คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #50 : ตอนที่ 50 นำอำนาจกลับคืนมา
ส่วนร็อคที่ได้ยินดังนั้นก็รู้แล้วว่าไทรทันจะใช้กฎอะไรกับเขาในตอนนี้
“ด้วยกฎแห่งท้องทะเล ตามสัญญาที่ให้ไว้ในตอนรับพลังของท่านจ้าวแห่งท้องทะเลโพไซดอน ผู้เล่นที่ได้รับพลังจะไม่สังหารอสูรท้องทะเลตัวใดๆ ที่อยู่ภายใต้อาณัติของท่านโพไซดอนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”ไทรทันและร็อคพูดขึ้นพร้อมกัน ขณะที่ผู้เล่นหนุ่มที่ทำผิดกฎก็ได้แต่หน้าซีดลงเรื่อยๆ เมื่อไม่คิดว่าเรื่องจะจบลงโดยบิดาแห่งมวลเงือกเอง ทั้งๆที่คิดว่าถ้ายึดอำนาจของเทรนท์ได้ตนก็จะกลับไปบำเพ็ญอำนาจอีกแท้ๆ
“โอ้ จำกฎได้ด้วยเหรอครับ”ไทรทันหันไปพูดกับร็อคที่ยืนอยู่เหนือผืนน้ำ ขณะที่เฟตปรายตามองร็อคอย่างแปลกใจที่คนอย่างหมอนี่เหงื่อออก แถมยังมีท่าทีกะวนกะวายอีก
ร็อคยืนเงียบไม่สนใจคำของไทรทัน เขากำลังป้อนคำขอความช่วยเหลือในหน้าต่างระบบของสมาคม แม้มันจะเป็นการเสียหน้าที่หัวหน้า 1 ใน 3 กิลด์หลักของสมาคมขอความช่วยเหลือก็เถอะ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้คงไม่ดีแน่
เปรี้ยง!!! เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับที่มือข้างที่เขียนป้อนคำขอความช่วยเหลือขาดกระเด็นไป
“อ้ากกกก!!!! แก”ร็อคร้องลั่น ก่อนจะมองมือของเฟตที่ถือปืนสั้นมาอยู่ แม้จะมีคนล้อมหน้าหลัง แต่ไอ้หมอนี่ยังเสือกได้ทุกเรื่องจริงๆ
“ขอบคุณนะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณจะทำอะไรนะ แต่ตอนนี้ กฎที่คุณเคยให้ไว้ ได้เวลาชำระแล้ว”ไทรทันกล่าวขอบคุณเฟตแล้วหันมาพูดกับร็อคต่อ
“ไม่ยอมง่ายๆหรอก”ร็อคตะโกนลั่น ขณะดึงพลังทั้งหมดผนึกใส่ร่าง พอออร่าก่อตัว ร็อคก็ควบคุมน้ำที่อยู่รอบตัวให้มีความสูงกว่า 5 เมตร
“ตาย”ร็อคตวาดแล้วสะบัดพลังออกไป
คลื่นน้ำของร็อคขยายความสูงขึ้นตามน้ำที่ไหลผ่าน พอได้ระยะ 5 เมตรมันก็มีความสูงไม่ต่ำกว่า 25 เมตรแล้ว
“โห ได้พลังของท่านพ่อได้ไม่นาน ใช้ได้ถึงขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย แต่ว่านะ ลืมไปหรือเปล่าว่าผมเป็นใคร”ไทรทันพูดจบก็คว้ามือที่กลางอากาศ ส่งผลให้ตรีศูนย์โผล่ขึ้นมา ก่อนจะคว้าสังข์ขึ้นมาเป้าที่ก้นหอย จนเกิดเสียงดังไปทั่ว เสียงที่เกิดขึ้นส่งผลให้คลื่นยักษ์ที่มีความสูงกว่า 100 เมตร สงบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
พอคลื่นสงบลง ไทรทันก็เข้าไปใกล้ร็อคที่ยืนอยู่กลางทะเล แต่พอไทรทันเข้าไปถึง ร็อคก็หวดหอกเข้าใส่ทันที เงือกหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็สะบัดน้ำในมือเข้าใส่ ส่งผลให้ทั้งร็อคและหอกก็กระเด็นไปหลายเมตร
ไทรทันเห็นร็อคกระเด็นไปก็ถอนหายใจที่ชายคนนี้มาถึงจุดที่ตกต่ำที่สุดแล้ว แต่เมื่อเขาหันไปมองมนุษย์อีกคนที่มีความสามารถและผู้สนับสนุนมากกว่า ก็ฉีกยิ้ม ก่อนจะใช้มือดันตัว เปลี่ยนหางให้กลายเป็นขา เดินบนน้ำได้แบบที่ร็อคทำ ซึ่งเขาก็เดินเข้าไปหาผู้เล่นหนุ่มช้าๆ
ร็อครีบยืนขึ้นมาเมื่อเห็นตัวอันตรายเข้ามาหา แต่ว่า เขากลับโดนพวกอสูรเงือกใช้หอกง้ามแทงเข้ามา ตนจึงใช้แขนยึดหอกไว้แล้วใช้กำลังงัดดึงขึ้นมา พอเงือกโผล่พ้นน้ำ พวกอสูรก็จะอ่อนแอลง ร็อคเลยใช้มือที่เสริมพลังจนเกิดออร่าเสียบแทงเข้าไปที่หน้าอกทะลุไปอีกด้านพร้อมกับเอาหัวใจออกมาด้วย
เงือกสาวกรีดร้องลั่นเพียงไม่นานก็เงียบหายไปพร้อมกับความตาย ร็อคจึงรีบสะบัดเงือกตัวนั้นทิ้งแล้วหันไปหาทางหนีต่อ
“ฆ่าราชาเงือกไปแล้ว ยังกล้าฆ่าเงือกตัวอื่นๆอีกรึ”ไรทันพูดเสียงราบเรียบไร้ความอ่อนโยนเหมือนเคย
น้ำที่อยู่โดยรอบตัวร็อคขยับดุจมีชีวิต พอร็อคถอยไปเหยียบ น้ำก็กระขยับตัวขึ้นมาล็อคขาเอาไว้ภายใน ร็อคที่โดนผนึกนั้นรีดเร้นพลังทั้งหมดจนเลือดออก พอได้พลังมาร็อคก็จัดการสลายสายน้ำที่ล็อคขาไว้ออกไป
ยังไม่ทันที่ร็อคจะได้ดีใจ น้ำที่ถูกสั่งด้วยอำนาจของไทรทันก็ขยับเข้ามาผนึกขาของร็อคต่อ ทำให้ชายหนุ่มทำหน้าเครียด ที่ตนไม่เหลือทางรอดอะไรแล้ว
ไทรทันเห็นศัตรูหมดกำลังก็เดินมาหยุดอยู่หน้าร็อค แล้วยื่นมือเข้าไปที่ใบหน้าเพื่อจะทำการอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่มือของบิดาแห่งเงือกจะเข้ามาถึง ร็อคก็ต่อยหมัดตรงเข้าสู่ใบหน้าของไทรทันซะก่อน หมัดของชายหนุ่มพุ่งตรงเข้าสู่ใบหน้าของบิดาแห่งเงือกอย่างรวดเร็ว แต่ไทรทันกลับเอียงคอหลบเล็กน้อย ส่งผลให้หมัดของศัตรูหวดลมไปโดยปริยาย
“หมาจนตรอก มันมักจะกัดไม่เลือกหน้าสินะ”ไทรทันพูดเสียงเรียบก่อนที่น้ำภายใต้อำนาจจะมาผนึกมือของร็อคเอาไว้
ไทรทนควบคุมน้ำให้ยกร็อคขึ้น พอได้ระยะที่ต้องการไทรทันก็เดินเข้าไปหาอีกครั้งโดยเอื้อมมือไปที่ศีรษะของร็อค พอมือของไทรทันจับที่กลางกระหม่อม บิดาแห่งเงือกก็เอ่ยคำทันที
“ในนามแห่งบิดาของมวลเงือก ข้าไทรทันขอยึดอำนาจตามกฎที่เคยจารึกไว้”
“กฎข้อแรก เขาผู้นี้ทำการสังหารอสูรที่อยู่ในสายเผ่าเดียวกัน ซึ่งผิดกฎที่ห้ามฆ่าพรรคพวกหรือพวกพ้อง”(สังหารราชาเงือกเพื่อยึดอำนาจให้สามารถควบคุมเงือกได้)
“กฎข้อที่สอง เขาผู้นี้ยึดเขตปกครองของพวกเดียวกัน”(ร็อคยึดเขตปกครองจากเงือกให้มาเป็นของตัวเอง)
“กฎข้อที่สาม เขาทำให้จ้าวแห่งท้องทะเลต้องสูญเสียอำนาจไป”(ตอนที่โพไซดอนแพ้จอร์มุนการ์ด เพราะการอัญเชิญที่นอกรีต ทำให้โพไซดอนต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอีกครั้ง แม้เทพจะไม่ตายโดยตรง แต่การเสียเศษส่วนวิญญาณก็มีผลต่อร่างจริงเหมือนกัน)
ที่มือของไทรทันและที่กลางหัวของร็อคปรากฏสัญลักษณ์แบบลายสายน้ำเหมือนกัน สัญลักษณ์ที่อยู่บนหัวร็อคเป็นตัวดูดอำนาจของเทพชั้นสูงออกมา ส่วนที่อยู่ในมือของไทรทันเป็นตัวยึดอำนาจให้กลับมาอยู่ในมือ
“อ้ากกก”ร็อคตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวดขณะถูกดูดอำนาจแห่งเทพชั้นสูงออกไป ถ้าเป็นตอนรับพลังมันจะรู้สึกดี แต่ถ้าถูกขับไล่อำนาจแบบที่เขาโดนในขณะนี้ มันจะให้ผลลับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ผมสีทองแบบเทพของร็อคเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนกับผมปกติของมนุษย์ทั่วไป นอกจากจะยึดอำนาจคืนแล้ว ยังถูกขับไล่ให้ออกจากเผ่าเทพอีกด้วย โดยในมือของไทรทันมีก้อนพลังกลมๆ สีทองแกมน้ำเงินลอยอยู่
เงือกหนุ่มปล่อยพลังในมือให้ลอยอยู่ข้างหน้าตน ก่อนจะถอยออกมา พอได้ระยะแล้ว ไทรทันก็ส่งพลังเข้าใส่บอลพลังตรงหน้า ซึ่งพลังของเทพโพไซดอนก็ตอบสนองต่อพลังที่ส่งมา เพราะเป็นพลังที่มี DNA ถัดกันไปหนึ่งขั้น (ระดับพ่อลูก)
พลังสีทองค่อยๆสลายเป็นไอลอยไปในอากาศ ซึ่งมีพลังสีน้ำเงินของไทรทันคอยคุ้มกันไปด้วย หลังจากพลังลอยอยู่เหนือพื้นน้ำได้ 10 เมตร พลังทั้ง 2 ก็สลายหายไปในพริบตา
“แฮ่ก แฮ่ก”ร็อคที่ถูกผนึกอยู่กลางอากาศหอบอย่างเจ็บปวด ขณะเงยหน้าขึ้นมาด้วยความลำบาก ก่อนจะกล่าอาฆาตคนที่ยึดพลังอันสุดแสนจะหายากไป
“แก”
“การจะเข้าไปเผ่าอสูรใดๆ ไม่เผ่าใดก็เผ่าหนึ่ง คุณรู้แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าควรจะช่วยกันปกป้องพวกเขาที่อ่อนแอ แต่นี่คุณกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นการสังหารเพื่อยึดอำนาจ การสั่งให้พวกเขาไปต่อสู้แทนตัว นั่นคือสิ่งที่ผิด การที่ผมยึดอำนาจคุณนั้นผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว”ไทรทันเอ่ยเสียงเรียบขณะปลดพลังออก จนร็อคจมน้ำหายไปเพราะไม่มีอำนาจเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ไทรทันยืนมองร็อคที่จมอยู่ใต้เท้าด้วยสายตาเสียดาย เขาอยากจะฆ่ามนุษย์คนนี้ด้วยมือตัวเอง แต่ก็ไม่อาจทำได้ เพราะชายคนนี้ไม่ได้มาหาเรื่องเขาโดยตรง แม้ว่าจะสังหารลูกหลานของเขาเองก็เถอะ
“พาเขาไปที่ชายฝั่งตรงนั้นทีครับ”เงือกหนุ่มเอ่ยปากกับลูกหลานของตนที่ว่ายน้ำวนเวียนอยู่โดยรอบ
อสูรเงือกเมื่อได้รับคำขอก็รีบกระวีกระวาดว่ายเข้ามาหิ้วปีกร็อค แล้วพาไปเข้าฝั่ง โดยพวกเฟตนั้นหนีเข้าไปก่อนแล้ว เพราะบัลลังก์น้ำที่ร็อคสร้างหมดอำนาจตามผู้เป็นนายไป
เฟตยืนมองเงือกที่ลากร็อคเข้าฝั่งมาด้วยสายตาเรียบเฉยเหมือนเดิม
“ช่วยสังหารเขาแทนผมทีครับ”ไทรทันที่เดินตามมาถึงเอ่ยกับเฟตอย่างนอบน้อมตามสไตล์ปกติ
“ทำไมคุณไม่ฆ่าเขาเองล่ะ ไหนๆคุณก็ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้แล้ว”ชายหนุ่มย้อนถามกลับอย่างไม่เข้าใจ ทำถึงขนาดนี้แล้ว ชำเราไปเลยประไร
“กฎของโลกนี้น่ะครับ ถ้าเกิดพวกคุณไม่ใช่ผู้รุกราน ผมก็ไม่อาจจะสังหารพวกคุณได้ ยกเว้นในกรณีนี้ครับ พอดีว่าผมเป็นบิดาของเหล่าเงือกทั้งปวงในทวีปนี้ ผมเลยมีสิทธิ์ที่จะแก้แค้นให้กับลูกหลานระดับราชาเงือกทั้ง 2 ตน ที่ตายไปตอนที่เขาคนนี้แย่งชิงอำนาจในการปกครองเขตเผ่าน่ะครับ”ไทรทันอธิบายให้ฟัง แต่สายตากลับมองไปยังอสูรของเฟตที่อยู่ด้านหลัง
เฟตได้ยินคำอธิบายเลยพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันมามองสภาพของร็อคที่นอนหายใจรวยรินจะตายแหล่ไม่ตายแหล่
“ถ้าจะให้ดีคุณควรสังหารเขาแบบครึ่งบกครึ่งน้ำนะครับ”ไทรทันเอ่ยออกมาก่อน ส่งผลให้เฟตต้องหันมามองด้วยความสงสัย
“ผมหมายความว่า ควรจะให้ท่อนใดท่อนหนึ่งของเขาติดอยู่กับน้ำ ส่วนอีกด้านติดอยู่กับเขตป่าอาถรรพ์น่ะครับ”ไทรทันอธิบายเล็กน้อย
“ถ้าเกิดนายฆ่าหมอนี่ได้ ภายในเขตที่เขาปกครองล่ะก็ อำนาจของคนๆนี้ จะถูกโอนสิทธิ์มายังผู้ที่สังหารผู้นำแห่งเขตนั้นๆได้ ก็เหมือนกับที่หมอนี่สังหารราชาเงือกเพื่อให้ได้เขตปกครองนั่นล่ะ พวกผู้เล่นแบบพวกนายก็ใช้สิทธิ์ที่ไม่ต่างกับพวกเรานักหรอก”ลีเวียธานอธิบายเสริม เพราะเธอรู้ว่า เฟตทึ่มกว่าที่เห็นมากนัก
ถึงจริงๆแล้ว จะมีเรื่องการทำลายสัญลักษณ์เพื่อยึดอำนาจการปกครองอีกอย่าง แต่นั่นค่อยว่ากันทีหลังก็แล้วกัน
“อ้อ ผมฆ่าเขาไม่ได้อ่ะ”เฟตตอบหน้าตาย แม้ตอนปกติร็อคจะกวนตีนได้จนน่าถีบ แต่สภาพที่เห็นในตอนนี้ไม่หลงเหลือคำว่ามาดคุณชายอยู่เลย หากเขาฆ่ามันทิ้งไปในตอนนี้ ความสนุกมันจะอยู่ตรงไหนล่ะ
“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ คุณแค่กดไอ้สิ่งที่อยู่ตรงนิ้ว (ไกปืน) เขาก็คงจะตายเหมือนกับที่คุณยิงมือของเขาทิ้งแน่ๆ”ไทรทันรีบเอ่ย
“ใช่แล้ว ขอแค่นายสังหารหมอนี่ได้ นายก็จะได้สิทธิ์ผู้นำในการปกครองป่าอาถรรพ์ผู้นำแห่งเผ่าดรายแอดส์ภูติสาวเลยนะ”ลีเวียธานอธิบายเสริมขณะที่สาวๆอีก 3 คนเพียงรับฟังเงียบๆปล่อยให้เฟตตัดสินใจเอาเอง
“อำนาจเหรอ มันสนุกตรงไหนกัน กับการมีอำนาจ อีกอย่าง ยิงคนไม่มีทางสู้น่ะ มันไม่สนุกหรอก ถ้าอยากฆ่าต้องให้หมอนี่วิ่งหนีได้ ผมถึงจะไล่ยิง”เฟตส่ายหน้าไม่ยอมทำตามคำที่ต้องการของ 2 อสูร แต่คนที่นอนฟังชะตากรรมของตัวเองอยู่ได้แต่ลอบปาดเหงื่อ นี่ถ้าเขาเหลือแรงไอ้หมอนี่จะวิ่งไล่ยิงเขาจริงๆเหรอเนี่ย
กึก! เสียงกำหมัดของไทรทันดังลั่นทำให้เฟตต้องหันไปมองด้วยสายตาสงสัย สงสัยว่าชายคนนี้คงจะเป็นลูกคุณหนูมากๆเลย แค่ขัดใจแค่นี้ก็อารมณ์ขึ้นแล้ว
“หรือแกจะเอา ไอ้หนู”อนาตาเซียที่อยู่ข้างหลังกล่าวเสียงเย็นชา ไทรทันเป็นลูกคุณหนู เวลาถูกขัดใจมักอารมณ์เสียแบบนี้ล่ะ
“ท่านแม่อย่าว่าอย่างนั้นสิครับ ผมไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย”ไทรทันหัวเราะกลบเกลื่อน แต่สายตายังแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจ
“ใครที่เป็นจ้าวแห่งป่าแห่งนี้ กรุณาออกมาหน่อยครับ”ไทรทันเดินไปที่ชายป่าแล้วตะโกนเข้าไปด้วยเสียงอันดังก่อง หลังจากนั้นไม่นาน ป่าทั้งป่าก็สั่นไหวอย่างรุนแรงเพราะเสียงๆนี้คือผู้ทำร้ายนายของพวกมัน
‘อสูรทรีบากส์ เลเวล 100 ค่ะ’เสียงระบบรายงานพร้อมกับที่ต้นไม้ที่อยู่ร่ายล้อมชายหาดขยับตัวหันมาทางกลุ่มของเฟตเป็นทิศทางเดียวกัน
‘ศัตรูเจ้านายข้า สมควรตาย’เสียงอสูรดังต่อกันมาเป็นทอดๆ ด้วยตอนนี้ร็อคยังมีอำนาจเป็นจ้าวแห่งพรายสาวดรายแอดส์อยู่ จึงยังมีผลต่ออสูรทั่วทั้งป่า แล้วยิ่งไทรทันทำให้ร็อคบาดเจ็บปางตายอสูรพวกนี้เลยเหมาให้กลุ่มของเฟตเป็นศัตรูไปด้วย
“ไอ้หนุ่ม สังหารหมอนั่นเร็ว ถ้ายังไม่อยากโดนรุมด้วยพวกนางพรายที่บ้าคลั่ง”ต้นไม้ยักษ์ที่ไม่ได้ขยับตัวร่วมกับต้นไม่อื่นร้องบอกอย่างตื่นตระหนก ซึ่งเฟตก็รู้ว่าเป็นเทรนท์ อดีตจ้าวแห่งป่านี้
ไทรทันเมื่อเห็นผลลับที่ตนสร้างมาก็ยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินกลับลงทะเล แปลงส่วนล่างเป็นปลาแล้วว่ายน้ำพากลุ่มอสูรเงือกของตนหายไปอย่างรวดเร็ว ในเมื่อเฟตไม่ทำตามที่เขาบอก เขาก็ไม่จำเป็นต้องญาติดีด้วย แล้วอีกอย่างการทำแบบนี้ก็เป็นการบังคับให้เดินตามที่เขาต้องการแล้วด้วย
“เชอะ ไอ้เงือกน้อยนั่น ทำกันได้”อนาตาเซียพึมพำด้วยความเซ็ง หาเรื่องปวดหัวมาให้จนได้ซินะ
“เหลือทางเลือกเดียวแล้วสินะ”เฟตที่หันไปเห็นหน้าบรรดาอสูรตัวเองจำใจต้องพยักหน้าให้กับความคิดตัวเอง ก่อนจะแบกตัวร็อคขึ้นหลัง แล้วไปโยนให้ตกตรงหน้าต้นไม้ยักษ์ที่เทรนท์อาศัยอยู่
“อะไร”เทรนท์ถามอย่างไม่เข้าใจเอามาวางไว้ทำไมที่ด้านหน้าเขาล่ะเนี่ย
“ดูเอาเอง”เฟตตอบแล้วชี้มือไปข้างหลัง ซึ่งอดีตจ้าวป่าก็หันไปมองตาม แล้วเขาก็พบว่าลูกหลานต่างหันเป้าหมายมาที่เขาแทนที่จะเป็นกลุ่มของเฟตแล้วทั้งสิ้น เนื่องจากในสถานะคลั่ง ใครอยู่ใกล้ราชาที่สุด จะถูกเหมารวมหมด
เทรนท์เหงื่อออกเมื่อเห็นแบบนั้น หลังวิเคราะห์แล้วพบว่าตัวเองไม่เหลือทางเลือก ตน ก็ใช้รากไม้ตรึงแขนและขาของร็อคไว้ แล้วยกตัวร็อคไปยังด้านในป่า จากนั้นก็ .....(ไม่ขอบรรยาย เนื่องจากความอนาถจะมากเกินไป)
“อ้ากกกก”เสียงของร็อคที่ถูกกระชากร่างกายออกเป็นชิ้นๆ ดังลั่นไปทั่วป่า ส่งผลให้เฟตที่รอฟังอยู่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ แม้เขาจะไม่ได้ฆ่า แต่เสียงโหยหวนนี้ก็น่าพอใจดีเหมือนกัน
“เรียบร้อย”เสียงของเทรนท์ดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากจัดการทารุณกรรมร็อคจนสลายเป็นแสงเพื่อกลับไปเกิดใหม่เรียบร้อยแล้ว
เฟตได้ยินดังนั้นก็หันกลับมาดูแล้วพบว่าเทรนท์เดินออกมาจากต้นไม้ในร่างมนุษย์ส่วนอสูรทรีบากส์นับร้อยที่บ้าคลั่งเมื่อสักครู่ก็กลับมาอยู่ในร่างพรายสาวที่งดงาม ยืนเรียงรายเป็นแถวให้ ซึ่งมีพรายสาวส่วนหนึ่งกำลังเก็บกวาดเศษเลือดของร็อคที่เปรอะเปื้อนตามต้นไม้ใบหญ้า ที่เกิดจากร่างกายฉีกขาดไปคนละทิศทางตามแรงดึงของรากไม้
“ทำไมเจ้าไม่ฆ่าไอ้หมอนั่น ฆ่าเจ้าฆ่ามัน อำนาจการปกครองทั้งหมดจะตกเป็นของแกเชียวนะ ไอ้หนุ่ม”เทรนท์ถามด้วยความไม่เข้าใจ กฎการแย่งชิงอำนาจก็มีบอกกันอยู่แล้ว ไหงถึงไม่ทำล่ะ
“ไม่สนุก น่าเบื่อ และน่ารำคาญ”เฟตตอบหน้าตาย และไม่คิดจะอธิบายด้วยว่าหมายความว่ายังไง ทว่า อสูรของเขากลับเข้าใจความหมายดี ไม่สนุก ก็เท่ากับการสังหารคนไม่มีทางสู้มันสนุกตรงไหน น่าเบื่อคือ ความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ส่วนน่ารำคาญ ก็คาดว่าน่าจะเป็นกรณีขึ้นปกครองแล้ว ซึ่งเฟตไม่ชอบเรื่องความเป็นใหญ่ที่สุดแล้ว เนื่องจากคิดมากเกิน
“จะกลับแล้วเหรอ”เทรนท์เห็นพวกเฟตกำลังกางปีกจะบินออกจากป่าก็ถามออกมา
“กำลังจะไปตกปลาล่ะมั้ง ถามได้”เฟตตอบกลับด้วยความรำคาญเห็นๆกันอยู่
“จะไปก็ไปเลย”เทรนท์ไล่ด้วยความโมโห แม้เฟตจะช่วยให้เขาจัดการร็อคได้ง่ายดายในยามไร้พลัง แต่ไอ้หมอนี่ก็กวนเขาตั้งแต่คุยกันครั้งแรกจริงๆ
เฟตได้ยินเทรนท์ไล่ก็ฉีกยิ้มอย่างเย็นชาตามสไตล์ ก่อนจะเดินไปหาลีเวียธานที่ทำหน้าเอ๋อ
“ว้าย”อสูรสาวที่โดนอุ้มขึ้นมาร้องอย่างตกใจ เฟตเล่นโอบเธอขึ้นมาไม่ทันให้ตั้งตัวเลย
“ไปกันเถอะครับจาเนีย ส่วนเวีย อย่าดิ้นล่ะเดี๋ยวตกลงไป จะเจ็บนะ”เฟตหันไปกล่าวกับเอลฟ์สาวกับคนในอ้อมแขน ส่วนพวกอนาตาเซียก็สลายกลับเข้าไปในตัวผู้เป็นนายกันหมด เพื่อให้ชายหนุ่มเคลื่อนที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น
เทรนท์เห็นคณะของเฟตบินกลับไปแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยมนุษย์คนนี้ก็ยังอุตส่าห์ช่วยเขาล่ะนะ ถึงจะดูไร้สาระไปหน่อยก็เหอะ
ในขณะที่จ้าวแห่งป่ากำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ขาของเขาก็พามาถึงใจกลางป่าลึกพอดี
“มันเกิดอะไรขึ้นกับป่าของฉานนนนนน”เทรนร้องลั่นเมื่อเห็นว่าใจกลางป่าที่พวกตนเคยพักอาศัยเหลือแต่พื้นที่โล่งกว้าง ที่เกิดจากพลังของแมมมอน
และแล้วเทรนท์ก็เข้าใจความหมายของเฟต เมื่ออาถรรพ์ของป่าหายไป พวกเขาก็ต้องร่วมกันร่ายเวทกันใหม่ แต่ยังไม่ทันจะทำพิธีได้สำเร็จ พวกผู้เล่นทั่วๆไปก็พากันเข้ามาทัวร์พื้นที่ ส่วนมากก็จะมาล่าอสูรทรีบากส์ ซึ่งพวกเทรนท์ก็ต้องร่วมมือกันขับไล่ ทว่า ด้วยจำนวนผู้เล่นที่มีมากถึงหลักหมื่น กว่าจะทำได้สำเร็จ ก็ผ่านไปหลายอาทิตย์เลยทีเดียว
หลังจากบินเหนือผืนป่า กลุ่มของเฟตก็มุ่งหน้าไปทางทุ่งโล่งทันที
“ทำไมนายไม่ยึดอำนาจนั้นมาเองนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”ลีเวียธานที่อยู่ในมือของเฟตพึมพำมาตลอดทางอย่างเสียดาย ทั้งๆที่เธออุตส่าห์พนันกับเทรนท์ไว้แล้ว ถ้าเกิดเฟตฆ่าร็อคได้ เฟตจะได้อำนาจ (ค่าประสบการณ์) ทั้งหมดของเทรนท์มาเป็นของตัวเอง
“ดูตรงนั้นสิครับ”เฟตที่ฟังการโดนบ่นมานานกล่าวขึ้นเบาๆ แล้วพยักหน้าให้ลีเวียธานมองไปข้างล่าง
“อึ๊ย”ลีเวียธานร้องเบาๆแล้วเกาะเฟตแน่นขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากตนกลัวความสูง
“....”เฟตเห็นสภาพของลีเวียธานก็พูดไม่ออก ใครมันจะไปนึกว่ามังกรแห่งทะเลที่มีความสูงในร่างปกติกว่า 100 เมตร จะมากลัวกับความสูงธรรมดาๆ เวลาอยู่ในร่างมนุษย์กันล่ะ
เฟตเลยกระชับมือให้แน่นขึ้นแล้วบอกให้ลีเวียธานมองลงไปใหม่อีกครั้ง
“เอ๋ ทำไมพวกมันถึงมากันเยอะแยะแบบนั้น”อสูรสาวเห็นผู้เล่นนับพันกำลังทยอยเข้าป่ามาก็อุทานอย่างแปลกใจ
“น่าจะเป็นเพราะสิ่งที่ปิดป่าไว้ หายไปแล้วก็ได้นะครับ พวกเขาเลยอยากรู้จักป่าที่ขึ้นชื่อว่ามีอาถรรพ์”ชายหนุ่มตอบคำถามอย่างมีหลักการ ทำให้ลีเวียธานต้องเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ ที่เฟตมีความคิดกับเขาด้วย
ลีเวียธานละสายตาจากชายหนุ่มก่อนจะหันไปมองพื้นป่าด้านล่างต่อด้วยสายตาที่หลากหลายความรู้สึก ในอดีตเธอเคยริษยาผู้คนที่สามารถอยู่บนบกได้ แต่ตอนนี้เธออยู่ได้ทั้งบนบกและบนอากาศแล้ว จึงทำให้เธอรู้สึกปล่อยวางยังไงไม่รู้ แถมยังได้มาอยู่กับมนุษย์ประหลาดที่ไม่ได้คิดจะใช้เธอเป็นอาวุธหรือตัวแทนอสูรอีก คิดได้เช่นนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับเฟตอย่างอ่อนโยนเป็นครั้งแรก
“หืม”เฟตรู้สึกเหมือนถูกจ้องก็ก้มหน้าลงไปมอง แล้วพบว่าลีเวียธานกำลังยิ้มให้ตนอย่างงดงาม ชายหนุ่มถึงกับทำหน้าเอ๋อเลยทีเดียว
ลีเวียธานเห็นเฟตทำหน้าซื่อบื้อก็หัวเราะออกมา แต่พอคิดไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านๆมาก็หุบยิ้ม เปลี่ยนเป็นยื่นมือเข้าไปหยิกหน้านั้นแทน
“ไอ้คนเจ้าชู้ ไอ้คนชีกอ ไอ้คนฉวยโอกาส นายแย่งสิ่งสำคัญฉันไปหมดเลย”ลีเวียธานว่า แม้ชายคนนี้จะไม่ใช้เธอเป็นอาวุธ แต่ก็ดันมาใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบายความหื่นซะงั้น คิดแล้วแค้นแหะ
“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ ผมยังไม่ได้จูบเลยนะ”เฟตร้องว่าขณะบังคับปีกให้บินไปตรงๆทาง เขายังไม่ชำนาญถึงขั้นพาคนโดยสารมาด้วยซะหน่อย แกล้งกันแบบนี้เดี๋ยวก็พาเที่ยวนรกเจ็ดวันอันตรายซะเลยนี่
“ยังไม่กลับเหรอครับ อ้อ สงสัยมาด้วยกันต้องกลับด้วยกันซินะ”เฟตที่พึ่งลงจอด ร้องถามผู้เล่นหญิงที่ขอตัวออกมาก่อนหน้านี้ เขาพาลีเวียธานบินวนบริเวณนี้จนจำได้ว่า พวกเทียร่านั่งมองเขาอยู่ที่ตรงนี้มานานมากแล้ว
“กลับไปพักกันเถอะค่ะ ตอนนี้เลือดพี่เฟตลดไปตั้งครึ่งหนึ่งแล้ว”แฟร์ที่อยู่ในปาร์ตี้เดียวกับเฟตเสนอออกมา เมื่อชายคนนี้ลุยด่านบอสอยู่คนเดียว ก็ไม่แปลกที่เลือดตรงหน้าต่างระบบจะแจ้งว่าเฟตอยู่ในขั้นอันตราย ควรได้พักผ่อน
“ก็ดีนะครับ ว่าแต่จะเดินกลับกันเหรอ”เฟตเห็นด้วยทันที เพราะรู้สึกอ่อนเพลียยังไงชอบกล
“ถ้าเดินก็คงจะนานเลยล่ะ แล้วดูนายท่าจะเหนื่อยจนล้มไปซะก่อน อือ ปกติมันจะต้องมีคนมาตั้งโต๊ะขายตั๋วพาหนะไม่ใช่เหรอเนี่ย”เทียร่าตอบเหมือนบ่น จนกลุ่มของเธอหันมามองด้วยความแปลกใจ
“ไปด้วยไอ้นั่นดีกว่าไหม”พรอมที่เงียบมานานแนะนำขึ้น ก่อนจะชี้นิ้วไปที่กลางทุ่งโล่ง ซึ่งมีโต๊ะยาวตั้งอยู่ โดยมีหญิงสาวนั่งประจำที่นั่งอยู่หนึ่งคน รอบๆโต๊ะตัวนั้นก็มีผู้เล่นหลายคนล้อมอยู่เหมือนกัน
“อะไรเหรอครับ”
‘ขายตั๋วพาหนะ ไป-กลับ’นั่นคือข้อความที่สามารถอ่านได้จากป้ายที่ติดอยู่ตรงโต๊ะ ในขณะที่คนรอบข้างก็เอาแต่ซุบซิบก่อนจะหันมามองเฟตสลับกับจาเนียที่ตามติดผู้เป็นนายไม่ห่าง
“สนใจเดินทางกับสมาคมเราเหรอคะ”หญิงสาวที่นั่งเฝ้าโต๊ะอยู่ถามกลุ่มของเฟตด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตามประสาฝ่ายขาย
“ค่ะ ไม่ทราบว่าสายต่อไปจะมาตอนเหรอคะ”แฟร์ยิ้มแย้มถามกลับเช่นกัน คนอัธยาศัยดียังไงก็ต้องยิ้มไว้ก่อน
“สายต่อไปจะมาถึงอีก 2 นาทีค่ะ”หญิงสาวที่ใส่ชุดเหมือนกับตันเรือพูดขึ้นขณะเดินเข้ามาที่โต๊ะขายตั๋ว ผู้เล่นที่ล้อมอยู่ก็พากันเปิดทางให้ เพราะรู้ดีว่าบุคคลผู้นี้เป็นคนกุมอำนาจการขนส่งในขณะนี้
“สวัสดีค่ะ กับตัน”หญิงสาวฝ่ายขายยืนตรงทำความเคารพหญิงสาวที่เข้ามาใหม่ด้วยความรวดเร็ว
“ไม่ทราบว่า อยากจะไปที่ไหนเหรอคะ”หญิงสาวที่ถูกเรียกว่ากับตันหันมาถามเฟตโดยเฉพาะ ซึ่งก็ทำให้ชายหนุ่มเอียงคอมอง นี่เขาไปรู้จักกับเธอเป็นการส่วนตัวที่ไหนเนี่ย จะว่าเขาลืมไปแล้วก็ไม่น่าจะใช้ เพราะอะไรที่มากระตุ้นความทรงจำเกี่ยวกับของนั้นๆ เขาจะจำขึ้นมาได้ทันที ถึงจะไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นก็ตาม
“ก็ กลับไปเมืองเธอเรียมไงครับ”แต่เมื่อถูกถาม จะไม่ตอบก็เสียมารยาทเกิน
“อ่ะ ยานพาหนะมาแล้วนะคะ ถ้าจะไปกรุณาซื้อตั๋วด้วยค่ะ”หญิงสาวฝ่ายขายร้องประกาศบอกเมื่อเห็นอะไรพ้นมาที่ขอบฟ้า ซึ่งพวกเฟตก็เงยหน้ามองตามด้วยความสนใจ เมื่อเห็นว่ามีเงาทาบผ่านตัวไป
ชายหนุ่มมองสิ่งที่กำลังลอยลดระดับลงมาด้วยความสนใจ เมื่อพบว่ามันเป็นบอลลูนขนาดใหญ่ ซึ่งมีผู้โดยสารมาเต็มแบบเต็มอัตรา ส่วนตัวที่ช่วยลดระดับลงมา นั่นก็คือมังกรที่มีขนาดตัวยาวกว่า 5 เมตร โดยบนคอของมันก็มีผู้เล่นขี่อยู่
“โห”เฟตอุทานเบาๆ ด้วยความสนใจ
พนักงานที่นั่งอยู่บนหลังมังกรบังคับให้มังกรขนาด 5 เมตร ล่อนลงจอดด้วยความนิ่มนวล โดยที่บอลลูนก็ลอยตามลงมาช้าๆ พอมังกรเท้าแตะพื้น ฐานบอลลูนก็แตะพื้นที่ลงจอดซึ่งขีดเส้นไว้เป็นตัว H พอดี ซึ่งเฟตรู้สึกได้ว่านี่เป็นการทำงานที่เข้าขาและต้องเชี่ยวชาญแบบสุดๆ
เมื่อบอลลูนลงจอด ประตูที่ล็อคทางเข้าออกบอลลูนไว้ก็ถูกเปิดออกโดยผู้เล่นสายบริการการบินในครั้งนี้
ผู้โดยสารที่เป็นผู้เล่นก็ต่างเดินลงมาจากฐานบอลลูนแล้วมุ่งหน้าไปยังป่าอาถรรพ์กันอย่างรวดเร็ว เพราะข่าวในช่องสื่อสารได้บอกแล้วว่าตอนนี้ป่าไม่มีอาถรรพ์แล้ว เนื่องจากมีผู้เล่นหลายพันคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพบผู้เล่นเดินออกมาได้ตรงๆ ต่างกับในอดีตที่ไม่มีใครเลยที่จะออกมาได้ จึงทำให้ผู้เล่นหลายๆคนอยากจะรู้ว่าความจริงว่าข้างในเป็นอย่างไร
“วันนี้จะกลับเลยเหรอกัปตัน ไม่อยู่ดูสถานการณ์อีกเหรอ”คนควบคุมบอลลูนที่เดินลงมาเป็นคนสุดท้าย ร้องถามหญิงสาวที่เฟตสนทนาด้วยเมื่อสักครู่
“สถานการณ์ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแล้วล่ะ ฉันเลยว่าจะกลับเข้าเมืองดีกว่า อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเก็บเงินผู้เล่นกลุ่มนี้หรอกนะ ถือซะว่าฉันให้พวกเขาติดเข้าเมืองไปด้วย”หญิงสาวที่ถูกเรียกว่ากัปตันตอบ ก่อนจะหันบอกให้คนขายตัวไม่ต้องเก็บเงินพวกเฟต
“ขอบคุณนะครับ”ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณที่หญิงสาวที่ไม่เอาเงินเขา แม้จะยังไม่ตกลงปลงใจจะไปด้วย ซึ่งต่างกับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ขมุบขมิบปากบ่นกัน เมื่อเห็นว่ากลุ่มของเฟตที่ได้ขึ้นฟรี ทั้งๆที่ค่าโดยสารมีราคาแพงถึง 2 เหรียญทองต่อคนแท้ๆ
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่ากัปตันยิ้มรับคำขอบคุณแล้วชักชวนเฟตขึ้นบอลลูน ตอนแรกชายหนุ่มกะจะปฏิเสธเพราะไม่เห็นว่าตนคู่ควรกับมันตรงไหน แต่เมื่อหันไปเห็นจาเนียมีเหงื่อออก ตนก็คาดว่าเธอบินจนเหนื่อย จึงเลือกที่จะไปด้วย โดยมีพวกพรอมตามมาด้วยอย่างมึนงง นี่พวกเธอได้รับอภิสิทธิ์ในข้อหาอะไรล่ะเนี่ย
พอเฟตขึ้นบอลลูนโดยสารมาเขาก็สำรวจพื้นที่ด้วยความสนใจ เพราะข้างในนี้มันกว้างกว่าที่เห็นข้างนอกหลายเท่าตัว ซึ่งในนี้ประกอบไปด้วยเกาอี้แบบที่มีบนรถโดยสารทั่วไป เท่าที่นับดูรู้สึกว่าจะมีถึง 50 ตัวเลยทีเดียว
“กรุณารัดเข็มขัดด้วยนะคะ เวลาเครื่องขึ้น เดี๋ยวจะมีหลุมอากาศ”กัปตันสาวร้องบอกคอยปรับระดับไฟให้แมตกับตอนที่มังกรขึ้นบินพอดี
“เอาเข็มขัดออกได้แล้วค่ะ”กัปตันสาวที่ดูตัววัดระดับเพดานบินร้องบอกผู้เล่นทั้งหมดที่โดยสารมา เมื่อพบว่ามาถึงเพดานบินที่ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมังกรและคนขับแล้ว
“สามัคคีกันดีนะครับ”เฟตเอ่ยชมถึงความพร้อมเพรียงและสามัคคีกันในการขึ้นบิน นี่ถ้าเป็นเขาล่ะก็ ไม่มังกรเดี้ยงคาที่ บอลลูนก็ระเบิดคาทางล่ะนะ
“พวกเราฝึกมาอย่างดีแล้วค่ะ”กัปตันสาวกล่าวจบก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับเฟต โดยผู้เล่นที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ลุกให้เหมือนรู้ตัวดี
“มีอะไรเหรอครับ”เมื่อถูกจ้องมากๆ เฟตเลยถามกลับ เธอมองเขาตั้งแต่ออกมาจากป่าอาถรรพ์แล้ว
“คุณชื่อว่าเฟต หรือเปล่าคะ”กัปตันสาวถามแทนคำตอบ ซึ่งเขาก็พยักหน้าให้
“ว้าย ดีจริงๆเลย ที่ได้พบคุณตัวเป็นๆ”หญิงสาวร้องอย่างดีใจแล้วหันไปเอากระดาษและปากกามายื่นให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
“อะไร!?”เฟตมองกระดาษและปากกาอย่างงงๆ
“ขอลายเซ็นยังไงล่ะคะ ตอนนี้ชื่อเสียงของคุณดังที่สุด ในสมาพันธ์ของผู้เล่นหน้าใหม่เลยนะคะ”กัปตันสาวยิ้มแย้มกล่าว
“หมายความว่าไงเหรอครับ”
“หมายความว่า ชื่อเสียงของคุณตอนนี้ดังไปทั่วภูมิภาคแล้วค่ะ ไม่ว่าจะสมาคมหรือสมาพันธ์ไหนๆ ก็ล้วนแล้วแต่อยากจะได้ตัวคุณไปเข้าร่วมด้วยทั้งสิ้น เห็นว่ากำลังจะไปคุยกับเมืองเริ่มต้น ที่น้องชายคุณเป็นเจ้าเมืองด้วยเลยนะ”หญิงสาวอธิบายให้ฟัง
“ครับ”เฟตรับคำอย่างมึนงง แต่เมื่อเหตุผลฟังดีมีเหตุผล เลยยอบเซ็นให้ สักพักชายหนุ่มก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาถามชื่อคนที่จะรับมอบรายเซ็นนี้ไป
“ฉันชื่อ เจนนีเฟอร์ค่ะ เป็นหัวหน้าสมาพันธ์การคมนาคมส่วนภูมิภาคตะวันออก หรือทวีปตะวันตกกลางค่ะ”กัปตันสาวแนะนำตัว
“เจนนีเฟอร์เหรอครับ”เฟตถามย้ำ
“ค่า ชื่อเจนนีเฟอร์”หญิงสาวพยักหน้าให้อีกครั้ง
“น้องคุณเอริกรู้สึกจะไปเกาะแกะแฟนชาวบ้านมากเกินไปหรือเปล่านะ”ชายที่ขับขี่มังกรพึมพำเบาๆขณะหันไปมองที่บอลลูนเป็นระยะๆ แล้วพบว่าเจนนิเฟอร์น้องสาวของเอริกกำลังเกาะติดเฟตแจเลยทีเดียว แม้เขาจะพอรู้มาว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นผู้เล่นใหม่ที่เก่งที่สุดในพื้นที่นี้ แต่ก็ไม่นึกว่าเธอคนนั้นจะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงขนาดนี้ด้วย แล้วยิ่งอสูรติดตามสองคนที่นั่งมองด้วยแล้ว
จาเนียกับลีเวียธานที่ถูกกล่าวถึงได้แต่มองหน้ากันเล็กน้อย ซึ่งลีเวียธานก็คิดได้อย่างเดียวว่า เฟตถูกผู้หญิงจีบเข้าให้ แต่เอลฟ์สาวกลับคิดว่า
‘จับเข้าฮาเร็มเจ้านายเลย ดีหรือเปล่านะ’แหม อย่าไปเสนอเจ้าเฟตเชียวละ เดี๋ยวเสียงตอบรับจะดีจนน่าตกใจ
หลังจากบอลลูนมาถึงจุดจอดที่นอกเมือง พวกเฟตก็เดินลงมาจากบอลลูนโดยมีเจนนิเฟอร์เป็นผู้นำทางให้ ถึงจะมีใครหลายๆคน เหล่มองตลอดก็ตาม
“คนในเมืองเหลือน้อยดีแหะ”ชายหนุ่มเปรยลอยๆ หลังจากการจราจรดูสะดวกขึ้นเยอะ
“เป็นเพราะผู้เล่นส่วนหนึ่งไปป่าอาถรรพ์ กับอีกส่วนที่ไปทางด้านเหนือของเมืองน่ะค่ะ”เป็นเจนนิเฟอร์ที่อธิบายออกมา ส่งผลให้เฟตต้องหันไปขอบคุณอย่างชายหนุ่มที่เห็นหญิงสาวสวยดี
“คุณเจนนิเฟอร์คะ ไม่ทราบว่าจะไปกับพวกเราด้วยเหรอคะ”เทียร่าถามออกมาลอยๆ ในขณะที่กลุ่มของเธอก็เดินตามกลุ่มของเฟตไม่ห่าง เนื่องจากมีเป้าหมายอยู่ที่ปราสาทว่าการของเมือง เพื่อส่งภารกิจเหมือนกัน
“อ้อ พอดีที่พักของเจนอยู่แถวๆนั้นล่ะค่ะ ท่านผู้นำกลุ่มสตรีที่แข็งแกร่ง”ผู้ถูกถามหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม แต่เทียร่ากลับรู้สึกเหมือนถูกประชดประชันใส่
“แหม รู้ได้ไงคะ ว่ากลุ่มของเราแข็งแกร่ง”กลับเป็นแฟร์ที่สวนแทนเพื่อนออกมา แม้เธอจะอ่อนโยนกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าใครๆก็จะมาดูถูกเพื่อนเธอได้หรอกนะ
“แหมๆ จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะคะ กิลด์อันดับหนึ่งของเมืองๆนี้ ก็มีอยู่กิลด์เดียวนี่นา”เจนนิเฟอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม ซึ่งคราวนี้การประชดกันไปมาก็เกิดขึ้น
“หืม”เฟตถอนหายใจในลำคออย่างเบื่อหน่าย เขาไม่ค่อยชอบการเยาะเย้ยถากถางสักเท่าไหร่ และไอ้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี่ ก็คือสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับเขา ตนจึงทำได้แค่เนียนไปเบียนเบียนจาเนียกับลีเวียธานฆ่าเวลาแก้มือเท่านั้น
กลุ่มเฟตและพวกพรอมเดินทางมาจนถึงหน้าปราสาทของเธอเรียม แล้วพวกหนุ่มสาวก็ต้องแปลกใจ ที่เห็นมนุษย์ (AI) และผู้เล่นหลายคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาเหมือนรออะไรบางอย่างอยู่ที่ด้านหน้าของปราสาท
เจนนิเฟอร์เห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ตนจึงขอตัวลากลับที่พักไปตามที่ได้พูดไว้ แม้จะมีการถากถางกันบ้าง แต่ก็อยู่ในระดับกระชับมิตรสัมพันธ์ล่ะนะ
แฟร์รู้สึกสงสัยถึงความแปลกนี้ จึงเดินเข้าไปถามทหารในกิลด์ตัวเอง ที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในบริเวณนั้น
“มีอะไรกันเหรอคะ”
“พอดี ราชาเธอเรียม ประกาศว่าจะพิพากษา ผู้ที่ทำให้บ้านเมืองต้องเดือดร้อนน่ะครับ แล้วก็เห็นด้วยว่ามันจะเป็นการเปลี่ยนมือผู้ถือครองปราสาทพอดี”ทหารหนุ่มตอบอย่างฉะฉานตามแบบที่ได้รับการฝึกมา
“ว่าไงนะ”เทียร่าที่ได้ยินอุทานแล้วเดินเข้าหน้าปราสาทไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตามไปด้วยเพื่อนฝูงของตน
“อะไรเหรอครับ”เฟตที่ไม่รู้เรื่องของเกมมาก หันไปถามริเรียน่าที่กอดอกใช้มือลูบคางอยู่
“การเปลี่ยนผู้ถือครอง ก็คือการเปลี่ยนผู้นำของเมืองไงล่ะ เท่าที่ฟังและสังเกตจากท่าทาง สงสัยราชาอะไรนั่น น่าจะใกล้ปลดตัวเองแล้วแน่ๆ”หญิงสาวตอบตามที่วิเคราะห์ได้ ซึ่งก็ตรงใจกับเฟตเล็กน้อย
“สงสัยเขาจะโทษว่าตัวเองเป็นคนทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนล่ะมั้ง”ชายหนุ่มคาดเดาตามนิสัยที่ตนสังเกตเห็น เพราะนี่น่าจะเข้าเค้าที่สุดแล้ว
“เหอะ ก็ต้องดูกันอีกที”ริเรียน่าตอบก่อนจะเดินนำไป เฟตที่เห็นเขานำกันไปไกลแล้ว ตนก็เลยรีบเดินตามไปบ้าง เพราะถ้าห่างกันเกิน เดี๋ยวมีหลังทาง หลังจากเดินมาได้ไม่นาน เฟตก็เห็นพวกเทียร่าไปหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวในชุดคลุมยาวเต็มยศ ซึ่งออกมาจากบริเวณทางแยกนี้พอดี
“อ้าว ท่านผู้นำกองทัพทหารทั้งหมด ดีจังเลยนะคะ ที่พวกท่านปลอดภัย”เธอเรียมทักทายพวกแฟร์ด้วยรอยยิ้ม ต่างกับพวกพรอมที่ทำหน้าเครียด
“คุณจะทำอะไรคะ ทำไมถึงประกาศไปว่าจะเปลี่ยนผู้ถือครอง”เทียร่าถามอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เล่นเกมมา ก็มีเธอเรียมนี่ล่ะ ที่เป็นมิตรแท้คนแรกในเกม นอกจากกลุ่มของเธอ
“เราเห็นว่าสมควรแล้วยังไงล่ะค่ะ แล้วอีกอย่าง ถ้าเกิดมีเหตุการณ์อะไรขึ้นอีก พวกท่านจะได้จัดการได้เอง โดยไม่ต้องผ่านระบบการปกครองที่หละหลวมของเรา”เธอเรียมยิ้มแย้มกล่าวอย่างไม่เสียดายตำแหน่งที่ปกติ ไม่มีใครยกให้ใครง่ายๆ เพราะการที่ผู้เล่นจะข้ามไปอยู่ในระดับ King ได้นั้น ต้องมีความสามารถหลายๆอย่างและปัจจัยต่างๆเป็นตัวผลักดัน
“แต่ว่า”เทียร่าอ้าปากจะค้าน แต่ก็พูดอะไรไม่ออก หลังจากเพื่อนหนึ่งเดียวของเกมมองมาด้วยแววตาคาดหวังกับเธอไว้มาก
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ถ้าเกิดเราหมดอำนาจแล้ว เราก็จะได้ไปพักได้สักที ตอนนี้เราเหนื่อยเหลือเกิน”เธอเรียมกล่าวปิดท้ายด้วยใบหน้าที่เป็นทุกข์
“อ้าว หัวหน้า มากันแล้วเหรอ”ป๊อกกี้เสนาธิการประจำกิลด์กล่าวทักทายหลังจากเดินตามหลังมาจนถึงจุดที่เหล่าบรรดาผู้นำยืนออกันอยู่
“แล้วจะทำอะไรกันเหรอคะ”แฟร์ถามอย่างแปลกใจ หลังเห็นป๊อกกี้แต่งชุดแบบเต็มยศมา ซึ่งดูเหมือนจะเข้ากันได้กับเธอเรียมเลย
“ไปประกาศโทษของพวกผู้บริหาร ที่ทำอะไรนอกรีตน่ะค่ะ”ราชาสาวตอบด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมมากกว่าเดิม
“ทำอะไรไว้เหรอคะ”เทียร่า พรอม และแฟร์ถามขึ้นพร้อมกัน นี่พวกเธอพลาดอะไรไป
“นำโสมทรีบากส์ไป ไป เอ่อ”ผู้ตอบเริ่มอ้ำอึ้ง ก่อนจะอธิบายเสียงเบาคล้ายอาย
“หลังจากพวกท่านออกไปกันแล้ว เราก็เรียกพวกนั้นมาพิพากษาร่วมกับท่านป๊อกกี้ ก่อนจะทราบความว่าอสูรทรีบากส์บางส่วน ก่อนถูกนำไปส่งให้ผู้เล่นคนนั้น พวกเธอได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศกันเสียก่อน ซึ่งวิธีการเท่าที่สอบดู เห็นว่าเป็นการบังคับให้พวกเธอเข้าสิงสู่ต้นไม้ขนาดเล็กและเปลี่ยนให้เปลี่ยนเป็นร่างดรายแอดส์ก่อนจะ เอ่อ มี ... กัน”
ราชาสาวหยุดได้แค่นั้น ก็มีผู้เล่นสาวกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทีเจี๋ยมเจี้ยม
“ผู้นำคะ ถึงเวลาที่กำหนดแล้วค่ะ”ผู้นำกลุ่มผู้เล่นสาวพูดออกมาหลังจากดูกำหนดการต่างๆครบแล้ว ซึ่งนี่คือข้อดีของกิลด์ที่เธอเรียมมองเห็น การวางระบบต่างๆพวกแฟร์ทำได้ดีมาก มากกว่าเธอหลายเท่านัก
“เราขอตัวก่อนนะคะ ไม่ทราบถ้าท่านจอมมารอยากจะไปดูพิธีของเรา ไปด้วยก็ได้นะคะ เพราะตอนนี้ท่านอยู่ในฐานะแขกบ้านแขกเมืองแล้ว”เธอเรียมกล่าวขอตัว ก่อนจะหันไปบอกเฟตที่กำลังดูนาฬิกาเหมือนกำลังรออะไรอยู่
“ฮะ ผมจอมมารเหรอ แต่ช่างเหอะ พอดีผมมีธุระคงไปด้วยไม่ได้หรอกครับ”ชายหนุ่มปฏิเสธแบบไม่สนใจฉายาพิลึกพิลั่นของตัวเอง ก่อนจะกล่าวเชิญอสูรออกมา
“ออกมาอนาตาเซีย ออกมาไรน่า”หลังจากอสูรสาวทั้ง 2 ออกมาแล้ว เฟตก็พุ่งปี๊ด หายไปจากสายตาเล่าหญิงสาวทันที ปล่อยให้ผู้ที่พบเห็นได้แต่มึนงง
“คิดบัญชีเก่าๆน่ะ”อนาตาเซียที่พึ่งโผล่ออกมาตอบแทนผู้เป็นนายเสียงเรียบ จากนั้นก็ถามกลับเพื่อเร่งเวลา
“ว่าแต่พวกเธอจะไปไหนกันล่ะ”
“ไปที่เวทีจัดงานค่ะ”เธอเรียมตอบ แล้วก็เดินออกไปพร้อมกับกลุ่มผู้เล่นสาวที่ใส่ชุดอัศวินซึ่งรับหน้าที่องครักษ์เฉพาะกิจ
“อืม ไปกันเถอะ”อนาตาเซียหันมาพยักหน้าให้กับกลุ่มฮาเร็ม ก่อนจะตามหลังเธอเรียมไปแบบไม่สนใจใคร ซึ่งพวกพรอมก็ตามหลังมาด้วย หลังเห็นว่าทางเดียวกันควรไปด้วยกัน
กลุ่มของแฟร์เดินทางออกจากตัวปราสาท แล้วมาขึ้นพาหนะที่เป็นเสือลากรถด้วยความไม่รีบร้อน เพราะกำหนดการอะไรต่างๆพวกเธอมั่นใจว่าต้องตรงแน่ๆ เนื่องจากทีมงานนั้นทำงานตรงต่อเวลาตลอด
พอกลุ่มผู้เล่นสาวและอสูรของเฟต ขึ้นรถเทียมม้าของทางกิลด์ 4 เทพีเรียบร้อยแล้ว รถม้าก็ออกตัวมุ่งสู่ทิศตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงาน ตลอดระยะทางที่รถม้าผ่าน พวกเธอได้พบกับกลุ่มผู้เล่นที่เป็นนักข่าวและพวกที่อาศัยในเมืองที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่เวทีเป็นทิศทางเดียวกัน
ณ บริเวณท่าเรือ ทิศใต้ของเมืองเธอเรียม ร็อคที่เดินหนีมาจากใจกลางเมืองถอดถอนหายใจ
“ไม่น่าออฟไลน์ล่าสุดที่เมืองนี้เลย ต้องกลับมาเกิดที่เมืองนี้ซะงั้น”ใช่แล้ว ร็อคพึ่งเกิดที่ใจกลางของเมือง หลังจากถูกระบบลงโทษมา เขาก็มาหาที่หลบภัยอยู่แถวนี่นั่นเอง เนื่องจากอยู่แบบนั้นจะเป็นการล่อเป้ามากเกินไป
“อ้าว นั่นมันร็อคแห่งกิลด์เดม่อนผู้ยิ่งใหญ่นี่หว่า”ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังหาสถานที่ไปต่อ ก็มีเสียงทักทายมาจากร้านข้างๆ พอตนหันไปมองก็พบกับผู้เล่นหลายสิบคนกำลังกินข้าวอยู่ในร้านอาหารแห่งนั้น โดยคนพวกนี้มองมาทางเขาเป็นตาเดียวกัน
“มีธุระอะไรกับข้า”ร็อคถามกลับเสียงเรียบ คำพูดเมื่อกี้มันแดกดันกันอย่างเห็นได้ชัดเลย
“อ้าว ใช่จริงๆด้วยแหะ ไม่คิดว่าจะใช่จริง ว่าแต่ทำไมท่านร็อคผู้ยิ่งใหญ่ถึงกลับมาเป็นเผ่ามนุษย์อีกล่ะ ไม่เป็นเทพผู้สูงส่งและสูงศักดิ์อีกเหรอ”ชายที่นั่งอยู่หัวโต๊ะกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืน ถ้าไม่ใช่เทพแล้ว อะไรๆก็ง่ายขึ้น
“ถึงข้าจะเปลี่ยนเป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกระจอกหรอกนะ”ร็อคกล่าวพร้อมกับดึงพลังออกมา จนรอบกายปรากฏออร่าบางๆ พร้อมกับน้ำทะเลที่ด้านหลังกำลังบ้าคลั่งตามพลังของชายหนุ่ม เนื่องจากยามปกติเขาก็เน้นธาตุน้ำอยู่แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาก็พอจะบังคับน้ำได้ในระดับหนึ่ง
แต่ยังไม่ทันที่ร็อคจะได้ถล่มพวกเกรียนปากให้ราบ เขาก็หยุดชะงัดงัน พร้อมกับคลื่นน้ำที่สงบลงอย่างน่าแปลกใจ ผู้เล่นที่กำลังตกใจกับอำนาจนั้นก็พากันมองดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วสิ่งที่พวกเขาพบก็ทำให้ต้องอ้าปากค้าง เนื่องจากสมองของร็อคกำลังไหลออกมาจากส่วนหัวที่เละจากแรงทะลวงของอะไรบางอย่าง
ทว่า ก็ยังมีผู้เล่นระดับสูงหลายคน มองเห็นเส้นสายสีแดงซึ่งทิ้งรอยจางๆ เอาไว้ในอากาศ ซึ่งปลายด้านหนึ่งพุ่งไปที่โรงเตี๊ยม ส่วนอีกด้านนั้นมาจากกลางท้องทะเลที่มองไม่เห็นต้นตอของแส้นสายนั้น
“head Shot”ชายหนุ่มคนหนึ่งพึมพำพร้อมกับลดปืนเหล็กลำกล้องยาวกว่า 2 เมตร และมีน้ำหนักร่วมกว่า 17 กิโลลงมาตั้งไว้ที่ข้างตัว
“ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะสะใจจริง ให้ฆ่าตอนอ่อนแอมันสะใจตรงไหน”เฟตพึมพำพร้อมกับมองไปยังด้านหลัง ที่มีผู้หลายสิบคนยืนมองมาพร้อมกับชี้มือค้างแบบตกใจ
ผู้เล่นเหล่านี้คือผู้เล่นที่ไม่ชอบความวุ่นวายในการเก็บเลเวลหรือการแข่งขัน สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการเก็บเกี่ยวความทรงจำและบรรยากาศดีๆเอาไว้ ก่อนจะออฟไลน์ไปพบเจอโลกแห่งความจริงที่โหดร้าย แต่ทว่า ในวันนี้ วันที่มีบุรุษแปลกหน้ามาขอขึ้นเรือด้วยที่กลางทะเล พวกเขาก็ได้รับรู้กันแล้วว่าคำว่าโลกแห่งความจริงและเกมห่างกันเพียงก้าวเดียว เมื่อได้มาเห็นสิ่งที่มีแต่ในโลกมนุษย์ซึ่งไม่สมควรอยู่ในโลกแห่งเกมนี้
“เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณจะขึ้นมาทำอะไรกันแน่ครับ”ชายที่ใส่ชุดแบบบ๋อยบริการเดินเข้ามาถามเสียงสั่น เพราะตอนที่ชายคนนี้ขอขึ้นเรือมาขณะเรือจอดอยู่กลางทะเล ชายคนนี้เขาบอกว่าจะมาคิดบัญชีเก่า
ตอนแรกก็นึกว่าจะจัดการกับพวกอสูรทะเล แต่ไปๆมาๆกลับยกอาวุธที่ไม่มีใครในเกมจะคิดถึงอย่างปืนสไนเปอร์ออกมาโชว์ แล้วยิงไปทิศเมืองเธอเรียม
“ผมมาคิดบัญชีน่ะครับ ตอนนี้ก็เสร็จแล้ว ขอบคุณมากนะครับ”เฟตกล่าวขอบคุณก่อนจะโยนอาวุธไปข้างหลัง แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นปีกดาบเหมือนเดิม เมื่อเขาพร้อมบิน ตนก็ถีบตัวจากเรือแล้วพุ่งขึ้นฟ้าหายไปอย่างรวดเร็ว
เฟตล่อนอากาศไปอย่างช้าๆ โดยไม่สนใจสายตาของใครทั้งสิ้น จนกระทั่งสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ตนจึงลดเพดานบินแล้วไปบินเรียบอยู่ข้างๆ เรือลำนั้น
“บินได้ด้วยเหรอ”เป็นเสียงทักทายจากเรือลำนั้น
“ของแถมจากถุงยางครับ”เฟตตอบโดยไม่หันไปมองสักนิด เพราะรู้จักเสียงๆนี้ดีอยู่แล้ว
“อาวุธอะไรเหรอลูก”เสียงสตรีดังตามมา ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งโหยงจนปีกกดต่ำไปข้าง เป็นผลให้เขาวูบไปนิดนึง ก่อนจะตั้งสติได้แล้ว
“คุณแม่”เฟตเรียกสตรีที่ใส่ชุดนักเวทด้วยความแปลกใจ ในขณะที่ชายมีอายุด้านข้างที่เกาะติดอยู่ด้วยก็ยิ้มให้อย่างยินดี
ชิออนเห็นว่าการคุยแบบนี้คงได้เป็นอันตรายระหว่างเรือกับเครื่องบินแน่ ตนจึงแนะนำให้มาโดยสารเรือดีกว่า ซึ่งเฟตก็ตอบรับพร้อมกับเกาะเรือเพื่อโดยสารกลับ
“เรียกได้เป็นธรรมชาติดีมาก ตอนที่ผ่านความตายเจออะไรมาล่ะสินะ”ชายมีอายุทักทายขณะที่เฟตกำลังเก็บปีกดาบเข้าหลังไป
“ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ถึงได้มาที่นี่ได้ล่ะครับ”ชายหนุ่มถามกลับ
“แหม อย่าเรียกแบบนั้นสิ เรียกว่าอัศวินพิฆาตจะดีกว่านะ”สิริภพรีบโบกมือแล้วให้เรียกชื่อใหม่
“จริงด้วย เรียกแม่ว่านักเวทพิฆาตอัศวินดีกว่านะจ้ะ”วิภาเอาบ้างซึ่งชิออนก็ต้องหันไปมองทางอื่นด้วยความอาย ที่พ่อแม่เล่นตั้งชื่อแบบนี้
“ครับครับ แล้วทำไมพ่อกับแม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วเรือนี่ก็....”เฟตถามอีกครั้งหลังไปสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ ที่หัวเรือ
“เป็นของลูกสะใภ้ในเกมของแม่น่ะ”วิภาตอบด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกชอบนิสัยของเมร่าพอสมควร เพราะมีความเป็นสุภาพสตรีมากๆ
“ส่วนเรือลำนี้ ก็เป็นเมร่าอีกนั่นล่ะที่เป็นคนเรียกช่างมาสร้างให้ ลูกลองดูที่หัวเรือดีๆสิ”สิริภพตอบบ้างขณะชี้ไปยังหัวเรือซึ่งเป็นมีรูปปั้นของชิออนในอิริยาบถต่างๆ
เฟตเห็นเช่นนั้นก็หันไปมองชิออนที่พยายามจะเดินเข้าไปส่วนในของเรือ แต่ติดที่ว่าวิภาส่งสัญญาณด้วยสายตาอยู่เป็นเชิงว่าจะหนีทำไม
“ครับ แล้วทำไมพ่อกับแม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ไม่สิ ทำไมถึงมาเล่นเกมนี้ล่ะครับ”ลูกชายบุญธรรมของบ้านถามอย่างสนใจ ซึ่งคู่สามีภรรยาก็หัวเราะออกมาเพราะนี่เป็นคำถามแบบที่ชิออนเคยถามมาก่อน
“การแข่งขันมันวุ่นวายจริงมั้ย”สิริภพว่าด้วยรอยยิ้ม
“พ่อกับแม่เลยอยากจะพักผ่อนบ้างน่ะ คงไม่ผิดใช่มั้ย”วิภาว่ายิ้มๆ ทำให้เฟตเงียบลงไปเพราะใครหลายๆ คนก็มักจะมาเล่นเกมเพื่อคลายเครียดทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างสิริภพและคุณหญิงวิภา ธำรงพักตร์
สิริภพเห็นเฟตเงียบไปก็สะกิดภรรยาตนที่ยืนอยู่
“ลูกมีอสูรติดตามด้วยเหรอ”วิภาถามขึ้น ส่งผลให้เฟตต้องปรายตามามอง
“ครับ”ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ ใบหน้ายังเย็นชาเหมือนเดิม แต่ประกายสายตากลับอ่อนโยนขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
“ใจลูกคงรู้สึกรักและเป็นห่วงพวกเขาจริงๆใช่มั้ยล่ะ เห็นห่วงใยกันมากเลยนี่”วิภากล่าวขณะดึงมือเฟตให้เดินตามไปนั่งที่ม้านั่งท้ายเรือ ซึ่งสิริภพและชิออนก็เดินตามไปด้วย
“รู้ได้ยังไงครับ”เฟตถามอย่างแปลกใจ
ชิออนได้ยินคำถามก็หยิบแผ่นอะไรบางอย่างออกมาจากช่องระบบ พอเฟตรับไปดูก็พบว่ามันเป็นกล่องใส่ DVD ซึ่งหน้าปกเขียนไว้ว่า จุดแปรของสงครามเมืองเริ่มต้น
“ไอ้นี่คือ”
“เจ้าหน้าที่ NPC เขาดึงข้อมูลภาพวีดีโอกลับมาแล้วก็ทำเป็นแผ่นขายน่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเน้นหนักไปทางพวกเรา 2 คน”ชิออนอธิบาย
เฟตได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า แหม ทำไมเขาไม่ใช่คนคิดได้นะ เผื่อจะเพิ่มยอดขายและกำไรให้ตัวเองได้บ้าง แต่ยังดีที่วิภามาขวางความคิดนั้นซะก่อน ส่งผลให้ชายหนุ่มต้องกลับเข้าเรื่องเดิมอย่างเลี่ยงไม่ได้
“รักเหรอ ผมไม่มั่นใจหรอก ว่าใช่ความรักหรือเปล่า แต่ถ้าถามว่าห่วงมั้ย ผมรู้สึกห่วงครับ เพราะคนที่เห็นกันอยู่หลัดๆ จะปล่อยให้เป็นอันตรายได้ยังไงล่ะ”เฟตย้ำคำตอบตามที่ใจของตัวเองคิด ส่งผลให้วิภาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แม้การเล่นเกมจะเรียกได้ว่าไร้สาระสำหรับคนรวย แต่ถ้ามันทำให้คนๆหนึ่งเปลี่ยนวิสัยทัศในการมองโลกขึ้นมาบ้าง เธอก็ยินดีแล้วล่ะ
พวกสิริภพเห็นเฟตกำลังบิ้มอารมณ์อยู่ ก็เลยพากันเงียบก่อนจะชักชวนกันไปชมวิวและลงใต้ท้องเรือไป เพื่อให้ชายหนุ่มได้ถ่ายเอ็มวีพระเอกหนังได้สมใจอยาก
เฟตที่ถูกทิ้งไว้นั้น ในหัวเขาไม่คิดอะไรเลย นอกเสียจากมองบรรยากาศที่เงียบสงบอย่างชอบใจ แต่แล้ว เมื่อเรือเข้าใกล้ท่าเมืองเธอเรียม เขาก็พบว่าบริเวณท่าเรือนั้นกำลังมีการเตรียมร้านค้า ห้างร้านคล้ายกำลังจะจัดงานอยู่
“เวลาเปลี่ยนผู้ปกครองเมือง ส่วนใหญ่เขาก็ต้องมีเลี้ยงฉลองน่ะ”เสียงของสตรีดังขึ้นทำให้เฟตหันไปมอง แล้วพบว่าเป็นฟ้าใสกำลังเดินออกมาจากใต้ท้องเรือ โดยมีชิออนตามไม่ห่าง
“รู้ได้ยังไงครับ ว่ามีการเปลี่ยนผู้ถือครอง”เฟตถามตามน้ำแม้ใจจะรู้อยู่แล้วก็ตาม
“ฟ้าเป็น 1 ใน 4 เทพีนะคะ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ”หญิงสาวตอบก่อนจะยกสัญลักษณ์กิลด์ให้ดู
“เป็นอะไรเหรอครับ ทำไมดูเหนื่อยๆ”เฟตสังเกตเห็นว่าฟ้าใสมีท่าทางเหมือนคนเหนื่อยล้าอยู่ก็ถามออกมา
“คุณอาน่ะสิ ให้ฟ้าสอนวิธีเล่นเกมและการต่อสู้ให้ โดยบอกว่าให้เป็นแบบสรุปด้วย ฟ้าใสก็เลยออกมาสภาพแบบนี้ล่ะค่ะ”หญิงสาวอธิบาย แล้วขอตัวกลับไปที่ด้านล่างของเรือ หลังดูสถานการณ์แล้วพบว่า ไม่ถึง 20 นาที เรือคงจอดเทียบท่าแล้วแน่ๆ
เฟตได้ยินดังนั้นก็หันไปมองที่เมืองเธอเรียมอีกครั้ง ภาพของบ้านเมืองที่ถูกสร้างติดทะเล มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่านี่คือโลกแห่งความจริงเลย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นแค่เกม และฝันเพียงตื่นเดียวเท่านั้น
เมื่อเรือมาถึงท่าจอด พวกสิริภพก็เดินออกมาจากท้องเรือด้วยชุดทะมัดทะแมงแต่มีแซมด้วย ด้ายทองคำ เฟตแค่มองดูก็รู้ว่านี่คงเป็นของสมนาคุณจากเมร่าตนจึงไม่ถามอะไรให้เป็นการปล่อยไก่ไป
แต่ก่อนที่พวกสิริภพจะลง เฟตกลับเบรกไว้ก่อนโดยตัวขอลงมาเป็นคนแรก พอชายหนุ่มลงมาถึงด้านหลังก็หันซ้ายหันขวาคอยระมัดระวังภัยให้เจ้านายตามความเคยชิน
พวกสิริภพเห็นเฟตทำท่าทำทางเหมือนในโลกภายนอกก็พากันถอนหายใจ ไม่ว่าจะในเกมหรือโลกแห่งความจริง ลูกชายคนนี้ก็เอาแต่ทำจริงจังกับคำว่างานจนน่าเครียดแทนจริงๆ
“ปล่อยวางหน่อยลูก”วิภาพูดขึ้นขณะเดินลงมาจากเรือ เฟตได้ยินที่วิภาว่าก็สะดุ้งเล็กน้อย ในโลกภายนอกเขาทำจนชิน พออยู่ในนี้และสถานการณ์แบบนี้ ตนก็ทำลงไปแบบไม่รู้ตัวซะแล้ว
‘ผู้เล่นเฟตเข้ามาในระยะหวังผลค่ะ ผู้เล่นเฟตได้รับค่าประสบการณ์หลังจากสังหารผู้เล่นร็อคค่ะ’
‘ผู้เล่นร็อคถูกสังหารจากผู้เล่นด้วยกันสูญเสียค่าประสบการณ์ทั้งหมด 1 เลเวลตามปกติของกฎการแย่งชิงค่ะ แต่เนื่องจากผู้เล่นร็อคถูกผู้เล่นที่มีเลเวลน้อยกว่าที่กำหนด (25) มากสังหาร ระบบจึงขอทำการลดเลเวลลงอีกเป็นกรณีพิเศษค่ะ ผู้เล่นร็อคถูกหักเลเวลพิเศษ 10 เลเวลเป็นทั้งหมด 11 เลเวลค่ะ’
‘ผู้เล่นเฟตได้รับค่าประสบการณ์จากการหักออกจากเลเวลของผู้เล่นร็อคที่ถูกหักค่ะ ผู้เล่นเฟตเลเวลพื้นฐานจาก 60 เพิ่มเป็น 63 ค่ะ’เสียงของระบบรายงานในขณะที่เฟตกระพริบตาปริบๆ นี่เขาได้ค่าประสบการณ์จากการฆ่าเจ้าตัวแสบนั่นด้วยเหรอเนี่ย
กลุ่มผู้เล่นหลายๆ กลุ่มที่อยู่บริเวณนั้นต่างหันมามองทางเฟตเป็นตาเดียวกัน เพราะกลุ่มนี้มีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่หล่อเหลาชวนมองอย่างชิออน หรือสิริภพที่ยังหล่อแบบคมเข้มมีอายุ ส่วนฝ่ายหญิงก็สวยงามกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นฟ้าใสที่สวยหวาน (ซ่อนโหด BY ชิออน) หรือแม้กระทั่งวิภา ซึ่งเธอเองก็สวยแบบคนมีอายุเช่นกัน
ผ่านด้านหน้าตาไปก็เป็นการแต่งตัวที่เหมือนกับเชื้อพระวงศ์ แบบที่ชิออนและพวกสิริภพสวมใส่อยู่ เสื้อผ้าที่มีการขลิบด้วยด้ายทองคำส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มีตังอย่างเชื้อพระวงในเกมเท่านั้น ผู้เล่นจึงเหมาว่าพวกนี้คงเป็นจ้าวจากเมืองอะไรสักอย่าง
ฟ้าใสเห็นสายตาที่มองมาก็พอจะรู้ว่าใครคิดอะไร เธอเลยแนะนำให้พวกสิริภพไปที่ปราสาทประจำของเธอ พวกสิริภพเมื่อถูกว่าที่ลูกสะใภ้ชวนก็ไม่ขัดศรัทธา จึงเดินตามไปแต่โดยดี
เมื่อมีคนคิดว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือเชื้อพระวง ก็ต้องมีคนอยากได้เงินบ้าง เฉกเช่นผู้เล่นกลุ่มนี้ที่กำลังโอบล้อมกลุ่มของเฟต
“เป็นจ้าวจากเมืองไหนฟะ ไม่เคยเห็นเลย”ผู้เล่นที่ดูลักษณะเหมือนหัวหน้ากลุ่มตะโกนถามเข้ามา ซึ่งพวกเฟตก็ขยับขึ้นมาด้านหน้าเหมือนจะเป็นด่านหน้าคอยชนให้ แต่สิริภพชิงดึงมือไว้ซะก่อน
“แล้วพวกเธอล่ะ มาจากเมืองไหนทำไมเราไม่เคยเห็นเลย”วิภาถามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จนพวกผู้เล่นเริ่มเชื่อว่ากลุ่มๆนี้ คือเอไอเชื้อพระวงศ์จริงๆ
“กวนแล้วป้า ไม่เห็นว่าป้าหน้าตาดี ผมฆ่าทิ้งไปนานแล้ว”หัวหน้ากลุ่มตะโกนว่ากลับมาทำให้วิภาหุบยิ้มอย่างรวดเร็ว ซึ่งเฟตจับสัมผัสได้ว่า วิภากำลังผนึกพลังจิตเข้าสู่มือซึ่งมีแหวนหลากสีสวมอยู่
“ไอ้หนุ่ม แกเห็นมั้ยว่าภรรยาฉันสวยขนาดนี้ แกยังกล้าเรียกป้าอีกเหรอ ฉันถามสิ ว่าป้าของแกสวยได้ขนาดภรรยาฉันมั้ย”สิริภพสวนกลับคอเป็นเอ็น ซึ่งเฟตก็จับสัมผัสได้ว่าพลังจิตของวิภากำลังลดลงเหมือนคนหายโกรธ
“ไม่เกี่ยวกับลุงซะหน่อย อย่ามาเจ๋อหน่อยเลย ผมถามว่าเป็นจ้าวจากเมืองไหน ก็ตอบมา”หัวหน้ากลุ่มตะโกนว่าอย่างไม่สนใจคำพูด เพราะสำหรับเอไอ พวกเขามองว่าเป็นเพียงตัวประกอบที่มีอยู่ทั่วไปเท่านั้น
“แกลองว่าอีกทีดิ๊ ไอ้หนุ่ม”สิริภพพูดด้วยอารมณ์บ่จอยเต็มที่
“อยากมีเรื่องเหรอลุง”หัวหน้ากลุ่มตะโกนว่าเข้ามา
เฟตและชิออนรับฟังเงียบๆ แต่อารมณ์ภายในกลับเดือดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชิออนเอื้อมมือไปแตะที่ดาบข้างตัวที่ตนถือมาตลอด ส่วนเฟตก็ใช้มือแตะเสื้อกั๊ก เตรียมจะเอาปืนสั้นออกมายิงให้เละ
“ลูกๆไม่ต้อง มันหยามพ่อ พ่อขอเอง”สิริภพร้องห้ามลูกๆของตนไว้แล้วเดินออกมาตัวเปล่า
“ชิน ทำไมไม่ไปช่วยคุณอาล่ะ”ฟ้าใสเห็นสิริภพเดินออกมาตัวเปล่าก็หันมาถามแฟนหนุ่มที่วิภายืนคู่อยู่
“พ่อเขาชอบคำไหนคำนั้นอ่ะ ชินไปยุ่งไม่ได้หรอก”ชิออนตอบ ส่วนเฟตก็พยักหน้าให้ ว่าเป็นไปตามนั้น นิสัยของสิริภพเหมือนกับชิออนนั่นล่ะ ไม่ว่าจะขี้แกล้งหรือความเอาจริงเอาจังในคำพูด ทุกอย่างล้วนเป็นของจริงทั้งนั้น
“แต่คุณอาพึ่งเล่นได้ไม่ถึงวันเลยนะ”ฟ้าใสค้านอีกครั้ง ทำให้สองหนุ่มหันมามองช้าๆ
“ฟ้าใสว่า ชินและเฟตเก่งมั้ย”ชิออนถามออกมาเสียงเรียบ ทำให้ฟ้าใสนิ่งเงียบแล้วนึกถึงสงครามในเมืองเริ่มต้น
“เก่ง เก่งเกินไปด้วยซ้ำ”ฟ้าใสตอบตามตรง สำหรับคนที่มาเล่นเกมได้ไม่ถึงอาทิตย์ แต่สามารถเอาชนะสงครามได้ด้วยตัวคนเดียวก็เก่งเกินคนไปแล้ว แม้คนเราจะมีความสามารถในโลกจริงที่สูงส่ง แต่เวลาใช้ในเกมจะต้องมีการปรับสภาพร่างกาย และความสามารถในแมตกัน เรียกว่ายากเอาเรื่องเหมือนกันเลยล่ะ
“ถ้าอย่างนั้น คุณฟ้าก็ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณพ่อน่ะ เก่งกว่าผมกับชินที่ใช้คาตานะซะอีก”เฟตกล่าวเสียงเรียบ ขนาดเขาที่มีเลเวลไม่เท่าไหร่ยังเอาชนะคนเลเวลสูงๆมาได้ แล้วผู้เล่นกลุ่มนี้ที่ใส่ชุดระดับคลาส E ล่ะเป็นใคร ถึงจะมาเอาชนะคนที่ฝึกสอนเขามาได้
“แอ๊ก!!!”เสียงร้องเหมือนกบถูกเชือดทำให้ฟ้าใสต้องหันไปมองแล้วก็พบว่ากลุ่มผู้เล่นที่ทำตัวจิ๊กโก๋ ล้มลงไปนอนกับพื้นด้วยสภาพลิ้นจุกปาก
“ลุกขึ้นมาไอ้หนุ่ม เมื่อแกกล้าว่าฉันและภรรยา ก็ไม่สมควรที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆแบบนี้”สิริภพพูดขณะไพล่มือไว้ที่หลังเหมือนปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่
“จับตัวภรรยามันไว้”หัวหน้ากลุ่มที่นอนกองอยู่ที่พื้นร้องบอกลูกทีมอย่างยากลำบาก
“ซวยแล้ว”ชิออนอุทานเมื่อเห็นผู้เล่นพุ่งชาร์ตเข้ามาล็อคตัววิภาไว้ เฟตที่คว้าปืนออกมาเตรียมยิงต้องเก็บปืนไปอย่างรวดเร็วหลังเห็นการส่งซิกมาจากผู้ที่ถูกจับกุม
“คุณอา”ฟ้าใสร้องอย่างเป็นห่วง แต่พวกเฟตกลับหน้าซีดเผือดแทน
“หนุ่มน้อย เธอแตะต้องตัวสุภาพสตรีอย่างนี้ไม่ดีนะ ฝ่ายหญิงจะเสียหายเอาได้”วิภาพูดกับผู้เล่นที่ล็อกตัวเธอเสียงเรียบ ไม่ได้เป็นกังวลกับมีดสั้นที่จ่อคอสักนิด
“พูดมากน่า ถ้าเธออายุอ่อนกว่านี้ฉันอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”ชายหนุ่มที่ล็อกตัววิภาพูดด้วยสายตากระหยิ่มยิ้มย่อง แม้วิภาจะดูมีอายุ แต่ถือว่ายังสวยอยู่เหมือนกัน
“ฉันคิดว่า ฉันพูดว่าอย่าแตะต้องตัวสภาพสตรีนะ”สตรีในชุดเวทกล่าวอีกครั้ง ในขณะที่พวกชิออนหันไปมองทางอื่น เหมือนไม่อยากจะเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น
แต่ฟ้าใสที่มองอยู่นั้นอ้าปากค้าง เมื่ออยู่ๆวิภาก็บิดข้อมือของคนที่ล็อกไปไว้ข้างหลัง โดยที่เท้าก็เตะรวบสกัดขาศัตรูเอาไว้ จนล้มไปกองกับพื้นด้วยสภาพอุบาทเต็มที่
“อ้ากกก”ผู้เล่นหนุ่มที่โดนวิภาล็อคร้องออกมาอย่างโหยหวน แขนเมื่อถูกบิดไปล็อคไว้ข้างหลังมันก็เจ็บปวดพอสมควรแล้ว แล้วพอถูกเตะสกัดจนล้มไปทั้งๆอย่างนั้นอีก แขนของเขาเลยหักได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
“หาเรื่องใครไม่หา หาเรื่องปรมาจารย์กังฟู กับนายร้อยหญิงเลือดเดือดซะแล้ว”ชิออนและเฟตพึมพำกันสองคนขณะมองผู้เล่นในบริเวณนั้นที่ยืนอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตา ว่าคนมีอายุจะเอาชนะผู้เล่นหนุ่มแน่นได้อย่างง่ายดายปานนี้
ความคิดเห็น