คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : 7-2 แผนการของคุณนาย (100%)
“นั่งสิ มัวยืนงงอะไรล่ะครับ?” ถามไม่ทันไร เสียงโวยวายของสองหนุ่มสาวต่างวัยพาให้หลายคนมองขวับตาม รวมถึงเธอและคุณหมอหนุ่มที่สบตากันชั่วครู่ นวีนาลนลานไปนั่งยอง ๆ ซ่อนตัวอยู่หลังโซฟา มองเห็นเพียงเรือนผมนุ่มหอม ดวงตากลิ้งกลอกไปมา ในท่าทีระแวดระวังภัย
“น้าภาจะผิดสัญญาผมเหรอ?”
“วีกลับบ้านแล้วเราก็ไปคุยกับน้องที่บ้านสิ!”
“เมื่อไรเล่า? กลับบ้านไปน้องก็หนีหน้าผมอีก น้าผลัดผมมาเป็นปีเป็นชาติ ทำไมไม่ให้ผมเคลียร์กับน้องซะที”
“ไปคุยกันเอง น้าไม่รู้”
“ก็ถ้าน้าไม่เป็นคนกลางให้ น้องจะยอมเจอผมเหรอครับ? นะคุณน้า ขอโอกาสให้ผมหน่อย...”
ธนัชชะเง้อคอมองตามคนที่เดินหายไป ส่วนคนที่ซ่อนตัวอยู่ รอจนแน่ใจว่าทั้งสองเดินออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ค่อยโบกมือลาเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไปนะคะ” ไม่ขาดคำดี มือเรียวถูกคว้าเข้าหมับ ด้วยความสูงชะลูดของคุณหมอ คว้าเธอให้ลุกขึ้นยืนอย่างง่ายดาย ศีรษะของเธอสูงเพียงระดับบ่าของเขา
“เดี๋ยวไปส่งครับ ไอ้นนท์มันไปแล้วไม่ต้องเล่นซ่อนหา”
ใบหน้าเรียวไข่แดงระเรื่อขึ้นตามลำดับ เมื่อมือที่เขาจับเธอนั้นร้อน เธอหลุบตามองมือซึ่งถูกรั้งไว้
“คือ... ฉันไม่อยากให้หมอนัทเดือดร้อนไปด้วย คนบ้านฉันน่าปวดหัวนะ ยิ่งไอ้นนท์ เหมือนใครซะที่ไหน ฉันว่า... เอ่อ... ถ้าหมอนัทคิดว่าจัดการกับเขาไหว รบกวนหมอจับมันเข้าหอจิตเวชชาย ขังมันไว้ในโรงพยาบาลบ้าไปเลยนะคะ” เอ่ยพลางหัวเราะกลบเกลื่อนความบ้าคลั่งดีเดือดของพี่ชายต่างสายเลือด ซึ่งเธอตัดเยื่อใยไปนานแล้ว ก่อนจะว่า “อ้อ... วันหยุดนี่คะ ตามสบายนะคะหมอ ไว้คราวหน้าฉันขอเลี้ยงกาแฟสักแก้วนะ”
“ขอสองแก้ว... วันนี้แก้วนึงก่อนครับ”
“หมอกินกาแฟไปแล้วนี่คะ” เอ่ยพลางชะโงกคอมองไปทางแก้วกระดาษบนโต๊ะ
“จะกินอีกแก้วครับ...”
เพราะมีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกันหรือเปล่า เธอคงไม่รู้ แต่พอมองเห็นแววตาอาลัยอาวรณ์ ทำเอาหัวใจสั่นไหวประหลาด มือที่ค่อย ๆ ปล่อยไปอย่างอ้อยอิ่ง เธอจับบริเวณนั้นราวกับว่าถูกของร้อน จึงก้มหน้าตอบ
“งั้น... ไปร้านอื่นได้ไหมคะ?”
หลังจากที่ขับรถมาถึงร้านกาแฟ ห่างจากโรงพยาบาลไปสองกิโลฯ กว่า ธนัชถือโอกาสปรึกษาเรื่องครอบครัวของเขาและเธอ ด้วยคิดว่าอิจิโร่คงไม่เปลี่ยนใจเรื่องลูกสะใภ้แน่ จากสายที่โทรเข้ามา ขอให้ดูแลลูกสาวคุณนายและให้กลับไปคิดเรื่องนั้นเสียใหม่ นั่นหมายความว่าดีไม่ดีเขาอาจโดนอุ้มกลับญี่ปุ่นเพื่อไปแต่งงาน ถ้าหากว่าเขาไม่กลับไปประกาศจุดยืนชัดเจนเรื่องไม่แต่ง!
ขณะนัยน์ตาคู่หวานคมใต้แว่นกรอบหนาเฝ้ามองคนในฝั่งตรงข้ามกินขนมเค้กก้อนกลม รสช็อกโกแลตนมสดในจานสีขาวใบเล็ก ขณะมือเรียวสวยตัดเค้ก แบ่งมันเป็นคำเล็ก ๆ ค่อยเอาเข้าปาก เธอละเมียดละไมรับประทาน
‘สมเป็นลูกผู้ดี ไม่เปลี่ยนเลยนะ...’ คิดพลางลอบมองใบหน้างามไร้เดียงสาด้วยแววตาเอ็นดู จนเผลอหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ หญิงสาวก็ทักว่าเขาขำอะไร มีเรื่องอะไรตลกหรือคะ? เลยเปลี่ยนเรื่องไปไถ่ถามอาการว่าเจ็บตรงไหนหรือไม่ อย่าลืมกินยาให้ครบ ทว่าหัวยังคงคิดถึงเรื่องในอดีต...
‘รีบหายไว ๆ นะคะ จะได้กินอาหารอร่อย ๆ น้องวีมีขนมเค้กด้วยนะ’
เด็กสาวในเดรสกระโปรงสีครีมฉีกยิ้มหวาน อวดไรฟันขาวครบทุกซี่ มือน้อยหยิบขนมเค้กในกระเป๋าสะพายใบเล็กออกมานั่งกินบนเก้าอี้เหล็กกลม ข้างเตียงผู้ป่วย กินเสร็จก็ค่อย ๆ เช็ดคราบอาหารรอบปากจนแน่ใจว่าสะอาด ไม่มีหลงเหลือแม้บนฟันขาว ๆ ของเธอ ให้ดูน่าเกลียดน่าชัง
นวีนาเหมือนเดิมทุกอย่าง ต่างที่ตอนนี้เธอไม่มีรอยยิ้มสดใสเหมือนเมื่อก่อน เธอคงผ่านอะไรมามากอย่างผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่เติบโตขึ้น...
“เอ๊ะ... รถหมอนัทดูคุ้น ๆ นะคะ?” เสียงหวานถามพลางขมวดคิ้วเข้าหากัน นวีนากำลังคิดว่าจะมีเล็กซัสสีแดงเปิดประทุนได้อย่างซูเปอร์คาร์ในประเทศไทยสักกี่คัน เธอเห็นมันผ่าน ๆ ที่ไหนกันนะ?
ธนัชแค่นหัวเราะ มือจับหูถ้วยกาแฟที่มีจานรอง ด้วยท่าทางสบาย ๆ “ปกติเป็นคนติดตามข่าวสารบ้านเมืองหรือครับ?”
“ทุกเรื่องค่ะ เรื่องคนอื่นคือเรื่องของเรา รู้ได้ก็ดี ไม่รู้เป็นไร หมอนัทไม่อยากรู้เรื่องใครเลยรึไงคะ?”
“ก็มีบ้างนะครับ”
“ควรรู้ค่ะ มันต้องมีประโยชน์แน่ ๆ”
“เรื่องคนอื่นเนี่ยนะ จะมามีประโยชน์กับชีวิตเรา เป็นไปได้ยังไงกัน พวกตามเผือกเรื่องชาวบ้านเนี่ยนะ”
“ไม่น่าจะใช่คนไทยแน่นอน...”
“คนไทย แต่ว่าผมไม่ชอบยุ่งเรื่องใคร จะทำอะไรก็เรื่องของเขาสิ” คุณหมอท่าทางไม่สนใจอะไร ยังนึกโกรธนักข่าวตัวดี มาถ่ายรูปรถยนต์ของเขาไปลงข่าว ดีที่เบลอทะเบียนรถไว้ให้คนคอยทักว่าคุ้น ๆ ก่อนที่เขาจะคุยกับเธอต่อ ด้วยน้ำเสียงเข้มเครียดขึ้น “มาพูดเรื่องของเราดีกว่า”
“เรื่องของเราเป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่ เราแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เป็นมิตรสหายกันไปให้พวกเขาสบายใจก็พอมั้งคะ ค่อยว่ากันอีกที ดีไหมคะ?”
“หมายความว่าคุณไม่เห็นด้วยกับพวกเขา?”
คนฟังถอนหายใจหนัก แววตาเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด “ฉันเชื่อว่าคุณแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ฉันเสมอ ไม่ว่าฉันต้องการมันหรือไม่ก็ตาม ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้น คอยกำหนดชีวิตฉันทั้งหมด ฉันคงไม่มีทางเลือกมากนักหรอกค่ะ คุณแม่คงกำลังหาทางให้ฉันแต่งงานภายในปีนี้แน่”
แค่เธอไม่ยอมมาพบแพทย์ สุดท้ายคุณแม่ก็ไปขอร้องให้ชานนท์มาจัดการพาเธอมาพบจิตแพทย์ อะไรที่เธอปฏิเสธ เคยรอดพ้นคุณนายจิดาภาเสียที่ไหนกัน
นวีนาเงียบไปครู่ ก่อนจะเดินไปซื้อกาแฟให้เขาดื่มเป็นแก้วที่สอง พอเขาบอกว่าจะดื่มกาแฟต่อ ทั้งที่เป็นวันหยุด! ไม่ต้องเข้าเวรดึก ค่อยกลับมานั่งที่เดิมด้วยความรู้สึกเป็นกังวลใจ ในเมื่อเธอเป็นคนไข้ในความดูแลของเขาไปแล้ว
ทว่าคุณหมอหน้าหวานเอาแต่จ้องตาจ้องตา นั่งดื่มกาแฟเป็นชั่วโมง ๆ ทำให้เธอสงสัยจริง ๆ เขาเห็นด้วยกับงานแต่งงานระหว่างเธอและเขาอย่างนั้นหรือ ถึงเขาจะไม่พูดมันขึ้นมา นั่งดื่มกาแฟเงียบ ๆ มีบ้างที่มองไปข้างนอกหน้าต่าง ดูท้องถนนในวันหยุด การจราจรติดขัดเป็นธรรมดาเมืองกรุง นั่งไขว่ห้างในสีหน้าผ่อนคลาย สักพักหนึ่งก็ถามเรื่องงานวิชาการ เรื่องดนตรี ด้วยรู้ดีว่าเธอเคยเป็นนักเปียโนมือหนึ่ง เป็นนักดนตรีก่อนมาจับไม้บาตอง
“ไม่ต้องเข้าเวรซะหน่อย ทำไมดื่มกาแฟเยอะจังคะ นี่หมอนัทชวนฉันคุยนานแล้วนะ ฉันจะกลับแล้วนะคะ”
“กลับยังไง?” คนถามเงยหน้าจากถ้วยกาแฟ มองสีหน้าเง้างอนน่ารัก
“แท็กซี่ค่ะ ไม่อยากโทรเรียกคนขับรถ ลุงเสริมน่าจะไปส่งคุณแม่”
“กินขนมอีกสิ ไปสั่งสลัดมากินก็ได้ จะได้กินยา กินเสร็จแล้วเดี๋ยวขับรถไปสั่งที่บ้านนะครับ”
“คะ?” ถามหน้าเหลอหลา คุณหมอบอกว่าให้เธอกินอาหารเยอะ ๆ กว่านี้ เธอก็คิดว่าหูฝาดไป จนได้ยินน้ำเสียงและสีหน้าอบอุ่นจริงใจ ออกคำสั่ง
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง เราน่ะกินเยอะ ๆ นะ จะได้แข็งแรง ต่อไปนี้ไม่เอานะ ผอมติดกระดูก กินอาหารให้ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ สุขภาพจิตก็จะดีไปด้วยนะครับ”
“นี่ตกลงว่า... หมอนัทจะจีบฉันหรือคะ?”
“มีหมอกำชับเรื่องการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ เป็นการจีบหรือครับ?”
หญิงสาวอึกอักถาม “แต่หมอนัท... เพิ่งเรียกตัวเองว่าพี่?”
“พี่อายุมากกว่าน้องวีกี่ปีนะ? เป็นสิบปีรึเปล่า จะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะ หมอบางคน... นอกเวลางาน ก็ไม่ได้อยากเป็นหมอตลอดเวลาหรอกนะครับ”
ตาหมอโรคจิตนี่กวนประสาทนักนะ! คิดพลันถลึงตาใส่คุณหมอโภชนาการจำเป็น ทว่าเธอก็ยอมเชื่อฟังเขา ลุกขึ้นไปสั่งสลัดผักมานั่งรับประทาน ตามด้วยยาหลายเม็ดจากถุงใส่ยา ดื่มน้ำตามให้คุณหมอเห็นกับตาว่าเธอปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์... อย่างเคร่งครัด
ความคิดเห็น