คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 การเก็บเลเวล
“ไม่ใช่เรื่องของนาย”หญิงสาวผมทองพูดโดยไม่หันไปมอง ส่วนฟ้าใสก็หน้าซีดมากกว่าเดิม เมื่อเห็นรางร้ายกำลังมาเยือน ไม่รู้จะเป็นกากีนังหรือเปล่า
“เป็นสิครับ ก็เมื่อเขาคนนั้นเป็นเจ้านายของผม”เฟตพูดเสียงเย็นพร้อมกับมือที่จับไปที่ข้อมือของหญิงสาวเพื่อที่จะปลดอาวุธลง
หญิงสาวเมื่อถูกเฟตแตะมือก็สะบัดมือออกสู้แล้วใช้ด้ามดาบอีกข้างทุ้งเข้าไปที่ใบหน้าของเฟตที่ยืนอยู่ด้านข้างพอดี แต่เฟตนั้นมองทางออก จึงใช้สันมือสับไปที่อุ้งมือ ทำให้แขนข้างนั้นของหญิงสาวหยุดแค่นั้น
แต่หญิงสาวผมทองกลับไม่ยอมหยุดแค่นี้ เมื่อเธอหมุนตัวเตะไปเต็มแรง ด้วยความคิดที่มั่นใจว่าแค่การโจมตีธรรมดาๆ ผู้เล่นมือใหม่ก็คงไม่คณามือแน่ๆ แต่สิ่งที่เธอเห็นนั้น ก็ทำให้เธอไม่เชื่อสายตา เมื่อชายหนุ่มใช้ 2 มือป้องกัน เหมือนไม่ใช่เรื่องน่าเป็นกังวล ทั้งๆที่ถ้าผู้เล่นที่มีเลเวลน้อยกว่า งัดข้อกับผู้เล่นที่มีเลเวลมากกว่า ผลสรุปที่จะออกมา ก็คือความพ่ายแพ้แบบไม่ต้องสืบของมือใหม่
แต่กับชายหนุ่มหน้ามลคนนี้ไม่ใช่ เมื่อเขากันเท้าเธอได้ ชายหนุ่มก็ใช้เข่าแทงสวนเข้ามา ทำให้เธอต้องหมุนตัวกลับมายืนในท่าจรดดาบจ่อพื้น แล้วเตรียมเอาจริงเพื่อสั่งสอนให้ชายคนนี้รู้จักว่าใครเป็นใคร
“นายมีความรู้ด้านการต่อสู้ดีนี่ แต่แค่นั้นไม่พอที่จะทำให้ชนะฉันได้หรอกนะ”หญิงสาวว่าจบก็หายไปจากสายตาของเฟต
“อย่านะ เทียร่า เขาเป็นคนติดตามของแฟนเรา”ส่วนฟ้าใสก็ร้องเสียงหลงที่เห็นเพื่อนตัวเองใช้สกิลขั้นสุดยอดของเธอกับผู้เล่นมือใหม่ ที่ยังไม่เคยสู้กับอสูรเลยสักตัว
ตูม! เสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมกับเฟตที่กระเด็นไปหลายสิบเมตร หลังจากสิ้นแรงกระแทกชายหนุ่มก็นอนแน่นิ่งอยู่ในท่าเดิม ส่วนหญิงสาวผมทองที่เป็นผู้โจมตีนั้น กลับยืนอยู่แทนที่จุดที่เฟตเคยยืนอยู่เมื่อครู่
“บอกให้หยุดยังไงเล่า”ฟ้าใสตระโกนก้องด้วยความโมโหที่ไม่อาจห้ามเพื่อนอยู่ ทั้งๆที่พูดตั้งหลายครั้ง แต่เพื่อนเธอก็ไม่ฟัง
เทียร่ารู้ว่าเพื่อนตัวเองโมโหจริงๆแล้ว ก็หยุดมือด้วยการเก็บดาบเข้าฝัก
ส่วนชิออนนั้นก็รีบวิ่งไปหาเพื่อนตนเองที่ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่
“คงยากล่ะนะ ที่จะรอดไปจากการโจมตีของผู้เล่นที่มีเลเวลถึง 40 อย่างฉัน”เทียร่าเอ่ยเสียงเรียบ หน้าตาไร้ซึ่งความเสียใจ เธอไม่เคยเสียใจสักนิดกับการกระทำของตัวเอง แม้เพื่อนของเธอคนอื่นๆจะบอกว่าผิดก็ตาม
ด้านฟ้าใสนั้นก็พูดอะไรไม่ออก เธอเริ่มคิดว่าตนเองคิดผิดแล้ว ที่พาเพื่อนคนนี้มา ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าเทียร่าไม่ชอบผู้ชายอย่างมาก จนอาจจะเข้าไปต่อสู้กับคนที่พูดอะไรไม่เข้าหูก็เป็นได้ แต่ด้วยความที่ว่ามีแต่เทียร่าคนเดียวเท่านั้นที่ว่างพอและเก่งมากกว่าเธอ จึงตกลงใจที่จะชวนมา
แต่กลับกลายเป็นว่า ในเวลานี้ เพื่อนสนิทของเธอกลับไปทำร้ายคนติดตามของแฟนเธอซะงั้น ทำให้ฟ้าใสในตอนนี้ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ต้องรออีกสักพักนั่นล่ะ ถึงจะสลายกลายเป็นแสงกลับไปเกิดในเมือง”เทียร่าพูดเสียงเรียบ ไม่สนใจที่จะดูศพของชายหนุ่มที่ตนสังหารไปเมื่อสักครู่
ทว่า เทียร่ายังไม่ทันที่จะได้เดินไปเก็บของจากศพอสูรบอสหมาป่า ร่างที่นอนนิ่งของเฟตนั้นก็ได้ขยับและลุกขึ้นนั่งเสียก่อน ทำให้เธอหันมามองด้วยความตกใจ
“บ้าน่า โดนสกิลของสุดท้ายของฉันเข้าไปไม่น่าจะรอดนี่”เทียร่าเอ่ยเสียงเครียด เพราะเป็นครั้งแรกที่มีคนหลบสกิลขั้นสูงของเธอได้ โดยไม่มีบาดแผลสาหัสเลย ต่างกับเฟตที่หน้าซีดเพราะตนพึ่งเคยถูกจู่โจมแบบหมายชีวิตจากผู้หญิงก็วันนี้ล่ะ
“เฮ้ย ไม่เป็นอะไรเลยเรอะ”ชิออนถามเสียงหลงเมื่อเห็นเพื่อนตนเองนั่งด้วยใบหน้าซีดเซียว แต่ไร้บาดแผลสาหัสอย่างที่ตนและคนอื่นๆเข้าใจ
“ก็นิดหน่อยครับ พอดีสัญชาตญาณมันบอกจังหวะพอดี เลยรอดตายมาได้หวุดหวิด”เฟตเอ่ย พร้อมกับโชว์แผลของชุดเกราะที่มีร่องรอยถูกแทงเป็นรูทะลุจากปีกอกซ้ายกับร่องรักแร้ ทำให้เทียร่ารู้ว่าเมื่อสักครู่รัศมีของทักษะดาบเรเปียที่เป็นแบบแทงตรงเข้าจุดตายนั้น ถูกทำให้พลาดเป้าไปที่ระหว่างร่องแขนกับหน้าอกซ้ายพอดี
เฟตหลบด้วยการเอี่ยวตัวตามแรงทะลวงของดาบ ถ้าสัญชาตญาณรับรู้ความอันตรายของเขาไม่บอกไว้ล่ะก็ เขาคงถูกดาบแบบทะลวงตรงของเทียร่านั้นแทงทะลุหัวใจไปแล้วก็ได้
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะค่ะ ฟ้าขอโทษแทนเพื่อนฟ้าด้วยนะคะ เธอเป็นคนที่ใจร้อนมากๆ ถ้าเจอกับผู้ชายที่มาแตะต้องร่างกายค่ะ”ฟ้าใสรีบพูดออกมา แล้วเดินลากฟ้าใสไปคุยกันสองคนที่ด้านหน้าของบอสอสูรหมาป่า
เฟตนั้นหลังจากลุกขึ้นได้ไม่นานก็ต้องล้มไปนั่งลง เมื่อร่างกายรู้สึกหนักอึ้งบังคับไม่ได้ดั่งใจ และมีเลือดไหลจากแผลที่สีข้างกับแขนเป็นจำนวนมาก ชิออนจึงเปิดประเป๋าเอาน้ำยาเพิ่มเลือดออกมาให้ แล้วบังคับให้เพื่อนตนดื่มอย่างรวดเร็ว หลังเฟตกินน้ำยาฟื้นเลือดไปไม่ถึง 3 นาที รอยแผลที่เปิดกว้างอยู่ก็ค่อยๆสมานกันอย่างช้าๆ และเติมเต็มเลือดให้รู้สึกมีกำลังมากขึ้น
ฝ่ายฟ้าใสเมื่อเห็นผู้ถูกทำร้ายไม่เป็นอะไรแล้ว ก็พากันเดินกลับมา ฟ้าใสนั้นมีใบหน้าที่เป็นทุกข์มาก ต่างกับเทียร่าที่จับจ้องเฟตด้วยสายตาเหมือนโกรธแค้นกันมาก่อน
ชิออนเห็นสายตาของเทียร่าก็พูดอะไรไม่ออก แต่การกระทำของหญิงสาวนั้นกลับทำให้เขาตะลึง เมื่อเธอยื่นมือไปคอยฉุดให้เฟตลุกขึ้นยืน
“ขอโทษ ฉันอารมณ์ร้อนไปนิด”เทียร่ากล่าวเสียงเรียบพร้อมกับดวงตาที่เปลี่ยนเป็นเรียบเฉย ทำให้เฟตต้องยื่นมือไปรับน้ำใจแล้วกล่าวไม่ถือโทษ
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ควรไปแตะมือคุณเหมือนกัน”เฟตพูดจบ ฟ้าใสก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่อย่างน้อยเพื่อนเธอก็ลดทิฐิเรื่องการจับมือกับเฟตลงไปแล้วบ้าง ถ้าเป็นเทียร่าปกติ คงฟันดาบใส่แทนการยื่นมือไปหาแน่ๆ
เมื่อฟ้าใสพูดให้ทั้ง 2 เคลียร์เรื่องกันได้ ทั้งหนุ่มสาวก็ตกลงใจไม่เอาความเก่าก่อนกัน แล้วหันมาช่วยเหลือกันแทน ซึ่งเทียร่านั้นจะช่วยแนะนำอะไรเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าภายในทีมเดียวกันไม่แตกแล้ว ฟ้าใสก็พากลุ่มพวกเธอเดินผ่านจุดที่อสูรบอสหมาป่าตายไป
หลังจากทั้ง 4 คน ได้เดินผ่านเขตที่มีหมาป่าอยู่ก็ได้พบเจอกับเขตผาหิน ซึ่งเป็นที่อยู่ของอสูรโกเลมหิน Monster ที่มีเลเวลถึง 15 โดยในเขตผาตอนนี้ ก็ยังคงมีผู้เล่นจับกลุ่มไล่ตีมอนสเตอร์จำพวกนี้อยู่จำนวนหนึ่ง ทางกลุ่มของฟ้าใสกับชิออนได้ตกลงกันอย่างโดยพร้อมเพรียงว่า ควรให้เฟตและชิออนอยู่ปรับระดับพื้นฐานที่จุดนี้ก่อนดีกว่า เพราะอสูรจำพวกโกเลมเป็นอสูรที่มีความทนทานสูง แต่มีการเคลื่อนไหวที่ต่ำ
เหตุที่พวกฟ้าใสและชิออนเลือกที่สถานที่นี้นั่น เพราะเท่าที่ฟ้าใสรู้ ชิออนเป็นพวกที่ถนัดการต่อสู้แบบรุกเร็ว ส่วนชิออนก็รู้ว่าเฟตเป็นคนที่เคลื่อนไหวเร็วและจู่โจมเร็วเช่นกัน จึงตกลงที่จะเริ่มที่จุดนี้ และนอนนอน จุดนี้เองก็เป็นจุดที่พวกเทียร่าสามารถช่วยควบคุมสถานการณ์ได้ง่ายในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินจนถึงชีวิต ถ้าเลือดไม่หมดไปซะก่อนนะ
ก่อนที่ทั้ง 2 หนุ่มจะได้ลองสู้กับของจริง ก็ถูกทดสอบความรู้และยัดเยียดข้อมูลให้อยู่นาน หลังจากผ่านการทดสอบความรู้อยู่นาน ทั้งสองหนุ่มก็เริ่มที่จะลงมือเองแล้ว โดยมีเฟตนั้นเป็นตัวหน้า และมีชิออนเป็นตัวหลัก ในกรณีฉุกเฉิน
ก่อนที่เฟตและชิออนจะเดินผ่านพวกฟ้าใสไปนั้น เฟตก็ปรายตาไปมองหญิงสาวผมทองที่ยังคงหลับตานิ่งไม่สนใจสบตากับตนอยู่ แต่ก่อนที่เขาจะละตาไปนั้น เขาเห็นหญิงสาวกำลังใช้นิ้วเคาะที่หัวตัวเองอยู่
ถ้าในสายตาของชิออนนั้น ท่านี้ก็คงเหมือนกับเป็นการว่าโง่ หาที่ตายที่จะสู้กับอสูรเลเวลขนาดนี้
แต่สำหรับสายตาของเฟตนั้น นี่กลับเป็นการบอกข้อมูลที่ดีพอสมควร ถ้าเขาเดาไม่ผิดล่ะก็ นี่คงเป็นสิ่งที่เทียร่าได้บอกไว้ตอนตกลงกัน
“ช่วยเล็กๆน้อยๆจริงๆสินะ”เฟตบ่นพึมพำขณะเดินผ่านไป ส่วนเทียร่าก็ทำหูทวนลมไม่สนใจฟัง ต่างกับชิออนและฟ้าใสที่งงกับท่าทีของสองคนนี้
‘โกเลมหิน เลเวล 15 ค่ะ’ เสียงระบบได้รายงานขึ้น เมื่อทั้ง 2 หนุ่ม ได้มองเห็นอสูรโกเลมหิน ที่มีความสูง
เมื่อเฟตได้รับสัญญาณก็พุ่งตัวเข้าไปหาโกเลมพร้อมกับอาวุธดาบระดับ 1 ทันที ตามที่ข้อมูลที่พวกเขาได้มานั้น อสูรโกเลมมีความแข็งแกร่งมาก แต่ก็มีข้อด้วยตรงความเคลื่อนไหวที่ช้ามากเช่นกัน ทำให้เฟตเริ่มที่จะทดสอบความเร็วด้วยการวิ่งวนเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนดู แล้วเขาก็พบว่าอสูรโกเลมเคลื่อนไหวช้ามากจริงๆ ถ้าเทียบกับมนุษย์ ก็เหมือนพวกมันกำลังพยายามที่จะเดินช้าตามคนที่วิ่งเต็มที่เท่านั้น
หลังจากทดสอบสกิลหินที่อสูรโกเลมส่งโจมตีเข้ามาแล้ว เฟตก็ร่างภาพการต่อสู้และจู่โจมในหัว ทันทีที่เห็นเป้าหมายที่ต้องการ เฟตก็พุ่งตัวเข้าไปที่ช่องว่างนั้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อเฟตเข้าใกล้อสูรโกเลม โกเลมหินก็รีบใช้มือทุบศัตรูที่ตรงเข้ามาทันที โดยการโจมตีนั้นเป็นแบบทื่อๆอย่างที่เฟตคิดไว้แล้ว เฟตจึงกระโดดหลบไปที่ด้านซ้ายของมือโกเลม แล้วใช้ฝ่ามือเกี่ยวไปที่กำปั้นของโกเลม ที่กำลังดึงมือขึ้นเพื่อเตรียมการโจมตีต่อไป ทันทีที่โกเลมดึงมือกลับเข้าหาตัว เฟตก็ใช้แรงดึงนั้นเหวี่ยงตัวและส่งกำลังเข้าหาดาบหมุนตัวฟันไปที่กลางหัวของโกเลมแบบเต็มที่
ถ้าเป็นปกติ ผู้เล่นที่ระดับพื้นฐานน้อยกว่าศัตรูมากถึง 14 ระดับ จะไม่สามารถฆ่าศัตรูที่มีเลเวลมากกว่าตนได้ แต่เฟตใช้แรงดึงของโกเลมและแรงหมุนตัวส่งเมื่อสักครู่เป็นแรงบวก ทำให้การโจมตีของเฟตมีพลังทำลายล้างที่สูงขึ้นกว่าปกติ บวกกับที่ว่าตรงจุดที่เฟตโจมตีเป็นจุดอ่อนของโกเลมด้วย ทำให้การโจมตีครั้งเดียว สามารถทำให้ศีรษะของอสูรโกเลมแตกออกเป็นเสี่ยงๆได้
ทันทีที่ลงถึงพื้น เฟตเองก็รีบทิ้งดาบที่กำลังแตกสลายแล้วกุมมือที่สั่นไม่หยุดของตัวเอง ด้วยเป็นการฝืนกำลังมากเกินไป ทำให้ร่างกายของเขาฟ้องว่าเป็นการเริ่มงานที่หนักเกินไปจริงๆ
ผู้เล่นคนอื่นๆที่มองมาเห็นภาพนั้น ถึงกลับอ้าปากค้าง เพราะขนาดพวกตนที่ว่ามีเลเวลน่าจะสูงมากกว่าผู้เล่นมือใหม่ คนนั้นแล้ว ก็ยังไม่สามารถฆ่าอสูรโกเลมได้ภายในดาบเดียว (ดูจากดาบเริ่มต้นที่เฟตใช้ และชุดเริ่มต้นมือใหม่)
ฟ้าใสที่มองเห็นเหตุการณ์นี้นั้นอ้าปากค้างเช่นกัน เพราะเธอก็ไม่เชื่อว่าเฟตจะล้มได้ด้วยตัวคนเดียว ตอนแรกเธอกะว่าจะให้เฟตและชิออนเรียนรู้การเคลื่อนไหวของอสูรโกเลมก่อน ถึงจะเริ่มสอนสิ่งที่เป็นการเก็บเลเวลจริงๆ แต่นี่อะไร เพียงแค่บอกจุดสังเกตและจุดด้อยไม่เท่าไหร่ เฟตก็สามารถล้มอสูรโกเลมได้ในดาบเดียวเสียแล้ว
เทียร่าเองก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงบอกเป็นนัยๆกับเฟตไปว่าที่หัวของโกเลมจะอ่อนแอที่สุด และแน่นอนคนที่พึ่งจะฆ่ากันตายเมื่อสักครู่ ก็ไม่ควรที่จะเชื่อใจเธอง่ายๆ แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับเชื่อ แถมยังจู่โจมได้อย่างสวยงามมากเสียด้วย สวยงามจนเธอไม่มั่นใจว่า ถ้าเธอทำ จะเสียแค่พลังกายมากกว่าพลังพิเศษแบบที่เฟตทำหรือไม่
ชิออนนั้นก็อ้าปากค้างเช่นกัน เพียงแต่ไม่ใช่เพราะอาการตะลึงแต่เป็นเพราะโดนแย่งซีนต่างหาก พวกเขาอยู่ด้วยกันมานาน จึงทำให้พอรู้ว่าเฟตนั้น มีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วระดับสัตว์ประหลาด แต่เมื่อเขาเห็นเฟตกุมมืออยู่ ก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อสักครู่เกิดเหตุผิดพลาดแน่ๆ จึงแบกกระเป๋าใส่น้ำยาต่างๆเข้าไปดู
เฟตเห็นชิออนเดินเข้ามาใกล้ ก็แบให้ดูง่ามมือที่ฉีกขาดของเขา ชิออนจึงเข้าใจได้ในทันที ว่าการฝืนต่อสู้กับอสูรหรือใครที่มีเลเวลกว่าจะเป็นเช่นไร
ชิออนยื่นน้ำยาต่างๆให้เฟตเอาไปกิน ส่วนเฟตก็กินอย่างว่าง่าย หลังจากแผลหายเป็นปกติเฟตก็พากันเดินกลับมารวมกลุ่มกับฟ้าใสที่นั่งรออยู่
เมื่อชิออนมาถึงก็ร้องบอกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ทันที ทำให้ฟ้าใสตกลงใจที่จะพาไปตรงจุดที่ง่ายกว่านี้ แต่ทว่า
“คนบาดเจ็บเขายังไม่ได้พูดอะไรเลยนี่”เทียร่าเอ่ยออกมา เมื่อเห็นว่าเฟตหุบปากไม่พูดอะไรสักคำ ต่างกับชิออนที่พูดน้ำไหลไฟดับ
“นี่ แม่คุณ ชินก็รู้ว่าคุณสุดสวยไม่ชอบเจ้าเฟตมัน แต่ก็ไม่เห็นต้องบอกให้สู้ฝืนตัวนี่”ชิออนว่าออกไป ส่วนฟ้าใสก็ดึงหูแฟนตัวเองที่กำลังจะจุดฉนวนสงคราม ถ้าชิออนไม่ยุ เทียร่าไม่ตาม เฟตก็ไม่เคลื่อนไหว เพื่อไปป้องกันชิออนเด็ดขาด
เทียร่าไม่สนใจที่ชิออนพูด เธอเพียงมองตาเฟตนิ่ง ส่วนเฟตเองก็จ้องตอบกลับเช่นกัน ทำให้ฟ้าใสและชิออนอ่านไม่ออก ว่า 2 คนนี้จะเริ่มทำอะไร
ในขณะที่เฟตจ้องมองสายตาของเทียร่านิ่งอยู่นั้น แสงสว่างก็ปรากฏที่ด้านบนของเฟตและชิออนแล้วไล่จากบนลงล่าง พร้อมกับเสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของ 2 หนุ่ม
‘กลุ่มผู้เล่นชิออน และเฟต ทำการสังหารโกเลมหินเลเวล 15 ได้ค่ะ’
‘ระดับพื้นฐานผู้เล่นชิออนจาก 1 เพิ่มเป็น 5 ค่ะ’
‘ระดับพื้นฐานผู้เล่นเฟตจาก 1 เพิ่มเป็น 5 ค่ะ’
‘ผู้เล่นได้รับเงิน 1,600 Silver ค่ะ’
‘ผู้เล่นได้รับเกราะแขนหินผาระดับ 1 จำนวน 1 คู่ ค่ะ’
เนื่องจากตอนจะออกจากเมืองมา ชิออนชวนเฟตตั้งปาร์ตี้เผื่อไว้แล้ว จึงทำให้ระบบประกาศกันแค่เฉพาะ 2 คนในปาร์ตี้
“เก็บอยู่ที่นี่ก็ดีแล้วครับ”เฟตเอ่ยออกมา เมื่อคิดว่าการเสียกำลังไปบ้าง แลกกับเลเวลที่มากขึ้นมาหลายเลเวลคงจะคุ้มกว่ามาก จึงเอ่ยปากไม่ยอมไปไหน ส่วนชิออนก็พูดไม่ออก เพราะเฟตเป็นคนบาดเจ็บ ไม่ใช่เขา ทำให้เขาต้องทำตามที่เพื่อนตัวเองเลือก
“แล้วอย่าหนีล่ะ”เทียร่าเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก จนทำให้ชิออนคิดว่าผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะโรคจิตที่เห็นผู้ชายตายเป็นแน่แท้
“ลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น”เฟตยิ้มแสระแล้วตอบกลับ ทำให้ทั้ง 2 คนส่งสายตาให้กันได้สักพัก เฟตก็แยกตัวไปเก็บเลเวลต่อ เพื่อไม่ให้ตนถูกดูถูกได้ เขาจะไม่ยอมถูกพูดว่า ความเก่งจริงๆของเขา อ่อนแอในโลกนี้อีกแน่
หลังจากชิออนเกลี้ยกล่อมให้เฟตเปลี่ยนจุดไม่สำเร็จ เขาเลยต้องอยู่เก็บเลเวลแบบฝืนตัวเองต่อ
เฟตเริ่มเตรียมอาวุธสำรอง ส่วนชิออนก็เตรียมเลือดและน้ำยาต่างๆให้พร้อม เพื่อเตรียมรับมือในกรณีเฟตนอนดิ้นอยู่ตรงไหนสักแห่งจะได้เข้าไปพยาบาลทัน
หลังจากเห็นความพร้อมของเพื่อนร่วมทีมแล้ว (ชิออนที่กำลังเตรียมน้ำยาพยาบาลเต็มสองมือ) เฟตก็ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปหาอสูรโกเลมตัวต่อไปที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้น
ด้วยอสูรโกเลมเป็นอสูรประเภทไม่ต่อสู้รวมกลุ่ม ถ้าไม่ถูกก่อกวนพร้อมๆกัน ทำให้เฟตเลือกที่จะสู้กับอสูรสายพันธ์นี้ มากกว่าที่จะสู้กับอสูรหมาป่า ซึ่งถ้าเขาพลาดไป คงถูกรุมยำเละเป็นแน่
เฟตยังคงเดินด้วยความเร็วปกติเข้าไปหาอสูรโกเลม ที่รับรู้ถึงจิตสังหารของผู้เล่น ซึ่งเป้าหมายคือมันแน่ๆ อสูรโกเลมจึงจัดการโจมตีเข้ามาก่อนแทนการทักทาย อสูรโกเลมหวดหมัดตรงเข้ามาหาเฟตที่กำลังเดินเข้ามาใกล้
การโจมตีหมัดขวาตรงแบบนี้ ด้วยเลเวลอสูรที่มีถึง 15 และความสูงถึง 2 เมตรของอสูรโกเลมนั้น
ถ้าคนที่มีเลเวลต่ำๆแบบเฟตถูกโจมตีแบบเต็มๆแรง ก็คงไม่แคล้วที่จะต้องกลับไปเกิดใหม่แน่นอน แต่เฟตนั้นร่างภาพการต่อสู้ไว้ก่อนแล้ว ชายหนุ่มจึงก้าวเท้าขวานำไปก้าวเดียว แล้วเอียงตัวทำมุม กับหมัดของโกเลม ทำให้หมัดที่ชกมานั้นหวดลมไปแทน อสูรโกเลมเห็นตนโจมตีพลาดก็ทุบแขนซ้ายตรงตามเข้ามาเพื่อเป็นการซ้ำศัตรู
เฟตเห็นโกเลมโจมตีลงมาก็แสระยิ้มเล็กน้อย เพราะเขารอจังหวะอยู่แล้ว เมื่อหมัดของโกเลมลงมาถึงตัว ชายหนุ่มก็ใช้จังหวะเท้าตามแบบที่ตนเคยใช้ในชีวิตจริงออกมา ทำให้ตนเองสามารถหลบการโจมตีได้แบบพริบตา
“การก้าวย่างแบบนักสู้มืออาชีพนี่”เทียร่าที่ชีวิตของตนเคยผ่านเคยเห็นการต่อสู้มาก่อน พึมพำออกมา เมื่อเห็นการก้าวเท้าของเฟต ที่ก้าวสั้น แต่มั่นคงทุกย่างก้าว แล้วทุกสิ่งก็เต็มไปด้วยแบบแผน
หลังจากเฟตก้าวเท้าวนรอบตัวโกเลมแล้วหลบสกิลจนรอบตัวแล้ว เขาก็เปลี่ยนท่าจากการก้าวเท้าเป็นการตั้งฝ่ามือขึ้นแบบกังฟู และเตรียมรับแรงปะทะที่อสูรโกเลมกำลังส่งหมัดตรง ที่เสียหลักการจู่โจมเข้ามาหา
หมัดตรงที่ผิดรูปการโจมตีของโกเลมพุ่งเข้าไปปะทะกลางฝ่ามือของเฟตทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเฟตก็รีบผ่อนร่างกายและมือตามแรงปะทะที่หนักหน่วยของอสูรโกลม
เฟตใช้มือที่ฟื้นสภาพความพร้อมแล้วจับไปที่ท่อนแขนของโกเลม แล้วใช้การสไลด์เท้าเข้าไปประชิดตัวของโกเลมมากขึ้น
อสูรโกเลมเห็นศัตรูเข้ามาในระยะประชิดก็ถอยหลังหลบเล็กน้อย แต่ด้วยเป็นการก้าวจังหวะที่ผิดพลาด ทำให้มันถึงกับเสียหลักจนเกือบจะล้ม
เฟตเห็นศัตรูเปลี่ยนแปลงท่าทีและกำลังจะพลาด ตนก็รีบชิงโอกาสโจมตีเข้าหาด้วยดาบที่สะพาบอยู่ที่ด้านหลัง
ชายหนุ่มหวี่ยงดาบเข้าโจมตีอสูรโกเลมแบบเต็มแรง ด้วยแรงของเฟตบวกกับการผิดพลาดของตัวโกเลมเอง ทำให้หัวของอสูรโกเลมนั้นถึงกับร้าวจนมันคำรามด้วยความโกรธแค้นที่ถูกลูบคม ต่างกับเฟตที่จ้องมองอาวุธสำรองที่กำลังแตกสลายด้วยสายตาเซ็งๆ เมื่อความคิดของเขานั้นผิดพลาดไปเสี้ยวนึง
ในขณะที่เฟตกำลังคิดอย่างเซ็งๆกับตัวเองอยู่นั้น อสูรโกเลมก็ไม่ปล่อยให้โอกาสแก้แค้นหายไป เมื่อมันจู่โจมชายหนุ่มด้วยหมัดคู่ ทำให้ชายผู้อยู่ภายใต้การโจมตีต้องรีบถีบตัวลอยถอยหลังไป แต่ด้วยเป็นการเสียจังหวะที่มากจนเกิน ทำให้เฟตนั้นถูกโจมตีเต็มๆเข้าที่แขนและขาที่ยกขึ้นมาตั้งการ์ด จนทำให้ชายหนุ่มกระเด็นไปหลายเมตร และลงมายืนด้วยสภาพแขนที่บิดเบี้ยว
อสูรโกเลมเห็นศัตรูถอยไปแล้วก็เตรียมใช้สกิลลูกหินถล่ม ที่สามารถทำให้ลูกหินในบริเวณนั้นสามารถพุ่งเข้าไปหาเฟตได้
แต่ชิออนที่เห็นจังหวะแล้วนั้น ไม่ยอมปล่อยให้อสูรโกเลมรอดไปได้ เมื่อชิออนเข้าไปใกล้ได้ เขาก็ตีรังกาสปริงตัวลอยข้ามหัวของโกเลมที่กำลังตั้งสมาธิเรียกใช้สกิลจะเก็บเฟตอยู่ ดาบเริ่มต้นของชิออนนั้นหวดเข้าตามรอยแตกเดิมที่เพื่อนรักโจมตีไว้ ทำให้หัวอสูรโกเลมนั้นได้ผุพังและแตกสลายกลายเป็นผงหินธรรมดา ส่วนดาบในมือชิออนก็แตกตามโกเลมไปด้วย
‘กลุ่มผู้เล่นชิออน และเฟต ทำการสังหารโกเลมหินระดับ 15 ได้ค่ะ
‘ระดับพื้นฐานผู้เล่นชิออนจาก 5 เพิ่มเป็น 8 ค่ะ’
‘ระดับพื้นฐานผู้เล่นเฟตจาก 5 เพิ่มเป็น 8 ค่ะ’
‘ผู้เล่นได้รับเงิน 1500 Silver ค่ะ’
‘ผู้เล่นได้รับเกราะอ่อนศิลา ระดับ 3 จำนวน 1 ตัวค่ะ’
“เป็นไงล่ะ ฉันเองก็ไม่ใช่หมูนะเฟ้ย ฮ่าฮ่าฮ่า”ชิออนยืนหัวเราะร่วนคนเดียวบนซากตัวของอสูรโกเลม ดุจเขาเป็นคนสังหารเพียงผู้เดียว ต่างกับพวกฟ้าใสและผู้เล่นคนอื่นๆที่มองดูแล้วคิดไปว่า ดูเหมือนการกระทำของมารซะมากกว่า ที่ยืนหัวเราะบนศพคนอื่นเนี่ย
หลังจากเห็นว่าพวกหนุ่มๆเอาตัวกันรอดได้แล้ว พวกฟ้าใสก็ลดความระวังภัยลงจนเหลือระดับปกติ แล้วคอยนั่งดูพวกหนุ่มๆไล่ตีมอนสเตอร์โกเลมต่อไป
แต่ก่อนที่จะเริ่มการเก็บเลเวล พวกเฟตก็กลับมารวมตัวที่กลุ่มของฟ้า ซึ่งต้องมาตระเตรียมเลือดและอาวุธให้พร้อม
อาวุธที่เฟตและชิออนมีนั้น บัดนี้ไม่มีหลงเหลือเลยแม้แต่อย่างเดียว ทำให้พวกเขาไม่สามารถเริ่มการเก็บเลเวลได้
ทว่า เทียร่าก็ช่วยสมกับที่บอกจริงๆ ด้วยคำว่า ‘ช่วยเล็กๆน้อยๆของเธอ’ทำให้เธอโยนอาวุธระดับ 1 กว่า 10 เล่มให้พวกเฟต
เฟตมองหน้าหญิงสาวสักพักก็ยิ้มให้แล้วรู้สึกชื่นชม ที่หญิงสาวพูดตามที่ตนเคยสัญญาไว้จริงๆ ทั้งๆที่เธอไม่ชอบผู้ชายอย่างรุนแรง ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมมากจริงๆจนตอนที่จะออกไปสู้กับอสูรโกเลม เลยเผลอพูดออกมาไม่ได้
“คุณเป็นคนดีมากจริงๆ”เฟตว่าจบก็ทิ้งให้เทียร่าอึ้งจ้องมองตามหลังตาปริบๆ เธอนึกไม่ถึงว่าคนที่ตนเกือบจะฆ่าตายกลับมาเชื่อใจเธอได้มากขนาดนี้ แถมยังเอ่ยขอบคุณเธออีกในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอไม่เข้าใจความคิดของชายผู้นี้เลยจริงๆ
ฟ้าใสและชิออนหันไปมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ ที่เห็นภาพสถานการณ์ในครั้งนี้
ชิออนเห็นว่าเฟตเริ่มบุกแล้ว เขาเลยวิ่งเข้าไปร่วมล่าอสูรโกเลมบ้าง
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจนเกือบบ่าย ชิออนที่เคยชนะอสูรโกเลมมาตลอด แต่ตอนนี้กลับมาพ่ายแพ้ให้กับแดดที่ร้อนจัด จนในที่สุดชายหนุ่มก็แอบไปนั่งอู้ ปล่อยให้เฟตวิ่งวุ่นอยู่คนเดียว
“นายนี่ ไม่ได้ความเลยนะ มาแอบนั่งอู้อยู่แบบนี้เนี่ย”เทียร่าบ่นออกมาดังๆ ใส่ชิออนที่เปิดข้าวกล่องที่ห่อมาจากภัตตาคาร แล้วนั่งกินหน้าตาเฉยไม่สนสายตาใคร
“ชินไม่ได้นั่งอู้นะน้องเทียร่า พี่ชินคนนี้กำลังเติมพลังเพื่อเตรียมพลัดมือกับเพื่อนรักต่างหาก”ชิออนค้อนว่าแล้วนั่งกินต่อไปอย่างไม่สนใจสายตาของฟ้าใสที่จนปัญญากับแฟนตัวเอง ที่สบายใจได้ทุกที่ทุกเวลา
เมื่อกินอาหารกลางวันเสร็จ ชิออนก็ล้มตัวลงนอนกับโขดหินหน้าตาเฉย ทิ้งให้ฟ้าใสกับผู้เล่นคนอื่นๆอ้าปากค้าง ที่เห็นผู้เล่นหน้ามึนขนาดนอนทิ้งให้เพื่อนไล่เก็บเลเวลคนเดียว
ปกติของคนปาร์ตี้ร่วมกัน มักจะช่วยเหลือกันสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เพื่อนเหนื่อยล้าจนเกินไป แล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปรียบกัน แต่สำหรับสิ่งที่ชิออนกำลังทำนั้น เรียกได้เลยว่า เห็นแก่ตัวแบบสุดๆ
ชิออนยังคงนอนต่อไปแบบไม่สนใจใคร แม้สายตาของคนที่มองมาจะทิ่มแทงได้จนถ้ามันเป็นดาบล่ะก็ ชิออนคงถูกแทงพรุนตายไปแล้วก็ตามเถอะ
ฟ้าใสทนกับอาการที่ชิออนแสดงออกมาไม่ไหว เธอเลยเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ แล้วเอาไม้เขกหัวไปหนึ่งที
โป๊ก!! “โอ๊ย”ชิออนร้องลั่นเมื่อถูกโจมตีที่หัวโดยตรงจากผู้เล่นที่มีเลเวลต่างกันมาก
“ทำอะไรอ่ะ ฟ้า”ชิออนรีบลุกขึ้นมานั่งถาม ส่วนคนที่ถูกถามก็มองตาเขียวปัด
“ทำไมถึงทำตัวได้น่าเกลียดแบบนี้ ปล่อยให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ออกไปเก็บเลเวลให้ตัวเองเนี่ยนะ”ฟ้าใสถามเสียงโกรธๆ ส่วนชิออนก็เอาน้ำยาเพิ่มเลือดมาเติม เพื่อให้แผลที่หัวปิด เมื่อลูบหัวแล้วเห็นว่าเลือดไหลเยิ้มเลย
“แหมๆ อย่าเข้าใจผิดสิที่รักจ๋า ชินแค่ไม่อยู่รบกวนมือกวนเท้าเฟตเอง”ชิออนตอบขณะลูบหัวเพื่อให้ความรู้สึกปวดนั้นหายไป
“รบกวนยังไง แค่ชินลงไปช่วยเขาตีนี่นะ รบกวน อย่ามาอ้างหน่อยเลยน่า”ฟ้าใสชี้หน้าว่าขณะเดินเข้าใกล้ด้วยท่าทางเหมือนราชินีปีศาจร้ายของหนังอัศวิน
ชิออนที่เห็นท่าทางนั้นก็ยิ้มแห้งๆ ขยับถอยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกล่าวเสียงรัวว่า
“ก็ลองดูดิ๊ หมอนั่นเล่นสนุกขนาดนั้นชินจะไปช่วยทำไม ถ้าชินไปก็เหมือนขวางหูขวางตาน่ะสิ”ชิออนรีบพูด ส่วนฟ้าใสก็ไม่สนใจ เธอยังคงเดินเข้าหาชิออนด้วยท่าทางมุ่งร้าย แต่ทว่า
หญิงสาวผมทองที่ไม่สนใจมองอะไรนั้น กลับดึงชายเสื้อห้ามเอาไว้ก่อน ฟ้าใสที่กำลังจะเข้าไปจัดการคนเห็นแก่ตัว ต้องล้มเลิกเป้าหมาย แล้วหันมามองอย่างงงๆ ที่เห็นเทียร่าจะช่วยชิออน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลก เพราะเพื่อนสาวเป็นคนที่เกลียดผู้ชายเอามากๆ
“หมอนี่อาจจะพูดความจริงก็ได้นะ”เทียร่าว่าแล้วชี้ให้ดูท่าทางของเฟต ที่กำลังแสระยิ้มที่มุมปาก เหมือนคนกำลังได้ทำสิ่งที่สนุก
ฟ้าใสเห็นท่าทีที่ยิ้มแย้มแบบเย็นๆของเฟตแล้ว ก็พูดอะไรไม่ออก เพราะท่าทางอย่างนั้น เหมือนคนที่ได้เจอของที่ชอบ แล้วกำลังจะได้ใช้เวลาร่วมกับความสุขของตัวเอง
ชิออนเห็นท่าทีที่อ่อนลงของฟ้าใสก็ถอนหายใจ แล้วปลีกตัวหลบไปนอนปล่อยให้ระบบรายงานอยู่ที่ข้างหูอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนับวัน ระบบมันก็ยิ่งรายงานถี่ขึ้น ทำให้ชิออนรู้ว่า เฟตเริ่มจับทิศทางการล่าอสูรมอนสเตอร์โกเลมได้แล้ว เพราะขนาดเฟตใช้มือเปล่าๆ ต่อยไปตรงเบ้าลูกตาของโกเลม อสูรหินยังตายเลย
หลังตะวันคล้อยต่ำลงไปอีก ฟ้าใสเห็นว่าอสูรโกเลมเริ่มกลายเป็นหมูสำหรับเฟตแล้ว เธอก็สั่งให้เลิกล้างบางอสูร แล้วกลับมารวมกลุ่มกันก่อน
“คุณเฟต กับชินตอนนี้เลเวลคงเลยไปมากแล้วสินะคะ”ฟ้าใสหันไปถามชิออนที่เดินเข้ามาหาด้วยสภาพงัวเงีย
“หืม งั้นเหรอ”ชิออนถามอย่างสะลืมสะลือ ส่วนเฟตนั้นนั่งพักอยู่ที่โขดหินใกล้ๆ
“เลเวลเท่าไหร่แล้วเหรอ”ฟ้าใสถาม ชิออนเลยทำหน้ามึนเพราะตนไม่ได้ฟังมัวแต่นอน ส่วนเฟตนั้นก็หยิบน้ำกระป๋องที่กดซื้อมาในเมืองมาเปิดกินดับกระหาย
“แล้วมันจะรู้ได้ยังไงล่ะ ชินหลับอยู่นี่ รู้แต่ว่าตอนล่าสุดมันขึ้นไปถึง เลเวล 8 แล้วก็เท่านั้นเอง”ชิออนพึมพำ ส่วนเฟตก็นั่งกินกาแฟกระป๋องสูตร ‘จะเข้มข้นไปไหน’
ท่าทางเฟตจะชอบกาแฟมากๆ เพราะหลังจากกินเข้าไปแล้ว ชายหนุ่มก็นั่งดื่มด่ำอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองต่อไป
“ชินก็ลองเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาสิ แล้วเรียกค่าสถานะของตัวเองขึ้นมาด้วย มันจะมีบอกค่าความสามารถต่างๆ ของตัวเองอยู่”ฟ้าใสแนะนำ เฟตจึงเลิกสนใจรสชาติกาแฟแล้วหันมาทำตามชิออนไปด้วย เผื่อลืม
“หน้าต่างระบบ ค่าสถานะ”เฟตและชิออนเอ่ยพร้อมกัน ระบบก็ตอบรับพร้อมกับมีหน้าต่างระบบ ที่เป็นหน้าจอแบบลอย และมีขนาดเท่าจอ I Pad
“เลเวล 15 น่ะ จะเอาค่าพลังและเอสพี (SP) ด้วยมั้ย”ชิออนตอบฟ้าใส แต่หญิงสาวกลับโบกมือว่าไม่ต้อง
“กะไว้แล้วเชียว ว่าต้องเลเวลเท่ากับโกเลมแล้ว”ฟ้าใสพูดแล้วหันไปมองหน้าเทียร่าที่เธอเองก็มีความคิดเดียวกัน
“อะไรทำให้คิดแบบนั้นล่ะครับ”เฟตเอ่ยถามอย่างสงสัย ทำให้ชิออนสงสัยตามไปด้วย
ฟ้าใสยิ้มอมภูมิเล็กน้อย เทียร่าจึงชี้ไปที่อสูรโกเลมแล้วตอบสั้นๆ “ความสูสีน่ะ”
“ใช่ค่ะ เพราะหลังๆมานี่ คุณเฟตใช้มือเปล่าสู้กับโกเลมได้แล้ว เราเลยรู้ว่าเลเวลของคุณตอนนี้จึงเทียบเท่ากับโกเลม”ฟ้าใสเสริมขึ้นมา ทำให้เฟตพยักหน้าเห็นด้วย ตอนแรกๆเขาก็คิดว่าสู้ยากจริงๆนั่นล่ะ แต่พอหลังๆมานี้ ศัตรูก็เริ่มเหมือนกระสอบทรายที่รอให้เขาเข้าไปซ้อมเท่านั้น
“แล้วอีกอย่าง ค่าความเร็วของคุณเฟต กับค่าพลังการโจมตีคงเพิ่มมากขึ้นด้วยใช่มั้ยคะ”ฟ้าใสถามข้อมูล ชิออนจึงหันมามองฟ้าใส “รู้ได้ยังไงอ่ะ ว่าค่าพลังพวกนี้มันเพิ่ม”
“ก็เพราะ ถ้าผู้เล่นคนใด ฝึกสายอาชีพที่ตนถนัดบ่อยๆ คนๆนั้นจะเก่งขึ้นเรื่อยๆค่ะ ยกตัวอย่างเช่น นักธนู เมื่อเขายิงธนูมากๆ ค่าพลังความแม่นยำก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ่งชำนาญมากเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นฐานพลังในการเพิ่มสกิลหรือความสามารถน่ะคะ”ฟ้าใสอธิบายแบบผู้รู้
“แล้วอีกอย่าง เท่าที่ดูมาตั้งนาน หมอนี่เป็นคนที่เคลื่อนไหวเร็ว และติดต่อกันหลายๆครั้ง ฉันเลยเดาได้เลยว่า ค่าพลังในการเคลื่อนที่ของร่างกายท่อนล่าง และค่าพลังในการเคลื่อนไหวของร่างกายท่องบน คงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”เทียร่าเสริม ทำให้ชิออนพยักหน้าให้ เพราะตั้งแต่อสูรโกเลมตัวที่ 4 ตายไป ค่าพลังพวกนี้ก็เพิ่มขึ้นละ 1 – 2 จุด จนหลังๆมานี่ เมื่อเขาหลับไปก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
“ค่าพลังพวกนี้คงเพิ่มช้าขึ้นแล้วสินะ”เทียร่าหันไปถามชายหนุ่มที่พยักหน้าแบบไม่ปิดบังแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“เมื่อเลเวลอะไรนั่นมาเท่ากับโกเลมพวกนี้ ค่าพลังพวกนี้ก็ไม่ค่อยจะเพิ่มแล้วล่ะ”
“คงเป็นเพราะว่าโกเลมมีเลเวลเท่ากันแล้วล่ะมั้ง พลังพวกนี้เลยไม่อัพให้อีก คุณเฟตคงต้องย้ายไปเก็บกับอสูรที่เก่งกว่านี้แล้วล่ะ ถ้าอยากให้เก่งขึ้นกว่านี้”ฟ้าใสแนะนำ เฟตจึงพยักหน้าแล้วถามอย่างกระตือรือร้น
“แล้วอสูรสายพันธ์ต่อไปนี่ คืออะไรครับ หมา หมี หรือหมู”
ฟ้าใสและเทียร่าที่เห็นท่าทีนี้ เริ่มคิดไปในทางเดียวกันแล้วว่า ชายผู้นี้คือผู้ที่ชื่นชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ แต่พวกเธอก็ไม่ได้เกี่ยงข้อมูล จึงตอบเรียบๆเพื่อให้เป็นเส้นทางเลือกเดิน
“เป็นเอลฟ์น่ะ เลเวล 26 ได้ค่ะ”ฟ้าใสตอบจบ ชิออนก็หันไปมองเฟตที่หน้านิ่งเหมือนเดิม แต่ประกายสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย ว่าเอลฟ์เป็นตัวอะไร
“อย่าถาม เห็นเองก็คงจะรู้”ชิออนตอบสายตาที่อยากรู้ของเฟต ตามความจริงเขาก็พอรู้จักอยู่บ้าง แต่ไม่อยากอธิบายอะไรให้มากความ เพราะผลสุดท้ายเดี๋ยวก็ไปเจอกับตัวเอง เขาจะเปลืองน้ำลายเปล่าๆ
เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น เฟตก็ไม่ซักไซ้อีก ชายหนุ่มลุกขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนพร้อม ต่างกับชิออนที่เกียจคร้านจะเดิน
ฟ้าใสเห็นชิออนมีท่าทีเช่นนั้นก็ถอนหายใจ แล้วเดินนำไปตามทางที่มุ่งไปยังทางออกทางทิศเหนือของป่าหินพร้อมกับเทียร่า
เฟตนั้นเดินตามไปอย่างว่าง่าย ต่างกับชิออนที่กอดหินนอนสุดที่รักแน่นไม่ยอมปล่อย จนหินก้อนนั้นทนไม่ไหว นำทีมโกเลมออกมาส่งถึงทางออกที่ป่าเหนือ
“แหม มาถึงก่อนอีกนะเนี่ย”ฟ้าใสเอ่ยยิ้มๆมองดูสภาพของชิออนที่นั่งหอบอยู่กับพื้น หลังจากถูกไล่กระทืบจนเกือบจะถึงทางออก ยังดีที่เฟตเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงร่วมกับชิออนหันกลับไปรับพิธีอำลาของพวกอสูรโกเลม จนน้ำตาแทบจะไหลตามความเหนื่อย
“เหอะๆ นั่งดูอยู่เฉยๆ อย่าพูดได้ป่ะ มันเหนื่อยนะเนี่ย”ชิออนบ่นพึมพำ ต่างกับเฟตที่ยังคงเอากาแฟชื่อแปลกๆมาเปิดดื่มอยู่เหมือนเป็นเรื่องปกติ ทำให้ชิออนหันไปมองอย่างสงสัย ว่าเฟตไม่มีความเหนื่อยล้าเลยหรือยังไง
ฟ้าใสที่เห็นชิออนมองเฟต ก็เดาได้ว่าแฟนตัวเองคิดอะไรอยู่ จึงพูดขึ้นก่อนว่า
“เพราะคุณเฟตฝึกสู้เก็บเลเวลมาตลอดยังไงล่ะ ทำให้ร่างกายนั้นปรับสภาพได้เร็วกว่าคนบางคน ที่เอาแต่นอนไม่ยอมให้ร่างกายได้ออกกำลังในสิ่งที่สมควรทำ”ฟ้าใสอธิบายถึงข้อดีที่ลงแรงเอง ทำให้ชิออนตาเงาเป็นประกาย
“สู้ไปเรื่อยๆ เราก็เก่งเรื่อยใช่มะ งั้นเฟตมาสู้กันเถอะ จะได้เก่งกว่านี้กันอีกหลายเท่าตัว”ชิออนว่าตาเป็นประกาย แต่ฟ้าใสกลับชิงพูดขึ้นก่อน
“ถ้าทำอย่างนั้นก็มีแต่ทำให้เหนื่อยเปล่าเท่านั้นล่ะ ผู้เล่นที่มีเผ่าพันธุ์เหมือนกัน ไม่สามารถเพิ่มค่าความสามารถของตัวเองได้ ยกเว้นแต่มีตำแหน่งที่เป็นถึงอาจารย์ด้านนี้เฉพาะล่ะก็นะ”ฟ้าใสอธิบายจบก็ชี้มือไปที่ป่าทึบด้านหน้า ซึ่งแดดที่กำลังโพล้เพล้ไม่อาจส่องลอดลงมาได้
ชิออนมองตามมือของฟ้าใส ก็เข้าใจความนัยได้ทันทีว่า ให้พวกเขาเข้าไปฝึกมือกับอสูรที่อยู่ในป่านั่นซินะ
“ไม่มีทางเลือกล่ะนะ เอาล่ะนะพี่น้อง ลุยกันเถอะ”ชิออนว่าแล้วก็เดินดิ่วนำทันที แต่ทว่า เฟตกลับกระชากตัวจนลอยกลับมาซะก่อน ทำให้ชายหนุ่มทำหน้าเหลอหลา
“ทำอะไรฟะ”ชิออนหันมาบ่นไม่ทันขาดคำ ตรงพื้นจุดที่ชิออนเคยยืนอยู่เมื่อสักครู่ก็ปรากฏร่องรอยแยกจากจุดนั้นไป 3 เมตร
“อะไรวะนั่น”ชิออนหน้าซีดถาม ถ้าเมื่อสักครู่เขาไม่ถูกเฟตดึงตัวกลับมาคงถูกรอยบนพื้นตัดขาไปแล้วก็ได้
เฟตไม่ได้ตอบคำ เขาเพียงมองไปทางเทียร่าที่พึ่งปล่อยสกิลเสร็จ ส่วนด้านฟ้าใสก็ทำหน้าแหย เมื่อเห็นว่าเพื่อนตนลงไม้ลงมือก่อนพูดอีกแล้ว
“ถ้าอยากตายนัก ก็ทะเล่อทะล่าเข้าไปก็ได้นะ แต่ฉันรับประกันได้เลยว่า ไม่เกิน 5 นาที นายได้กลับไปตีโกเลมฆ่าเวลารอพวกฉันกลับไปอีกครั้งแน่ๆ”เทียร่าตอบเรียบๆ ทั้งๆที่ตัวเองเกือบจะทำให้คนบางคนขาขาดแล้ว ชิออนถึงกับลอบกลืนน้ำลายให้กับท่าทางแบบนี้
“แล้วจะให้ทำอะไรอีกล่ะ คุณน้องถึงจะพอใจล่ะแม่คุณ”ชิออนถามอย่างเซ็งๆ ทำให้ฟ้าใสต้องรีบอธิบาย
“ก่อนที่จะเข้าป่า ทางเราก็มีสิ่งที่จะอยากสอนก่อน เพื่อให้สามารถอยู่รอดในป่า ที่พวกเอลฟ์แข็งแกร่งขึ้นกว่าปกติ นั่นก็คือการดึงค่าพลัง SP ออกมาใช้ป้องกันตัวและใช้ต่อสู้น่ะคะ”หลังอธิบายเสร็จ เธอก็เดินออกมาคั้นกลางระหว่างเทียร่ากับชิออน
“ดูนะคะ นี่คือการดึงพลังของตัวเองออกมา”ทันทีที่ฟ้าใสเอ่ยจบ ที่ด้านหน้าตัวเองก็ปรากฏน้ำแข็งออกมา
ชิออนที่เคยเห็นฟ้าใสใช้เวทสังหารอสูรหมาป่าแล้ว เบิกตากว้างด้วยความสนใจ ส่วนเฟตก็สังเกตด้วยความสนใจเช่นกัน
“พลังพวกนี้ เมื่อเราดึงออกมาแล้ว ค่าพลัง SP จะลดลงตามจำนวนที่เราดึง สายจิตนั้นจะง่ายกว่าสายเวท ส่วนสายเวทจะซับซ้อนมากกว่า”ฟ้าใสว่าจบก็กระจายพลังเวทออกไปรอบๆตัว แล้วทำให้เกิดปราการกับเสาน้ำแข็งรอบๆจุดที่พวกเธอยืนอยู่
พวกเฟตที่สังเกตอยู่ต่างรู้สึกทึ้งกับสิ่งที่ฟ้าใสทำ จึงปรบมือกันอย่างพร้อมเพรียง ฟ้าใสได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเขินๆแล้วสลายพลังพร้อมกับเสาน้ำแข็งไปด้วย
“พลังสายเวท เป็นการเอาพลังรอบๆตัวมาใช้ แต่ในสภาพแห้งแล้งอย่างนี้ ฟ้าดึงพลังออกมาโดยไม่คำนึงถึงสถานที่ ผลความรุนแรงของพลังจึงลดลงมามาก ส่วนด้านค่าพลังก็สิ้นเปลืองมากขึ้นไปด้วย”ฟ้าใสอธิบายให้ฟังเสร็จ ชิออนก็ยกมือทันทีด้วยความสงสัย
“ผมมีสิ่งที่สงสัยครับอาจารย์ ถ้าเวทใช้ได้ด้วยอากาศรอบๆตัว แล้วจิตล่ะ จะใช้ยังไง”
“อันนี้ ต้องให้สายจิตเฉพาะสอนแล้วล่ะ”ฟ้าใสว่าแล้วเดินหลบเทียร่าที่เดินออกมายืนแทน
เทียร่าใช้มือจับไปที่ด้ามดาบ แล้วทันทีที่เธอพร้อมก็สะบัดมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งรังสีของดาบก็ตามออกมาด้วย
วูบ! รังสีดาบของเทียร่าพุ่งผ่านระหว่างตัวของเฟตและชิออน ทำให้สองหนุ่มหันไปมองหน้ากันอย่างงงๆ แล้วเริ่มสงสัยในใจว่า หญิงสาวคนนี้คงอยากจะฆ่าพวกเขาเต็มทนแล้วล่ะ ฟ้าใสที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับทำหน้าเหวอ แล้วรีบกล่าว
“แหะๆ เทีย เธอทำเร็วไปแล้วนะ แล้วอย่างนี้พวกเขาจะมองทันได้ยังไงล่ะ ทำช้าๆที่ละขั้นตอนอย่างที่เคยฝึกๆกันมาสิ”
“อืม”เทียร่ารับคำสั้นๆแล้วเล็งเป้าหมายมาที่สองหนุ่มอีกครั้ง
หญิงสาวค่อยๆยกดาบมาตั้งฉากกับลำตัวอย่างช้าๆแบบประชด ส่วนสองหนุ่มก็กลืนน้ำลายดังเอื้อก เพราะแบบนี้มันตั้งใจฆ่ากันชัดๆเลยนี่นา
เมื่อเทียร่าตั้งดาบพร้อมแล้ว ที่ตัวดาบก็มีประกายสายฟ้าเล็กๆวิ่งผ่านจากล่างไปบน จนกระทั่งมันกลายเป็นดาบอีกเล่มที่ซ้อนทับกับดาบจริง
ฉับ! เทียร่าฟันดาบออกไปทันทีโดยไม่ให้สองหนุ่มได้ตั้งตัว แต่ยังดีที่เธอไม่ได้เล็งสองหนุ่มจริงๆ ไม่งั้น สองหนุ่มคงจะหักกลางเหมือนกับต้นไม้ที่กำลังสไลด์หักกลางอยู่ที่ด้านหลังเป็นแน่
“เอ่อ ก็อย่างที่เห็นนั่นล่ะค่ะ พลังจิตคือการดึงพลังภายในออกมาเป็นพลังที่อาวุธ หรืออากาศ ทันทีที่เราพร้อมและรู้จังหวะของมัน ก็สามารถส่งออกไปเป็นพลังได้ค่ะ หรือไม่ก็นำมาเพิ่มพลังให้กับอาวุธ จากขั้น 1 ไปขั้น 3 – 4 ได้ ตามความแข็งแกร่งของพลังจิตค่ะ”ฟ้าใสรีบอธิบายกลบเกลื่อน ต่างกับเฟตกับชิออนที่หันไปมองหน้ากัน แล้วคิดไปเหมือนกันว่าหญิงสาวผมทองนั้น เป็นประเภทปฏิบัติแล้วค่อยพูดแน่ๆ
หลังจากฟ้าใสสอนเทคนิคการใช้พลังอีกไม่นาน กลุ่มผู้เล่น 4 คนนี้ก็เดินเข้าเขตป่าเอลฟ์เหนือไปด้วยความมั่นใจเต็ม 100 จาก 1,000
เมื่อเข้าป่ามาได้ไม่ไกล เฟตกับเทียร่าก็มีปฏิกิริยาคล้ายๆกัน คือรับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา ทำให้คณะเดินทางต้องหยุดสำรวจพื้นที่กันก่อน
หลังจากหยุดแล้ว ทั้งเฟตและเทียร่าก็ต่างเดินไปในทิศทางเดียวกัน ทิ้งให้หนุ่มสาวมองตามตาปริบๆ
สำหรับเทียร่านั้น ฟ้าใสไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะเธอเป็นผู้เล่นที่ค่อนข้างจะชำนาญ แล้วโดยอย่างยิ่ง เธอเองก็เป็นสายโจมตีที่ต้องเจอกับแรงกดดันอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่จะรับรู้ได้ ถึงภัยคุกคาม
แต่เฟตที่พึ่งเล่นได้ไม่ถึง 11 ชั่วโมงนี่สิ ที่น่าแปลกใจ เพราะคนที่พึ่งเล่นได้ไม่นาน ไม่น่าจะรับรู้ได้ถึงภัยอันตรายใดๆทั้งสิ้น ขนาดพวกเธอที่เคยเล่นกันเป็นอาทิตย์ กว่าจะรับรู้ถึงพลังกดดันนี้ได้ ก็ยังต้องใช้ความรู้สึกจับสัมผัสอีกตั้งนาน
ชิออนเหมือนจะรู้ว่าฟ้าใสสนใจในท่าทีระวังภัยของเฟต ที่ปฏิกิริยาคล้ายๆกับเทียร่า เขาจึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วเนียนเกาะเอวไว้
ฟ้าใสสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหันมากะจะทุบในข้อหาล่วงเกิน แต่ทว่าชิออนกลับเอาคางตั้งกันไว้ไม่ให้หันหน้ามาซะก่อน ฟ้าใสเลยทำได้แค่แข็งทื่ออยู่กับที่
“ที่เห็นเฟตเป็นแบบนั้น คงจะเป็นเพราะสัญชาตญาณเหนือมนุษย์นั่นก็ได้ล่ะมั้ง”ชิออนเอ่ยเสียงใส ต่างกับฟ้าใสที่อยากจะหันมาฟังตรงๆ แต่ติดที่หน้าของเธออยู่ติดกันเกินไปหน่อย จึงไม่อาจขยับกายได้ดั่งใจ
“หมายความว่ายังไงล่ะนั่น”
“ก็หมายความว่า เพราะเฟตมีสิ่งที่คนอื่นๆไม่มี ในชีวิตจริง เขาเลยรับรู้ถึงอันตรายได้โดยไม่ต้องฝึกฝนยังไงล่ะ แล้วยิ่งเขาไปฝึกจบหลักสูตรมาด้วยแล้ว ก็ยิ่งเหมือนเสือติดปลีกไปใหญ่เลย ดีนะ ที่เกมนี้ไม่บังคับมากจนเกินไป เฟตเลยนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ในโลกนี้ได้ด้วย หนึ่งในนั้นก็คือเฟตรอดตายจากการโจมตีของเทียร่าในครั้งที่เจอกันแรกๆ”ชิออนอธิบายแล้วถามต่อ
“ทำไมเทียร่าถึงกะจะฆ่าชินกับเฟตตลอดเลยล่ะ ไม่เข้าใจเลยแหะ ไม่เคยโกรธกันมาก่อนแท้ๆ”
“อันนี้ก็ไม่มั่นใจนะ ปกติเทียร่าก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เธอเย็นชากับผู้ชายทุกคนที่เข้ามาหา”
“เอ๋ พวกชินไม่ได้เข้าไปหาซะหน่อย”ชิออนค้าน ฟ้าใสเลยเหล่มองแล้วว่าเสียงเรียบ
“ก็ไปกระโดดว่าเขาเหยงๆนั่นไง เรียกว่าเข้าไปหาเรื่อง”
“เฮ้ยๆ อันนั้นมันก็เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ ทำไมมาว่าชินไปหาเรื่องซะงั้น”ชิออนโวย
“ก็ไม่รู้ล่ะ คนที่ตั้งตัวเป็นอคติกับผู้ชาย มักจะทำอะไรที่เกินเลยไปได้ทั้งนั้นล่ะ แล้วยิ่งในโลกที่พลังคืออำนาจอย่างนี้ด้วยแล้ว”ฟ้าใสว่าจบ ชิออนก็คลายการเกาะเอวไปอย่างไม่ต้องบอก
“เฮ้อ นี่สินะ อำนาจที่ฝ่ายขายเขาแจ้งมา เมื่อคนเรามีอำนาจ ก็มักจะเป็นแบบนี้ล่ะนะ”ชิออนว่า
“ก็นะ อำนาจเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่หยอกเลยนี่”ฟ้าใสว่าบ้างแล้วดึงพลังเวทจนรอบๆตัวเย็นลงด้วยน้ำแข็ง
บรรยากาศตอนเย็นที่ชิออนว่าเย็นแล้ว ยังมาแพ้ความเย็นที่ฟ้าใสปล่อยออกมา ชายหนุ่มจึงพยายามผนึกพลังจิตตามที่พวกฟ้าใสได้สอนเอาไว้
หลังจากม่านพลังเริ่มก่อตัว ความเย็นที่คอยทำร้ายร่างกายของชิออนก็ค่อยๆลดหายไป จนในที่สุดเขาก็ไม่รู้สึกร้อนหรือหนาวอีกเลย
“เอาล่ะ มาต่อสู้รอเวลากันเถอะ”ฟ้าใสหันมาพูดกับชิออนเสียงใส แต่ชิออนกลับเหงื่อแตก เพราะความต่างของระดับเลเวลค่อนข้างมาก
“จะไหวเหรอ ตัวเอง เค้าเลเวลแค่นี้เองนะ”ชิออนเอ่ยเสียงอ้อน ฟ้าใสจึงหัวเราะเล็กน้อยแล้วว่า
“ไม่อยากตายก็ต้องสู้ล่ะ”ว่าจบหญิงสาวก็หันไปมองที่บนต้นไม้รอบๆตัว ซึ่งปรากฏร่างของเอลฟ์ที่กำลังเล็งธนูมาทางพวกตนอยู่ ยังดีที่พวกเทียร่าออกไปสำรวจรอบๆด้านก่อน พวกฟ้าใสที่อยู่ที่นี่จึงได้อานิสงจากเสียงรายงานของระบบ ที่เพื่อนในปาร์ตี้ไปเจอมาด้วย
ชิออนที่มีเลเวลแค่ 15 มองไปรอบๆตัวด้วยท่าทีสนใจ เพราะพวกเอลฟ์นั้นต่างมีรูปร่างที่ไม่ต่างจากมนุษย์ แล้วอีกอย่าง ความงามนั้นก็ไม่ได้ย่อยหย่อนไปกว่ามนุษย์เลย แถมส่วนใหญ่ยังดูดีกว่าเยอะ
“หายไปไหนแล้วนะ เพื่อนฉัน”ชิออนพึมพำเมื่อยังมองไม่เห็นเพื่อนรักที่ออกไปสำรวจป่า
‘เอลฟ์ป่าเลเวล 26 ค่ะ’เสียงของระบบที่ยังคงดังอยู่เป็นสัญญาณเตือนได้อย่างดีว่า ตอนนี้ เฟตยังคงเจอกับเอลฟ์อยู่เรื่อยๆ เพราะอสูรที่ถูกเจอแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ว่าใครในปาร์ตี้จะเจอ ระบบจะไม่รายงานซ้ำสองแน่
“หรือว่า”เมื่อคิดอะไรบางอย่างออก ชิออนถึงกับอ้าปากค้าง
“มีอะไรเหรอ”ฟ้าใสถามโดยไม่หันมามอง
“ชินเจอปัญหาที่ใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วล่ะ”ชิออนพูดหน้าตาตื่น ทำให้ฟ้าใสต้องปรายตามามองแล้วถามเสียงเรียบ สำหรับเธอแล้วเอลฟ์พวกนี้ไม่เท่าไหร่หรอก ส่วนเทียร่าที่เก่งกาจนั้นก็ไม่ต้องถามถึง เพราะเพื่อนเธอเอาตัวรอดได้ดีมากกว่าตัวเธออีก
“เฟตจะถูกรุมสังหารหรือไง”สิ้นคำถามชิออนกลับส่ายหน้าถี่ยิบ เพราะมันเป็นเรื่องที่ฟังดูน่าตลกสิ้นดี ที่คนอย่างหมอนั่นจะมาพ่ายแพ้ให้กับอะไรอย่างนี้
“ไอ้หมอนั่นไม่ถูกฆ่าหรอก ต่อให้ถูกยักษ์มารอคิวฆ่าก็เถอะ หมอนั่นเอาตัวรอดได้แน่”
“แล้วอะไรล่ะ ที่มันเป็นปัญหาใหญ่กว่านี้”ฟ้าใสว่าอย่างหัวเสีย เพราะแรงกดดันรอบๆตัวเริ่มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกเอลฟ์กำลังมุ่งเป้าว่าจะสังหารพวกเธอ
“เฟตเป็นพวกหลงทิศอย่างรุนแรงน่ะ”ชิออนหันมาพูดแล้วหัวเราะแหะๆ
ฟ้าใสหันมามองชิออนอ้าปากค้างแบบไม่เชื่อหู ส่วนพวกเอลฟ์ก็เริ่มจู่โจมเข้ามาแล้ว พวกเขาคงไม่สามารถช่วยอะไรได้มากกว่านี้แล้วล่ะ
ความคิดเห็น