[Haesica] Why (Are We Still Friends),,,[ SNSD SJ] - [Haesica] Why (Are We Still Friends),,,[ SNSD SJ] นิยาย [Haesica] Why (Are We Still Friends),,,[ SNSD SJ] : Dek-D.com - Writer

    [Haesica] Why (Are We Still Friends),,,[ SNSD SJ]

    (Donghae,,Jessica,,Gunseuk)...เรื่องราวแสนเศร้าที่เกิดขึ้น กับ'เจสสิก้า จอง' ผู้หญิงธรรมดาที่กำลังเดินอยู่ระหว่าง ความฝัน และความรัก กับผู้ชาย2คน กับ2สถานะ .... เพื่อน และ พี่ชาย ...

    ผู้เข้าชมรวม

    3,805

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    3.8K

    ความคิดเห็น


    27

    คนติดตาม


    12
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 เม.ย. 55 / 03:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    ในที่สุด... ฟิคสั้น ก็ได้ถือโอกาสออกมาดูโลกภายนอกกะเค้าบ้างแล้ว
    หลังจากที่อยู่ใน จิ้นเวิร์ลน้อยๆ ตั้งนาน - -*


    Why (Are We Still Friends)...ทำไมเรายังเป็นแค่เพื่อนกัน...?

    เอามาจากเพลงของวง 98 Degrees ที่มีป๋านิค อยู่ด้วย(กร๊ดดดดดดด......)
    เป็นคนที่ชอบแต่งฟิคจากเพลง เพราะมันได้อารมณ์ที่สุด..
    อะแฮ่ม..ขอเรียกตัวเอง
    ว่า ไรเตอร์แล้วกันนะ ฮ่าๆๆ
    เราก็ห่างจากการแต่งฟิคมา
    นานมาก เพราะเอาแต่อ่านของคนอื่น+ขี้เกียจ
    แต่ด้วยพลังจิ้นที่มีไม่หยุดยั้ง ก็เล
    ยดึงขนขี้เกียจที่มีอยู่เต็มตัวออกไป- -
    บวกกับช่วงนี้ไปเจออะไรที่มันจิ้นได้อยู่บ่อยๆ
    ทำให้เวลาเห็นช็อตอะไรก็ตามที่
    ชวนจิ้น
    จะทำให้อดอมยิ้มตามไม่หยุด
    แล้วคิดว่า..........


    "2คนนี้เริ่มแสดงออกกันมากขึ้นแล้วสินะ?"



    - เรื่องสั้นเรื่องนี้ เกิดขึ้นจากจินตนาการ เป็นเรื่องสมมติ
    - เรื่องสั้นเรื่องนี้ เป็นแบบ ช-ญ ขัดหูขัดต่อ ต่อแอนตี้ผู้ใด กรุณาออกไปอย่างสงบนะค่ะ
    - อาจมีการเอาตัวละคร สถานที่ เรื่องราวบางเรื่องที่มีอยู่จริงมาประกอบเพื่ออรรถรส
    - ทั้งนี้ทั้งนั้น โปรด ใช้วิจาราณญาณในการอ่าน
    - หากเห็นผู้ใดมาก่อกวน ขออนุญาต ใช้ถ้อยคำรุนแรงสวนกลับ โดยไม่บอกล่วงหน้า
    - คอมเม้น ให้เรื่องสั้นเรื่องนี้ เพื่อเป็นกำลังใจต่อคนทำผลงาน และเป็นมารยาทที่ดีของผู้อ่านค่ะ














    Artist: 98 Degrees
    Song: Why (Are We Still Friends)
    ทำไมเรายังเป็นแค่เพื่อนกัน...

    We do almost everything
    That lovers do

    เราทำทุกอย่าง อย่างที่คนรักกันเค้าทำกัน

    And that why's it's hard
    Just to be friends with you
    และนั่นก็ทำให้มันยากเย็น
    กับการที่ผมจะห้ามใจ เป็นเพียงแค่เพื่อนคุณ


    And everytime your heart is broken
    By the fool

    และทุกทุกครั้งที่หัวใจของคุณถูกทำร้าย
    จากพวกคนบ้าบอที่ผ่านเข้ามา


    I want you to know
    That it hurts me too

    ผมอยากให้คุณได้รู้ว่า
    ผมคนนี้รู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมๆกับคุณ


    It's hard to wipe your tears away
    Knowing you should be with me, tell me
    และมันเป็นเรื่องลำบาก
    ในการที่จะลบคราบรอยน้ำตาของคุณออกไป ทั้งๆที่ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่า...
    ผมน่าจะได้เป็นคนที่อยู่เคียงข้างคุณ...

    Why, why are we still friends
    แล้วทำไมล่ะ...
    ทำไมเราถึงยังเป็นแค่เพื่อนกัน...


    When everything says
    We should be more than what we are
    ทั้งๆที่ทุกสิ่งทุกอย่างบอกกับเราว่า
    เราน่าจะเป็นอะไรได้มากกว่านี้


    And tell me why
    Everytime I find someone that I like
    We always end up being just friends
    และได้โปรดบอกผมที..
    ทำไมทุกทุกครั้งที่ผมได้พบกับคนที่ผมชอบ
    มันถึงต้องลงเอยด้วยความเป็นเพื่อนอยู่เรื่อยไป...



    I would hate for you to find somebody new
    ผมเกลียดการที่คุณจะพบเจอกับใครคนใหม่

    Who you really love
    Cause it could mean losing you

    ใครสักคนที่คุณรัก
    เพราะสำหรับผมแล้ว มันคือการต้องเสียคุณไป..


    But am I a fool girl not to say
    If I'm always scared I'll lose you anyway
    ผมคงจะโง่เง่ามากที่ไม่เคยได้พูดออกไปให้ชัดเจน...
    แต่ถ้าผมเอาแต่กลัว เอาแต่ลังเล
    ผมก็คงต้องเสียคุณไปสักวันอยู่ดี


    Somehow someway I've got to choose
    Got to choose no matter if it's win or lose

    ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าจะด้วยทางไหน..
    ผมคงต้องตัดใจพูดบอกกับคุณ
    และมันคงจะไม่สำคัญว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร...



    I don't want to be like your brother
    I don't want to be your best friend

    ผมไม่ต้องการจะเป็นแค่พี่ชายคุณ
    และไม่ต้องการจะเป็นเพียงแค่เพื่อนคุณ...

    I only want to be your lover
    When will this end?

    ผมเพียงต้องการเป็นคนรักของคุณ..
    มันพอจะเป็นไปได้ไหม?


    If I told you that I want to be in your life?
    If you could be the woman in mine
    ถ้าผมบอกคุณว่า ผมอยากเข้าไปอยู่ในชีวิตคุณ
    คุณจะยอมเปิดใจเข้ามาอยู่ในชีวิตผมหรือเปล่า?




    ๑. เพลงเพราะๆ จาก ป๋าๆ 98 Degrees 
    ๒. รูปดอกไม้ สวยๆ เซิร์จจากกูเกิ้ล ใครเป็นเจ้าของก็
    ขอบคุณนะค่ะ
    ๓.โค้ดเพลง-
    http://writer.dek-d.com/mim_mim-zaa
    ๔. เนื้อเพลงพร้อมคำแปล- http://www.bloggang.com/data/mediafollower







    ..........................

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ...ซารางแฮ นอล อินึ กิมมีแดโร กือ รยอ วัท ดอน เฮ แม อิม อี กึท ...

      เด็กสาวทั้ง8คน กำลังซ้อมเต้น กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ในห้องสี่เหลี่ยม ผนังทั้ง2ข้างที่ถูกติดด้วยโปสเตอร์ ศิลปินชื่อดังของค่ายเอสเอ็มที่กำลังมาแรงในขณะนี้ อาทิ ทงบังชินกิ ซุปเปอร์จูเนียร์  ข้างหลังเป็นวอลเปเปอร์ รูปใหญ่ของ วงชอนซังจิฮี รุ่นและอาจารย์ที่พวกเธอเคารพเหมือนพี่น้อง  ตรงมุมห้องมีแอร์หนึ่งตัว มีโต๊ะ มีวิทยุ ที่กำลังเปิดเพลงคลอกับท่าซ้อมเต้น ข้างหน้าพวกเธอเป็นกระจกทั้งด้าน สำหรับเช็ค ท่าทาง และบุคลิกภาพในขณะซ้อม  เด็กสาวทั้งหมด ต้องซ้อม เพื่อให้พร้อมกับวันเปิดตัวที่กำลังใกล้จะถึงเร็วๆนี้ ชื่อวงของพวกเธอคือ โซนยอชิแด วงเด็กผู้หญิง 9 คน วงที่ถูกคาดหวังตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์ ข่าวลือเสียๆหายๆ ของพวกเธอถูกตีแผ่ทั้งจากบทความ และรูปต่างๆมากมาย เพราะเหตุนี้ ทำให้พวกเธอต้องพยายามมากขึ้น พวกเธอคิดว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ....

      "โอยยย เหนื่อยจังเลยค่ะ" เด็กสาวหน้าม้าผมยาว ตัวสูง ทรุดลงกับพื้นทันทีที่เพลงจบ เธอคือ น้องเล็กที่แสนจะเรียบร้อยของวงนี้ ซอฮยอน
      "รู้สึกเหมือนตัวจะแยกออกจากกันเลย"ไข่มุกดำของวง ควอนยูริ สมทบ เธอ สะบัดๆแขน เพื่อไล่ความเมื่อยในร่างกายออกไป
      "แล้วนี่ เจสสิก้าไปไหน?" ลีดเดอร์คิมแทยอน หันมาถาม เจ้าหญิงน้ำแข็งไม่อยู่ แล้วเมื่อกี้เธอก็ไม่ได้ซ้อมร่วมกันด้วย
      "ฉันไปตามให้มั้ยค่ะพี่?"ยุนอาอาสา
      "อู้แน่ๆเลย..."
      "ไม่รู้สิ  ฉันเห็นเธอนั่งเล่นอินเตอร์เนตอยู่ก่อนที่เราจะเริ่มซ้อม"ฮโยยอนหันไปตอบซันนี่พลางเปิดขวดน้ำ
      "แล้วพอเธอปิดมัน เธอก็เดินออกไป ฉันถามว่าจะไปไหนก็ไม่ตอบ"ฮโยยอนทำหน้าสงสัย เพราะตอนถามเจสสิก้าเอาแต่ก้มหน้า ไม่คิดจะหันมาคุยกับเธอเลยซักคำ
      "ใช่ๆ สิก้าเดินจ้ำอ้าวไปเลย ก้มหน้าก้มตา ผมยาวๆของเธอปิดหน้าไว้หมด ฉันละกลัวว่าเธอจะเดินชนประตูด้วยซ้ำ" ซูยองตบเข่าดังฉาด เธอเห็นด้วยกับคำพูดของฮโยยอน

      ซักพักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น เจสสิก้าวิ่งเข้ามาในห้องซ้อมก่อนจะปิดประตูดังปัง หน้าตาเธอดูเหนื่อยเหมือนกับวิ่งหนีอะไรมา แถมรอบๆดวงตาเธอก็แดงก่ำ อย่างกับคนเพิ่งร้องไห้มา เธอเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนอีก8คน ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาแล้วเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของห้อง
      "สิก้า ไปไหนมา?"ทิฟฟานี่ถามพร้อมกับชูมือถือของเธอในมือ "มือถือก็ไม่รับ..."
      "เอ่อ..ไปเข้าห้องน้ำมา" เจสสิก้าหันมาตอบด้วยท่าทางอึกอัก ทิฟฟานี่จ้องหน้าเธอ เหมือนทิฟฟานี่จะรู้สึกอะไรบางอย่าง
      "แล้วทำไมต้องเหนื่อยขนาดนั้นด้วยละ?" ซูยองคาดคั้นถาม ... เข้าห้องน้ำไม่เห็นจะต้องเหนื่อยแล้วก็ตาแดงแบบนั้นเลย!...
      "เอ่อ....."
      "เอาเถอะๆ ยังไงเธอก็กลับมาแล้ว" แทยอนพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไรนักพลางมองนาฬิกาตั้งโต๊ะที่อยู่ข้างๆ "4โมงเย็นแล้ว ไปหาอะไรกินกันเหอะ"
      "เย้ๆๆๆ กินข้าวๆๆ" น้องเล็ก ตบมือดีใจที่จะได้ไปกินข้าว หลังจากที่ซ้อมมาทั้งวัน เธอรีบยันตัวเองลุกขึ้นยืนไปหยิบกระเป๋าด้วยท่าทางกระตือรือล้นสุดๆ
      "โอยยย ฉันไม่ไหวแล้ว ซูยองช่วยฉันที"
      "หัดช่วยตัวเองซะมั่งสิย่ะ.."ซูยองเบ้ปากบ่น แต่ก็ช่วยจับมือยูริดึงให้เธอยืนขึ้น
      "ฉันไม่ไปนะ" เจสสิก้าเอ่ยขึ้น สมาชิกอีก8คนหันมามองเธอที่ยืนอยู่อีกฝั่งนึงคนเดียว
      "ฉัน...เอ่อ...."
      "อ้อ ...เธอจะไปกับพี่กึนซอกน่ะ"ทิฟฟานี่พูดโพล่งขึ้นมา "พี่กึนซอกนัดสิก้าไว้ว่าวันนี้จะมารับไปกินข้าวด้วยกัน"เธออธิบายต่อ
      "งั้นหรอ..."แทยอนพยักหน้าหงึกหงัก สมาชิกที่เหลือก็ พยักหน้าตามแล้วทยอยเดินออกไป  ...สิก้ากับกึนซอกสนิทกัน ออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ เพราะ รุ่นพี่สเตฟานี่ วงซอนซังที่สอนเต้นให้พวกเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ กึนซอก ดาราศิลปินชื่อดัง  กึนซอกมักจะมาหา สเตฟานี่ที่บริษัทบบ่อยๆพร้อมของกิน  ทำให้ พวกเธอพลอยรู้จักเค้าไปด้วย
      "กลับบ้านเร็วๆนะ"
      "เอ่อ...อืม" สิก้าบ๊ายบายตอบทิฟฟานี่ที่กำลังง่วนส่งข้อความ แล้วเดินออกไป....


      พอประตูถูกปิด เจสสิก้าล้มตัวนั่งบนโซฟาหนังที่อยู่ข้างๆ นึกถึงคำพูดของทิฟฟานี่เมื่อกี้...นัดกับพี่กึนซอกหรอ? เธอไปนัดเมื่อไหร่กัน.... แต่เธอก็รู้สึกขอบคุณที่ทิฟฟานี่ช่วยโกหกเพื่อนๆ ทิฟฟานี่คงจะรู้ว่าตอนนี้เธออยากอยู่คนเดียว เธอกับเจสสิก้าเป็นเพื่อนกันมานาน จนรู้ใจกันเพียงแค่มองตาก็เข้าใจทุกอย่าง แล้วนี่เธอก็คงรู้แล้วว่า เจสสิก้าไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำอย่างที่บอกกับเพื่อนๆคนอื่นๆ....
      เจสสิก้าหยิบมือถือเธอออกมาจากประเป๋ากางเกง กดเบอร์โทรที่เธอคุ้นเคย เบอร์ที่เธอโทรไปรบกวนพี่สาวคนนนี้ทุกครั้งที่เธอมีเรื่องไม่สบายใจเธอรอฟังเสียงซักพัก...
      "...สวัสดีค่ะ ปาร์ค มินยองค่ะ ตอนนี้ฉันไม่ว่างรับโทรศัพท์นะค่ะ มีอะไรถึงฉันก็ ฝากไว้หลังเสียงสัญญาณนะค่ะ....ตรู๊ด........."
      "เอ่อ...ออนนี่ สบายดีรึเปล่าค่ะ ฉันเจสสิก้านะค่ะ คิดถึงพี่จังเลย.....เอ่อ... ฉันเพิ่งซ้อมเสร็จ กำลังจะกลับบ้าน พี่ก็กลับบ้านเร็วๆนะค่ะ..." เจสสิก้ากดวางหู แล้วถอนหายใจอย่างเสียดายเบาๆ  พี่สาวของเธอ ปาร์ค มินยอง พวกเธอรู้จักกันก่อนที่เจสสิก้าจะเปิดตัวเป็นโซนยอชิแด เวลาเจสสิก้ารู้สึกแย่ มินยองจะคอยดูแล และปลอบโยนเธอเสมอ   แต่ตอนนี้ดาราแสนสวยคนนี้งานยุ่งอีกแล้ว เธอจึงได้แค่ฝากความคิดถึงไว้กับระบบฝากข้อความเสียง ไว้กลับบ้านไปเธอจะโทรหาพี่สาวคนนี้อีกครั้งหนึ่ง.......เธอคิด


      ทันใดนั้นเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น เจสสิก้ามองดูชื่อคนที่โทรมาก็ต้องงุนงงไปพักหนึ่ง ...จาง กึนซอก...

      เจสสิก้ากดรับสาย
      "ฮัลโหล..."
      "เธออยู่ไหนเนี่ย ฉันรออยู่หลังบริษัทนะ"
      "ห๊ะ?...พี่มาทำไมอ่ะ"เจสสิก้าขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
      "แล้วใครกันไปบอกคนอื่นไว้ว่าฉันนัดเธอไว้" กึนซอกสวนกลับด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
      "พี่รู้ได้ไง? หรือว่า...."
      "มิยองส่งข้อความมาหาฉันน่ะ" กึนซอกหัวเราะนิดๆ  เขาหมายถึงทิฟฟานี่ เจสสิก้านึกถึงตอนที่เธอบ๊ายบายให้ทิฟฟานี่ แต่เพื่อนเธอได้แค่ โบกมือกลับโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเพราะกำลังส่งข้อความอยู่......
      "รีบลงมาดีกว่าน่า เจอผีฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะ" ชายหนุ่มแอบขู่เธอด้วยสิ่งที่เธอกลัวสุดๆ
      "....... โอเคๆ เดี๋ยวฉันจะลงไป"เจสสิก้าเงียบไปนิดนึงก่อนจะตอบกลับไป
      "ฮ่าๆๆ โอเคๆ..."กึนซอกหัวเราะทิ้งท้ายก่อนที่เจสสิก้าจะวางสาย เธอรีบ เช็ดคราบน้ำตาแล้วคว้ากระเป๋า ปิดไฟ ปิดแอร์ เดินออกจากห้องซ้อม


      เจสสิก้าเดินลงมาจนถึงประตูทางออกด้านหลังบริษัท ศิลปินที่อยู่ค่ายนี้ส่วนใหญ่จะชอบออกทางนี้ เพราะเป็นที่จอดรถ แล้วก็สะดวกที่จะหลีกเลี่ยงจากแฟนคลับ ในเวลาที่พวกเค้าเหน็ดเหนื่อย จากการซ้อม   เจสสิก้าเห็นกึนซอกยืนรออยู่ ไม่ได้เจอกันสัปดาห์เดียว เค้าไปถอยรถคันใหม่มาอีกแล้ว คราวนี้เป็น ของฮุนได รุ่นคูเป้สองประตู  รถสีดำเงา จนสะท้อนเห็นตัวของเธอ ดูก็รู้ว่า เพิ่งถอยมาไม่นาน...

      "พี่กึนซอก..."เจสสิก้าเรียกคนตัวสูงตรงหน้า เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้เธอ
      "ไปหาอะไรกินกัน" กึนซอกไม่ได้ถามอะไร แค่เห็นตาที่แดงก่ำนั่นก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
      "สิก้า!!!!"เจสสิก้ากำลังเดินไปขึ้นรถ เสียงตะโกนเรียก ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ เธอหันหลังไปหาต้นตอเสียงก็พบชายอีกคน เค้าค่อยๆหยุดวิ่งจนกลายเป็นเดิน เสียงหายใจหอบ บ่งบอกว่าวิ่งมาไกลพอสมควรทีเดียว เจสสิก้าตาเบิกกว้างเมื่อหันไปหาคนที่เรียกชื่อเธอเมื่อกี้ เขาเป็นคนที่เธอไม่อยากเจอตอนนี้มากที่สุด...
      "พี่ทงเฮ..." เธอเอ่ยชื่อคนที่อยู่ตรงหน้าออกมาอย่างยากเย็น น้ำใสๆเริ่มคลอมาที่ตาเธออีกครั้ง
      "สิก้า..."กึนซอกเรียกเสียงเข้มให้เธอขึ้นรถ เรื่องที่เค้าสังหรณ์ใจไว้ ไม่ผิดเลยจริงๆ เรื่องเจสสิก้ากับทงเฮอีกแล้ว
      สิก้ากำลังจะหันหลังกลับ ทงเฮก็ดึงข้อมือเธอไว้ เจสสิก้าร้องออกมาเพราะมันเจ็บ กึนซอกรู้สึกโมโหขึ้นมาที่ทงเฮทำกับเธอแบบนั้น
      "เมื่อกี้ที่เราคุยกัน เธอแค่ล้อเล่นกับพี่ใช่มั้ย?" ทงเฮถามทั้งๆที่ยังกำข้อมือเจสสิก้าไว้แน่น
      "ไม่ มันเป็นเรื่องจริง... เรื่องจริงทุกอย่าง"
      "นี่มันไม่สนุกเลยนะ บอกฉันสิว่าเธอโกหก ...สิก้า..."แววตาของทงเฮเศร้าขึ้นมาทันที แวบนึงที่เจสสิก้าสังเกต ว่าเสียงเค้าสั่น
      "พี่กำลังหลอกตัวเองอยู่นะ ปล่อยฉันได้แล้ว"หญิงสาวพยายามบิดข้อมือเธอออกจากทงเฮ
      "เธอบอกเลิกพี่ แล้วจะให้พี่ปล่อยเธอไปง่ายๆงั้นหรอสิก้า!"เจสสิก้าไม่ได้พูดอะไร กึนซอกมองทงเฮอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ที่ผ่านมาพวกเค้าสองคนอาจจะแค่ทะเลาะเรื่องข่าวลือเสียหายของเจสสิก้า แต่ก็คืนดีกันได้ทุกครั้ง ทงเฮต้องการที่จะปกป้องเธอ ไม่ว่าเจสสิก้าจะเจอข่าวเสียหายมากแค่ไหน  แต่ว่า เจสสิก้ารู้ว่ามันอาจจะทำให้ทงเฮเดือดร้อน เจสสิก้าทะเลาะกับทงเฮ แล้วบ่อยครั้งที่เธอเอาเรื่องนี่มาเล่าให้เค้าฟัง ครั้งนี้กึนซอกก็คิดว่า คงจะเป็นเรื่องเดิมๆ แต่ไม่คิดว่า เจสสิก้าจะขอเลิกกับทงเฮ ไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนี้ ...
      ....แต่ทำไมนะ.... นิดนึงเค้าก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก........


      ทงเฮจ้องหน้ากึนซอกที่ยืนอยู่ข้างหลังเจสสิก้า แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงที่ไม่เป็นมิตร
      "มาทำไม?" ถ้ามือเค้าไม่ได้จับข้อมือเจสสิก้าอยู่ เค้าคงวิ่งไปต่อยกึนซอกแล้ว แต่ไหนแต่ไร ทงเฮกับกึนซอกไม่เคยถูกกันเลย
      "ก็...พอดีเจสสิก้าเหม็นขี้หน้าคนบางคนเลยให้ฉันมารับน่ะ" เจสสิก้าหันไปถลึงตาใส่กึนซอกเพื่อปราม ไม่ให้เค้าพูดเลยเถิดไปกว่านี้
      "....ฉันไปรอในรถนะ รีบๆเข้าละ" เค้ายกมือยอมแพ้ แล้วเดินควงกุญแจไปสตาร์ทรถรอ ...พี่กึนซอกชอบยั่วโมโหพี่ทงเฮทุกที........
      "สิก้า ไปกับพี่ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ"
      "มันสายไปแล้วค่ะ เราเลิกกันแล้ว...เราจบกันแล้ว..." เจสสิก้าใช้แรงเฮือกสุดท้ายบิดให้ข้อมือเธอหลุดจากแรงพันธนาการของเค้า เธอหันหลังเดินกลับไปหากึนซอกที่รถ แม้ทงเฮจะโกนเรียกเธอ
      "ฉันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆหรอกสิก้า"ทงเฮตะโกนย้ำเสียงเข้ม "ฉันรู้ว่าเธอก็ยังรักฉันอยู่..." เจสสิก้าหยุดเดิน เธอกำลังจะร้องไห้ เธอแทบจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว ....
      "เราไม่ได้รักกันได้ง่ายๆ แล้วฉันก็ไม่ยอมให้มันจบง่ายๆด้วย"ทงเฮตะโกนไล่หลังมา กึนซอกบีบแตรรถอย่างกระแทกกระทั้น จนเจสสิก้าสะดุ้ง แล้วรีบเดินขึ้นรถโดยไม่หันกลับไปมอง กึนซอกขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนเจสสิก้าไม่ทันหันมามองว่าทงเฮชกกำแพงข้างๆอย่างแรง เพื่อระบายอารมณ์ น้ำตาเค้าไหลลงมาช้าๆ พร้อมกับเลือดไหลซิบๆ ที่กำปั้น...
      "ย่าห์ ลีทงเฮ อู้ซ้อมมายืนเก็กอะไรแถวนี้ ตอนซ้อมนายก็เต้นผิด แล้วนี่อยู่ดีๆก็วิ่งออกมา ..แล้วทำไมฉันต้องออกมาตามนายด้วยว่ะเนี่ย กลับไปซ้อมเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันกับคังอินจะกระโดดทับนายแน่ๆ" ฮีชอล ตัวบ่นประจำวงซุปเปอร์จูเนียร์ พ่นคำพูดใส่ทงเฮที่ยืนพิงกำแพงอยู่ เค้าไม่ได้สังเกตุเลยว่าบรรยากาศแถวนั้นมันไม่ดีเลย...
      "อ่าวเฮ้ย ทำไมมือนายถึงเลือดออกอ่ะ"ฮีชอลจับมือทงเฮขึ้นมาดู
      "สิก้า...ฮยอง...สิก้าบอกเลิกผม"
      "ห๊ะ? ว่าไงนะ"
      "สิก้า...สิก้า..." ทงเฮพูดไปร้องไห้ไป เค้าโผเข้ากอดฮีชอล
      "นี่แกพูดจริงหรอ?...ยัยสิก้าเนี่ยนะ?"ฮีชอลพูดพลางลูบหัวน้องตัวเอง เพื่อให้ทงเฮรู้สึกดีขึ้น เค้าไม่คิดว่าเจสสิก้าน้องที่เค้ารักเหมือนน้องสาวตัวเองแท้ๆ จะบอกเลิกทงเฮง่ายๆหรอก เธอแคร์ทงเฮยิ่งกว่าฮีชอลซะอีก  เรื่องนี้มันชักจะยังไงๆซะแล้ว

      ฮีชอลพยุงทงเฮกลับมาที่ห้องซ้อมชั้นบนสุดของบริษัท ปกติผู้หญิงจะซ้อมอยู่ชั้นสอง ส่วนผู้ชายจะซ้อมชั้นสี่ แต่บางทีซุปเปอร์จูเนีบร์ก็ชอบมาซ้อมที่ชั้น2เวลาที่โซนยอชิแดไม่อยู่ เพราะสะดวกแล้วก็เร็วกว่า พอเปิดประตูเข้าไป สมาชิกที่เหลือก็ช่วยกันพยุงทงเฮไปนั่งที่โซฟาด้วยความเป็นห่วง หน้าตาเค้าเหมือนคนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ฮีชอล เล่าในสิ่งที่ทงเฮบอกเค้า พอได้ฟังสมาชิกที่เหลือไม่มีใครอยากจะเชื่อเลย เจสสิก้ากับทงเฮเป็นแฟนกันมานาน แต่จะไม่เชื่อก็ไม่ได้ ในเมื่อทงเฮเป็นถึงขนาดนี้
      "อ้อ ...ตอนอยู่ในลิฟต์ เจ้านี่มันบอกว่ากึนซอกมารับสิก้าไปด้วย" ฮีชอลเล่าเพิ่ม
      "งั้น ฮุนได คูเป้สีดำนั่นก็ของกึนซอกสินะ"อีทึกหัวหน้าวงเสริม ตอนพักซ้อม เค้าได้ยินเสียงรถเลยเปิดหน้าม่านออกไปดูกับอึนฮยอก
      "ฮยองฮ่ะ ทงเฮหลับไปแล้ว"ซองมินหันมาพูดกับอีทึก ปกติทงเฮก็เป็นคนร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว นี่ก็คงเพลียมาก
      "ฮีชอลฮยอง พี่พอจะรู้มั้ยว่าทำไมสิก้าถึงบอกเลิกทงเฮ" คังอินดูไม่ค่อยสบายใจเลยที่เห็นทงเฮเป็นแบบนี้
      "ฉันว่าก็คงไม่พ้นไอ้ภาพจูบอะไรนั่นละ"
      "นั่นมันไม่ใช่ทงเฮกับสิก้านี่ฮยอง"ซองมินเถียง
      "แล้วใครมันจะไปเชื่อละว่ะ แล้วรูปที่สิก้าถ่ายกับพวกเราอีก ทำไมพวกแอนตี้ถึงได้ไร้สาระแบบนี้นะ" ฮีชอลบ่นอย่างหัวเสีย
      "แต่ข่าวพวกนั้นมันก็มีมาก่อนหน้านั้นแล้วนะฮะ"คยูฮยอนวิเคราะห์
      "ลองไปดูในห้องซ้อมพวกสาวๆแล้วกันเพื่อจะเจออะไรบ้าง"ซีวอนเสนอ
      "งั้นฉันกับซีวอนแล้วก็ซองมินจะลงไปข้างล่างนะ" ฮีชอลหมายถึงห้องซ้อมของผู้หญิงที่อยู่ชั้นสอง

      ฮีชอล ซองมิน ซีวอนลงมาที่ชั้นสองพร้อมกับอีทึกและอึนฮยอกที่ขอตามลงมาด้วย พอเข้าไปแล้วเปิดไฟในห้อง ก็สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นของแอร์ที่ยังเหลืออยู่
      "ผมจะไปเปิดคอมดูนะฮยอง"ซองมินพูดพลางเดินไปที่โต๊ะคอมที่อยู่ตรงมุมขวาของห้อง
      "อีทึก โทรหาแฟนนายที ฉันว่ายุนอาต้องรู้แน่ๆ" อยู่วงเดียวกันอย่างน้อยก็ต้องรู้อะไรบ้างละ...
      "โอเค..."อีทึกมองไปที่ตัวบ่นประจำวง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้สั่งการไปแล้ว เค้าหยิบมือถือที่เสียบไว้ในกระเป๋ากางเกงหลังแล้วกดเบอร์

      "ฮยอง.. มาดูนี่" ซองมินกวักมือเรียกฮีชอล ตาจ้องไปที่หน้าจอคอม มือคลิกไปเรื่อยๆอย่างชำนาญ
      "สิก้าลืมล็อคออฟเมล์ไว้...."เค้าใช้เม้าส์ชี้ไปที่สัญญาณสีเขียวตรงมุมขวาล่างของจอคอม ที่แสดงสถานะออนไลน์อยู่
      "เปิดดูสิ...ฉันว่าน่าจะเจออะไรที่เราต้องการนะ"อึนฮยอกใช้มือทั้งสองข้างเท้าโต๊ะ แล้วใช้หน้า ชี้เลิ่กๆไปที่จอคอม
      "ขอโทษนะ  สิก้า..."ซองมินเอ่ยขอโทษกับเจ้าของเมล์เบาๆแล้วกดเข้าไปใน กล่องข้อความเข้า
      "ฮีชอล ยุนอาไม่รับโทรศัพท์เลยอ่ะ"อีทึกปิดโทรศัพท์แล้วเดินไปหาฮีชอลที่กำลังกวักมือเรียก
      "นี่ไง!"ซีวอนเอานิ้วชี้ไปที่หน้าจอคอม เมล์ที่ได้รับล่าสุดเมื่อ3ชั่วโมงก่อน แล้วมันก็ถูกเปิดอ่านแล้ว โดยเจสสิก้า ซองมินถือวิสสาสะคลิกเข้าไปดูทันที

      'ถึง จอง เจสสิก้า

      ชื่อนี้มันน่าขยะแขยงที่สุด...
      เวลาฉันได้ยินเสียงเธอ มันทำให้ฉันอยากจะอ้วกออกมา
      ฉันเกลียดหน้าตาไร้เดียงสาจอมปลอมของแกที่สุด ไปตายซะ!
      อย่าคิดจะมาจับไอดอลคนอื่นอีกเลย พวกเค้าต้องแปดเปื้อนเพราะคนอย่างแกแท้ๆ
      อย่าหวังที่จะได้โด่งดังเหมือนคนอื่น แกไม่ไม่สิทธ์!!!!
      ออกไปจากชีวิตของพี่ทงเฮ พี่คังอิน พี่แจจุง และคนอื่นๆซะ ไม่งั้นคนรอบข้างแกจะต้องเดือดร้อนแน่ๆ
      หรือแกอยากจะเห็นนังยุนอาเพื่อนของแกโดนรถชนหลังกลับจากไปถ่ายละคร
      หรือแกอยากจะเห็นนังน้องเล็กของแกนั่งร้องไห้กอดตุ๊กตาเคโระๆบ้าบอนั่น!!!!!!
      ฉันว่าคนอย่างแกน่าจะมีสมองพอที่จะจัดการชีวิตตัวเองได้
      ก่อนที่แกจะได้เห็นเพื่อนของแกร้องเพลงไม่ได้ทีละคนๆ
      แล้วก็เลิกอ่อยพวกอปป้าของฉันซักที ไม่อย่างนั้น รายต่อๆไปนอกจากเพื่อนของแก
      อาจจะเป็นคนสำคัญ ของแกก็ได้ ...แม้ฉันจะรักเค้ามาก...........ก็เถอะ
      ..............จำไว้ ว่าถ้ามีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น เป็นเพราะว่าแกไม่ยอมจบมันเอง
      ....................................เสียงของเธอมันทำให้ฉันคลื่นไส้จริงๆ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!'

      "............"อึนฮยอกถึงกับพูดไม่ออก เมื่อชีวอนอ่านข้อความในจออย่างช้าๆจนจบ
      "นี่มันบ้าอะไรว่ะเนี่ย พวกนี้มันแอนตี้ชัดๆ!!!!!!"
      "โรคจิตด้วย..."ซองมินเห็นด้วยกับคำพูดของฮีชอล
      "พวกเธอไม่ใช่เอลฟ์ พระเจ้าโปรดอภัย...."ซีวอนพูดพลางใช้มือข้างขวาจับที่หัวใจ
      "............"ฮีชอลมองซีวอนแล้วถอนหายใจออกมา ....ได้ทุกที่เลยนะชเว ซีวอน.........
      "แล้วเราจะทำไงต่อไปดีฮยอง?" อึนฮยอกถามความเห็น ...ตอนนี้เรื่องชักจะจบไม่สวยซะแล้วสิ....
      "ฉันไม่ยอมให้ทำกับยุนอาแบบนั้นหรอก"อีทึกพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ.....


      ระหว่างที่รถหยุดรอสัญญาณไฟ กึนซอกก็พูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศเงียบ
      "จะเลิกกับเจ้านั่นจริงๆหรอ?"เค้าหันไปพูดกับเจสสิก้าที่ไม่พูดไม่จาอะไรเลย ตลอดทางไม่นั่งก้มหน้าก็หันออกไปทางหน้าต่าง
      "อืม..."เธอครางเสียงในลำคอ ตามองเลื่อนลอยไปทางกระจกข้าง กึนซอกถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพูดต่อ
      "ก็ดีเหมือนกัน  เจ้านั่นทั้งอ่อนแอ อวดดี ทำตัวเป็นเด็กไปได้..."
      "พี่ทงเฮไม่ใช่คนแบบนั้นนะ! พี่เค้าทั้งเข้มแข็งแล้วก็อบอุ่น!...."กึนซอกตกใจที่อยู่ดีๆเจสสิก้าก็เถียงขัดเค้าออกมา
      "อะไรกัน ...เธอก็ยังรักมันอยู่นี่"
      "ไม่ใช่นะ...มะ...ไม่ได้รัก.... พี่ทงเฮ....เป็นพี่ชาย...ที่ดี"
      "เอ้อ... ตอนนี้มันลดฐานะ จากแฟนเหลือแค่พี่ชายแล้วหรอ?" กึนซอกหัวเราะ หึหึ ในลำคอ
      "แล้วฉันละ ยังเป็นเพื่อนเธออยู่รึเปล่า หรือจะเลื่อนฐานะให้เป็นอะไรดี?"
      "พี่...ก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันไง"
      "เพื่อนสนิทงั้นหรอ?...." เค้าทวนคำพูดเธอคนเดียวเบาๆ แววตากึนซอกดูผิดหวังกับคำตอบ
      "งั้น.....อยากไปไหนละ รู้หรอกอารมณ์แบบนี้เธอคงไม่อยากกินอะไร" เจสสิก้าเหลือบไปมองชายข้างกายนิดนึง เค้าคนนี้รู้ใจเธอเสมอ
      "....................."
      ".............................."
      "...แม่น้ำฮัน" เจสสิก้าก้มมองมือตัวเอง
      ".................." กึนซอกหันไปมองเธอราวกับต้องการถาม พอดีกับที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว เค้าก็ออกรถไปโดยไม่พูดอะไร...
      ...........แม่น้ำฮันหรอ ....ที่ที่ทงเฮบอกรักเจสสิก้า........ไม่รู้จะไปให้ช้ำใจทำไม!!!!...............


      กึนซอกขับรถมาถึงแม่น้ำฮัน ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้มเข้ม  พอหาที่จอดรถได้ ทั้งสองคนก็เดิน ไปหาที่นั่งที่ริมตลิ่งของแม่น้ำ ไม่มีใครสังเกตุเห็นเจสสิก้ากับกึนซอก เพราะ ตอนนี้5โมงครึ่งแล้ว  พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ทุกอย่างเริ่มมืดและเงียบ คนที่อยู่แถวนั้น คงเข้าใจว่าเค้าสองคนเป็นคู่รัก ที่มาเดินเล่นกันเหมือนคู่อื่นๆเท่านั้น...  ระหว่างทาง ผ่านสนามฟุตบอลเล็กๆ ทำให้เจสสิก้านึกถึงอดีต เมื่อหลายปีก่อน พี่ๆทงบังและซูจู เคยมาเตะบอลเล่นคลายเครียดบ่อยๆ พี่ๆก็จะชวนเธอให้มาเป็นกรรมการให้ทุกครั้ง และบ่อยๆที่เธอก็ร่วมลงไปเล่นด้วย ตอนนี้สีที่ติดอยู่ตรงประตูเริ่มลอกออกพร้อมกับสนิมที่เข้ามาแทนที่ ตาข่ายเริ่มขาดและสกปรกไปบ้าง  สภาพภายนอกเปลี่ยน.... แต่ความทรงจำที่อยู่ที่นี่ ...มันไม่เคยเปลี่ยนเลย
      "เฮ้อ... ทำงานมาทั้งวันเหนื่อยจริงๆ" ทั้งสองคนเลือกนั่งบนพื้นหญ้าสีเขียวริมแม่น้ำ กึนซอกเริ่มโยกคอไปมาแล้วบ่นน้อยๆ
      "ฉันไปซื้อน้ำให้นะ" เจสสิก้าทำท่าจะลุกขึ้น แต่กึนซอกจับแขนไว้
      "ไม่ต้องหรอก มานั่งสูดอากาศเย็นๆดีกว่า" เค้าล้มตัวลงนอน
      "รู้สึกผิดละสิ?" กึนซอกนอนหนุนมือตัวเอง แล้วชันขาไว้ข้างนึง เค้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดสนิทแล้วถามคนข้างๆ
      "ขอบคุณพี่มากนะ"
      "มีอะไรก็บอกฉันได้นะ"
      ".................."
      "...ฉันอยากเลิกกับพี่ทงเฮ....จริงๆนะ"
      "ฮ่ะๆๆ ฉันไม่เชื่อเธอหรอก สิก้า" เจสสิก้านั่งกอดเข่า เอาคางเกย เธอเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง
      "จริงๆนะ..."น้ำตาเริ่มไหลอีกครั้ง ทั้งๆที่มันควรจะหยุดไหลได้แล้ว"เพราะฉัน ใครหลายๆคนจะเดือดร้อน"กึนซอกได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มไม่ออก
      "..................."
      "............................."
      "จริงๆเลยน้า ทั้งๆที่หน้าตาก็แสนจะเย่อหยิ่ง แต่ทำไมถึงได้เป็นคนอ่อนไหวแบบนี้เนี่ย"กึนซอกลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือไปขยี้หัวเจสสิก้าแล้วดึงเข้ามากอด เจสสิก้ายิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม เค้าลูบหัวเธอเบาๆ ราวกับจะพูดว่า....ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจเธอนะ.....

      .......................................................

      ...................................

      ............................................................................

      .......................

      ..............................................................


      ...........1 เดือนผ่านไป...............
      คืนวันนั้น หลังที่ที่เธอร้องไห้จนสบายใจ เธอสัญญากับกึนซอกว่าจะไม่ร้องไห้อีก เธอจะเป็นคนใหม่ กึนซอกพาเจสสิก้าไปกินข้าวแล้วก็พาไปส่งที่หอ ไม่มีใครในวงถามเธอในเรื่องวันนั้นเลยนอกจากทิฟฟานี่ ที่เจสสิก้าเล่าทุกอย่างให้ฟัง ดูเหมือนเพื่อนเธอจะไม่อยากให้เค้าทั้งสองคนเลิกกัน แต่ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของเพื่อนเธอ  แต่ต่อมาไม่นานเรื่องที่เธอเลิกกับทงเฮ  ทุกคนในวงซูจู และโซนยอ ก็รับรู้กันหมด ด้วยความที่สนิทกันมากๆทำให้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ปิดกันได้ไม่นาน ฮีชอลพยายามทำให้เธอกับทงเฮคุยกัน แต่มันก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย ตลอดเวลา1เดือน เจสสิก้ากับทงเฮไม่ได้คุยกันเลย เธอสังเกตุว่า ทงเฮงานเยอะมากเพราะกำลังโปรโมทอัลบั้ม2 หน้าตาเค้าโทรม แล้วก็ดูผอมลง ทุกครั้งที่ทงเฮจะเข้ามาทัก เธอก็หลบเค้าทุกครั้งไป ต้องทำเป็นไม่รู้จักเวลาอยู่บนเวทีเดียวกัน แต่เธอยังคุยกับสมาชิกคนอื่นๆในซูจูได้อย่างปกติ  เจสสิก้ากำลังปิดแผลใจให้เร็วก่อนที่จะมีใครมาเปิดมันอีกครั้ง.......

      วันนี้ โซนยอชิแดกับซูจูมีขึ้นแสดงรายการเดียวกัน แต่ซูจูที่มามีแค่ ทงเฮ ชินดง อึนฮยอกเท่านั้น แต่ ฮีชอลขอมาด้วย เพราะวันนี้เป็นวันประชุมเรื่องสำคัญบางอย่าง

      "พี่ค่ะ แผนนี้มันจะสำเร็จจริงๆหรอ?" ยุนอาถามฮีชอล
      "สำเร็จสิ ฉันคิดแผนนี้มาตั้งนาน" เค้าตอบ ยุนอา กับซูยอง มาที่ห้องแต่งตัวของซูจู ส่วนสมาชิกที่เหลือไม่ได้มา เพราะไม่ต้องการให้เจสสิก้าสงสัย  ถ้าเกิดแห่กันไปทั้งวง
      "ฮยอง แต่แผนพี่ดูไม่มีอะไรเลยนะ- -*"
      "ว่าไงนะ?" ฮีชอลถามอึนฮยอกกลับอยากเอาเรื่อง ทำเอาเจ้าตัวหน้าเจื่อนไปเลย
      "ฮยอง เอาแบบนี้จริงๆหรอ?" ทงเฮนึกกังวลขึ้นมาว่าเจสสิก้าจะยิ่งโกรธเค้าอีก
      "ทำตามที่ฉันบอกเหอะ  แล้วทุกอย่างจะดีเอง"ฮีชอลตบบ่าทงเฮสองสามที สต๊าฟเข้ามาบอกให้พวกเค้าเริ่มสแตนด์บาย พวกเค้าวางมือรวมกันแล้วพูดว่า ไฟท์ติ้ง ดังๆแล้วภาวนาให้แผนการในคืนนี้สำเร็จ เพราะนั่นหมายถึง ถ้าสำเร็จ ทงเฮกับเจสสิก้าจะได้คืนดีกัน...



      "เย้ ชนแก้วววววววว" ฮีชอลตัวตั้งตัวตี ยกแก้วนำเชิงชน เสียงแก้ว ชนแก้ว ดังทั่วห้องซ้อม ของค่ายสังกัด
      หลังการแสดงฮีชอลแสร้งชวนทุกคนมากินข้าวที่ห้องซ้อม เหตุผลจริงๆคือ  การเริ่มต้นแผนอันแยบยลนี้ต่างหาก 
      "โชว์วันนี้เยี่ยมไปเลยนะค่ะพี่" ยุนอาชมคนที่นั่งเยื้องๆออกไป  วันนี้หน้าทงเฮเหมือนจะดีขึ้นมาหน่อย อาจจะเพราะว่า เจสสิก้าก็อยู่ที่นี่ด้วย
      "ใช่ๆ พี่ตีลังกาด้วยละ เท่ห์มากเลย"
      "อะไรกัน ซันนี่ พี่อยู่นี่ทั้งคน ไปชมทงเฮมันได้ยังไง"ซองมินค้อนแฟนสาวที่นั่งข้างๆ ด้วยเพราะเธอไปชมคนอื่น ทั้งๆที่ควรจะเป็นเค้ามากกว่า ซันนี่รีบง้อด้วยยิ้มหวานๆทันที
      "ไม่น้า พี่เจ๋งสำหรับชั้นเสมอเลย"หนุ่มข้างๆงอนได้ไม่นานก็กลับใจอ่อนทันที ทงเฮที่นั่งมองอยู่ห่างๆ นึกอิจฉาทั้งคู่ เค้าก็เคยมีความทรงจำกับเรื่องนี้เหมือนกัน เมื่อตอนเค้าตีลังกาครั้งแรกได้สำเร็จ คนที่อยู่ให้กำลังใจเค้าก็คือ เจสสิก้า เธอดูแล เวลาเค้าล้มเข่ากระแทกพื้น เธอป็นไหล่ให้เค้าพิงยามหลับตอนกลับจากซ้อม เธอเป็นอีกหนึ่งมือให้เค้ากุมเวลาหนาว เธอเป็นทุกๆอย่างสำหรับเค้า แต่ตอนนี้.....มันไม่มีอีกแล้ว
      "นี่ ซองมิน ทงเฮ สิก้า ไปช่วยฉันยกของจากห้องซ้อมชั้นสามหน่อยสิ มันหนักน่ะ" อีทึก วานรุ่นน้องทั้งสาม ชายหนุ่มสองคนดูจะเต็มใจ แต่อีกหนึ่งน่ะสิ
      "ฉันด้วยหรอ?" เจสสิก้าชี้นิ้วมาทางตัวเอง แต่ก็ยอมลุกขึ้นไม่ขัดอะไร ...คงไม่มีอะไรหรอกนะ



      ................
      "สิก้า เธอไปหยิบกล่องใต้โต๊ะทีวีมานะ ส่วนทงเฮนายไปช่วยสิก้ายก ซองมินมากับชั้น" พูดจบ อีทึกก็เดินไปอีกมุม เจสสิก้ารีบเดินไปหยิบกล่อง รีบๆยก จะได้เสร็จเร็วๆ ก่อนที่ทงเฮจะเข้ามาช่วย
      "สิก้า พี่ช่วยนะ"
      "มะ..ไม่ต้อง ไม่ต้องค่ะ" เธอปัดมือเค้า รวบรวมกำลังของคนตัวเล็กๆที่มียกกล่องขึ้นมา
      "เธอยกไม่ไหวหรอก"ทงเฮจะเข้าไปช่วยเมื่อเห็นเจสสิก้า ทำท่าจะเซล้ม

      ....ปังงงงง.....
      เสียงปิดประดังขึ้น เจสสิก้าหัวกลับไปดู และไม่เห็นอีทึกกับซองมิน เหลือแค่ เธอและ....ทงเฮ
      เธอว่งไปที่ประตูพร้อมกล่องใบใหญ่ แต่ก็ต้องล้มลงเพราะทรงตัวไม่อยู่
      "อ๊ะ โอ๊ยยย"
      "สิก้า" ทงเฮวิ่งไปดูอาการคนรัก เลือดเริ่มไหลซิบๆที่เข่าข้างขวา ส่วนมือข้างขวาก็โดยมุมกล่องแทงเกิดเป็นรอยแผลไม่ลึกมาก
      "พี่เป็นคนทำใช่มั้ย" ไม่ได้สนใจแผลของตัวเอง เธอมองค้อนชายตรงหน้า
      "ไม่ใช่นะ อย่าเข้าใจพี่ผิดสิ" เจสสิก้ไม่สนใจ เธอพยายามเดินกระเพลกไปเปิดประตู แต่มันก็ล็อค เธอยิ่งโกรธทงเฮเข้าไปใหญ่
      "แล้วทำไมประตูล็อค พี่จองซู กับพี่ซองมินก็ไม่อยู่ พี่ทำแบบนี้ทำไม" ทงเฮถอนหายใจ เค้ายิ่งปวดร้าว เมื่อเจสสิก้าไม่ได้ยินดีที่จะอยู่กับเค้าเพียงสองคน
      "อยู่คุยกับพี่ก่อนได้มั้ย"
      "ไม่มีอะไรจะคุยค่ะ"
      "แต่พี่มี" ทงเฮจับข้อมือขวาของเจสสิก้ายกขึ้น
      "คุยกับพี่ ให้พี่ทำแผลก่อน แล้วพี่จะให้ซองมินมาเปิดประตูให้"

      ทงเฮหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่บนชั้นมาทำแผลให้เจสสิก้า เธอมองชายตรงหน้าทำกำลังง่วนทำแผลให้ นึกถึงวันเก่าๆ น้ำใสๆเริ่มคลอเบ้า แต่ก่อน เธอเคยทำแผลให้เค้า ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหตุการณ์ตอนนี้มันเหมือนไม่ต่าง เพียงแต่ ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้..... เต็มไปด้วยน้ำตา


      "พี่ทงเฮ.........."
      "สิก้า........สามปี.......นานจังนะ...ที่เราสองคนคบกัน" หญิงสาวเงยหน้า
      "พี่มีอะไรอยากจะถามเธอ........ตอบพี่ได้มั้ย?" เจสสิก้าไม่ตอบรับ หรือปฏิเสธ
      "เธอ.......เคยรักพี่บ้างมั้ย?" นัยต์ตาสีน้ำตาลเข้มหลุบต่ำลง 
      "เคย........บ้างมั้ย?"เสียงทงเฮเอ่ยถามอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงสั่น แต่หญิงสาวตรงหน้าเค้ายังคงนิ่งและเงียบงัน
      "ไม่รักสินะ"ทงเฮสรุปเอาเอง เจสสิก้าส่ายหน้ารัว
      "ไม่.....ไม่ใช่" หยาดน้ำเอ่อเต็มดวงตาคู่นั้น สุดท้าย เจสสิก้าก็ไม่สามารถโกหกความรู้สึกตัวเองได้
      ทงเฮนิ่งไปกับคำตอบของเธอ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้ เธอบอกว่า ไม่ งั้นก็แสดงว่าเธอรักเค้าน่ะสิ ทงเฮใช้มือปาดน้ำตาให้เธอ ดึงเธอเข้ามากอด เจสสิก้าเองก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะนี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย............ครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ และเค้า

      "แต่ว่า......"
      "เพราะเรื่องนั้นหรอ"เค้าถามเธอทั้งๆที่ยังกอดเธออยู่"พี่รู้หมดแล้ว พี่อีทึกบอกหมดแล้ว"
      "พี่รู้...?"เจสสิก้าชะงักกับคำที่ทงเฮบอก
      "ใช่ พี่รู้"เค้าผละออกจากเธอ "แล้วยังไงละ เรื่องพวกนั้นมัน ไร้สาระชัดๆ ลืมมันซะเถอะนะ" มือใหญ่ของเค้าลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน ไล่ลงมาเช็ดน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล  เจสสิก้าจับมือเค้าออก พยายามฝืนพูด ทั้งๆที่เธอไม่อยากพูดมันเลยด้วยซ้ำ
      "ฉันอยากจะอยู่กับพี่ หัวเราะไปกับพี่ เมื่อพี่มีความสุข คอยอยู่เคียงข้างเมื่อพี่อ่อนแอ อยากจะทำทุกอย่าง "
      "สิก้า   "
      "แต่ถึงเราจะไม่ได้คบกัน เราก็เป็นพี่น้องกันได้ไม่ใช่หรอค่ะ?" เธอพยายามฝืนยิ้ม ทั้งๆที่น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความปวดร้าว น้ำตาได้ร่วงรินออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ เธอรีบปาด ราวกับว่าเค้าไม่เห็นมัน
      "ไม่ใช่สิก้า มันต้องไม่ใช่แบบนี้.." มือที่เธอจับมือทงเฮไว้ เค้าเปลี่ยนเป็นกุมมัน 
      "ทุกอย่างยังเหมือนเดิม......."มือใหญ่ไล่ไปถึงนิ้วนางข้างซ้าย แหวนที่เค้าให้เธอไว้เมื่อตอนวันเกิดเธอ เมื่อสองปีที่แล้ว ยังคงอยู่มันยังส่องแสงวาววับบนมือเนียนนุ่ม " ........ไม่ใช่หรอ?"
      "พี่ทงเฮ........"เจสสิก้าโผล่งขึ้นมาเสียงดัง
      "พี่ฟังฉันนะ ......ทุกอย่างมันจะดีขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะฉัน แล้วฉันจะแก้ปัญหานี้เอง"เธอพูดเสียงใส
      "แต่เราไม่เลิกกันได้มั้ย?" เสียงทุ้มตอกกลับ เจสสิก้าส่ายหน้าอย่างฝืนยิ้ม  
      "ความรักเราจะเดินเป็นเส้นขนาน......" เธอใช้นิ้วสองนิ้ว เดินไล่ไปตามไหล่หนาของชายตรงหน้า ไล่ไปจนแก้มที่เริ่มมีน้ำตาอาบเหมือนกัน ".....แล้วจะอยู่คู่กัน" เธอยิ้ม เค้าได้แต่มองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจ

      Tululu Tu lulu Tululu...........
      เสียงโทรศัพท์ของทงเฮดังขึ้น และเมื่อเค้ากดรับ เสียงปลายสายก็ดังทันที 
      "เป็นไงมั่งทงเฮ ทุกอย่างเรียบร้อยมั้ยว่ะ นานเป็นบ้าเลย" เป็นเสียงฮีชอล ตัวต้นเรื่องนั่นเอง เจสสิก้าแย่งโทรศัพท์ไปพูดแทน
      "เรียบร้อยค่ะพี่ พี่มาเปิดประตูให้หน่อยได้มั้ย"
      "หา? เอ่อ ได้ๆ"  ฮีชอลวางสาย งงๆ กับการที่ได้ยินเสียงสดใสขนาดนี้ นึกว่าโทรมาแล้วมีเป็นเสียงร้องไห้ท่วมสายซะอีก แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องดี เช่น สองคนนั้นอาจจะปรับความเข้าใจแล้วคืนดี ตอนนี้อาจจะนั่งจู๋จี๋กันอยู่ก็ได้ ........เค้าคิด

      เจสสิก้าจัดการเก็บกล่องปฐมพยาบาล ทงเฮได้แต่ยืนมอง เวลาที่เค้าสองคนได้อยู่ด้วยกันกำลังจะหมด แต่เค้าไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเธอ  ดูเหมือนว่าเจสสิก้าจะเลิกกับเค้าจริงๆ
      เจสสิก้าเดินไปยืนรอหน้าประตู เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ๆ  พี่ฮีชอลจะมาแล้ว  อยากจะรีบออกไปใจจะขาด ขืนอยู่นานกว่านี้ สิ่งที่เธอเก็บไว้ในใจ ได้ไหลทะลักออกมาหมดแน่ พี่ทงเฮ ฉันขอโทษ ฉันเห็นแก่ตัวไม่ได้ ความรู้สึกที่แท้จริงของฉัน มันจะทำลายทุกคน ทุกคนที่ฉันรัก

      "สิก้า  ......."ทงเฮตัดสินใจเรียกเธออีกครั้ง หากแต่เธอไม่ยอมหันกลับมาซักนิด
      "ที่เธอพูด ว่าความรักของเรา จะเดินเป็นเส้นขนาน" เค้าเอ่ย ทั้งที่ในใจก็เจ็บ เจ็บมากเหลือเกิน
      ดวงตาเค้าแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ น้ำตาที่ไหลออกมามากมาย  แต่เธอไม่หันมา และเธอก็ไม่ได้เห็นมัน
      เค้าอยากจะรั้งเธอเอาไว้ ทำอะไรก็ได้ที่ยอมให้เธอไม่เลิกกับเค้า  สิก้า ผมควรจะทำไงดี

      เสียงเดินใกล้เข้ามาทุกที เหมือนกับเวลา ที่กำลังจะหมดลง

      "เธอก็รู้........."

      ใกล้ .....ใกล้ .......เข้ามา กว่าเดิม........


      "ว่ามัน .......ไม่มีทางมาบรรจบกัน"



      เสียงไขกุญแจดังขึ้น
      เวลา ....กำลังจะหมด  ...............ลง


      อย่าหันไปนะ เจสสิก้า ปล่อยเค้าไว้ สักวัน เค้าจะเจอคนที่ดีกว่าเรา อย่าเห็นแก่ตัว อีกนิดเดียว


      กึก... กึก....
      ประตูถูกเปิดออก พร้อมกับเวลา ............ที่หมดลง



      มันจบแล้วเจสสิก้า...... เธอ  .....เธอทำได้ ......... เธอพูดกับตัวเอง 
      "อ้าวเห้ย ตกใจหมด"ฮีชอลตกใจที่เห็นน้องสาวตัวเองมายืนนิ่งอยู่หน้าประตู ไม่ทันไรเธอก็เบี่ยงตัวออกไปทันที ทิ้งให้ ฮีชอลยืนงงหนักกว่าเดิม
      "ไอ้ทงเฮ ตกลง มันเรียบร้อย อย่างที่ปากสิก้าบอกกับฉันจริงหรอว่ะ?"
      " .......................... "
      "อ๊าววว ....................."คนแก่สูงวัยอย่างฮีชอล ต้องมากุมขมับอีกครั้งเมื่อชะรอยว่า แผนการที่เค้าว่าเจ๋งแล้วเจ๋งอีก      มันจะเจ๊งไม่เป็นท่าซะอย่างนี้



      1 สัปดาห์ต่อมา


      แม่น้ำฮัน,,,

      เช้าวันนี้ดูอบอุ่นด้วยแสงอาทิตย์และแจ่มใสด้วยแสงแดดยามเช้า ผ่านไปสัปดาห์นึงแล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ทงเฮยังงานเยอะอยู่เหมือนเดิม และเพราะเค้าไม่ได้เข้ามาที่บริษัทเท่าไหร่ จึงทำให้เจสสิก้า ไม่ได้เจอเค้าอีก อาจจะเป็นเรื่องดีที่เธอจะได้ทำใจ วันนี้เจสสิก้าไม่มีซ้อม พวกเธอได้พักหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการโปรโมตเพลงในอัลบั้ม ที่ที่เธอจะนึกถึงเมื่อไม่มีอะไรทำก็คงจะเป็นแม่น้ำฮัน ที่ที่มีความทรงจำมากมาย
      แค่ได้มาเดินที่นี่ ไม่ว่าจะกลิ่น เสียง หรือภาพต่างๆ ก็ราวกับว่า ความทรงจำในอดีต ผุดขึ้นมาฉายวนเวียนซ้ำในหัวของเธอ ทั้ง ยิ้ม ทั้งร้องไห้,,,,
      "สวัสดีครับคนสวย"เสียงกระซิบหวานดังขึ้นข้างหู
      "อ๊ะ......พี่กึนซอก"
      "ว่าแล้วว่าต้องอยู่ที่นี่"ร่างสูงชิงนั่งลงก่อนเงยหน้าขึ้นมาถาม"ไม่คิดจะไปที่อื่นบ้างรึไง"
      "แต่ก็ดี จะได้ตามหาง่ายๆหน่อย"ราวกับไม่ต้องการคำตอบ เค้าพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก เจสสิก้านั่งลงตามข้างๆ
      "ไม่เจอกันตั้งนาน จบด้วยดีมั้ย เรื่องนั้น   "
      "อืม......."เจสสิก้าเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางตอบ".........ด้วยดี"
      "ก็ดี"เค้ายักไหล่ แว๊บหนึ่งที่เห็นสาวที่นั่งข้างๆทำตาเศร้า
      "นี่ ...ไม่เป็นไรแน่นะ"กึนซอกหันมาถามด้วยความห่วงใย"เธอต้องเจอคนที่ดีกว่านี้สิ"
      เจสสิก้าหันมามอง ไม่เข้าใจว่าชายข้างๆหมายความว่าไง เค้าคงอยากให้เธออารมณ์ดี
      "ใครละ"เธอเอ่ยเสียงแผ่ว
      "ฉันไง"กึนซอกยกมือข้างหนึ่งขึ้น อีกข้างก็ชี้หันเข้าหาตัวเค้าเอง
      "???"เจสสิก้าขมวดคิ้วแน่น
      "ถ้าเธอเป็นแฟนกับฉัน อย่างน้อยเธอก็ได้นั่งรถคูเป้ฟรีๆเลยนา .....มีคนรับไปกินข้าว.....สามมื้อเลยเอ้า!"
      "พี่ล้อเล่นป่าวเนี่ย"เธอจับมือเค้าลงแล้วหัวเราะออกมา
      "โอเคๆ ฉันไม่ได้เศร้าอะไรแล้ว พี่ไม่ต้องลงทุนเอาตัวเองเข้าแลก เพื่อให้ฉันอารมณ์ดีหรอกนะ"หน้าสวยขยับเข้ามาใกล้ชายหนุ่มมากขึ้น"ฉันอารมณ์ดีแล้วค่ะ ขอบคุณนะ"เอ่ยเสียงหวานพร้อมรอยยิ้มขอบคุณ
      ในใจกึนซอกนึกเศร้าอยู่ลึกๆ แต่แค่เห็นเธออารมณ์ดี ยิ้มได้เค้าก็มีความสุขแล้ว
      "อ่าาาาาา..........อากาศดีๆแบบนี้ ไปหาอะไรกินตรงนู้นนนนดีกว่า"เจสสิก้าลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจและสูดรับอากาศเย็นๆ และออกเดิน
      ".................?"
      "ใครถึงช้า ต้องเป็นคนเลี้ยงนะ ฮ่าๆ"พูดจบก็ออกตัววิ่งทันที
      "ยัยยบ้าเอ๊ย เพราะเป็นอย่างนี้ ฉันถึงรักเธอไง จองซูยอน"พึมพัมกับตัวเองเบาๆ แล้วก็ลุกขึ้นยืน ตะโกนไล่หลังคนตัวเล็กที่วิ่งนำไปก่อนหน้านี้แล้ว
      "เฮ้.... รอด้วย...... สิก้า นึกว่าจะชนะฉันงั้นเร๊อะ!"
      "ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ "เสียงหัวเราะสดใสดังไกลๆ ยิ่งกึนซอกออกแรงวิ่งเท่าไหร่ คนตัวเล็ก ยิ่งวิ่งเร็วกว่าเท่านั้น ไม่ใช่เพราะเค้าอยากชนะ ไม่ใช่เพราะไม่อยากเลี้ยงมื้อเช้าเจสสิก้า แต่เพราะเห็นเธอวิ่ง หัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุข และไร้กังวล ต่อให้ต้องแกล้งวิ่งช้า และเลี้ยงข้าวเธอตลอดไป  

      .............. เค้าก็ยอม ........





      ..............THE END...........






      คู่ต่อไป
      แท,,ซู
      ยุน,,ฟานี่
      และ เอ่อ,,,



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×