คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : พี่เลี้ยง
กว่าอุ่นเรือนจะเกลี้ยกล่อมให้เด็กชายยูเซมารุเห็นว่าการเรียกป้าว่าพี่นั้นไม่ได้เป็นการผิดมารยาทได้ก็เล่นเอาแทบจะลมจับ
เพราะว่าเรื่องมารยาทนั้นเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นยึดถือปฏิบัติ
ครั้นภรรยาของลุงซากาฮิโตะซึ่งควรจะมีศักดิ์เป็นป้าสถาปนาตัวเองเป็นพี่ เด็กชายจึงรู้สึกไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยแต่กระนั้นขนมแปลกๆที่มีรสชาติแสนอร่อยที่คุณป้าเอามาฝากก็ทำให้เขาไขว้เขวและเห็นว่าการเรียกป้าว่าพี่คงไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไร
ใครจะไปรู้ ไม่แน่ในอนาคตเอาอาจจะได้เรียกป้าคนนี้ว่า...ที่รักจ๋าก็เป็นได้
ถึงตอนนั้นจะผิดจะบาปอย่างไรค่อยว่ากัน
เพราะอาการภายนอกของยูเซมารุไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก
เว้นจากแขนซ้ายที่เข้าเผือก
ไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาจึงได้ออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปทำการพักฟื้นที่บ้าน
สถานที่แรกที่พวกเขาไปเยือนเป็นที่แรกคือสุสานประจำตระกูลมัตสึคาว่า
ทันทีที่ยูเซมารุได้พบกับหลุมศพเรียบๆที่มีเสาหินอ่อนรูปไม้กางเขนสีขาวเข้า
น้ำตาของเขาก็แทบจะหยด
อุ่นเรือนที่จำเป็นต้องติดตามมาด้วยหน้าที่เป็นฝ่ายส่งช่อดอกไม้ในมือให้กับเขา
ชายหนุ่มรับช่อดอกไม้นั้นมาแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งก่อนจะวางมันไว้บนพื้นหินอ่อน
เขามองกรอบภาพเล็กๆของพ่อตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพ่อของเขาได้จากเขาไปแล้วจริงๆ
เขา...เหลือตัวคนเดียวแล้วจริงๆน่ะหรือ
ทันทีที่เขารู้สึกว้าเหว่
จู่ๆก็มีสัมผัสอุ่นๆบนลงเบาๆบนบ่าของเขาอย่างให้กำลังใจ
ครั้นพอเหลียวหันมองกลับไปก็พบว่าเป็นคุณป้านั่นเองที่กำลังพยักหน้าให้กำลังใจเขา
ยูเซมารุคลี่ยิ้มเมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เขาได้รับพร้อมกันนั้นก็ผุดลุกขึ้นไปสวมกอดคนๆนั้นเอาไว้แน่น
“คุณป้า”อุ่นเรือนกรอกตาขึ้นฟ้าถอนหายใจเฮือก
นึกไม่ถึงว่ายูเซมารุที่เธอรู้จักทั้งชีวิตจะอ่อนไหวง่ายดายถึงเพียงนี้ เอะอะก็กอด
เอะอะก็ร้องไห้ มันใช่เขาหรือนี่ “คุณป้าอย่าหนีผมไปสวรรค์นะ” นั่นไง! นอกจากสอนไม่จำ
ให้เรียกพี่ยังซื่อบื้อเรียกป้าไม่พอ ยังแช่งเธออีกต่างหากตาบ้าเอ้ย
มันน่าจะโดนตบให้กะโหลกกลับ ถ้ามันจะมีใครสักคนต้องตาย
ล้านเปอร์เซ็นต์ต้องเป็นคนที่แก่กว่าเธอเป็นสิบปีอย่างเขาแน่ๆไม่ต้องสงสัย อ่อ
ไม่อีกที ก็อาจจะได้ตายเร็วกว่านั้น...ถ้าไม่ระวังปาก
“ค่ะๆ พี่ไม่หนีไปสวรรค์ง่ายๆหรอกค่ะ”พร้อมกันนั้นก็แซะเอาผู้ชายตัวโตออกจากตัวด้วยกริยาที่ดูธรรมชาติที่สุด
อันที่จริงเพราะเมื่อครู่เธอมองหลุมศพของคนในตระกูลมัตสึคาว่าที่นอนเรียงรายกันทั่วบริเวณแล้วนึกกลัวขึ้นมาว่า...ถ้าถูกฝังจริงๆใต้ดินคงมืดไม่น้อย
ทางมัตสึคาว่าเป็นคริสต์กี่คนๆเขาก็ฝัง ทางฟากเธอเป็นพุทธเผาแล้วก็จบกัน
ทันทีที่รู้สึกสงสารที่ยูเซมารุจะต้องถูกฝังในที่มืดอย่างนั้นก็เลยเผลอเอามือไปแตะไหล่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
รู้สึกเห็นใจที่เขาจะต้องถูกฝังที่นี่เช่นเดียวกันกับพ่อ ใครจะรู้ล่ะว่ามันจะโผเข้าหาเธอแบบนี้
บ้าจริง!!! ทำไมพี่เล็กไม่พุ่งมาอย่างนี้บ้างนะ
แม่จะกอดหมับ!!! ไม่ปล่อยเลยทั้งชีวิต
“...”ยูเซมารุที่ถูกคุณป้าดันตัวออกถอยกลับมายืนมองเจ้าของไออุ่นอย่างแสนเสียดาย
เธอคนนี้สวยไม่ได้ครึ่งของมารดาเขา ไม่พะเน้าพะนอเขาอย่างคนอื่นๆ
ตรงกันข้ามเธอติดจะแข็งๆอย่างไรชอบกล
แต่กระนั้นในความเฉยชาไม่ใส่ใจเขากลับรู้สึกถึงความใจดีของคนๆนี้ได้ดี...จนรู้สึกอุ่นใจได้แทบทุกครั้งที่อยู่ใกล้
เขามั่นใจ...คุณป้าคนนี้ใจดีที่สุดในโลก
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันกลับก่อนล่ะนะ”อุ่นเรือนหันไปบอกกับซากาฮิโตะ
เฮ้อ...ทั้งๆที่ตั้งใจแล้วว่าจะหนีออกจากบ้านเพื่อทำใจสักระยะ
แต่เอาเข้าจริงเธอก็คิดถึงพี่เล็กจนทนไม่ไหวพอยูเซมารุออกจากโรงพยาบาลได้
ประกอบกับที่หมอบอกว่าอาการของเขาจะหายในไม่ช้าเธอจึงตัดสินใจจะกลับบ้าน
“ผมไปด้วย”ยังไม่ทันที่คนสนิทจะตอบยูเซมารุก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างนั้นพร้อมกับคว้ามือของอุ่นเรือนมากุมไว้
ดวงตาสีน้ำตาลล้อมขอบทองที่สะท้อนเชื้อชาติทางฝั่งมารดามองเธออย่างออดอ้อน “...นะครับ”
“ไม่ได้!”อุ่นเรือนปฏิเสธทันทีอย่างไม่ต้องคิด
ต่อให้เขามีตาที่อ่อนเชื่อมยิ่งกว่าลูกหมาเธอก็ไม่ใจอ่อน
“ผมจะไปด้วย!”เด็กชายตะเบ็งเสียงเมื่อเห็นท่าว่าจะโดนซากาฮิโตะห้าม
“จะไปๆ”
“ไม่ได้!!”พอโดนคนที่มีวุฒิภาวะสูงกว่าตะโกนใส่
คนที่อ่อนกว่าหรือจะยอม แน่นอนว่าเธอย่อมต้องตอกกลับไปอย่างไม่ยอมกัน
“ได้!!!”
“ไม่ได้!!!!”
“พอ!!!!!!!”ก่อนที่บรรดาบอดี้การ์ดจะสิ้นศรัทธาในตัวผู้นำองค์กรและว่าที่นายหญิงไปมากกว่านี้ซากาฮิโตะก็เป็นผู้เป่านกหวีดยุติการโต้แย้งแบบเด็กๆลงด้วยการตัดสินแบบเข้าข้างคนของตนเองว่า
“ท่านมายูมิต้องพาท่านยูเซมารุกลับไปด้วยครับ”
อุ่นเรือนถึงกับอึ้งในคำตัดสินไปสามวินาทีก่อนจะตะโกนใส่ซากาฮิโตะว่า
“ฝันไปเถอะ!!!”
ริมฝีปากใต้หนวดสีเข้มเรียงตัวเป็นระเบียบของซากาฮิโตะขยับยกขึ้นปรากฏเป็นรอยยิ้มเมื่ออดคิดไม่ได้ว่าบางทีเขาอาจจะฝันไปจริงๆก็ได้ที่กำลังจะได้ก้าวเข้าสู่คฤหาสน์ซาโต้พร้อมกับนายน้อย...ในฐานะแขก
เพราะตัวนายน้อยเองก็มีปัญหารอบตัวมากมายอยู่แล้ว
ไหนจะสมองกระทบกระเทือน ไหนพ่อที่รักจะต้องมาตายซ้ำตายซาก
เพื่อไม่ให้นายน้อยที่เขารักยิ่งกว่าชีวิตต้องเสียใจไปมากกว่านี้
กะอีแค่ท่านยูเซมารุอยากจะตามท่านมายูมิกลับบ้านทำไมเขาจะทำให้ท่านไม่ได้
อะไรที่เป็นความสุขของนายน้อย สิ่งนั้นก็คือความสุขของเขาเช่นกัน ถึงแม้ว่าท่านหมูบินจะยอมตกลงง่ายผิดปกติไปหน่อยก็เถอะนะ
แต่คง...ไม่มีอะไรหรอก...ใช่ไหม
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านซาโต้ค่ะ”อุ่นเรือนคลี่ยิ้มหวานเต็มใจมากที่ผายมือเรียกคฤหาสน์หลังใหญ่ว่าบ้านซาโต้
“...”เด็กชายก้าวลงจากรถพร้อมกับกวาดตามอง ‘บ้าน’ของคุณป้าก่อนจะดึงตัวคนสนิทเดินเลี่ยงอุ่นเรือนไปอีกทางเพื่อถาม
“คุณป้าก่อนจะแต่งงานกับคุณลุง
เธอมาจากตระกูลไหนกัน” แม้ยูเซมารุในวัย11ปีจะถือว่าเป็นเพียงเด็กชาย
แต่ในวัยเพียงเท่านั้นพ่อของเขาก็สอนอะไรเขาหลายๆอย่างจนสามารถคาดเดาได้แล้วว่า
งานนี้ถ้าคุณป้าไม่ใช่ลูกเศรษฐี คุณลุงซากาฮิโตะก็คงต้องตอบคำถามแล้วล่ะว่าเงินจำนวนมหาศาลที่นำมาสร้างคฤหาสน์ล้ำค่านี้...มาจากไหน
“เอ่อ คุณมายูมิ เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลซาโต้ครับ”ซากาฮิโตะรีบบอกความจริงไปทันทีอย่างไม่คิดปิดบัง
“คงไม่ใช่ซาโต้...แก๊งมังกรเขียวหรอกใช่ไหม”คนญี่ปุ่นใช้นามสกุลซ้ำกันมีเกลื่อนกลาด แต่ตระกูลซาโต้ที่ร่ำรวยจนสร้างคฤหาสน์หินอ่อนบนพื้นที่กว้างใจกลางเมืองแบบนี้คงมีแต่ซาโต้
แห่งแก๊งมังกรเขียวเท่านั้นกระมัง
“ใช่ครับ”
“หือ...”ในความทรงจำของยูเซมารุในช่วงวัย11ปีนั้น ณ
ช่วงเวลานั้นแก็งเสือขาวของบิดาและแก๊งมังกรเขียวเป็นศัตรูที่แย่งชิงผลประโยชน์กันมาโดยตลอด
พ่อของเขาเองก็ได้บอกเขาเอาไว้เสมอว่าญี่ปุ่นต้องเป็นของแก๊งเสือขาวเท่านั้น
นี่คือปณิธานของบิดาที่เขาตั้งใจว่าจะทำให้สำเร็จให้จงได้ “งั้นลุงซากาฮิโตะ...ก็แต่งงานกับลูกสาวของคิมูระ
แต่งงานกับศัตรูอย่างนั้นน่ะสิ”
ซากาฮิโตะรู้สึกลำบากใจมากที่จะคงสถานะสมรสกับท่านหมูบิน
ยิ่งโดนนายน้อยซักขนาดนี้แล้ว
เขาก็มีแต่จะต้องบอกความจริงกับนายน้อยเท่านั้นกระมัง
คงต้องเสี่ยงดูแล้วว่านายน้อยจะรับความจริงได้สักกี่มากน้อย
“คุณมายูมิไม่ใช่ลูกสาวของคิมูระครับ
แต่เป็นลูกสาวของริวอิจิซึ่งเป็นลูกชาย”
“โกหก!!! ซาโต้ ริวอิจิ อายุน้อยกว่าโต้ซังของผม
แล้วคุณป้าจะเป็นลูกสาวของเขาได้ยังไง!!!”ยิ่งพูดยูเซมารุก็ยิ่งงง
มันเป็นไปไม่ได้ที่คนที่อ่อนกว่าบิดาเขาเป็นสิบปีคนนั้นจะมีลูกสาวตัวโตขนาดนี้ในขณะที่เขาเพิ่งจะอายุ11ขวบ
ที่สำคัญตั้งแต่เขาเกิดมาจนป่านนี้ตลอดความทรงจำที่ผ่านมา ซาโต้ ริวอิจิคนนั้นเพิ่งจะได้ลูกสาวชื่อ....
“ไม่จริง!!!”
“...อะไรครับ”ซากาฮิโตะตกใจเมื่อจู่ๆนายน้อยก็ดูเหมือนจะช็อกไปกับอะไรบางอย่าง
“ซาโต้ มายูมิ...คือลูกสาวคนแรกของริวอิจิ
ที่คุณแม่เลือกให้เป็นคู่หมั้นของผม แล้ว...คุณป้าก็ชื่อซาโต้ มายูมิ
แล้วยังเป็นลูกสาวของริวอิจิเหมือนกันอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”ยูเซมารุรู้สึกเหมือนแผ่นดินจะทรุดเมื่อพอจะเดาคำตอบได้รางๆแล้วว่าทำไมคนทั้งสองถึงมีชื่อเหมือนกัน
มิหนำยังมีพ่อคนเดียวกันอีก
“คือ...ผมต้องขอโทษนายน้อยด้วยครับ เรื่องทั้งหมดก็คือ...”ซากาฮิโตะนึกชื่นชมที่ท่านยูเซมารุมีไหวพริบดี
สังเกตเห็นถึงพิรุธในเรื่องนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ทู่ซี้เล่าเรื่องโกหก
ตรงกันข้ามเขากลับบอกเจ้านายของเขาถึงสภาพปัจจุบันว่าแท้ที่จริงแล้วผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเขานั้นก็คือคู่หมั้นของเขาเอง
รวมถึงบอกเล่าถึงอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับตัวยูเซมารุและอายุที่แท้จริงของเขา
อายุที่หายไปร่วม20ปี
หากแต่ก็ยังคงละไว้ในส่วนที่ยังพอปกปิดได้เกี่ยวกับมารดาและเรื่องอุบัติเหตุอันเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวต่างๆตามมาไม่หยุดเช่นนี้
“หายไปไหนกันมา”อุ่นเรือนร้องถามแทบจะทันทีที่เห็นชายสองคนที่เดินหนีเธอไปเมื่อ5นาทีก่อน นี่ถ้าอีกนาทีเดียวไม่โผล่หัวกันมา
คาดว่าเธอคงได้ไปตามดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“คุยกันนิดหน่อยครับ”เป็นยูเซมารุเองที่รีบเอ่ยแก้เช่นนั้นพร้อมๆกับที่ตัวเขาเองขยับสายตามอง ‘คู่หมั้น’ของตัวเองอย่างเต็มตาอีกครั้งด้วยความรู้สึกเหมือนจะลอยได้
ความรู้สึกรังเกียจเด็กอ้วนกลมในวันวาน เทียบกับความรู้สึกในวันนี้ไม่ได้เลยสักนิด
ในตอนนี้ ณ เวลานี้
ถ้าต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้จริงๆในอนาคต...เขาคง...ไม่แม้แต่จะขัดขืน
“มองอะไร! เข้าบ้านเร็ว จะแนะนำโต้ซังกับก้าซังให้รู้จัก”ระหว่างที่สองคนนั้นหายไปคุยกันอุ่นเรือนเองก็หายไปคุยกับโต้ซังและก้าซังของเธอมาเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อคุณแม่ไฟเขียวเปิดทางให้คุณพ่อที่โวยวายไม่ยอมท่าเดียวกับจำเป็นจะต้องรับสภาพ
รับเอาศัตรูเข้าบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้
เหนืออื่นใดใครจะรู้ว่าผู้ที่จะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุดก็คือตัวอุ่นเรือนเองที่เป็นคนวางแผนการทั้งหมด
ใช่ เธอจะเป็นผู้ที่ได้ทุกอย่าง...ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่ะนะ
“...”ยูเซมารุยิ้มแห้งๆแก้เก้อที่ถูกถามว่ามองอะไรแล้วรีบสาวเท้าตามอุ่นเรือนไปในทันที
เมื่อก้าวเข้าสู่โถงกว้างเขาก็ได้พบกับริวอิจิที่ดูมีอายุมากกว่าเดิมหลายสิบปีจากความทรงจำ
ที่นั่งข้างๆกันนั้นคืออายากะซังซึ่งยังคงยิ้มหวานดูใจดีอย่างที่เคยจำได้
แต่กระนั้นเธอก็ดูมีอายุขึ้นดังที่ควรจะเป็น
“นั่นโต้ซังของพี่...ริวอิจิซัง
และนี่คือก้าซังของพี่...อายากะซัง”อุ่นเรือนยังคงแทนตัวเองว่าพี่ผายมือแนะนำพ่อและแม่ให้ยูเซมารุได้รู้จัก
“ส่วนตรงนั้นก็คือพี่ชาย...อเล็กซิโอ้
ถัดมาคือน้องชาย...โยสุเกะ”อเล็กซิโอ้ที่นั่งหน้านิ่งพยักศีรษะให้เล็กน้อย
ท่าทางดูไม่ค่อยสบอารมณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ในขณะที่โยสุเกะค้อมศีรษะทักทายก่อนจะยิ้มกว้างยินดีต้อนรับชายหนุ่มตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง
“และสุดท้าย
คุณชายใหญ่ของบ้าน...พี่ฮันนี่”
“...”ยูเซมารุเกือบจะร้องอุทานออกมาเมื่อสิ่งที่เขาได้รับการแนะนำว่าเป็นคุณชายใหญ่ของบ้าน
แทนที่จะเป็นคน กลับกลายเป็นไก่แก่หงำเหงือกตัวหนึ่งที่อยู่ในมือผู้ดูแลเสียนี่
“พี่ฮันนี่เป็นลูกชายคนโตของบ้านนี้ เป็นลูกคนแรกของโต้ซังกับก้าซัง
ไม่ต้องแปลกใจไปนะยูคุง เพราะใครๆที่ได้รู้จักคุณชายฮันนี่ก็ตกใจกันทุกคน”อุ่นเรือนพูดกลั้วเสียงหัวเราะ
เมื่อเห็นท่าทางแปลกใจของยูเซมารุ
“ผมจำฮันนี่ได้”ยูเซมารุเฉลย
ภาพที่เจ้าไก่แจ้ตัวเล็กนี่วิ่งต้อนไก่สาวเป็นภาพที่เขาเห็นเป็นประจำเมื่อมาเยี่ยมทารกแรกเกิดนามว่ามายูมิ
แต่ผ่านมาหลายสิบปีเขาไม่คาดจริงๆว่าฮันนี่ที่ถูกแนะนำให้รู้จักจะยังคงเป็นไก่แจ้ตัวเดิมอีกครั้ง
“จำฮันนี่ได้
ก็รีบๆจำทุกอย่างให้ได้เร็วๆล่ะลูกสาวฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากอย่างทุกวันนี้”ริวอิจิยื่นมือไปอุ้มตัวไก่แจ้ชราแสนรักมาอุ้มไว้อย่างทะนุถนอม
ปีนี้มันก็อายุ23ปีแล้ว แก่จนเดินไม่ไหว เท้าหนา
ตามองไม่เห็น สัตวแพทย์ประจำตัวบอกว่าฮันนี่เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
เท่าที่ยื้อกันมาได้นานขนาดนี้ได้ก็ปาฏิหาริย์แล้ว
“...”ได้ฟังน้ำเสียงห้วนๆของชายวัยกลางคนยูเซมารุที่เป็นเด็กก็ถึงกับสลดเหมือนถูกผู้ใหญ่ดุ
เขารู้ได้ในทันทีว่าผู้ชายคนนี้ไม่ชอบเขาเอามากๆ
“ไม่เอาน่าริว”อายากะซังตบมือลงบนหน้าขาสามีของเธอเบาๆอย่างให้กำลังใจ
เมื่อสามีหน้างอของเธอพยักหน้าเบาๆเหมือนจะยอมหย่าศึกเธอจึงหันมาคลี่ยิ้มให้กับยูเซมารุ
“ยูคุงอยู่บ้านนี้ตามสบายเลยนะจ๊ะ คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง
เดี๋ยวป้าจะให้หนูอุ่นพาไปส่งที่ห้องนะ”
“ขอบคุณคุณป้าอายากะมากๆครับที่กรุณา”ยูเซมารุโค้งศีรษะลงขอบคุณน้ำใจของคุณป้าร่างเล็กอย่างจริงใจ
“รีบมาเถอะ”อุ่นเรือนที่เห็นคุณพ่อของเธอหันมาจะพูดอะไรสักอย่างกับยูเซมารุรีบคว้ามือชายหนุ่มลากเขาออกไปจากห้องโถงท่ามกลางสายตาต่างความรู้สึกของคนหลายคน
คนหนึ่ง...โมโห อีกสองคน...ขบขัน แต่กระนั้น...ก็มีอีกคนที่เจ็บปวด
ความคิดเห็น