ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [CLOSE] ปิดรีไรท์ชั่วคราว

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่สิบหก จันทร์ดวงแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 488
      2
      11 พ.ย. 53

     
                   
                    เมื่อเรือลำน้อยลอยโคลงเคลงเทียบท่าเรือได้สำเร็จ แสงแรกผันจากผ่านไปเสียแล้ว จนในตอนนี้ก็กลับเป็นกลางคืนอีกครั้ง อควอเงือกน้อยที่พึ่งเห็นแสงอ่อนๆ จากดวงจันทร์โดยตรงเป็นครั้งแรกถึงกับจ้องมองอย่างหลงใหล
     
                    ความจริงในตอนนี้ นักล่าหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์อย่างเลม่อนก็ไม่อยากขัดนักหรอก แต่เพื่อสวัสดิภาพของตนเองในอนาคตแล้วเขาเลือกที่จะลากเงือกน้อยขึ้นจากเรือ แม้จะกังวลบ้างว่านางจะอยู่บนบกไม่ได้ แต่เมื่อหางปลาสัมผัสพื้นก็กลายเป็นขาเรียวขาว เสื้องดงามในกลายก่อนก็ลากยาวลงมากลายเป็นเสื้อกระโปรงตัวสวย
     
                    “เอ่อ…ทุกคน..คือ ฉันต้องไปพบเพื่อนนิดหน่อยอ่ะนะ แล้วก็คงต้องไปตัดเสื้อผ้ากันใหม่ด้วย พวกนายจะไปไหม”
     
                    เลม่อนพูดเสียงเอื่อยเมื่อนึกถึงเค้าลางมรณะที่ใกล้เข้าหาเรื่อยๆ สายฟ้าหันมาเลิกคิ้วใส่ประมาณว่า ‘ซื้อเสื้ออีกแล้ว?’ ในขณะที่คนที่เหลือต่างให้ความสนใจกันทั้งนั้นแม้ใบชาจะเก็บอาการไว้ทั้งหมดก็เถอะ
     
                    แต่ก็ยังมีหนึ่งในสามสมองน้อยโพล่งออกมาอย่างสุดแสนจะได้ใจ “ไปๆๆ เลม่อน เค้าไปด้วยนะ”
     
                    เพื่อเป็นการออดอ้อน โคโคนัทถึงกับเก็บคำว่า มะนาว ลงไปแล้วใช้คำว่า เลม่อน แทน เจ้าของนัยน์ตาถ่านพยักหน้าพร้อมยิ้มรับอย่างอารมณ์ดีเมื่อมีเพื่อนร่วมชะตากรรมเพิ่มอีกคนอย่างแน่นอน
     
                    “ไหนๆ แล้วเราก็ไปกันทั้งทีมเลยละกัน แล้วก็ไปพักที่นั่นด้วยก็ดี” เลม่อนพูดก่อนจะเดินนำหน้าแบบไม่ให้โอกาสใครเถียงตามนิสัย
     
                    เพราะนี้ก็ดึกแล้ว ผู้คนจึงมีไม่มากนัก เลม่อนเดินนำออกนอกท่าเรือตัดผ่านตัวเมืองเข้าไปในย่านสลัมขนาดเล็กด้านใน พื้นที่สลัมเป็นพื้นที่ขนาดเล็กมีกันอยู่ทุกเมือง ส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของสมาคมนักฆ่า แหล่งพนันหรือที่อยู่พักราคาถูก
     
                    ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยเหตุใดมันถึงมีหลอดไฟน้อยผิดปกติและดูมันกระพริบถี่ๆ เท่านั้นด้วย สองเท้านำทางอย่างชำนาญ หญิงสาวเดินเกาะกลุ่มกันเป็นตังเมในขณะที่ชายหนุ่มที่เหลือเดินอาดๆ อย่างไม่แคร์ใคร จะมีคนเพี้ยนแค่คนนึงที่ไม่เดินตามเลม่อนแบบคนปกติ
     
                    โชกุน… นอกจากจะไม่ใช่เดินส่ายอาดๆ ไปมากวนเท้าคนทั่วไปเท่านั้น ยังซุกซนวิ่งไปดูนู่นดูนี่อย่างสนุกสนาน ปลายนิ้วชี้ตามข้าวของและกองขยะ มีบ้างที่รื้อค้นหาสิ่งของน่าสนใจจากขยะพวกนั้น
     
                    “นี่ ในเกมมีแมลงสาปด้วยล่ะ”
     
                    “นี่ มีหนูตัวเท่าแมวแน่ะ”
     
                    “นี่ ฯลฯ”
     
                    แต่ละรายการของน่าสนใจของมันทำให้สามสาวร้องกรีดกราดไปตลอดทางทีเดียว…
     
                    ในที่สุดหนทางนรกก็ได้หมดสิ้นลง เลม่อนนำทางจนมาหยุดอยู่ที่บ้านขนาดเล็กหลังหนึ่ง ตรงจุดนี้ต่างกับรอบข้างมากนัก นอกจากจะไม่เละเลอะรกแล้วยังตกแต่งด้วยสีชมพูไปกึ่งหนึ่งอีกด้วย
     
                    มือหนาเคาะเป็นจังหวะสองครั้งซ้อนก่อนที่บานประตูจะเปิดออกพร้อมกับวัตถุหนึ่ง ที่พุ่งเข้าหาร่างสูง ด้วยความมืดหรือความเร็วก็ไม่ทราบที่ทำให้ในสายตาของทุกคนเห็นเป็นเพียงเงาสีดำๆ เท่านั้น
     
                    เลม่อนกลิ้งไปอยู่กับพื้นด้านหลังตามแรงกระแทก ร่างเตี้ยของเด็กสาววัยสิบขวบขึ้นคร่อมชายหนุ่มวัยยี่สิบเศษพร้อมกับหัวเราะร่า
     
                    “ลูซี่ วันหลังอย่างพุ่งเข้ามากระแทกอีกนะ เดี๋ยวไปโดนคนอื่นเขา”
     
                    เลม่อนตำหนิเบาแต่ไม่มีรังสีของความโกรธแผ่ออกมาสักนิด จะก็แต่ความเอ็นดูเท่านั้น
     
                    “นี่ เลม่อน…เด็กนี่ใครเหรอ”
     
                    สายฟ้าถามสั้นๆ ได้ใจความโดยมีคิ้วขมวดประดับใบหน้าเรียวบ่งบอกถึงคำว่า ไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มยิ้มโดยที่ดันตัวลุกขึ้นเป็นท่านั่งอ้าขา มือขวายกมาลูบศีรษะน้อยๆ นี่พร้อมกับพูดออกมาสั้นๆ ได้ใจความไม่แพ้กัน
     
                “นี่เหรอ…น้องสาวฉันเองแหล่ะ”
     
                   
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×