[SF] รักของเรา (ตอนจบ)
ช็อตฟิกซิมซิน
ผู้เข้าชมรวม
214
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[SF] รักของเรา
Couple:: Siwon x HeeChul
Rate:: PG
“นี่มันวาระอะไรเนี่ย” คังอินถามขึ้น ซึ่งตอนนี้พวกเราทั้งหมด ชีวอน ฮีชอล จองซู คังอิน เยซอง ทงเฮ และซองมิน กำลังอยู่ในร้านอาหารที่ฮีชอลเคยออกแบบร้านให้
“นั่นสิพี่ฮีชอล มีอะไรเหรอฮะถึงได้เลี้ยงพวกเราแบบนี้” ซองมินถามขึ้นอีกคน เพราะจู่ๆวันนี้ฮีชอลก็บอกกับทุกคนว่าจะเลี้ยงอาหารมื้อค่ำ เสียดายที่บอสใหญ่ติดธุระเลยอดกินของฟรี
ชีวอนและฮีชอลหันมายิ้มให้กันก่อนจะเป็นฮีชอลที่เฉลยคำตอบให้กับทุกคน
“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เลี้ยงฉลองแต่งงานหน่ะ” ฮีชอลพูดเรียบๆสีหน้าปกติเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“อ่อ นึกว่าเรื่องอะไร” จองซูรับคำง่ายๆ พร้อมกับที่เหลือก็พยักหน้ารับเหมือนได้ยินเรื่องปกติทั่วไป ก่อนที่ทั้งหมดจะมองหน้ากันเองด้วยความตกใจเมื่อเข้าใจคำพูดเมื่อครู่ แล้วทั้งหมดก็พร้อมใจกันหันไปมองชีวอนและฮีชอล
“หา! ฉลองแต่งงาน” ทั้งหมดพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายแต่อย่างใด
ชีวอนและฮีชอลหันมาหัวเราะให้กันหลังจากที่เห็นอาการตกอกตกใจของทุกคน
“เดี๋ยวๆฮีชอล เลี้ยงฉลองแต่งงาน ใครแต่ง” จองซูเอ่ยถามขึ้นทันทีที่รวบรวมสติตัวเองกลับคืนมาได้แล้ว
“ก็ฉันกับชีวอนไง เราแต่งงานกันแล้ว” ไม่พูดเปล่า ฮีชอลยังยกมือซ้ายที่มีแหวนสวมอยู่บนนิ้วนางให้ทุกคนได้เห็น ชีวอนเองก็ทำแบบเดียวกัน
“เฮ่ย! ได้ไงกัน แต่งกันตอนไหนว่ะ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่อง” เยซองทักท้วงขึ้นมาบ้าง
“นั่นสิพี่ฮีชอล ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย น้อยใจนะเนี่ย” ทงเฮพูดขึ้นมาอีกคนพร้อมกับมีเสียงสนับสนุนคำพูดของเขาออกมา
“ใช่ๆ”
“ก็ถึงพามาเลี้ยงนี่ไงล่ะ” ฮีชอลบอกทุกคน
“แล้วสรุปไปแต่งงานกันตอนไหน” จองซูถามขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆกับที่อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว
“ก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มันกะทันหันหน่ะเลยไม่ทันได้บอกใคร ขอโทษทุกครั้งด้วยแล้วกัน” ฮีชอลตอบก่อนจะหันมายิ้มให้กับชีวอนที่ตักอาหารให้เขา และทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ฮีชอลกับชีวอนต้องคอยตอบคำถามเรื่องแต่งงานอยู่อีกพักใหญ่ก่อนที่ทั้งหมดจะคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้สลับกันไปเรื่อยๆพร้อมๆกับคำอวยพรให้กับคู่แต่งงานคู่ใหม่
“ชีวอน กลับกันเลยมั้ย” ฮีชอลหันมากระซิบถามชีวอนหลังจากที่เขาเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยดี
“ไม่เป็นไรครับ อยู่สนุกกันต่อดีกว่า” ชีวอนกระซิบบอกพร้อมกับยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะกระชับมือที่กุมไว้เพื่อให้ฮีชอลวางใจ ฮีชอลเมื่อเห็นว่าชีวอนต้องการแบบนั้นก็ไม่รบเร้าต่อ จนเวลาล่วงเลยมานานหลายชั่วโมง งานเลี้ยงเล็กๆก็ต้องจบลง
“วันนี้ขอบคุณมากนะที่มากัน เสียดายบอสไม่ได้มา” ฮีชอลบอกกับทุกคน
“จริงๆพี่น่าจะบอกก่อน ผมจะได้หาของขวัญมาให้” ซองมินเอ่ยบอก เพราะถ้าเขารู้ว่าวันนี้จะมางานเลี้ยงฉลองแต่งงานของทั้งคู่ เขาคงต้องรีบหาของขวัญมาให้อย่างแน่นอน
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็ค่อยเอามาให้พี่วันหลังก็ได้” ฮีชอลบอกน้องก่อนที่ทั้งหมดจะหัวเราะออกมา และพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป ชีวอนและฮีชอลจูงมือกันไปที่รถแล้วฮีชอลก็ยื่นมือมาขอกุญแจรถจากชีวอน
“วันนี้พี่ขับเอง”
“ไม่เป็นไรพี่ ผมไหว”
“เอามาเถอะนา พี่ขับเอง ไม่ไว้ใจพี่เหรอ”
เจอไม้นี้เข้าไปชีวอนจึงต้องยอมส่งกุญแจรถให้ฮีชอลก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ
“พี่ฮีชอลง่วงยัง” ชีวอนเอ่ยถามขึ้นในขณะที่รถกำลังแล่นไปเรื่อยๆด้วยฝีมือการขับของฮีชอล
“ยัง มีอะไรเหรอ”
“งั้นเราไปขับรถเล่นกันนะ ผมอยากเห็นบรรยากาศยามค่ำคืน...อีกครั้ง” ชีวอนบอกแม้ว่าคำท้ายชีวอนจะพูดแผ่วเบาให้ได้ยินคนเดียว
“ก็เอาสิ ดีเหมือนกันนะ” ฮีชอลบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้ชีวอนอีกครั้ง แม้ว่าในใจลึกๆเขากลับไม่มีรอยยิ้มเลยก็ตาม เพราะความรู้สึกที่เขาพยายามหลบเลี่ยงมันมาตลอด บัดนี้มันกลับเริ่มชัดเจนขึ้นมาจนเขารู้สึกกลัว
ทั้งคู่ขับรถชมความงามยามค่ำคืนของกรุงโซลไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งตามคำขอของชีวอน ชายหนุ่มลงจากรถก่อนจะถูกฮีชอลที่วิ่งเข้ามาหาเขาโดยเร็วทันทีที่ลงจากรถมาประคองเขาไว้ แม้ว่าเขาจะไม่อยากถูกกระทำแบบนั้น แต่เขาก็ไม่อาจฝืนร่างกายได้อีกต่อไป ฮีชอลประคองชีวอนมานั่งลงที่เก้าอี้ยาวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เขาจอดรถไว้ ชีวอนเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าหลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้ว
“คืนนี้ดาวสวยนะครับ” ชีวอนเอ่ยขึ้นก่อนจะหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ข้างเขา
“แต่ก็ยังสวยสู้พี่ไม่ได้” ชีวอนบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด เขาเอื้อมมือไปกุมมือสวยอีกครั้งก่อนจะยกขึ้นจูบเบาๆและเงยหน้าขึ้นมองดวงตากลมโตที่พยายามบังคับไม่ให้น้ำที่รื้นอยู่บนดวงตาไหลลงมา ชีวอนยกมือข้างหนึ่งของเขาลูบใบหน้าสวยพร้อมกับมองดูใบหน้านั้นเพื่อจดจำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด
“ถ้าพี่อยากจะร้อง ก็ร้องออกมาเถอะครับ ผมจะได้ซับน้ำตาให้พี่”
เพียงแค่นั้นความอดทนอดกลั้นของฮีชอลก็สิ้นสุดลง ฮีชอลปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาและโผเข้าหาอ้อมกอดที่รอเขาอยู่แล้ว
“พี่ขอโทษนะชีวอน พี่ขอโทษ” ฮีชอลพูดเสียงสะอึกสะอื้นและปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่คิดจะเก็บมันไว้ ชีวอนกอดฮีชอลแน่นด้วยความรู้สึกรักมากที่สุด เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายพูดคำขอโทษออกไป เขาอยากขอโทษฮีชอล เพราะเขาอ่อนแอทำให้เขาไม่สามารถปกป้องและดูแลฮีชอลได้ตลอดไป
“ผมรักพี่นะครับ” ชีวอนไม่สามารถพูดคำอื่นได้นอกจากคำนี้ เขาอยากจะบอกคำนี้ให้ได้บ่อยที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
------------------------------------------------
ความจริงแม้มันจะโหดร้าย แต่สุดท้ายก็ไม่มีวันที่จะหลีกเลี่ยงมันพ้น คงทำได้แค่ยืดเวลาเพื่อเตรียมพร้อมรับความจริงที่แสนโหดร้ายนั้น
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ฮีชอลตั้งใจทำงานโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า และเป็นอีกครั้งที่เขาเฝ้าโทรหาคนที่รอเขาอยู่ที่ห้องเช่นเดิม
“พี่จองซู ชีวอนไม่สบายอีกแล้วเหรอ” ซองมินถามพี่ชายร่วมงานอีกครั้ง หลังจากที่พฤติกรรมเดิมๆเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนของฮีชอลกลับมาอีกครั้ง
“อื้ม” จองซูเอ่ยได้แค่นั้นก่อนจะหันไปมองเพื่อนรักด้วยความสงสาร เขารู้มาตลอดว่าทั้งชีวอนและฮีชอลกำลังเผชิญอยู่กับอะไร คนทั้งคู่ต่างมีความรักและความเข้มแข็งจนน่าเหลือเชื่อ จนบางครั้งเขาลองกลับมาคิดดูว่าถ้าสิ่งที่ทั้งชีวอนและฮีชอลกำลังเผชิญอยู่เกิดขึ้นกับเขา เขาจะสามารถมีความเข้มแข็งได้ขนาดนี้หรือเปล่า
“ไปทำงานเถอะซองมิน เดี๋ยวบอสจะเข้ามาแล้ว” จองซูไล่น้องให้ไปทำงาน เพราะเขาต้องการอยู่กับฮีชอลสองคนเท่านั้น หลังจากที่ซองมินเดินออกไปทำงานที่ห้องของเขา จองซูก็เดินเข้ามาหาฮีชอลที่กำลังคร่ำเคร่งกับงานตรงหน้าโดยไม่รับรู้ถึงการมาของเขาเลย
“ฮีชอล” จองซูเรียก
“ฮื้อ” ฮีชอลรับคำแต่ก็ยังไม่ละจากงานที่อยู่ตรงหน้า
“พักหน่อยมั้ย งานไม่ได้รีบไม่ใช่เหรอ” จองซูบอกด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก เผื่อต้องแก้อะไรอีก จะได้รีบแก้แต่เนิ่นๆ” ฮีชอลบอกแต่ก็ยังไม่ยอมหันมาหาจองซูจนเขาทนไม่ได้ เขาจึงต้องจับมือเพื่อนออกจากการจับเมาส์โดยเร็ว ก่อนจะหันตัวเพื่อนให้มาเผชิญหน้ากับเขา
“ฮีชอล นายทำงานหนักเกินไปแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยสิ”
“ฉันไม่เป็นไรจองซู ฉันต้องไม่เป็นอะไร” ฮีชอลบอกเพื่อนเสียงเครือ เขารู้ว่าจองซูห่วงเขาแค่ไหน เพราะจองซูเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาและชีวอน
จองซูที่เห็นว่าดวงตาของเพื่อนเริ่มมีน้ำใสๆรื้นขึ้นมา เขาไม่รอช้าที่จะเข้าไปโอบเพื่อนไว้ทันที และฮีชอลเองก็ไม่อายที่จะปล่อยน้ำตาออกมาเช่นเดียวกัน
“จองซู ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย” ฮีชอลเอ่ยขึ้นเสียงเครืออีกครั้ง พร้อมกับปลดปล่อยความอ่อนแอออกมา จองซูทำได้แค่ปลอบเพื่อนแม้ว่าในตอนนี้เขาก็มีน้ำตาซึมแล้วก็ตาม เขาสงสารทั้งฮีชอลและชีวอน ทำไมพระเจ้าต้องกลั่นแกล้งคนทั้งคู่ด้วย
“ฮีชอล นายเอางานไปทำที่บ้านมั้ย เดี๋ยวฉันบอกบอสให้” จองซูคิดได้แค่วิธีนี้เท่านั้น วิธีที่จะช่วยให้เพื่อนของเขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนรักในทุกนาทีที่เหลืออยู่
“ขอบใจนะจองซู ขอบใจ” ฮีชอลไม่รอช้าที่จะตอบรับความช่วยเหลือนั้น เพราะเขาเองก็ต้องการใช้ชีวิตที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด
.
.
.
นับตั้งแต่นั้นมาฮีชอลก็ทำงานอยู่ที่บ้าน บ้านที่เป็นเพียงห้องห้องหนึ่งภายในตึกสูง ห้องที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นของเขาและชีวอน แม้ว่าช่วงแรกๆชีวอนไม่อยากให้ฮีชอลทำแบบนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมจำนนให้กับเหตุผลที่ฮีชอลบอกไว้
“พี่ขอนะชีวอน พี่ขอใช้ชีวิตกับชีวอนให้มากที่สุด”
ฮีชอลโชคดีที่มีเพื่อนที่แสนดีอย่างจองซูคอยเอางานมาให้ และยังโชคดีที่มีบอสที่ดีที่ยอมให้เขานำงานกลับมาทำที่บ้าน เขาเองก็ไม่รู้ว่าจองซูไปพูดแบบไหน แต่ตอนนี้เขาขอไม่ตามหาคำตอบนั้น เพราะเขาต้องการใช้ช่วงเวลาที่สำคัญนี้กับหัวใจของเขา กับชีวอนคนที่เขารักหมดหัวใจ
ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆวันแล้ววันเล่า ชีวอนและฮีชอลยังคงมีรอยยิ้มให้กันในทุกวัน ในตอนกลางวันฮีชอลก็จะทำงานที่เขารับมาจากจองซูโดยมีชีวอนคอยช่วยออกความเห็นบ้างในบางครั้ง ทุกอย่างดำเนินไปพร้อมกับความสุข ความสุขที่ทั้งคู่ต่างช่วยกันสร้างไว้เพื่อเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด
“งานยังไม่เสร็จเหรอครับพี่” ชีวอนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว
“ใกล้เสร็จแล้วล่ะ เหลืออีกนิดเดียว” ฮีชอลบอกก่อนจะรีบเร่งทำงานให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อที่เขาจะได้ให้ชีวอนพักผ่อน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาชีวอนจะไม่ยอมนอนก่อนเขา ชีวอนจะรอเขาเพื่อเข้านอนพร้อมกัน ฮีชอลรีบเร่งทำงานจนเสร็จ เขารีบเซฟงานไว้และจัดการปิดเครื่องทันที
“นี่ครับ” นมอุ่นๆถูกส่งมาให้ ในทุกคืนก่อนนอนชีวอนจะเป็นคนอุ่นนมให้เขาดื่ม
“แล้วของชีวอนล่ะ”
“ผมดื่มแล้วครับ” ชีวอนบอกพร้อมกับยิ้มแป้น ฮีชอลยิ้มกลับขำๆก่อนจะยกนมสดขึ้นดื่ม
“พี่ฮีชอล วันนี้เรานอนกันที่โซฟาดีมั้ย” ชีวอนชวน เพราะตั้งแต่เขาซื้อมาให้ฮีชอล เขาเองก็ยังไม่เคยได้ใช้นอนเลย ส่วนฮีชอลเคยนอนแล้วสองครั้งนับตั้งแต่ซื้อมา
“เอาสิ” ฮีชอลตอบรับก่อนที่จะส่งแก้วนมให้ชีวอนเพื่อเอาไปล้างเก็บ ส่วนเขาก็ไปจัดการดึงโซฟาให้กลายเป็นเตียงนอน เขาเดินเข้าไปหยิบหมอนพร้อมผ้าห่มออกมา ทั้งคู่ขึ้นไปนอนด้วยกันบนโซฟาเตียงนอนนั้น
“เป็นไงบ้าง” ฮีชอลถามหลังจากที่ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนแล้ว ทั้งคู่นอนหันหน้าเข้าหากันโดยที่มือก็จับกันอย่างเช่นทุกคืน
“ก็แคบดีครับ” ชีวอนตอบติดตลก
“แต่ก็นุ่มดีนะ มิน่าล่ะพี่ถึงอยากได้” ชีวอนพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะมองเข้าไปยังดวงตากลมโตที่มองเขาอยู่
“พี่ฮีชอล แต่ยังไงพี่ก็ต้องเข้าไปนอนในห้องนะ” ชีวอนบอกน้ำเสียงอบอุ่นก่อนที่เขาขยับตัวเข้าไปจูบหน้าผากสวยและรวบตัวเข้ามากอดไว้พร้อมกับกุมมือสวย
“พี่อย่าลืมดื่มนมอุ่นๆก่อนนอนด้วยนะครับ”
“พี่จะลืมได้ไง ก็พี่มีชีวอนคอยทำให้อยู่แล้ว” ฮีชอลเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงกลับเจือปนไปด้วยความเศร้าอย่างประหลาด ชีวอนไม่พูดอะไรต่อ เขากระชับคนในอ้อมกอดเขาก่อนจะเอ่ยประโยคส่งท้ายในค่ำคืนนี้
“ฝันดีนะครับพี่ฮีชอล ผมรักพี่นะครับ”
“พี่ก็รักชีวอนนะ”
แล้วทั้งคู่ก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างเช่นในทุกคืน
เมื่อเวลาเดินไปเรื่อยๆก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามากระตุ้นความรู้สึกของฮีชอล เขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างและสิ่งนั้นก็ทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น รอยสัมผัสของการโอบกอดเขาไว้ในทุกๆเช้าตอนนี้มันหายไป มือของเขาที่มักจะถูกกุมไว้อย่างเคยกลับได้รับอิสระทั้งๆที่เขาได้กลิ่นกายที่เขาคุ้นชินเป็นอย่างดี ตอนนี้เขาไม่อยากที่จะลืมตาขึ้นอีกแล้ว เขาอยากให้มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น เป็นเพียงแค่ฝันร้าย ฮีชอลนอนนิ่งและยังไม่ยอมลืมตา เขาพยายามใช้ความรู้สึกทั้งหมดเพื่อหาสัมผัสที่คุ้นเคยนั้น แต่สุดท้ายแล้วเขาก็หามันไม่พบ แต่สิ่งที่เขาพบกลับเป็นบางสิ่งที่อยู่บนคอเขา ฮีชอลยกมือที่หนักอึ้งของตัวเองจับสิ่งนั้น และเขาก็พบว่ามันคือสร้อยคอ สร้อยคอที่มีแหวนวงหนึ่งห้อยไว้
'พี่ครับ ถ้าวันไหนผมไม่อยู่แล้ว พี่เก็บแหวนของผมไว้กับพี่ด้วยนะครับ'
น้ำตาของเขาไหลออกมาทันทีที่เขารู้แล้วว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดได้มาถึง ฮีชอลพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้มันเล็ดลอดออกมา เพราะกลัวคนข้างกายจะได้ยิน แต่เมื่อเขาคิดได้อีกครั้งเขาก็ปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาโดยที่เขายังไม่ยอมลืมตา ฮีชอลขอใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการเตรียมใจเพื่อรับกับความจริงที่โหดร้าย ความจริงที่เขารู้มาตลอดว่าสักวันเขาจะต้องเจอ
ท้ายที่สุดเขาตัดสินใจลืมตาขึ้น ฮีชอลยังคงเห็นร่างกายของชีวอนที่นอนอยู่ข้างเขา เขายังคงเห็นอยู่เหมือนเช่นทุกวัน ฮีชอลพยายามบังคับตัวเองให้ลุกขึ้น น้ำตาของเขายังคงไหลไม่หยุดและเขาเองไม่คิดจะหยุดมัน ฮีชอลยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งเพื่อให้ดวงตาของเขามองดูร่างกายของชีวอนที่เหมือนนอนหลับอยู่อย่างปกติให้ชัดเจนและมองดูด้วยหัวใจของเขา ฮีชอลสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะทำในสิ่งที่เคยทำอยู่ทุกเช้าเป็นครั้งสุดท้าย
“ชี...วอน........เช้า.....แล้ว...นะ”
------------------------------------------------
สี่ปีต่อมา.....
“พี่จองซู!!!!” เสียงซองมินตะโกนเรียกมาแต่ไกลจนทำให้เพื่อนร่วมงานอย่างทงเฮอดแขวะไม่ได้
“อะไรของแกว่ะซองมิน วิ่งเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้”
ซองมินไม่ต่อล้อต่อเถียงกับทงเฮอย่างที่เคยทำ เขาแค่เบ้ปากใส่เพราะเขามีเรื่องที่สำคัญกว่าจะมาบอกจองซู
“มีอะไรซองมิน วิ่งหน้าตื่นมาเชียว”
“พี่จองซู เมื่อกี๊ผมเจอพี่ฮีชอลด้วย” ซองมินบอกน้ำเสียงปนหอบเล็กน้อยๆจากการที่เขาวิ่งมา
“เอ้า! แล้วยังไงของแก พี่ฮีชอลก็เจอกันทุกวัน” ทงเฮถามขัดขึ้นทันที
“แกอย่าเพิ่งขัดดิ คืองี้พี่จองซู ผมเจอพี่ฮีชอลอยู่กับลูกค้าที่ชื่ออิลอู คุณอิลอูหน่ะพี่” ซองมินรีบเล่าทันทีว่าเขาไปเจออะไรมา
“สองคนนั่นเจอกันก็ไม่แปลกนี่” จองซูบอกเพราะการที่ฮีชอลจะเจอคุณอิลอู มันก็ไม่น่าแปลกตรงไหน เพราะสองคนนั้นเขาก็คุ้นเคยกันอยู่เพราะฮีชอลต้องไปดูแลการออกแบบงานให้กับบริษัทของคุณอิลอู
“ก็มันจะไม่แปลกหรอกถ้าคุณอิลอูไม่มาบอกรักพี่ฮีชอลหน่ะ”
“ห๊ะ!! แกว่าอะไรนะซองมิน คุณอิลอูอะไรนะ”
“ฟังดีๆนะไอ้คุณทงเฮ คุณอิลอูมาบอกรักพี่ฮีชอล และพี่ฮีชอลก็ปฏิเสธไปแล้วด้วย” ซองมินย้ำอีกครั้งพร้อมกับขยายความเพิ่ม ทงเฮเมื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมดก็ถอนหายใจ
“อีกแล้วเหรอ นี่คนที่ห้าแล้วนะ” ทงเฮบ่น เพราะตั้งแต่การจากไปของชีวอน ฮีชอลก็ไม่คิดจะมีความรักกับใครอีกเลย เขาเองก็อยากให้พี่ชายของเขาได้มีความสุขอีกครั้ง
“ก็นั่นหน่ะสิ เมื่อไหร่พี่ฮีชอลจะเลิกปิดใจซะที จะได้มีความสุขเหมือนคนอื่น” ซองมินบ่นตามออกมา
“ฮีชอลก็มีความสุขอยู่แล้วนี่” จองซูบอกน้องทั้งสองพร้อมกับยิ้มเล็กๆ เขารู้ว่าตอนนี้เพื่อนของเขาก็มีความสุขดี แม้ว่าฮีชอลจะต้องอยู่คนเดียวที่ห้องเดิมนั้น ห้องที่มีแต่ความทรงจำที่สวยงามระหว่างฮีชอลกับชีวอน แต่ฮีชอลก็เลือกที่จะเป็นแบบนั้น ตอนนี้ชีวิตของฮีชอลถูกหล่อเลี้ยงด้วยความรักที่ชีวอนมีให้กับเพื่อนของเขา จองซูยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะบอกน้องทั้งสองคนอีกครั้ง
“และฮีชอลก็ไม่ได้ปิดใจหรอกนะ เพราะฮีชอลไม่มีหัวใจให้รักใครได้อีกแล้ว”
"ไม่มีพรุ่งนี้...รักเราจะมีเพียงวันนี้รออยู่ ปล่อยวันพรุ่งนี้..ให้ฟ้านำทางต่อไป
หน้าที่ของฉัน...แค่เพียงรักเธอวันนี้ ทั้งหัวใจ จะทำเวลาเท่าที่มี...ให้เป็นความทรงจำจากวันนี้....ถึงจนวันตาย"
-- จบ --
ขอบคุณเพลง "ไม่มีพรุ่งนี้" ที่เป็นแรงบันดาลใจในการแต่ง
ผลงานอื่นๆ ของ Darkeye202 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Darkeye202
ความคิดเห็น