[SF] รักของเรา (ตอนจบ) - [SF] รักของเรา (ตอนจบ) นิยาย [SF] รักของเรา (ตอนจบ) : Dek-D.com - Writer

    [SF] รักของเรา (ตอนจบ)

    ช็อตฟิกซิมซิน

    ผู้เข้าชมรวม

    214

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    214

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.ย. 57 / 21:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ช็อตฟิกเรื่องนี้แต่งไว้เมื่อปี 2010 ไม่มีการปรับแต่งเนื้อหาแต่อย่างใด
    ใครเคยอ่านเจอแล้วอย่าตกใจไปนะคะ คนแต่งคนเดียวกันค่ะ 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      [SF] รักของเรา
      Couple:: Siwon x HeeChul

      Rate:: PG 

       

      นี่มันวาระอะไรเนี่ยคังอินถามขึ้น ซึ่งตอนนี้พวกเราทั้งหมด ชีวอน ฮีชอล จองซู คังอิน เยซอง ทงเฮ และซองมิน กำลังอยู่ในร้านอาหารที่ฮีชอลเคยออกแบบร้านให้ 

      นั่นสิพี่ฮีชอล มีอะไรเหรอฮะถึงได้เลี้ยงพวกเราแบบนี้ซองมินถามขึ้นอีกคน เพราะจู่ๆวันนี้ฮีชอลก็บอกกับทุกคนว่าจะเลี้ยงอาหารมื้อค่ำ เสียดายที่บอสใหญ่ติดธุระเลยอดกินของฟรี

      ชีวอนและฮีชอลหันมายิ้มให้กันก่อนจะเป็นฮีชอลที่เฉลยคำตอบให้กับทุกคน

      ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เลี้ยงฉลองแต่งงานหน่ะฮีชอลพูดเรียบๆสีหน้าปกติเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

      อ่อ นึกว่าเรื่องอะไรจองซูรับคำง่ายๆ พร้อมกับที่เหลือก็พยักหน้ารับเหมือนได้ยินเรื่องปกติทั่วไป ก่อนที่ทั้งหมดจะมองหน้ากันเองด้วยความตกใจเมื่อเข้าใจคำพูดเมื่อครู่ แล้วทั้งหมดก็พร้อมใจกันหันไปมองชีวอนและฮีชอล

      หา! ฉลองแต่งงานทั้งหมดพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายแต่อย่างใด

      ชีวอนและฮีชอลหันมาหัวเราะให้กันหลังจากที่เห็นอาการตกอกตกใจของทุกคน 

      เดี๋ยวๆฮีชอล เลี้ยงฉลองแต่งงาน ใครแต่งจองซูเอ่ยถามขึ้นทันทีที่รวบรวมสติตัวเองกลับคืนมาได้แล้ว
      ก็ฉันกับชีวอนไง เราแต่งงานกันแล้วไม่พูดเปล่า ฮีชอลยังยกมือซ้ายที่มีแหวนสวมอยู่บนนิ้วนางให้ทุกคนได้เห็น ชีวอนเองก็ทำแบบเดียวกัน

      เฮ่ย! ได้ไงกัน แต่งกันตอนไหนว่ะ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเยซองทักท้วงขึ้นมาบ้าง
      นั่นสิพี่ฮีชอล ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย น้อยใจนะเนี่ยทงเฮพูดขึ้นมาอีกคนพร้อมกับมีเสียงสนับสนุนคำพูดของเขาออกมา
      ใช่ๆ

      ก็ถึงพามาเลี้ยงนี่ไงล่ะฮีชอลบอกทุกคน

      แล้วสรุปไปแต่งงานกันตอนไหนจองซูถามขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆกับที่อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว

      ก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มันกะทันหันหน่ะเลยไม่ทันได้บอกใคร ขอโทษทุกครั้งด้วยแล้วกันฮีชอลตอบก่อนจะหันมายิ้มให้กับชีวอนที่ตักอาหารให้เขา และทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ฮีชอลกับชีวอนต้องคอยตอบคำถามเรื่องแต่งงานอยู่อีกพักใหญ่ก่อนที่ทั้งหมดจะคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้สลับกันไปเรื่อยๆพร้อมๆกับคำอวยพรให้กับคู่แต่งงานคู่ใหม่

      ชีวอน กลับกันเลยมั้ยฮีชอลหันมากระซิบถามชีวอนหลังจากที่เขาเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยดี
      ไม่เป็นไรครับ อยู่สนุกกันต่อดีกว่าชีวอนกระซิบบอกพร้อมกับยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะกระชับมือที่กุมไว้เพื่อให้ฮีชอลวางใจ ฮีชอลเมื่อเห็นว่าชีวอนต้องการแบบนั้นก็ไม่รบเร้าต่อ จนเวลาล่วงเลยมานานหลายชั่วโมง งานเลี้ยงเล็กๆก็ต้องจบลง

      วันนี้ขอบคุณมากนะที่มากัน เสียดายบอสไม่ได้มาฮีชอลบอกกับทุกคน
      จริงๆพี่น่าจะบอกก่อน ผมจะได้หาของขวัญมาให้ซองมินเอ่ยบอก เพราะถ้าเขารู้ว่าวันนี้จะมางานเลี้ยงฉลองแต่งงานของทั้งคู่ เขาคงต้องรีบหาของขวัญมาให้อย่างแน่นอน
      ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็ค่อยเอามาให้พี่วันหลังก็ได้ฮีชอลบอกน้องก่อนที่ทั้งหมดจะหัวเราะออกมา และพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป ชีวอนและฮีชอลจูงมือกันไปที่รถแล้วฮีชอลก็ยื่นมือมาขอกุญแจรถจากชีวอน

      วันนี้พี่ขับเอง
      ไม่เป็นไรพี่ ผมไหว
      เอามาเถอะนา พี่ขับเอง ไม่ไว้ใจพี่เหรอ
      เจอไม้นี้เข้าไปชีวอนจึงต้องยอมส่งกุญแจรถให้ฮีชอลก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ 

      พี่ฮีชอลง่วงยังชีวอนเอ่ยถามขึ้นในขณะที่รถกำลังแล่นไปเรื่อยๆด้วยฝีมือการขับของฮีชอล
      ยัง มีอะไรเหรอ
      งั้นเราไปขับรถเล่นกันนะ ผมอยากเห็นบรรยากาศยามค่ำคืน...อีกครั้งชีวอนบอกแม้ว่าคำท้ายชีวอนจะพูดแผ่วเบาให้ได้ยินคนเดียว
      ก็เอาสิ ดีเหมือนกันนะฮีชอลบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้ชีวอนอีกครั้ง แม้ว่าในใจลึกๆเขากลับไม่มีรอยยิ้มเลยก็ตาม เพราะความรู้สึกที่เขาพยายามหลบเลี่ยงมันมาตลอด บัดนี้มันกลับเริ่มชัดเจนขึ้นมาจนเขารู้สึกกลัว

      ทั้งคู่ขับรถชมความงามยามค่ำคืนของกรุงโซลไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งตามคำขอของชีวอน ชายหนุ่มลงจากรถก่อนจะถูกฮีชอลที่วิ่งเข้ามาหาเขาโดยเร็วทันทีที่ลงจากรถมาประคองเขาไว้ แม้ว่าเขาจะไม่อยากถูกกระทำแบบนั้น แต่เขาก็ไม่อาจฝืนร่างกายได้อีกต่อไป ฮีชอลประคองชีวอนมานั่งลงที่เก้าอี้ยาวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เขาจอดรถไว้ ชีวอนเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าหลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้ว 

      คืนนี้ดาวสวยนะครับชีวอนเอ่ยขึ้นก่อนจะหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ข้างเขา

      แต่ก็ยังสวยสู้พี่ไม่ได้ชีวอนบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด เขาเอื้อมมือไปกุมมือสวยอีกครั้งก่อนจะยกขึ้นจูบเบาๆและเงยหน้าขึ้นมองดวงตากลมโตที่พยายามบังคับไม่ให้น้ำที่รื้นอยู่บนดวงตาไหลลงมา ชีวอนยกมือข้างหนึ่งของเขาลูบใบหน้าสวยพร้อมกับมองดูใบหน้านั้นเพื่อจดจำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด

      ถ้าพี่อยากจะร้อง ก็ร้องออกมาเถอะครับ ผมจะได้ซับน้ำตาให้พี่

      เพียงแค่นั้นความอดทนอดกลั้นของฮีชอลก็สิ้นสุดลง ฮีชอลปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาและโผเข้าหาอ้อมกอดที่รอเขาอยู่แล้ว

      พี่ขอโทษนะชีวอน พี่ขอโทษฮีชอลพูดเสียงสะอึกสะอื้นและปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่คิดจะเก็บมันไว้ ชีวอนกอดฮีชอลแน่นด้วยความรู้สึกรักมากที่สุด เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายพูดคำขอโทษออกไป เขาอยากขอโทษฮีชอล เพราะเขาอ่อนแอทำให้เขาไม่สามารถปกป้องและดูแลฮีชอลได้ตลอดไป

      ผมรักพี่นะครับชีวอนไม่สามารถพูดคำอื่นได้นอกจากคำนี้ เขาอยากจะบอกคำนี้ให้ได้บ่อยที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ 

      ------------------------------------------------

      ความจริงแม้มันจะโหดร้าย แต่สุดท้ายก็ไม่มีวันที่จะหลีกเลี่ยงมันพ้น คงทำได้แค่ยืดเวลาเพื่อเตรียมพร้อมรับความจริงที่แสนโหดร้ายนั้น


      วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ฮีชอลตั้งใจทำงานโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า และเป็นอีกครั้งที่เขาเฝ้าโทรหาคนที่รอเขาอยู่ที่ห้องเช่นเดิม

      พี่จองซู ชีวอนไม่สบายอีกแล้วเหรอซองมินถามพี่ชายร่วมงานอีกครั้ง หลังจากที่พฤติกรรมเดิมๆเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนของฮีชอลกลับมาอีกครั้ง

      อื้มจองซูเอ่ยได้แค่นั้นก่อนจะหันไปมองเพื่อนรักด้วยความสงสาร เขารู้มาตลอดว่าทั้งชีวอนและฮีชอลกำลังเผชิญอยู่กับอะไร คนทั้งคู่ต่างมีความรักและความเข้มแข็งจนน่าเหลือเชื่อ จนบางครั้งเขาลองกลับมาคิดดูว่าถ้าสิ่งที่ทั้งชีวอนและฮีชอลกำลังเผชิญอยู่เกิดขึ้นกับเขา เขาจะสามารถมีความเข้มแข็งได้ขนาดนี้หรือเปล่า 

      ไปทำงานเถอะซองมิน เดี๋ยวบอสจะเข้ามาแล้วจองซูไล่น้องให้ไปทำงาน เพราะเขาต้องการอยู่กับฮีชอลสองคนเท่านั้น หลังจากที่ซองมินเดินออกไปทำงานที่ห้องของเขา จองซูก็เดินเข้ามาหาฮีชอลที่กำลังคร่ำเคร่งกับงานตรงหน้าโดยไม่รับรู้ถึงการมาของเขาเลย

      ฮีชอลจองซูเรียก
      ฮื้อฮีชอลรับคำแต่ก็ยังไม่ละจากงานที่อยู่ตรงหน้า

      พักหน่อยมั้ย งานไม่ได้รีบไม่ใช่เหรอจองซูบอกด้วยความเป็นห่วง
      ไม่เป็นไรหรอก เผื่อต้องแก้อะไรอีก จะได้รีบแก้แต่เนิ่นๆฮีชอลบอกแต่ก็ยังไม่ยอมหันมาหาจองซูจนเขาทนไม่ได้ เขาจึงต้องจับมือเพื่อนออกจากการจับเมาส์โดยเร็ว ก่อนจะหันตัวเพื่อนให้มาเผชิญหน้ากับเขา

      ฮีชอล นายทำงานหนักเกินไปแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยสิ
      ฉันไม่เป็นไรจองซู ฉันต้องไม่เป็นอะไรฮีชอลบอกเพื่อนเสียงเครือ เขารู้ว่าจองซูห่วงเขาแค่ไหน เพราะจองซูเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาและชีวอน

      จองซูที่เห็นว่าดวงตาของเพื่อนเริ่มมีน้ำใสๆรื้นขึ้นมา เขาไม่รอช้าที่จะเข้าไปโอบเพื่อนไว้ทันที และฮีชอลเองก็ไม่อายที่จะปล่อยน้ำตาออกมาเช่นเดียวกัน

      จองซู ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยฮีชอลเอ่ยขึ้นเสียงเครืออีกครั้ง พร้อมกับปลดปล่อยความอ่อนแอออกมา จองซูทำได้แค่ปลอบเพื่อนแม้ว่าในตอนนี้เขาก็มีน้ำตาซึมแล้วก็ตาม เขาสงสารทั้งฮีชอลและชีวอน ทำไมพระเจ้าต้องกลั่นแกล้งคนทั้งคู่ด้วย

      ฮีชอล นายเอางานไปทำที่บ้านมั้ย เดี๋ยวฉันบอกบอสให้จองซูคิดได้แค่วิธีนี้เท่านั้น วิธีที่จะช่วยให้เพื่อนของเขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนรักในทุกนาทีที่เหลืออยู่

      ขอบใจนะจองซู ขอบใจฮีชอลไม่รอช้าที่จะตอบรับความช่วยเหลือนั้น เพราะเขาเองก็ต้องการใช้ชีวิตที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด

      .
      .
      .

      นับตั้งแต่นั้นมาฮีชอลก็ทำงานอยู่ที่บ้าน บ้านที่เป็นเพียงห้องห้องหนึ่งภายในตึกสูง ห้องที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นของเขาและชีวอน แม้ว่าช่วงแรกๆชีวอนไม่อยากให้ฮีชอลทำแบบนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมจำนนให้กับเหตุผลที่ฮีชอลบอกไว้

      พี่ขอนะชีวอน พี่ขอใช้ชีวิตกับชีวอนให้มากที่สุด

      ฮีชอลโชคดีที่มีเพื่อนที่แสนดีอย่างจองซูคอยเอางานมาให้ และยังโชคดีที่มีบอสที่ดีที่ยอมให้เขานำงานกลับมาทำที่บ้าน เขาเองก็ไม่รู้ว่าจองซูไปพูดแบบไหน แต่ตอนนี้เขาขอไม่ตามหาคำตอบนั้น เพราะเขาต้องการใช้ช่วงเวลาที่สำคัญนี้กับหัวใจของเขา กับชีวอนคนที่เขารักหมดหัวใจ

      ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆวันแล้ววันเล่า ชีวอนและฮีชอลยังคงมีรอยยิ้มให้กันในทุกวัน ในตอนกลางวันฮีชอลก็จะทำงานที่เขารับมาจากจองซูโดยมีชีวอนคอยช่วยออกความเห็นบ้างในบางครั้ง ทุกอย่างดำเนินไปพร้อมกับความสุข ความสุขที่ทั้งคู่ต่างช่วยกันสร้างไว้เพื่อเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด

      งานยังไม่เสร็จเหรอครับพี่ชีวอนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว

      ใกล้เสร็จแล้วล่ะ เหลืออีกนิดเดียวฮีชอลบอกก่อนจะรีบเร่งทำงานให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อที่เขาจะได้ให้ชีวอนพักผ่อน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาชีวอนจะไม่ยอมนอนก่อนเขา ชีวอนจะรอเขาเพื่อเข้านอนพร้อมกัน ฮีชอลรีบเร่งทำงานจนเสร็จ เขารีบเซฟงานไว้และจัดการปิดเครื่องทันที

      นี่ครับนมอุ่นๆถูกส่งมาให้ ในทุกคืนก่อนนอนชีวอนจะเป็นคนอุ่นนมให้เขาดื่ม
      แล้วของชีวอนล่ะ” 
      ผมดื่มแล้วครับชีวอนบอกพร้อมกับยิ้มแป้น ฮีชอลยิ้มกลับขำๆก่อนจะยกนมสดขึ้นดื่ม 

      พี่ฮีชอล วันนี้เรานอนกันที่โซฟาดีมั้ยชีวอนชวน เพราะตั้งแต่เขาซื้อมาให้ฮีชอล เขาเองก็ยังไม่เคยได้ใช้นอนเลย ส่วนฮีชอลเคยนอนแล้วสองครั้งนับตั้งแต่ซื้อมา

      เอาสิฮีชอลตอบรับก่อนที่จะส่งแก้วนมให้ชีวอนเพื่อเอาไปล้างเก็บ ส่วนเขาก็ไปจัดการดึงโซฟาให้กลายเป็นเตียงนอน เขาเดินเข้าไปหยิบหมอนพร้อมผ้าห่มออกมา ทั้งคู่ขึ้นไปนอนด้วยกันบนโซฟาเตียงนอนนั้น

      เป็นไงบ้างฮีชอลถามหลังจากที่ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนแล้ว ทั้งคู่นอนหันหน้าเข้าหากันโดยที่มือก็จับกันอย่างเช่นทุกคืน
      ก็แคบดีครับชีวอนตอบติดตลก 

      แต่ก็นุ่มดีนะ มิน่าล่ะพี่ถึงอยากได้ชีวอนพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะมองเข้าไปยังดวงตากลมโตที่มองเขาอยู่

      พี่ฮีชอล แต่ยังไงพี่ก็ต้องเข้าไปนอนในห้องนะชีวอนบอกน้ำเสียงอบอุ่นก่อนที่เขาขยับตัวเข้าไปจูบหน้าผากสวยและรวบตัวเข้ามากอดไว้พร้อมกับกุมมือสวย

      พี่อย่าลืมดื่มนมอุ่นๆก่อนนอนด้วยนะครับ” 

      พี่จะลืมได้ไง ก็พี่มีชีวอนคอยทำให้อยู่แล้วฮีชอลเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงกลับเจือปนไปด้วยความเศร้าอย่างประหลาด ชีวอนไม่พูดอะไรต่อ เขากระชับคนในอ้อมกอดเขาก่อนจะเอ่ยประโยคส่งท้ายในค่ำคืนนี้

      ฝันดีนะครับพี่ฮีชอล ผมรักพี่นะครับ

      พี่ก็รักชีวอนนะ

      แล้วทั้งคู่ก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างเช่นในทุกคืน 


      เมื่อเวลาเดินไปเรื่อยๆก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามากระตุ้นความรู้สึกของฮีชอล เขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างและสิ่งนั้นก็ทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น รอยสัมผัสของการโอบกอดเขาไว้ในทุกๆเช้าตอนนี้มันหายไป มือของเขาที่มักจะถูกกุมไว้อย่างเคยกลับได้รับอิสระทั้งๆที่เขาได้กลิ่นกายที่เขาคุ้นชินเป็นอย่างดี ตอนนี้เขาไม่อยากที่จะลืมตาขึ้นอีกแล้ว เขาอยากให้มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น เป็นเพียงแค่ฝันร้าย ฮีชอลนอนนิ่งและยังไม่ยอมลืมตา เขาพยายามใช้ความรู้สึกทั้งหมดเพื่อหาสัมผัสที่คุ้นเคยนั้น แต่สุดท้ายแล้วเขาก็หามันไม่พบ แต่สิ่งที่เขาพบกลับเป็นบางสิ่งที่อยู่บนคอเขา ฮีชอลยกมือที่หนักอึ้งของตัวเองจับสิ่งนั้น และเขาก็พบว่ามันคือสร้อยคอ สร้อยคอที่มีแหวนวงหนึ่งห้อยไว้

      'พี่ครับ ถ้าวันไหนผมไม่อยู่แล้ว พี่เก็บแหวนของผมไว้กับพี่ด้วยนะครับ'

      น้ำตาของเขาไหลออกมาทันทีที่เขารู้แล้วว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดได้มาถึง ฮีชอลพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้มันเล็ดลอดออกมา เพราะกลัวคนข้างกายจะได้ยิน แต่เมื่อเขาคิดได้อีกครั้งเขาก็ปล่อยเสียงร้องไห้ออกมาโดยที่เขายังไม่ยอมลืมตา ฮีชอลขอใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการเตรียมใจเพื่อรับกับความจริงที่โหดร้าย ความจริงที่เขารู้มาตลอดว่าสักวันเขาจะต้องเจอ 

      ท้ายที่สุดเขาตัดสินใจลืมตาขึ้น ฮีชอลยังคงเห็นร่างกายของชีวอนที่นอนอยู่ข้างเขา เขายังคงเห็นอยู่เหมือนเช่นทุกวัน ฮีชอลพยายามบังคับตัวเองให้ลุกขึ้น น้ำตาของเขายังคงไหลไม่หยุดและเขาเองไม่คิดจะหยุดมัน ฮีชอลยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งเพื่อให้ดวงตาของเขามองดูร่างกายของชีวอนที่เหมือนนอนหลับอยู่อย่างปกติให้ชัดเจนและมองดูด้วยหัวใจของเขา ฮีชอลสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะทำในสิ่งที่เคยทำอยู่ทุกเช้าเป็นครั้งสุดท้าย

      ชี...วอน........เช้า.....แล้ว...นะ


      ------------------------------------------------


      สี่ปีต่อมา.....

      พี่จองซู!!!!เสียงซองมินตะโกนเรียกมาแต่ไกลจนทำให้เพื่อนร่วมงานอย่างทงเฮอดแขวะไม่ได้
      อะไรของแกว่ะซองมิน วิ่งเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้

      ซองมินไม่ต่อล้อต่อเถียงกับทงเฮอย่างที่เคยทำ เขาแค่เบ้ปากใส่เพราะเขามีเรื่องที่สำคัญกว่าจะมาบอกจองซู

      มีอะไรซองมิน วิ่งหน้าตื่นมาเชียว
      พี่จองซู เมื่อกี๊ผมเจอพี่ฮีชอลด้วยซองมินบอกน้ำเสียงปนหอบเล็กน้อยๆจากการที่เขาวิ่งมา

      เอ้า! แล้วยังไงของแก พี่ฮีชอลก็เจอกันทุกวันทงเฮถามขัดขึ้นทันที
      แกอย่าเพิ่งขัดดิ คืองี้พี่จองซู ผมเจอพี่ฮีชอลอยู่กับลูกค้าที่ชื่ออิลอู คุณอิลอูหน่ะพี่ซองมินรีบเล่าทันทีว่าเขาไปเจออะไรมา

      สองคนนั่นเจอกันก็ไม่แปลกนี่จองซูบอกเพราะการที่ฮีชอลจะเจอคุณอิลอู มันก็ไม่น่าแปลกตรงไหน เพราะสองคนนั้นเขาก็คุ้นเคยกันอยู่เพราะฮีชอลต้องไปดูแลการออกแบบงานให้กับบริษัทของคุณอิลอู

      ก็มันจะไม่แปลกหรอกถ้าคุณอิลอูไม่มาบอกรักพี่ฮีชอลหน่ะ

      ห๊ะ!! แกว่าอะไรนะซองมิน คุณอิลอูอะไรนะ

      ฟังดีๆนะไอ้คุณทงเฮ คุณอิลอูมาบอกรักพี่ฮีชอล และพี่ฮีชอลก็ปฏิเสธไปแล้วด้วยซองมินย้ำอีกครั้งพร้อมกับขยายความเพิ่ม ทงเฮเมื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมดก็ถอนหายใจ

      อีกแล้วเหรอ นี่คนที่ห้าแล้วนะทงเฮบ่น เพราะตั้งแต่การจากไปของชีวอน ฮีชอลก็ไม่คิดจะมีความรักกับใครอีกเลย เขาเองก็อยากให้พี่ชายของเขาได้มีความสุขอีกครั้ง

      ก็นั่นหน่ะสิ เมื่อไหร่พี่ฮีชอลจะเลิกปิดใจซะที จะได้มีความสุขเหมือนคนอื่นซองมินบ่นตามออกมา

      ฮีชอลก็มีความสุขอยู่แล้วนี่จองซูบอกน้องทั้งสองพร้อมกับยิ้มเล็กๆ เขารู้ว่าตอนนี้เพื่อนของเขาก็มีความสุขดี แม้ว่าฮีชอลจะต้องอยู่คนเดียวที่ห้องเดิมนั้น ห้องที่มีแต่ความทรงจำที่สวยงามระหว่างฮีชอลกับชีวอน แต่ฮีชอลก็เลือกที่จะเป็นแบบนั้น ตอนนี้ชีวิตของฮีชอลถูกหล่อเลี้ยงด้วยความรักที่ชีวอนมีให้กับเพื่อนของเขา จองซูยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะบอกน้องทั้งสองคนอีกครั้ง

      และฮีชอลก็ไม่ได้ปิดใจหรอกนะ เพราะฮีชอลไม่มีหัวใจให้รักใครได้อีกแล้ว

       

      "ไม่มีพรุ่งนี้...รักเราจะมีเพียงวันนี้รออยู่ ปล่อยวันพรุ่งนี้..ให้ฟ้านำทางต่อไป

      หน้าที่ของฉัน...แค่เพียงรักเธอวันนี้ ทั้งหัวใจ  จะทำเวลาเท่าที่มี...ให้เป็นความทรงจำจากวันนี้....ถึงจนวันตาย" 

       

      -- จบ --

       




      ขอบคุณเพลง "ไม่มีพรุ่งนี้" ที่เป็นแรงบันดาลใจในการแต่ง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×