Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง
ในยุคที่ผู้คนเรียกขาน "มนุษย์โคลนนิ่ง" ว่า shadow... ในยุคที่การโคลนนิ่งกลายเป็นสิ่งถูกกฏหมาย... เมื่อเด็กสาวที่เป็นมนุษย์ และชายหนุ่มซึ่งเป็น shadow ได้มาอยู่ร่วมกัน... เรื่องราวความผูกพัน ความรัก และการเรียนรู้ถึงคุณค่าของ "ชีวิต" จึงเกิดขึ้น...
ผู้เข้าชมรวม
2,780
ผู้เข้าชมเดือนนี้
24
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
โลกมนุษย์ที่เข้าสู่ยุคเสื่อมโทรม มีเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมากมาย
การโคลนนิ่งมนุษย์ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยชีวิตผู้คน... โดยมนุษย์โคลนนิ่งนั้นเรียกกันว่า "shadow"
เรนะเป็นลูกสาวของนักวิจัย shadow ชื่อดัง
เมื่อเธอ ซึ่งเป็นมนุษย์
ได้มาอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับ เขา ที่เป็น shadow
คำถามและการค้นหาคำตอบจึงเกิดขึ้น
ถึงแม้จะถูกโคลนขึ้นจากต้นแบบ
แต่ก็มีชีวิต มีจิตใจเหมือนกันไม่ใช่หรือ?
ชีวิตทุกชีวิตล้วนมีค่า....
Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง
ผลงานอื่นๆ ของ curious_pandora ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ curious_pandora
"บทวิจารณ์ Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง"
(แจ้งลบ)ต้องสารภาพว่าเมื่อแรกที่ได้เห็นชื่อเรื่อง Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง ที่นักเขียนคือคุณ curious_pandora มาขอให้ช่วยวิจารณ์นั้น ผมไม่ค่อยจะสนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะคิดว่านิยายเรื่องนี้คงจะเป็นแนวรักหวานแหววตามสไตล์นักเขียนหญิงของเว็บไซต์เด็กดีทั่วไป แต่เมื่อพักจากนิยายเรื่องอื่นที่คิดว่าจะวิจารณ์ หันมาหาความผ่อนคลาย (คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น) ก ... อ่านเพิ่มเติม
ต้องสารภาพว่าเมื่อแรกที่ได้เห็นชื่อเรื่อง Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง ที่นักเขียนคือคุณ curious_pandora มาขอให้ช่วยวิจารณ์นั้น ผมไม่ค่อยจะสนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะคิดว่านิยายเรื่องนี้คงจะเป็นแนวรักหวานแหววตามสไตล์นักเขียนหญิงของเว็บไซต์เด็กดีทั่วไป แต่เมื่อพักจากนิยายเรื่องอื่นที่คิดว่าจะวิจารณ์ หันมาหาความผ่อนคลาย (คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น) กับนิยายเรื่องนี้ ก็พบว่าเรื่อง Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง (ต่อไปขอเรียกว่า Shadow) นั้น แตกต่างจากนิยายในเด็กดีเรื่องอื่นๆอย่างน่าสนใจทีเดียว สถานที่เกิดของเรื่องราวใน Shadow นั้น ผู้เขียนไม่ได้ระบุว่าเป็นประเทศใด หรือช่วงเวลาใด หรือแม้แต่ว่าเป็นโลกของเราหรือโลกที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น แต่เมื่อได้อ่านไประยะหนึ่งแล้วก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเป็นโลกของเราในอนาคตนี่เอง เป็นอนาคตอันใกล้ที่ยังมีโทรศัพท์มือถือให้ใช้และรถยนต์ให้ขับ แต่ก็ไกลเพียงพอจะพัฒนาเทคโนโลยีการโคลนนิ่งมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ มนุษย์โคลนนิ่งในเรื่องนี้ถูกเรียกว่า Shadow ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่องและยังเป็นการเปรียบของผู้เขียนว่าต้นแบบคือแสง ส่วน Shadow คือเงา เงานี้เองนำไปสู่การตั้งคำถามของผู้เขียนที่ส่งต่อมายังผู้อ่านว่า แสง หรือ เงา ที่สำคัญกว่ากัน เพราะ Shadow ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอวัยวะสำรองของต้นแบบ ที่มีความเหมือนกับต้นแบบทุกประการ และยิ่งกว่านั้น Shadow ยังมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกเป็นของตนเองอีกด้วย เรนะ นางเอกของเรื่อง (ซึ่งเป็นลูกกำพร้า อยู่กับพี่ชายเพียงสองคน เรน พี่ชายที่ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัย Shadow) ในวัยเยาว์ป่วยหนักถึงขั้นต้องใช้อวัยวะของริเรีย Shadow ของตนเพื่อให้รอดชีวิต แต่เนื่องจากตนเองเคยสนิทกับริเรีย การที่ต้องแลกชีวิตกับริเรียจึงทำให้เธอต้องเสียใจจนฝันร้ายอยู่บ่อยๆ เมื่อเธอโตขึ้น เทมส์ เด็กหนุ่มข้างบ้านที่สนิทกับเธอก็เสียชีวิตโดยไม่อาจใช้ Shadow ได้ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เรนซึ่งมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ Shadow ในกรณีที่ต้นแบบเสียชีวิตไปก่อน ติดงานที่ต่างประเทศ Shadow ของเทมส์ จึงต้องมาอยู่ที่บ้านเรนะเป็นการชั่วคราว อันเป็นจุดเริ่มต้นของความรักระหว่าง Shadow กับมนุษย์ และคำถามหลักของเรื่องที่ว่า โคลนนิ่งคือมนุษย์หรือไม่ และพวกเขาควรจะมีสิทธิ์เลือกที่จะสละชีวิตเพื่อต้นแบบของตนหรือไม่ ผมพบว่าผู้เขียนได้วางโครงเรื่องไว้เป็นอย่างดี และสามารถแก้ปมที่ตนเองผูกไว้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในใจของเรนะเรื่องของริเรีย, การปรับตัวของ Shadow ต่อสังคมที่รังเกียจเขา, จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Shadow ไม่ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของตน (คือการเป็นอะไหล่มนุษย์), Shadow ที่ไม่สามารถช่วยต้นแบบของตนได้จะต้องเผชิญกับชีวิตอย่างไร เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงตอนท้ายที่เรนอาการปางตาย ก็ทำให้ผู้อ่านเชื่อได้ว่าพวกเขาจะเลือกสิทธิ์ของ Shadow ได้อย่างไม่ยัดเยียดจริยธรรมแบบเชิดชูมนุษย์อย่างสุดโต่งจนเกินไป จากการที่ได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างจากมนุษย์ของ Shadow หลายคน ทั้งของเทมส์ เรนะ เรน โดยเฉพาะ Shadow ของเจ้าชายซารัฟ ที่ตั้งชื่อให้ตนเองว่าคิว ซึ่งหมายถึงการตั้งคำถาม เขาเป็น Shadow คนแรกที่ตั้งคำถามถึงสิทธิ์ที่ควรจะได้รับของพวกตน เหล่า Shadow มีความรัก ความกลัว และอื่นๆ ที่สมควรต่อการเป็นมนุษย์ ซึ่งผู้เขียนได้แสดงไว้ตลอดทั้งเรื่อง การตั้งชื่อให้ Shadow ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้เขียนแสดงให้เห็นว่าพวกเขาแตกต่างจากมนุษย์ โดย Shadow แต่ละคนจะมีชื่อเรียกเป็นตัวเลขได้แก่ 1011 ของเทมส์ 844,845 ของเรนและเรนะ 1012 ของเจ้าชายซารัฟ นอกจากคิวที่ตั้งชื่อให้ตนเองแล้วก็ไม่มีใครตั้งชื่อให้กับพวกเขา นอกเสียจากเรนะที่คิดว่า Shadow จำเป็นต้องมีชื่อ จึงตั้งชื่อให้ 1011 ว่าทาโร่ตามชื่อสุนัขของตน (แต่ก็ทำให้ผู้อ่านสงสัยว่าการตั้งชื่อตามสุนัขจะแสดงให้เห็นว่าถึงที่สุดแล้ว แม้แต่นางเอกก็ยังไม่ยอมรับว่าเขาเป็นมนุษย์ใช่หรือไม่) และตั้งชื่อ Shadow ของตนเองว่าริเรีย นอกจากจุดเด่นด้านการตั้งคำถามจริยธรรมแล้ว เรื่องความรักก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ผู้เขียนได้เขียนถึงความรักระหว่างเรนะกับทาโร่ ตั้งแต่เรนะไม่พอใจที่คนที่หน้าตาเหมือนกับเทมส์ทุกประการต้องมาอยู่ที่บ้าน เพราะเขาไม่อาจจะแทนที่เทมส์ได้ แต่ทาโร่สามารถเอาชนะใจเรนะได้ด้วยการดูแลเธออย่างดีในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำอาหาร ฯลฯ การที่เรนะสอนการประพฤติตัวในสังคมให้กับทาโร่ ยังทำให้เธอใกล้ชิดกับเขาจนเกิดความรักระหว่างกันขึ้น ถึงแม้จะมีศัตรูหัวใจเข้ามาก็ตาม แต่นั่นก็เพื่อให้ทั้งสองได้รู้ความจริงในใจตน และยังสามารถช่วยตอบคำถามได้ว่าทาโร่เป็นมนุษย์หรือไม่ เพราะเขาเองก็มีความรัก นอกจากนี้ผู้เขียนก็ยังไม่ลืมที่จะตอบคำถามเล็กๆ น้อยๆ ที่ตั้งทิ้งไว้ตลอดเรื่อง เช่น หากใครคนหนึ่งใช้ Shadow ไปแล้ว เมื่อต้องตกอยู่ในสภาพที่ต้องใช้อีกจะทำอย่างไร (Shadow จะถูกโคลนขึ้นมาใหม่ทันทีที่ถูกใช้ไป) ใครที่จะมี Shadow ได้บ้าง (คนที่มีเงิน) ทำไมชื่อของตัวละครจึงเป็นชื่อของคนต่างวัฒนธรรม เช่น เรนะ เรน ซารัฟ นาตาชา เจน ฯลฯ และมีอาหารหลายประเภท เช่น อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง ฯลฯ (ไม่ได้อธิบายไว้ว่าเรื่องเกิดที่ประเทศอะไรหรือยุคใด จึงอาจอ้างได้ว่าเกิดขึ้นในยุคที่มีการข้ามวัฒนธรรมจนคนต่างชาติต่างภาษามาอยู่ร่วมกัน) เป็นต้น ซึ่งก็ทำให้ผู้อ่านเช่นผมทึ่งได้ทีเดียว ถึงแม้ผมจะประทับใจนิยายเรื่องนี้ แต่ก็มีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุง ขอเริ่มจากความ “ง่ายเกินไป” ของการแก้ปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสังคมของทาโร่ เช่นระยะแรกเพื่อนชายในห้องไม่ชอบทาโร่ เพราะเป็น Shadow แต่กลับยอมรับเพียงเพราะเตะบอลเก่ง หรือเพื่อนของเรนะที่ได้พบที่ร้านกาแฟ เธอเป็นคนที่รังเกียจ Shadow เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับเด็กคนนี้ต่อ ราวกับว่าจะมาปรากฏตัวเพื่อพูดจาให้ทาโร่รู้สึกเศร้าใจเท่านั้น หากจะเน้นเรื่องการเป็นพลเมืองชั้น 2 ของ Shadow ก็น่าจะให้ทาโร่ต้องเผชิญกับการต่อต้านให้นานและมากกว่านี้ หรือเรื่องของเจ้าไวท์ สุนัขที่ทั้งสองเก็บมาเลี้ยง ซึ่งผู้เขียนใส่เรื่องราวตอนนี้มาเพื่อให้ทาโร่ได้รู้จักความรักต่อเพื่อนร่วมโลก และความเศร้าจากการสูญเสียสิ่งที่ตนรัก เหตุการณ์เหล่านี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าผู้เขียนใส่เข้ามาเพื่อให้นิยายเรื่องนี้ “มีครบทุกอย่าง” เท่านั้น แต่สิ่งที่กล่าวมานี้ยังไม่สามารถทำให้ผู้อ่านเชื่อและมีความผูกพันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เพียงพอ จึงขอแนะนำให้เพิ่มรายละเอียดส่วนนี้ให้มากขึ้น อีกเรื่องหนึ่งที่ขอแนะนำคือเรื่องของการหาข้อมูลด้านการแพทย์ของผู้เขียน ที่ยังมีความสมจริงน้อยมาก นับว่าเป็นจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดมากที่สุดของเรื่องนี้ การเขียนถึงรายละเอียดต่างๆ ของผู้เขียนจะหมดความหมายไปทันที หากผู้เขียนยังไม่มีข้อมูลด้านนี้ที่สมจริงเพียงพอ เช่น ผู้เขียนละเลยข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนอวัยวะหรือใช้อวัยวะเทียม ซึ่งแม้แต่ในโลกปัจจุบันก็เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลาย การเปลี่ยนหัวใจไม่จำเป็นต้องใช้ Shadow เลย เพียงแต่ใช้หัวใจที่มีผู้อื่นบริจาคมาก็ใช้ได้แล้ว การติดเชื้อในกระแสเลือดไม่สามารถรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนอวัยวะ หรือการใช้สเต็มเซลล์ (stem cell) ที่เป็นเซลล์ที่สามารถพัฒนาไปเป็นอวัยวะใดๆ ก็ได้ ถึงแม้ว่าในโลกปัจจุบันจะยังไม่เป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้จริง แต่ในโลกที่มีมนุษย์โคลนนิ่งอยู่เต็มไปหมด เพราะเหตุใดการเปลี่ยนอวัยวะจึงไม่ใช้สเต็มเซลล์ก่อน ถึงแม้สเต็มเซลล์จะต้องนำมาจากตัวอ่อนของสิ่งมีชีวิต ซึ่งอาจเป็นปัญหาด้านจริยธรรม แต่การใช้โคลนนิ่งทั้งตัวไม่ยิ่งเป็นปัญหามากกว่าหรือ? นอกจากนี้ในตอนที่โลกของเราสร้างแ ลลี่ หรือแกะโคลนนิ่งตัวแรกของโลกได้ ก็เกิดประเด็นด้านจริยธรรมที่ถกเถียงกันทั่วโลกว่าการสร้างมนุษย์โคลนนิ่งนั้นเป็นการสมควรหรือไม่ และกระแสของโลกเห็นว่าไม่สมควร นิยายและภาพยนตร์เกี่ยวกับมนุษย์โคลนนิ่งส่วนใหญ่จึงเป็นการสร้างอย่างลับๆ ซึ่งแตกต่างจากในเรื่องนี้ หากผู้เขียนจะให้มนุษย์โคลนนิ่งเป็นที่ยอมรับในทางจริยธรรมสำหรับโลกแห่ง Shadow ผู้เขียนน่าจะต้องมีคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้ด้วยว่าเพราะเหตุใดสังคมโลกในนิยายจึงยอมรับให้มีการผลิต Shadow ได้อย่างเป็นสาธารณะ ด้านคำที่สะกดผิดมีน้อยมาก ที่เห็นได้บ่อยคือคำว่า “เหรอ” ที่เขียนผิดเป็น “หรอ” และมีภาษาพูดปรากฏในส่วนที่เป็นการบรรยายบ้างแต่ไม่มากนัก หากผู้เขียนจะปรับปรุงในส่วนนี้ก็จะเป็นการดียิ่งขึ้นอีก อ่านน้อยลง
bluewhale | 15 มี.ค. 53
15
1
"บทวิจารณ์ Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง"
(แจ้งลบ)ต้องสารภาพว่าเมื่อแรกที่ได้เห็นชื่อเรื่อง Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง ที่นักเขียนคือคุณ curious_pandora มาขอให้ช่วยวิจารณ์นั้น ผมไม่ค่อยจะสนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะคิดว่านิยายเรื่องนี้คงจะเป็นแนวรักหวานแหววตามสไตล์นักเขียนหญิงของเว็บไซต์เด็กดีทั่วไป แต่เมื่อพักจากนิยายเรื่องอื่นที่คิดว่าจะวิจารณ์ หันมาหาความผ่อนคลาย (คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น) ก ... อ่านเพิ่มเติม
ต้องสารภาพว่าเมื่อแรกที่ได้เห็นชื่อเรื่อง Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง ที่นักเขียนคือคุณ curious_pandora มาขอให้ช่วยวิจารณ์นั้น ผมไม่ค่อยจะสนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะคิดว่านิยายเรื่องนี้คงจะเป็นแนวรักหวานแหววตามสไตล์นักเขียนหญิงของเว็บไซต์เด็กดีทั่วไป แต่เมื่อพักจากนิยายเรื่องอื่นที่คิดว่าจะวิจารณ์ หันมาหาความผ่อนคลาย (คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น) กับนิยายเรื่องนี้ ก็พบว่าเรื่อง Shadow...จังหวะหัวใจในความหมายต่าง (ต่อไปขอเรียกว่า Shadow) นั้น แตกต่างจากนิยายในเด็กดีเรื่องอื่นๆอย่างน่าสนใจทีเดียว สถานที่เกิดของเรื่องราวใน Shadow นั้น ผู้เขียนไม่ได้ระบุว่าเป็นประเทศใด หรือช่วงเวลาใด หรือแม้แต่ว่าเป็นโลกของเราหรือโลกที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น แต่เมื่อได้อ่านไประยะหนึ่งแล้วก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเป็นโลกของเราในอนาคตนี่เอง เป็นอนาคตอันใกล้ที่ยังมีโทรศัพท์มือถือให้ใช้และรถยนต์ให้ขับ แต่ก็ไกลเพียงพอจะพัฒนาเทคโนโลยีการโคลนนิ่งมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ มนุษย์โคลนนิ่งในเรื่องนี้ถูกเรียกว่า Shadow ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่องและยังเป็นการเปรียบของผู้เขียนว่าต้นแบบคือแสง ส่วน Shadow คือเงา เงานี้เองนำไปสู่การตั้งคำถามของผู้เขียนที่ส่งต่อมายังผู้อ่านว่า แสง หรือ เงา ที่สำคัญกว่ากัน เพราะ Shadow ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอวัยวะสำรองของต้นแบบ ที่มีความเหมือนกับต้นแบบทุกประการ และยิ่งกว่านั้น Shadow ยังมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกเป็นของตนเองอีกด้วย เรนะ นางเอกของเรื่อง (ซึ่งเป็นลูกกำพร้า อยู่กับพี่ชายเพียงสองคน เรน พี่ชายที่ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัย Shadow) ในวัยเยาว์ป่วยหนักถึงขั้นต้องใช้อวัยวะของริเรีย Shadow ของตนเพื่อให้รอดชีวิต แต่เนื่องจากตนเองเคยสนิทกับริเรีย การที่ต้องแลกชีวิตกับริเรียจึงทำให้เธอต้องเสียใจจนฝันร้ายอยู่บ่อยๆ เมื่อเธอโตขึ้น เทมส์ เด็กหนุ่มข้างบ้านที่สนิทกับเธอก็เสียชีวิตโดยไม่อาจใช้ Shadow ได้ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เรนซึ่งมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ Shadow ในกรณีที่ต้นแบบเสียชีวิตไปก่อน ติดงานที่ต่างประเทศ Shadow ของเทมส์ จึงต้องมาอยู่ที่บ้านเรนะเป็นการชั่วคราว อันเป็นจุดเริ่มต้นของความรักระหว่าง Shadow กับมนุษย์ และคำถามหลักของเรื่องที่ว่า โคลนนิ่งคือมนุษย์หรือไม่ และพวกเขาควรจะมีสิทธิ์เลือกที่จะสละชีวิตเพื่อต้นแบบของตนหรือไม่ ผมพบว่าผู้เขียนได้วางโครงเรื่องไว้เป็นอย่างดี และสามารถแก้ปมที่ตนเองผูกไว้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในใจของเรนะเรื่องของริเรีย, การปรับตัวของ Shadow ต่อสังคมที่รังเกียจเขา, จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Shadow ไม่ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของตน (คือการเป็นอะไหล่มนุษย์), Shadow ที่ไม่สามารถช่วยต้นแบบของตนได้จะต้องเผชิญกับชีวิตอย่างไร เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงตอนท้ายที่เรนอาการปางตาย ก็ทำให้ผู้อ่านเชื่อได้ว่าพวกเขาจะเลือกสิทธิ์ของ Shadow ได้อย่างไม่ยัดเยียดจริยธรรมแบบเชิดชูมนุษย์อย่างสุดโต่งจนเกินไป จากการที่ได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างจากมนุษย์ของ Shadow หลายคน ทั้งของเทมส์ เรนะ เรน โดยเฉพาะ Shadow ของเจ้าชายซารัฟ ที่ตั้งชื่อให้ตนเองว่าคิว ซึ่งหมายถึงการตั้งคำถาม เขาเป็น Shadow คนแรกที่ตั้งคำถามถึงสิทธิ์ที่ควรจะได้รับของพวกตน เหล่า Shadow มีความรัก ความกลัว และอื่นๆ ที่สมควรต่อการเป็นมนุษย์ ซึ่งผู้เขียนได้แสดงไว้ตลอดทั้งเรื่อง การตั้งชื่อให้ Shadow ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้เขียนแสดงให้เห็นว่าพวกเขาแตกต่างจากมนุษย์ โดย Shadow แต่ละคนจะมีชื่อเรียกเป็นตัวเลขได้แก่ 1011 ของเทมส์ 844,845 ของเรนและเรนะ 1012 ของเจ้าชายซารัฟ นอกจากคิวที่ตั้งชื่อให้ตนเองแล้วก็ไม่มีใครตั้งชื่อให้กับพวกเขา นอกเสียจากเรนะที่คิดว่า Shadow จำเป็นต้องมีชื่อ จึงตั้งชื่อให้ 1011 ว่าทาโร่ตามชื่อสุนัขของตน (แต่ก็ทำให้ผู้อ่านสงสัยว่าการตั้งชื่อตามสุนัขจะแสดงให้เห็นว่าถึงที่สุดแล้ว แม้แต่นางเอกก็ยังไม่ยอมรับว่าเขาเป็นมนุษย์ใช่หรือไม่) และตั้งชื่อ Shadow ของตนเองว่าริเรีย นอกจากจุดเด่นด้านการตั้งคำถามจริยธรรมแล้ว เรื่องความรักก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ผู้เขียนได้เขียนถึงความรักระหว่างเรนะกับทาโร่ ตั้งแต่เรนะไม่พอใจที่คนที่หน้าตาเหมือนกับเทมส์ทุกประการต้องมาอยู่ที่บ้าน เพราะเขาไม่อาจจะแทนที่เทมส์ได้ แต่ทาโร่สามารถเอาชนะใจเรนะได้ด้วยการดูแลเธออย่างดีในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำอาหาร ฯลฯ การที่เรนะสอนการประพฤติตัวในสังคมให้กับทาโร่ ยังทำให้เธอใกล้ชิดกับเขาจนเกิดความรักระหว่างกันขึ้น ถึงแม้จะมีศัตรูหัวใจเข้ามาก็ตาม แต่นั่นก็เพื่อให้ทั้งสองได้รู้ความจริงในใจตน และยังสามารถช่วยตอบคำถามได้ว่าทาโร่เป็นมนุษย์หรือไม่ เพราะเขาเองก็มีความรัก นอกจากนี้ผู้เขียนก็ยังไม่ลืมที่จะตอบคำถามเล็กๆ น้อยๆ ที่ตั้งทิ้งไว้ตลอดเรื่อง เช่น หากใครคนหนึ่งใช้ Shadow ไปแล้ว เมื่อต้องตกอยู่ในสภาพที่ต้องใช้อีกจะทำอย่างไร (Shadow จะถูกโคลนขึ้นมาใหม่ทันทีที่ถูกใช้ไป) ใครที่จะมี Shadow ได้บ้าง (คนที่มีเงิน) ทำไมชื่อของตัวละครจึงเป็นชื่อของคนต่างวัฒนธรรม เช่น เรนะ เรน ซารัฟ นาตาชา เจน ฯลฯ และมีอาหารหลายประเภท เช่น อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง ฯลฯ (ไม่ได้อธิบายไว้ว่าเรื่องเกิดที่ประเทศอะไรหรือยุคใด จึงอาจอ้างได้ว่าเกิดขึ้นในยุคที่มีการข้ามวัฒนธรรมจนคนต่างชาติต่างภาษามาอยู่ร่วมกัน) เป็นต้น ซึ่งก็ทำให้ผู้อ่านเช่นผมทึ่งได้ทีเดียว ถึงแม้ผมจะประทับใจนิยายเรื่องนี้ แต่ก็มีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุง ขอเริ่มจากความ “ง่ายเกินไป” ของการแก้ปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสังคมของทาโร่ เช่นระยะแรกเพื่อนชายในห้องไม่ชอบทาโร่ เพราะเป็น Shadow แต่กลับยอมรับเพียงเพราะเตะบอลเก่ง หรือเพื่อนของเรนะที่ได้พบที่ร้านกาแฟ เธอเป็นคนที่รังเกียจ Shadow เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับเด็กคนนี้ต่อ ราวกับว่าจะมาปรากฏตัวเพื่อพูดจาให้ทาโร่รู้สึกเศร้าใจเท่านั้น หากจะเน้นเรื่องการเป็นพลเมืองชั้น 2 ของ Shadow ก็น่าจะให้ทาโร่ต้องเผชิญกับการต่อต้านให้นานและมากกว่านี้ หรือเรื่องของเจ้าไวท์ สุนัขที่ทั้งสองเก็บมาเลี้ยง ซึ่งผู้เขียนใส่เรื่องราวตอนนี้มาเพื่อให้ทาโร่ได้รู้จักความรักต่อเพื่อนร่วมโลก และความเศร้าจากการสูญเสียสิ่งที่ตนรัก เหตุการณ์เหล่านี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าผู้เขียนใส่เข้ามาเพื่อให้นิยายเรื่องนี้ “มีครบทุกอย่าง” เท่านั้น แต่สิ่งที่กล่าวมานี้ยังไม่สามารถทำให้ผู้อ่านเชื่อและมีความผูกพันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เพียงพอ จึงขอแนะนำให้เพิ่มรายละเอียดส่วนนี้ให้มากขึ้น อีกเรื่องหนึ่งที่ขอแนะนำคือเรื่องของการหาข้อมูลด้านการแพทย์ของผู้เขียน ที่ยังมีความสมจริงน้อยมาก นับว่าเป็นจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดมากที่สุดของเรื่องนี้ การเขียนถึงรายละเอียดต่างๆ ของผู้เขียนจะหมดความหมายไปทันที หากผู้เขียนยังไม่มีข้อมูลด้านนี้ที่สมจริงเพียงพอ เช่น ผู้เขียนละเลยข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนอวัยวะหรือใช้อวัยวะเทียม ซึ่งแม้แต่ในโลกปัจจุบันก็เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลาย การเปลี่ยนหัวใจไม่จำเป็นต้องใช้ Shadow เลย เพียงแต่ใช้หัวใจที่มีผู้อื่นบริจาคมาก็ใช้ได้แล้ว การติดเชื้อในกระแสเลือดไม่สามารถรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนอวัยวะ หรือการใช้สเต็มเซลล์ (stem cell) ที่เป็นเซลล์ที่สามารถพัฒนาไปเป็นอวัยวะใดๆ ก็ได้ ถึงแม้ว่าในโลกปัจจุบันจะยังไม่เป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้จริง แต่ในโลกที่มีมนุษย์โคลนนิ่งอยู่เต็มไปหมด เพราะเหตุใดการเปลี่ยนอวัยวะจึงไม่ใช้สเต็มเซลล์ก่อน ถึงแม้สเต็มเซลล์จะต้องนำมาจากตัวอ่อนของสิ่งมีชีวิต ซึ่งอาจเป็นปัญหาด้านจริยธรรม แต่การใช้โคลนนิ่งทั้งตัวไม่ยิ่งเป็นปัญหามากกว่าหรือ? นอกจากนี้ในตอนที่โลกของเราสร้างแ ลลี่ หรือแกะโคลนนิ่งตัวแรกของโลกได้ ก็เกิดประเด็นด้านจริยธรรมที่ถกเถียงกันทั่วโลกว่าการสร้างมนุษย์โคลนนิ่งนั้นเป็นการสมควรหรือไม่ และกระแสของโลกเห็นว่าไม่สมควร นิยายและภาพยนตร์เกี่ยวกับมนุษย์โคลนนิ่งส่วนใหญ่จึงเป็นการสร้างอย่างลับๆ ซึ่งแตกต่างจากในเรื่องนี้ หากผู้เขียนจะให้มนุษย์โคลนนิ่งเป็นที่ยอมรับในทางจริยธรรมสำหรับโลกแห่ง Shadow ผู้เขียนน่าจะต้องมีคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้ด้วยว่าเพราะเหตุใดสังคมโลกในนิยายจึงยอมรับให้มีการผลิต Shadow ได้อย่างเป็นสาธารณะ ด้านคำที่สะกดผิดมีน้อยมาก ที่เห็นได้บ่อยคือคำว่า “เหรอ” ที่เขียนผิดเป็น “หรอ” และมีภาษาพูดปรากฏในส่วนที่เป็นการบรรยายบ้างแต่ไม่มากนัก หากผู้เขียนจะปรับปรุงในส่วนนี้ก็จะเป็นการดียิ่งขึ้นอีก อ่านน้อยลง
bluewhale | 15 มี.ค. 53
15
1
ความคิดเห็น