ศพแรก
ผมเฝ้ามองเธอจากมุมเสาไฟ ผมมามองดูเธอทุกวัน ได้แต่เพียงหวังว่าเธอจะหันมามองผมบ้าง เด็กสาวจากโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่กำลังจะกลายเป็นของๆผมเพียงผู้เดียว
ผู้เข้าชมรวม
746
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผมยืนอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บของเดือนพฤศจิกายน วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมได้มาเฝ้าดูเธอ ใช่ เป็นวันวันหนึ่งที่เหมือนกับวันอื่นๆ ข้างหน้าของผมคือโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง วันนี้เธอก็ยังคงเดินอยู่กับเขา มันทำให้ผมเริ่มหงุดหงิด ทุกๆเย็นผมจะมายืนรออยู่ที่หน้าโรงเรียนแห่งนี้ มามองดูเด็กสาวเดินออกมาจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน เธอเป็นสาวผมสีดำยาวสลวย ดวงตาสีดำสนิท ผิวขาวนวลราวไข่มุกรูปร่างผอมบางตัวเล็ก เธอเป็นเด็กสาวในอุดมคติ มันทำให้ผมอยากสัมผัสกับเธอ อยากได้เธอมาครอบครอง ผมตามเธออยู่หลายวัน จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เริ่มเป็นเดือน ผมรู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับเธอ ไม่ว่าจะเป็นบ้านของเธออยู่ที่ไหน ครอบครัวเธออยู่กันกี่คน ผมหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ผมอยากรู้จักกับเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ผมได้แต่มาเฝ้ามองเธอทุกๆเย็นได้แต่หวังว่าเธอจะหันมามองเห็นผมบ้างซักวัน
วันนี้ผมก็ยังคงมาเฝ้าดูเธอกลับจากโรงเรียนแบบทุกวัน เธอกลับบ้านของเธอพร้อมกับไอ้หนุ่มคนนั้นอีกแล้ว หงุดหงิด มันทำให้ผมหงุดหงิด ไม่ชอบเลย ไม่ชอบใจเลยจริงๆ แต่ดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจช่วยให้ผมได้หายหงุดหงิด ช่วยให้ผมได้ทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา ฝนตกหนัก ทางกลับบ้านของเธอนั้นมีอยู่ที่หนึ่ง เป็นทางเปลี่ยว คนไม่ค่อยมี จำเป็นต้องเดินผ่านโพงหญ้าที่สูงกว่าหัว แล้วลึกเข้าไปนั้น มีบ้านร้างอยู่ ไม่มีใครผ่านไปที่นั่น เมื่อทั้งสองเดินถึงที่ตรงนั้น ผมเริ่มแผนการทันที ผมเอาไม้ตีหัวผู้ชายคนนั้นให้สลบ ตามด้วยเธอ ผมใช้ยาสลบกับเธอ ทำให้เธอหลับไป ผมไม่อยากให้เธอเจ็บ ไม่อยากให้เธอมีรอยแผล เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการผมได้เอาทั้งสองคนใส่ถุงผ้าใบใหญ่แล้วพาไปยังบ้านร้าง สถานที่ที่ผมจะได้มีความสุขกับเธอและไอ้หนุ่มคนนี้ หึ หึ หึ
ถึงที่หมาย ตอนนี้ผมได้มาถึงที่บ้านร้างแล้ว ต้องรีบจัดการ ต้องเอาไอ้หนุ่มนี่ไปมัดไว้ก่อน ผมรีบเอาทั้งสองออกมา มัดมือกับเท้าของทั้งสองคนไว้ จับเด็กหนุ่มไปผูกไว้กับเสาบ้าน ใช่ต้องผูกไว้ ผูกให้แน่นๆ ซักพักทั้งสองคนก็พื้นขึ้นมา ผมได้เข้าไปแนะนำตัวทำความรู้จักกับเธอ เธอได้ร้องไห้ออกมาและพูดกับผมเหมือนร้องขอชีวิต ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น ผมไม่ได้คิดร้ายกับเธอซักหน่อย เธอร้องขอให้ผมปล่อยเธอกับไอ้หนุ่มคนนี้ไป ทำไม ทำไมเธอต้องไปห่วงมันด้วย เพราะอะไร มันทำให้ผมเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง ผมจับเธอไปมัดผูกกับเสาอีกต้น ให้เธอดูสิ่งที่ผมจะทำกับมันคนที่มันบังอาจมาจับต้องตัวเธอ ผมเอามีดกรีดไปบนใบหน้าของมัน ลากลงมาเป็นแผลยาว เลือดสีแดงสดไหลนองเต็มไปหมด มันส่งเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดที่ผมมอบให้แก่มัน แต่แค่นั้นมันยังไม่สาแก่ใจผม ผมเอามีดทิ่มเข้าที่สีข้างมันปล่อยให้มีดเสียบคาไว้เลือดจะได้ไม่ไหลมากจนเกินไป หากปล่อยให้เลือดไหลมากไปมันอาจตายไปซะก่อน จากนั้นก็ตัดเอ็นข้อมือและเท้า ดึงลิ้นมันออกมาแล้วตัดทิ้งซะ เสียงร้องของมันช่างโหยหวนเสียจริง มันจ้องมองผมด้วยสายตาเครียดแค้นผมรังเกลียดสายตาที่มันมองมาที่ผม ดวงตาคู่นั้นดวงตาคู่นั้นของมันที่มองเธอในแต่ละวัน นิ้วชี้ผมได้ทิ่มเข้าไปในเบ้าตา ก่อนจะตามด้วยนิ้วกลางและนิ้วโป้ง ผมดึงตามันออกมาข้างหนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยให้มันอยู่ที่เสาไป เพราะปล่อยไว้มันก็อยู่ได้อีกไม่นาน เสียงร้องของมันดังมากขึ้น ผมรู้สึกสะใจจริงๆ
ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว เวลาที่ผมจะได้รู้จักกับเธอมากขึ้น เด็กสาวคนนั้น ตอนนี้เธอเป็นของผมผู้เดียว เธอกรีดร้องเสียงดังแต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเธอได้เลย มือผมสัมผัสไปตามส่วนต่างๆของเธอ ลูบไล้ไปเรื่อยๆ เธอหน้าแดงขึ้นมาแต่ก็ยังตะโกนร้องให้คนช่วย เธอที่พยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงผมได้ ผมได้ขึ้นค่อมเธอไว้ สายตาที่วิงวอนขอร้องเหมือนกำลังร้องขอชีวิต ตาของเธอเริ่มแดงก่ำพร้อมกับน้ำตาที่รินไหล ผมเริ่มสงสารเธอ ผมเลยคิดว่าจะปล่อยเธอไป ให้เธอได้ไปสบายพร้อมๆกับไอ้เด็กหนุ่มนั้น ผมปล่อยให้เธอนอนลงกับพื้นแล้วเดินไปที่ไอ้หนุ่มคนนั้น ดึงมีดที่เสียบที่สีข้างมันออกมา มันร้องตะโกนลั่นเหมือนจะขาดใจ เป็นภาพที่แสนจะสุขใจจริงๆ เลือดไหลจากแผลที่ดึงมืดออกมานองกับพื้น เหมือนก๊อกน้ำที่เปิดอยู่ ผมทิ้งเด็กหนุ่มนั้นไปและไปหาเธอต่อ ครั้งนี้ผมเริ่มทำตามสิ่งที่คิดคือปล่อยเธอ ผมตัดเชือกที่มือของเธอ เธอคงรู้สึกดีใจที่ผมทำแบบนั้น สายตาที่วิงวอนร้องขอชีวิตนั้นดูเริ่มมีความหวัง เธอที่ผมได้แก้มัดให้นั้นคงรู้สึกเหมือนจะขอบคุณผมที่ยอมปล่อยเธอไป ผมไม่อยากเห็นเธอทรมาน ผมจึงได้เอามีดเสียบทีเดียวเข้ากลางขั้วหัวใจเธอ พริบตาเดียวเธอก็หยุดนิ่ง เหมือนตุ๊กตาที่ไร้ชีวิตจิตใจ เธอไปสบายแล้ว ผมได้ปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ผมเริ่มร้องไห้ ผมพึ่งคิดได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันผิด ผมไม่น่าทำแบบนี้เลย ถ้าเกิดมีใครมาเห็นศพผมคงเดือนร้อนแน่นอน ผมควรจัดการกับชิ้นส่วนของทั้งสองคน ผมได้นำชิ้นส่วนของเด็กหนุ่มมากองรวมกัน รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนั้นยังไม่ตาย ผมเอาไฟแช็คจุดใส่สมุดในกระเป๋าของทั้งสอง แล้วโยนไปที่ร่างเด็กหนุ่ม เขาดิ้นรนและกรีดร้องอย่างโหยหวน เหมือนกำลังโดนเชือดอยู่ก็ไม่ปาน หลังจากจัดการกับศพแรกไป คราวนี้ก็ถึงศพของเธอ เมื่อมองไปผมก็ยังคงคิดถึงเธอ ผมอยากให้เธอเป็นของผม ผมจึงกดมีดลงไปที่คอเธอ ตัดหัวของเธอออกจากตัว ผมจะเก็บชิ้นส่วนเธอไว้ แต่ผมก็เลือกไม่ถูก ผมค่อยๆตัดออกมาทีละส่วน หัว มือ แขน และขา นิ้วมือ นิ้วเท้า แม้แต่ไส้หรือเครื่องในต่างๆ ผมแร่และดึงมันออกมา เลือดสีแดงเต็มตัวผมไปหมด ตัวผมเหมือนถูกย้อมไปด้วยสีแดงสด เลือดเธอที่ไหลออกมาผมไม่ยอมให้เสียเปล่าแน่นอน ผมค่อยๆดื่มมัน เลือดอุ่นๆสดๆของเธอ เมื่อจัดการเลือกชิ้นส่วนได้แล้ว ผมก็เริ่มจัดการกับเธอต่อ แน่นอนผมจะไม่ให้ศพของเธอเหมือนกับเด็กหนุ่มนั้น ผมบรรจงค่อยๆนำศพเธอปล่อยลงคลอง ให้ไหลไปเรื่อยๆ ไหลไปตามกระแสน้ำ เมื่อเสร็จทุกอย่างผมก็กลับบ้าน นอนมองดูลูกตาของเธอที่ผมเก็บมาอย่างมีความสุข มันช่างสวยจริงๆ ผมลุกขึ้นมาจากเตียง เดินไปที่โต๊ะกระจก ผมเปิดกระจกออกมา ด้านหลังของกระจกนั้นเต็มไปด้วยขวดจำนวนมากมายพร้อมกับชิ้นส่วนของเด็กสาวคนอื่นๆที่ผมเก็บมา นิ้วมือทั้งสิบนิ้ว เล็บ ผม ดวงตา จมูก หู ทุกส่วนที่สามารถเก็บมาได้ เด็กสาวมากมายอยู่ภายในตู้นี้ ผมมองดูพวกเธออย่างมีความสุขก่อนจะวางเธอคนใหม่ไว้กับคนอื่นๆแล้วกลับไปนอนต่อ
เช้าวันใหม่ผมคิดได้ว่าเด็กสาวคนอื่นๆจะมีดวงตาที่สวยแบบนี้ไหม เด็กสาวจากโรงเรียนต่างๆ มหาลัยต่างๆ เด็กสาวจากบอร์ดต่างๆ ถ้าผมนัดมาเจอได้ ถ้าได้เจอกับเธอเป็นการส่วนตัว ผมคงมีดวงตาสวยๆหรือชิ้นส่วนร่างกายของเธอเพิ่มขึ้นมาอีกแน่นอน แล้วโรงเรียนคุณละ มีเด็กสาวแบบที่ผมต้องการไหม
คุณต้องการให้มันจบแค่ตรงนี้ไหม ถ้าอยากให้มันจบก็จงปิดโปรแกรมมันไปซะ อย่าได้คิดอ่านต่อ แต่ถ้าคุณยังรู้สึกสนุกจงอ่านต่อไป
และผมก็ได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเหมือนกับหญิงสาวที่ผมเคยเฝ้ามองเธอ เธอเดินผ่านไปด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริง เหมือนกับว่าเธอคนนั้นที่ผมเคยฆ่ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผมแทบจะไม่เชื่อสายตัวเอง ผมหยิบลูกตาที่เก็บไว้ขึ้นมาดูเผื่อว่าตอนนี้ผมจะฝันไป แต่มันเป็นความจริง
ในคืนนั้นผมนอนคิดเรื่องของเธอแทบทั้งคืน ในโลกที่กว้างใหญ่นี้อาจมีคนที่หน้าตาเหมือนกันมากมายและเราก็บังเอิญได้เจอกัน หรือเป็นไปได้ไหมเธออาจจะกลับมาเกิดใหม่เพื่อผม ผมมองดวงตามากมายที่ได้รวบรวมเก็บสะสมไว้ในห้อง ดูสิเหมือนกับมันจะบอกอะไร อะไรนะอย่าไปมองคนอื่นนอกจากพวกเราเหรอ ไม่หรอกผมจะทำให้เธอคนนั้นมาอยู่ด้วยกันกับพวกเธอเอง อย่าห่วงไปเลย ว่าผมจะละสายตาไปจากพวกเธอ
ในคืนวันนี้ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักเหมือนโลกทั้งโลกกำลังร้องไห้ เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งดังไปทั่ว สนามเด็กเล่นเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน น้ำขังนองและมีสีแดงของเลือด ฝีเท้าคนหลายคนวิ่งเข้ามาล้อมตัวผมไว้ ผมไม่มีความรู้สึกอะไรถึงแม้รอบกายผมจะวุ่นวายเพียงใด เหมือนกับเวลาของผมมันหยุดนิ่งลง เด็กสาวคนหนึ่งยืนมองมาที่ผมอย่างสงบนิ่งทั้งตัวเปียกไปด้วยสายฝน ดวงตาของเธอกำลังร้องไห้รึเปล่านะ
เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไร ทำไมถึงไปอยู่ที่นั่น รอยเลือดนั่นมันอะไร แล้วร่องรอยการต่อสู้นั่น คำถามหลายคำถามจากใครคนหนึ่งพูดผ่านหูผมไปพยายามถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ สายตาผมได้แต่จดจ้องไปที่ผนังสีเขียวบางๆแสงไฟที่สาดส่องภายในห้องพัดลมที่หมุนเอื่อยอยู่บนเพดาน สมองผมว่างเปล่าและได้คิดย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ใช่วันนี้ผมไปดักรอเธอ ผมตามเธอไปเรื่อยๆจนถึงที่เปลี่ยวที่ไม่มีคน จากนั้นผมก็ได้คว้ามีดที่ซ่อนไว้ออกมา มีดเล่มหนึ่งก็ได้จ่อเข้าไปที่ด้านหลังของ ผมและเธอ ใครกัน จากนั้นคนที่จี้มีดมาที่ผมพาเดินเข้าไปที่รกร้าง มัดตัวเธอคนนั้นไว้ และมัดผมไว้กับต้นไม้เอามีดทิ่มเข้ามาที่สีข้างของผมและทำเหมือนกับ ในใจตอนนั้นผมนึกย้อนไปในจุดเริ่มต้นของเรื่องราว มันยังไงกันนะ อ่า...ใช่แล้ว ผม ผู้ชายคนนั้นที่อยู่กับเธอ หน้าของมันเหมือนกับ เหมือนกับตัวของผมเอง!! มันคือผม ผมก็คือมัน ไม่!! เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะฆ่าตัวเอง ไม่ ไม่จริง อ๊าก!!! เสียงร้องของผมตะโกนลั่นโรงพัก
ในความมืดดวงตานับร้อยหมุนร่องลอยและจับจ้องมาที่ผม พวกเธอรู้รึเปล่านะว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวผม ผมมีความสุขที่พวกเธอมองมาที่ผม แต่ความเจ็บปวดข้างในนี้มันคืออะไร ทุกๆวันที่ผมเคยเฝ้าแต่มองเธอความเจ็บปวดที่เธอไม่เคยที่จะหันมามอง ผมเกลียดตัวเองที่เอาแต่มองตามเธอ เกลียดตัวเองที่ไม่ยอมทำอะไรรอแต่ให้เธอมองมาทางผม เกลียดตัวเองที่ได้แต่มองสายตาคู่นั้นผมอยากจะควักมันออกมาผมไม่มีค่าพอที่จะมองเธอเพราะผมมันขี้ขลาด
วันที่ 30 มกราคม ปี 255? นาย แชมป์คุง นามสมมุติถูกส่งเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการคลุ้มคลั่งเนื่องจากประสาทหลอน จับเด็กผู้หญิงเป็นตัวประกันและพยายามทำร้ายตัวเองโดยเอามีดแทงเข้าที่สีข้างและควักลูกตาข้างหนึ่งของตัวเองออกมาทำให้จากที่มีตาอยู่สองตาตอนนี้เหลือแค่เพียงตาข้างเดียว และเรื่องน่าแปลกคือหญิงสาวที่ถูกจับตัวไปได้หายไปอย่างลึกลับ
อ่าใช่แล้วในผมนึกได้อีกเรื่องหนึ่งผมมักจะได้ยินเธอพูดติดปากว่า จาอาวกลับบ้าน และเรื่องที่ได้ยินบ่อยๆเป็นเรื่องของคำสาปอะไรซักอย่างนี่แหละ เธอพูดภาษาฝรั่งเศสด้วยมั้ง รู้สึกจะพูดว่า โอยาอะไรซาว่า ซักอย่างนี่แหละคงเป็นคำทักทายมั้ง และเธอมีความลับอีกเรื่องหนึ่งที่มีผมเท่านั้นที่รู้ ผมสีดำยาวสลวยของเธอนั่นจริงๆเป็นวิกล่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ *DP* ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ *DP*
ความคิดเห็น