกลัวนะเดี๋ยวนูน่าจะสอนให้สาวสวยเรียกแทนตัวเองว่านูน่าหัวเราะคิกคักพลางใช้มือลูบไล้แก้มป่องๆ ของชายหนุ่มด้วยท่าทีเชิญชวนจนน่ารังเกียจ  อกเต่งตึงเบียดกระแซะจนแนบชิดกับอกหนาที่แบนราบของคิบอม

    กูบอกไม่รู้เรื่องหรือไงอีแก่  รูเน่าๆ อย่างมึงกูเสียบไม่ลงหรอก ถุย กูเกลียดผู้หญิงขายตัวอย่างมึงโว้ย  ชัดมั้ยคิบอมผลักหญิงสาวลงไปกองกับพื้นและด่าด้วยเสียงดังลั่นอย่างโมโห  สีหน้าแสดงอาการรังเกียจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะจบด้วยการเขี้ยงแก้วเหล้าลงที่ข้างตัวของหญิงสาวจนเศษแก้วกระเด็นไปบาดที่ใบหนาสวยเป็นทางยาว

    โว้ย อีหอกคิบอมยกเท้าจะเตะซ้ำจนเพื่อนๆ ต้องกรูกันเข้ามาจับตัวไว้และร้องห้ามเพราะกลัวว่าคิบอมจะตกเป็นข่าวฆ่าสาวไซด์ไลน์ตายคาผับหรูกลางเมือง

    พอแล้วโว้ยคิบอม  เดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอกมึงเพื่อนร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาเข้ามากระชากตัวคิบอมให้ออกห่างจากสาวสวยที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนน่ารำคาญและปรามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเพราะคิมคิบอมไม่ใช่แค่ลูกคนร่ำคนรวยธรรมดาแต่เป็นถึงหลานชายแท้ๆ หรือลูกบุญธรรมของหัวหน้าพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่เก่าแก่ที่สุดของเกาหลีใต้

    ฮึกๆ หน้าฉัน  ไอ้บ้าสาวสวยทรงโตคนเดิมหันไปด่าคิบอมอย่างโกรธแค้นเมื่อใบหน้าที่ใช้เป็นอุปกรณ์หากินของเธอโดนเศษแก้วบาดเอา

    อ้าว  อีนี่...คิบอมจะกระโจนเข้าไปใส่อีกรอบเพราะโมโหที่ถูกผู้หญิงชั้นต่ำด่าเอา  เขาเป็นถึงลูกชายของหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่แต่กลับถูกผู้หญิงขายบริการผ่านมือถือด่าว่า  ไอ้บ้า

    ไอ้คิบอม  มึงอยากตกเป็นข่าวอีกใช่ไหม   ทำอะไรคิดถึงหน้าพ่อมึงมั้งดิเพื่อนสุดหล่อคนเดิมหรือคิมคังอินร้องเตือนอย่างเป็นห่วงในความวู่วามและเป็นน้ำมันติดไฟง่ายของเพื่อนสนิท

    ห่วงทำห่าอะไร  เขายังไม่เคยห่วงกูเลยแม่งเอ้ย  พวกมึงลากอีนี่ไปพ้นๆ หน้ากูเลยนะ  ไม่งั้นกูเอาปืนเป่าหัวมันจริงๆ ด้วยคิบอมหันไปสั่งใส่เพื่อนๆ ที่มาด้วยกันอย่างวางอำนาจ  ทุกคนทำหน้าเอือมๆ ที่โดนสั่งราวกับเป็นลูกน้องแต่ก็จำต้องทำตามเพราะไม่อยากขัดใจลูกคนใหญ่คนโต

    ไอ้คังอิน  มึงก็รู้ว่ากูโครตเกลียดผู้หญิงเลยแล้วมึงจะจัดให้กูทำไมว่ะ  ถ้าเป็นไอ้ฮันคยองคงจะเตรียมเคะหวานๆ มาให้กูแล้ว  ถุย  ผู้หญิงเวลาร้องแม่งแสบแก้วหูแถมยังดัดจริตอีกต่างหาก  บอกกูให้เอาเบาๆ แต่ตัวเองก็กระแทกไม่ยั้ง...คิบอมบ่นกระปอดกระแปดเมื่อไม่ถูกใจจนคังอินแอบทำหน้าเซ็ง  เขาได้แต่มองเพื่อนผู้เอาแต่ใจและคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่อย่างเอือมระอาและเหนื่อยหน่ายใจ  คบกันมาตั้งหลายปีและสนิทสนมกันก็จริงอยู่แต่คังอินไม่รู้ว่าสำหรับคิบอมแล้วเขาเป็นเพื่อนหรือขี้ข้ากันแน่เพราะคิบอมชอบสั่งเขาและวางอำนาจใส่

    มึงโทรหาไอ้ฮันคยองดิ  ถามว่าจะมาหรือไม่มา  ถ้าเบี้ยวอีกกูจะเผาผับมันทิ้งซะแล้วก็ไปจับน้องชายหน้าหวานของมันมาทำเมียซะเลยคิบอมพูดทีเล่นทีจริงและออกคำสั่งใส่คังอินอีกรอบก่อนจะเบือนหน้ามองไปรอบๆ เผื่อจะเจอของถูกใจแต่ก็พบกับของที่เขาเกลียดและขยะแขยงอย่างผู้หญิง

    คราวหน้ากูจะไปเที่ยวผับเกย์คิบอมถอนใจเซ็งๆ และมีเพียงเหล้าเท่านั้นที่ช่วยฆ่าเวลาให้เขาได้  คนอื่นๆ อาจไม่รู้และไม่เข้าใจว่าทำไมคิบอมถึงเกลียดผู้หญิงนักจะมีก็แต่คิบอมเท่านั้นที่รู้ว่าทำไม

     

     




     

    นายท่าน  ขอร้องเถอะครับ  โฮ  ผมสัญญาว่าจะไม่พลาดอีกแล้ว  ขอโอกาสผมสักครั้งเถอะครับ  นายท่านเสียงร้องอ้อนวอนขอชีวิตอย่างน่าเวทนาจากชายหนุ่มวัยกลางคนซึ่งถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนขนาดใหญ่ร้องอ้อนวอนทั้งน้ำตาที่นองหน้าไม่สมกับเป็นชายชาตรีเลยสักนิด  ชายวัยกลางคนอิ้นไปดิ้นมาเหมือนกับวัวที่กำลังจะโดนเชือดปากก็ร้องขอชีวิตอย่างน่ารำคาญ  ฮันคยองมองชายตรงหน้าด้วยแววตาเลือดเย็นและสงบนิ่งอย่างประหลาด  ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเขากำลังรู้สึกหรือนึกคิดสิ่งใดอยู่นอกจากตัวของเขาเอง

    ในโลกของมาเฟีย  สองสิ่งที่ไม่มีคือคำว่าพลาดและโอกาสครั้งที่สอง  ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามันไม่ตายแกก็ต้องตาย  ยังไงซะ  เรื่องนี้ก็ต้องมีคนตายฮันคยองบอกอย่างใจเย็น  เขาเดินไปหยิบดาบสีเงินที่วางอยู่ออกมาจากฝักด้วยท่าทีสุขุมและเย็นชา  ปลายดาบสะท้อนกับแสงไฟกลางห้องจนเกิดประกายวูบวาบสะท้อนเข้าดวงตา

    อ๊าคคค  ไม่นะครับนายท่าน  ขอร้อง  ไว้ชีวิตผมด้วย  ผมต้องหาเลี้ยงครอบครัวของผม  ถ้าไม่มีผมพวกเขาจะอยู่ยังไง  ขอร้องชายคนนั้นร้องโวยวายและดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากโซ่ตรวนหนาแม้จะรู้ดีว่าไม่มีทางแต่นี่ก็เป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของชีวิต

    แกไม่อยากตายเพราะมีครอบครัวสินะ  หึหึ  ไม่ต้องห่วง  ฉันจะส่งพวกมันไปอยู่กับแกในนรก...ตามไปดูแลกันในนรกยังไงล่ะฮันคยองพูดอย่างใจเย็นขณะที่ย่างเท้าเข้าไปใกล้เหยื่อของเขาเรื่อยๆ  ชายคนดังกล่าวร่ำไห้เสียงดังอย่างไม่อายและดิ้นหนีจนล้มลงไปพร้อมเก้าอี้  เขาพยายามกระเสือกกระสนตัวเองไปที่ประตู

    อ๊าคคคเขาร้องเสียงหลงเมื่อถูกมีดดาบแทงลงที่ข้อเท้า  ชายคนดังกล่าวถึงกับร้องไม่ออกและเหลือกตามองหน้าฮันคยองอีกครั้ง  ฮันคยองไม่พูดอะไรนอกจากแสยะยิ้มและนั้นเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่ชายคนนี้ได้เห็นบนโลกใบนี้

    คนที่พลาดจะต้องตายฮันคยองบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น  เขากดปลายดาบลงที่หนาอกตรงตำแหน่งหัวใจของชายคนนั้นแต่ไม่ได้กดลงไปลึกนักเขาปล่อยให้ชายผู้นั้นดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดก่อนจะดึงมีดออกมาพร้อมกับเลือดสีแดงฉานที่พุ่งปรี๊ดออกมา

    ไปเอาอดัมกับอีฟออกมาฮันคยองหันไปสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม  แววตานึกสนุกเมื่อจะได้เห็นการแสดงล่าเนื้อสดๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น

    โฮกกกกเพียงชั่วพริบตาเสือลายพลาดกลอนขนาดใหญ่มหึมาก็ออกมาพร้อมกับคำรามเสียงดังลั่นราวกับโมโหที่ไปคนปลุกมันตอนนอนหลับ

    เต็มที่เลยนะอดัม อีฟฮันคยองเดินไปลูบหัวเสือโคร่งตัวใหญ่และบอกกับมันด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  เสือดุร้ายดูสงบลงผิดปกติเมื่อฮันคยองเดินเข้าไปใกล้  นี่ไงล่ะที่เขาบอกว่า...ฮันคยองน่ากลัวกว่าเสือเพราะแม้แต่เสือยังกลัวเขา 

    อ๊าคคคคชายคนดังกล่าวร้องลั่นอย่างหวาดกลัวแต่ก็ไม่มีประโยชน์เมื่อเสือร้ายคืบคลานเข้ามาใกล้และล้อมเขาเอาไว้ราวคือเหยื่ออันโอชะ  ฮันคยองและลูกน้องเดินออกไปข้างนอกและปล่อยให้อดัมและอีฟของเขาจัดการกับอาหารดิ้นได้ให้แล้วเสร็จ

    พาครอบครัวของมันไปเจอกันซะ  เอาให้เรียบฮันคยองหันไปสั่งการลูกน้องที่เหลือด้วยน้ำเสียงกึกก้อง  นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนที่ทำงานพลาดเพราะคำว่าพลาดสำหรับเขาคือตาย  แววตาไหววูบเมื่อมองเลือดที่ฉาบอยู่บนปลายดาบแหลมก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง  ทั้งหมดคือปรัชญาของโลกมาเฟีย  คนไร้ประโยชน์และคนที่ทำงานพลาดไม่สมควรจะได้อยู่แย่งชิงอากาศบนโลกใบนี้  ความตายคือสิ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกหยิบยื่นให้  โลกใบนี้ไม่มีหัวใจและคำวว่าให้อภัย  คนแข็งแกร่งกว่า  ไร้หัวใจกว่า และฉลาดกว่าเท่านั้นจึงจะได้เป็นหนึ่งและอยู่นานที่สุด  ต้องขอบคุณผู้ให้กำเนิดที่สอนให้เขาเป็นเช่นนี้และยังสอนอีกด้วยว่าโลกมาเฟียไม่มีคนรักและญาติพี่น้อง  มีเพียงผลประโยชน์และศัตรูเท่านั้น


     

    +++++++++++++++++++++++++++ส่วนนี้ถูกตัดออก++++++++++++++++++++++++




    แหม  วันนี้ลงมานั่งรอที่โต๊ะเลยนะครับ คุณลีฮยอกแจเสียงหวานใสเอ่ยทักคนร่างบางด้วยน้ำเสียงสดใสแต่สำหรับคนที่โดนทักแล้วกลับมองว่ามันเสแสร้งและดูเหมือนเย้ยหยันอยู่ในที  ทงเฮอมยิ้มมุมปากเมื่อเห็นฮยอกแจเอาแต่นิ่งเงียบและก้มหน้ากินข้าวต้มโดยไม่พูดอะไรแต่นั้นไม่ได้ทำให้ทงเฮพอใจกับปฎิกิริยาของคนหน้าหวานตรงหน้านักเพราะทงเฮตั้งใจที่จะยั่วโมโหให้ฮยอกแจลุกขึ้นมาฉะกับเขาเสียมากกว่า

    ผมขอนั่งตรงนี้นะครับทงเฮเลื่อนเก้าอี้ตัวข้างๆ ฮยอกแจและนั่งลงโดยไม่สนว่าฮยอกแจจะยินดีหรือไม่  ฮยอกแจได้แต่ข่มใจเอาไว้ไม่โต้ตอบคนที่พยายามยั่วตนให้โมโหเพราะไม่อยากให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต  ทงเฮเหลือบมองใบหน้าสงบนิ่งของฮยอกแจด้วยแววตาเย้ยหยันปนสะใจเล็กๆ  เมื่อคืนนี้ฮยอกแจคงจะได้เห็นอะไรดีๆ ระหว่างเขากับชีวอนจนเต็มสองหูและสองตาเลยสินะ  ตอนนี้นั่งนิ่งอยู่ได้ทั้งๆ ที่เขาพยายามยั่วโมโหเต็มที่แล้วเชียว...อย่างงี้มันก็ไม่สนุกน่ะสิ

    ฉันพึ่งรู้นะว่ามันสนุก...นายถึงเข้าไปหานายใหญ่บ่อยๆ ใช่ไหมทงเฮใช้ช้อนคนข้าวต้มในถ้วยไปมาและเอ่ยถามฮยอกแจยิ้มๆ ด้วยน้ำเสียงกวนประสาทและสิ้นคำของทงเฮ  ฮยอกแจถึงกับวางช้อนข้าวต้มอย่างแรงจนน้ำกระเด็นไปถูกตัวทงเฮเล็กน้อย  ใบหน้าหวานหันมาจ้องคนที่มีใบหน้าสวยหวานไม่แพ้ตนอย่างโมโหและโกรธจัด

    แกยุ่งกับเขาทำไม ทงเฮ   แกก็รู้ว่าฉันไปถึงไหนๆ กับเขาแล้ว  แกอยากให้ฉันเกลียดแกมากกว่าเดิมใช่ไหมฮยอกแจกระชากแขนทงเฮขึ้นมาบีบไว้แน่นจนมันขึ้นรอยช้ำ  ทงเฮได้แต่ส่งยิ้มเยือกเย็นกลับไปให้และสบตากับฮยอกแจอย่างไม่เกรงกลัว

    ใช่  ฉันอยากให้แกเกลียดฉันให้มากๆ  เกลียดให้มากเหมือนที่ฉันเกลียดแกไง...แกมันคนหลอกลวง  ฉันปล่อยให้แกเดินหายใจร่วมบ้านกับฉันได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว  อย่าว่ากันเลยนะ  ฮยอกแจ...แกกับฉันใช้ผู้ชายคนเดียวกันแล้วนะ  ที่รักทงเฮยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ  สายตาบ่งบอกถึงความรังเกียจและโกรธแค้นฮยอกแจอย่างรุนแรงแม้ว่าลึกๆ แล้วมันจะเจ็บปวดมากกว่าก็ตาม  ฮยอกแจกัดฟันแน่นและพยายามนับเลขในใจเพื่อไม่ให้มือเผลอไปตวัดใส่ใบหน้าหวานของทงเฮเข้า  ในขณะที่ทงเฮยังคงลอยหน้าลอยตายั่วโทสะของฮยอกแจด้วยใบหน้ากวนประสาท

    ลีทงเฮในที่สุดความอดกลั้นก็มาถึงจุดระเบิดเพราะฮยอกแจเองก็ไม่ใช่คนที่มีความอดทนต่อสิ่งยั่วยุมากนัก  มือบางปล่อยแขนของทงเฮและเปลี่ยนมาบีบที่คางสวยแทนด้วยพละกำลังที่สามารถทำให้คางของทงเฮหักได้เลยทีเดียว

    ถ้าแกคิดจะสู้กับฉันด้วยมือเปล่าก็เอาสิ ฮยอกแจทงเฮพูดอย่างท้าทายและอวดดีเพราะเขามั่นใจฝีมือการต่อสู้ในระยะประชิดตัวด้วยมือเปล่าของตน  ถ้าจะสู้กันด้วยวิธีนี้ฮยอกแจไม่มีทางชนะเขาแน่เพราะฮยอกแจถูกฝึกให้เชี่ยวชาญในการใช้ปืน  ยาพิษ และลอบฆ่าส่วนเขาถูกฝึกให้เชี่ยวชาญในการใช้เชือก มือเปล่าและการสังหารคนในระยะประชิดแต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ปืน  ร้อยทั้งร้อยเขาไม่มีทางสู้ฮยอกแจได้แน่

    แกมั่นใจเหลือเกินนะทงเฮ  แกมั่นใจแล้วเคยเอาชนะฉันได้รึเปล่าล่ะ...ยอมรับเถอะว่าแกน่ะแพ้ฉันทุกอย่างนั้นเหละฮยอกแจยิ้มอย่างเลือดเย็นและลงน้ำหนักมือที่คางสวยๆ ของทงเฮ  ในขณะที่ทงเฮนิ่งอึ้งและไม่ยอมตอบโต้  แว้บเดียวเท่านั้นที่ฮยอกแจได้เห็นสีหน้าอันเจ็บปวดของทงเฮ  แววตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความรักและความผูกพันก่อนมันจะแปรเปลี่ยนเป็นความแข็งกร้าวและดุดัน

    ฉันจะฆ่าแกทงเฮตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังก้องอย่างเจ็บแค้นก่อนมือบางจะคว้ามือฮยอกแจและบิดมันออกจากคางของตน  พริบตาเดียวเท่านั้นทงเฮสะบัดมือลงที่ใบหน้าหวานของฮยอกแจอย่างแรง

    เพียะ  เสียงดังสนั่นจากมือที่กระทบกับเนื้อ  ฮยอกแจหน้าสะบัดไปอีกทางพร้อมด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก  ทงเฮแสยะยิ้มอย่างเป็นต่อและพุ่งเข้าใส่ฮยอกแจที่ตั้งหลักช้าไปนิด

    หยุดนะก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปมากกว่านี้  น้ำเสียงทรงอำนาจและน่าเกรงขามก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน  ทงเฮจำต้องชะงักและสะบัดหน้าไปอีกทางด้วยสีหน้าเจ็บใจที่ทำได้แค่ตบฮยอกแจไปทีเดียวทั้งๆ ที่เขากะจะพุ่งมีดเสียบท้องฮยอกแจเลยแท้ๆ  ส่วนฮยอกแจก็ได้แต่ก้มหน้าและไม่วายเหลือบมองทงเฮอย่างอาฆาต

    ฉันอุตส่าห์เลี้ยงให้เหมือนคน  แต่กลับทำตัวเฉียดคำว่าหมาเข้าไปทุกที  มีกันแค่สองคนแทนที่จะรักกันแต่กลับกัดกันเองซะได้...นายใหญ่หรือเชวชีวอนด่ากราดอย่างหงุดหงิด  เขาแค่ลงมาที่โต๊ะอาหารเช้าช้าแค่ไม่กี่นาที  คนในปกครองของเขาก็ลงมือฟาดกันเละซะแล้ว  ชีวอนได้แต่มองหน้าทงเฮสลับกับฮยอกแจอย่างโมโห  เขาถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างสะกดกลั้นและพยายามข่มอารมณ์ให้เป็นปกติที่สุดก่อนจะเรียกทงเฮด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

    ทงเฮ...สิ้นเสียงชีวอน  ฮยอกแจก็หันขวับไปมองทงเฮแทบจะทันทีส่วนทงเฮก็ได้แต่นึกลำพองใจและตวัดหางตามามองฮยอกแจที่จ้องตนอยู่ก่อนแล้วด้วยสีหน้าเย้ยหยันสะใจ

    เขาเรียกฉัน...ทงเฮขยับปากบอกฮยอกแจและชี้นิ้วมาที่ตัวเอง  ไม่มีเลยสักครั้งที่ชีวอนจะมองเห็นหรือเรียกชื่อทงเฮก่อนฮยอกแจ  แต่หลังจากเมื่อคืนนี้ที่เขาได้เข้าไปหาและตอบสนองชีวอนแบบเดียวกับที่ฮยอกแจเคยทำ  ชีวอนก็เรียกชื่อเขาเป็นคนแรกในเช้านี้...แล้วแบบนี้จะไม่ให้สะใจได้ยังไงในเมื่อคนโปรดของชีวอนกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว

    มารับซองนี่ไปสิชีวอนยื่นซองกระดาษสีดำให้ทงเฮและยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก  ทงเฮก้มหน้าเดินไปหาชีวอนและยื่นมือไปรับด้วยท่าทีสำรวมแต่แววตากลับจ้องชีวอนแทบจะกลืนกิน  ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อยๆ เป็นการสื่อความหมายให้แก่คนร่างสูงที่มองตนด้วยแววตาสงบนิ่งแต่มันแฝงไปด้วยความหื่นกระหายในแบบของผู้ล่า  ฮยอกแจได้แต่กัดกรามแน่นกับภาพตรงหน้า  ทั้งเจ็บใจทั้งแค้นใจแม้จะรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกอะไรทั้งนั้น...คำว่าไม่มีสิทธิ์ยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บ  ราชันย์ที่ไร้หัวใจกับทาสรับใช้ที่มีความรักจะมอบให้  คนนึงไม่ต้องการแต่อีกคนกลับอยากที่จะให้...นี่ล่ะมั้งคำจำกัดความของชีวอนและฮยอกแจ

    เหยื่อรายใหม่หรือครับ  งานยากนะครับเนี่ย  หล่อแบบนี้ผมจะฆ่าได้เหรอทงเฮมองรูปถ่ายในมือแล้วหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมด้วยถ้อยคำทีเล่นทีจริง  เขามองรูปของชายที่อายุน่าจะไล่เลี่ยกับเขาด้วยแววตาเลือดเย็น  ถึงจะหล่อมากกว่านี้ก็ต้องฆ่า  น่าเสียดายที่เกาหลีกำลังจะสูญเสียผู้ชายหน้าตาดีไปอีกคน

    มีเวลาให้เล่นด้วยอยู่นะทงเฮ  ก่อนที่จะฆ่าต้องสืบเรื่องในพรรคที่ตาของเจ้าหมอนี่เป็นหัวหน้าอยู่แล้วหลังจากที่ได้ข้อมูลมาจนครบแล้วก็จัดการมันซะ...ทั้งครอบครัวชีวอนบอกอย่างสุขุมและอมยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ  ก่อนที่ดวงตาของทงเฮกับชีวอนจะสบกันด้วยความตั้งใจ   เนิ่นนานอยู่อย่างนั้นราวกับจะใช้สายตาสื่อสารกันแต่ก็เป็นการสื่อสารกันในเรื่องอย่างว่าเสียมากกว่า  ไร้ซึ่งความผูกพันและรักใคร่ใดๆ ทั้งสิ้น

    เพลี้ยง

    ฮยอกแจตั้งใจปัดแจกันที่อยู่ใกล้ๆ ให้หล่นลงกับพื้นด้วยโทสะและอารมณ์หึงหวงที่แล่นอยู่ในจิตใจ  ทั้งสองจำต้องหันมามองต้นเหตุของเสียง  ทงเฮเบ้ปากนิดๆ กับการทำลายข้าวของเรียกร้องความสนใจของฮยอกแจส่วนชีวอนก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมและมองด้วยสายตาว่างเปล่า

    ฮยอกแจตามฉันไปที่ห้องทำงานชีวอนเอ่ยกับฮยอกแจด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบยิ่งกว่าเขาหมุนตัวหันหลังและเดินขึ้นบันไดไปทันที  ฮยอกแจจึงเดินตามหลังชีวอนไปห่างๆ แต่ก็ไม่วายหันมาจ้องหน้าทงเฮที่ยืนผิวปากอย่างอารมณ์ดี

    ระวังตัวไว้นะทงเฮ  อย่าหันหลังให้ฉันก็แล้วกันฮยอกแจกัดฟันพูดกับทงเฮด้วยความแค้นใจ  ทงเฮเข้าใจความหมายดีแต่ก็เชิดหน้าใส่ฮยอกแจและเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี  ฮยอกแจมองตามแทบเหลียวหลัง  ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าทงเฮจะทำกับเขาขนาดนี้  ทั้งๆ ที่เราเคยรักกันดีแท้ๆ  สิ่งที่ทงเฮทำก็เหมือนแทงข้างหลังเขาเพราะ เขารักชีวอนแบบคนหนุ่มสาวไม่ใช่รักแบบผู้มีพระคุณ

     

    ฮยอกแจผลักประตูไม้บานใหญ่ที่คุ้นเคยและค่อยๆ ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของชีวอนด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากครั้งก่อนๆ  ไม่มีความดีใจ ตื่นเต้นอย่างที่ผ่านมาแต่มันมีแต่ความเสียใจ  ผิดหวังและโกรธนิดๆ แม้ว่าชีวอนจะเคยบอกไว้ว่าให้พยายามทำตัวว่างเปล่าและไร้ความรู้สึก 

    ฮยอกแจมาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของชีวอนและก้มหน้าลงต่ำมองที่พื้นโต๊ะไม้สีน้ำตาลซึ่งถูกขัดจนขึ้นเงา

    เงยหน้าขึ้นสิชีวอนบอกคนหน้าหวานที่ยืนก้มหน้าท่าทางสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนด้วยน้ำเสียงนิ่ง  แววตาสีนิลจ้องคนตรงหน้าอย่างแปลกใจที่วันนี้ฮยอกแจดูซึมเศร้าไม่สดชื่นเหมือนทุกครั้ง  ฮยอกแจหลับตาลงเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับชีวอนตรงๆ แววตาคู่นั้นกำลังดึงดูดให้เขาอยากเข้าไปใกล้อีกแล้วทุกครั้งที่ได้สบตากับชีวอน  เขาไม่เคยควบคุมความต้องการของตัวเองได้เลย

    เจ็บรึเปล่าชีวอนมองไปที่แผลของฮยอกแจและลุกเดินเข้าไปใกล้  ฮยอกแจไม่ตอบอะไรนอกจากก้มหน้าลงอีกครั้งหนึ่งจนมือหนาต้องจับตัวคนร่างบางให้หันมาเผชิญหน้ากับตนและเชยคางมนขึ้นให้สบตากับตัวเองตรงๆ  แม้จะไม่ค่อยรู้สึกต่ออะไรมากนักแต่ชีวอนก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ที่เด็กในปกครองของเขาทำท่าเมินเฉยใส่

    กำลังรู้สึกยังไงชีวอนถามขึ้นอีกครั้งและจ้องหน้าฮยอกแจอย่างคาดคั้น  เขาไม่ชอบเดาความรู้สึกของใครจึงชอบที่จะถามออกไปตรงๆ มากกว่าเพราะความรู้สึกที่ชาวบ้านเรียกกันว่า รัก โกรธ ไม่พอใจ คิดถึง หรืออะไรแบบนั้นเขาไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าใดนักเพราะเขาเป็นคนที่มีความรู้สึกที่ไม่หลากหลายเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ และฮยอกแจดูจะมีความรู้สึกที่หลากหลายมากกว่าใครทั้งหมดในบ้านหลังนี้  บางทีเขาควรที่จะเรียนรู้มันจากฮยอกแจรึเปล่า

    ฮยอกแจไม่ตอบอะไรกลับไปเพราะมัวแต่ติดอยู่ในวังวนของดวงตาคมเข้ม  ชีวอนเห็นสายตาของฮยอกแจก็เข้าใจในทันทีแต่เขายังไม่ต้องการมันตอนนี้จึงส่งยิ้มเย็นที่มุมปากกลับไปเท่านั้น

    ได้เวลาทวงคืนแล้วนะฮยอกแจ  ความยุติธรรมของนายน่ะ...สะสางมันให้เรียบร้อยสิชีวอนบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบและแฝงไปด้วยความเหี้ยมเกรียม  มือหนาประคองใบหน้าหวานและใช้นิ้วหัวแม่มือกดแผลที่มุมปากของฮยอกแจแต่ความเจ็บปวดเพราะบาดแผลที่ถูกกดทับนั้นไม่ได้สะเทือนต่อฮยอกแจเท่าใดนักเพราะเขากำลังนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดกับพ่อและแม่สุดที่รักของเขา  เพราะตระกูลของพวกมันที่ทำให้ฮยอกแจมีอดีตที่เลวร้ายเช่นนี้...ถึงเวลาชำระแค้นแล้วสินะ

    ฉันจะส่งตัวนายเข้าไปในฐานะหลานชายของนางบำเรอที่ไอ้ฮันซุกมันเลี้ยงไว้...ใช้โอกาสของนายให้เต็มที่ยิ่งมันพินาศเท่าไหร่นายก็ชนะมากเท่านั้น  สุดท้ายก็ฆ่ามันทั้งครอบครัวเหมือนที่มันทำกับนายชีวอนเบียดตัวเข้าไปชิดฮยอกแจมากขึ้นและกระซิบอย่างแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยอำนาจ  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของฮยอกแจสงบนิ่งและเงยขึ้นสบกับดวงตาสีนิลของชีวอน

    ผมไม่พลาดแน่ฮยอกแจตอบกลับด้วยความมั่นใจและเยือกเย็น  เขาตั้งใจฝึกฝนมาตลอดสิบปีเพื่อวันนี้  ฝึกมาเพื่อฆ่าพวกมัน  ไอ้ฮันซุก...ชื่อที่เขาจำได้มาจนถึงทุกวันนี้

    ฉันรู้ดีว่านายไม่เคยพลาดและนายก็ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังด้วย ฮยอกแจชีวอนหัวเราะในลำคอเบาๆ  แล้วเบียดกายให้แนบชิดกับฮยอกแจมากขึ้น  หน้าขาของฮยอกแจเสียดสีกับเจ้าป่าน้อยของชีวอนที่กำลังพองโตและจะคำรามออกมา  ฮยอกแจยกมือขึ้นทาบอกแกร่งที่ผ่านการออกกำลังกายมามากจนสวยงามได้ขนาดนี้ มือบางเล่นปูไต่ไปเรื่อยกับอกของชีวอนพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่ส่งให้คนร่างสูง  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับสีผมสบกับดวงตาคมสีนิลที่เป็นดั่งมนต์ตราน่าหลงใหลที่สะกดฮยอกแจให้เคลิบเคลิ้มและหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น  ความโหยหาและต้องการคุกกรุ่นอยู่ในกายของฮยอกแจจนยากจะต้านทาน  มือบางปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีน้ำตาลออกสองเม็ดเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยรำไร  ชีวอนเบียดกายให้ชิดกับฮยอกแจ   มือหนาจับที่สะโพกมนและบีบเค้นมันเบาๆ

    “แต่อย่าไปนานนักนะเพราะฉันคงเหงา”ชีวอนกระซิบที่ข้างหูฮยอกแจด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและใช้ปากหนาขบที่หูฮยอกแจเบาๆ ก่อนจะแทะเล็มที่ติ่งหูของฮยอกแจจนเจ้าตัวเคลิบเคลิ้มแต่ชีวอนปล่อยให้ฮยอกแจเคลิ้มเพียงไม่นาน  ร่างสูงก็เหวี่ยงร่างบางไปกระแทกกับประตู

    ผลั่ก  ฮยอกแจนิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความจุกและเพียงชั่วพริบตาชีวอนก็ตามมาขนาบร่างบางเอาไว้  มือหนาเชยคางเรียวให้เงยหน้าขึ้นสบตากับตน  ฮยอกแจยิ้มออกมาเมื่อเห็นแววตาของสิงโตร้ายที่กำลังเผยโฉมออกมาทีละนิด  ความต้องการของชีวอนรุนแรงจนคนปกติยากที่จะรับได้แต่นั่นคือสิ่งที่ฮยอกแจต้องการ  ยิ่งเขารุนแรงราวกับพายุคลั่งมากเท่าไหร่  ฮยอกแจก็รู้สึกอิ่มเอมมากเท่านั้น

    “ผมคงต้องไปนาน  เต็มที่เลยนะครับนายใหญ่”ฮยอกแจกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นๆ พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก  ชีวอนมองฮยอกแจอย่างหื่นกระหายเพียงพริบตาเดียว  ปากหนาก็ครอบครองริมฝีปากบางไม่ให้พูดได้อีก  ชีวอนกดจูบและส่งลิ้นดุนดันเข้าไปในปากของฮยอกแจราวกับจะกวาดต้อนทุกอย่างที่อยู่ในนั้นออกมาไร้ซึ่งความอ่อนโยนและนุ่มนวลมีเพียงความกักขฬะและร้อนแรงแบบที่ฮยอกแจต้องการ


    +++++++++++++++ตัดออก++++++++++++++++NC+++++++++++++++++



    ทุเรศจริงๆเลย  ถ้าฉันรู้ว่าคนที่จะมาดูตัวเป็นเธอ  ฉันไม่เสียเวลามาหรอก ชิซองมินตบโต๊ะเสียงดังด้วยความไม่พอใจ  ดวงตากลมโตจ้องหน้าหญิงสาวน่าตาจิ้มลิ้มตรงหน้าอย่างดูแคลน คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันและไล่สายตามองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า

    เธอน่ะชื่อซันนี่ใช่ไหม...นี่   แม่ซันนี่  ระหว่างเธอกับฉันใครน่ารักกว่ากันซองมินเชิดหน้าถามด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆ แต่ก็แอบสะใจนิดๆ ที่เห็นสีหน้าของยัยตุ๊กตาหน้าเดียวเริ่มเจื่อนลงเรื่อยๆ  ซันนี่ถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงเลยทีเดียว  ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ถ้าบอกว่าเธอน่ารักกว่า  ซองมินก็ต้องไม่พอใจและพาลต่อว่าเธอตามประสาคนเอาแต่ใจตัวเองแต่ถ้าตอบว่าซองมินน่ารักกว่าเธอมันก็ดูเสียหน้าชอบกล  ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงแล้วผู้ชายจะมาน่ารักกว่าได้ยังไงกัน 

     

    ตอบมาเร็วๆ สิ...ฉันกับเธอใครน่ารักกว่ากันซองมินถามซ้ำอีกรอบด้วยความหงุดหงิดและยิ่งจิกตาใส่ซันนี่มากกว่าเดิม  ซันนี่แอบถอนใจอย่างอึดอัดนิดๆ  ตอนแรกก็ดีใจอยู่หรอกที่คนมาดูตัวเธอในวันนี้เป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยที่เธอแอบปลื้มความน่ารักแม้จะได้ยินเกียรติศักดิ์ร่ำลือถึงความเอาแต่ใจและวีนเหวี่ยงมาบ้าง

     

    พี่...พี่ซองมินน่ารักกว่าค่ะในที่สุดซันนี่ก็ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน  ซองมินได้ยินเช่นนั้นก็เชิ่ดหน้ายิ้มอย่างภูมิใจและอดไม่ได้ที่จะหยิบกระจกเล็กๆ สีชมพูที่พกติดตัวไว้มาส่อง  ของมันแน่อยู่แล้วล่ะ  ใครๆ ก็บอกว่าฉันน่ารักเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ แล้วผู้ชายน่ารักอย่างฉันจะแพ้ผู้หญิงหน้าตาอย่างเธอได้ยังไง

     

    ซองมินเก็บกระจกแล้วตีหน้าขรึมตามเดิม  เขามองซันนี่ด้วยหางตาราวกับไม่อยากที่จะเห็นอีกก่อนจะลุกขึ้นและกอดอกเชิดๆ

    ฉันไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่น่ารักน้อยกว่าฉันหรอกนะ  อย่าเจอกันอีกเลยซองมินกระแทกเสียงใส่ตรงประโยคสุดท้ายและเดินไปโดยไม่ปล่อยให้ซันนี่ได้กล่าวลาเลยสักนิด  ซันนี่ได้แต่นั่งก้มหน้าด้วยอารมณ์อยากจะบ้าตาย...ไม่นึกว่าซองมินจะมีนิสัยเลวร้ายขัดกับหน้าตาได้ขนาดนี้  ทั้งหยิ่ง ทั้งจองหอง และเอาแต่ใจตัวเอง

     

    ซองมินเดินหน้าตูมออกมาจากร้านเมื่อนึกถึงใบหน้าเหี้ยมโหดของพี่ชาย  ไม่สิ  ผู้ชายที่เขาต้องเรียกว่าพี่ต่างหาก...ฮันคยองชอบจับเขาไปดูตัวกับคนนู้นคนนี้เหมือนเขาเป็นตุ๊กตาและทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเลวๆ ทั้งนั้น  ไม่มีใครเลยที่คิดจะจริงใจกับเขาและเขาไม่มีทางแต่งงานกับคนที่พี่ชายหาให้หรอกนะ

     

    แต่ซองมินก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับได้แป๊ปเดียว  ร่างเล็กที่ค่อนข้างอวบอัดรีบวิ่งไปหาผู้ชายใส่สูทสวมแว่นดำที่ยืนพิงรถคันหรูด้วยความร่าเริงและลืมเรื่องราวหงุดหงิดใจก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น

    หวัดดีฮะคุณโจวซองมินโบกมือทักทายคนหล่ออย่างอารมณ์ดี  ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มกว้างจนเห็นไรฟันพร้อมกับสายตาระยิบระยับแต่คนหล่อตรงหน้ากลับวางสีหน้าเฉยชาและนิ่งสนิท

    ครับ  คุณหนูโจวคยูฮยอนตอบรับร่างอวบด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำและแทบจะไม่ได้ขยับปาก  ก่อนจะบริการคุณหนูลีซองมินด้วยการเปิดประตูรถให้ร่างอวบขึ้นไปนั่ง 

     

    ซองมินหุบยิ้มแทบไม่ทันและก้าวขึ้นรถไปด้วยสีหน้าหงุดหงิดและขัดใจเล็กน้อย  เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง...โจวคยูฮยอนหรือบอดี้การ์ดและคนขับรถส่วนตัวของเขามักจะตอบกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยและพูดอยู่ประโยคเดียวคือ  ครับคุณหนู 

     

    หลังจากนั้นคยูฮยอนก็จะไม่ปริปากพูดอะไรออกมาอีกเลยทั้งวัน  ซองมินมองด้านหลังของคนที่ขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งของตัวเองด้วยความหงุดหงิดปนน้อยใจ  คยูฮยอนใช้เวลาอยู่กับเขามากกว่าคนในครอบครัวเสียอีกแต่แทนที่จะสนิทสนมกันซองมินกลับรู้สึกว่าคยูฮยอนค่อยๆ ห่างเขาออกไปเรื่อยๆ  ยิ่งนานวันช่องว่างระหว่างคุณหนูลีกับบอดี้การ์ดโจวก็มากขึ้นๆ จนซองมินอดไม่ได้ที่จะน้อยใจ  ซองมินมักเป็นคนที่หยิบยื่นไมตรีให้แก่คยูฮยอนก่อนเสมอแต่คยูฮยอนกลับไม่สนใจและมองข้ามมันไป ....... นี่เขาใส่อารมณ์กับคนขับรถของตัวเองมากเกินไปรึเปล่านะ  คุณหนูตระกลูลีผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาจำต้องมานั่งเอาใจคนขับรถของตัวเองด้วยงั้นหรือ

     

    น่าเบื่อจังเลยนะครับคุณโจว  วันนี้ผมมาดูตัวกับผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ คนนึง...คุณโจวรู้ไหมฮะว่าผมน่ารักกว่าเธอคนนั้นอีกนะครับซองมินพูดกลั้วหัวเราะเพื่อให้บรรยากาศรอบตัวผ่อนคลายลง  เขาไม่ชอบนั่งเงียบไปตลอดทางหรอกนะและทุกวันเขาก็จะมีเรื่องมาเล่าให้คยูฮยอนฟังไม่ซ้ำกันเลย  บางวันหงุดหงิด บางวันเสียใจ บางวันมีความสุข  เขาก็จะเก็บเรื่องราวของตัวเองในแต่ละวันมาเล่าให้คยูฮยอนฟังและแม้แต่ความลับที่ไม่มีใครรู้  เขาก็ยังไว้ใจที่จะบอกมันกับคยูฮยอนเพราะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ กับคนขับรถแสนเฉยชาคนนี้

    ผมน่ารักกว่าผู้หญิงคนนั้นอีกนะครับคุณโจวซองมินเน้นคำว่าน่ารักกว่าผู้หญิงและยื่นหน้าไปตรงกลางระหว่างเบาะอย่างจงใจและค่อนข้างเปิดเผย  แก้มของเขาแทบจะแนบชิดกับแก้มของคยูฮยอนและห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตร  ซองมินค่อยๆ หันไปหน้าไปหาคยูฮยอน  สายตาจับจ้องอยู่ที่สันจมูกไล่ลงมาที่ริมฝีปากด้านล่างเหมือนมีมนต์สะกดอะไรบางอย่างที่บอกให้ซองมินขยับหน้าไปใกล้ให้มากขึ้นๆ  ซองมินค่อยๆ ยื่นหน้าไปหาคยูฮยอนอย่างตั้งใจในขณะที่บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงมองตรงไปข้างหน้าและแทบจะไม่รู้สึกว่ามีคนกำลังคิดที่จะช่วงชิงริมฝีปากของตน

     

    เอี๊ยดดดดดด

     

    โอ้ยคยูฮยอนเบรกรถตัวโก่งจนซองมินหัวทิ่มไปข้างหน้า   คยูฮยอนเหลือบตามองนิดๆ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา  ซองมินถึงกับร้องโอดโอ้ยเมื่อหัวไปโขกกับกระจกรถด้านหน้า

    ไฟแดงครับคุณหนูคยูฮยอนยังบอกด้วยอาการนิ่งเฉยและคำว่าขอโทษที่สมควรจะพูดมันออกมากลับไม่มีและไม่คิดที่จะเอ่ยมันกับคนที่มีศักดิ์เป็นเจ้านาย  ซองมินไม่ว่าอะไรแต่หันกลับมามองคยูฮยอนตาขวางๆ

    คุณหนูกลับไปนั่งที่เถอะครับคยูฮยอนสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบและนั่นก็ยิ่งทำให้ซองมินไม่พอใจแต่ก็จำยอมผลุบหัวลงไปและทิ้งตัวกับเบาะหลังรถ  ซองมินมองด้านหลังของคยูฮยอนอย่างใช้ความคิดและต้องการที่จะเอาชนะ....ที่ซองมินไม่ยอมมองใครและไม่ตอบตกลงคนที่ฮันคยองหามาให้เลยสักคนเพราะใครกันล่ะถ้าไม่ใช่เพราะโจวคยูฮยอนคนนี้ 

     

    ผมไม่มองใครเลยก็เพราะคุณนั้นเหละ คุณโจว

     

    และถึงแม้ว่าโจวคยูฮยอนจะรับรู้หรือไม่ก็ตามว่าได้ขโมยหัวใจคุณหนูขี้วีนคนนี้ไปแล้ว  ลีซองมินก็จะทำให้คยูฮยอนรับผิดชอบมันให้ได้  ต่อไปนี้จะไม่ใช่แค่ซองมินที่แอบมองคยูฮยอนด้วยสายตาแบบนี้แต่คยูฮยอนต้องหันกลับมามองเขาด้วยความรักและลุ่หลงมากกว่าสองเท่า...ฉันจะรุกนายแล้วนะ โจวคยูฮยอน

     

    ซองมินอมยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์  ดวงตากลมโตมองคยูฮยอนจากด้านหลังอย่างครุ่นคิด  ต่อไปเขาจะไปนั่งมองคยูฮยอนจากเบาะข้างๆไม่ใช่นั่งมองอยู่ที่เบาะด้านหลังแบบนี้

     

     








    อยากอ่านเอ็นซีและส่วนที่ถูกตัดไปก็เม้นและทิ้งเมลล์ไว้ค่ะ จะแก้ปัญหาโดนแบนด้วยวิธีนี้ก่อน  ถ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้ก็จะเปลี่ยนค่ะ
    เรื่องนี้ กระต่ายยั่วนี่หว่า 55

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×