ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #74 : ตอนที่ 74 จัดระบบป้องกันภัย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.91K
      26
      16 ก.ย. 56

     

    ใน ขณะที่เฟตกำลังกอดกับอสูรของตนเอง เวลาแห่งความสุขก็หมดลงไปเร็วเหลือเกิน เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของตัวเองที่แฝงอยู่ในร่างศัตรู แต่ทว่า ปกติเขาก็ไม่ใช่คนโหดร้ายอะไรอยู่แล้ว เลยใจดีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สำหรับคนอื่นบ้าง ตนจึงทำเมินไม่สนใจแสงที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้เล่นกลับมาเกิดที่อยู่ข้าง ล่างห่างออกไป500เมตรนั่น แล้วหันมาซุกไออุ่นกับอสูรของตนเองต่อแบบไม่สนใจอะไรอื่นอีก ส่วนเอลฟ์สาวเองก็มีความสุขจนลืมเวลาไปเลยว่า ตอนนี้ตนกับเจ้านายหวานดื่มด่ำกันมากี่นาทีแล้ว

     

    ผู้ เล่นหนุ่มที่กลับมาเกิดเป็นครั้งที่ 11 ทันทีที่แสงสว่างจากการเกิดหมดลง เขาก็หลับตาพร้อมทำใจที่จะตาย แต่เมื่อรออยู่หลายนาทีแล้วตนเองไม่ตาย ก็เลยคิดว่าไอ้คนฆ่าคงเลิกคิดจะฆ่าเขาไปแล้ว จึงยิ้มขึ้นมาได้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังระแวงที่จะถูกลอบโจมตีเหมือนเดิม จึงกะว่าจะหนีออกจากจุดนั้นให้รวดเร็ว ที่สุด แต่ทว่า กลับหันไปเจอกับอสูรตนเองที่ยืนล้อมอยู่ในบริเวณนั้นเสียก่อน

    นี่มัน อะไรกันชายหนุ่มร้องถามแบบมึนงง ทำไมเขาถึงถูกฆ่าในทุกๆ ครั้งที่เกิด ทำไมอสูรถึงทรยศเขา

    เมื่อ ถูกถาม บรรดาอสูรก็ตอบตามความคิดจริงๆว่า อยากให้เขามองดูพวกเธอแบบผู้หญิงธรรมดาบ้าง ไม่ใช่เครื่องบรรเทาอารมณ์หรือเป็นเพียงตัวประกอบของสิ่งที่เรียกว่าเกม

    หลังได้ยินคำร้อง ชายหนุ่มก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

    จะให้ฉันดูพวกเธอเป็นเพียงผู้หญิงเหรอ บ้าหรือเปล่า เกมก็แค่…..”เขา พูดได้แค่นั้น เมื่อหันไปเห็นใครอีกหลายคนกำลังทยอยเดินเข้ามาในบริเวณนี้ ซึ่งพวกที่มานี่ เขารู้สึกคุ้นเคยกับสัญลักษณ์ที่ปกเสื้อเป็นอย่างมาก

    สมาคมนักฆ่าเอลฟ์ หนุ่มพึมพำเบาๆ พร้อมกับมองดูค่าประสบการณ์และเลเวลของตนเอง จากเคยมีถึง 150 ตอนนี้ลดลงมาเหลือแค่ ร้อยเดียวแล้ว เมื่อถูกสังหารติดต่อกันเป็นว่าเล่น

    ตามงานที่ถูกว่าจ้างมา หากนายไม่ตายเพราะการโจมตีแบบพิเศษ พวกฉันจะต้องทำงานต่อแทนชาย ในชุดดำเผ่าเอลฟ์บอกศัตรูด้วยเสียงเย็นชา พร้อมกับเดินเข้าหาศัตรูอย่างไม่เกรงกลัว อดีตหมอนี่อาจจะเก่งมากก็จริง แต่หลังจากผ่านการสังการแบบมาราธอนกว่ายี่สิบชั่วโมง ความแข็งแกร่งนั่นก็ต้องมีลดหายกันบ้างล่ะ

    หึ เข้ามาซิ ฉันไม่กระจอกหรอกนะแม้จะรู้สึกกังวลกับเลเวล แต่เขาก็มีฝีมือ คิดเหรอว่าจะแพ้ให้กับคนอื่นง่ายๆ อ้อ ตัดไอ้การโจมตีลึกลับนั่นไปก่อนก็แล้วกันนะ

    ได้ ตามที่ขอ เขาถูกการโจมตีจากผู้เล่นนักฆ่าเผ่าเอลฟ์จำนวนมาก ภายในเวลาไม่ถึงนาที ตัวเขาก็นอนจมกองเลือด เหม่อมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย

    เจ้านายบรรดา อสูรร้องเบาๆ แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลืออะไรเลย เพราะตามที่ได้ตกลงกับมนุษย์ประหลาดคนนั้นไว้ พวกเธอจะต้องทำหน้าที่แค่ให้ยาในครั้งแรกเป็นการลงโทษ และรอดูคนที่พวกเธอรัก เป็นการรอคอย รอคอยคนดีๆ หรือไม่ก็รอให้เขาให้อิสระพวกเธอเอง

    เมื่อกลับมาอีก ก็จะเจอกับพวกฉันอีก ดังนั้น เตรียมใจไว้ก็ดีนะนัก ฆ่าหนุ่มกล่าวจบ ก็ใช้หอกเสียบเข้าไปที่คอ เป็นการตัดหัวศัตรูภายในฉับเดียว นักฆ่ามีความโหดเหี้ยมอำมหิตอยู่แล้ว เลยลงมือแบบไม่สนใจอะไรอีกตามเคย แต่ที่พวกเขาต้องสนใจ นั่นก็คือ การลดเลเวลของชายคนนี้ให้เหลือ 1 ตามความต้องการของจักรพรรดิ ที่ได้ทราบความต้องการผ่านมาจากเฟตอีกทีหนึ่ง

     

    ปึง!!! เสียง ปิดประตูเบาๆที่ดังขึ้น ทำให้เฟตปรายตาหันไปมองเล็กน้อย แล้วเขาก็ได้พบกับเทพสาวที่กำลังเดินออกมา แต่เมื่อเธอหันมาเห็นเขากับจาเนียก็นิ่งไปเล็กน้อย

    มานี่ซิครับชาย หนุ่มพยักหน้าเชิญชวนให้อาธีน่าเข้ามาหาตนเอง จากที่เทพสาวที่กำลังลังเลว่าจะกลับเข้าไปดีมั้ย ก็กลายเป็นเดินเข้าไปหาชายหนุ่มตามที่เขาต้องการ

    นอนอิ่มแล้วเหรอครับเฟตถามแล้วโอบอุ้มจาเนียที่หลับไปคาอ้อมกอดของเขาขึ้นมา แหม อกเขานี่สบายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

    เทพปกติไม่นอนอยู่แล้วล่ะค่ะคำ ตอบของเทพสาว ทำให้ชายหนุ่มต้องเอียงคอมอง จากนั้นก็คำนวณดูเล่นๆว่า คำว่าไม่นอน ใช่คนที่หลับสบายในห้องเมื่อสักครู่หรือเปล่าหว่า การทบทวนความคิดของเขาเริ่มตีวงแคบมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงเรื่องที่ เธอมาติดตามเขา โดยยังไม่ขึ้นทะเบียนอสูรติดตาม

    เพราะอยู่นอกเขตของเผ่าหรือเปล่าครับ เลยจำเป็นต้องนอนคำ ตอบของเขาทำให้เทพสาวนิ่งไปอึดใจ แต่แค่นั้นเขาก็รู้แล้วว่าจริงอย่างที่คาด เธอในตอนนี้มีลักษณะทางกายภาพแบบมนุษย์ ต้องกลับไปอยู่บนสวรรค์เท่านั้นถึงจะเหมือนกับเทพตามเดิม

    เมื่อ เห็นเช่นนั้น เฟตก็หันไปมองซ้ายมองขวาเล็กน้อย เมื่อหาไม่เห็นที่นั่ง ก็สร้างขึ้นมาเองจากปีก ปรับเอนสำหรับนอนแล้ววางจาเนียให้นั่งบนนั้น

    อา ธีน่ามองดูสิ่งที่ชายคนนี้ทำด้วยความมึนงง เพราะหลังจากที่เขาวางจาเนียแล้ว ก็เดินวนรอบบริเวณ จนกระทั่งมาหยุดที่ด้านหน้าเธอ แค่นั้นยังไม่พอ มีการเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าเธอไว้อีกด้วย

    เนื้อตัวเย็นเชียวเทพสาวกระพริบตามองด้วยความมึนงง ชายคนนี้ต้องการอะไรกันแน่นะ

    อากาศมันหนาวไงคะหญิงสาวตอบเหมือนขอไปที แต่ลอบจับสังเกตจากชายหนุ่มตรงหน้า

    เฟต ที่ถูกจ้องมองยิ้มบางๆให้ แล้วดึงตัวเธอเข้ามาใกล้เขา จากนั้นก็สยายผ้าออกมาคลุมตัวเธอมา ด้วยความแนบเนียน ตนเลยเขยิบตัวเข้าไปใกล้แล้วโอบกอดเทพสาวด้วย

    อ่ะอาธีน่าอุทาน ด้วยนึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะมาเล่นลูกไม้นี้ ถ้าเธอเกิดถามไปว่าเขาทำอะไร ก็คงจะตอบว่า เพราะคุณบอกว่าหนาวแน่ๆเลย

    อุ่นขึ้นมั้ยครับเมื่อเห็นเทพสาวไม่ถามกลับมา ชายหนุ่มเลยถามกลับมันซะเลย เมื่อกี้บอกว่าหนาวไม่ใช่เหรอ ก็เลยช่วยให้ไออุ่นแบบนี้ไง

    นิดหน่อยค่ะอาธีน่าตอบรับนิ่งๆ แต่ที่มุมปากกลับปรากฏรอยยิ้มบางๆ เฟตที่อยู่ข้างหลังเห็นเช่นนั้นก็ขยับตัวเธอมาใกล้ๆ เพิ่มไออุ่นให้เธอเข้าไปอีก

    ถ้าเกิดทำกับเทพคนอื่นนี่ โดนตีหัวแตกแน่เลยนะหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาเอ่ยออกมาเหมือนพึมพำ แต่เขาที่หูดีอยู่แล้วเลยขยับไปหน้าเข้าไปฟังใกล้ๆ

    แล้วทำไมทำกับคุณแล้ว หัวผมไม่แตกล่ะสิ่ง ที่เฟตถาม ทำให้เธออึ้งไปอึดใจ เหมือนกับกำลังไตร่ตรองว่าจะตอบว่ายังไงดี แต่เรื่องของหัวใจเป็นอะไรที่ตอบกันได้ยาก เธอเลยใช้เวลาในการคิดนานไปนิดนึง

    เพราะคุณมาเพื่อช่วยผม และดูแลผมซินะครับกลับเป็นเขาที่ตอบแทนเธอ เนื่องจากเห็นเธอนิ่งเงียบนานไปหน่อย

    เอ่อ ประมาณนั้นล่ะมั้งคะอา ธีน่าตอบกลับมาแบบไม่มั่นใจเท่าไหร่ เรื่องต่างๆของโลก เธอตอบได้อย่างฉะฉาน ตรงประเด็น รวดเร็วฉับไว แต่พอเป็นเรื่องของหัวใจแล้ว คิดอะไรก็ไม่ออก พอจะพูดออกมาก็ดันไม่ได้ ไม่รู้จะเริ่มต้นว่ายังไงดี

    ฮะฮะ ตอบยากขนาดนั้นเลยเหรอเฟต เริ่มหยอกล้อกับเทพสาว พร้อมกับโอบกอดเธอไว้ภายใต้ผ้าคลุมสีขาวของเขา หญิงสาวที่ถูกหยอกล้อปั้นหน้าบึ้งเล็กน้อย แค่ตอบช้านิดหน่อยมันไม่ได้หมายความว่าตอบไม่ได้ซะหน่อย แค่เรียงคำพูดออกมายากเท่านั้นเอง

    คือ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงมาตามท่านแบบนี้ จะบอกว่าเป็นเพราะสิ่งที่ท่านมี ก็ไม่น่าจะใช่ แม้ทุกครั้งที่ท่านใช้สิ่งของประหลาดพวกนั้น เราจะตื่นเต้นและชอบใจที่เห็นอะไรแปลกใหม่ แต่เมื่อใดที่ท่านบาดเจ็บกลับมา ใจของเรากลับสั่นไหวแปลกๆสิ่ง ที่อาธีน่าพูดออกมา ทำให้ชายหนุ่มที่พึ่งหยอกล้อเธอไปอึ้งเงียบทันที พูดแค่นี้เขาก็มั่นใจแล้วว่าเธอคิดอะไรกับเขา เพียงแต่ว่า การมั่นใจในตัวเองมากเกินไป มันเป็นเรื่องที่พระเอกไม่ควรทำ ตนเลยถามเพื่อความมั่นใจ

    เป็นห่วงผมงั้นเหรอ

    อืมอาธีน่าตอบคำถามพร้อมกับพยักหน้าให้

    เมื่อผมไม่อยู่ กระวนกระวายเหรอเทพสาวนิ่งคิดกับคำถามของเฟตเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบ

    คล้ายๆจะเป็นแบบนั้น

    เฟตได้ยินอย่างนั้นเลยยิ้มออกมาที่มุมปาก พร้อมกับดึงเธอเข้ามากอดจริงๆ แล้วเอาคอพาดไหล่ของเทพสาว

    เส้นผมหอมจังเลยเขาเริ่มหยอกล้อกับเธอ ขณะทำทีเป็นสูดอากาศที่เส้นผมของหญิงสาว

    อา ธีน่าที่พึ่งตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทำอะไรไม่ถูก เธอถึงกับทำหน้าเลิกลักจนชายหนุ่มที่สังเกตอยู่หัวเราะเบาๆ แล้วพูดในสิ่งที่ทำให้เทพสาวหยุดความตื่นเต้น

    ขอบ คุณมากนะครับ ถ้าไม่ได้คุณ ในเหตุการณ์หลายๆอย่าง ผมอาจจะทำให้งานการเสียไปแล้วก็ได้ ผมอาจจะพูดได้ไม่เก่ง และรู้ใจตัวเองได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมจะบอกคุณกับทุกคนได้ ก็คงมีแค่คำๆนี้ล่ะครับ ผมรักคุณนะเปลี่ยน จากความตื่นเต้น เป็นการค้างแทนก็แล้วกัน เมื่อสิ่งที่ไม่เคยได้ยินจากใครมาก่อน เข้ามาสู่หูผู้ที่เป็นถึงเทพแห่งสงครามและปัญญา 1 ใน 12 คณะเทพแห่งโอลิมปัส

    เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันใช่ความรักหรือเปล่าเทพสาวตอบกลับเบาๆ ใบหน้าแดงฉานด้วยความละอาย ทำสงคราม สู้ศึกมานับแสนนับล้านปี พึ่งเคยมีคนกล้าบอกรักเธอก็คราวนี้แหละ

    เฟต ที่ได้ยินคำตอบทำหน้าไม่เข้าใจ หรือเขาจะเข้าใจผิด ว่ามันไม่น่าจะใช่ความรัก แต่ก็เอาเถอะ เท่าที่ได้ดูจากหนังรักนับ 2 เรื่อง คำๆนี้ก็น่าจะเอาไว้ใช้กับผู้หญิงที่เขาห่วงใยที่สุดล่ะมั้ง แต่จะว่าไปแล้ว ในหนังที่ดู พวกพระเอกมันบอกรักผู้หญิงแค่คนเดียวนี่หว่า แล้วไหงเขาถึงบอกรักเป็นคนที่สองแล้วเนี่ย นี่ถ้าพวกอนาตาเซียออกมา เขาก็คงจะต้องบอกรักอีกแน่ๆเลย แต่ ช่างมันเหอะ ความเป็นห่วงเป็นใย มันห้ามกันไม่ได้นี่นา

    ชาย หนุ่มตอบคำถามตัวเองด้วยร่างกาย เขากอดเทพสาวเข้ามาจนเนื้อแนบติดกัน แต่กับเทพสาวคนนี้ เขาไม่เคยเกินเลยมากกว่านี้เลย งั้น เอาใหม่ เขาหมุนตัวของเธอจนมาหยุดอยู่ในอ้อมแขน

    เอ่ออาธีน่าที่ตกเป็นรองอ้าปากเหมือนจะค้าน แต่เมื่อเห็นสายตาที่แน่วแน่ปนอ่อนโยนก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

    ตอบแทนคุณ ด้วยสิ่งๆนี้ คงไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับว่าแล้ว ชายตรงหน้าก็ประทับริมฝีปากเข้าสู่ริมฝีปากที่เรียวบางสมส่วนของเทพสาวในอ้อมแขน พร้อมกันนั้นก็ดึงตัวของเธอเข้ามาใกล้ชิดด้วย

    อื้อเทพ สาวร้องออกมาเบาๆ เมื่อถูกขโมยจูบแบบนี้ เธอกำมือหลวมๆดันที่หน้าอกของชายหนุ่ม แต่ด้วยบรรยากาศยามค้ำคืนที่ดูดด่ำ จากการต่อต้านเล็กๆน้อยๆ ก็กลายเป็นยอมไปโดยปริยาย มือที่ดันจากหน้าอก กลายเป็นไปโอบกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่ม

    ไม่ รู้เป็นเพราะเสียงของเธอหรือเปล่า อยู่ๆ เฟตก็ดึงพลังออกมารอบๆตัวจนมันพลุ่งพล่าน เกิดแสงระยิบระยับเหมือนกับหิงห้อย แสงพวกนี้ออกมาช่วยเสริมบรรยากาศ และอีกด้านก็เข้าสู่ร่างกายของเธอด้วย

    ผู้เล่นเฟตรับเทพีแห่งปัญหา อาธีน่าเข้าสู่กลุ่มค่ะ

    เทพีแห่งปัญญา เลเวล 150 ค่ะ รอการปลดระดับที่แท้จริง หลักจากผู้เล่นขึ้นสู่ระดับราชา (LV.200)ค่ะ’ เสียง ระบบตอบกลับเข้ามา หลังจากที่อาธีน่ายอมรับชายคนนี้ทั้งร่างกาย และจิตใจ แม้เสียงระบบจะรายงานถึงทักษะต่างๆที่เฟตได้รับ หรือของเธอที่จะมีเหลือ ชายหนุ่มก็ไม่สนใจ เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาได้ลิ้มรสจากเทพสาวมันน่ายินดีเสียยิ่งกว่าอะไรในโลก มันช่างสวยงาม หอมหวาน จนอยากหยุดเวลาไว้แค่นี้จริงๆ

    เทพีแห่งปัญญา ได้รับพลังงานพิเศษจากผู้เล่นเฟตเข้ามาเสริมอำนาจและอาวุธใหม่ๆสู่เธอค่ะเสียงระบบสุดท้ายที่ดังขึ้น แม้ 2 หนุ่มสาวจะได้ยิน แต่ก็ไม่สนใจเลย พวกเขาในตอนนี้มีแค่กันและกันแค่นั้นก็พอแล้ว

    อ่ะแฮ่มเสียง เหมือนคนกระแอมไอ ทำให้ผู้มอบจุมพิตอันร้อนแรงแด่เทพสาวปรายตาไปมอง เมื่อเขาเห็นว่าเป็นใครก็กลับมามองเทพสาวใหม่ พร้อมกับหลับตาด้วยความเคลิบเคลิ้ม

    นี่ อย่าทำมาเป็นเมินนะยะ แหม เห็นหายไปตั้ง 3 คน นึกว่าจะไปเดินเล่นหรือวางแผนอะไรสักอีก ที่ไหนได้ ดันมาสวีทกันอยู่ข้างนอกนี่เองหญิง สาวผมน้ำเงินที่พึ่งออกมาจากห้องวีนใส่ทันทีที่เห็นเจ้านายตัวแสบทำเมิน เฟตที่เห็นตั้งแต่แรกแล้วปรายตามามองเหมือนเดิม จากนั้นกลับมากินอาธีน่าต่อ แม้เทพสาวจะตีหลังบอกให้พอแล้ว เขากลับไม่สนเหมือนเดิม แต่เมื่อทนความรบเร้าไม่ไหว ก็เลยยอมเลิก แล้วหันมามองลีเวียธานด้วยสายตาเหนื่อยใจ รู้เปล่าเนี่ย ว่าบรรยากาศดีๆแบบนี้ มันหายากขนาดไหน

    แล้วไหง ตื่นกันมาหมดเลยล่ะชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก

    นอนกันมานานแล้วอนา ตาเซียที่พึ่งออกมาพร้อมกับพวกไรน่าตอบออกมาแทนลีเวียธานที่หน้าบึ้งไม่ยอม ตอบคำถาม ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังคิดว่าเขาผิดเหรอเนี่ย ที่ออกมากินอาธีน่าข้างนอก งั้นเดี๋ยวหิ้วเธอกลับไปกินต่อข้างในห้องก็ได้มั้ง

    ว่าแต่เจ้านายเถอะ จะไปไหนเหรอคะไรน่าถาม เธออยู่กับเฟตมาได้สักพัก จนพอจะรู้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังมีความคิดที่จะต้องทำอะไรบางอย่าง

    ผมว่า จะออฟไลน์ไปซะหน่อยน่ะ มีงานเล็กน้อยเฟตตอบคำถามจิ้งจอกสาวด้วยรอยยิ้ม แต่นี่เป็นรอยยิ้มที่แปลกประหลาด จนพวกอสูรที่คุ้นเคยกับชายคนนี้ดีหันไปมองหน้ากัน

    ถ้าให้เทียบเวลา ที่นี่ในตอนนี้ กับโลกของนายในตอนนี้ มันจะเที่ยงคืนแล้วไม่ใช่เหรอลีเวียธานที่หน้าบึ้งร้องถามเข้ามา แม้จะงอน แต่การที่ทำตัวแบบนี้ไปตลอดคงไม่ดีแน่

    ครับ งานของผมเหมาะกับตอนกลางคืนน่ะ แล้วเวลาก็เร่งเข้ามาแล้วด้วยเฟตตอบคำถามขณะช่วยให้เทพสาวประคองตัวยืน นี่เธอถึงกับขาอ่อนเลนเหรอเนี่ย

    แล้วจะกลับมาตอนไหนเหรอคะซี บิชอปที่ยืนอยู่ข้างๆเมดูซ่าถามบ้าง เธอพอที่จะรู้ว่ามนุษย์ที่มีพลังพิเศษ (ผู้เล่น) จะมีการเข้ามาในโลกใบนี้ตามเวลาที่กำหนด หรือไม่ก็สามารถเข้ามาได้ตามที่ตกลงกันไว้

    เฟตที่ถูกถามนิ่งเงียบทันที เหมือนจะตอบไม่ได้ เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะต้องไปทำธุระนานมั้ย

    อืม ไม่มั่นใจครับ แต่น่าจะเร็วๆนี้ล่ะคำ ตอบของชายที่บรรดาอสูรได้รับ ต่างทำหน้าสงสัยไปตามๆกัน เพราะเริ่มรู้สึกแปลกๆกับบุคลิกของชายผู้นี้แล้ว ทำเหมือนกับคนที่กำลังจะไปตายอย่างนั้นแหละ

    เฟตเห็นบรรดาอสูรทำหน้าไม่เชื่อใจก็รีบทำเนียน เดินกลับไปหาจาเนียที่ยังนอนอยู่ แล้วกระซิบบอกเธอเบาๆที่ข้างหูอย่างอ่อนโยน

    หลังจากฝากฝังอสูรสาวแล้ว เขาก็หันมาที่กลุ่มอสูรของตนเอง ซึ่งทำหน้าสงสัยในความลุกลี้ลุกลนของชายหนุ่ม

    ผมทำไงถึงจะเชื่อใจผมเนี่ยชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถาม เล่นทำหน้าไม่เชื่อใจกันซะแบบนี้ ใครมันจะกล้าจากไปโดยที่ไม่สะสางเรื่องคาใจกันล่ะ

    สัญญาซิอนาตาเซียพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ชายคนนี้เป็นคนรักษาสัญญา ต่อให้จะเป็นจะตายยังไง เขาก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ได้อย่างแน่นอน

    ครับ ผมสัญญาชายหนุ่มตอบรับด้วยใบหน้าจริงจังเช่นกัน เขาเป็นคนที่รักษาสัญญาแบบสุดๆอยู่แล้ว อะไรที่พูด ก็ต้องทำให้ได้

    แต่แค่นี้ไม่พอหรอกนะคะ ต้องทำลายสัญลักษณ์ไว้ด้วยไรน่าเสนอความเห็นออกมา ท่ามกลางบรรยากาศการจากลา มันเลยกลายเป็นเรื่องที่ดูขบขันไปเลย

    งั้นแต่ เฟตกลับเป็นคนที่ขำได้ทุกเรื่อง จริงจังได้ทุกอย่าง เขาเลยเดินเข้าไปประชิดมังกรแห่งความมืด พร้อมกับจูบเธออย่างรวดเร็ว หลังจากถอนริมฝีปากมาก็จูบเข้าที่คอของหญิงสาวอีก ไม่ใช่จูบอย่างเดียว แต่เป็นการดูดเสียด้วย พอถอนปากออกมาแล้ว จึงปรากฏรอยแดงขนาดใหญ่ ให้เห็นว่าเธอคนนี้ผ่านมือเขามาแล้วนะ

    ไรน่าอนา ตาเซียหันไปวีนใส่ตัวต้นเรื่อง ที่แอบไปหัวเราะอย่างสนุกสนานกับความคิดที่แกล้งคนของตัวเอง แต่ก่อนที่มังกรแห่งความมืดจะได้ว่ากล่าวอะไร ก็มองเห็นสิ่งที่จะทำให้เธอยิ้มได้ อ้า ..... ทำให้ครบทุกคนจริงๆซินะ

    เฟต ที่เข้าประชิดตัวจิ้งจอกสาว จับตัวเธอให้หันมามองเขา จากนั้นก็ทำแบบที่ทำให้กะอนาตาเซีย ส่งผลให้หญิงสาวทำหน้าตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็กลายเป็นเคลิ้มแทน เมื่อถูกชายคนนี้ดูดเข้าที่ลำคออันขาวผ่อง

    เดี๋ยวๆ ฉันไม่ได้ขอนะลีเวียธานรีบบอก เมื่อเห็นเจ้านายตนกำลังเดินเข้ามาหา

    ทุกคนต้องได้รับความเท่าเทียมกันครับเฟต ตอบไว้เช่นนั้น แล้วตะคลุบตัวเธอทันที เขาอุ้มเธอไว้กับแขน จากนั้นก็เริ่มบดบี้ขยี้ปาก จนเจ้ามังกรแห่งท้องทะเลถึงกับครางออกมา หลังจากเสริมพลังให้เล็กน้อยแล้ว เขาก็เลื่อนมาทำสัญลักษณ์ให้อีกด้วย

    เม ดูซ่ากับซีบิชอปหันมามองหน้ากัน แล้วถอยเข้าไปในห้อง สิ่งที่เฟตพูด ดูเหมือนพวกเธอจะต้องได้รับด้วย และดูเหมือนจะจริงดั่งว่า ชายหนุ่มคนนั้นปล่อยลีเวียธานนั่งลงบนพื้นเรือ แล้วหันเป้าหมายมาทางพวกเธอแทน

    เฟตก้าวสามขุมเข้าไปหา 2 สาว อย่างช้าๆ ใบหน้านั้นเรียบนิ่งจนเดาไม่ได้ว่า คิดจะทำอะไรกันแน่

    ผมต้องขอโทษนะครับ แต่พวกคุณจำเป็นจะต้องมีพลังไว้บ้างชาย หนุ่มกล่าวน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมกับเอื้อมมือมาขอให้พวกเธอยอมเอง อสูรของเขาจะแกล้งยังไงก็ได้ เพราะเล่นกันบ่อยอยู่แล้ว แต่ 2 คนนี้ไม่ใช่ พวกเธอพึ่งมาและการทำอะไรที่ไม่สมควรไป อาจทำให้มองหน้ากันไม่ติด

    อสูร ทั้ง 2 ได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองหน้ากัน และตรองในสิ่งที่ชายตรงหน้าได้บอก เมดูซ่านั้นเข้าใจได้ทันทีว่าชายคนนี้หมายถึงอะไร เนื่องจากผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาหลายครั้งแล้ว แต่กับซีบิชอป สงสัยจะต้องให้เวลานานหน่อย เพราะดูเธอจะหัวอ่อนและอ่อนต่อโลกมากเกินไปนิด

    เมื่อเมดูซ่าไม่มีท่าทางในการโต้แย้งใดๆ เฟตเลยดึงมือจนเธอเข้ามาหยุดอยู่ด้านหน้า

    ขออนุญาตนะครับชายหนุ่มกล่าวกับเธอเบาๆ ในขณะที่หญิงสาวได้แต่ก้มหน้า รู้ข้อดีข้อเสียก็จริง แต่การที่จะทำอะไรแบบนี้ก็ยังดูน่ากลัวอยู่ดี

    เฟตค่อยๆเชยคางหญิงสาวให้มองมาทางตน จากนั้นก็ค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปาก พร้อมกับส่งพลังให้เธอผ่านทางลิ้น

    เม ดูซ่าที่พึ่งถูกถ่ายโอนพลังเป็นครั้งแรกสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ภาพที่เคยตามหลอกหลอนได้กลับมาอีกครั้งแล้วในตอนนี้ เฟตที่สังเกตท่าทางอยู่กระชับหญิงสาวเข้ามาโอบกอดไว้อย่างอ่อนโยน จนหญิงสาวคลายความกังวลออกไปได้ ผู้เล่นเฟตรับหญิงต้องคำสาปเมดูซ่าเข้าสู่กลุ่มค่ะ

    เลเวลของเมดูซ่าอยู่ที่ 100 ค่ะ สามารถเพิ่มให้ได้ ในกรณีที่มีพลังกลับคืนมาเสียงระบบดังแบบที่ทำกับอาธีน่า แต่ในเวลาหอมหวาน สิ่งพวกนี้กลับไม่เข้าหูชายหนุ่มคู่นี้เลย

    หลังจากถ่ายพลังให้จนพอดีแล้ว ชายหนุ่มก็ถอนริมฝีปากออกมา แล้วจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า

     “หวานเหมือนขนมเลยนะครับชาย หนุ่มหยอกหญิงสาวเล็กน้อย เมดูซ่าที่หูอื้อตาลายเพราะความดูดดื่มที่พึ่งได้รับ ยกมือขึ้นมาปิดหน้าที่แดงฉานของตัวเองไว้ด้วยความเขินอาย ทำให้เฟตที่หยอกล้อเธอยกมือไปลูบหัวให้อย่างอ่อนโยน จนหญิงสาวคลายความเขินลงมาได้

    เอ่อ คุณซีบิชอปหลังจากปลอบเมดูซ่าได้แล้ว เขาก็หันไปมองทางซีบิชอปที่หลบตัวเข้าไปหลังประตู ทำยังกับเมื่อกี้เขาจูบเธออย่างนั้นแหละ

    คือว่าเงือกสาวหลบเข้าไปจนเหลือหน้าแค่ครึ่งซีก เฟตที่เจอกับคนขี้อายจัดทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว แต่เพื่อความปลอดภัยสำหรับพวกเธอ เขาต้องทำ

    ผมขออนุญาตนะครับชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่หน้าตื่น ทำตัวไม่ถูก

    เอ่อ คือว่าเงือกสาวเริ่มรนด้วยความไม่เคย จะให้จูบกับผู้ชายเหรอ ใครมันจะกล้า

    ไม่เจ็บนะครับ ไม่เจ็บชายหนุ่มเริ่มปลอบ เขาเอาสูตรที่หมอบอกเด็กมาบอกหญิงสาวตรงหน้า

    จริงเหรอคะหญิงสาวเอียงคอถามกลับมาทันที

    จริงครับ เหมือนมดกัดเอง แป๊บๆ ก็เสร็จแล้ว

    อืมเงือกสาวนิ่งคิดสักพัก ก็ยอมพยักหน้าให้ เฟตเลยกล้าเดินที่จะเข้าไปใกล้เธอ ที่อยู่หลังบานประตู

    เอ่อ เป็นครั้งแรกนะคะ อ่อนโยนด้วยนะหญิงสาวบอกด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ชายหนุ่มเลยลูบหัวให้เธอเล็กน้อย แล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปไกลตัวเธอ

    วูบ!!! ตัว เงือกสาวอ่อนระทวยทันทีด้วยความอ่อนแรง ดีที่เฟตพยุงตัวเธอไว้อยู่ เลยไม่ล้มหัวฟาดประตูไป แต่การแฝงพลังต้องทำให้เสร็จ เขาเลยไม่ยอมปล่อย แม้หญิงสาวในอ้อมแขนจะนิ่งไปด้วยความช็อคแล้ว

    ผู้เล่นเฟตรับเงือกซีบิชอปแห่งจอมเวทเข้าสู่กลุ่มค่ะ

    ซีบิชอปมีเลเวลที่ 80 สามารถเพิ่มเลเวลได้อีกค่ะเสียงระบบยังคงตามหลอกหลอนอยู่ แต่พวกเขากลับไม่สนใจ เพราะสิ่งที่กำลังทำอยู่ มันน่าสนใจกว่าที่ได้ยินเยอะ

    หลังจากถอนริมฝีปากออกมา เฟตก็จ้องมองเงือกสาวที่หน้าแดงฉานด้วยความอาย

    เหมือนได้กินอะไรสักอย่างเข้าไปเลยแหะชาย หนุ่มยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้า ที่ยังบิดซ้ายขวาทำตัวไม่ถูกเหมือนเดิม แต่ก่อนที่เฟตจะได้ปล่อยตัวเธอออกจากแขน หญิงสาวก็ขยับริมฝีปากที่แดงเพราะแรงจูบอีกครั้ง

    เรียกว่าคาเรนก็ได้ค่ะเงือกสาวยอมบอกชื่อจริงๆ ของตัวเอง เป็นการยืนยันได้ดีว่า เธอเองก็ยอมรับตัวของชายหนุ่มตรงหน้าเช่นที่ระบบได้ประกาศบอกจริงๆ

    แต่ ทว่า การยอมรับเข้ากลุ่มไม่ใช่ว่าจะออกไม่ได้ ขอแค่เห็นว่าเจ้านายไม่ดีจริง พวกเธอจะออกจากกลุ่มก็ได้ โดยการลอบฆ่าตัวเจ้านายมันซะเลย แค่นั้นก็จะเป็นการออกจากกลุ่มได้อย่างถาวรที่สุด และแน่นอน มันเป็นอะไรที่เจ็บแสบที่สุดเช่นกัน ในกรณีที่ถูกอสูรทรยศ แต่ ถ้าเลี้ยงดูดีจนอสูรติดแจ อันนี้คงไม่ต้องห่วงเรื่องจะถูกลอบฆ่าแล้วล่ะ

     

    หลัง จากเฟตได้แฝงพลังให้กับอสูรทั้งหมด เขาก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่เจ้าของเรือบิน หรือเผ่าคนแคระที่ยังง่วนอยู่กับอาวุธสุดรักของเขา แต่เมื่อเขาได้คุยกับอสูรพวกนี้ ก็ถึงกับอึ้งตะลึงไปเลย เวลาผ่านไปแค่ 12 ชั่วโมง พวกเขากลับบอกได้แล้วว่า อาวุธแต่ละอย่างสามารถทำงานได้ยังไง แถมยังสร้างสิ่งของเลียนแบบมาให้ดูเป็นการอวดผลงานแล้วด้วย

    คิดยังไงถึงสร้างปืนยิงระเบิดก่อนล่ะครับชายหนุ่มถามคนแคระสูงอายุตรงหน้า ที่กำลังอุ้มลูกระเบิดที่พึ่งไปแอบสร้างออกมาโชว์ให้ดู

    มันมีชื่อเรียกแบบนี้เหรอ อืมกลุ่ม คนแคระพยักหน้าให้กัน แล้วจดชื่อนั้นลงบนหัวแปลนกระดาษ เฟตเห็นเช่นนั้นเลยช่วยตั้งชื่อให้ หลังจากคุยจนได้รู้ถึงความคิดที่กำลังใฝ่หาเทคโนโลยีเหมือนกัน พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มทำความคุ้นเคยและเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด

    อืม เครื่องยิงระเบิด 40 มม.ซินะคน แคระเฒ่าพยักหน้าให้กับชื่อที่ชายหนุ่มตั้งให้ ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ตั้งหรอก เป็นการแนะนำถึงสิ่งที่ควรจะเป็นมากกว่า ถ้าตั้งแบบงงๆ เดี๋ยวเวลาใช้จะเรียกหากันยาก

    เฟตพยักหน้าให้กับคนแคระ จากนั้นก็มองท่อกลมกลวงยาว 2 เมตร ที่กำลังจะถูกติดตั้งไว้ที่ตรงหน้าเรือลำนี้

    แล้วเจ้าจะไปไหนเหรอชายชราถาม ตอนที่ชายคนนี้ล่ำลากับพวกอสูร พวกเขายังคิดอยู่เลยว่า ไอ้หมอนี่กำลังจะไปทำสงครามที่ไหน ทำไมถึงลาเหมือนคนอดยากซะขนาดนั้น

    ผมมีธุระน่ะ ว่าแต่ จะช่วยสร้างของพวกนี้เพิ่ม แล้วติดรอบเรือได้หรือเปล่าสิ่ง ที่เฟตถาม ทำให้กลุ่มนักผลิตและพัฒนาพยักหน้าให้ การสร้างน่ะ ง่ายมากๆ แต่การหาแปลนแบบในการสร้างนี่ซิ ยากโคตร แถมถ้าสร้างมาไม่ดี จะอารมณ์เสียกันซะอีก

    เมื่อ เห็นเช่นนั้น เฟตก็เลยวาดแปลนอาวุธให้คนพวกนี้ได้ศึกษา แม้จะใช้เวลาไปถึงชั่วโมงเต็มๆ แต่แค่นั้นก็น่ายินดีแล้ว สำหรับกลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนกับเขา

    งั้น ฝากด้วยนะครับชาย หนุ่มกล่าวลากับกลุ่มคนแคระ แล้วเดินไปหาอสูรของตนเองที่นั่งเล่นกินลมฆ่าเวลาอยู่บนเรือ หลังจากล่ำลากันเป็นที่เรียบร้อย ชายผู้นี้ก็ทิ้งดิ่งลงไปที่ด้านล่าง จุดมุ่งหมายอยู่ที่อาคารออฟไลน์นั่นเอง

    เขาว่าอะไรเหรอคะ ทำไมถึงทำหน้ายิ้มแย้มกันแบบนี้จาเนียที่เห็นกลุ่มคนแคระฉีกยิ้มประหลาดๆ เดินเข้าไปถามเพื่อฆ่าความสงสัยทันที

    ดูนี่ซิผู้เฒ่าแคระหยิบแปลนเรือให้หญิงสาวได้ดู เมื่อเธอดูแล้วก็หันไปมองหน้าอาธีน่า จนเทพสาวต้องเดินเข้ามาดูบ้าง

    สงสัยเขาจะทำเพื่อพวกเราล่ะมั้งคะ ถ้ามองจากระบบป้องกันของเรือแล้วหญิง สาววิเคราะห์หลังจากเห็นว่า เรือลำนี้ต้องติดตั้งทั้งเครื่องยิงระเบิด ปืนกลแกตลิ่ง รวมไปถึงแท่นปืนใหญ่ต่างๆ ที่พึ่งได้แปลนมาจากเฟต ถ้าเรือลำนี้สามารถสร้างได้ตามที่ชายคนนั้นบอกไว้ บอกได้คำเดียวว่า เมืองหลวงเอลฟ์ เละไม่เหลือซากแน่

    หึ ไอ้หมอนั่นลีเวียธานเชิดคางกล่าวเหมือนไม่ชอบใจ แต่พวกอนาตาเซียที่เห็นใบหน้าอมชมพูของเธอก็พากันลอบถอนหายใจ ซึนแบบนี้แหละ จะอดกิน

     

    อา คารออฟไลน์ หลังจากเฟตทิ้งดิ่งจนมาถึงอาคารออฟไลน์ประจำเมืองหลวง เขาก็รีบเข้าไปในตัวอาคาร มุ่งตรงไปยังห้องเพื่อออฟไลน์ทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้ตัดระบบออฟไลน์ออกไป มือที่พึ่งมาเกาะที่ข้างหลัง ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก

    จะเอาจริงเหรอเอรีสถามขณะกอดตัวเองเอาไว้

    อืมเฟตตอบรับอย่างเงียบงัน รู้ดีว่าสิ่งที่เขากำลังจะไปทำ จะส่งผลต่อเขามากขนาดไหน แต่มันไม่มีทางเลือกแล้ว เขาถูกบีบแล้ว

    ก็ได้ จะทำอะไรก็ทำเถอะ แต่จำไว้อย่างนะ ว่าฉันจะอยู่กับนายตลอดไป ต่อให้นายตายไปจากโลกนี้ หรือโลกหน้าก็ตามเอรีสกล่าวจบก็ดึงตัวชายหนุ่มให้มาประจันหน้ากับเธอ พร้อมกับบรรจงจูบอย่างอ่อนโยน

    จูบนี้คงเป็นจูบที่ 8 ของชายคนนี้แล้วล่ะมั้ง

     

    โลกแห่งความจริง หลังจากออฟไลน์ออกมา เฟตก็พึมพำเบาๆ

    แค่ตรูจะไปกระทรวงกลาโหม หน้าตรูมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอฟะใช่ เขาแค่คิดจะเข้าไปสำนักงานกลางของตัวเองเอง แล้วทำไมแต่ละคนถึงพูดเหมือนเขาจะไปตายเลยล่ะเนี่ย

    แต่ อย่างว่า คนเราไม่รู้หน้าตาของตัวเองหรอก ตอนที่ชายหนุ่มคิดจะเข้าไปสำนักงานกลาง ใบหน้าของเขามันแย่แบบสุดๆ เพราะว่ามันเป็นความแย่ในรอบเดือน ที่ทุกๆเดือน เขาจะต้องไปทำงานตามที่ได้ตกลงกับรัฐมลตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ และมันคือความทุกข์ ที่เขาต้องพบเจอกับมันตลอด

    เอาเถอะ ก็ถือว่าไม่แย่ซะทีเดียวเฟตพึมพำพร้อมกับหันมามองหนูนาตาชา ที่นอนดิ้นมากอด หรือไม่ก็เนียนมากอดเขาไว้ตอนไหนไม่รู้

     

     “จะออกไปไหนเหรอครับทันทีที่ผมโผล่พ้นประตูบ้านชั้นในออกมา ก็ถูกยามของบ้านร้องถามทันที

    เข้าสำนักงานหน่อยน่ะครับผมตอบแล้วยิ้มให้ แหม ตี 1 แล้ว ยังไม่หลับไม่นอน แสดงว่าตั้งใจทำงานเต็มที่ซินะ

    ไปทำงาน เหรอครับพี่รปภ.ถามแล้วทำหน้าฉงน คือเขาก็รู้นะ หลังจากที่ผมบอกว่าจะไปไหน แล้วเขาจะถามทำไมถึงล่ะเนี่ย

    ครับผม ยังคงตอบกลับอย่างสุภาพ ผู้ที่มีอายุมากกว่า ผมให้ความเคารพอยู่แล้ว แม้จะดูเย็นชาไปบ้าง แต่การโต้ตอบอย่างสุภาพมันคือเอกลักษณ์ของผมละนะ

    แล้วจะไป ชุดนี้น่ะเหรอครับอืม ก็ชุดสูทสะพายกระเป๋ากีตาร์นี่แหละ มันผิดปกติตรงไหนกัน

    ดู เหมือนเขาจะพึ่งรู้ตัวว่ากำลังละลาบละล้วงผมมาแจนเกินไป จึงกล่าวขอโทษพร้อมกับเปิดประตูให้ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่วายที่จะถามว่าจะให้เขาไปส่งมั้ย เหอะๆ เสียใจด้วยนะ ผมไม่ชอบขึ้นรถแบบนั้น มันเปลือง โบกรถเมล์ไปดีกว่า

    แต่ ผิดผมเองที่ลืมดูเวลาไปนิดแหะ ตอนนี้มันตี 1 จะมีรถโดยสารที่ไหนวิ่งอีก อย่างมากก็ได้แค่แท็กซี่ล่ะนะ จึงจัดการโบกรถรับจ้างให้เขาไปส่งผมที่สำนักงานใหญ่

    หลังจากขึ้นรถมาได้ ผมที่นั่งอยู่ในห้องโดยสารก็วางกระเป๋ากีตาร์ไว้ที่ด้านข้าง

    แหม ไปเล่นดนตรีที่ไหนเหรอครับ ใส่ชุดซะหรูเชียวตรู พ้นจากพี่ที่บ้าน มาเจอไอ้หน้าเฮือกนี่ถามอีกแล้วเหรอฟะ เออ ถึงจะสะพายกระเป๋ากีตาร์ นั่นไม่ได้หมายความว่าตรูต้องเป็นนักดนตรีนะโว้ย

    อืมผม รับคำสั้นๆ พร้อมกับเท้าค้างเบนสายตามองไปที่ด้านนอกของรถ ส่วนคนขับรถก็ไม่วายที่จะชวนผมคุยไปต่างๆนา เริ่มจากเหตุการณ์นู่นนี่นั่น จนกระทั่งมาถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญสั่นประสาท ผมที่ฟังอยู่ก็เลยต้องเอาโทรศัพท์หน้าจอขนาดใหญ่ออกมาดูเป็นการโชว์ว่าตรู ไม่ว่างคุยนะโว้ย

    อืม พี่ชาย สถานที่พิกัด xxx/xx ถนน.xc นี่มัน เป็นที่ไหนเหรอครับผมย้อนถามกลับไปบ้าง เมื่อเห็นโชเฟอร์ปากนรกกำลังเริ่มทำการซับฟายไม่ยอมหยุด

    อ้อ เขตนั้นเป็นเขตเปิดสำนักต่อสู้นี่ครับ มีตั้งแต่สถานที่ใหญ่ๆ ไปยันย่อยๆเลย รู้สึกเหมือนจะเป็นแหล่งของพวกนักสู้มือดีเลยนะเอา วะ อย่างน้อยเขาก็ยังตอบที่เราถามได้ ไม่ถือว่าแร้งประโยชน์ซะทีเดียว แต่ทว่า เมื่อขึ้นหัวข้อใหม่ ไอ้หมอนี่ก็ดันเปิดประเด็นใหม่ได้เหมือนเดิม ทำให้ผมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับมองสัญญาณไฟสีแดงที่ขึ้นอยู่ในพิกัด ดังกล่าวซึ่งตอนนี้มันโชว์หล่าอยู่บนมือถือผมนี่เอง

    ไอ้ สัญญาณนี้ ผมไม่ได้แฮกค์มาจากใครหรอก พอดีเมื่อตอนเย็น ผมเห็นรถคันหนึ่งที่จอดห่างไปเกือบ 500 เมตร มีพิรุธแบบเห็นได้ชัด อืม ถ้าถามว่าผมเห็นได้ยังไง คงต้องขอบคุณเวลาในตอนเย็นล่ะมั้ง ที่ส่องกระทบกับกล้องหรืออะไรสักอย่างที่เขาใช้ส่องมา จนผมรู้สึกผิดสังเกต แหงล่ะ ตอนเย็นๆคงไม่มีใครมาส่องกล้องเล่นๆแถวบ้านคนรวยเป็นแน่ แล้วในตอนนี้ผมยิ่งขึ้นแท่นถูกลอบฆ่าด้วยแล้ว ไม่อยากจะสืบเลยว่าใครเป็นเป้าหมาย เลยทำให้ผมต้องรีบเข้าสำนักงานแบบนี้ไง

    ส่วน ที่ว่า ทำไมผมถึงได้สัญญาณจากรถคันนี้มาน่ะเหรอ ก็สืบเนื่องจากไอ้ตอนที่ผมวางแท่นฐานยิปซั่มซ่อนตัวนั่นแหละ ผมไม่ได้จะวางแกล้งพวกสาวๆหรอก แต่ผมต้องการซ่อนสายตาจากคนพวกนั้น ซึ่งก็ได้เป็นอย่างดีเสียด้วย จนผมลอบยิงเครื่องส่งสัญญาณ GPS ไปยังรถคันนั้น ได้โดยผ่านปืนสไนเปอร์ที่ผมยิงในครั้งแรกเมื่อตอนเย็น

    อืม ไม่ตามเรามาแบบนี้ หรือเราคิดผิดหว่าเมื่อ รถคันดังกล่าวไม่ได้ตามผมมาในตอนที่ออกจากบ้าน ทำให้ผมเริ่มคิดในแง่ดีว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ ถ้าไม่ได้ตามเรามา แล้วไหงถึงออกมาพร้อมเราในตอนที่ขึ้นแท็กซี่ด้วย นี่ซินะ พิรุธที่ 2

    ใน ขณะที่ผมตกอยู่ในภวังค์ความคิด ไอ้โชเฟอร์ซับนรกก็ยังพูดคุยต่อไปได้อีก สมกับเป็นคนที่ผ่านโลกมาในแบบที่คุย อืม ........ แต่รำคาญนะเนี่ย

     

    หน้าที่ทำการกระทรวงกลาโหม

    เวลา ยามค่ำคืนถือเป็นเวลายามวิกาล แต่คนในวงการกลับรู้ดีว่า นี่คือเวลาหลักของผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังของรัฐบาล ซึ่งชายในชุดสูทที่พึ่งลงจากแท็กซี่ก็เป็นหนึ่งคนในหมู่คนพวกนั้น

    ขอโทษครับ ที่ทำการกองทัพปิดแล้วรปภ.หนุ่มร่างบึกบึนร้องห้ามในตอนที่ชายชุดสูทกำลังจะเดินเข้ามา ทำให้ชายผู้นั้นต้องหยิบเอาบัตรในกระเป๋าออกมาโชว์

    เชิญเลยครับเมื่อ เห็นว่าเป็นใครก็ยินยอมให้เข้าแต่โดยดี ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายที่จะมองตามหลังด้วยความแปลกใจ ที่เห็นวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

    อ้าว ดาร์กเฟต เดือนนี้มาเร็วจังนะเป็นคำทักทายของเจ้าหน้าที่ที่เข้าทำงานกะดึก เฟตที่เดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋ากีตาร์ถอดถอนหายใจ ถ้าเป็นไปได้ เขาไม่ขอมาได้มั้ยเนี่ย

    ท่านรัฐมนตรีอยู่มั้ยเป็น คำถามย้อนกลับของชายหนุ่มที่ห้วนและดูแล้งไมตรีมาก แต่สำหรับคนที่นี่ สิ่งที่ชยาผู้นี้พูดให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยมากกว่า จึงยอมตอบโดยยิ้มแย้มให้เหมือนเดิม

    หน้า ห้องรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม หลังจากรู้จุดเป้าหมายรัก ชายหนุ่มก็ตรงมาที่หน้าห้องนี้ทันที แต่ก่อนที่จะเข้าได้ เขาก็ต้องผ่านด่านของหญิงสาวในชุดสูทสีกรมท่า

    แสดงบัตรค่ะ ถอดเสื้อสูทออกด้วย กระเป๋านั่นของอันตราย วางไว้ค่ะ จะรับฝากให้สม กับเป็นเลขาจริงๆ กลัวว่าจะมีคนเข้าไปทำให้ห้องของท่านรัฐมนตรีเสียหายซินะ หึหึ แต่ไม่เป็นไร เขาเป็นคนดี ทำตามสิ่งที่เธอร้องขออย่างวาง่าย ก่อนที่เลขาสาวจะเปิดสัญญาณ ให้เข้าไปในห้องนั้นได้

    ปึง!!! เฟต ปิดประตูไม้สักราคาหลายล้านตามแบบปกติ แม้จะมีคนบอกว่าเขาทำอะไรไม่ถนอมของ แต่ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย นี่มันไม้สักนะเฟ้ย แล้วทำไมถึงต้องสนใจด้วยล่ะ โกงกินงบประมาณแผ่นดินมามาก จะเสียตังซ่อมอีกนิดจะเป็นอะไรไป แต่เรื่องนั้นค่อยว่ากันในตอนที่พักแล้วกัน ตัวของเขาในตอนนี้กำลังเดินไปที่โต๊ะตรงมุมห้อง ที่ถ้ามองผ่านๆ จะเห็นว่าเป็นจุดเก็บเอกสารธรรมดา

    อืม เดือนนี้งานคัดมาให้เยอะแหะเฟตพึมพำขณะใช้กุญแจสำรองที่ท่านรัฐมนตรีให้เขาออกมาไขเปิดตู้กระจก เพื่อเอาเอกสารที่เมคหัวข้อว่างานพิเศษออกมา

    หลังจากได้เอกสารแล้ว ชายหนุ่มก็เริ่มคัดงานที่ตนทำได้ออกมา ซึ่งงานพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานระดับ B- SSS พูดได้ว่า คุ้มค่าสำหรับการมาทำงานแค่เดือนละครั้งของเขา

    งาน ที่เฟตเคยได้บอกให้คัดไว้ จะมีแค่หัวข้อหลักๆแค่ข้อเดียว นั่นก็คือ ไม่รับงานฆ่าคน เพราะสิ่งที่เขาร่ำเรียนมา คือการช่วยชีวิตคน จะคอยไล่ยิงคน ไปสมัครเป็นเพชฌฆาตไป๊

    เฮ้อ งานแต่ละอย่าง ทำไมเดือนนี้มันงานแย่แบบนี้เนี่ยหลังอ่านงานที่กาหัวข้อหลักๆหมดแล้ว ชายหนุ่มก็ถอนหายใจบ่นออกมาคำใหญ่ งานแต่ละอย่างมีแต่งานให้ไปสนับสนุนกองทัพ ช่วยเหลือตัวประกัน (อันนี้งานเร่งด่วน มีกำหนดไม่ถึงวันสอด แนมข้าศึก ช่วยเหลือทหารที่ถูกจับ นี่ยังไม่นับงานที่ต้องเข้าไปในสมรภูมิในประเทศที่กำลังเกิดสงครามเพื่อรวบ รวมข้อมูลทางสงครามนะ นี่มัน ใช้ให้คุ้มเลยจริงๆแฮะ

    หมายความว่ายังไง ที่ท่านไม่อยู่ ผมเห็นไฟภายในห้องเปิดอยู่แบบนั้นใน ขณะที่เฟตกำลังตกลงใจจะเอางานสนับสนุนกองทัพ เขาก็ได้ยินเสียงแว่วๆเหมือนคนเถียงกันจากนอกห้อง อืม ใกล้ขนาดนี้น่าจะเป็นหน้าห้องท่านรัฐมนตรีนี่แหละ

    ท่านไม่อยู่จริงๆ นั่นแค่เจ้าหน้าที่พิเศษเข้าไปตรวจงานเป็นเสียงของเลขาสาวหน้าตายนั่นแน่ๆ ทำให้ชายหนุ่มเริ่มมั่นใจแล้วว่าเสียงๆนั้นทะเลาะกันข้างหน้าห้องแน่นอน

    อย่า พูดเป็นเล่นนะ ห้องของท่านมีระบบรักษาความเรียบร้อยเป็นร้อยระบบ มีการป้องกันไว้รอบด้าน เพราะเป็นถึงห้องที่รวบรวมข้อมูลของกองทัพทั้งหมด จะปล่อยให้คนทั่วไปเข้าไปได้ยังไงแหม ช่างเถียงไม่ยอมความดีจริงๆ อืม แต่ก็ถูกในแบบของเขานะ ชายหนุ่มที่กำลังเก็บเอกสารเลยลอบปรบมือให้เบาๆ

    นั่น เยาะเย้ยตรูอีกชิบหาย ได้ยินด้วยเหรอฟะ ไอ้หมอนี่หูดีจริงๆ

    ขอความกรุณา ว่าอย่าพาลค่ะเลขาหน้าตายบอกด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาราบเรียบเหมือนเดิม ใครที่ได้ฟังต้องยอมสยบให้แน่นอน และชายที่ถูกกล่าวเตือนก็ยอมสยบให้จริงๆด้วย

    แต่ว่า นี่ท่านเมินคำขอของผมไปหลายวันแล้วนะครับ นับแต่เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่พิเศษของเราถูกลอบยิงคำพูดนี้ทำให้เฟตชะงักงัน จากนั้นก็เริ่มรื้อเอกสารที่เคยขึ้นหัวว่ามาจากสำนักงานตำรวจ

    และ เขาก็ได้เจอจริงๆ มันเป็นคำร้องขอคนสนับสนุน หลังจากขอไปที่หน่วยงานไหนก็ไม่มีใครยอมรับความช่วยเหลือ แถมทำเมินเหมือนสิ่งๆนี้เป็นหนามร้ายประจำกองทัพเลยด้วย แต่น่าเสียดาย ที่กองเอกสารนี้ถูกคัดกรองมาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งไม่มีหน่วยงานไหนมาวุ่นวายได้ งานทุกชิ้นที่เคยร้องขอเลยตกมาอยู่ที่กองงานของเฟต

    อืม พอดีเป๊ะจริงๆชาย หนุ่มพึมพำ หลังจากอ่านพิกัดเป้าหมายที่ภายในเอกสารลับบอกแล้ว พบว่ามันเป็นจุดที่เขาพึ่งถามกับโชเฟอร์ซับนรกไปพอดีเลย สถานที่นั้น มีอะไรเกี่ยวเนื่องกับพวกโจรที่ยิงเขาหรือเปล่านะ

    ท่านงานเยอะค่ะ อาจจะมองข้ามหรือมองเลยผ่านก็ได้ แต่ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ต้องได้รับการเหลียวแลแน่คำ พูดของเลขาสาว ทำให้ผู้ที่ส่งคำร้องพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ในขณะที่เฟตก็ถอนหายใจ ที่เธอรู้ว่าเขาหาเอกสารที่ว่าเจอแล้ว อืม นี่มันอะไรกันแน่เนี่ย ตำรวจสืบค้นเจอ อยากจะส่งหมายค้นไป แต่ทางศาลกลับไม่ยอมออกหมาย เพราะหาว่าข้อมูลเป้าหมายไม่พอ จนต้องมาร้องขอคนสนับสนุนช่วยเหลืองั้นเหรอ เหอะๆ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เริ่มมีลับลมคมไหนกับเขาซะแล้วนะเนี่ย

    กึก!!! เสียง รองเท้ากระทบพื้นที่ดังออกห่างไปเรื่อยๆ เฟตเลยเดินออกมาจากห้องของนายใหญ่แห่งกระทรวงแห่งนี้ พร้อมกับมองหน้าเลขาสาวที่รู้ถึงการมาของเขา

    รอบนี้รับงานอะไรคะ ไปสอนโรงเรียนอนุบาลหมีน้อยเหรอเป็น คำกล่าวแดกดันที่เจ็บแสบ เนื่องจากชายผู้นี้มีฐานะทางทหารที่สูง แต่ไม่ยอมรับที่จะเป็นซะที แถมยังไม่ยอมฆ่าคนอีกด้วย จึงเหมือนกับกาฟากประจำกองทัพเลย

    อืม ผมได้แล้วเฟตยกเอกสารในมือให้ดู ส่งผลให้หญิงสาวลอบถอนหายใจ ที่เห็นว่าเป็นงานของตำรวจนายเมื่อกี้จริงๆด้วย

    หลัง ได้งานแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่สนใจอะไรอีก เขาเดินไปรับของทั้งหมดคืน แล้วเดินออกจากโซนปกครองแดง ไปยังโซนเขียว ที่เปิดใช้บริการสำหรับพนักงานทุกคน

    อืม งานของกองทัพต่างประเทศก็ส่งมาแฮะเฟต ที่เปิดคอมกลางโดยใช้อีเมลเจ้าหน้าที่บ่นพึมพำ แหม แค่เคยไปช่วยงานที่นั้นไม่กี่ครั้ง พอมีงานอะไรก็ส่งมาให้แบบนี้ ช่างไร้ความเกรงใจกันจริงๆนะ แต่ก็อย่างว่า เขาไม่ได้รังเกียจอยู่แล้ว แค่บนกระปอดกระแปดพอเป็นพิธีเท่านั้นแหละ

    ใน ขณะที่ชายหนุ่มไล่ดูงานที่ถูกส่งมาจากกองทัพของประพันธมิตรรวมไปถึงเพื่อน บ้าน เขาก็ต้องเอะใจกับงานของกองทัพประหลาด ไม่ซิ กองทัพต่างด้าว ที่มีเพียงประเทศหนึ่งเดียวในโลกใบนี้ ประเทศบ้านเกิดของพรอซหรือประเทศที่มีหอชมเมืองที่สูงสวยที่สุดในโลกนั่นเอง

    หืม นี่มันหลัง จากอ่านไปได้สักพัก เฟตก็อุทานออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่างานนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างหลายประเทศ รวมไปถึงประเทศของเขาด้วย โดยมีบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ระดับโลก มาเป็นผู้สนองตัณหากองทัพ หรือจะช่วยสนับสนุนยุทโธปกรณ์ทางสงครามนั่นเอง

    หึหึ ช่างกล้าส่งเรื่องมานะชาย หนุ่มหัวเราะในลำคอขณะปิดไฟล์เอกสารที่ระบุวันเวลาลง ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่เขาจะต้องไปเลย ในเมื่อกองทัพของประเทศเราก็มีความสามารถสูงในการตอบรับข้อเสนอต่างๆอยู่ แล้ว อีกอย่าง เขาไม่เห็นจะน่ายินดีเลย ที่ให้บริษัทเกมมาช่วยพัฒนาอาวุธให้ โดยที่กองทัพไม่อาจพัฒนาอาวุธเองได้ ตามข้อตกลงของกองทัพทหารโลก

    ปี๊ป!!! ทันที ที่ผมปิดไฟล์เอกสารนั้น ก็ดันมีเอกสารแฝงเด้งออกมา จริงๆผมอาจจะแจ้งลบในข้อหาไฟล์ขยะก็ได้ ถ้าไม่เห็นเอกลักษณ์ความสามารถในการแฮกค์ของคนรู้จัก

    ไนท์นั่น คือชื่อที่เขาแค่ได้ยินก็ต้องสนใจ เพราะบุคคลผู้นี้เคยให้ความช่วยเหลือเขามาเยอะแล้ว หลักๆก็คือ ช่วยให้เขารอดตายจากการอดอาหารในประเทศพันธมิตร ที่ตอนนั้นเขาไม่ได้ภาษาอะไรเลย จะไปอดอาหารหลงทางตายซะอย่างนั้น

    เมื่อนายได้อ่านจนหมายฉบับนี้ แสดงว่านายได้รับรูข้อมูลของภารกิจแล้ว เอาสั้นๆง่ายๆ มาทำงานนี่เดี๋ยวนี้ซะเป็นอีเมลที่ง่ายมาก เฟตที่เปิดอ่านถึงกับค้างไปเลย

    เอ่อ ฮะฮะชาย หนุ่มหัวเราะแห้งๆ ขณะกดจะปิด แต่สักพักก็มีข้อความข้อมูลที่ให้ทำเด้งขึ้นมาอีก และนั่นรวมไปถึงข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งนั่นก็คือเขานั่นเอง

    นี่มัน จะแบล็คเมลตรูหรือไงฟะเฟต ที่เห็นข้อมูลหลักและลับของตัวเองทั้งหมดถึงกับกุมขมับ เพื่อนของเขาคนนี้เป็นอัจฉริยะที่หาใดเปรียบเทียบไม่ได้ จึงไม่น่าแปลกที่เขาจะแฮกค์ระบบของกองทัพทั้งหมดแล้วเจาะจงมาหาเขาได้ อืม จริงๆโปรแกรมหลักๆที่ทางสำนักงานรัฐบาลหลักๆใช้อยู่ ก็มาจากคนผู้นี้นี่แหละ

    รับงานก็ได้ฟะชาย หนุ่มตัดปัญหาเรื่องเพื่อนขณะเลื่อนมือไปกดตรงปิดเอกสาร อันหมายความว่าเขารับรู้แล้วนะ แต่นั่นกลับมีไฟล์เสียงแฝงกลับมาด้วย เฟตเลยต้องดึงหูฟังไร้สายออกมาคอยฟังว่ามันจะว่าอะไรอีก

    ถ้า นายกดปิดแบบนี้แสดงว่ารับรู้แล้วว่า ฉันทำอะไรได้บ้าง งั้นก็ดี นายต้องมาทำงานๆนี้ ที่ประเทศฟรานซ์แห่งนี้ มันเป็นงานคุ้มกันบุคคลสำคัญ ที่นายต้องทำงานคู่กับฉันที่ถูกส่งตัวมา อ้อ เอารถนายคันนั้นมานะ แล้วออกมาเลยตอนนี้ได้ยิ่งดี มีเครื่องบินของกองทัพรออยู่ที่สนามบินส่วนตัวนอกเมืองเป็น การมัดมือชกที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับเกือบหงาย นอกจากน้องชายตัวแสบอย่างชิออนแล้ว เขายังมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติจอมเอาแต่ใจแบบเจ้าไนท์อีกเหรอเนี่ย คิดแล้วก็เศร้า ถ้าไม่หลงทางในประเทศนั้นล่ะก็ เขาคงไม่ต้องมาตกเป็นเบี้ยล่างให้กับมันแบบนี้หรอก

    ปี๊น!!!! เสียง บีบแตรยาวลั่นมาจากนอกสำนักงานทำการ เฟตที่กำลังปิดเอกสารต่างๆอยู่สะดุ้งแล้วลุกพรวดไปทันที นั่นมันเสียงรถของเขานี่หว่า มาได้ยังไงฟะ

    ชาย หนุ่มออกมานอกสำนักงานท่ามกลางสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทำ หน้าดุใส่ ไอ้หมอนี่เอารถมาแล้วทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อย มาส่งเสียงร้องแบบนี้ได้ยังไง

    แต่ ถ้าเฟตตอบได้ เขาคงจะตอบไปแล้วว่า ไอ้รถคันนี้มีระบบคอมพิวเตอร์เป็นสมองกลส่วนกลาง ที่ถูกพัฒนามาจากมือของเจ้าไนท์โดยตรง พูดตามจริงแล้ว ไอ้นี่ก็เหมือนรถผีสิงที่เจ้าไนท์สามารถควบคุมระยะไกลผ่านดาวเทียวได้นั่น แหละ มันควบคุมได้แม้กระทั่งให้ออกตัวมาจากที่เมืองหลวงย่อยมายังเมืองหลวงใหญ่ นี่เลย

    ทำกันได้นะไนท์ มัดมือชกกันจริงๆเฟตพึมพำขณะเปิดรถเข้าไปนั่ง พร้อมกับมองแผนที่ซึ่งถูกโหลดส่งมาให้

    แต่ เขาก็ไม่ได้รังเกียจเพื่อนคนนี้หรอก แม้เจ้านั่นจะชอบเอาแต่ใจ แต่ก็ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง ที่รักพวกพ้อง รักประเทศชาติ แม้จะถูกทรยศมาตลอดก็ตาม ในฐานะที่เคยถูกหักคอเป็นเพื่อนรักกันมา เขาต้องยินดีที่ยอมรับความเป็นตัวของเจ้านั่นไปตลอดซินะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

     

    02.30 น สนามบินเอกชน

    เฟตพารถคู่ใจสีดำสนิทวิ่งเข้ามาภายในสนามบินที่เปิดไฟไว้ตลอด บ่งบอกถึงพร้อมรับงานเสมอ

    ไม่นึกเลยแฮะ ว่าทางบริษัทนั่น จะลงทุนขนาดนี้ ถามจริงๆเถอะ คุ้มเหรอวะชายหนุ่มบนพึมพำหลังจากขับรถวิ่งตีคู่มากับรันเว จนมาเห็นเครื่องบินของกองทัพต่างชาติ ที่มาจอดรอขึ้นตรงท่าบิน

    ทันที ที่รถของเขามาถึง เจ้าหน้าที่ประจำสนามบินก็โบกไฟส่ง ประมาณว่าให้ขึ้นเครื่องบินลำนี้ไปเลย เฟตที่เห็นขนาดตัวเครื่องบินแล้ว ไม่ได้คัดค้านอะไรในการที่จะเอารถขึ้นไป แต่เขาค้านว่า นี่มันกล้าเอาเครื่องบินขนส่งรถถังของกองทัพมาใช้เลยเหรอเนี่ย

    ชาย หนุ่มกลับลำรถวนจ่อปากขึ้นทางท้ายเครื่องบิน ซึ่งมีแผ่นเหล็กปิดท้ายวางพาด บ่งบอกได้ว่าให้รถขึ้นไปได้อยู่ แต่ก่อนที่เขาจะได้ขับรถขึ้นไป ก็ต้องเบรกรถแล้วมองดูคนที่อยู่บนนั้น ซึ่งมีอยู่หลายสิบคนพร้อมกับคนหลายสิบคัน

    ขอโทษครับ ไม่ทราบว่า ผมมาถูกลำมั้ยเนี่ยเฟตถามกับเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังจ้องมาประมาณว่าเมื่อไหร่เมิงจะขึ้นไปซะที ตรูรอนานแล้วนะเฟ้ย

    ชาย หนุ่มที่ถูกถามเดินเข้ามาพร้อมกับใบเอกสารที่แจ้งไว้ว่าจะมีรถขึ้นมากี่คัน กี่คัน และทุกคันมีคนขับ รวมไปถึงเอกลักษณ์นั้นๆ เป็นยังไง เฟตที่เห็นรายชื่อของตัวเองถึงกับลอบถอนหายใจออกมา เจ้าไนท์ มันเอาจริงเหรอเนี่ย

    ครับชาย หนุ่มพยักหน้าขอบคุณ ขณะขับรถขึ้นตามรางรองไปช้าๆ โดยมีสายตาของคนบนนั้นจับจ้องมาเป็นทางเดียว เมื่อเฟตพารถขึ้นไปจนถึงจุดจอด ประตูเหล็กที่ทำหน้าที่เป็นสะพานลำลองก็ถูกดึงขึ้นมาปิด พร้อมออกบิน ชายหนุ่มที่พึ่งขึ้นมาถึงทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจ นี่เขาแค่มาแค่คนเดียวก็พร้อมไปเลยเหรอเนี่ย

    ฮะฮะ ดูไอ้หนุ่มนั้นดิวะ ทำหน้าเหมือนกับงงเลยใน ตอนที่เฟตกำลังขมวดคิ้วมองไปที่ประตูเครื่องบิน เขาก็ได้ยินเสียงการพูดคุยที่พาดพิงมาถึงเขา พอหันกลับมามองก็พบกับกลุ่มคนที่กำลังจับกลุ่มคุยอยู่ข้างๆรถจี๊บฮัมเมอร์ ขนาดใหญ่

    คน กลุ่มนี้เท่าที่เฟตสังเกตดู น่าจะเป็นทหารรับจ้างแน่นอน เพราะแต่ละคนใส่ชุดพร้อมรบ ถ้าเกิดมีการยิงกันเมื่อไหร่ ไอ้พวกนี้สามารถเอาตัวรอดได้แน่นอน

    หนุ่มน้อย แกมาทำไมวะหลังจากสังเกตคนกลุ่มนั้น เฟตก็เจอกับคนอีกกลุ่มที่ถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้รถของเขา

    งานน่ะเขา ตอบกลับไปสั้นๆ ขณะสังเกตดูคนทั้งหมดที่อยู่ภายในเครื่องบินลำเลียงของกองทัพ ที่ใหญ่พอสำหรับบรรทุกคนได้หลายพันคน หรือรถได้หลายสิบคัน

    ฮะฮะ งานเหมือนกันเหรอ พวกข้าก็มาเพราะงานเหมือนกันชาย ที่ถามซึ่งแสกผมกลางหัวเราะกล่าว แล้วเอาข้อมูลที่ได้รับในโลกมืดออกมาให้ดู เฟตที่อ่านข่าวแบบผ่านๆพยักหน้าขอบคุณ เพราะอย่างน้อยก็ช่วยเปิดตาให้กับเขา นอกจากจะเล่นกับกองทัพแล้ว บริษัทเกมแห่งนั้นก็เล่นกับโลกเบื้องหลัง โดยเอาเงินจำนวนมหาศาลมาล่อเลยเหรอเนี่ย

    เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยว่ะ ที่ได้ทำงานแบบนี้ชายอีกคนที่ใส่ชุดหรูหราพูดขึ้นบ้าง มันเป็นคำพูดที่ดูโอ้อวดดีจัง

    เหรอ วะ แต่ถ้ากรูจำไม่ผิด ถ้าคนๆนั้นไม่มาประเทศนี้ พวกเราก็ไม่ได้งานหรอกโว้ย เหตุที่ทางนั้นเน้นมาที่คนของประเทศเรา เป็นเพราะต้องการคนนำทางต่างหากกลาย เป็นว่าเริ่มหันไปคุยกันเองซะแล้ว เฟตที่นั่งฟังอยู่เลยปิดกระจกขึ้นพร้อมกับเอนหัวลงมองเพดานของเครื่องบินที่ อยู่ข้างนอก งานนี้มันแค่คุ้มกันคนแค่นั้นจริงๆเหรอ ทำไมถึงจ้างคนมาเยอะแยะแบบนี้ นี่ยังไม่รวมไปถึงกองทัพที่ได้รับข่าวอีกนะ ตกลง นี่มันอะไรกันแน่เนี่ย

     

    12 ชั่วโมงผ่านไป สำหรับการบินข้ามทวีป เครื่องบินขนส่งของกองทัพค่อยๆลงจอดที่สนามบินทหารอากาศของประเทศฟรานซ์

    เฟต ที่เป็นรถคันปิดท้าย เป็นผู้นำรถลงมาเป็นคนแรก ทันทีที่รถเขาลงมาถึง ทหารที่ประจำอยู่ก็เชิญให้ลงมา ก่อนจะตรวจรถคันดังกล่าว พร้อมกันนั้นก็เอาทะเบียนของประเทศนี้มาใส่ โดยไม่ลืมที่จะตีทะเบียนให้ ชายหนุ่มเจ้าของรถที่ดูอยู่พยักหน้าให้กับความเตรียมพร้อมนั้น

    ใน ขณะที่รถรับจ้างคันอื่นๆกำลังทยอยถอยหลังลงมา ภายในสนามบินของกองทัพก็มีรถสปอร์ทคันหรูวิ่งเข้ามา พวกทหารที่เฝ้าอยู่ต่างกระโดดหลบกันเป็นแถวๆ เมื่อรถคันนั้นพุ่งตรงไปยังจุดตรวจด้วยความเร็วสูง

    เฮ้ยๆ ระวังเสียง ร้องบอกกันมาเป็นทอดๆ พร้อมกับรถสปอร์ทสีขาวคันหรูดริฟซิกแซกรถที่จอดอยู่ จนกระทั่งท้ายปัดมาหารถคันสีดำที่จอดอยู่ท้ายสุดของรถทั้งหมด

    เฮ้ย ไอ้หนุ่มนั่นตายแน่พวกคนขับรถรับจ้างต่างร้องออกมา เมื่อเห็นรถสปอร์ทคันหรูเสียหลักหมุนไปหาไอ้หนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรถสีดำแบบนั้น

    เอี๊ยด!!! แต่ ฉิวเฉียด เมื่อรถคันดังกล่าวหยุดห่างจากชายคนนั้นเพียงแค่ 20 เซนติเมตร ส่วนไอ้คนที่เกือบถูกบี้ตายคาที่ก็มองสิ่งที่ตนเห็นด้วยความเฉยชา มันจะไร้ความตื่นเต้นมากเกินไปแล้ว

    แอ๊ด!!! ประตูรถสปอร์ทคันหรูถูกเปิดขึ้นมาแบบปีกนก แม้เสียงจะไม่ดัง แต่ภาพที่เห็นก็ช่วยเพิ่มเสียงในสมองอยู่แล้ว

    ว้าววว!!”เสียงอุทานจากบรรดาชายหนุ่มที่เป็นคนขับรถดังลั่น เมื่อเห็นเจ้าของรถสปอร์ทคันหรู ที่พึ่งลงมาจากรถ

    สาว สวยผมดำในชุดไปรเวทสีขาว กางเกงแสลคสีดำและเสื้อคอกลมนั่น ดูเข้ากับเรือนรางผอมเพียวเรียวบางเป็นอย่างมาก เส้นผมนั่นที่กระทบเข้ากับแสงไฟของแดดยามเย็น ส่งผลให้เธอดูสวยมาก จนเหมือนนางฟ้าที่มาปรากฏกายบนโลกมนุษย์

    บรรดา ชายหนุ่มทั้งหลายต่างมองสิ่งที่เห็นด้วยสภาพเหม่อลอย รวมไปถึงทหารของสนามบินที่เหม่อมองภาพนั้นด้วยความเคลิบเคลิ้ม แต่ชายที่เกือบถูกเหยียบดันไม่ใช่ เขาเพียงแค่มองรถที่เกือบจะเหยียบตนด้วยสายตาเรียบเฉย แถมยังเบนสายตาหนีจากผู้หญิงคนนี้อีก

    อย่าทำเมินกันแบบนั้นซิเฟตสตรีรีบร้องอ้อน เมื่อเห็นชายหนุ่มในชุดสูทหันไปให้ความสนใจกับตัวเองต่อ

    ไม่ได้เมิน ก็แค่ทักไปแล้วเด็กหนุ่มตอบกลับมาขณะเดินไปรับทะเบียนติดรถ ที่ทางเจ้าหน้าที่ถือค้างไม่ยอมเอามาให้เสียที

    ทักภายในสายตา ฉันไม่ต้องการนี่นา ทักดีๆหน่อยซิเป็น การเอาแต่ใจที่เหมือนเด็กๆ ดูแล้วน่ารักดี สำหรับในความคิดของพวกคนขับรถ แต่เฟตที่รู้จักและมักคุ้นกับหญิงสาวคนนี้ดีกลับทำเมินไม่สนใจ นี่เขาไม่ด่าหัวกลับก็ดีแล้ว

    โอ๋ เค้าขอโทษนะ ที่ทำแบบนั้น แต่อยากให้มาจริงๆนี่นา งานนี้สนุกนะหญิง สาวเริ่มอ้อน ขณะเดินเข้าไปใกล้ เมื่ออยู่ในระยะทำการก็กระโจนเข้าไปกอด จนชายหนุ่มคนนั้นก็รีบหันมารับ ไม่งั้นหน้าได้ทิ่มเข้ากับประตูรถตัวเองแน่

    อืมเฟต พยักหน้าพร้อมกับปล่อยตัวเธอให้ยืนบนพื้น จากนั้นก็หันไปทำงานคือการติดสติ๊กเกอร์เข้ากับกระจกรถ เป็นอันเสร็จพิธี ตีทะเบียนให้รถของเขาวิ่งในเมืองนี้ ในฐานะรถพิเศษของกองทัพได้แล้ว

    เฟตง่ะ ทำเมินกันแบบนี้ เค้าไม่ชอบเลยหญิงสาวเริ่มโวยวาย ทำให้ชายหนุ่มที่พึ่งติดเสร็จหันมามองทางหางตา แล้วถามโดยทำเมินต่อไป

    แล้วจะให้ทำยังไง

    จูบเขาซิหญิง สาวว่าจบก็ยื่นหน้าไปหา เฟตที่ปรายตามาเห็นยกมือจับหน้านั้นได้ทัน แต่เมื่อเขารับรู้ถึงจิตสังหารก็มองตามไปจนเห็นพวกผู้ชายทั้งหลายกำลังทำ หน้าอิจฉาตาร้อน

    เลิกเล่นได้แล้วไนท์ งานของผมคืออะไรก็ว่ามาชายหนุ่มถามขณะปล่อยมือจากใบหน้าที่เรียวบางสมหญิงนั้น

    ก็ ง่ายๆ พวกนายทุกคน ต้องไปที่สำนักงานบริษัทยักษ์ใหญ่ ของท่านพอซ อ้อ จากนั้นก็จะมีการทดสอบรถ ผู้ขับขี่ รวมไปถึงความสามารถพิเศษต่างๆด้วยนะหญิงสาวยิ้มบอกกับชายตรงหน้า แล้วหันไปบอกสิ่งท้ายๆกับพวกผู้ชายคนอื่นๆ

    อืม แค่นั้นก็ดี แต่อีกเรื่อง ช่วยบอกไปด้วยว่า นายเป็นผู้ชายเฟตหันมาขมวดคิ้วบอก

    อืมได้ ฉัน มีนามทางกองทัพว่า ไนท์ เห็นฉันอ่อนแอแบบนี้ แต่ก็เป็นถึงทหารระดับสูงนะ อ้อ อีกอย่าง ฉันเป็นผู้ชาย อย่ามาคิดจีบล่ะกล่าว บอกกับพวกนั้นจบ หญิงสาว ไม่ซิ ชายหนุ่มในรูปลักษณ์หญิงสาวก็หันไปเกาะแกะกับเพื่อนรักที่ห่างกันไปนานต่อ ทิ้งให้บรรดาชายหนุ่มทั้งหลายคุกเข่าทุบกำปั้นลงกับพื้น เหมือนกับโทษฟ้าที่ลงโทษพวกเขาหนักเกินไป

    อ้ากกกกกก ลัทธิสาวดุ้น ลามมาถึงในนิยายนี้แล้วโว้ยยย!!!”เป็น คำโหยหวนที่ทำให้เฟตต้องถอนหายใจ เขาเข้าใจความรู้สึกนี้ดี จนในหลายๆครั้ง เขายังเผลอดูแลเพื่อนชายของเขาเกินเลยไปบ้าง แต่ก็นะ เขาชื่นชอบของสวยงาม แถมไอ้หมอนี่ก็ดันไว้ผมยาว แถมเสียง ร่างกาย ยังบอบบางยังกับผู้หญิงอีก ทำให้หลายๆครั้ง เขาให้ความสำคัญกับมันผิดไปจากปกติ ส่วนมันก็ดันชอบแถมยังติดหนึบในฐานะเพื่อนรักแบบนี้นี่ไง 
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×