คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Love Of War] INTRO:10 year ago
10 year ago
เปรี้ยง ครืน เปรี้ยง ครืนๆๆ
เสียงพายุที่พัดโหมกระหน่ำพร้อมกับเสียงร้องอันกึกก้องราวกับแผ่นฟ้าพิโรธไม่มีใครรู้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต่างนึกว่ามันเป็นเพียงเหตุการณ์พายุเข้าเหมือนกับครั้งก่อนๆ แต่แท้จริงแล้วในค่ำคืนที่โลกเผชิญความโหดร้ายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติมีอีกความโหดร้ายนึงที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กัน
วันนั้นแผ่นดินเกาหลีนองไปด้วยเลือดด้วยเหตุการณ์ฆาตกรรมสุดสยองขวัญ เหตุการณ์ที่นำพามาซึ่งความแค้นและตราบาปที่ติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์ที่พวกเขาต่างก็ลืมมันไม่ลง
“กรี๊ดดดดดดดดด”
“ม่ายยยยยยยยยย”
เสียงโหยหวน กรีดร้องสลับกับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาจากบ้านพักต่างอากาศริมทะเลที่ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรผ่านไปมานัก บ้านพักขนาดย่อมที่แลดูน่ารักและสงบร่มรื่นจนไม่มีใครเชื่อว่าวันนี้จะได้เกิดเหตุการณ์สยองขวัญที่กล่าวลือกันไปทั่วถึงความโหดร้ายและป่าเถื่อนของฆาตกร
“อย่า อย่า ฉันไม่ได้ทำ ฉันคือผู้บริสุทธิ์ ลีฮีจินไม่ได้ทำ”หญิงสาววัยคุณแม่ที่แลดูสะสวยและงดงามร่ำไห้พร้อมยกมือไหว้ท่วมหัวให้กับชายฉกรรจ์ราวสิบคนที่ล้อมเธอเอาไว้
“แกทรยศต่อท่านฮันซุกและเป็นสายลับให้กับตำรวจ ท่านฮันซุกให้พวกเรามาปลดปล่อยแก”ชายหนุ่มวัยกลางคนที่ดูภูมิฐานเหมือนกับผู้นำในที่นี้ตวาดใส่ด้วยสุรเสียงที่ดังกร้าวแข่งกับเสียงร้องของผืนฟ้า เขาไม่สนใจหญิงสาวที่ยกมือไหว้และร่ำไห้ขอชีวิต
“ฉันไม่ได้เป็นสายลับ ได้โปรด ฉันไม่ได้ทรยศใคร”ลีฮีจินกล่าวอย่างแข็งกร้าวแต่นั้นไม่ได้ทำให้ความคิดของชายผู้นั้นเปลี่ยนไปเขาหันไปหาลูกน้องและพยักหน้าให้ทันที ลูกน้องทั้งหมดราวสิบคนยืนล้อมรอบหญิงสาวเป็นวงกลมพร้อมกับปลายกระบอกปืนที่เล็งไปทิศทางเดียวกัน
“ยิง”สิ้นเสียงของหัวหน้าใหญ่ ลูกน้องทั้งหมดก็ระดมยิงใส่ลีฮีจินท่ามกลางเสียงกรีดร้องโหยหวนที่ค่อยๆ เงียบลงและแน่นิ่งไปในที่สุด เลือดไหลทะลักแดงฉานออกมาตามรูของร่างกายซึ่งถูกเจาะด้วยหัวกระสุนขนาดกลาง ใบหน้าสวยงามเละจนแยกไม่ออกว่าส่วนไหนเคยเป็นตาเป็นจมูก
“ฮึกๆ ลีฮีจิน”เสียงสะอื้นไห้จากผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าเป็นสามีดังออกมาเบาๆ ในช่องแอร์ที่แอบซ่อนตัวไว้ มือของเขาใช้ปิดตาและปากของลูกวัยเพียงสิบขวบที่ต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้
“ไอ้แจวาน ถ้ามึงไม่ออกมากูจะเผาบ้านนี้ทิ้งซะ”เสียงของชายชุดดำคนเดิมตะโกนออกมาพร้อมกับสายตาที่กวาดไปทั่วห้อง แจวานสะดุ้งเฮือกและมองอย่างเจ็บปวด ลีฮีจินผมมันเป็นสามีที่อ่อนแอ ฮึก ผมปกป้องคุณกับลูกไม่ได้
“ฮยอกแจ อย่าร้องไห้นะลูก เอาผ้านี่ปิดตาไว้ซะ แล้วจำไว้ว่า....ลีฮันซุกคือคนที่ทำให้เราเป็นแบบนี้”นั่นคือเสียงสุดท้ายของชายที่ฮยอกแจเรียกว่าพ่อ หลังจากนั้นอาป๋าของเขาก็ลงไปอยู่ท่ามกลางวงล้อมของคนชุดดำเป็นสิบพร้อมกับกระบอกปืนที่กราดยิงใส่ไม่ยั้ง
“อาป๋า ฮึก อาป๋า ออมม่า”ฮยอกแจยกมือปิดปากและหวีดเสียงร้องออกมาแข่งกับสายฝน นั้นเป็นภาพที่โหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กสิบขวบแต่ภาพที่เขาจะได้เห็นต่อไปนี้ต่างหากที่เลือดเย็นกว่า
“โฮกกกกก”เสียงคำรามของสัตว์ใหญ่ดังขึ้นและเผยให้เห็นเสือลายพาดกลอนสองตัวที่มีขนาดใหญ่มหึมา เสือดุร้ายถูกจูงออกมาราวกับสุนัขเชื่องๆ โดยชายฉกรรจ์เพียงสองคน
“เก็บซากให้หมดนะอดัม อีฟ”ชายวัยกลางคนที่คล้ายหัวหน้ากล่าวอย่างอารมณ์ดีและลูบหัวเสือทั้งสองเหมือนมันเป็นแค่ลูกแมวเชื่องๆ ก่อนจะเดินไปพร้อมกับลูกน้องทั้งหมดเหลือทิ้งไว้เพียงเพชฌฆาตลายพาดกลอนที่ดุร้าย
“ม่ายยยยย ออกไปนะ ม่ายยยยย ฮึก”ฮยอกแจตะโกนร้องออกมาจากช่องแอร์เมื่อเห็นเสือร้ายกัดแทะแม่ของเขา เด็กชายน้ำตานองหน้าด้วยความหวาดกลัวและตื่นตกใจ เสือร้ายทั้งสองฉีกทึ้งศพของพ่อและแม่อย่างไม่ปราณี
“อาป๋า ออมม่า ม่ายยยยยยยยยยย”ฮยอกแจหลับหูหลับตาหวีดร้องออกมาแลเหมือนจะขาดใจก่อนสติของเด็กน้อยจะดับวูบเพื่อไม่ให้อยู่ดูภาพโหดร้ายนั้นนานนัก
“ปล่อยกูนะ ปล่อย ฮึกๆ ปล่อย” เสียงร้องแหลมเล็กดังออกมาราวกับจะขาดใจ มือบางและแรงอันน้อยนิดปัดมือหนาและสกปรกทิ้งอย่างรังเกียจ ปากก็พล่ามบอกให้ปล่อยพร้อมกับน้ำตาหยดใสที่ไหลรินออกมาแข่งกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงราวกับพายุเข้า
“ดิ้นทำห่าอะไรอีหอก อย่าทำให้พวกกูหมดอารมณ์นะโว้ย”ชายวัยคะนองด่าทอคนร่างบางออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับหมัดซ้ายที่ปล่อยลงไปกระแทกที่ปากบางจนหน้าหัน วัยรุ่นนับสิบรุมฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเด็กน้อยหน้าหวานราวกับผู้หญิงด้วยความหื่นกระหายโดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามอย่างหวาดกลัวของเด็กน้อยผู้นี้เลยสักนิด
“ปล่อยกูไอ้เหี้ย ไอ้พวกขี้ยา ปล่อยนะ อย่าทำอะไรกู กูขอร้อง”เด็กน้อยร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ตัวสั่นเทาแลด้วยความหนาวเหน็บและมือบางที่พยายามปกปิดส่วนต่างๆ ของร่างกายไว้ คนนึงจ้องแต่จะฉีกแต่อีกคนก็คอยแต่จะปิด
เพียะ เพียะ ตุบ
“เลิกดิ้นสักทีเถอะมึง โดนตั้งแต่อายุยังน้อยน่ะดีแล้วจะได้เก่งๆ ไง ฮ่าฮ่าฮ่า”เสียงหัวโจกของกลุ่มกล่าวออกมาอย่างสะใจเมื่อร่างบางนิ่งเฉยไปเสียแล้วเพราะคงจุกกับหมัดที่โดนอัดเข้าท้องและเจ็บกับมือหนาที่เหวี่ยงไปสัมผัสใบหน้า เมื่อไร้อาการดิ้นรนจากเด็กน้อยผู้น่าสงสาร วัยรุ่นไร้จิตสำนึกเกือบสิบคนก็พากันรุมสัมผัสและลิ้มลองร่างกายบริสุทธิ์ของทงเฮราวกับทงเฮเป็นโต๊ะจีน
“ฮึก ฮึก พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยทงเฮด้วย ฮึก”ทงเฮร้องออกมาเบาๆ เขาร้องเรียกบุคคลที่ไม่มีตัวตนอยู่จริงๆ บนโลกของเขา ตั้งแต่เกิดมาทงเฮไม่เคยได้เห็นเลยว่าพ่อแม่ตนหน้าตาเป็นยังไงแต่ตอนนี้เขากำลังร้องเรียกหาคนที่ไม่มีตัวตนสำหรับเขาอย่างนั้นหรือ บางทีถ้าเขามีพ่อมีแม่แบบคนอื่น เขาคงไม่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ เขาคงไม่โดนไอ้เศษสวะพวกนี้รุมข่มขืน
“ฮึก”ทงเฮสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบราวกับเนื้อฉีกขาดบริเวณด้านหลังก่อนจะสติจะพล่าเลือนและดับวูบไปในที่สุด
...เด็กอายุเพียงสิบขวบกับเหตุการณ์โหดร้ายที่ต้องเผชิญ
“กรี๊ดดดด ไม่นะค่ะคุณ อย่าฆ่าฉันเลยได้โปรด”หญิงสาวหน้าตาสะสวยก้มลงกราบเท้าของชายวัยเดียวกันอย่างหวาดกลัว ตัวสั่นเทิ้มและน้ำตาที่ไหลออกมา ดวงตาทั้งคู่ไม่ขออะไรเลยนอกจากอ้อนวอนขอชีวิต
“หมดเวลาของเธอแล้วฮเยจิน ตอนนี้มีเธอหรือไม่ก็ไม่มีประโยชน์ “ชายคนดังกล่าวถือดาบวนไปวนมารอบๆ ตัวของฮเยจินอย่างสุขุม ใบหน้าสงบนิ่งไร้ความหวั่นไหวใดๆ จนน่ากลัว
“คุณฮันซุกค่ะ แต่ฉันเป็นแม่ของฮันคยองและซองมินนะค่ะ ลูกจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีแม่”ฮเยจินกอดเข่าอ้อนวอนฮันซุกด้วยความหวาดกลัว สายตาของเธอมองเลยไปสบกับแววตาคู่เล็กๆ ที่มองมายังเธอโดยไม่รู้สึกอะไรเช่นกัน แววตาฆาตกรที่ไม่ต่างอะไรกับพ่อของเขา
“ฮันคยองไม่จำเป็นต้องมีแม่ เขาเป็นผู้สืบทอดของฉัน...ฉันจะเลี้ยงเขาแบบมังกร”ฮันซุกก้มลงจนเสมอกับฮเยจิน เขากล่าวอย่างเลือดเย็นและปักดาบลงกลางอกของภรรยาที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูก
“ฮัน...คยอง เฮือก”ฮเยจินร้องเรียกชื่อลูกชายของตนที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยน้ำตา ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเธออยากจะบอกลูกว่าอย่าเป็นแบบพ่อ อย่าไร้หัวใจแบบพ่อ แต่ฮเยจินจะรู้ไหมว่ามันสายไปแล้ว แววตาของฮันคยองเหมือนฮันซุกเข้าไปทุกที
“ถ้าพ่อเธอไม่ทำให้การ์สิโนที่สิงคโปร์ขาดทุน ฉันก็คงจะเลี้ยงเธอไปอีกนาน”ฮันซุกพูดอย่างเลือดเย็น เขาเอาผ้าสีขาวจากกระเป๋าเช็ดเลือดที่ติดอยู่บนปลายดาบก่อนจะหันไปพูดกับผู้สืบทอดในวัยสิบสองปี
“จำไว้นะฮันคยอง คนไร้หัวใจเท่านั้นที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าแกอยากจะยิ่งใหญ่แบบฉัน แกต้องไม่รู้จักคำว่า ความรักและญาติพี่น้อง”ฮันซุกบอกด้วยน้ำเสียงดุดันราวกับว่าฮันคยองไม่ใช่ลูกของตนและในความคิดของฮันซุกเอง ฮันคยองก็เป็นแค่ผู้สืบทอดของเขาเท่านั้น
“แสดงว่าผมฆ่าคุณได้ไม่ผิดใช่ไหม”ฮันคยองถามกลับด้วยน้ำเสียงย้อนยอกจนฮันซุกถึงกับหัวเราะเบาๆ ออกมาที่ลำคอ เขามองไม่ผิดเลยจริงๆ คนที่แข็งแกร่งกว่าเขาคือฮันคยองนี่เอง ผู้สืบทอดคนต่อไปของ Dark Soul
“นังโสเภณี แกตาย”
“กรี๊ดดดดด”
เสียงกรีดร้องและหัวเราะอย่างสะใจดังขึ้นออกมาจากห้องที่ใหญ่ที่สุดของชั้น ห้องพักผ่อนของเจ้าของบ้านหลังนี้ คิบอมในวัยสิบสองปีสะดุ้งเฮือกออกมาอย่างตกใจและหวาดกลัวเพียงเล็กน้อย เขายกมือขึ้นปิดหูเหมือนไม่อยากได้ยิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า แกตายๆๆๆๆๆๆ”เสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายดังขึ้นพร้อมกับเสียงของมีดที่เสียบกระทบเนื้อแต่เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดค่อยๆ จางหายไป คิบอมกัดฟันลุกจากตัยงและย่องออกจากห้องเพื่อแอบดูไปยังห้องฝั่งตรงข้ามที่อยู่ตรงหัวมุมของคฤหาสน์
“คุณท่าน พอเถอะค่ะ คุณท่าน...เธอตายแล้วค่ะ”เสียงคนใช้ทั้งชายหญิงวิ่งกรูขึ้นมาชั้นบนและหลังจากนั้นคิบอมก็เห็นคุณตาของเขาออกมาพร้อมกับเลือดท่วมตัวและศพของผู้หญิงที่ถูกห่อผ้าขาวเอาไว้
“คุณชายน้อยอย่ามองค่ะ อย่ามอง”พี่เลี้ยงวิ่งมาหาเขาและสวมกอดพร้อมปิดตาเอาไว้ไม่ให้คิบอมมองภาพตรงหน้าที่ไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่นัก
“พ่อกับแม่ล่ะ”คิบอมถามด้วยเสียงสั่นๆ อย่างตื่นกลัว พี่เลี้ยงร้องไห้ออกมาเหมือนใจจะขาดและสวมกอดคิบอมเอาไว้แน่นราวกับจะปลอบโยนเด็กน้อยในวัยน่ารักที่ดูไม่สดใสสมวัยเสียเท่าไหร่
“ท่านเสียแล้วค่ะคุณคิบอม ทำใจให้ได้สิค่ะ”พี่เลี้ยงบอกเป็นประโยชน์สุดท้ายและเพียงเท่านั้นคิบอมก็สลบลงไปในอ้อมกอดของเธอทันที สลบไปราวกับว่ายังไม่อยากยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเองสักเท่าไหร่ เมื่อสัปดาห์ก่อนพ่อและแม่ของเขาออกไปหาเสียงก่อนจะเลือกตั้งครั้งใหญ่ระดับประเทศแต่กลับโดนลอบยิงขณะนั่งรถไปกวางจู เขาต้องอยู่กับคุณตาโรคจิตเพียงลำพัง เกือบทุกคืนคิบอมจะได้ยินเสียงที่น่ารังเกียจออกมาจากห้องใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อกับแม่ของเขาและทุกครั้งที่ฝนตกจะเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นที่บ้านหลังนี้
“จะรับไปเลี้ยงจริงๆ หรือครับนายน้อย”เสียงชายสูงอายุแต่ท่าทางภูมิฐานหันไปถามเด็กชายวัยรุ่นอายุเพียงสิบหกปีด้วยความนอบน้อม ใบหน้าฉายแววความหล่อเหลาและคมเข้มพยักหน้ารับช้าๆ แต่ไม่พูดอะไร ชายสูงวัยได้แต่ถอดถอนหายใจออกมาเหมือนมีอะไรติดขัดอยู่ที่จมูก
“ก็แค่เอาไปเลี้ยงแทนหมาที่บ้าน”นายน้อยบอกด้วยน้ำเสียงเข้มๆ ที่ทรงพลังอำนาจในแบบของคนที่ไม่นานจะได้เป็นใหญ่ สายตาดำขลับเหลือบมองเด็กชายตัวขาวซีดมอมแมมที่นอนหลับอยู่ข้างๆ กองเลือดในบ้านที่โดนไฟไหม้จนเกือบหมดแต่โชคดีที่ฝนช่วยดับไว้ทัน เขาแค่เบื่อที่ต้องเลี้ยงสัตว์ที่พูดไม่ได้อย่างหมาและเวลาที่เขาเบื่อหมาเหล่านั้นก็จะโดนฆ่าตาย เขาอยากเปลี่ยนมาเลี้ยงสัตว์ที่สามารถพูดจาตอบโต้กับเขาได้ก็เท่านั้น
“เอาสัตว์เลี้ยงของฉันขึ้นรถเร็วๆ สิคุณพ่อบ้าน”น้ำเสียงทรงอำนาจเกินวัยดุดันขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นพ่อบ้านของตนยังคงยืนนิ่งเฉยอยู่ พ่อบ้านและคนขับรถจำต้องอุ้มคนร่างน้อยไร้สติขึ้นและนำไปใส่รถอีกคันที่ขับตามมา เชวชีวอนยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่เขาได้สัตว์เลี้ยงเพิ่มเป็นตัวที่สองหลังจากที่เมื่อกี้ได้สัตว์เลี้ยงหน้าตาน่ารักมาแล้วหนึ่งตัว
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในคืนเดียวกันและมีชะตากรรมที่เชื่อมโยงกัน ไม่มีใครรู้ว่าในอีกสิบปีต่อมาพวกเขาทั้งหมดจะมาเจอกันและ....ฆ่ากัน
เกิดเป็นโศกนาฎกรรมบทใหม่ที่ลืมไม่ลง ความรักและความแค้น สองสิ่งที่สวนทางกันและเป็นดังเส้นทางคู่ขนาน เมื่อมีแค้นก็ต้องชำระแต่ถ้ามีรักล่ะจะเป็นอย่างไร ทางสองเส้นที่ไม่มีวันหลอมรวมกันพร้อมกับทฤษฎีบทใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้น ใครรักก่อนคนนั้นตาย....แล้วบทสรุปของนิทานแสนเศร้าจะเป็นอย่างไรต่อไป ใครที่จะตายก่อนเป็นคนแรก!!!
เม้นเท่านั้นที่ทำให้อัพต่อ
เม้นด้วยเจ้าค่ะ
ความคิดเห็น