ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #68 : ตอนที่ 68 คำสาปที่ต้องต่อกรด้วยความตาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.57K
      30
      16 ก.ย. 56

    เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เฟตก็พบว่าเขากำลังจับจ้องอยู่กับดวงตาสีเหลือของใครบางคน ที่ภายในลูกตาสีดำเป็นเส้นตรงแบบสัตว์เลื้อยคลาน

     

    ยิ่งจ้องนานเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็รู้สึกเหมือนถูกสูบพลังออกไปมากเท่านั้น แต่น่าแปลก ที่เขาไม่แข็งตายเหมือนกับทีแรก แม้จะรู้สึกว่าอวัยวะแข็งค้าง แต่สักพักความเจ็บปวดก็หายไปโดยสิ้นเชิง

    ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาผ่านสภาพความเป็นตายมาหลายพันครั้งเพียงในเสี้ยววินาที

    ร่างกายของเฟตถูกทั้งคำสาปและสูบพลังแห่งความตายมาช่วยสลายคำสาปในเวลาเดียวกัน จึงส่งผลให้เฟตรู้สึกคล้ายกับคนกึ่งตายไม่ตายแหล่

    ชาร์รอนที่มองอยู่ยังรู้สึกแปลกใจ ที่เห็นเฟตเดี๋ยวก็แข็งเพราะคำสาป เดี๋ยวหินที่เกาะตามร่างกายก็หายไป แต่เขาก็เข้าใจดีว่าพื้นฐานของพลังแห่งความตายก็คือด้านลบของโลก ไม่ว่าจะด้านไหนๆที่ตรงข้ามกับความดี มันก็เป็นของนรกทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่คำสาปและความตาย

    แต่ที่ชาร์รอนแปลกใจที่สุดก็คือ พลังแห่งความตายคนที่เรียกใช้มันได้ ตามใจชอบมากที่สุดก็คือฮาเดส จ้าวแห่งขุมนรกแห่งนี้

     

    ในขณะที่เฟตกำลังจับจ้องอยู่กับดวงตาของหญิงงามผู้ที่ต้องคำสาปเพราะการกระทำของเทพ บนเรือโดยสารที่เปลี่ยนเป็นเรือรบนามว่าคิรอฟก็ถูกใครบางคนมาเยือน

    ชายในชุดเกราะมังกรทั้งตัว เดินขมึงตึงมาทางเฟตด้วยความมุ่งร้าย แม้มังกรจะถูกอะไรไม่รู้ยิงใส่จนทะลุหนังสุดหนามาได้ อ้อ แถมมีระเบิดปิดท้ายจนเขากระเด็นไปเสียตั้งไกลก็เถอะ แต่อสูรแพ้ คนไม่แพ้เฟ้ย เขาจึงกลับมาแก้แค้นโดยการลอบเข้ามาทางน้ำ

    เขาในชุดเกราะสีดำถูกบรรดาปืนกลหน้าเรือทั้ง 4 กระบอกยิงเข้าใส่ จนสะบัดไปซ้ายทีขวาที แต่ก็ยังไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะเกราะที่สวมใส่อยู่เป็นเกราะระดับสูง แถมยังมีระดับความทนทานที่สูงมากๆเลยด้วย ฉะนั้น อาวุธธรรมดาแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก

    แต่เมื่อโดนยิงมากๆก็รู้สึกรำคาญกันเป็นธรรมดาๆ เขาจึงผนึกพลังออกมาเป็นโล่พลังใสๆ ซึ่งป้องกันห่ากระสุนได้ แต่ก็แค่พริบตาเท่านั้น เพราะในหนึ่งวินาที กระสุนวิ่งเข้าปะทะม่านพลังกว่า พันกว่าหมื่นนัด ม่านพลังที่ผนึกขึ้นมาจึงไม่มีประโยชน์อะไรเลย

    ตายเสียเถอะ ไอ้คนทำลายกฎเมื่อมาตัวได้ เขาก็ฟัดดาบหางมังกรเข้าใส่สุดแรง การโจมตีนี้สามารถสังหารมังกรได้ภายในดาบเดียว แต่ทว่า ดาบกลับติดม่านพลังอะไรบางอย่าง ซึ่งเฟตนั้นได้สร้างเอาไว้แทนกระจกไว้ก่อนแล้ว มันจึงช่วยเซฟเขาไว้ได้อีกทางหนึ่ง

    ตูม!!! เสียงดาบที่ปะทะกับม่านพลัง ส่งผลให้ผู้โจมตีกระเด็นไปเล็กน้อย แต่สักพักก็ตั้งหลักได้ แล้วจ้องมองด้วยความแปลกใจ

    ชายผมขาวนั้นยังคงหันมองไปท้ายเรือ โดยข้างหลังนั้นมีใครบางคนที่เขาเกือบรู้จักยืนอยู่ด้วย แต่ช่างมัน ตอนนี้ต้องสังหารคนที่ทำให้กองทัพมังกรเดนตายของเขาล่มเสียก่อน เขาจึงแบกดาบขึ้นตั้งกับตัว พร้อมกับฟาดลงมาเต็มแรง พร้อมกับทักษะดาบชั้นสูงที่พร้อมจะทะลวงผู้ที่ความทางมัน

    รังสีดาบสีดำฝ่าม่านพลังของเฟตเข้าไปได้ เนื่องจากนี่เป็นการโจมตีระดับสูง และอยู่ในระยะประชิด ม่านพลังของเรือจึงป้องกันไว้ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ลดความแหลมคมลงไปเยอะ

    ปัง!!! เสียงของการกระทบช่างเบาจนคนใช้ทักษะใจแป่วลงมา พอมองตามเสียงก็เห็นว่าเป็นเกราะเหล็กสีขาว ที่โผล่มาคั้นกลาง ไม่ซิ มันเป็นเกราะป้องกันท้ายเรือที่ยื่นออกมาอยู่แล้ว การโจมตีเมื่อสักครู่ม่านพลังมันป้องกันไว้จนเบี่ยงทิศทางจนหันไปทางอื่น

    ไม่เป็นไร เรายังมีท่าใหญ่อยู่ ถ้าล้มมันไม่ได้ ก็จมเรือได้แน่นอนแม่ทัพหนุ่มพึมพำพร้อมกับรวมพลังใส่ดาบ ดาบสีดำจนมันเรืองแสงออกมา เขาใช้เวลาในการรวบรวมพลังกว่า 10 วินาที เมื่อออร่าของดาบกลายเป็นสีดำก็กระโดดขึ้นฟ้าแล้วเหวี่ยงฟาดลงมา จนเกิดคลื่นพลังที่เหมือนกับดวงจันทร์ครึ่งเสี่ยว

    วี๊ดดดด!!! เสียงคลื่นพลังฝ่าอากาศมา ทำให้ชาร์รอนต้องหันไปมองตรงๆ เมื่อเห็นว่าเป็นท่าดาบปราบมังกรก็ถึงกับค้างอยู่กับที่ สงสัยเรือลำนี้จะได้จมสู่แม่น้ำแห่งความตายเสียแล้ว

    ตูมมมมมม!!!!!! เสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมกับเรือที่โอนเอนไปมา เจ้าของเรือถึงกับกลืนน้ำลายเอือกพร้อมกับจ้องมองคนที่มาช่วยด้วยความซาบซึ้ง

    เล่นอะไรกันหนุกเชียวนะชายผมขาวหรือฮาเดสทักทายขึ้นก่อน เขาพึ่งเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องมา จึงเสียเวลาไปพอสมควร

    เมื่อฮาเดสปรากฎตัว แม่ทัพปกป้องดินแดนก็ไม่มีงานทำ ชายหนุ่มจึงหันไปวาดดาบฟันใส่พวกป้อมปืนกลทั้ง 8 ที่หันเป้าหมายมาทางนี้ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับนายเหนือหัวตนเอง

    ตูม!!! ป้อมปืนทั้ง 8 ถูกทำลายลงได้อย่างง่ายดาย เพราะระดับความแข็งแกร่งถือว่าธรรมดามาก จะแกร่งก็ตรงโจมตีไกล และโจมตีไม่หยุดเท่านั้นเอง

    ทำลายได้ง่ายๆ ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรกฟะฮาเดสพึมพำใส่ ส่วนแม่ทัพหนุ่มก็ลงมานั่งคุกเข่าก้มหน้าเงียบไม่ตอบคำถาม ตอนแรกเขาคิดจะสังหารเจ้าของเรือก่อน เพราะมีแค่ไม่กี่คน ถ้าตายหมดแล้วน่าจะง่ายกว่าไล่ทำลายป้อมปืน

    แล้วอีกอย่าง ระบบป้องกันก็ดีซะขนาดนี้ ใครมันจะเข้ามาทำลายได้ง่ายๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ผมขาวนั่นหยุดค้างอยู่อย่างนั้น ก็คงจะขึ้นมาบนเรือไม่ได้ง่ายๆ เนื่องจากไอ้ท่อกลางเรือนั้นเล่นยิงออกมาไม่หยุดเลย นี่ยังไม่นับไอ้จรวดใต้น้ำที่หยุดไปเสียดื้อๆนะ

    ฮาเดสเห็นทหารเอกไม่ตอบก็เลยหันไปมองรอบๆเรือแทน

    อืม อะไรก็ไม่รู้แหะ แปลกๆทั้งนั้นเลย อืม.... ไอ้นี่ซินะ ที่ส่งอะไรขึ้นฟ้าไปน่ะฮาเดสพึมพำขณะมองดูท่อยิงแซมที่ปิดฝาไม่ยอมทำงาน เนื่องจากไอ้คนสั่งยิงไม่ได้สนใจอะไรเลย แม้กระทั่งศัตรูมาทำลายไอ้หัวปืนกลทั้ง 8 หัวนั่นแล้ว ยังยืนค้างอยู่แบบนั้นอยู่เลย

    แต่ฮาเดสก็เข้าใจดี ว่าใครก็ตามที่ได้มองตาเมดูซ่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นยังไง ซึ่งก่อนที่เขาจะได้ทักทาย ก็เหล่ไปเห็นที่หางตาว่าทหารเอกตนเองเดินเข้าไปทำลายม่านพลังที่พึ่งกลับมาเกาะกลุ่มกันให้ จนทำให้ม่านพลังสีขุ่นๆทลายลง เพราะถูกส่งพลังตรงๆเข้าไปก่อกวน ซึ่งถ้าเจ้าของพลังอยู่ดู ม่านพลังก็คงไม่ทลายง่ายถึงเพียงนี้

    ทว่า พอม่านพลังที่ป้องกันการรบกวนหายไป เฟตที่กำลังจ้องตากับเมดูซ่าอยู่ ก็หันมามองตามเสียง

    กึก!!! เสียงเหมือนอะไรบางอย่างถูกทำให้กลายเป็นหินเพียงในชั่วพริบตา พอเฟตกวาดตาดูก็พบว่าเป็นหุ่นอะไรบางอย่างที่เห็นแต่ลูกกระตาหินที่โผล่พ้นเกราะหมวกออกมา ส่วนอีกคนหนึ่งก็เป็นชายผมขาวตาสีแดงแบบเดียวกับเขา

    เอ่อ ถ้าจะให้ดี ยืนตรงนั้นตลอดไปเลยได้ป่ะฮาเดสทักมา พร้อมกับเอี้ยวตัวตามเฟตไปด้วย ลูกน้องของเขาเผลอจ้องตาเมดูซ่าที่อยู่ข้างหลังจนค้างแข็งเป็นหินไปแล้ว

    เฟตที่ถูกทักพยักหน้าให้เล็กน้อย ในตอนแรกชายหนุ่มก็แปลกใจที่เห็นคนอื่นขึ้นมาบนเรือได้ แต่เมื่อคิดได้ว่าตนเองไม่ได้สั่งยิง อาวุธพวกนี้ก็ไม่มีวันทำงานนอกเสียจากเขาจะตั้งเป็นระบบออโตยิงป้องกันตัว

    ฉันยินดีจริงๆ ที่นายมาถึงนรกได้ตามที่ให้เควสไป แต่จะให้ดี อย่าทำให้นรกฉันวุ่นวายไปกว่านี้ได้เปล่า ใกล้จะถึงสงคราม 3 โลกแล้วด้วยฮาเดสยักไหล่บอก ในขณะที่เฟตมองรอบๆเรือด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นว่ามันมีม่านพลังอะไรบางอย่าง ป้องกันไว้รอบๆลำนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครโจมเข้ามาได้ ซึ่งลักษณะของมันก็เหมือนกับม่านพลังของเขา หากต่างกันที่ว่าม่านพลังนี้มันดูแข็งแกร่งกว่า และมีอาณาเขตกว้างใหญ่กว่า ซึ่งเฟตพูดตรงๆเลยว่า ไม่มีทางทำได้แน่นอน แค่คุ้มกันรอบตัวก็แย่จนเหงื่อออกแล้ว

    ข้ามีพลังสายเดียวนี่ฮาเดสรู้ความคิดจึงยักไหล่บอกอีกครั้ง จากนั้นก็เหล่ไปมองที่ข้างหลังของเฟต เมื่อเห็นเมดูซ่าล้มตัวลงไปนอนด้วยความอ่อนแรง

    ตึง!! เสียงล้มกระแทกพื้น ทำให้เฟตหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นหญิงสาวที่เขาเอามาด้วยก็เลยรีบเข้าไปช้อนตัวมาอุ้มไว้ เนื่องจากการนอนบนท่อยิงขีปนาวุธจะเป็นอันตรายได้ ถ้าเกิดมันเปิดออกเพื่อทำสงครามอีกครั้ง

    อืม สงครามจบแล้ว เดี๋ยวไปคุยกันที่ปราสาท เฮ้ย คนเรือ ถอดสมอได้ จะไปกันแล้วฮาเดสกล่าวกับเฟตแล้วก็หันไปสั่งงานกับชาร์รอน ที่กำลังเอาไม้พายคู่กายลงไปในน้ำ จากนั้นเรือพายชั้นแบทเทิลก็ออกเรือมุ่งหน้าไปยังปราสาทที่พักของฮาเดส

    ความใหญ่โตของเรือไม่ใช่ปัญหาสำหรับความเร็วเลย เรือลำนี้มีความเร็วเท่าเดิมทุกประการ แม้จะบรรทุกอาวุธเต็มลำก็ไม่มีปัญหา เฟตที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สั่งการ (CIC) โดยอุ้มเมดูซ่าที่สลบอยู่นั้น ก็มองดูเรือลำนี้ด้วยความแปลกใจปนสนใจ

    ก็บอกแล้ว เรือลำนี้เอาไว้สำหรับแล่นในน้ำแห่งความตายโดยเฉพาะ ไม่ต้องห่วงแม้วันมามากชาร์รอนตะโกนตอบความคิดของกลับมา เนื่องจากระยะที่ถือหางเสือกับระบบสั่งยิงกลางเรือมันห่างกันมาก

     

    เรือรบของชาร์รอนวิ่งฝ่ากองไฟที่เกิดจากสงครามอย่างสบายใจเฉิบ พวกผู้เล่นที่ทำสงครามกันอยู่ต่างพากันมองหาเรืออันตราย ที่ทำลายกองทัพเรือไปหลายกองร้อย ซึ่งไม่มีทางจะหาเจอได้เลย เนื่องจากม่านพลังของฮาเดสป้องกันทั้งการโจมตีที่เป็นรูปธรรม และการมองเห็นที่เป็นนามธรรม ต่อให้เห็นร่องรอยของคลื่นที่เรือเคลื่อนผ่าน แต่จิตใต้สำนึกก็สั่งออกมาว่า มันไม่จริง จึงไม่มีใครมองเห็นเลย

    เมื่อหาเรืออันตรายไม่เจอ พวกผู้เล่นเผ่ามารก็หันมาทำสงครามกันอีก เนื่องจากพวกเขาต้องการรวบรวมพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เพราะมันมีผลต่อสงครามโลก (โอลิมปิก) ดังนั้น พวกเขาจึงทุ่มทุกอย่างที่มีในการทำสงครามในระยะเวลา 6 เดือนนี้

    สงครามแย่งชิงอำนาจนี้ นอกจากจะเกิดขึ้นในนรกแล้ว อีก 2 โลกก็มีปัญหาแย่งชิงดินแดนเช่นกัน แต่ทว่า ด้วยอารยะธรรมที่พอมีอยู่บ้าง อีก 2 โลกที่เหลือจึงก่อสงครามที่ไม่รุนแรงเท่ากับนรก แถมส่วนใหญ่เน้นทำสงครามแบบธุรกิจ และเป็นพันธมิตรจับมือเสริมอำนาจกันเสียมากกว่าด้วย แล้วนี่ก็คือสิ่งที่คนทั้งโลกแห่งเกมนี้รู้

     

    ณ ห้องประชุมแห่งหนึ่ง ชายผมขาวในชุดแบบทหารเรือสีขาวเดินวนไปมาในห้อง โดยข้างหน้าของเขามีหญิงสาวผมขาวนัยน์ตาสีแดงก้มหน้าพร้อมกับยื่นเอกสารให้

    แล้วนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ชายหนุ่มหันมาบอกกับเพื่อนอีก 2 คน ที่ยังไม่เข้าใจถึงสถานการณ์สักเท่าไหร่

    ให้พวกฉันจับมือกับไอ้บ้าสงครามนั่นน่ะนะ ไม่มีทางชายผมทองทั้งหัวลุกขึ้นโวยทันที ส่วนชายผมดำที่อยู่ข้างๆก็กอดอกพยักหน้าเห็นด้วย

    แล้วจะให้ทำไงล่ะ เราถูกมัดมือชกโดยเทพีแห่งปัญญาแล้วชายผมขาวว่าจบก็หยิบเอกสารในมือหญิงสาวโยนให้เพื่อนได้อ่านเอาเอง

    โห ห้ามก่อสงครามกับเมืองๆนั้น และคนที่ให้การช่วยเหลือเหรอ อะไรกันฟะร็อคพึมพำพร้อมกับทำท่าจะ เขวี้ยงทิ้ง แต่ไทร์ยื่นมือมาหยิบไปอ่านดูก่อน

    อย่าบอกนะว่า ต้องจับมือเป็นพันธมิตรกับมันจริงๆน่ะ

    ก็น่าจะประมาณนั้นเซยะตอบคำถามของไทร์พร้อมกับเดินเข้าไปดูแผนที่ซึ่งถูกดึงขึ้นบอร์ดจนมองเห็นเขตปกครองได้ทั้งโลก ซึ่งเขตสีเขียวของพวกเขาในทวีปตะวันออก รู้สึกจะถูกยึดกลับไปหมดแล้ว ด้วยฝีมือของสมาคมดรากอนคิงกับสหพันธ์แห่งสมาคมผจญภัย

    งั้นก็ช่วยไม่ได้

    เฮ้ย ทำไมแกทำท่าเหมือนไม่หนักใจเลยวะ นี่เราต้องจับมือกับเมืองเริ่มต้นกระจอกๆนะเฟ้ยร็อคหันมาโวยวายใส่เพื่อนตนเองที่เอนหลังลงกับเก้าอี้ตัวหรู ซึ่งบ่งบอกถึงฐานะอันมั่งคั่ง

    ฉันก็ยอมรับ ว่าเมืองนั้นกระจอก แค่กองพันของฉันก็อาจจะถล่มได้แล้ว แต่เบื้องหลังของเมืองนั้นต่างหากที่น่ากลัวไทร์กลับมานั่งทำหน้าเครียดเหมือนเดิม เมื่อถูกกระตุ้นความจำ

    จากนั้นทั้งไทร์กับร็อคก็พูดถึงสิ่งที่ถูกเฟตกระทำ อืม มันเหมือนกับเป็นการปลดทุกข์กันมากกว่า ที่คนๆหนึ่งต้องถูกฆ่าตาย อำนาจถูกยึด กับอีกคนที่ลงทุนไปเยอะ แต่ดันไม่ได้อะไรกลับมาเลย แถมที่เมืองยังเกิดสงครามจริงๆ จนวุ่นวายไปช่วยเมืองที่ถูกจู่โจมไม่ได้อีก

    เซยะที่ฟังอยู่ไม่ได้พูดอะไร เขามีหน้าที่แค่เก็บข้อมูลและประมวลผลออกมา การยอมรับเงื่อนไขของอาธีน่าในตอนนี้อาจเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้วก็ได้ เนื่องจากฐานอำนาจของเขาในตอนนี้ค่อนข้างสั่นคลอน หลังจากมีการประกาศถึงสงครามโลกโอลิมปัส เกมออนไลน์ที่เคยเดินอยู่บนฝ่ามือก็กลายเป็นเกมสงครามที่ทำการต่อสู้กันแบบแท้จริง

    ซึ่งเขาที่มีเขตปกครองกว้างแต่วางแผนไม่ทั่วถึงก็เป็นอันต้องเสียเมืองต่างๆ ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

    ท่านเซยะ ตอนนี้กองเรือของเราถูกโจมตีแล้วครับทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน โดยไม่สนแล้วว่ามันเป็นวาระการประชุมหรืออะไร เพราะถ้ามัวแต่รอการประชุม ก็คงจะได้ไปถกกันต่อที่เรือนจำนักโทษ

    ให้เรือประจัญบานลำสำรองตั้งแท่นรอยิงได้เลย พร้อมเมื่อไหร่ ยิงเมื่อนั้น ถ้าจะให้ดี ถล่มเมืองที่พวกนั้นมาตั้งค่ายไปด้วยเลยเซยะสั่งคำขาด ทำให้ทหารรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

    อืม ดีแล้วซินะ ดีแล้วที่หยุดสงครามกับคนที่ถล่มกองเรือของแดนใต้ได้

     

    แล้วนรกเองก็เลยวุ่นวายแบบนี้ฮาเดสเองก็อธิบายถึงสงครามที่เฟตเห็นให้ชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาฟัง

    แล้วเมื่อไหร่คุณเธอจะฟื้นครับเฟตดันถามไปถึงเมดูซ่าที่นอนอยู่บนโซฟายาวกลางห้อง สิ่งที่ฮาเดสเล่ามาทั้งหมดไม่ได้เข้าหูเขาเลย เนื่องจากเป็นห่วงเมดูซ่าที่สลบยาวมาตั้งแต่บนเรือมากกว่า

    นี่แกคิดว่าการใช้คำสาปมากๆ จะส่งผลดีต่อผู้ที่ต้องคำสาปเหรอ

    หมายความว่าไงเฟตย้อนถามด้วยความมึนงงกับคำพูด เขาไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่ฮาเดสจะสื่อเลย

    ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ คำสาปเองก็มีขีดจำกัดในการใช้ อย่างที่แกเห็น เธอคนนี้ถูกคำสาปของอาธีน่า ซึ่งคำสาปนั่นก็คือถ้ามีใครผู้ใดได้ยลโฉมของเธอ ก็จะมีอันเป็นไป หรือตะลึงค้าง ก็อย่างที่เห็น ในอดีตเธอเคยได้ชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่งามเลิศที่สุด งามจนเทพยังอิจฉาไม่รู้ว่าเพราะสิ่งนี้หรือเปล่า ถึงได้สาปเส้นผมให้กลายเป็นงูด้วยฮาเดสยักไหล่แม้จะไม่พอใจที่เฟตไม่ได้ฟังเลยว่าสถานการณ์ในนรกกำลังวุ่นวายก็ตาม

    ส่วนเหตุที่ว่าทำไมถึงเป็นลมไป ก็คงต้องบอกว่า เป็นเพราะพลังของแกนั่นแหละ ถ้าแกไม่มีพลังแห่งความตาย และที่นี่ไม่ใช่ดินแดนแห่งความตาย แกได้แข็งเป็นหินอีกรอบแน่ฮาเดสถอนหายใจกล่าวจากนั้นก็เดินไปดูผมของหญิงสาวที่นอนราบไปกับพื้นเหมือนเป็นเพียงเส้นผมธรรมดาคำสาปที่ส่งผลติดต่อกันหลายๆครั้ง เจ้าของร่างที่เป็นต้นคำสาปเองก็ย่อมหมดพลังไปเป็นเรื่องธรรมดา นี่แกคิดว่าการสาปคนได้ทีละเป็นพันจะไม่โกงไปหน่อยเหรอ

    ผมก็ว่าโกงนะ สาปคนได้เป็นร้อยเป็นพัน ในการมองเพียงครั้งเดียวชายหนุ่มพยักหน้าตอบ ในขณะที่คนถามส่ายหัว ไอ้หมอนี่มันมีหน้าไปว่าคนอื่นด้วยเหรอฟะ ทั้งๆที่ตัวมันนั่นแหละที่มีอาวุธน่ากลัวกว่าใครๆที่เขารู้จัก แม้จะยังไม่ไร้เทียมทาน แต่ก็ถือว่าเหมาะกับสงครามแบบสุดๆ

    ก็ตามนั้น เธอคนนี้ก็คงไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทุกครั้งที่คำสาปทำงาน พลังในร่างจะลดลงไป ส่วนแกเองก็ผิดนะ ที่ดันไปทำปฏิกิริยาวงเวียนลูกโซ่ ที่ทำให้คำสาปทำงานตลอดเวลา ในขณะที่แกไม่เป็นอะไรเลย

    ตกลงคือเธอจะฟื้น ถ้าพลังกลับมาหมดใช่มั้ยยิ่งฟังฮาเดสพล่ามยิ่งงง เฟตเลยกล่าวในส่วนที่เข้าใจ

    เออ ประมาณนั้นแหละ ว่าแต่จะกลับเลยเหรอจ้าวนรกถามกลับ เมื่อเห็นท่าทีลุกลนของชายหนุ่ม

    ประมาณนั้น ว่าแต่ ไหนที่ว่าจะสร้างร่างคืนให้อนาตาเซียเฟตยังไม่ลืมจึงรีบแบมือทวง

    เออ ไม่ลืมหรอกฮาเดสถอนหายใจแล้วรวมพลังจนมันอัดแน่นกลายเป็นยาเม็ดลูกกรสีดำสนิท 2 ลูกมาให้ เมื่อเห็นเฟตจะถามก็รีบชิงบอก

    เอาไปให้อสูรของนายกิน รับรองว่า เร้าใจสุดๆ แต่ข้อเสียใหญ่ นายจะได้รู้เอง

    เฟตทำท่างงกับไอ้คำว่าเดี๋ยวก็ได้รู้เอง แต่เมื่อเห็นว่าตนเสียเวลามามากแล้วก็หันมามองเมดูซ่า ที่ยังไม่ยอมฟื้นเลย

    ในขณะที่ชั่งใจว่าจะเอายังไงดี ฮาเดสก็เสนอทางเลือก ที่เฟตต้องคิดหนักไปจนตาย แต่ทว่า ทันทีที่ได้ยินถึงข้อดี ชายหนุ่มก็ตกปากรับคำโดยไม่ถามเจ้าตัว ส่วนฮาเดสก็จัดให้ตามต้องการ

    แล้วนายจะต้องเสียใจที่ตอบตกลงแบบนี้นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เฟตได้ยิน จากนั้นก็มีความรู้สึกสัมผัสต่างๆนาๆ พุ่งเข้ามาทะลวงเนื้อหนังเข้าสู่ร่างกายของเขา ชายหนุ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก เนื่องจากเขาไม่เคยร้องเพราะการถูกทารุณมาก่อนเลย จนกระทั่งเมื่อความรู้สึกสุดท้ายกระทบเข้าสู่จิตใจไป เฟตก็พบว่าโลกนี้มันมืดบอดลงก่อนที่สติของเขาจะดับวูบตามไปติดๆ

     

    16.00 น. เกมพร็อกซี่วอร์ ณ ถ้ำแห่งความตาย โลกมนุษย์

    เฟตลืมตาตื่นอีกครั้งด้วยสภาพมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ภายในจิตใจกลับเถียงว่ามันไม่จริง จนทำให้สมองของชายหนุ่มวุ่นวายสับสนจนจับจุดไม่ถูก นี่ฮาเดสมันแกล้งอะไรอีกวะเนี่ย

    เฮ้อ นี่เป็นห้องนอนผู้หญิง ซินะชายหนุ่มพึมพำขณะลุกขึ้นนั่งบนเตียงยาวใหญ่สีขาว ซึ่งมุมเตียงปกคลุมไปด้วยม่านผ้าสีขาวบางๆ ที่บ่งบอกถึงความสะอาด แม้กำแพงรอบด้านจะเป็นหิน แต่การตกแต่งห้องนอนนี้กลับทำให้เข้ากันได้อย่างน่าประหลาด

    ห้องผู้หญิงเฟตพึ่งนึกขึ้นได้ จึงกวาดมองไปรอบๆตัว ซึ่งแน่นอน เขาก็ได้พบกับเจ้าของห้องที่นอนอยู่บนขาของเขา

    หญิงสาวผมทองใบหน้างามสง่าหมดจดนอนโดยใช้ต้นขาของเฟตเป็นหมอนหนุน ส่วนชายหนุ่มเจ้าของหมอนก็รู้สึกว่าเหมือนจะคุ้นเคยกับเหตุการณ์นี้ชอบกล แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าที่ว่า ทำไมหญิงสาวคนนี้เขาถึงรู้จัก

    คุณเมดูซ่านี่แหละ คือหญิงสาวที่เฟตรู้จัก แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ทบทวนความจำกับสิ่งที่เห็น เขาก็พบว่าคู่กรณีลุกขึ้นมานั่งแล้ว

    งืม ขออีกแป๊บนะหญิงสาวพึมพำทั้งๆที่หลับตา บ่งบอกได้ถึงว่าง่วงสุดขีด จากนั้นก็กดชายหนุ่มลงไปนอนโดยมีเธอนอนทับไว้อีกแรง

    เฟตที่กลายเป็นที่นอนอ่อนนุ่มสุดสบายกระพริบตามองด้วยความมึนงง นี่มัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมผมของหญิงสาวถึงกลายเป็นแบบปกติได้ ทั้งๆที่เขาจำได้ดีว่าผมของหญิงสาวไม่ใช่แบบนี้ มันเป็นงูไม่ใช่เหรอ

    อืม ใช่แล้ว เราเอาอะไรบางอย่างแลกเปลี่ยนกับคำสาป จะว่าไป มันคืออะไรล่ะเฟตเริ่มทบทวนความจำ การที่เขาบ่นมากๆ ส่งผลให้สมองตีภาพออกมาเป็นฉากๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่นอนอยู่ลืมตาตื่น พร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นมานั่ง

    ทำไมนายถึงหญิงสาวชี้มาที่หน้าของชายหนุ่ม ทว่า เมื่อเธอเห็นดวงตาของเขาแล้วก็ถึงกับอึ้งเป็นใบ้พูดอะไรไม่ออก ในขณะที่เฟตเองก็อึ้ง เมื่อเห็นดวงตาสีเหลืองทองของหญิงสาว ซึ่งมันไม่ใช่ดวงตาแบบเดิมแล้ว มันเป็นดวงตาของพวกเทพ ส่วนอีกข้างก็เป็นสีแดงแบบเผ่ามาร

    นั่นมัน ดวงตาของฉันไม่ใช่เหรอเมดูซ่าถามด้วยความสงสัยปนตกใจ แม้จะแปลกใจที่ทำไมถึงมานอนด้วยกันได้ แต่ดวงตาที่เธอเคยเห็นมันมานานนับร้อยปีดันไปมีโผล่ที่ดวงตาของคนอื่นด้วยนี่แหละ ที่ทำให้เธอแปลกใจจนละทิ้งสภาพของตัวเอง ซึ่งเรียกว่าอยู่ในสภาพล่อแหลมแบบสุดๆ

    เอ่อ คือว่า มันเฟตเองก็รู้สึกเหมือนจะจำได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นสภาพไร้เครื่องนุ่งห่มของเมดูซ่าทีพึ่งลุกขึ้นมาแบบเต็มๆตาก็กลับกลายเป็นว่ามันทำลายสมาธิและความทรงจำเสียหมด จนลืมไปแล้วว่าจะพูดอะไร นอกจากจะพูดอะไรไม่ได้แล้ว เฟตยังเผลอมองต่ำตั้งแต่ช่วงใบหน้าของเมดูซ่าลงไปยังด้านล่าง

    หญิงสาวเห็นสายตาของเฟตกวาดมองลำต่ำที่เรือนร่างตน เธอก็เลยมองบ้าง ทันทีที่เห็นว่าสภาพของตนเองล่อเป้าความหื่นชายหนุ่มมากขนาดไหน ก็รีบดึงผ้าห่มสีขาวบริสุทธิ์ขึ้นมากอดปกคลุมร่างกายเอาไว้

    ทำไม นายถึงมานอนที่นี่ได้ แล้วไหงนายถึงไม่แข็งเป็นหิน ทำไมนายถึงหญิงสาวเริ่มสติแตกออกมา ปกติเธอเป็นคนที่ค่อนข้างกลัวคน แม้จะมีคนตายเพราะเธอเยอะแยะ แต่นั่นไม่ใช่การลงมือของเธอ มันเป็นของคำสาป แถมผู้ชายเองก็เป็นสิ่งที่เธอกลัวสุดๆ ตอนที่ถูกปิดตานั้นยังไม่เท่าไหร่ เพราะจิตนาการณ์ของเธอยังมีไม่มาก แต่พอได้เห็นหน้าผู้ชายแบบตรงๆแล้ว เธอก็ถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

    เอ่อ อยู่ที่นี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเคลียตัวเองแป๊บเฟตเองก็จำไม่ค่อยได้จึงรีบลุกขึ้น ทว่า สายตาของชายหนุ่มก็หันไปมองเห็นอะไรบางอย่างที่วางไว้บนโต๊ะชุดรับแขกในห้องนอน นั่นมัน …… ชุดของเขานี่หว่า

    กรี๊ดดดด!!!!”ตามคาด หญิงสาวที่เกลียดผู้ชายมีหรือจะรับได้ แม้เรทติ้งของเกมจะควบคุมไม่ให้มีอะไรโผล่ออกมาให้ดูอุจาดตาสำหรับผู้เล่น แต่พวกอสูรนั้นไม่ใช่ พวกเธอรับรู้และเห็นได้ในสิ่งที่สมควรจะเห็น

    เฟตวิ่งไปเอาชุดของตัวเองแล้วพุ่งออกจากห้องไปด้วยความเร็วแสง ทันทีที่ออกมาได้เขาก็จัดการเรียกใช้ระบบสวมใส่เสื้อผ้าให้ตัวเอง จากนั้นก็เรียกหน้าต่างระบบออกมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา

    ผู้เล่นเฟตถูกคำสาปค่ะนั่นเป็นคำแรกที่ขึ้นอยู่หัวข้อในหน้าต่างระบบ พอเขากดเข้าไปดูก็พบว่ามันมีรายงานให้ทราบผลเป็นหางว่าว ซึ่งชายหนุ่มก็เลือกใช้บริการระบบเสียงที่จะรายงานผลให้ทราบถึงข้อความที่เคยรายงานแต่ไม่ได้สนใจฟัง

    นี่เป็นคำสาปที่ได้รับการถ่ายโอนค่ะตรงนี้เฟตพอเข้าใจ เพราะฮาเดสได้อธิบายไว้ก่อนแล้วว่า ความตายคือนายพลังด้านลบ อะไรก็ตามที่ชั่วร้ายล้วนแต่ตกมาอยู่ที่ความตายทั้งสิ้น ซึ่งเขาที่มีพลังสายนี้ก็สามารถรับสิ่งต่างๆเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน

    เมดูซ่าหายจากคำสาปค่ะนั่นคือคำท้ายที่ต่อท้ายจากที่เฟตโดยคำสาป แหงล่ะ เมื่อเขาได้รับคำสาปมาแล้ว ถ้าเมดูซ่าไม่หาย เขานี่แหละจะไปกระทืบฮาเดสเอง

    คำสาปที่ผู้เล่นเฟตได้รับคือ เมื่อใดที่ต้องตาสิ่งมีชีวิต จะส่งคำสาปสู่ผู้ที่สู้สายตาค่ะ เสียพลังตามจำนวนและขนาดผู้ถูกจ้องมอง (S)’

    ทว่า เนื่องจากในร่างกายของผู้เล่นมีพลังสายเทพอยู่ ทำให้คำสาป (ด้านลบ) แสดงผลได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้เหลือดวงตาต้องสาปเพียงข้างเดียว ส่วนคำสาปที่สาปส่งผู้อื่นก็ถูกผนึกไว้ด้วยพลังแห่งความตายค่ะระบบรายงานแบบต่อเนื่องในขณะที่เฟตก็เดินวนไปรอบๆ จนไปถึงห้องรับแขกที่เขาเคยผ่านมาที ทันทีที่ถึงห้องนี้ชายหนุ่มก็เดินไปหาสิ่งที่สะท้อนแสงได้ เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

    เฮ้ยเฟตอุทานลั่น เมื่อเห็นว่าดวงตาของตนเองโผล่มาแบบเมดูซ่าทุกประการณ์ ที่ข้างหนึ่งเป็นสีทองและเป็นสีแดง ทว่า ภายในรูม่านตาขยาย มันดันเป็นเส้นเรียวเล็กแบบสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งถ้าเฟตจำไม่ผิด มันเป็นของเมดูซ่า

    พลังเทพมารทำหน้าที่สะกดคำสาปที่ส่งผลร้ายต่อผู้เป็นนายค่ะ เสียค่าพลังตามการใช้งานเสียงระบบนี้ทำให้เฟตถึงกับงง แต่เมื่อเขาลองเปิดระบบดู ก็พบว่าหลอดพลังสายเทพกับมารของเขาเลื่อนขึ้นลงบ่งบอกถึงความไม่เสถียร ซึ่งลองหลับตาลงไปข้าง พลังที่สะกดคำสาปในดวงตานั้นก็หยุดการเคลื่อนไหว บ่งบอกถึงว่า เป็นจริงดั่งที่ระบบรายงาน ถ้าไม่ใช้งาน มันก็ไม่ลดหายไป

    เอาแล้วไงตรู ต้องกลายเป็นชายตาเดียวงั้นเหรอชายหนุ่มพึมพำขณะมองดูการทำงานของดวงตาของเขา ซึ่งออกมาทำงานแบบอัตโนมัติ ยังดีที่ผมนั้นกลับไปเป็นสีดำและไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบพลัง

     

    ฮ่าฮ่าฮ่าฮาเดสที่อยู่ในห้องประชุมหัวเราะลั่นในตอนที่ได้เห็นว่าเฟตกับเมดูซ่าสนุกกันแบบไหน ทว่าคนในห้องประชุมอื่นๆกลับถอนหายใจ ที่ไอ้หมอนี่เล่นแกล้งชาวบ้านโดยไม่สนใจอะไรแบบนี้

    แล้วตกลงจะประชุมต่อไหมเนี่ยลูซิเฟอร์ถามเรียบๆขณะมองดูจ้าวนรกที่ยังคงหัวเราะอย่างชอบใจพร้อมกับพึมพำว่าเมิงซวยแน่

    เออๆ ฮ่าฮ่าฮ่าฮาเดสตอบพร้อมกับกดปุ่มสีแดง ที่ส่งผลให้ห้องประชุมแบบวงกลมกระจายตัวออกจากกันไป จนกลายเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่มีที่นั่งโผล่มาอีกหลายสิบที่นั่ง

    ซึ่งทันทีที่ห้องหยุดการเปลี่ยนแปลง ที่นั่งที่โผล่ขึ้นมาและว่างเปล่าก็ได้ถูกเติมเต็มไปด้วยเหล่าบุรุษชายหญิง ที่ต่างทำหน้าบูดบึ้งบ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจ

    ช้ามากเลยค่ะ ท่านจ้าวนรกฮาเดสหญิงสาวผมดำงามสง่าซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ขนาดใหญ่ฝั่งตรงกันข้ามกับฮาเดสทักมาก่อน

    แหมๆ เป็นเกียรติจริงๆที่ท่านเฮลทักทายข้าก่อน แต่บังเอิญว่าที่นรกข้าสงครามมันหนักหน่วงไปนิด ก็ต้องทำใจนะครับฮาเดสโค้งหัวให้ยิ้มๆ จากนั้นก็นั่งลงเอามือเท้าคาง ส่งผลให้ดูเป็นจ้าวนรกผู้ยิ่งใหญ่มากขึ้น

    อย่านอกเรื่องนานเลยท่าน เข้าเรื่องกันดีกว่า อีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น ที่โลกกลางจะเกิดสงครามแล้ว เราต้องมาประชุมกันเสียหน่อยว่าจะรับมือกับพวกสวรรค์ยังไงชายหนุ่มผมสีเขียวแต่งตัวสไตล์อียิปต์เปิดประเด็นประชุมที่น่าเบื่อสำหรับฮาเดสทันที แต่การประชุมนี้สำคัญมากๆ จึงไม่มีใครเถียงอะไร นอกจากจะร่วมประชุมด้วยความเครียดเสียจนคนทั้งห้องแทบจะระเบิดตัวตายหนีหายไปเลย เนื่องจากทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ล้วนแล้วแต่เป็นจ้าวนรกระดับจอมมารทั้งนั้น แม้จะไม่ใช่จ้าวนรก แต่ก็เป็นถึงจ้าวปีศาจชั้นสูง

    หึหึ เดี๋ยวจะหนาวเจ้าเฟตเอ๋ยฮาเดสกลับไม่ได้สนใจความตึงเครียดเลย เขาเอาแต่คิดไปต่างๆนาๆว่า จากนี้ไป ชีวิตของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำแห่งวิทยาการณ์สงครามจะเป็นยังไง ฮาเร็มจะอยู่ดีไหม หรือต้องแตกกลางเพราะมือที่ 2 ที่ 3 อย่างเมดูซ่า และยังมีอีกหลายๆอย่างที่ต้องตามมา ทว่า ในสงครามโอลิมปิกนี่แหละที่จะได้รู้กันว่า ใครจะอยู่ หรือใครจะไป

    หลังจากเฟตค้นพบว่าตนเองสามารถพักการใช้งานสายตาแบบพิเศษ (ตรงไหน) ได้แบบเป็นพักๆ ก็พอดีกับที่เมดูซ่าออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพปกติของเธอ ชุดใหม่เอี่ยม

    ต่อจากนี้ไป ผมคงต้องกลับก่อนนะครับ ภารกิจของผมเสร็จแล้วชายหนุ่มรีบออกตัว เมื่อเห็นว่าหญิงสาวส่งสายตารังเกียจมาให้ ซึ่งเขาก็เข้าใจได้จากความทรงจำหญิงสาวว่าเป็นเพราะอะไร

    ไปซะ เจ้าบ้าหญิงสาวว่าจบก็สะบัดหน้าเดินหายไปเลย ทิ้งให้เฟตมองตามตาปริบๆ นี่ตรูผิดเต็มๆงั้นเหรอเนี่ย เฮ้อ ช่างมันเถอะ ภารกิจของเขาเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้เมดูซ่าได้พบหาเพื่อนใหม่ ได้โดยไม่สาปให้ใครกลายเป็นหินไปเสียก่อน หรือแม้กระทั่งภารกิจชุบร่างเนื้อของอสูรตนเอง ที่เหมือนการยิงปืน ปตอ.ลูกเดียว ได้เครื่องบินสองลำ

    เมื่อถูกไล่ชายหนุ่มก็ไม่ปฏิเสธความต้องการ เขาเดินออกจากถ้ำไปตามทางเดินที่เคยเดินผ่านเข้ามา ต่อจากนี้ไปถ้ำนี้ก็คงจะเรียกว่าถ้ำแห่งความตายไม่ได้แล้วล่ะมั้ง ในเมื่อเจ้าของถ้ำไม่มีความสามารถนั้นแล้ว นอกเสียจากดวงตาที่เอาของเขาไป

    แล้วแบบนี้เธอจะใช้อะไรสู้ คงไม่ใช่ว่าพลังของเราหรอกนะเฟตเริ่มคิดเล่นๆขณะเดินผ่านรูปปั้นหินของผู้เล่นนับร้อยนับพัน ที่อยากจะได้เหรียญทองแห่งความตาย หรือเป็นสิ่งของที่จะได้รับหลังจากทำภารกิจเสร็จ ว่าไปแล้ว เขาก็โชคดีอย่างที่มีพลังสายความตายเป็นพลังพื้นฐาน ถ้าเขาไม่มีมัน วันนี้ก็คงจะได้แข็งเป็นหินตายที่นรกอีกรอบแน่ๆ เลย

    กว่าชายหนุ่มจะรู้สึกตัว เขาก็เดินเล่นมาไกลจนมาถึงกลุ่มพวกผู้เล่นที่กำลังไล่ตีอสูรเก็บเลเวลกันแล้ว แต่ทว่า ครั้งนี้เขากลับรู้สึกแปลกใจมาก เมื่อเห็นว่าผู้เล่นเยอะขึ้นถนัดตา แถมยังไล่ล่าอสูรกันอย่างเอาจริงเอาจัง จนพวกอสูรสายพันเลื้อยคลานต้องหนีหายกันแทบไม่ทัน

    เฟตยืนมองสักพักก็เลยเบนความสนใจจากสิ่งที่เห็น แม้การที่ผู้เล่นลงมือสังหารอสูรที่ไม่มีทางสู้จะเป็นภาพที่ชวนหงุดหงิดใจ แต่มันก็เป็นสิทธิของพวกเขา นี่คือเกม ใครจะทำอะไรก็ได้ ถ้าไม่เดือดร้อนใคร หรือมีใครมามีปัญหากับสิ่งที่พวกเขาก่อ

    แต่ทว่า ดูเหมือนชายหนุ่มจะลืมไปแล้ว ว่าเขาเองก็เป็นชายคนหนึ่งที่ทำให้คนทั้งกลุ่มใหญ่ต้องตายไป ซึ่งก็มีคนมารอแก้แค้นแทนพรรคพวกที่หายไป

    เฮ้ย ไอ้บอด ทำไมแกถึงใส่ชุดแบบนั้นวะกลุ่มผู้เล่นที่นั่งพักกันอยู่ข้างทางเดินตัดเข้าสู่เมืองร้องทักมาทันที แม้เฟตจะไม่รู้จักว่าคนพวกนี้เป็นใคร แต่เขาก็รู้ได้จากสัญชาตญาณ ว่าคนพวกนี้ได้ข้อมูลของเขามา ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

    แล้วเป็นไงเหรอครับเฟตหยุดตอบแบบห่างๆ กลุ่มของชายคนนี้มี 6 คน ดูแล้วน่าจะเก่งพอสมควรเลยแหละ

    ก็ไม่เป็นไงหรอก แต่ข้าได้ข่าวมาว่า คนที่ใส่ชุดแบบแกเป็นคนที่สังหารหัวหน้ากลุ่มของข้าชายคนเดิมตอบพร้อมกับหันไปถามกันว่าใช่เหรอ เพราะไอ้หมอนี่เล่นหลับตาข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็เอาผ้าบางๆมาคลุมไว้จนมองไม่เห็นลูกตา

    เฟตใช้มือกับตาข้างที่ตนใช้ผ้าบางมาปิดด้วยความสนใจ สงสัยคนพวกนี้กำลังสับสนกับข้อมูลที่ได้มา เขาในตอนแรกไม่ปิดตา แถมท่าทางก็เหมือนคนปกติดี แต่ตอนนี้นอกจากจะปิดตาด้วยผ้าแล้ว ท่าทางก็อมทุกข์ เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ อืม ไม่ซิ รู้สึกว่าร่างกายมันหน่วงๆ สงสัยกำลังปรับสภาพรับกับสิ่งที่เป็นอยู่แน่ๆเลย

    เท่าที่ผมจำได้ ผมไม่ได้ฆ่าใครเลยนะครับ นอกจากพวกมารชายหนุ่มตอบตรงๆ ซึ่งก็จริง คนที่ฆ่าคนพวกนั้นคือเมดูซ่า ส่วนเขาเป็นแค่ผู้ล่อเสือมาติดถ้ำ

    เมื่อได้รับคำตอบที่มั่นใจของเฟต คนพวกนี้ก็หันไปถามกันด้วยความสับสน ตกลงว่าเป็นยังไงกันแน่ ข้อมูลที่พวกเขาได้มามันเป็นข้อมูลลายลักษณ์อักษร มันไม่มีข้อมูลรูปภาพเลย แถมการที่ลูกพี่พวกเขาตายยังไม่เกิด ก็น่าจะบ่งบอกได้ดีว่า น่าจะเป็นเพราะคำสาปประจำเกาะ คำสาปของเมดูซ่า

    เออ ชุดอาจจะแค่เหมือน แต่แกไม่ใช่วะ แกมันดูอมโรคเกินไป ไปไหนก็ไปซะคนกลุ่มนี้พยักหน้าให้กันหลังจากโหวตเสียงแล้วว่า เฟตดูกระจอกจนเกินไป ถ้าพวกเขาฆ่าก็อาจจะเสื่อมเสียชื่อได้ว่ารังแกผู้เล่นที่อ่อนแอกว่า จึงพากันทำโอ้ปล่อยผู้เล่นไป ทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าไอ้คนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขานี่แหละ ที่อันตรายยิ่งกว่าบอสอสูรในระดับเลเวลเดียวกัน ไม่ซิ เหมือนจะเป็นจอมมารขนาดมินิเลยก็ว่าได้

    ขอบคุณครับเฟตพยักหน้าขอบคุณแล้วเดินต่อทันที เขาไม่ได้ขอบคุณที่ปล่อยเขา แต่ขอบคุณที่ทำให้เขาไม่ต้องเปลืองแรงลงมือสังหารใครต่างหาก ตอนนี้เขาเหนื่อยมามากพอแล้ว พูดตรงๆเลยว่าถ้าเหตุการณ์ในห้องเมดูซ่าสงบกว่านี้ เขาคงจะขอนอนต่อเพื่อพักฟื้น แต่เมื่อเจ้าแม่ส่ายหน้าส่ายหัว เขาก็จำเป็นต้องออกจากที่นั่นตามคำขอ

    ชายหนุ่มเดินผ่านกลุ่มผู้เล่นที่พักอยู่ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองท่า หลังจากเดินเล่นได้ไม่นาน กว่าชายหนุ่มจะได้ถึงเมืองเวลาก็ค่ำเข้าไปแล้ว

     

    เรือออกเหรอ ไม่มีหรอกครับชายหนุ่มที่อยู่บริเวณท่าเรือเอ่ยตอบทันที หลังจากเฟตที่พึ่งมาถึงมาเดินหาถามว่ามีเรือออกไปจากเกาะแห่งนี้หรือไม่

    อ้าว ทำไมล่ะครับ นี่แค่ 2 ทุ่มเองนี่

    แม้จะพึ่ง 2 ทุ่ม แต่พี่ชายก็ต้องเข้าใจนะครับ ว่าเกาะแห่งนี้ไม่ใช่เกาะโด่งดังอะไรมาก ชื่อเสียงที่มีก็แค่เกาะแห่งความตาย ที่พำนักแห่งเมดูซ่า ไอ้ที่จะมีมาก็เป็นพวกที่ไม่รู้จักคำสาปเท่านั้นแหละครับ ส่วนไอ้พวกที่รู้แล้วก็คงไม่กลับมาเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากความตายด้วยคำสาปแข็งเป็นหินมันไม่น่าอภิรมย์เลย ถ้าพี่ชายอยากจะออกจากเกาะจริงๆ จะมีเรือเที่ยวตอน 1 โมงเช้าน่ะครับ พี่ชายมารอได้เลยชายหนุ่มตอบขณะขนของเข้าร้านเหล้า เขามีหน้าที่ขนของ ถ้าเฟตไม่มายุ่งเขาคงจะเสร็จงานได้เร็วกว่านี้

    ขอบคุณครับเฟตไม่ใช่คนตีอกชกหัวเท่าไหร่ จึงตอบรับอย่างว่าง่าย

    หลังจากห่างจากพนักงานขนส่งสินค้ามา ชายหนุ่มก็มาหยุดยืนดูที่ริมทะเล แล้วพยายามมองหาทางไปต่อเอง

    จะบินไป เราก็ไม่รู้ว่ามันไกลแค่ไหน ไปทางไหนก็ยังไม่รู้เลย พลังในร่างของเราตอนนี้ก็ลบเอาๆ ไหนจะไอ้ร่างกายที่รู้สึกไม่สบายนี้อีกชายหนุ่มพึมพำแล้วถอนหายใจ สงสัยเขาต้องรอเรือจริงๆล่ะมั้ง

    ในขณะที่เฟตกำลังคิดหาทางให้ตัวเอง เขาก็รู้สึกว่ามีสายตามองมา พอหันไปมองตามความรู้สึกก็พบว่าเป็นชายคนที่เคยหาเรื่องเขา กำลังนั่งกินเหล้าพร้อมกับจ้องมองมาตาขวาง

    เมิงตายแน่ชายคนนี้ทำท่าเชือดคอเหมือนกับจำเฟตได้ขึ้นใจ ส่วนชายหนุ่มผู้ได้รับสารส่งซิกสมัยใหม่ก็เอียงคอสงสัย ไอ้นี่เอะใจบ้างมั้ยเนี่ยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้อีกครั้ง อืม หรือว่า ไอ้หมอนี่จะไม่เกี่ยว แต่ก็ไม่น่าจะใช่แหะ เพราะมันมีท่าทีต่อเขามากที่สุด และคนที่สามารถส่งข้อมูลของคนที่ตายไป (แก๊งครองเมือง) ได้ ก็น่าจะมีแต่คนที่อยู่เบื้องหลังแบบไอ้หมอนี่เท่านั้น

    เฮ้อเฟตถอนหายใจพร้อมกับหาที่พักค้างแรมสักคืน ซึ่งเขาก็หาอะไรไม่เจอ นอกจากร้านอาหารทีเขาเคยใช้บริการ ซึ่งดูเหมือนจะเปิดเพียงแค่ร้านเดียว

    และดูเหมือนจะจริงดั่งที่เด็กขนของเล่าให้ฟัง ว่าเมืองนี้ไม่ใช่เมืองเด่นดังอะไรมาก คนในร้านนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นพวกผู้เล่นข้าประจำ หรือไม่ก็เอไอที่พากันมานั่งกินข้าวสังสรรค์กันเล็กๆน้อยๆ เป็นการกระชับสัมพันธ์

    ทันทีที่เฟตเข้ามา เสียงที่เรียกว่าเบามากแล้ว ก็กลายเป็นป่าช้าไปเลย เมื่อคนพวกนี้พากันมองขวับมาทางเขาด้วยความสนใจ เพราะคนที่ปิดตาข้างเดียวเดินเล่นในเมืองไม่เคยมีมาก่อนเลย

    หญิงสาวลูกเจ้าของร้านเดินเข้ามาถามอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่เมื่อจำได้ว่าเป็นเฟตก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง จนคนในร้านพากันหันมามองอ่ะ คุณนั่นเอง มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ

    ผมอยากหาที่พักครับ

    เอ๋ เยื้องๆจากร้านนี้ไปก็ใช่แล้วนี่คะหญิงสาวเอียงคอพร้อมกับชี้ไปทางแบบอาคารพาณิชประตูไม้แห่งหนึ่ง ที่ปิดไฟจนเกือบจะหมด เหลือแต่เพียงโคมไฟระย้าหน้าร้านที่ไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นชื่อร้านที่ติดอยู่ข้างใต้

    แหะๆ สงสัยจะปิดแล้วค่ะหญิงสาวหัวเราะแก้เก้อ ปิดไฟแบบนั้นแสดงว่าคนเต็ม จึงหันมาให้ข้อเสนอพร้อมกับยื่นใบโบว์ชัวงั้นมาพักที่ร้านนี้ก็ได้นะคะ แต่ราคาอาจจะแพงหน่อย

    แน่นอน เพราะร้านนี้เป็นร้านอันดับหนึ่งนี่นา การจะมีราคาเข้าพักสูงก็เป็นเรื่องปกติ

    แต่ราคาสูงไม่ได้หมายความว่าคนจะเข้าพักเยอะ ทีนี่แทบจะไม่มีคนพักเลยต่างหาก เนื่องจากพวกผู้เล่นที่เข้ามา ส่วนใหญ่จะเป็นพวกแสวงโชคกะหาทำหน้าที่แร้งกา แต่ก็พากันตายเพราะคำสาปของเกาะจนหนีหายไป ส่วนพวกที่อยู่ก็ดันเป็นพวกผู้เล่นขาประจำของเมือง ที่คิดหาแค่พอเลี้ยงตัว การจะมาใช้เงินฟุ่มเฟือยจึงไม่มี

    ครับเฟตจ่ายเงินแล้วเดินตามทางที่มีป้ายชี้ว่าทางไปห้องพักทันที เขาในตอนนี้รู้สึกว่าอยากจะนอนแล้ว จึงไม่สนแล้วว่าจะแพงขนาดไหน

     

    เมื่อมาถึงห้องพักที่หญิงสาวให้กุญแจแล้ว ชายหนุ่มก็เปิดประตูเพื่อดูทันที

    ห้องพักที่เฟตกำลังจะเข้าอยู่เป็นห้องพักที่มีขนาดกว้างใหญ่ การตกแต่งแบบโล่งๆ สไตล์ตะวันออกเหนือส่งผลให้ห้องนี้ดูสะอาดตาดี

    หลังเห็นว่าห้องดี ปลอดภัย และสามารถมองเห็นท่าเรือได้เต็มๆตา เฟตก็เดินตรงไปยังเตียงนอนที่ถูกกั้นด้วยไม้สลักลาย ทันทีที่หัวแตะหมอน ชายหนุ่มก็สลบไสลทันที

     

    23.00 น. เฟตลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงน้ำกระทบฝั่งที่ดังผิดปกติ เมื่อชายหนุ่มตื่นขึ้นมา เขาก็เห็นว่าตนลืมปิดหน้าต่างห้องนอนไป จนทำให้แสงจันทร์ส่องลงมาได้ แต่ช่างมันเถอะ เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมากกว่า จึงเดินฉากเข้าไปประชิดที่หน้าต่างห้อง จากนั้นก็โผล่สายตาไปมองเล็กน้อย

    ภาพของเรือหลายสิบลำที่เข้ามาเทียบท่าส่งผลให้เฟตขมวดคิ้วมอง การมาถึงแบบนี้ถือว่าผิดปกติมากเลย

    เมื่อเรือพวกนั้นเทียบชายฝั่งแล้วก็พากันขึ้นท่ามา โดยจำนวนผู้เล่นต่อเรือหนึ่งลำรู้สึกจะอยู่ที่ประมาณ 50 คน ไม่น่าจะเกินกว่านี้ เพราะเป็นเรือที่ประกอบด้วยไม้ โครงสร้างก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก

    ผู้เล่นที่ลงจากเรือมา ส่วนใหญ่จะเดินถามหาร้านพักแบบเขา ซึ่งแน่นอน ย่อมแห้วไปตามๆกัน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เดินมายังร้านอาหารที่ชั้นบนเปิดเป็นที่พักแบบนี้

    ขอห้องละ 3 เหรียญทองไม่ได้เหรอแป๊ะเสียงต่อราคาที่ดังลั่นขึ้นมา ทำให้เฟตรู้ว่าคนพวกนี้คิดเรื่องเงินเรื่องทองขนาดไหน

    โอ๊ยไม่ได้หรอก ห้องของอั๊วดีที่สุดในละแวกนี้แล้ว ถึงจะ....จากนั้นก็เป็นการบรรยายถึงสรรพคุณที่จริงบ้างเท็จบ้าง ซึ่งในข้อนี้เฟตก็พยักหน้าให้ว่าจริง ห้องพักที่นี่กว้างมาก ถ้าไม่นับว่าระเบียงมันเป็นแบบเปิดไปยืนชมวิว และบรรยากาศก็ดีมากแบบสุดๆ ถ้าไม่นับลมทะเลที่เข้ามาปะทะในตอนนอน

    เสียงต่อระคายังคงดังสนั่น หลังจากอาแป๊ะใช้แผนวิชามาร ตบหน้าตบหลัง ผลสรุปก็ตกลงราคากันอยู่ที่ 3.5 เหรียญทอง ทั้งๆที่ตอนแรกเริ่มต้นอยู่ที่ 3 อืม เถ้าแก่แกหลอกคนเก่งโคตร ต่อราคาได้จนคนฟังมึนตามไม่ทัน

    เมื่อได้รับข้อตกลงที่พัก เฟตก็มองไปที่ข้างนอกอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาก็พบว่าคนที่มาต่อราคาเดินไปยังเรือ จากนั้นก็มีกลุ่มคนที่ดูท่าว่าจะระดับสูงเดินมายังโรงเตี๊ยมนี้ ซึ่งต่อมาไม่นาน ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ บ่งบอกถึงการเข้ามาใช้บริการ

    ชายหนุ่มมองดูสักพัก เมื่อเห็นพวกคนบนเรือทยอยกลับเรือแล้วเงียบหายไป เขาก็เลยเดินกลับไปที่เตียงพร้อมกับเอาหัวหนุนหมอนด้วยความเหนื่อยอ่อน นี่โดนปลุกกลางคันมันปวดหัวนะเฟ้ย

     

    อื้อเสียงเหมือนอะไรครวญครางทำให้เฟตต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งชายหนุ่มก็เรียกหน้าต่างระบบเวลาออกมาดู เพราะเท่าที่สังเกตจากแสงของดวงจันทร์ น่าจะห่างจากการตื่นครั้งล่าสุดพอสมควร

    03.00 น. มันคึกอะไรกันแต่เช้าฟะชายหนุ่มพึมพำพร้อมกับเสียงครวญครางดังออกมาจากห้องข้างๆ แม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรตติ้งก็น่าจะสูงเกินกว่าที่ผู้เล่นอายุน้อยจะได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมร่วมกันได้

    แต่นี่ยังไม่ใช่ปัญหา เมื่อทำความคุ้นเคยได้ ชายหนุ่มก็สามารถตัดมันออกไปจากสิ่งที่ถือว่ารบกวนได้ เขาจึงนอนหลับต่อไปด้วยความสบายใจ

     

    อื้มเสียงร้องอีกครั้งทำให้เฟตลุกขึ้นมานั่ง พร้อมกับกุมหัว นี่มันตี 5 แล้วนะเฟ้ย มันจะเล่นเกมกีฬาใต้ร่มมาราธอนไปถึงไหนกันฟะ

    กว่าเสียงที่ดุเดือดรุนแรงจะสงบลงได้ ชายหนุ่มก็พบว่านี่มันตีห้าครึ่งแล้ว เขาจึงเปลี่ยนใจไม่นอนเดินลงไปหาข้าวเช้ากินเพื่อรอเรือหรือหาแผนที่การบินกลับดีกว่า ตอนนี้ร่างกายเขาดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว แม้จะยังรู้สึกว่าหนักๆหางตาเพราะความง่วงก็ตาม

    เมื่อลงมาถึง เฟตก็พบว่าลูกสาวเจ้าของร้านตื่นออกมาก่อนแล้ว โดยคุณเธอก็ยิ้มทักทายเขาอย่างมีมารยาท ทำให้ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับไป พร้อมกับสั่งหาอาหารเช้ากิน

    เอ๋ ป๊าเตรียมครัวอยู่ค่ะ ต้องรอก่อนได้มั้ยคะหญิงสาวร้องบอกหลังจากรับออเดอร์ไม่ได้

    ครับ ไม่เป็นไรหรอกครับเฟตรับคำพร้อมกับเดินไปนั่งรอ ซึ่งเขาก็เปิดระบบออกมาดู เพื่อหาระบบติดต่อ น่าแปลกแหะที่ไม่มีคนติดต่อมา

    เมื่อชายหนุ่มได้เปิดระบบ เขาก็พบว่ามันใช้บริการนอกเกาะไม่ได้ หรือก็คือ ไม่สามารถติดต่อออกหรือติดต่อเข้าได้ จนกว่าจะออกนอกตัวเกาะแห่งนี้ไป

    มิน่าล่ะ ทำไมถึงไม่มีใครติดต่อมาเลย

    ตึง!!! เสียงของชามที่บรรจุโจ๊กไว้เต็มถ้วยดังขึ้นที่ด้านหน้า พอเฟตมองตามมือก็เห็นว่าเป็นหญิงสาวเอามาตั้งให้

    เห็นคุณไม่ต่อราคาเมื่อคืน หมวยเลยเซอวิสให้ค่ะหญิงสาวยิ้มหวานกล่าว ซึ่งเฟตก็รับแล้วหันไปกินให้ตามที่จัดมาทันที เมื่อคืนเขายังไม่ได้กินข้าวเลย อืม ตอนเย็นก็ลืม ตอนเที่ยงเมื่อวานก็ใช่ งั้นก็ยอดรวมมันวันนี้นี่แหละ ชายหนุ่มจึงขอเบิ้ล 2 – 3 ตามลำดับของมื้อไปเสียเนียนๆ

    กว่าจะเสร็จสิ้น อาแป๊ะเจ้าของร้านที่เตรียมครัวก็เดินออกมาพร้อมกับมีดอีโต้เล่มใหญ่

    นี่ลื้อโชคดีมากเลยนะ ที่ได้ลูกอั๊วทำข้าวเช้าให้กิน ปกติบ้านอั๊วนี่ผู้ชายใดได้ทานอาหารลูกสาว จะถือว่าเป็นลูกเขยนะ ลื้อรู้มั้ยเถ้าแก่ถามหน้าเครียดสุดๆ แต่เฟตไม่สนใจ จะยกจะยกลูกสาวให้ก็ว่ากันทีหลัง ตอนนี้ขอกินให้อิ่มท้องก่อนได้เปล่า

    เถ้าแก่ ขอข้าวเช้าชุดพิเศษ 2 ชุดเสียงดังออกมาก่อนที่ชายหญิง 2 คู่จะเดินลงมาจากบันไดห้องพักชั้นบน เฟตที่กินข้าวอยู่ได้ยินเสียงที่สะกิดเขาเมื่อคืนก็เหล่ตามเสียงไปมอง

    ชายหญิง 2 คู่ ยืนกอดกันกลมแบบไม่สนใจหน้าอินหน้าพรหม เมื่ออาหมวยไปจัดที่ให้ ถึงจะพากันไปนั่ง ซึ่งก่อนจะไปก็มีการเหล่มาทางเข้าเล็กน้อย เหมือนกับต้องการให้อิจฉาเล่น เห็นมั้ยว่าพวกเขามากันเป็นคู่ ไม่เหมือนเฟตที่ต้องมานั่งหาจีบเอาข้างทางแบบนี้ แม้เฟตจะอ่านใจไม่ได้ แต่เขาก็คิดไว้แบบนี้แหละ

    เมื่อโดนลูกค้าเรียก เถ้าแก่ร้านก็ชักสีหน้าแล้วเดินไปจัดอาหารให้ตามที่ขอ ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่รอช้า รีบบอกให้อาหมวยมาคิดตัง ก่อนที่เขาจะได้กลายเป็นอาหารเช้าเมดูเด็ดของร้านอาหารเจ้าดังแห่งนี้

    หลังจากออกจากร้านอาหาร 3 อินวัน ซึ่งมีทั้งที่พัก โรงอาหาร และโรงหนังสยองขวัญในตัวมาแล้ว เฟตก็มุ่งหน้าไปยังท่าเรือตามที่ได้คุยกับพนักงานเมื่อคืน

    เอ๋ เที่ยวแรกรู้สึกว่าจะเลทนะครับพนักงานที่อยู่แถวท่าเรือตอบคำถามของชายหนุ่มหลังจากถูกถามว่าเรือเที่ยวแรกกำลังจะมาใช้หรือไม่ ซึ่งเมื่อตอบเสร็จก็อุ้มของขึ้นเรือประมงไปทันที

    เลท??”เฟตอุทานพร้อมกับมองดูคนกลุ่มนี้ที่กำลังขนของขึ้นเรือ พวกเขากำลังจะออกทะเลแน่นอน ถึงเอาน้ำจืดไปเยอะขนาดนั้น

    ชายหนุ่มเรียกนาฬิกาออกมาดู เมื่อเห็นว่าใกล้จะหนึ่งโมงแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววของเรืออะไรเลยก็ถอนหายใจ

    เฮ!!!”เสียงเฮดังสนั่นมาจากทางกองเรือที่มาจอดเทียบท่าพักเมื่อคืน เฟตจึงปรายตาไปมองเล็กน้อยก็เห็นพวกผู้เล่นบนเรือพากันวิ่งลงมาจัดแถว ซึ่งทุกคนมีโล่โลหะที่ถูกขัดจนใสมาด้วยทุกคน

    แล้วเราจะเอาไงดีล่ะเนี่ยเฟตเดินไปนั่งลงที่โต๊ะข้างทาง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นของร้านเหล้าริมทาง หลังจากนั่งลงเสร็จชายหนุ่มก็หลับตาด้วยความเซ็ง อุตส่าห์ว่าจะหาทางกลับสบายๆซะหน่อย สงสัยจะได้บินกลับเองแล้วล่ะมั้ง แต่ไอ้อย่างหลังนี่แหละคือปัญหา เขายังไม่เคยเห็นแผนที่เลย ว่าเกาะแห่งความตายอยู่ที่ไหนของเมืองเริ่มต้น และจะต้องบินไปทางไหนถึงจะไปถูกทาง

    เชอะ ไอ้ผู้เล่นขี้กร่าง แกคิดว่าแกเจ๋งคนเดียวหรือไงฟะเสียงตะคอกดังลั่นเข้าหูมา ทำให้สมาธิของเฟตที่จับจ่อไปกับเรื่องของตัวเองเป็นอันต้องหายไป แล้วหันไปมองทางต้นเสียง

    เออ ในเมืองนี้ข้าเก่งที่สุดแล้วชายหนุ่มที่เคยหาเรื่องกับเฟตต่อปากต่อคำ ซึ่งคู่กรณีรู้สึกว่าจะเป็นพวกผู้เล่นที่มากับเรือเมื่อคืนนี้

    ได้ งั้นลองหน่อยซิว่าไอ้เก่งที่ว่ามันสมราคาคุยหรือเปล่าผู้เล่นหนุ่มกองเรือว่าจบก็ชักดาบฟันใส่อย่างรวดเร็ว ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องเบี่ยงตัวหลบคมอย่างรวดเร็ว

    ฟุบ!!! เพียงพริบตาเดียวที่หลบได้ ชายร่างใหญ่ก็โผล่เข้ามาประชิดตัวด้วยสกิลเท้า จากนั้นหมัดนับสิบก็พุ่งตรงเข้าหาผู้เล่นหนุ่มจนผู้ถูกหมัดต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

    หึ กระจอกสิ้นดีชายร่างใหญ่หัวเราะเยียดหยาม ทำให้พวกผู้เล่นกองเรือที่พึ่งมาเมื่อคืนโกรธแค้น แต่ก่อนที่ทักษะตีนหมู่จะวิ่งเข้าใส่ กลุ่มชายหญิงสองคู่ที่กินข้าวในร้านทรีอินวันก็โผล่ออกมา พร้อมกับยกมือห้ามมาแต่ไกล

    ไม่นึกเลยว่า พี่แซกค์จะมาทดสอบฝีมือหัวหน้าทหารของพวกเราชาย 2 คนแยกตัวมาจากคู่ตนเองแล้วเดินมาก้มหัวให้ชายร่างใหญ่ ที่กำลังถอดหมวกเกราะทอง เผยให้เห็นถึงใบหน้าที่คล้ายคลึงกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีเซลล์เดียวกันแน่นอน

    หึ ทำอะไรไม่ยั้งคิดแบบนี้ ควรเรียกว่าหัวหน้าเรอะ ปลดลงจากตำแหน่งไปเถอะแซกค์กล่าวพร้อมกับหัวเราะในลำคอ นี่ถ้าเขาเอาจริงมีหวังได้ตายกันหมดแล้ว

    เรื่องนั้นค่อยว่ากันหลังจากเสร็จธุระเถอะพี่ชายคนทางขวาที่มีเส้นผมสีแดงแบบแซกค์รีบกล่าวถึงธุระ ทำให้พี่ใหญ่ต้องพยักหน้าเห็นด้วย

    จัดการส่งหน่วยนักล่าออกไปเลยแซกค์กล่าวจบน้องคนเล็กที่สวมเสื้อคลุมยาวคลิปทองก็สะบัดมือ ส่งผลให้พวกผู้เล่นที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วออกตัววิ่งไปตามทางมุ่งหน้าออกนอกเมืองไปตามคำสั่งที่ถูกวางแผนมาก่อนแล้ว

    หลังจากกองทหารนับร้อยวิ่งหายกันไป ทหารอีกส่วนหนึ่งที่อยู่บนเรือก็ออกเรือไปเช่นกัน ส่งผลให้ที่เมืองนี้เปลี่ยนสภาพคล้ายกับค่ายทหารไปโดยปริยาย โดยมีชาย 3 คนนั่นเป็นผู้บัญชาการทัพ

    หึ น่ายิงจริงๆแหะเฟตพึมพำขณะลูบมือด้วยความหมันเขี้ยว การเห็นคนมาใช้อำนาจบาตใหญ่แบบนี้มันชวนให้มือสไนเปอร์แบบเขายิงทิ้งจริงๆ

    แต่ความคิดก็ส่วนความคิด ความจริงเป็นเช่นไรชายหนุ่มรู้ดี เขาจึงนั่งกินลมรอตามเดิม แม้จะช้าบ้างอะไรบ้างก็ช่างมัน ดีกว่าไม่ได้กลับเลยจะดีกว่า

    และแล้ว การรอคอยของเฟตก็มาถึง เมื่อมีเรือที่ขึ้นธงป้ายว่าโดยสารเข้ามาจอดเทียบที่ท่าเรืออันว่างเปล่า (เรือลำอื่นๆออกไปทำมาหากินหมด) ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบวิ่งตรงไปซื้อตัวทันที โดยที่เจ้าแซกค์อะไรนั่นจำหน้าเขาไม่ได้เลยหลังจากเอาหมวกทรงยาวมาติดผ้าคลุมปกหน้าเอาไว้แบบพวกวิทยายุทธ์หนังกำลังภายใน

    อีก 10 นาที ก็ออกได้แล้วครับคนขายตั๋วที่มาพร้อมกับเรือยิ้มกล่าว ซึ่งเฟตก็รีบซื้อพร้อมกับขึ้นไปนั่งบนเรืออย่างรวดเร็ว

    เรือลำนี้เป็นเรือไม้โดยสาร ที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายกับของชาร์รอนแต่จะต่างกันที่ เรือลำนี้ใช้ลมเป็นเครื่องยนต์ มีกำลังตามความเร็วลม ส่วนของชาร์รอนนั้นวิ่งได้แค่เอาไม้พายจิ้มน้ำ

    หลังจากทนรอตามคำบอกของคนขายตั๋ว เรือโดยสารที่มีลูกค้าแค่คนเดียวก็ออกจากท่าตามเวลา จริงๆและจะต้องจอดรอถึง 1 ชั่วโมง ถึงจะออกต่อรอบ แต่เมื่อเลทเวลามามากแล้ว เวลาในการออกจึงถูกเร่งให้รีบตามไปด้วย

    คล้ายหลังที่เรือโดยสารออกไปแล้ว กลุ่มพวกทหารที่ออกไปทำหน้าที่ก็กลับเข้ามา พร้อมกับอสูรระดับสูงที่มีความสามารถตามใบสั่งที่ได้รับมา ซึ่งแน่นอน จำนวนที่ถูกลากออกมาจึงมีมากมายมหาศาลจนเมืองท่าแห่งเกาะแห่งความตายเต็มไปด้วยอสูรที่ถูกจับขังไว้ในกรง

    หึ แค่นี้ก็ได้ตามใบสั่งที่พวกนั้นสั่งจองมาแล้วซินะแซกค์หัวเราะพร้อมกับมองดูใบสั่งที่ได้รับมา ซึ่งตอนนี้ในใบสั่งนั้นถูกค่าแทนที่ไว้ด้วยรอยปากกาสีแดงที่บ่งบอกถึงว่าได้มาตามที่ถูกสั่งไว้อสูรทางบกได้เกือบครบแล้ว จะเหลือก็แต่ผู้ที่ทำให้เกาะนี้กลายเป็นเกาะแห่งความตายชายร่างใหญ่พึมพำพร้อมกับไปมองอาหมวยร้านอาหารซึ่งมองมาทางนี้ตาค้าง ที่เห็นว่าคนไม่ได้เรื่องที่ตามหลีเธอมาทุกวันจะกลายเป็นหัวหน้ากิลด์สเลเยอร์ไปได้

    เมื่อถูกมองจากผู้หญิงที่ชอบ แซกค์ก็รีบยืดพร้อมกับโชว์พาวความเป็นหัวหน้าใหญ่ ด้วยการเกณฑ์พวกผู้เล่นที่เก่งๆตามตนไป โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ถ้ำแห่งความตายจุดพำนักของเมดูซ่า พวกเขาหาจุดอ่อนของเมดูซ่าได้แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะไปต่อกรด้วยได้ แต่ทว่า การหาผู้ที่มีใจกล้าหาญต่างหากที่ยาก เนื่องจากคำสาปของเมดูซ่านั้นค่อนข้างเป็นที่กล่าวขานว่าฆ่าได้แม้กระทั่งเทพเจ้า จึงจำเป็นต้องมีผู้นำที่ห้าวหาญแบบเขา

    พี่ใหญ่ไปแล้วพวกเราจะเอายังไงดีน้องเล็กที่ร่วมกันสร้างกิลด์หันมาปรึกษากันเบาๆคล้อยหลังที่พวกแซกค์พากันหายออกไปหมดแล้ว

    ต้องรอดูเท่านั้นว่าจะได้กลับมาจริงๆหรือเปล่า แต่ถ้าได้จริงๆก็คงจะดีน้องเล็กสุดกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียว

    อืม ภาวนาให้ได้อสูรเมดูซ่ากลับมาทีเถอะน้องกลางว่าจบก็เปิดช่องสื่อสารของกิลด์ที่แซกค์ไม่มี เนื่องจากเป็นเพียงโปรดิวเซอร์ ส่วนข่าวที่ทำให้ 2 พี่น้องแห่งกิลด์ต้องหน้าซีดก็คือ ข่าวกองเรือที่ออกไปล่าอสูรทางทะเลถูกบุกโจมตี จริงๆแล้วข่าวนี้ไม่น่าตกใจเท่าไหร่ เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของเกม ที่ตอนนี้กำลังไล่ควาญหาอำนาจเพื่อนำมาเสริมให้ตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายก่อนที่เกมกีฬาโอลิมปิกจะเปิดฉากขึ้น ซึ่งก็คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกที่อยากได้อำนาจบ้าง

    แต่ทว่า ข่าวที่ได้รับตอนล่าสุดนั่นแหละที่ทำให้พวกเขาพากันเสียวไส้ ว่าไปขวางทางเทพเจ้าอะไรไว้หรือเปล่า เมื่อกองเรือรายงานกลับมาว่าถูกบุรุษลึกลับบุกเข้าโจมในตอนที่ล่าอสูร และกองเรือทั้งหมดก็อับปางลงภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×