( sf ) coffee and you. {Ong x Min}
ฮวังมินฮยอนและร้านกาแฟร้านโปรดของเขา.
ผู้เข้าชมรวม
328
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
“เอสเพรสโซ่ มัคคิอาโตเย็น หนึ่งที่ครับ”
เนื้อเสียงนุ่มทุ้มแสนคุ้นหูดังขึ้นเบื้องหน้า
บาริสต้าหนุ่มช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าหล่อคมคายริมฝีปากหยักผุดรอยยิ้มใจดี
นัยน์ตาเรียวชี้ขึ้นราวสุนัขจิ้งจอกจดจ้องมาอย่างไม่ระวาง
องซองอูแอบกลืนน้ำลายลงสู่คอที่แห้งผาก
“ครับ” เขาตอบรับก่อนจะเตรียมตัวทำกาแฟ
คนคนนั้นค่อยๆหมุนลำตัวเดินไปตรงมุมหนึ่งของร้านที่แสงสว่างสีจางๆจากดวงอาทิตย์ในช่วงสิบเอ็ดโมงเศษสาดเข้าใส่ผนังกระจก
.. ในขณะที่มือทั้งสองข้างยุ่งอยู่กับการทำกาแฟแต่ดวงตากลับเอาแต่จ้องมองคนๆนั้นอยู่ตลอดเวลา
แล้วแสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาวก็สาดเข้าที่ใบหน้าเรียวสวยนั่นพอดี ในตอนนั้นเองที่ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นเลื่อนสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของซองอู
ริมฝีปากสีแดงสดระบายรอยยิ้มบางๆจนกระทั่งบาริสต้าหนุ่มหลุบสายตาเลื่อนลงต่ำ
ฮวังมินฮยอนเป็นผู้ชายในอุดมคติของเขามาโดยตลอด
ผู้ชายในแบบที่ซองอูอยากเป็น
เขาอยากหล่อเหมือนมีออร่าเป็นแบ็คกราวข้างหลังตลอดเวลาอย่างนั้นบ้าง
ความจริงแล้วฮวังมินฮยอนและองซองอูต่างรู้จักกันและกันเป็นอย่างดี
เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมคณะนิเทศศาสตร์ แต่พอจบออกมาได้ปีกว่ามินฮยอนที่เป็นเดือนของคณะก็ผันตัวเองไปเป็นนายแบบสุดฮอตของวงการบันเทิงเกาหลีในขณะที่ซองอูก็ลงทุนเปิดร้านกาแฟเล็กๆในย่านคังนัมแล้วผันตัวเองเป็นบาริสต้าประจำร้าน
เขาเพิ่งมาค้นพบความชื่นชอบอันดับหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันนั่นคือรสชาติและกลิ่นหอมกรุ่นจากการบดคั่วเมล็ดกาแฟในทุกๆเช้าของการเริ่มต้นวันที่ดี
เป็นเรื่องแปลกเหมือนกันที่เวลาแบ่งเซคเรียนไม่ว่าจะเป็นวิชาอะไรก็ตาม
เขาและมินฮยอนมักจะอยู่ในเซคเดียวกันมาตลอด
และตลกดีที่แม้จะเป็นคนที่แอบมองบ่อยสุดแต่กลับพูดคุยด้วยน้อยจนแทบนับครั้งได้
พูดคุยกับใครก็ได้อย่างไม่เขอะเขิน
แต่กับคนชื่อฮวังมินฮยอน ซองอูรู้สึกว่าตัวเองกลายร่างเป็นอีกคนที่กลัวการทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมคณะขึ้นมาดื้อๆ
เอสเพรสโซ มัคคิอาโตแก้วเย็นเสร็จเรียบร้อยและซองอูกำลังนำไปให้คุณลูกค้าสุดหล่อ
แอบสังเกตว่าใบหน้าที่เขารู้สึกอิจฉาซ่อนความอิดโรยไว้ใต้ดวงตาจิ้งจอกที่กำลังมองมา
มันค่อนข้างดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด มินฮยอนรับแก้วกาแฟมาอย่างไม่พูดอะไรและค่อยๆยกขึ้นดื่มอย่างใจเย็น
เวลาในช่วงสายๆแบบนี้ภายในร้านมีลูกค้าแทบจะนับคนได้
ซองอูจึงตัดสินใจหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับมินฮยอน
อีกคนเหลือบมองแล้วก้มลงดื่มกาแฟตรงหน้า
ริมฝีปากสีแดงสดขบเม้มเข้าหากันราวกับภายในโพลงปากกำลังกลั้วความหวานของฟองนมและความขมของเอสเพรสโซให้กลายเป็นความกลมกล่อมในรสชาติเดียว
ความพิเศษของกาแฟเอสเพรสโซ
มัคคิอาโตคือการเอาฟองนมนุ่มๆลงไปปาดทับบนกาแฟเอสเพรสโซ ให้ความหอมนุ่มของนมที่จะมาปะทะกับริมฝีปากเป็นอันดับแรก
ก่อนจะได้รับรสชาติเข้มข้นหนักหน่วงของช๊อตเอสเพรสโซในตอนสุดท้าย โดยทั้งสองสิ่งนี้จะถูกผสมปนเปเป็นเนื้อเดียวกันผ่านการกลั้วของลิ้น
นี่คือเสน่ห์ของการดื่มกาแฟเอสเพรสโซมัคคิอาโตเลยล่ะ
ซองอูกลั้นขำเมื่อเห็นว่าตรงมุมปากของมินฮยอนถูกแต้มด้วยสีขาวจากฟองนม
เขาจึงชี้นิ้วไปที่มุมปากของตัวเองเพื่อให้เจ้าตัวเลียมันออก
แต่ลืมไปว่านั่งฝั่งตรงข้ามพอซองอูจิ้มที่มุมปากข้างซ้ายที่เป็นตำแหน่งของฟองนม
มินฮยอนใช้ลิ้นเลียที่มุมปากข้างขวา ชายหนุ่มปัดไม้ปัดมือไปมา “ไม่ใช่ตรงนั้นนะ”
“อ่า .. งั้นเช็ดให้หน่อย”
มินฮยอนหลับตาลงพลางยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้
วินาทีนั้นซองอูรู้สึกว่าร่างกายตัวเองชาไปทั้งแถบ เขาค่อยๆยกมือที่สั่นเล็กน้อยปาดคราบฟองนมบนริมฝีปากหยักได้รูปออก
“ขอบใจ” มินฮยอนยิ้มตาพริ้ม ให้ตายสิ เขาหยุดมองใบหน้าแสนวิเศษนี้ไม่ได้เลย
“อง”
“หืม?”
น้อยคนที่จะเรียกเขาด้วยนามสกุลเพียงคำเดียว
น่าแปลกที่ก้อนเนื้อข้างซ้ายของซองอูกำลังเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ
“รสชาติเยี่ยมมาก” อีกคนชูแก้วกาแฟในมือประกอบ
“ก็เพราะคนทำหล่อไง”
จะบอกว่าเพราะใส่ใจก็กลัวจะโดนมองแปลกๆ
“หลงตัวเองไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”
มินฮยอนหัวเราะจนตาหยี ซองอูเลยทำเป็นเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ
“นานๆทีจะได้มานั่งคุยกับองแบบนี้”
ดวงตากลมสวยเหลือบมองพลางยกกาแฟขึ้นดื่ม
“แน่ล่ะนายมักจะมานั่งดื่มแค่แป๊บเดียวแล้วก็หุนหันพลันแล่นออกไป
กาแฟยังไม่ทันหมดด้วยซ้ำ”
ถึงจะยุ่งกับการทำกาแฟตรงหน้าแต่ซองอูก็มักจะสังเกตเสมอ
.. มินฮยอนมักจะโผล่เข้ามาในร้านช่วงสิบเอ็ดโมงและสั่งเอสเพรสโซมัคคิอาโตสูตรเย็นทุกครั้ง
พอเอาไปเสิร์ฟและเดินกลับมายืนที่เคาท์เตอร์ได้ไม่กี่นาที ร่างสูงโปร่งก็ลุกพรวดพราดขึ้นวิ่งผลักประตูร้านออกไปราวกับรีบไปทำอะไรสักอย่างท่ามกลางสายตางุนงงของผู้คนในร้านและเขาที่โครตจะตั้งใจทำกาแฟแก้วนั้นแต่กลับถูกคนสั่งวางทิ้งไว้เปล่าเปลี่ยวบนโต๊ะในสภาพที่ยังเต็มแก้วอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง
“ต้องรีบไปทำงานน่ะ”
“แต่อย่างน้อยก็น่าจะหยิบไปด้วย”
ซองอูเลื่อนสายตามองที่แก้วกาแฟที่ตั้งอยู่ตรงหน้าทำให้อีกคนรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร
มินฮยอนระบายยิ้ม
“เพราะรีบมากน่ะ ขอโทษนะถ้ามันทำให้นายเสียใจ”
“ไม่เป็นไรๆ เข้าใจน่า คนฮอตๆแบบนายงานต้องเยอะเป็นธรรมดา
เรื่องแค่นี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกเสียใจอะไรหรอก”
เผลอสบตาเข้ากับนัยน์ตาจิ้งจอกของอีกคน
มินฮยอนแลบลิ้นเลียริมฝีปากสีแดงสดของตัวเอง
แค่เห็นคนๆนี้มาทุกวันก็ดีใจมากแล้ว
บาริสต้าหนุ่มเริ่มเม้มริมฝีปากเข้าหากันเมื่อนึกถึงคำถามหนึ่งที่ติดอยู่ในใจตลอดแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ถาม
ตอนนี้โอกาสมอบให้เขาเต็มที่ และมินฮยอนเองก็ดูจะสนใจเขามากเป็นพิเศษ
“ถ้าต้องรีบไปทำงานขนาดนั้น
ทำไมต้องแวะมาที่นี่ก่อนล่ะ?” จากนั้นซองอูก็เม้มริมฝีปากอีกครั้ง
ก็แค่คำถามทั่วไปแต่ทำไมเขารู้สึกคาดหวังกับคำตอบของคนตรงหน้าขนาดนี้นะ
“นอกจากเอสเพรสโซ่มัคคิอาโต้แก้วนี้”
ดวงตาเรียวคมจดจ้องอีกครั้ง “ก็คงเป็นคนทำละมั้ง”
ซองอูรู้สึกว่าอุณภูมิในร่างกายของเขาสูงขึ้นและถูกส่งอาการมาที่ใบหน้า
– เขารู้สึกตัวเองหน้าร้อนผ่าวเพียงเพราะประโยคสุดท้ายจากริมฝีปากทรงกระจับของมินฮยอน
จะมีอะไรที่ทำให้เขินได้เท่าคนๆนี้มั้ยนะ
“โอ๊ะ
ให้ตายเถอะ” มินฮยอนสบถออกมาเมื่อยกแขนข้างที่ใส่นาฬิกาแบรนด์หรูยี่ห้อโอเมก้าขึ้นดู
“จะไปแล้วเหรอ”
ซองอูรู้ว่าตัวเองกำลังเปล่งเสียงเศร้าๆออกมา
“จริงๆก็อยากอยู่ต่ออีกนิด”
มินฮยอนเลียริมฝีปากพลางจ้องมองเขา “ถ้าเป็นไปได้---”
ถ้าเป็นไปได้ซองอูก็จะระเบิดตัวเองตายตอนนี้เหมือนกัน
–
ไม่ได้สิ
“รีบไปเถอะ
เดี๋ยวได้สายจริงๆหรอก” ก็แกล้งพูดไปงั้น .. ความจริงแล้วก็ไม่อยากให้ไปไหนเลย
“นี่มันก็สายแล้วละ”
อีกคนว่า “จะเที่ยงแล้ว”
“นายจะไม่ไปเหรอ?”
ทำไมรู้สึกเกลียดสีหน้าและน้ำเสียงที่ต้องแสร้งทำอย่างนี้นะ ทั้งที่รู้ตัวเองอยู่ลึกๆว่ากำลังเก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ถ้ามินฮยอนเกิดตอบว่าไม่ไปแล้ว
“ไม่ไปก็คงได้มานั่งเฝ้าร้านทั้งวัน”
“...”
มินฮยอนระบายยิ้มที่แน่นอนว่ามันทำให้อีกฝ่ายเกิดอาการประหม่าทุกครั้ง
ร่างสูงโปร่งในเสื้อเชิ้ตสีขาวยืนขึ้น ในขณะที่ซองอูเริ่มนับเลขถอยหลังอยู่ในใจ
เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันจะหมดลงทันทีเมื่อมินฮยอนเดินออกไปจากร้าน
“เดี๋ยวสักพักจะโทรมานะ”
“จะสั่งกาแฟอีกเหรอ”
“เปล่า ..
แก้วเดียวก็พอแล้ว แค่อยากโทรหา--”
“...อื้อ”
มินฮยอนหมุนตัวเดินไปที่ประตูร้าน
ซองอูจ้องมองทุกย่างก้าว เมื่อร่างสูงหันมาโบกมือลาเขารอยยิ้มสดใสโดยมีฉากหลังเป็นแสงแดดอบอุ่นจากพระอาทิตย์ทำให้เรือนร่างของมินฮยอนดูน่ามองไปอีกแบบ
เชิ้ตแขนยาวสีขาวเดินหายไปจากมุมตึก
ซองอูทำสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นว่ากาแฟแก้วที่ตั้งใจทำอย่างพิเศษตรงหน้าไม่หลงเหลือความเป็นเอสเพรสโซ๋มัคคิอาโตอยู่เลย
มินฮยอนดื่มจนหมดแก้ว – เป็นสิ่งที่ซองอูคาดหวังมาตลอด
หรือเพราะมินฮยอนกลัวว่าจะทำให้เขาเสียใจอีกนะ
ซองอูเดินกลับไปที่เคาทเตอร์และเริ่มลงมือทำเอสเพรสโซ่มัคคิอาโตอีกครั้ง
–
มินฮยอนไม่ได้ต้องการดื่มมันอีกครั้ง
หากแต่เป็นซองอูเสียเองที่อยากจะดื่มมันขึ้นมา
เขาไม่ชอบการดื่มแบบมีศิลปะหรือค่อยๆละเลียดชิมรสหรือมีเทคนิควิธีการอะไรมาก
ซองอูก็แค่ดื่มมันและมาสรุปผลในตอนท้ายว่าเขาชอบกาแฟรสชาตินี้หรือไม่
ถ้ามันใช่เขาก็แค่ดื่มมันต่อในวันถัดไป
เอสเพรสโซมัคคิอาโตแบบเดียวกับที่ทำให้มินฮยอนถูกนำมาวางคู่กับวาฟเฟิลเนื้อนุ่ม
ซองอูชอบดื่มกาแฟคู่กับเจ้าวาฟเฟิลเสมอเพราะมันไปช่วยบั่นทอนให้ปุ่มรับรสขมโดยลิ้นของเขาทำงานหนักเกินไป
บาริสต้าหนุ่มค่อยๆยกแก้วขึ้นดื่ม
ริมฝีปากแตะเข้าที่ชั้นบนสุดของแก้วที่มีฟองนมเคลือบบางๆจากนั้นเอสเพรสโซรสเข้มข้นก็ไหลลงสู่ลำคอ
ซองอูหลับตาให้กับความขมปร่าของมันแล้วรีบคว้าชิ้นวาฟเฟิลขึ้นกัดเพื่อไล่ความขม
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังอร่อยอยู่ดี
Incoming call
062-619 xxxx
- - - - - - - - - - - - - - - - > :)
-end.
สัญลักษณ์อะไรไม่รู้ตอนสุดท้าย
ที่ตลกของเรื่องนี้คือพี่มินไม่ดื่มกาแฟ.....
5555555
เรือผีที่แท้ทรู
ขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาอ่านช้อทฟิคเรื่องนี้นะคะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Qoutecloud ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Qoutecloud
ความคิดเห็น