ของขวัญชิ้นสุดท้าย...ที่ไม่อาจหวนกลับ
ต่อให้เป็นรักแท้แต่ก็ยังอยู่ร่วมกันไม่ได้...ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น
ผู้เข้าชมรวม
207
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นี่คือนิยายชีวิตของคู่รักเพศเดียวกันที่มิอาจให้ใครมาห้ามรักแท้ได้ แต่...ต่อให้รักแท้เป็นสิ่งที่งดงามเพียงไหน สุดท้ายอุปสรรคก็มาขัดขวางให้พวกเขาพลัดพรากกันในที่สุด แต่การรอคอยของเขาทั้งสองก็ยังคงอยู่ พวกเขายังรอ...รอที่จะได้เจอกัน
...แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้วก็ตาม...
เชิญชมเรื่องวุ่นวายกึ่งเศร้าจะเกิดขึ้นในโรงเรียนสอนเวทย์มนตร์ชื่อดังของลอนดอนจะเกิดขึ้นนับจากนี้
เสียงวิ่งอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืดมิดที่หนาวเย็นในเดือนธันวาคมวันหนึ่ง ชายหนุ่มผู้มีผมทรงยุ่งเหยิงได้วิ่งอย่างไม่ย่อท้อมุ่งหน้าตรงไปยังชายร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าปราสาทหลังใหญ่อย่างรอคอย พวกเขาโผกอดกันและกันพร้อมจูบกันอย่างดูดดื่มพวกเขายิ้มให้กันด้วยหัวใจที่รักกันเต็มเปี่ยม
เจมส์ พอตเตอร์หน้าแดงเพราะอาการเหนื่อยที่วิ่งมานานแม้กระนั้นเขาก็ไม่หยุดที่จะมองคนที่รักอยู่ตรงหน้า...เซเวอรัส สเนปผู้ที่ต่อให้คนในอ้อมแขนนี้จะมาช้าเพียงไหน เขาก็จะรอ...
“รอนานมั้ย?”ร่างบางถามอย่างเห็นใจ
“นิดนึง...ไม่สิ นานอยู่เหมือนกันนะ อย่างงี้ต้องลงโทษ”ชายหนุ่มตอบอย่างขี้เล่นพร้อมซุกไซ้ไปคอเรียวทำให้ร่างบางหน้าแดงด้วยความอาย
“หยุดน่าเดียวใครมาเห็นหรอก”ร่างบางพยายามห้ามคนตรงหน้าโดยดันหน้าออกไป
“จะอายทำไมไม่เห็นมีใครเลยเห็นมั้ย”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมมองไปรอบๆและก็จริงอย่างที่เขาพูด
เจมส์ยืนหน้าแดงเงียบอยู่ชั่วครู่ ปากอิ่มสั่นด้วยความหนาวจึงพูดว่า “เข้าไปข้างในเถอะ ฉันหนาวแล้ว”
เซเวอรัสขำในท่าทางของคนรักที่ตอนนี้รีบเดินเข้าไปในหอของสลีธีรินอย่างร้อนรน
“ต้องขอโทษด้วยที่อยู่กับนายไม่ได้ในวันหยุดนี้ เพราะพ่อแม่ยืนกรานให้กลับบ้านให้ได้ นายคงไม่ว่านะ พวกเขาบอกว่ามีเรื่องที่สำคัญมาก”ร่างบางทิ้งตัวลงกับโซฟาพร้อมทำท่าทีอย่างช่วยไม่ได้
“อย่าคิดมากสิ แค่ไม่กี่อาทิตย์เองอีกเดี๋ยวก็ค่อยเจอกันแล้วไง”ร่างใหญ่ปลอบด้วยจูบอย่างแผ่วเบา
ร่างบางยิ้มอย่างขอบคุณก่อนที่ทั้งสองจ้องมองกันริมฝีปากบางเริ่มเข้าใกล้ปากเนียนนุ่มราวกลีบกุหลาบจากแผ่วเบาเริ่มทวีความรุนแรงดุดันขึ้น ร่างใหญ่ถอดเสื้อของตนทีละชิ้น ร่างบางก็เช่นกัน ดวงตาคมเข้มจ้องเข้าไปในลูกตาหวานหยาดเยิ้มคู่นั้น เขากอดก่ายกันจากความร้อนในกายซึ่งต่อให้ความหนาวจากข้างนอกมีมกเพียงไรก็ไม่อาจแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเขาทั้งสอง
เซเวอรัสพรมจูบไปตามซอกคอของร่างบางทั่วมือใหญ่คลำไปทุกส่วนของร่างบาง เข่าทั้งสองก็กันขาสวยให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นส่วนอ่อนไหวของร่างกายอย่างเห็นได้ชัด ผิวที่จากขาวเนียนเริ่มแดงขึ้นจากความเร่าร้อน
“อ๊ะ...อา”ร่างบางร้องอย่างแผ่วเบา เจมส์อับอายเกินกว่าจะรับสภาพอย่างนี้ทุกครั้ง เขาพยายามเลื่อนตัวถอยไป กระนั้นชายหนุ่มก็มิล้มเลิกเมื่อเจมส์ถอยไปถึงแขนโซฟา ชายหนุ่มก็วางแขนทั้งสองข้างกั้นไว้ไม่ให้ไปไหน
“ยังกลัวอยู่อีกเหรอ”ชายหนุ่มตัดพ้อน้ำเสียงทำให้เกิดความรู้สึกผิดในความคิดของร่างบางมาก “นายก็รู้แล้วว่านายเป็นของฉันมานานแล้วนะ”เซเวอรัสจูบลงบนเปลือกตาเนียนอย่างแผ่วเบา “ฉันรักนายนะ เจมส์”
.........................................................
หลายวันผ่านไปด้วยความหนาวเย็นยะเยือกเหมือนชีวิตขาดความหมายเพียงชั่วครู่เมื่อเจมส์ไม่อยู่ เซเวอรัสเฝ้ารอการกลับมาของเขาอย่างอดทน
วันเวลาผ่านไป คนที่เขารอคอยก็กลับมาพร้อมกับสิ่งที่เขาไม่คิด...และไม่อยากรับรู้...กับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อะไรนะ...นาย...นายล้อฉันเล่นแน่เลยใช่มั้ย”เซเวอรัสตะโกนด้วยความโกรธปนกับสิ่งที่ไม่อยากเชื่อ
“เปล่านะ...พวกเขาบอกฉันอย่างนั้นจริงๆ”เจมส์ตอบกลับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด
“....ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ด้วย”ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวพร้อมพิงหลังเข้ากับกำแพงอย่างเจ็บปวดไม่แพ้กัน ร่างบางเห็นเช่นนั้นจึงทรุดลงข้างๆเขา
“แต่มันเกิดขึ้นแล้ว...เซเวอรัส ... ฉันต้องแต่งงาน...”
.................................................................................................
“ไม่.....................” ร่างที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อพลันตื่นขึ้นพร้อมเสียงแห่งความเจ็บปวดในใจ เซเวอรัสแลมองไปรอบๆท่ามกลางความมืดพร้อมน้ำใสตรงดวงตาคู่เรียวสวยนั้น
“อาจารย์...เป็นอะไรฮะ...ฝันร้ายเหรอ” หนุ่มร่างบางผมบลอนด์ที่ตอนนี้เปลือยอยู่ข้างกายถามอย่างห่วงใยพลางกอดไหล่กว้างไว้อย่างแนบแน่นเป็นการปลอบประโลม
“ฉันไม่เป็นไรหรอก...อืม...แค่ฝันร้ายน่ะ มัลฟอย....นอนต่อเถอะนะ”ชายหนุ่มยิ้มเพื่อให้คนตรงหน้าสบายใจ เมื่อเป็นอย่างนี้ทำให้หนุ่มน้อยยิ้มให้ก่อนล้มลงกับหมอนใบใหญ่เพื่อเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าร่างบางหลับไปแล้ว เซเวอรัสจึงทำสีหน้าอย่างครุ่นคิดอีกครั้ง สิ่งที่เขาฝันไปนั้นมักจะเกิดขึ้นทุกครั้งต่อให้เหตุการณ์นั้นจบไปนานแล้วแค่ไหนก็ตามแต่มันเป็นบาดแผลที่ฝั่งไว้ในใจกลายเป็นแผลเป็นจางๆซึ่งยากที่จะแก้ไขได้อีกยิ่งนึกถึงยิ่งเหมือนกรีดแผลนั้นให้ลึกลงไปอีก
แต่กระนั้นชายหนุ่มลุกลงจากเตียงกว้างเพื่อคว้าสิ่งเสพย์ติดที่มักเกิ้ลเรียกว่า “บุหรี่” ขึ้นมาสูบ ต่อให้เข้าเป็นสายเลือดบริสุทธิ์และเกลียดพวกมักเกิ้ลมากแค่ไหนเขาต้องยอมรับว่าสิ่งของนี้ทำให้เขาสบายใจอย่างมาก เซเวอรัสสูบมันพร้อมมองไปที่หน้าต่างที่ตอนนี้เปียกปอนด้วยหยาดน้ำฝนใสๆ เขามองอย่างเหม่อลอยพลางนึกถึงเรื่องที่ต่อในฝัน...
เรื่องที่มันควรจบไปนานแล้ว...
“กับใครน่ะ เขารู้จักนายด้วยเหรอ”ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าพร้อมน้ำตาที่เปียกชื้น
“อืม...ลิลี่เองล่ะ”
“นังเด็กเลือดสีโคลนนั้นน่ะเหรอ”ชายหนุ่มมองพร้อมลุกขึ้นอย่างไม่เชื่อหู
“นายอย่าแบ่งคนด้วยที่มาของพวกเขาได้มั้ย”เจมส์ส่งสายตาอย่างห้ามปราม เขาไม่ชอบเลยที่คนที่เขารักเลือกที่จะชอบในสิ่งที่สมบูรณ์แบบด้านสังคมเท่านั้น
“ทำไม...นายอย่าบอกนะว่า นายเริ่มชอบเด็กนั่นแล้ว”ชายหนุ่มมองกลับมาอย่างเย้ยหยันทั้งที่ความจริงแล้วเขาเองก็อยากรู้เช่นกันซึ่งการกระทำแบบนี้ทำให้ร่างบางเริ่มทนไม่ไหว เขาลุกขึ้นมองคนเบื้องหน้าด้วยสายตาที่ประชดประชัน
“ใช่ฉันพอใจเขา พอใจยังเรื่องคำตอบ”เจมส์ตอบด้วยเสียงที่สั่นเครือเพราะแรงโกรธ เขาก้าวขายาวๆตรงไปยังประตูหวังไว้ว่าจะได้ออกไปจากห้องที่กดดันนี้
หากกระนั้นไหล่กว้างใหญ่มาขวางกันเขาเอาไว้ ร่างบางชะงักก่อนจะมองมายังสายตาของเจ้าของไหล่กว้างอย่างโกรธเคืองก่อนที่จะพยายามผลักเขาออกไป หากแต่งชายหนุ่มคว้างต้นแขนเขาไว้ให้แนบชิดกับอกกว้าง
“นายคิดว่านายจะไปไหน”
“ไปจากห้องนี้น่ะสิ ฉันรู้สึกอึดอัดที่อยู่ห้องนี้”
“อึดอัดหรือพอนายเห็นว่านายได้คู่หมั้นที่สมพงศ์กว่า รวยกว่า เหมาะสมกว่า นายก็เห็นฉันเป็นฝุ่นเลยนะ”ชายหนุ่มกล่าวอย่างเจ็บปวดต่อให้เข้าเก็บมันไว้ในใจมากแค่ไหนก็ตาม ทำให้ร่างบางรู้สึกใจหายแต่ด้วยความโกรธที่คนที่โอบกอดเขาไว้นั้นไม่มีมนุษย์สัมพันธ์กับเพื่อนที่อยู่กันมาตั้งแต่เด็กทำให้เขาพลั้งปากออกไปซึ่งทำให้ชายหนุ่มแทบจะน้ำตาคลอพอกันกับคนพูด
“ถ้าใช่จะทำไม.....”
เกิดความเงียบเพียงชั่วครู่ ร่างบางเริ่มมีอาการเจ็บปวดไปทั่วต้นแขนทั้งสองข้าง ร่างบางมองตาคนตรงหน้าที่ตอนนี้มีน้ำใสๆที่ไหลริมไปตามโครงหน้า
...คำพูดเมื่อคราวนั้นทำให้ร่างใหญ่ที่ตอนนี้หน้ามืดไปหมดได้บังคับให้ทำสิ่งที่เจ็บปวด...ต่อคนที่เขารัก ...และตัวเอง
....................................................................
เซเวอรัสที่ตอนนี้ได้เริ่มสูบบุหรี่เป็นมวนที่สองแล้ว ยังคงสายตาที่เหม่อลอยแต่ในหัวที่ตอนแรกเคยว่างเปล่าได้เกิดความรู้สึกที่ผิดมากมาย ...เขาอยากขอโทษ...น่าแปลก...ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขานึกสะใจและสมน้ำหน้าในตอนแรกแต่พอมาถึงวันสุดท้ายของปีการศึกษาสุดท้ายในโรงเรียนนี้เป็น
วันสุดท้ายที่เขาจะได้พบเจมส์...ใจของเขานั้นอยากดึงร่างบางเข้ามากอดแทบคลั่งแต่กระนั้นจิตสำนึกทำให้เขาทรยศใจตัวเอง เขาฝืนต่อการจะพบหน้าร่างบาง เขาอับอายเกิดกว่าจะทำเป็นลืมเหตุการณ์คืนนั้นได้ เขาทำได้เพียงยืนมองอยู่ห่างๆ...เขาทำได้เพียงแค่นั้นจริงๆ
“เซเวอรัส...”เสียงนุ่มนวลดูอ่อนโยนเรียกขึ้น ชายหนุ่มได้หันมายังทางต้นเสียงอย่างช้าๆ ร่างอันบอบบางภายใต้เสื้อคลุมสีขาวแลดูอยากปกป้องไม่อยากให้ไปไหนนั้น ได้เดินเข้ามาใกล้ๆ น้ำใสๆได้ไหลรินจากตาคู่สวยนั้น ได้จ้องมายังสายตาที่ดูเย็นชา ปากเนียมนุ่มนั้นสั่นด้วยความหนาวและความเจ็บปวดเข้าด้วยกันได้เปล่งเสียงออกมาว่า “อย่าเย็นชากับฉันเลยนะ ฉันรู้ว่าเธอเจ็บปวดไม่แพ้ฉัน...แต่ฉันต้องทำ ถึงฉันจะไม่ยินยอมก็ตาม...เซเวอรัส...ฉันรักนายนะ...ต่อให้ฉันแต่งงานไปแล้วฉันก็ยังรักนาย...วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วอย่าเฉยชากับฉันเลยนะ...ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว”ร่างบางเดินเข้าไปสู่อ้อมกอดคนตรงหน้า ได้หลั่งน้ำตาด้วยความทรมานไว้ไม่หยุด
การกระทำของคนตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มไม่อาจสามารถทนได้ เขาเองก็ไม่อยากอยู่คนเดียว เขาไม่อาจเฉยชากับคนตรงหน้าได้อีกเพราะไม่อาจทิ้งคนๆนี้ไว้เบื้องหลังได้อีก ตอนนี้ทิฐิได้ถูกทำลายไปแล้ว...มันถูกทำลายตั้งแต่ร่างบางได้กอดและบอกรักเขาแล้ว เขาเข้าใจดีต่อให้เป็นรักแท้ พระเจ้าก็ไม่ให้ความยุติธรรม...เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เขาจะสามารถทนรับทุกข์ทรมานนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน
แค่คิดเพียงนั้น เซเวอรัสได้คุกเข่าลงคว้าเอวบางไว้ในอ้อมแขนเสียงสะอึกสะอื้นอย่างเจ็บปวดดังขึ้นภายใต้ใบหน้าที่ซบลงกับเอวบาง
เจมส์ได้ลดตัวลงเพื่อจะได้มองหน้าคนที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งการทำเช่นนั้นทำให้เซเวอรัสได้กอดตัวเขาไว้อย่างแนบแน่น หากหยุดเวลาไว้ได้ ก็อยากให้มันหยุด ...หยุดช่วงเวลานี้ไปตลอดกาล...
ผลงานอื่นๆ ของ Dark wizard ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Dark wizard
ความคิดเห็น