ย้อนกลับมารอบนี้ ไม่ขอเป็นผู้กล้า (Rewrite)
เมื่อเขาหมดประโยชน์ในฐานะผู้กล้า จึงถูกทุกคนดูแคลนและถูกทอดทิ้ง แต่แล้วเขากลับได้รับโอกาสในการย้อนเวลากลับไปตั้งแต่วันแรกที่ถูกอัญเชิญ และครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมถูกใช้เป็นเครื่องมืออีก
ผู้เข้าชมรวม
31,054
ผู้เข้าชมเดือนนี้
41
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อเด็กหนุ่มจากต่างโลกลืมตาตื่นขึ้นมา เขาก็นอนอยู่บนวงเวทอันเชิญ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขามาอยู่บนวงเวทอัญเชิญนี้ เพราะครั้งแรกคือเมื่อสิบห้าปีก่อน ใช่แล้ว เขาย้อนเวลากลับมาตั้งแต่วันแรกที่ถูกอัญเชิญมาที่โลกนี้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง และเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเขาเอง จากเครื่องมือของราชวงศ์ในฐานะของผู้กล้า...สู่วิถีของนักผจญภัยอิสระอย่างแท้จริง
.......................
ข้อมูลภายในเรื่อง
ระดับฐานะในโลกของเรื่องนี้ วัดกันที่ป้ายฐานะ (เรียงจากต่ำไปสูง)
ป้ายฐานะหิน : ผู้ที่ใช้คือชนชั้นทาส หรืออดีตเคยเป็นทาส แม้จะเป็นอิสระแล้วก็จะไม่มีการเปลี่ยนป้ายให้ กรณีมีสังกัดมูลนายจะล้อมกรอบป้ายให้ เช่นกรอบเงินแสดงว่าทำงานให้ขุนนางหรือหน่วยงานของขุนนาง กรอบทองคือทำงานในพระราชวังหรือรับใช้เชื้อพระวงศ์ ซึ่งพวกทาสที่มีป้ายฐานะหินติดกรอบนั้นจะมีฐานะเหนือกว่าไพร่ทั่วไป เรียกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อย ต้องรับใช้นายจนวันตาย ไม่มีวันลาออกได้
ส่วนในระบบสาธารณรัฐ จะใช้ป้ายฐานะหินกับนักโทษที่ต้องคดีหนัก เพื่อให้คนทั่วไปรับรู้ว่าเคยก่อคดีติดตัว และต้องพ้นโทษเป็นระยะเวลาสามปี จึงจะกลับมาใช้ป้ายทองแดงได้
ป้ายฐานะทองแดง : ผู้ที่ใช้คือไพร่ในระบบอาณาจักรและจักรวรรดิ มีอิสระในตนเองระดับหนึ่ง กรณีที่ทำงานให้กับขุนนางหรือหน่วยงานราชการจะล้อมป้ายกรอบเงิน และทำงานในพระราชวังหรือรับใช้เชื้อพระวงศ์จะล้อมป้ายกรอบทอง ซึ่งพวกที่ทำงานให้ราชการและราชวงศ์ จะเรียกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อย ไม่ต่างไปจากทาสที่รับใช้เจ้านาย จะดีกว่าตรงที่มีสิทธิเลื่อนขั้นในตำแหน่งขุนนาง และอาจพัฒนาเป็นป้ายฐานะเงินได้ หากได้รับตำแหน่งขุนนาง
ส่วนป้ายทองแดงในระบบสาธารณรัฐนั้น จะใช้กันทั่วทุกคนในประเทศไม่มียกเว้น แต่มีระบบกรอบป้าย โดยผู้ที่ล้อมกรอบป้ายเงินคือเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนที่ดำรงตำแหน่ง ส่วนผู้ที่ล้อมกรอบป้ายทองจะมีแค่สามคนในประเทศเท่านั้น คือประธานาธิบดี หัวหน้าผู้พิพากษาศาลสูงสุด และประธานสภาผู้แทนราษฏร
ป้ายฐานะเงิน : ผู้ที่ใช้คือขุนนางในระบบอาณาจักรและจักรวรรดิเท่านั้น,ไม่ปรากฏป้ายเงินในระบบสาธารณรัฐ
ป้ายฐานะทอง,ทองคำขาว,หยก : ผู้ที่ใช้คือเชื้อพระวงศ์ สมาชิกของพระราชวงศ์ใดพระราชวงศ์หนึ่ง รวมทั้งผู้นำสูงสุดของราชวงศ์อย่างราชาและราชินี โดยราชวงศ์ในทวีปไกอานิยมใช้ทองคำขาว ส่วนทวีปแอตลาสใช้ทอง และทวีปหมิงใช้หยก,ไม่ปรากฏป้ายทอง ทองคำขาว หรือหยกในระบบสาธารณรัฐ
กรณีที่ไม่มีป้ายฐานะ จะพบกับความยากลำบากในการดำเนินธุรกรรมหรือเข้าพักอาศัยในดินแดนใดดินแดนหนึ่ง เนื่องจากจะถูกมองว่าเป็นพวกป่าเถื่อน หรือไม่ก็นักโทษหลบหนีคดี
…………………………..
ประเภทของเวทมตร์ รูปแบบของเวทมนตร์ และคัมภีร์เวท
ประเภทของเวทมนตร์ : เวทมนตร์ในโลกนี้มีอยู่เจ็ดประเภท ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า แสง และความมืด โดยทั่วไปจะเรียกประเภทของเวทมนตร์ว่า ธาตุ
มนุษย์ทุกคนมีพลังของเวททุกธาตุในตัวอยู่แล้ว แต่จะมีเวทที่ถนัดที่สุดเพียงหนึ่งธาตุ และสามารถต่อยอดไปจนถึงระดับมหาเวทได้ ต่างจากเวทที่ไม่ถนัดซึ่งทำได้เพียงช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวัน **เป็นการยากมากๆที่จะพบผู้ถนัดเวทมากกว่าหนึ่งธาตุ เปรียบดั่งงมเข็มในมหาสมุทร**
รูปแบบของเวทมนตร์ : เวทมนตร์นั้นมีรูปแบบการใช้งานอยู่ทั้งหมด 5รูปแบบ (เพิ่มมาอีก1ในภายหลัง) โดยรูปแบบการใช้งานเวทมนตร์จะมีดังนี้
รูปแบบโจมตี : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นไว้ใช้สำหรับต่อสู้หรือสังหารเอาชีวิตอีกฝ่าย เวทที่สามารถทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหรือตายได้จะเข้าข่ายนี้หมด
รูปแบบป้องกัน : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นปกป้องและป้องกันบุคคลหรือสิ่งของจากอันตราย เช่นเวทบาเรีย เวทป้อมปราการ หรือเวทเขตแดนจะเข้าข่ายรูปแบบนี้
รูปแบบสนับสนุน : รูปแบบเวทมนตร์ประเภทสนับสนุนและช่วยเหลือในการต่อสู้ เช่นเวทรักษาบาดแผล เวทลบล้างคำสาป เวทเสริมพลังกายภาพ และเวทเพิ่มพลังให้กับเวทมตร์ด้วยกัน จะเข่าข่ายรูปแบบนี้
รูปแบบก่อกวน : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นส่งผลร้ายต่ออีกฝ่าย เช่นเวทอัมพาต เวทพิษ เวทลวงตา เวททำให้ง่วงนอนหรือขาดสติ เป็นต้น
รูปแบบเรียกใช้และควบคุม : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นต่อยอดหรือแสดงผลจากอุปกรณ์เวทมนตร์ หรือสิ่งของที่มีพลังเวทอยู่แล้ว เช่นเรียกใช้คุณสมบัติเวทมนตร์จากอุปกรณ์เวท หรือถ่ายทอดคำสั่งควบคุมวัตถุและอุปกรณ์เวทมนตร์ เป็นต้น
**รูปแบบพิเศษ : รูปแบบเวทมนตร์ที่เกิดขึ้นใหม่ ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อรองรับพลังและรูปแบบการใช้งานที่ไม่มีในโลกใบนี้ โดยมากพลังประเภทนี้มักไม่มีมานาจากโลกผสมอยู่ ยกตัวอย่างเช่นพลังจิตของแลนซ์ พลังลมปราณของผู้กล้าอาม่อน และพลังต่างๆของพวกหายนะสีดำหรือผู้กล้าคนอื่นๆ จะเข้าข่ายข้อนี้หมด
เวทมนตร์ทุกสายและทุกระดับนั้น ล้วนแล้วแต่จะต้องมีรูปแบบเวทมนตร์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งผสมผสานอยู่อย่างน้อยหนึ่งรูปแบบเสมอ
หมายเหตุ **รูปแบบพิเศษเป็นการบัญญัติขึ้นมาใหม่ ดังนั้นจะไม่พบรูปแบบนี้ในคัมภีร์เวท
………………………………….
คัมภีร์เวท : เมื่อถึงระดับสูงอย่างมหาเวทขึ้นไป จะทำการท่องบทร่ายเวทซึ่งหยิบยืมพลังจากตัวตนที่สูงกว่ามนุษย์ เช่น เทพ อสูร ภูติ สัตว์เทพ สัตว์อสูร เพราะพลังในระดับมหาเวทมานาในร่างกายมนุษย์ไม่เพียงพอที่จะใช้งานมัน หรือไม่ก็ต้องแลกกับมานาทั้งหมด ดังนั้นการร่ายเวทเพื่อขอหยิบยืมพลังจึงง่ายกว่า
ในเบื้องต้นแล้ว พลังเวททุกธาตุจะหยิบยืมพลังจากตัวตนใดก็ได้ ยกเว้นในระดับมหาเวทที่จะเห็นถึงความต่าง เพราะในระดับมหาเวท ตัวตนเหนือมนุษย์เป็นฝ่ายเลือกมนุษย์ มิใช่มนุษย์เป็นผู้เลือก โดยสมาคมจอมเวทสากล จะทำหน้าที่บรรจุคัมภีร์มหาเวทและประเภทพลังของตัวตนลงในคัมภีร์ เพื่อให้จอมเวทในยุคนี้สะดวกสบายต่อการทำสัญญาและใช้งาน
คัมภีร์สายเทพ : สามารถหยิบยืมพลังมหาเวทได้แทบทุกธาตุ ยกเว้นธาตุมืดกับธาตุดิน เนื่องจากพลังมืดและดินมีความใกล้ชิดกับอสูรมากกว่า ดังนั้นคัมภีร์มหาเวทธาตุมืดสายเทพจึงไม่มีขายในสมาคมจอมเวทสากล ส่วนธาตุดินจะมีราคาที่ค่อนข้างถูกเพราะคนไม่นิยมใช้กัน เนื่องจากไม่มีรูปแบบโจมตี
โดยตัวตนอย่างเทพนั้นจะให้พลังกับมนุษย์ซึ่งมีเชื้อสายอันสูงศักดิ์ เช่นขุนนางและเชื้อพระวงศ์เป็นต้น
คัมภีร์สายอสูร : สามารถหยิบยืมพลังมหาเวทได้แทบทุกธาตุ ยกเว้นธาตุแสงกับสายฟ้า เนื่องจากธาตุแสงและสายฟ้ามีความใกล้ชิดกับเทพมากกว่า ดังนั้นคัมภีร์ธาตุแสงสายอสูรจึงไม่มีขายในสมาคมจอมเวทสากล แต่ทว่าคัมภีร์สายฟ้าธาตุอสูรกลับราคาแพงและหายาก ตรงข้ามกับธาตุดินเทพ เพราะสายฟ้าอสูรมีพลังโจมตีที่รุนแรง และมีสีแดงเลือดอันเป็นเอกลักษณ์
ตัวตนอย่างอสูรนั้นนิยมทำสัญญากับมนุษย์ที่หัวรุนแรง หัวกบฏ หรือชอบใช้กำลัง แต่ถึงกระนั้นก็ต้องกล้าหาญและมีฝีมือด้วยเช่นกัน ตัวตนอสูรถึงจะยอมรับ
คัมภีร์สายภูติ : ภูติเป็นตัวตนที่อ่อนโยนและใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ภูตินั้นยินดีช่วยเหลือมนุษย์ทุกผู้ทุกนามโดยไม่แบ่งแยก ยกเว้นมนุษย์ที่มีจิตใจชั่วร้ายและขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ดังนั้นเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ที่อยู่กับการแก่งแย่งชิงดีและเอารัดเอาเปรียบ จึงแทบไม่เคยได้รับเลือกจากมหาเวทสายภูติ จนพาลทำให้ชนชั้นสูงมองว่ามหาเวทจากภูตินั้นอ่อนแอ
คัมภีร์สายสัตว์เทพ : สัตว์เทพที่มีความใกล้เคียงกับเทพแต่อยู่ในสถานะสัตว์ สามารถให้มนุษย์หยิบยืมพลังของตนได้เช่นกัน โดยพลังของสัตว์เทพจะเน้นการต่อสู้ประชิดเนื่องจากสัญชาตญาณของตน ดังนั้นวิชามหาเวทจากสัตว์เทพจึงต้องใช้ควบคู่กับอาวุธทั้งสิ้น โดยสัตว์เทพจะเลือกมนุษย์ผู้ใดก็ได้ที่กล้าหาญและยืนหยัดต่อต้านกับอธรรมหรือความชั่วร้าย
คัมภีร์สายสัตว์อสูร : มีความใกล้เคียงกับสัตว์เทพแต่อยู่ข้างอสูร สามารถให้มนุษย์หยิบยืมพลังของตนได้เช่นกัน แต่ทว่าสัตว์อสูรนั้นนิยมชมชอบผู้แข็งแกร่งและเฉลียวฉลาดตั้งแต่แรก ยิ่งมีพรสวรรค์ยิ่งชอบ ดังนั้นมหาเวทของสัตว์อสูรจึงใช้งานยากกว่าทุกสาย และต้องใช้อุปกรณ์เวทมาประกอบ จนพาลทำให้เวทจากสัตว์อสูรมีราคาถูกกว่าทุกสาย เนื่องจากความยุ่งยากในการใช้งาน
ผลงานอื่นๆ ของ darkius ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ darkius
ความคิดเห็น