ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [CLOSE] ปิดรีไรท์ชั่วคราว

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่สิบห้า จบภารกิจต่อเนื่อง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 477
      2
      11 พ.ย. 53

                    เมื่อตะวันลาลับกลับพื้นดิน น่านน้ำมืดๆ สีดำอมน้ำเงินของนครใต้น้ำแห่งนี้ก็มีดวงไฟดวงน้อยๆ จำนวนมากมาเป็นจุดให้แสงสว่าง แสงหลากสีของพลุที่จุดภายใต้ผืนน้ำดูแปลกตา งานเลี้ยงได้เริ่มต้นขึ้นโดยมีเพลงบรรเลงขึ้นเบาๆ ขับกล่อมบรรยากาศ
     
                    แม้จะเสียราชาของตนไปแต่ก็ไม่มีผู้ใดแสดงความเสียอกเสียใจอย่างโจ่งแจ้ง เอิ่ม คงต้องพูดว่าแทบจะไม่มีใครสนใจเสียมากกว่า ซึ่งสังเกตได้ง่ายๆ จากชาวเงือกทั้งหลายทั้งแหล่ต่างเฮฮาปาร์ตี้ราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
     
                    แต่สำหรับผู้เล่นซึ่งเดินทางมาถึงนครบาดาลแห่งนี้แล้ว เกรงว่าคนที่พอจะมีความสุขกับงานรื่นเริงแบบ ‘จริงๆ จังๆ’ ก็มีเพียงสองคน…พวกสมองน้อย ทั้งโชกุนทั้งโคโคนัทต่างเต็มที่ให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และก็เฮโลลั่นไปกับชาวเงือกด้วยท่าทีที่สุดเหวี่ยงจริงๆ
     
                    ส่วนกลุ่มมีสมองทั้งสามคนนั้น มารวมตัวกันตามจุดต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการเดินทางออกจากดินแดนใต้น้ำแห่งนี้ตามแผนเมื่อก่อนหน้า
     
    ราวๆ ครึ่งชั่วโมงก่อน
     
    ตอนที่ราชินีถามถึงเรื่องสำคัญไม่แพ้เรื่องใดๆ
     
                    “พวกเจ้าจะให้วิธีใดๆ แก่เราที่ทำให้ประชาชนแห่งเราไม่อาละวาดครั้นดวงใจของพวกเขาต้องจากไป”
     
                    เป็นคำถามที่ยากจะตอบไม่น้อย เพราะจะสรรหาเหตุผลกลการณ์ใดจึงจะบอกเรื่องราวที่เจ้าหญิงแห่งดินแดนนี้จากบ้านไป โดยที่ประชาชนอันรักยิ่งไม่โวยวาย ซึ่งไม่แปลกเลยหากชาวเงือกทั้งหลายจะทนไม่ได้ เพราะราชธิดาตัวน้อยๆ นี้คือศูนย์รวมจิตใจของทุกคน และเป็นชาวเงือกคนล่าสุดในรอบ 100 ปี (เนื่องจากในเกมถูกกำหนดให้เผ่าเงือกมีอายุยืนนานเนื่องจากสืบสานสายเลือด จากโพไซดอนมาโดยตรง)
     
                    ทั้งสายฟ้าทั้งใบชาต่างเค้นสมองคิดหาวิธีการเพื่อให้ได้คำตอบที่นางต้องการ แต่ความยากนั้นเกินกว่าที่คนธรรมดาจะหาได้…
     
                    จะว่าไป ในนี้ก็มี ‘คนไม่ธรรมดา’ อยู่นี่นา…
     
                    ซึ่ง ‘คนไม่ธรรมดา’ ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เลม่อนพูดออกมาอย่างง่ายดายราวกับเป็นเรื่องทั่วไป…
     
    “ไม่เห็นจะยาก ก็แค่บอกว่าเราลักพาตัวนางไปตอนที่มีงานเลี้ยงก็จบ ขอแค่ท่านราชินีแสดงท่าทีคลุ้มคลั่งให้คนดูสักทีสองทีเหมือนเสียใจสุดกู่ ผู้คนเขาก็ไม่กล้าแสดงออกและไม่พูดถึงไปเอง เรื่องนี้ก็จะเงียบกริบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นยังไงล่ะ แถมพอเจ้าหญิงนี่กลับมา ผู้คนจะได้เฮโลตามๆ กันอีก”
     
                    ดูเหมือนเลม่อนจะมีวิธีคิดแบบผิดหลักมนุษย์มนา…แต่เท่าที่ทุกคนเห็นๆกันมา วิธีการแต่ละอย่างของเลม่อนนั้นก็สุดๆ ซึ่งบ่งบอกได้เลยว่าอย่างน้อยๆ นะว่าสมองของคนๆ นี้น่ะหลุดโลกไปแล้ว
     
                    “จะว่าไป ก็รบกวนช่วย ‘แนะนำ’ ทางออกที่ไม่เอิกเกริกได้รึไม่”
     
                    “ไม่มีปัญหา… เราขอกล่าวอะไรกับบุตรีแห่งเราชั่วครู่หนึ่ง แล้วจะให้นางไปเรียกพวกท่านเอง”
     
                    สุรเสียงทรงอำนาจของราชินีแห่งเมืองบาดาล เป็นอันส่งแขกทั้งหลายออกไปรอคอยแผนการอยู่ด้านนอก ซึ่งในจังหวะทั้ง ไร้สมองทั้งสองก็ออกไปแรดเป็นที่เรียบร้อย
     
                    บัดนี้ก็ครึ่งชั่วโมงแล้วที่สองแม่ลูกนั่งคุยกันด้านใน เลม่อนยิงพิงประตูในขณะที่สายฟ้าและใบชาเดินไปปรามพวกโคโคนัท ทั้งสองแม้จะดูดื้อดึงอยู่บ้างแต่พอเจอสายฟ้าทำมาดเข้มเข้าไปก็ยอมสยบแต่โดยดี อ้อ โชกุนออกจะง่ายหน่อยเมื่อใบชาบอกว่า เลม่อนสั่ง แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
     
                    แต่อย่างไรโคโคนัทก็มีรีแอคชั่นอยู่บ้างโดยการบ่นอุบอิบเบาๆ
     
                    จนกระทั่งอควอเดินออกมาด้านนอก สายตาสบกับเลม่อนแล้วเดินนำไปทางด้านหลังของตัววัง เลม่อนส่งกระซิบไปหาสายฟ้าเล็กน้อยเพื่อคุมตัวดีสองตัวตามมาโดยมีใบชาเป็นผู้ช่วย
     
                    การหลบออกจากที่นี่ง่ายดายยิ่งนักเมื่อมีผู้ช่วยเป็นคนในที่ใหญ่โต (ที่สุดแล้ว) เรือลำน้อยที่สามารถบรรจุคนได้เพียงหกคนถูกใส่ไว้ในลำปล้องขนาดใหญ่คล้ายปากกระบอกปืน ราชินีที่เสด็จออกมาส่งด้วยตนเองบริกรรมคาถาแปลกพิสดารจนคนมากความรู้อย่างเลม่อนยังฟังไม่ออก
     
                    เพียงพริบตาฟองอากาศขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาครอบตัวเรือก่อนที่  5 มนุษย์  1 เงือกเข้าไปด้านใน เมื่อจับจองที่นั่งกันได้แล้วทางราชินีผู้เป็นผู้ช่วยในครั้งนี้ ค่อยกดปุ่มด้านข้างลำปล้องจนได้ยิงเสียง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เบาๆ
     
                    … ตูม!!!
     
                    แรงกระแทกซัดจนตัวลอย เรือน้อยพุ่งขึ้นเหนือน้ำ เป็นเวลาเดียวกับที่กระแสเวทมนต์คลุ้มคลั่งพุ่งออกจากร่างกายของราชินี จิตสังหารพุ่งไล่ตามมาด้านหลังสมจริงสมจัง เป็นอันเปิดเวธีการแสดงครั้งแรกในรอบหลายร้อยปีของนาง… ละครที่ทำขึ้นเพื่อหลอกลวงประชาชนโดยเฉพาะ
     
                    แสงแรกหลังจากร่างกายห่างหายจากแสงอาทิตย์ไปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนในโลกใต้น้ำ สีหน้าของกลุ่มสมองมากซึ่งประกอบไปด้วยเลม่อน สายฟ้าและใบชาก็เรียบเฉยไม่มีอะไร แต่ทางกลุ่มสมองน้อยอันประกอบไปด้วย โคโค่(โคโคนัท) โชกุน และน้องใหม่อย่างอควอนั้นดูตื่นตาตื่นใจกันมาก
     
                    (ภารกิจ ขโมยดวงใจแห่งท้องทะเล เสร็จสิ้น : กลุ่มสายฟ้าได้รับชัยชนะ มีผู้เกมโอเวอร์ศูนย์คน)
                    (ผู้เล่นเลม่อนได้รับเงินสามแสนเหรียญ แต้มภารกิจห้าหมื่นแต้ม ในฐานะผู้ออกอุบายล่อลวงดวงใจแห่งท้องทะเลมาสำเร็จ)
                    (กลุ่มสายฟ้าได้รับเรือเดินทางขนาดเล็กหนึ่งลำ)
     
                    “หืม? ครั้งนี้ไม่ได้ไอเท็มปริศนาวุ้ย”
     
                    เลม่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือปนความสงสัย พลันให้ใบหน้าหนุ่มน้อยวัย 16 ปีหน้าหวานหันมามอง “เปล่าสักหน่อย ไอเท็มปริศนานั่นมันมาอยู่ที่ฉัน สงสัยคงได้เพราะเป็นรางวัลกลุ่มละมั้งเลยมาอยู่กับหัวหน้า”
     
                    ชายหนุ่มนักล่าคลี่ยิ้ม “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ไหนๆ ก็ต้องรอเรือเดินทางอีกตั้งครึ่งทางเรามาเปิดไอเท็มปริศนากันเถอะ เฮ้อ ช่วงนั้นไม่ค่อยวางเลยไม่ได้เปิดสักที ฉันมีตั้งสองชิ้นแหน่ะ”
     
                    “มีตั้งสองชิ้นเลยเหรอ!”
     
                    โคโคนัทตาวาวราวกับหิวกระหาย ร่างกายพุ่งทะยานมาติดขอบจออย่างรวดเร็ว เลม่อนแอบเหงื่อตกเล็กๆ ในขณะที่พยักหน้าเบาๆ เป็นการยืนยันโดยมีสายฟ้าย้ำเป็นคำรบสอง “ก็ไม่เห็นแปลก หมอนั่นเนี่ยแหละทำให้ฉันเสียต่างหูในภารกิจแรก ส่วนภารกิจสองมันก็เจื๋อนพ่อของยัยนี่ไง”
     
                    สายฟ้าพูดอย่างไร้น้ำใจจนคนฟังทั้งหมดหันมาค้อนใส่ยกวง “ก็มันจริงนี่” เสียงแหลมปรี๊ดแก้ต่างให้ตนเองซึ่งไม่มีใครยอมรับ จนเด็กอัจฉริยะต้องขอโทษเสียงแผ่ว
     
                    “อ๊ะ! พึ่ง จะจำได้ เลม่อน นี่หอกเจ้าสมุทร เด็จแม่บอกให้เอามาให้นายใช้ ถ้านายไม่รับเด็จแม่บอกว่า เพื่อใช้ในการปกป้องฉัน หึ ฉันต้องให้คนมาปกป้องด้วยเรอะ”
     
                    ฟังดูเหมือนเถียงตัวเองยังไงชอบกล แต่จากที่เลม่อนทราบมาจากราชินีนั่นเล็กๆน้อยๆ อควอเป็นเด็กที่เอ๋อไม่น้อยทีเดียวเชียว
     
                    “หอกเจ้าสมุทรเหรอ ไม่เอาหรอก เธอเอาไปใช้สิ ถึงเสียว่าเป็นของต่างหน้าละกัน และเธอเองก็มีสามง่ามสีดำอันนั้นใช่มั้ย เอาอันนั้นมาให้ผมก็ได้”
     
                    เลม่อนพูดอย่างอ่อนโยนก่อนที่อควอจะพยักหน้าหงึกหงักแล้วยื่นสามง่ามมาให้ หน้าต่างข้อมูลเปิดดูค่าสถานะของมัน แม้จะไม่ดีเท่าหอกเจ้าสมุทรแต่ก็เป็นรองเพียงเล็กน้อย
     
                    แบล็คไทรเด้น  ระดับ S พลังโจมตี 3000 ถึงว่าสูงสำหรับไอเท็มหอกแถมยังพ่วงด้วยการเป็นสื่อเวทย์ธาตุ น้ำ-แสง ซึ่งเพิ่มพลังโจมตีเวทย์สองธาตุนี้สามเท่า แต่ร่นเวลาการร่ายและร่นพลังเวทย์ที่ใช้ 1.5 เช่นเดียวกับสื่อเวทย์ทั่วไปเท่านั้น
     
                    “อืม เหมาะมือมากเลย แล้วกล่องไอเท็มนี่ใครอยากเป็นคนเปิดบ้าง” เลมท่อนถามพร้อมกับยื่นไอเท็มที่เป็นรูปกล่องสีดำจากหน้าต่างไอเท็มมา 2 กล่อง
     
                    “ผม/เค้า/นี่ คืออะไร” สามเสียงประสานกันจากกลุ่มสมองน้อย เลม่อนคลี่ยิ้มแล้วมองเรียงตัว “โชกุน นายเป็นผู้ชายดังนั้นเสียสละให้ผู้หญิงก่อนละกันไว้รอคราวหน้า ส่วนโคโคนัท เอานี่ไป แล้วอควอ นี่คือไอเท็มปริศนาที่ใช้ในการสุ่มไอเท็มตามแต่ดวงที่มี เอ่อ ผมมันคนดวงไม่ค่อยดี (เพราะทำความเลวเยอะ) อควอลองเปิดดูละกัน”
     
                    เมื่อนั้นคนทั้งหกรวมเงือกด้วยก็มาสุมหัวกันกลางเรือน้ำที่แล่นโคลงเคลง โคโคนัทเป็นคนแรกที่เริ่มรายการ ปลายนิ้วขยับฝากล่องทีละนิดก่อนจะเปิดออกมาพร้อมแสงสว่างจ้า
     
                    …ไข่ไก่(!?)
     
                    (ผู้เล่น โคโค่ ได้รับไข่ไก่กิ๊กก๊อกจำนวนหนึ่งฟอง สามารถทำพันธะเป็นสัตว์เลี้ยงได้)
     
                    ทีนี้ก็ได้อ้าปากเหวอกันทุกคนโดยมีสีหน้าสงสัยของเงือกสาวเป็นฉากประกอบ ‘ตกใจอะไรกัน???’
     
                    แต่ก่อนที่ใครจะพูดอะไรผู้มีสติสัมปชัญญะดีเยี่ยมก็หัวเราะร่าออกมาเสียงดัง อย่างไม่มีเกรงอกเกรงใจใคร คนที่เปิดได้ไอเท็มหายากก็ปั้นหน้าดำน้าแดงอย่างอับอาย
     
                    ไก่กิ๊กก๊อก มอนสเตอร์หายากระดับ S ไม่ ดรอปไอเท็ม ไม่มอบค่าประสบการณ์ ไม่มอบเงิน พลังชีวิตเป็นอนันต์ พลังเวทย์ศูนย์ พลังโจมตีและค่าสถานะรวมเป็นศูนย์ นอกจากอึดถึกและขี้เกียจแล้วทำสิ่งใดไม่ได้เลย!!!
     
                    ทันทีที่โคโคนัทลุกขึ้นหมายจะจัดการคนอารมณ์ดีเกินเหตุก็มีแสงสว่างวาบจาก อีกด้าน หนึ่ง มือขนาดเล็กของเด็กวัยสิบหกขยับเปิดฝากล่องของตนเสียแล้ว
     
                    (ผู้เล่น สายฟ้า ได้รับต่างหูบัญชาการจำนวนหนึ่งชิ้น ไม่สามารถถูกทำลายและแลกเปลี่ยนได้)
     
                    ทีนี้ทุกคนก็อ้าปากค้างกันอีกครั้งเพียงแต่เป็นการทึ่งเพราะมันหายากสุดจะบรรยาย ในเซิร์ฟเวอร์นี้เกรงว่าจะมีเพียงชิ้นนี้ชิ้นเดียวเสียด้วยสิ
     
                    ต่างหูบัญชาการ ไอเท็มระดับคีย์ไอเท็ม ผู้สวมสามารถโทรจิตกับผู้ที่อยู่ในสายตาหรือในปาร์ตี้ได้โดยที่ไม่ต้องเปิดปาก เพียงแค่คิดก็ส่งไปได้แล้ว
     
                    “อืม ถึงกล่องสุดท้ายแล้วสินะ อควอลองเปิดดูเลยจ่ะ”
     
                    เลม่อนพูดตัดบทเปลี่ยนเรื่องก่อนที่โคโคนัทจะทวงหนี้ตามบัญชีหนักหมาของตน เงือกสาวเปิดก่อนช้าๆอย่างตื่นเต้น แสงสีขาวสว่างวาบเป็นการบอกว่าอยู่ในช่วงสุ่ม
     
                    เพียงพริบตาที่ฝากล่องออกมานอกกล่องทั้งหมด มือบางของสตรีผมเขียวก็รีบพุ่งเข้าไปคว้ามันขึ้นมาสำรวจทันที แท่งสีฟ้าใสมองทะลุได้อย่างชัดเจนราวกับกระจก หากที่นี่มีผู้เล่นสายประดิษฐ์เห็นก็คงอ้าปากค้างไปแล้ว แต่เพราะไม่มีสายอาชีพนี้ ใบหน้าทุกคนจึงเฉยๆ โดยออกจะเสียดายไม่น้อย
     
                    แต่ก็ยังต้องมีคนหนึ่งที่ดีใจสุดฤทธิ์สุดเดชอยู่ดี  “เย้ ได้ผลึกธาตุน้ำบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์นึดกว่าชาตินี้จะไม่ได้แตะต้องเสีย แหละ อ้า พวกมนุษย์คงไม่รู้สิเนอะว่า ผลึกร้อยเปอร์เซ็นต์นี่มีประโยชน์ยังไง”
     
                    …ตีอาวุธ เสริมไอเท็ม ตีบวก สร้างเกราะ…?
     
                    “ผลึกอันนี้ถือเป็นอาหารอันโอชะขนาดที่ท่านพ่อยังเคยกินไม่กี่ครั้ง โดยเฉพาะบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีรอยขุ่นเนี่ย ถือว่ามีรสชาติสุดยอดพร้อมพลังงานเต็มเปี่ยมขนาดกินได้เป็นสิบๆ ปีเลย เพียงแค่แตะก็รู้สึกถึงไอเวทย์แล้ว”
     
                    เห็นท่าทีของกระดี้กระด้าแล้วก็อดหัวเราะแหะๆ ไม่ได้ ดูแล้วคงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะอควอดูจะมีความสุขมากๆ เมื่อนั้นเธอพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเป็นไอเท็มของเลม่อน ไอ้ความปิติยินดีที่มีมาก็กระตุกหายวูบไปง่ายๆ
     
                    “เลม่อน”
     
                    “เอาไปเถอะ” เลมอนพูดตัดบทก่อนที่เธอจะขอเสียอีก สายตาของสายฟ้า ใบชาและโคโค่มองมาเขม็ง ‘นี่นายไม่รู้เหรอว่าไอ้ไอเท็มชิ้นนี้น่ะเป็นส่วนประกอบสำคัญของคีย์ไอเท็ม ธาตุน้ำเลยนะ!!!’
     
                    ไม่ใช่เลม่อนจะไม่รู้ แต่มันชอบหยิบของคนอื่นมากกว่าจะมาสร้างเองเท่านั้น…
     
                    ก็อย่างว่า คนมันเป็นนักล่านี่หว่า…
     
                 ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อก็มีเสียงดังขึ้นพร้อมกับหน้าต่างสนทนา ใบหน้าของสาวว่านหัวฟูฉายอยู่ในหน้าต่างมืดทึบ ไม่มีใครในที่นี้ได้ยินนอกจากเลม่อนเพราะระบบรักษาความส่วนตัวของเกมปิดบังเสียงไว้
     
                    “ว่าไง กีวี่”
     
                    “นายอยู่ที่เซิร์ฟเวอร์ภารกิจอะไรนั่นใช่ไหม” กีวี่ถามเรียบๆ
     
                    “เปล่าสักหน่อย” เลม่อนโกหก
     
                    “แล้วนี่อะไร”
     
                    หน้าต่างสนทนาของกีวี่ส่งไปถึงบอร์ดประกาศอันดับผู้ที่มีแต้มภารกิจสูงสุด ด้านบนสุดมีรูปต่างหูเป็นตัว L.M. เหมือที่ติดอยู่บนหูของสายฟ้าและด้านขวาเป็นชื่อที่อ่านยังไงก็ได้คำว่า Lemon สุดท้ายก็มีแต้มภารกิจจำนวน 152000 แต้มซึ่งทิ้งห่างจากที่ 2 ถึง 100000 แต้ม
     
                    พอถัดจากที่สองที่สามไล่ลงมาเรื่อยก็พบสายฟ้าตามด้วยใบชา โคโคนัทและก็โชกุน นักล่าหนุ่มระบายยิ้มกลบเกลื่อนเมื่อถูกจับได้
     
                    “เค้าคิดจะพักร้อนอ่านะ”
     
                    “งั้นเรอะ” กีวี่ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “บอสบอกว่าไอเท็มระดับ A ขึ้น ไปในเซิร์ฟเวอร์นี่ราคาสูงมาก นายน่าจะเอากระเป๋ามิติเข้ามาคงมีไอเท็มสักห้าสิบชิ้นเป็นอย่างต่ำสินะ เอามาดูหน่อยละกันจะได้เลือกขาย แหมราคาพุ่งกระฉูดเลยนะเนี่ย”
     
                    เมื่อเห็นกีวี่วาดฝันก็ต้องส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ…ไม่ได้มีห้าสิบแต่มีเป็นร้อย!!!
     
                    “อ้อ เรื่องสำคัญ เพื่อนๆของนายฝากฉันมาบอกว่าพวกเขามาเซิร์ฟเวอร์นี้แล้ว และที่สำคัญ ยัยอลิเซ่อะไรนั่นหล่อนบอกให้เธอมาเจอกันที่ไฮฮาเบอร์ ชิ ยัยนั่นมันเด็กมีปัญหาชะมัด”
     
                    กีวี่บ่นอุบ…อืม ก็ไม่แปลกหรอก
     
                    อลิเซีย หนึ่งในผู้เล่นเก่าแก่ของนิวเวิลด์ มีนิสัยชอบจับคนโน้นคนนี้มาแต่งตัวตามอารมณ์โดยไม่แคร์ใคร ไม่มีใครโต้แย้งเจ้าหล่อนได้เพราะเอาแต่ใจบวกด้วยหน้าด้านสุดๆ
     
                    แต่ถ้าพูดถึงด้านฝีมือแล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าเธอคือท็อปไฟฟ์เลยทีเดียว ทั้งฝีมืออันเฉียบขาดแล้วยังรสนิยมพิลึกพิลั่นแต่ก็สวยงามราวกับหลุดมาในโลก ใหม่ ไม่ว่าจะออกมาในแนวไหน แต่ก็ออกมาดีทุกครั้งไป
     
                    แต่พอคิดถึงอนาคตขึ้นมา เลม่อนก็ต้องเหนื่อยใจ
     
                …เฮ้อ สงสัยครั้งนี้มียาวแน่ๆเลย…
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×