ย้อนกลับมารอบนี้ ไม่ขอเป็นผู้กล้า (Rewrite) - นิยาย ย้อนกลับมารอบนี้ ไม่ขอเป็นผู้กล้า (Rewrite) : Dek-D.com - Writer
×

    ย้อนกลับมารอบนี้ ไม่ขอเป็นผู้กล้า (Rewrite)

    เมื่อเขาหมดประโยชน์ในฐานะผู้กล้า จึงถูกทุกคนดูแคลนและถูกทอดทิ้ง แต่แล้วเขากลับได้รับโอกาสในการย้อนเวลากลับไปตั้งแต่วันแรกที่ถูกอัญเชิญ และครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมถูกใช้เป็นเครื่องมืออีก

    ผู้เข้าชมรวม

    31,054

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    41

    ผู้เข้าชมรวม


    31.05K

    ความคิดเห็น


    291

    คนติดตาม


    1.63K
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  82 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ค. 65 / 19:40 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เมื่อเด็กหนุ่มจากต่างโลกลืมตาตื่นขึ้นมา เขาก็นอนอยู่บนวงเวทอันเชิญ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขามาอยู่บนวงเวทอัญเชิญนี้ เพราะครั้งแรกคือเมื่อสิบห้าปีก่อน ใช่แล้ว เขาย้อนเวลากลับมาตั้งแต่วันแรกที่ถูกอัญเชิญมาที่โลกนี้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง และเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเขาเอง จากเครื่องมือของราชวงศ์ในฐานะของผู้กล้า...สู่วิถีของนักผจญภัยอิสระอย่างแท้จริง   


     

    .......................


     

    ข้อมูลภายในเรื่อง


     

    ระดับฐานะในโลกของเรื่องนี้ วัดกันที่ป้ายฐานะ (เรียงจากต่ำไปสูง)


     

    ป้ายฐานะหิน : ผู้ที่ใช้คือชนชั้นทาส หรืออดีตเคยเป็นทาส แม้จะเป็นอิสระแล้วก็จะไม่มีการเปลี่ยนป้ายให้ กรณีมีสังกัดมูลนายจะล้อมกรอบป้ายให้ เช่นกรอบเงินแสดงว่าทำงานให้ขุนนางหรือหน่วยงานของขุนนาง กรอบทองคือทำงานในพระราชวังหรือรับใช้เชื้อพระวงศ์ ซึ่งพวกทาสที่มีป้ายฐานะหินติดกรอบนั้นจะมีฐานะเหนือกว่าไพร่ทั่วไป เรียกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อย ต้องรับใช้นายจนวันตาย ไม่มีวันลาออกได้


     

    ส่วนในระบบสาธารณรัฐ จะใช้ป้ายฐานะหินกับนักโทษที่ต้องคดีหนัก เพื่อให้คนทั่วไปรับรู้ว่าเคยก่อคดีติดตัว และต้องพ้นโทษเป็นระยะเวลาสามปี จึงจะกลับมาใช้ป้ายทองแดงได้


     

    ป้ายฐานะทองแดง : ผู้ที่ใช้คือไพร่ในระบบอาณาจักรและจักรวรรดิ มีอิสระในตนเองระดับหนึ่ง กรณีที่ทำงานให้กับขุนนางหรือหน่วยงานราชการจะล้อมป้ายกรอบเงิน และทำงานในพระราชวังหรือรับใช้เชื้อพระวงศ์จะล้อมป้ายกรอบทอง  ซึ่งพวกที่ทำงานให้ราชการและราชวงศ์ จะเรียกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อย ไม่ต่างไปจากทาสที่รับใช้เจ้านาย จะดีกว่าตรงที่มีสิทธิเลื่อนขั้นในตำแหน่งขุนนาง และอาจพัฒนาเป็นป้ายฐานะเงินได้ หากได้รับตำแหน่งขุนนาง


     

    ส่วนป้ายทองแดงในระบบสาธารณรัฐนั้น จะใช้กันทั่วทุกคนในประเทศไม่มียกเว้น แต่มีระบบกรอบป้าย โดยผู้ที่ล้อมกรอบป้ายเงินคือเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนที่ดำรงตำแหน่ง ส่วนผู้ที่ล้อมกรอบป้ายทองจะมีแค่สามคนในประเทศเท่านั้น คือประธานาธิบดี หัวหน้าผู้พิพากษาศาลสูงสุด และประธานสภาผู้แทนราษฏร


     

    ป้ายฐานะเงิน : ผู้ที่ใช้คือขุนนางในระบบอาณาจักรและจักรวรรดิเท่านั้น,ไม่ปรากฏป้ายเงินในระบบสาธารณรัฐ


     

    ป้ายฐานะทอง,ทองคำขาว,หยก : ผู้ที่ใช้คือเชื้อพระวงศ์ สมาชิกของพระราชวงศ์ใดพระราชวงศ์หนึ่ง รวมทั้งผู้นำสูงสุดของราชวงศ์อย่างราชาและราชินี โดยราชวงศ์ในทวีปไกอานิยมใช้ทองคำขาว ส่วนทวีปแอตลาสใช้ทอง และทวีปหมิงใช้หยก,ไม่ปรากฏป้ายทอง ทองคำขาว หรือหยกในระบบสาธารณรัฐ


     

    กรณีที่ไม่มีป้ายฐานะ จะพบกับความยากลำบากในการดำเนินธุรกรรมหรือเข้าพักอาศัยในดินแดนใดดินแดนหนึ่ง เนื่องจากจะถูกมองว่าเป็นพวกป่าเถื่อน หรือไม่ก็นักโทษหลบหนีคดี

    …………………………..


     

    ประเภทของเวทมตร์ รูปแบบของเวทมนตร์ และคัมภีร์เวท


     

    ประเภทของเวทมนตร์ : เวทมนตร์ในโลกนี้มีอยู่เจ็ดประเภท ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า แสง และความมืด โดยทั่วไปจะเรียกประเภทของเวทมนตร์ว่า ธาตุ


     

    มนุษย์ทุกคนมีพลังของเวททุกธาตุในตัวอยู่แล้ว แต่จะมีเวทที่ถนัดที่สุดเพียงหนึ่งธาตุ และสามารถต่อยอดไปจนถึงระดับมหาเวทได้ ต่างจากเวทที่ไม่ถนัดซึ่งทำได้เพียงช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวัน **เป็นการยากมากๆที่จะพบผู้ถนัดเวทมากกว่าหนึ่งธาตุ เปรียบดั่งงมเข็มในมหาสมุทร**


     

    รูปแบบของเวทมนตร์ : เวทมนตร์นั้นมีรูปแบบการใช้งานอยู่ทั้งหมด 5รูปแบบ (เพิ่มมาอีก1ในภายหลัง) โดยรูปแบบการใช้งานเวทมนตร์จะมีดังนี้


     

    รูปแบบโจมตี : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นไว้ใช้สำหรับต่อสู้หรือสังหารเอาชีวิตอีกฝ่าย เวทที่สามารถทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหรือตายได้จะเข้าข่ายนี้หมด


     

    รูปแบบป้องกัน : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นปกป้องและป้องกันบุคคลหรือสิ่งของจากอันตราย เช่นเวทบาเรีย เวทป้อมปราการ หรือเวทเขตแดนจะเข้าข่ายรูปแบบนี้


     

    รูปแบบสนับสนุน : รูปแบบเวทมนตร์ประเภทสนับสนุนและช่วยเหลือในการต่อสู้ เช่นเวทรักษาบาดแผล เวทลบล้างคำสาป เวทเสริมพลังกายภาพ และเวทเพิ่มพลังให้กับเวทมตร์ด้วยกัน จะเข่าข่ายรูปแบบนี้


     

    รูปแบบก่อกวน : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นส่งผลร้ายต่ออีกฝ่าย เช่นเวทอัมพาต เวทพิษ เวทลวงตา เวททำให้ง่วงนอนหรือขาดสติ เป็นต้น


     

    รูปแบบเรียกใช้และควบคุม : รูปแบบเวทมนตร์ที่เน้นต่อยอดหรือแสดงผลจากอุปกรณ์เวทมนตร์ หรือสิ่งของที่มีพลังเวทอยู่แล้ว เช่นเรียกใช้คุณสมบัติเวทมนตร์จากอุปกรณ์เวท หรือถ่ายทอดคำสั่งควบคุมวัตถุและอุปกรณ์เวทมนตร์ เป็นต้น


     

    **รูปแบบพิเศษ : รูปแบบเวทมนตร์ที่เกิดขึ้นใหม่ ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อรองรับพลังและรูปแบบการใช้งานที่ไม่มีในโลกใบนี้ โดยมากพลังประเภทนี้มักไม่มีมานาจากโลกผสมอยู่ ยกตัวอย่างเช่นพลังจิตของแลนซ์ พลังลมปราณของผู้กล้าอาม่อน และพลังต่างๆของพวกหายนะสีดำหรือผู้กล้าคนอื่นๆ จะเข้าข่ายข้อนี้หมด


     

    เวทมนตร์ทุกสายและทุกระดับนั้น ล้วนแล้วแต่จะต้องมีรูปแบบเวทมนตร์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งผสมผสานอยู่อย่างน้อยหนึ่งรูปแบบเสมอ


     

    หมายเหตุ **รูปแบบพิเศษเป็นการบัญญัติขึ้นมาใหม่ ดังนั้นจะไม่พบรูปแบบนี้ในคัมภีร์เวท

    ………………………………….


     

    คัมภีร์เวท :  เมื่อถึงระดับสูงอย่างมหาเวทขึ้นไป จะทำการท่องบทร่ายเวทซึ่งหยิบยืมพลังจากตัวตนที่สูงกว่ามนุษย์ เช่น เทพ อสูร ภูติ สัตว์เทพ สัตว์อสูร เพราะพลังในระดับมหาเวทมานาในร่างกายมนุษย์ไม่เพียงพอที่จะใช้งานมัน หรือไม่ก็ต้องแลกกับมานาทั้งหมด ดังนั้นการร่ายเวทเพื่อขอหยิบยืมพลังจึงง่ายกว่า


     

    ในเบื้องต้นแล้ว พลังเวททุกธาตุจะหยิบยืมพลังจากตัวตนใดก็ได้ ยกเว้นในระดับมหาเวทที่จะเห็นถึงความต่าง เพราะในระดับมหาเวท ตัวตนเหนือมนุษย์เป็นฝ่ายเลือกมนุษย์ มิใช่มนุษย์เป็นผู้เลือก โดยสมาคมจอมเวทสากล จะทำหน้าที่บรรจุคัมภีร์มหาเวทและประเภทพลังของตัวตนลงในคัมภีร์ เพื่อให้จอมเวทในยุคนี้สะดวกสบายต่อการทำสัญญาและใช้งาน


     

    คัมภีร์สายเทพ : สามารถหยิบยืมพลังมหาเวทได้แทบทุกธาตุ ยกเว้นธาตุมืดกับธาตุดิน เนื่องจากพลังมืดและดินมีความใกล้ชิดกับอสูรมากกว่า ดังนั้นคัมภีร์มหาเวทธาตุมืดสายเทพจึงไม่มีขายในสมาคมจอมเวทสากล ส่วนธาตุดินจะมีราคาที่ค่อนข้างถูกเพราะคนไม่นิยมใช้กัน เนื่องจากไม่มีรูปแบบโจมตี 


     

    โดยตัวตนอย่างเทพนั้นจะให้พลังกับมนุษย์ซึ่งมีเชื้อสายอันสูงศักดิ์ เช่นขุนนางและเชื้อพระวงศ์เป็นต้น


     

    คัมภีร์สายอสูร : สามารถหยิบยืมพลังมหาเวทได้แทบทุกธาตุ ยกเว้นธาตุแสงกับสายฟ้า เนื่องจากธาตุแสงและสายฟ้ามีความใกล้ชิดกับเทพมากกว่า ดังนั้นคัมภีร์ธาตุแสงสายอสูรจึงไม่มีขายในสมาคมจอมเวทสากล แต่ทว่าคัมภีร์สายฟ้าธาตุอสูรกลับราคาแพงและหายาก ตรงข้ามกับธาตุดินเทพ เพราะสายฟ้าอสูรมีพลังโจมตีที่รุนแรง และมีสีแดงเลือดอันเป็นเอกลักษณ์


     

    ตัวตนอย่างอสูรนั้นนิยมทำสัญญากับมนุษย์ที่หัวรุนแรง หัวกบฏ หรือชอบใช้กำลัง แต่ถึงกระนั้นก็ต้องกล้าหาญและมีฝีมือด้วยเช่นกัน ตัวตนอสูรถึงจะยอมรับ


     

    คัมภีร์สายภูติ : ภูติเป็นตัวตนที่อ่อนโยนและใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ภูตินั้นยินดีช่วยเหลือมนุษย์ทุกผู้ทุกนามโดยไม่แบ่งแยก ยกเว้นมนุษย์ที่มีจิตใจชั่วร้ายและขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ดังนั้นเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ที่อยู่กับการแก่งแย่งชิงดีและเอารัดเอาเปรียบ จึงแทบไม่เคยได้รับเลือกจากมหาเวทสายภูติ จนพาลทำให้ชนชั้นสูงมองว่ามหาเวทจากภูตินั้นอ่อนแอ


     

    คัมภีร์สายสัตว์เทพ : สัตว์เทพที่มีความใกล้เคียงกับเทพแต่อยู่ในสถานะสัตว์ สามารถให้มนุษย์หยิบยืมพลังของตนได้เช่นกัน โดยพลังของสัตว์เทพจะเน้นการต่อสู้ประชิดเนื่องจากสัญชาตญาณของตน ดังนั้นวิชามหาเวทจากสัตว์เทพจึงต้องใช้ควบคู่กับอาวุธทั้งสิ้น โดยสัตว์เทพจะเลือกมนุษย์ผู้ใดก็ได้ที่กล้าหาญและยืนหยัดต่อต้านกับอธรรมหรือความชั่วร้าย


     

    คัมภีร์สายสัตว์อสูร : มีความใกล้เคียงกับสัตว์เทพแต่อยู่ข้างอสูร สามารถให้มนุษย์หยิบยืมพลังของตนได้เช่นกัน  แต่ทว่าสัตว์อสูรนั้นนิยมชมชอบผู้แข็งแกร่งและเฉลียวฉลาดตั้งแต่แรก ยิ่งมีพรสวรรค์ยิ่งชอบ ดังนั้นมหาเวทของสัตว์อสูรจึงใช้งานยากกว่าทุกสาย และต้องใช้อุปกรณ์เวทมาประกอบ จนพาลทำให้เวทจากสัตว์อสูรมีราคาถูกกว่าทุกสาย เนื่องจากความยุ่งยากในการใช้งาน


     


     


     


     


     


     


     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น