ที่ที่มีความทรงจำ : ปัญญา - ที่ที่มีความทรงจำ : ปัญญา นิยาย ที่ที่มีความทรงจำ : ปัญญา : Dek-D.com - Writer

    ที่ที่มีความทรงจำ : ปัญญา

    เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกับ ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล เพียงแต่ว่านี่เป็นคนละมุมมอง โดยตอนนี้เป็นการมองผ่านมุมมองของปัญญาครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    173

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    173

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 เม.ย. 54 / 20:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกับ ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล
    เพียงแต่ว่านี่เป็นคนละมุมมอง
    โดยตอนนี้เป็นการมองผ่านมุมมองของปัญญาครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ที่ที่มีความทรงจำ : ปัญญา

      ซู่ “”””””

      “เห้ย ฝนมาตกไรตอนนี้....” ปัญญาที่กำลังเดินฟังเพลงสบายๆหน้าห้างสรรพสินค้าถึงกับตั้งตัวไม่ทัน เขารีบเก็บไอพ๊อดเครื่องใหม่ที่เพิ่งจะเก็บเงินซื้อมาได้ไม่นานลงถุงก๊อ บแก๊ป สายตาก็มองหาที่หลบฝนในที่สุดเขาก็ค้นพบ

      “ตู้โทรศัพท์นี่ละวะ อูยหนาว” ปัญญารีบตรงลิ่วไปที่ตู้โทรศัพท์ยืนหลบได้ไม่นานก็มีผู้หญิงหน้าตาสวย ผมดำยาวเดินตรงมาที่ตู้โทรศัพท์

      น่ารักจัง ผมได้แต่คิดและรู้สึกดีในใจแต่เธอมองผมด้วยสายตาแปลกๆ

      “เอ่อ...” เธอพูดขึ้นมาในขณะที่เธอกำลังมองผมแปลกๆอยู่

      “เอ่อ...จะโทรศัพท์คะ” เธอชี้นิ้วไปยังเครื่องโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่

      อ้อเธอจะโทรศัพท์นี่เอง “เชิญเลยครับ” ดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างในใจอยู่ เธอขมวดคิ้วชนกันแต่ไม่ว่าจะทำอะไรผู้หญิงเวลาเปียกน้ำนี่สวยที่สุดเลยละ ฝนเริ่มลงมาแรงขึ้นทำให้เธอต้องเดินเข้ามาในตู้โทรศัพท์ จมูกผมเหมือนได้กลิ่นน้ำหอมเธอในแว๊บแรกแต่แว๊บต่อมาไม่ใช่

      กลิ่นแปลกๆแฮะ สงสัยจะเป็นกลิ่นแนวใหม่แต่ผมรู้สึกคุ้นๆจมูกอย่างบอกไม่ถูก ในขณะที่ผมก้มหน้าลงพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

      ขี้หมา!!!!! ใช่ครับเธอเหยียบขี้หมาเข้ามา ในวินาทีนั้นผมแทบอ้วกแต่ก็ต้องทนเพราะเกรงใจเธอ

      “หมวดหรอคะ บอกพ่อหนูส่งคนมารับหนูหน่อยที่โรบินสันคะ”

      ฮิๆสงสัยเธอคงกลัวผมละมั้ง เพื่อไม่ให้เธอกลัวไปกว่านี้ผมคิดว่ามองขี้เล่นดีกว่า สายฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง สายลมเย็นๆที่พัดเข้ามาสร้างสถานการณ์โรแมนติกได้อย่างยอดเยี่ยม(ถ้าไม่มี กลิ่นขี้อะนะ)

            แหม่ ถ้าเป็นกระท่อมนะ ฮิๆๆ ผมคิดในใจแล้วเผลอหัวเราะเบาๆ   ดูเหมือนคนขับรถจะมารับเธอแล้วละ ข้างในรถมีคนขับแก่ๆอยู่ อิจฉาลุงแกจริงๆที่ได้ดูแลคนน่ารักขนาดนี้ ฮุฮุ  แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ต่อให้สวยขนาดไหนแต่เมื่อนึกถึงว่าผมต้องอยู่ในตู้ นี้ไปอีกสักพัก

      “คุณครับ”

      “คะ” เธอหันมา สะบัดผมที่ดำเงางามภายใต้แสงนีออน เซ็กซี่เป็นบ้า

      “คุณเหยียบขี้หมาเข้ามา ช่วยเตะออกไปที เหม็นมากเลย อ๊อก ” ดูเหมือนว่าเธอจะโมโหมากรีบวิ่งออกไปเลยละ “โถ่ ไหนๆก็เลอะอยู่แล้วเตะออกไปหน่อยก็ไม่ได้ ในความโชคร้ายยังมีโชคดี ในที่มืดย่อมมีสาวงามอยู่เต็มไปหมด อนิจจัง”

           หลายวันต่อมาผมต้องเดินทางไปยังบริษัทพลาสติก ก็หัวหน้าสิครับดันไปทะเลาะกับลูกชายหุ้นส่วนเก่า เด็ก 9 ขวบเอาไรมาก กลายเป็นเรื่องใหญ่ทำเอาผมซวยไปด้วยเลยเนี่ย

           ปัญญาเดินเข้ามายังห้องอาหารหรูหราแห่งหนึ่ง “ตายละตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเข้าเลย โต๊ะไหนวะ แล้วทำไมไม่นัดพวกร้านตามสั่งหนอ” ปัญญาเดินเงอะๆเงิ่นๆเข้าไปในร้านสุดหรูที่มีทั้งคุณหนู คูณชาย ไฮโซ ไฮซ้อ ฝรั่งมังค่านั่งละเลียดอาหานอยู่

      “ทางนี้คะ” ผู้หญิงคนหนึ่งโบกมือเรียก เธอดูดีมีสง่าราศี ดูมีชาติตระกูลเป็นที่สุด

      “ครับ” ปัญญาเดินตรงไปยังที่ผู้หญิงโบกมืออยู่ “เอะนั่นมันผู้หญิงคนนั้นนี่หว่า”

      “ใช่คุณวันนั้นหรือปล่าวคะ” เธอเอ่ยขึ้นมาก่อน

      “ใช่ครับ” โชคดีที่เธอจำเราได้

      “รับอะไรดีครับ” บ๋อยที่ตอนแรกไม่เห็นแม้แต่เงาโผล่มาตอนไหนไม่รู้ทำเอาผมตกใจนิดนึงเลยที เดียว โชคดีผมเคยดูละครโทรทัศน์มาบ้างว่าถ้าสั่งกระเพราไข่ดาวหน้าแตกแน่ ผมมองหาเมนูแต่มันไม่มีนี่สิ ผมกลัวหน้าแตกด้วย กลัวไม่ได้งานด้วย ผมจึงคิดอาหารสุดหรู่ที่เคยกินมาในชีวิต

      “เอาข้าวผัดปูครับ”

      “ข้าวผัดปู” บ๋อยทำหน้างง แม่งงงไรวะ ชิบละไง ต้องแก้ๆ ต้องคิดชื่อให้มันยิ่งใหญ่ ผมเหลือบไปมองเห็นภาษาจีนรอบๆห้อง โอเครเยี่ยม  “ข้าวผัดปูเสฉวนครับ” ผมโล่งออก แต่บ๋อยยังคงทำหน้างงๆอยู่ เขาหันไปถามผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามผม

      “ฉันขอลาซานญ่าคะ” เธออมยิ้มแบบกรุ้มกริ่มแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ แล้วหลังจากก็คุยเรื่องงานแล้วบริษัททั้ง 2 ก็ได้ตกลงทำสัญญากันผมก็รอดตัวไป

                  ใครจะไปคิดว่าจากคนที่ผมปิ๊งในวันแรกที่เราเจอกัน โชคชะตาได้นำพาเธอกลับมาพบกับผมอีกแต่ที่มันเหลือร้ายไปกว่านั้น ผมได้ขอเธอเป็นแฟนหลังจากเราได้รู้จักกันสักพักแล้วเธอก็ตอบตกลงผมละเหลือ เชื่อเลย ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าเธอมาชอบอะไรผมตรงไหน แต่ผมนะชอบเธอทุกอย่างที่เธอเป็นเลยละ

      “ฝ้าย” เธอชื่อเล่นว่าฝ้ายครับ

      “อะไรไอ้ตี๋” เธอมักจะมีคำศัพท์เรียกผมแปลกๆเสมอ

      “พรุ่งนี้เราไปเดทกันไหม”

      “อื้ม กี่โมงล้ะ”

      “หน้าโรสักหนึ่งทุ่มน่าจะดีนะ”

      “ฮั่นแน่อยากฉลองสิ้นปีกับเค้าอ่าเด้” เธอเอามือนุ่มๆมาหยิกแก้มผมเป็นการหยอกล้อ เธอมักทำแบบนี้ประจำแต่ผมก็ไม่ชินสักทีแต่ผมก็ชอบนะ โฮะๆๆๆ

                ปัญญาแต่งตัวเนี๊ยบเป็นพิเศษ มานั่งรอที่ม้าหินอ่อนหน้าโรบินสัน นั่งรอจนเลยเวลานัดแล้วเธอก็ยังไม่มาเสียที ในระหว่างนั่งง่วงๆกำลังจะหลับหิมะก็โปรยปรายลงมา

      “เหลือเชื่อ หิมะตกในไทย” ปัญญาตะลึงกับสิ่งที่เขาได้เห็น เขาเองไม่ได้ฝันแน่เพราะผู้คนที่เดินอยู่ที่นั่นก็ตกใจและตื่นเต้นเมื่อทุก คนปรับสภาพกับสิ่งที่เห็นได้แล้ว ก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปบ้าง เอานำแข็งมาปาเล่นบ้าง กลายเป็นเรื่องสนุกส่งท้ายปีเก่ากันไป และแล้วในที่สุดนางฟ้าของปัญญาก็มาถึง

      “รอนานหรือปล่าว” เธอดูมีสีหน้าเจื่อนๆ แต่สำหรับวันนี้ต่อให้ปัญญาต้องรอนานแค่ไหนเขาก็รอได้

      “หิมะสวยดีนะ”  หิมะที่ตกดึงความสนใจเธอไปผมรีบใช้ยุทธวิธีการโผที่เรียนจาก ร.ด.วิ่งไปยังตู้โทรศัพท์ตู้เดิมที่เราเคยเจอกันครั้งแรก ผมหยิบรูปเธอรูปหนึ่งขึ้นมาซึ้งในรูปตอนนั้นเธอใส่ชุดราตรีสีชมพูในวัน งานบริษัทของเธอซึ่งผมไปแอบถ่ายมา

      “ผมมั่นใจแล้วละ” ผมหญิงรูปขึ้นมาพูดเบาๆแล้วก็ล้วงกล่องใส่แหวนสีแดงขึ้นมา จากนั้นก็หยอดเหรียญกดโทรศัพท์ไปหาเธอ

      “คะสวัสดีคะ” เสียงเธอผ่านสายมา

      “คุณสิริกมลใช่ไหมครับ” ผมทำเสียงนุ่มๆ หล่อแบบพระเอกหนังกลางแปลง

      “คะใช่คะ”

      “คุณจำสถานที่ที่เราพบกันครั้งแรกได้ไหม” ผมพูดบอกเธอไปเจือเสียงหัวเราะในลำคอเล็กน้อย เธอหันหน้ามาพอดี ผมเลยยักคิ้วหลิ่วตาให้เธอ

      “ผมว่านี่มันเร็วไป แต่ผมก็อยากลองดู แต่ง...”

      แปร๊น แปร๊น แปร๊น

      “โอ้ยทำไมเสียวที่หลังจัง ทำไมเราถึงล้มละเนี่ย ทำไมเธอร้องไห้ละ มันเกิดอะไรขึ้น”

      “คนถูกชนๆ” เสียงผู้คนรอบข้างแว่วเข้ามาในสติที่เลือนราง “แหวน” ปัญญาเอื้อมมือไปกำแหวนที่กระเด็นออกห่างจากตัวเขาไปก่อนที่เขาจะสลบไป

      ปัญญาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบเห็นแสงไฟจ้าและคนชุดเขียวที่ยืนล้อมเขาอยู่

      เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกิดอะไรขึ้น

      “แย่แล้วคะ อวัยวะภายในมีการฉีกขาดด้วยคะ อาการสาหัสมาก”

      เสียงใครกัน ทำไมเรารู้สึกไม่อยากหายใจเลย ทำไมนะ หรือเรากำลังจะตาย ไม่นะเรากำลังขอเธอแต่งงานนี่ ถ้าเธอตายก็ต้องถูกผูกมัด เธอต้องเสียใจ ไม่ได้ ไม่ได้

      “คุณ...ฝากบอกฝ้าย..ผมไม่ได้รักเธอ...อยากมีใครก็..ตามสบาย” ปัญญากระอักเลือดหลังสิ้นเสียง

      “แย่แล้วคะคุณหมอ” พยาบาลที่ทำการรักษาอยู่น้ำตาไหลพราก

      สุดท้ายแล้วปัญญาก็เสียชีวิตในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา......

      บางทีความเศร้ามักมาเยือนในช่วงเวลาที่ใกล้กับความสุขที่สุด
      ปล.เจ้าของเดียวกับ http://13lucky13.exteen.com

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×