ผมไปผจญภัยอยู่ในที่ที่คนซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นคนมีธรรมะสูงมาได้พักใหญ่ๆ เห็นอะไรมาหลายๆอย่าง
ผมเคยเห็นคนอวดร่ำอวดรวย อวดแฟน อวดของ อวดสถาบันโง่ๆ อวดสารพัดจะอวด
      คุณเชื่อมั้ย
      ว่าการเปี่ยมด้วยธรรมะเขาก็อวดกันด้วยนะ
      คนที่ศึกษาธรรมะต่อให้จบเปรียญสูงๆ หรือศึกษาไปทั้งชีวิต แต่เข้าไม่ถึงเสียที ก็ไม่ได้ดีไปกว่าฆราวาสทั่วๆไปที่ใช้ชีวิตไปวันๆครับ จะมีดีก็คงแค่ปาก และภาพพจภายนอก
     
      การศึกษาธรรมมะ กับการเข้าถึงธรรมะ
      ห่างกันหลายล้านโยช แทบเรียกว่าคนละมิติก็ได้
      นักบวชไม่ได้แปลว่าจะเข้าถึงธรรมะมากกว่าฆราวาส
      คนจบสูงๆไม่ได้แปลว่าเข้าถึงธรรมมะมากกว่าคนไม่มีการศึกษา
      คนฉลาดๆไม่ได้แปลว่าเข้าถึงธรรมะได้มากกว่าคนโง่ๆ
      คนที่ท่องคาถาได้เยอะๆ ไม่ได้แปลว่าเข้าถึงธรรมะมากกว่าคนที่ท่องอะไรไม่เป็นเลยซักบท
      ธรรมะอยู่ในธรรมชาต คนที่เขาเข้าถึงจริงๆแล้วนั้น เขาไม่อวดหรอกครับ เพราะเมื่อถึงตรงนั้น เมื่อเขาเข้าถึง เขาก็จะเข้าใจความจริงที่ว่าที่ศึกษา ที่ค้นหามาทั้งชีวิตก็เท่านี้ล่ะ ข้าพเจ้าไม่ได้รู้อะไรมากมายเลย จะไปดูถูกคนอื่นได้ยังไง
      ยิ่งคุณเข้าใกล้ความจริงหรือเข้าถึงสภาพเดิมๆของจิตธรรมชาตมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้ว่าคุณแทบไม่รู้อะไรเลย และคุณก็จะเริ่มถ่อมใจลงเรื่อยๆ ดูถุกคนน้อยลง เมตตาคนมากขึ้น ...
      ถ้าใครยิ่งศึกษา ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองวิเศษกว่าคนอื่น ฉลาดกว่าคนอื่น รู้สึกอยากอวดญาณบารมี อยากอวดบุญ อวดความดี..ก็แสดงว่ากำลังถอยหลังลงคลองครับ
      และคนประเภทนี้กระมังที่เรียกว่ามือถือสากปากถือศีล และคนพวกนี้จะน่าเป็นห่วงมาก ถ้าเขาไม่เพียงหลอกสายตาคนภายนอกที่มองเขา แต่เขาได้หลอกตัวเองจนเขาเชื่อซะสนิทใจว่า เขาเป็นคนมีธรรมมะ
      คนดี ก็มีทั้งดีแท้ ดีเทียม
      คนเลวที่เราได้ยินเรื่องเขา ก็มีทั้งเลวจริง และถูกใส่ร้าย
      คนที่นั่งอยู่บนที่อันมีเกียรติ \"ก็ไมได้แปลว่า\"จะสมควรถูกประนามน้อยไปกว่าคนเป็นนักโทษฆ่าข่มขืนหรอกครับ
      --
      ขอพระเจ้าอวยพรให้ทุกท่านบรรลุธรรมโดยไวครับ
      ทำเดี๋ยวนี้อย่ารอชาตหน้า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น