คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : กระสุนนัดที่13 [รีไรท์]
กระสุนนัดที่13
ร่างของสองคน ศิษย์-อาจารย์ เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน (กลับมาเป็นอย่างเดิม เมื่อรีบอร์นบอกว่าเขาจะเป็นครูพิเศษของสึนะ แต่หน้าที่ใหม่ของชายหนุ่มจะเป็นคนทำให้สึนะเป็นมาเฟียที่ดีให้ได้ แม้สึนะไม่ยอมรับง่ายๆก็ตาม) สึนะกวาดสายตามองหานานะ คุณแม่จำเป็นของเขา แต่ไม่เจอ มีเพียงโน้ตเล็กๆ แผ่นหนึ่งติดอยู่ที่ตู้เย็น สึนะดึงออกมาอ่าน ข้อความที่นานะทิ้งเอาไว้...ซือคุง แม่ออกไปทำธุระ..อาหารอยู่ในตู้เย็นนะจ๊ะ....เด็กชายอ่านจบก็แปะกลับไว้เหมือนเดิม ก่อนเปิดตู้เย็นเอาอาหารออกมาอุ่นให้ร้อน แล้วยกไปเสิร์ฟให้แก่ผู้เป็นอาจารย์และตนเอง ทั้งคู่ค่อยๆ ละเลียดอาหารมื้อเช้าที่สายกว่าปกติอย่างใจเย็น และสึนะก็ทำหน้าที่เก็บจานไปล้าง
รีบอร์นที่ตกลงกับสึนะที่ใจเย็นลงบ้างแล้ว หลังจากบังคับให้ฟังบนเตียงในช่วงเช้าของวัน..ซึ่งนักฆ่าหนุ่มบอกเล่าสาเหตุที่เขากระทำลงไปในวันนั้นเป็นเพราะห่วงร่างเล็กซึ่งเขาบอกว่าเสียใจที่ทำอย่างนั้นลงไป (ไม่ยอมขอโทษอยู่ดี) ทำให้สึนะคลายความโกรธลง และกลับมาพูดกับเขาดีๆอย่างเคย ...แต่เขาไม่ได้บอกอีกฝ่ายว่ารุ่นที่ 9 นั้นมีคำสั่งให้เขาจัดหาสมาชิกเข้ามาเป็นแฟมิลี่ของสึนะ โดยคัดเลือกจากบรรดาเพื่อนๆที่ สึนะรู้จักเพื่อให้ง่ายต่อการเกลี้ยกล่อม แม้ว่ารีบอร์นจะไม่ชอบคำสั่งนี้นัก แต่ในเมื่อเป็นหน้าที่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้
“วันนี้จะออกไปไหนไหม สึนะ”
“?” สึนะไม่ได้ตอบ พลางคิดถึงตารางนัดหมายภายในใจ...พี่เคียวยะ...ไม่ว่าง...ส่วนยามาโมโตะคงพักอยู่ที่บ้าน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ เขาก็ไม่สนิทพอถึงขั้นที่จะไปเยี่ยมเยียนใครได้
“วันนี้ฉันว่างแนะ ฉันไปกับนายด้วยได้ไหม” สึนะไม่อยากอยู่คนเดียว
“ฉันก็กะจะชวนแกอยู่แล้วล่ะ”
ทั้งสองคนเตรียมตัวออกจากบ้าน ร่างสูงอยู่ในชุดสูทสีดำตัวเก่งเหมือนทุกวัน ส่วน
สึนะเองก็ใส่เสื้อยืดธรรมดาๆ กางเกงยีนส์รัดรูป กับรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง ดูเผินๆ ก็เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป ถ้าไม่ติดที่ใบหน้าหวานชวนมอง ที่ทำให้ชุดธรรมดาๆ นี้กลับไม่ธรรมดาเลย เพราะเหมือนนางแบบ(?)ที่หลุดออกมาจากนิตยาสารแฟชั่นอย่างไงอย่างงั้น ทำเอารีบอร์นหนักใจหน่อยๆ...จะเด่นไปไหมเนี่ย....
“จะไปไหนเหรอ” เมื่อทั้งคู่จัดการล็อกประตูบ้านเสร็จเรียบร้อย ร่างบางก็เอ่ยถามสถานที่ ที่จะไปในวันนี้
“บ้านของยามาโมโตะ ทาเคชิน่ะ...นำไปสิ นายรู้ไม่ใช่เหรอ?” คำพูดของร่างสูง ทำให้สึนะขมวดคิ้ว จ้องหน้าอีกฝ่าย
“จะไปหาเรื่องคนอื่นถึงที่เลยเรอะ?” สึนะกล่าวอย่างไม่ไว้ใจในการกระทำที่อาจเกิดขึ้นกับยามาโมโตะเพื่อนของเขา เพราะรีบอร์นเคยทำงามหน้าไว้แล้ว
“เอาน่า ไม่ได้ไปหาเรื่อง แต่...ไปคุยธุระต่างหาก”
“ธุระ?? นายมีธุระอะไรกับยามาโมโตะกัน?” สึนะยังคงถามเซ้าซี้จนรีบอร์นนึกรำคาญ จนต้องขู่ร่างเพรียวบางว่า “ถามมากจริง ตกลงจะไปไหมเนี่ย? หรือจะอยู่บ้าน?” สึนะชักสีหน้า แต่ยังเถียง “แล้วนายรู้จักบ้านของยามาโมโตะหรือไง?”
“นั้นสิเนอะ” รีบอร์นหัวเราะ หึ หึ สึนะแปลกใจในพฤติกรรมของอีกฝ่าย แต่เพื่อความปลอดภัยของยามาโมโตะ เขาต้องตามไปดูจนถึงที่สุด แม้จะรู้อยู่แล้วว่า พวกวองโกเล่คงสืบประวัติเพื่อนเขาจนทะลุปรุโปร่งไปแล้วก็ตาม...ฉันจะปกป้องนาย ยามาโมโตะ!!
สึนะคิดเป็นห่วง จนลืมไปเสียสนิทว่าตัวเนียนเทพอย่างยามาโมโตะ คงมีความสามารถที่จะเอาตัวรอดได้อยู่ แต่กว่าจะนึกได้ ตัวเขากับรีบอร์นก็ยืนอยู่ที่หน้าบ้านของยามาโมโตะที่เปิดเป็นร้านซูชิแล้ว.......แล้วฉันจะตามมาทำไมเนี่ย!!...สึนะกรีดร้องในใจ แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว จะขอตัวกลับก็ใช่ที่ จึงจำเป็นต้องพารีบอร์นเข้าไปหายามาโมโตะอย่างไม่ใคร่จะยินยอมพร้อมใจ
“สวัสดีครับคุณลุงสึโยชิ” สึนะกล่าวสวัสดีพ่อของยามาโมโตะที่กำลังแล่เนื้อปลามากุโร่อยู่ด้านหลังเคาท์เตอร์
สึโยชิละสายตาขึ้นมามอง เจ้าของเสียงหวานๆ ก็จำได้ทันทีว่าเป็นเพื่อนสนิทของลูกชาย จึงเอ่ยขำๆว่า “อ้าวสึนะคุง ยอมมาเป็นลูกสะใภ้พ่อแล้วเหรอ?” แต่รีบอร์นไม่ขำด้วยตีสีหน้านิ่ง ก้มลงมองหน้าลูกศิษย์ตัวดีที่ตอนนี้หน้าแดงระเรื่อ เพราะในร้านมีลูกค้าเยอะแยะไปหมด สึนะจึงกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนทันที
“คุณลุงอ่ะ อย่าล้อผมเล่นแบบนี้สิครับ”
“เอาน่าๆ แล้วพ่อหนุ่มข้างหลังน่ะมีธุระอะไรหรือเปล่า?” รีบอร์นก้มศีรษะเป็นการเคารพผู้มีอายุมากกว่าก่อนเอ่ยประเด็นหลักที่เขามาในวันนี้ “ทาเคชิอยู่ข้างบน เชิญเลยๆ ตามสะดวกนะ”
“รบกวนด้วย...ส่วยแกรออยู่นี่แหละ” รีบอร์นหันมาพูดประโยคหลังกับสึนะ ทำให้ร่างบางขมวดคิ้วไม่พอใจ แต่ยังไงได้เอ่ยอะไรรีบอร์นก็ย้ำมาอีกครั้ง
“รอข้างล่าง นี่เป็นคำสั่ง”
....................................................
“เฮอะ เป็นคำสั่ง เป็นใครกัน ริจะมาสั่งคนอย่างฉัน” สึนะบ่นหงุงหงิงไปตลอดทางหลังจากที่รีบอร์นเดินขึ้นไปชั้นสอง สึนะก็เดินออกมาแทบจะทันที จนสึโยชิไม่ทันรั้งไว้
ร่างบางเดินไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย นึกเซ็งหน่อยๆ ที่ไม่มีใครให้แกล้งเล่น(?) จนมาถึงสวนสาธารณะของเมือง ได้กลิ่นหอมๆโชยมาแต่ไกล สึนะตามกลิ่นเย้ายวนชวนหิวไปจนพบกับต้นตอ
“อา ทาโกะยากินี่เอง ไม่ได้กินนานแหละ หอมจัง” สึนะตัดสินใจว่าของว่างวันนี้ของเขาคือเจ้านี่แหละ ว่าแล้วก็ตรงไปยังรถกระบะคันเล็กที่เปิดท้ายทำเป็นร้านทาโกะยากิเล็กๆ มีลูกค้านั่งทานอยู่สองสามคน
“ขอทาโกะยากิ ที่หนึ่งครับ” สึนะเมื่อถึงคิวตัวเอง เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วก็จ่ายเงินไป มองหาที่นั่งก็พบว่าร้านเล็กมีที่นั่งแค่สามโต๊ะเท่านั้น และก็ถูกจับจองเต็มไปแล้ว ร่างบางมองหาเก้าอี้ว่างแถวๆนั้นเพื่อนั่งกิน เด็กชาย(?)เป็นคนถือเรื่องมารยาท แต่ก็ไม่ถึงกับเคร่งครัดอะไรมาก แต่ยืนกินเดินกินมันดูไม่ดีเท่าไร เมื่อหาที่เหมาะๆได้แล้วก็จัดการใช้ไม้จิ้มเอาทาโกะยากิขึ้นมาหนึ่งลูก ด้วยกลัวว่าจะลวกปากเอาเพราะทาโกะยากิที่แคะเสร็จใหม่ๆ มันร้อน(มาก)พอดูเลยละ จากประสบการณ์เมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่เค้ากินมันครั้งแรกทำเอาจำไปนานจนถึงบัดนี้เลย
เมื่อหนังท้องตึง เด็กชายก็เริ่มเบื่อ(อีกแล้ว) แต่ยังไม่ทันตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงเอะอะมาจากทางด้านหลัง ด้วยความไม่มีอะไรทำบวกกับความอยากรู้อยากเห็นอีกเล็กน้อย สึนะจึงค่อยๆเดินไปแอบดู
กลุ่มอันธพาล (ดูจากการแต่งกายก็รู้ เจาะห่วงตามหน้าตา หู จมูก เสื้อผ้าที่ใส่ก็เสื่อมซะ)
กำลังล้อม คนคนหนึ่งไว้ เห็นหัวสีเงินๆน่าจะเป็นชาวต่างชาติ หรือไม่ก็พวกกุ๊ยเหมือนกัน เพราะไม่มีใครหัวเงินที่ประเทศญี่ปุ่นหรอก นอกจากจะย้อม และพวกที่ย้อมผมสีนี้ก็มีแต่พวกนี้ละนะ
“เฮ้ย เดินชนแบบนี้หาเรื่องหรือไงว่ะ” พวกที่ล้อมหน้าล้อมหลังคนหัวเงินคนหนึ่งพูดขึ้น และยกมือหมายผลักไหล่คนคนนั้น แต่ก็ถูกปัดเข้าเสียก่อน
“ฉันเดินอยู่ดีๆ พวกแกต่างหากที่เดินมาชน”
“พูดงี้ก็สวยดิว่ะ” หนึ่งในกลุ่มพวกอันธพาลทั้งห้าคนนั้นเอ่ย พลางเอามือล้วงกระเป๋าก่อนชักเอามีกพับออกมา “ไม่อยากตายก็ส่งเงินค่าทำขวัญมา”
...กรรม จะปล้นแต่แรกก็บอกมาเลยไม่เห็นต้องอ้างอะไรเลย..สึนะที่แอบดูอยู่นึกอย่างเซ็งๆ น่าเบื่อจริง โลกชักไม่น่าอยู่ขึ้นทุกวันแล้วสิ เมื่อวานเจอโจรหื่น วันนี้เจออันธพาลหาเรื่องถึงจะไม่ใช่คนโดนเองก็เหอะ นึกอะไรเพลินๆ เจ้าพวกนั้นก็รุมคนหัวเงินคนนั้นไปแล้ว
“ผัวะ!! อั๊ก!!! โอ๊ย!!”
ตูม!!
“อ๊ากกกก”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ก่อนเสียงระเบิดจะดังกลบเสียงพวกนั้น ดังเสียจน สึนะหลุดออกจากห้วงภวังค์ แล้วหันไปมองต้นเสียง
พวกกลุ่มอันธพาลลงไปนอนกันเกลื่อนพื้น บริเวณโดยรอบมีร่องรอยการเสียหายจากระเบิด เห็นได้จากพื้นที่ไหม้เกรียม
เด็กชายหัวเงินที่เป็นเจ้าทุกข์ยืนมองพวกนั้นอย่างเย็นชา ท่าทางจะเป็นนักเลงเหมือนกันแหะ แถมฝีมือยังดียิ่งกว่าเจ้าพวกกลุ่มอันธพาลข้างถนนพวกนั้น ที่อาศัยพวกมากเข้ารุมเสียอีก พวกนั้นหาเรื่องผิดคนแล้วสินะ
เจ้าหนุ่มหัวเงินใช้เท้าเขี่ยตัวคนที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม ก็เอ่ยอะไรบางอย่าง
“เฮ้ย พวกแกนะ เอาเงินมาให้ฉันเดี๋ยวนี่”
“พรืด คิก” สึนะหลุดขำออกมาไม่ได้ เหตุการณ์สลับกันซะแล้ว อ่า แย่ละสิ ดูเหมือนจะรู้ตัวแล้วแฮะ “คิก คิก ขอโทษนะ แต่อดขำไม่ได้จริงๆ” สึนะกล่าวพลางเปิดเผยตัวออกไป รอยยิ้มของสึนะทำเอาอีกฝ่ายตะลึงแข็งค้าง
............................................................
ความคิดเห็น