ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    War and Sacrifice : Route to the War

    ลำดับตอนที่ #24 : War and Sacrifice. Episode 3: Life without apology

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 64
      0
      24 ส.ค. 58

          Rule 6: "Never say you're sorry. It's a sign of weakness."

    -L.J.Gibbs (NCIS*)

     

         ----------------------------------
          15.49 PM
         แอดเลอร์ตัดสินใจเดินไปขอกุญแจห้องดนตรีจากไอรีนมา ทีแรกครูของเธอก็สงสัยและถามถึงจุดประสงค์ที่ต้องการมัน แต่แอดเลอร์ก็ตอบคำถามเธอด้วยคำตอบง่ายๆจนได้กุญแจดอกนี้มา นี่ก็เย็นมากแล้ว เด็กนักเรียนทยอยกลับกันไปเกือบหมดจนเหลือแค่เธอ ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในห้องดนตรีเธอรีบเดินเข้าไปยังเปียโนตัวนั้นที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้อง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้ามัน
         เรื่องเกี่ยวกับเปียโนเธอไม่ค่อยรู้มากเท่าใดนัก เธอรู้แค่ว่าเปียโนที่ตั้งอยู่หน้าเธอตอนนี้เป็นแกรนด์เปียโน ซึ่งเท่าๆที่รู้มาเปียโนน่าจะมีอยู่หลายประเภท แต่...เธอก็ไม่ค่อยจะรู้เท่าไรหรอกเรื่องเปียโนเนี่ยนะ...
          แอดเลอร์ค่อนข้างจะเซ็งจิตอย่างหนัก เธอกดคีย์ตัวสีดำซ้ำไปมากว่าสิบรอบแล้วเห็นจะได้ ดูเหมือนกับว่ายิ่งเธอกดคีย์แต่ละตัวมากแค่ไหน เธอก็เริ่มรู้จักเสียงที่แตกต่างของเปียโนได้มากเท่านั้น จนเธอจะเริ่มชินกับตัวโน๊ตมากขึ้น แอดเลอร์เริ่มหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆห้องดนตรี แสงสว่างจากตะวันยามเย็นสาดส่องผ่านหน้าต่างมากระทบพื้นห้อง หญิงสาวเริ่มมองเห็นบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะนาซีคนนั้นใช้วางหมวกกับเสื้อคลุมของเขาไว้เมื่อตอนเช้า...มันมีโน๊ตเพลงวางอยู่ตรงนั้น...
          ตึก...ตึก..
          แอดเลอร์เดินไปหยิบมันมาเปิดดูคร่าวๆ มันอัดแน่นไปด้วยบรรทัดห้าเส้นและตัวโน๊ตหลากหลายชนิด เธอเดินนำโน๊ตเพลงในมือไปวางเอาไว้ใกล้ๆกับเปียโน แล้วเธอก็ค่อยๆย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้ แอดเลอร์ลองทดสอบเสียงดูสักพักก่อนจะเริ่มเปิดโน๊ตเพลง...เริ่มบรรเลงเพลงๆแรกที่เธอเล่นกับเครื่องดนตรีชนิดนี้...
         .....
         ....
         ...
         ..!
         "ให้ตายสิ"เธออุทานออกมาเบาๆ"ดันดูโน๊ตผิดตัวซะได้..."
         เอี๊ยด.....
         หญิงสาวหันไปทางต้นเสียงนั่น เขาดันมาเอาป่านนี้เสียได้ ทำไมไม่มาเร็วกว่านี้กันล่ะ!
         เบิร์ตหันหลังให้เธอ เขามองไปที่ลูกบิดประตูหลังจากที่เข้ามาในห้องแล้ว เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนจะใช้นิ้วกดปุ่มที่อยู่ตรงกลางลูกบิดนั่น....ตอนนี้คนที่มาจากด้านนอกไม่สามารถเปิดเข้ามาในห้องนี้ได้และ...
         เธอ...ก็ไม่สามารถเดินออกจากห้องนี้ได้เหมือนกัน...
         "ทำไมมาป่านนี่ล่ะเนี่ย"เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ระคนกับความโมโหนิดหน่อย
         "ผมมีธุระกับงานน่ะ"
          เมื่อได้ยินดังนั้น...เธอก็รี่ตาลง...แล้วมองตรงไปยังเขา
         "มาสายไปสิบนาทีไม่คิดจะขอโทษเลย
    เหรอคะ"
         "...สิบนาทีไม่ถือว่าสายสักหน่อย"เขาพูดพลางถอดหมวกวางเอาไว้บนโต๊ะตัวเดิม"ว่าไงล่ะ ฝึกเล่นบ้างหรือยัง"
         แอดเลอร์กระตุกยิ้มมุมปาก
         "คุณมาเสียเที่ยวแล้วล่ะนะ ฉันเปียโนได้แล้ว"
         "มุขตลกมากเลยครับเฟราไลน์"
         เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ หญิงสาวยังคงจ้องเขาตาไม่กระพริบ
         "คาร์ลนี้ไม่ใช่มุข ฉันเล่นเป็นแล้ว..จริงๆ"
         เมื่อได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มก็เผลอปล่อยหัวเราะออกมา ไม่มีใครโชคดีถึงขนาดได้เห็นเขาหัวเราะแบบนี้ได้เลยหรอกนะ 
         แอดเลอร์มองตรงไปยังเขาพลางขมวดคิ้วผูกเป็นปม--เธอพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ? หรือเขาหัวเราะเธอเพราะเธอพูดประโยคนั้นออกไป หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอกอย่างวางท่าในขณะที่มองตรงไปยังชายหนุ่มที่กำลังห้ามตนเองไม่หยุดหัวเราะไม่ได้ นัยน์
    ตาสีน้ำเงินค่อยๆรี่ลง
          "ขำอะไรมิทราบ"
          "คุณรู้ตัวมั้ยว่าคุณกำลังพูดสิที่เป็นไปไม่ได้อยู่น่ะ"ดูเหมือนว่าเขาจะหยุดหัวเราะได้แล้ว"เปียโนนะ มันไม่ใช่ฟลูตที่ซ้อมเล่นแค่สิบนาทีแล้วเล่นเป็นได้เลยน่ะ"
          "เฮ้อ...เอาเป็นว่าฉันเล่นเป็นแล้วละกัน"
          เบิร์ตมองไปยังใบหน้าของเธอ แอดเลอร์มีนิสัยอวดดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเหรอเนี่ยทำไมเขาไม่ยักจะรู้ว่าเธอเป็นแบบนี้มาก่อน ที่เขาพยายามจะบอกเธอนั่นคือ...เปียโนไม่ได้เล่นกันได้ง่ายๆ กว่าเขาจะเล่นเป็นก็ต้องซ้อมเกือบเดือน แต่นี่ซ้อมเล่นแค่สิบนาทีก็บอกว่าเล่นเป็นแล้ว...มันไม่น่าเป็นไปได้
          "ได้! ถ้าคุณมั่นใจว่าเล่นเป็นแล้ว ผมจะลองหาเพลงให้คุณเล่นสักเพลง"
          "ดีเลย จะเอายังไงก็เชิญ"
         "แต่ถ้าคุณเล่นไม่ได้..."เขากระตุกยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆเธอ"....คุณจะต้องจ่ายคืนผมสองเท่า เข้าใจสินะ"
          แอดเลอร์เริ่มใจสั่น เธอรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากนาซีคนนี้...
          "ก็ได้..."
          เขากระตุกยิ้มอีกครั้งแล้วยื่นมือไปหยิบโน๊ตเพลงเล่มนั้นมา เขาเปิดหน้ากระดาษอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ว่าเพลงไหนมันก็ง่ายเกินไป...ง่ายเกินไปสำหรับเธอด้วยซ้ำ เขาเปิดหน้ากระดาษกลับไปมา จนในที่สุด....
          "โอเค งั้นคุณเล่นเพลงนี้ให้ผมฟังหน่อยละกัน"เขายื่นสมุดโน๊ตในมือให้เธอดู
          หญิงสาวกำลังยื่นมือไปรับสมุดโน๊ตมา แต่เขาดันชักมือกลับเป็นว่าเล่น เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย นี่เขาล้อเล่นเธอหรือเปล่าเนี่ย?
          "เอาโน๊ตมาสิ ไม่งั้นฉันจะเล่นยังไง"
          "ห้ามดูโน๊ต"
          "บ้ารึไง แล้วฉันจะเล่นยังไงกันละ!?"
          เบิร์ตกระตุกยิ้ม หากดูเผินๆแล้วอาจจะมองเห็นว่าเขากำลังหยอกเธอเหมือนกับแกล้งเด็ก แต่หากนี่ไม่ใช่เป็นแบบนั้น...เรื่องนี้เขาเอาจริง
          "ไม่มีข้อต่อรอง"เขาพูดอย่างไม่ไยดีก่อนจะเก็บโน๊ตเพลงเอาไว้"เล่นซะ"
         แอดเลอร์ส่ายหน้าไปมาอย่างหัวเสีย 
         "ให้ตายสิคาร์ล! นี่มันมูนไลท์ โซนาตานะ! ไม่ใช่ทวิงเกิล ลิตเติลสตาร์ ถึงจะได้เล่นกันง่ายๆน่ะ!"
         "ถ้าขืนพูดอีกประโยคนึงละก็.....คุณ...มีเรื่องแน่"
          เขายกมือขึ้นกอดอกอย่างวางท่า มองดูเธอที่กำลังเครียดกับเปียโนอย่างหนัก ก็มันช่วยไม่ได้...ในเมื่อเธอเล่นเป็นแล้ว แสดงฝีมือให้เขาดูหน่อยจะเป็นอะไรไป...
          มูนไลท์ โซนาตา....
          โน๊ตตัวแรกมันขึ้นต้นด้วยอะไรนะ....
          ให้ตายสิ...ไม่มีสมาธิเลย!

          แอดเลอร์ทำทีกดคีย์สีดำลงไป...แต่ก็เล่นเพลงนั้นต่อไม่ได้....ตอนนี้เธอรู้แล้วล่ะว่ายังเล่นไม่เป็นเลย...เปียโนน่ะ
          "หืม...ว่ายังไง"
          "...ก็ได้...ฉันยอมแล้ว"เธอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท"ฉันแพ้"
          แอดเลอร์ก้มหน้าลง เธอยังคงจำคำพูดของเขาได้ดี...คำพูดที่ว่าต้องจ่ายคืนสองเท่ายังคงล่อยลอยอยู่ในโสตประสาท...หญิงสาวเริ่มจะคิดถึงจินตภาพในหัวถึงประโยคนั้น มันแปลออกมาจากความคิดกลายเป็นภาพมาเป็นร้อยๆในหัวของเธอ จ่ายคืนสองเท่า...เธอจะโดนจ่ายอะไรเนี่ย 
          "คราวนี้คุณเข้าใจผมรึยัง"
          "ได้ ฉันต้องจ่ายอะไร"
         เขาหัวเราะในลำคอ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะถูกตัดสินให้เป็นผู้ชนะอีกแล้ว
          "เรื่องนั้นน่ะ...ผมจะเอาไปพิจารณาดูว่าคุณควรจะจ่ายอะไรคืนให้ผม..."เขาลากเสียง"...ไม่แน่นะ...คุณอาจจะต้องเสียของสำคัญในชีวิตของคุณให้ผม"
          เขาลุกขี้นเดินไปยังเปียโนตัวนั้น แอดเลอร์หลีกทางให้เขานั่งลงบนเก้าอี้เสียแต่โดยดี มือที่สวมถุงมือหนังสีดำทั้งสองข้างยื่นไปวางตรงแผงคีย์เปียโนสีขาวดำทั้งหลาย เขาชำนาญเสียจนไม่ต้องดูโน๊ตเพลงเลยในเวลาเล่น...ในขณะนี้...แม้แต่หลับตาเขาก็ยังเล่นได้ดีแน่นอน
         "ดูท่าทางคุณจะอ่อนแค่ภาคปฏิบัติสินะ"
         "ใช่เรื่องโน๊ต ฉันพอจะจำได้อยู่"
          เขาหลับตาลงสักครู่ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละน้อย ในหัวมีแต่รูปของกระดาษโน๊ตเพลงที่เขาจะเล่นล่องลอยเต็มไปหมดราวกับกำลังแทนที่ความคิดอื่น แล้วเขาก็ค่อยๆบรรเลงเพลงที่เขาชอบเล่นมากที่สุด...เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่เขาใช้เล่นกับเปียโนในสมัยตอนที่เขาอายุสิบห้าปี ถึงแม้ว่ามันจะนานแล้วก็ตาม...เขาก็ยังคงจำมันได้อยู่
         แอดเลอร์มองชายตรงหน้าของเธอโดยไม่กระพริบตา หูยังคงได้ยินเสียงของเปียโนที่กำลังดังอยู่เสมอ สายตาของเธอจับจ้องไปยังนิ้วทั้งสิบของเขาที่กำลังกดคีย์เปียโนอย่างชำนาญของเขาอย่างสนใจ เธอไม่เคยเห็นใครเล่นเก่งขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต...
          โน๊ตทุกตัวที่เขาใช้อยู่นั้น...มันโลดเล่นราวกับมีชีวิต เท่าที่ฟังแล้วดูเหมือนกับว่าจะไม่มีการกดคีย์เปียโนพลาดเลยแม้แต่น้อย แอดเลอร์ค่อยๆก้าวเดินไปนั่งบนโต๊ะตัวนั้น แล้วนั่งฟังการบรรเลงเปียโนอย่าสบายใจเฉิบ เธอพยายามจับผิดเขา...หูที่กำลังฟังอยู่ดูเหมือนว่าจะใช้ฟังเวลาที่เขากดคีย์พลาดเสียมากกว่าฟังเพลง ในที่สุด...เพลงๆนี้จบด้วยการกดคีย์ตัวสีดำเป็นตัวสุดท้าย...
          แอดเลอร์มองที่จังหวะการเคลื่อนไหวของนิ้วทั้งหมดของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะมองไม่ทันเลย...
          "เพลงนี้ไม่มีอยู่ในโน๊ตนี่"
          "แน่อยู่แล้ว"เขาพูดก่อนจะมองเธอด้วยหางตา"เพลงนี้ถูกแต่งขึ้นมาโดยบุคคลธรรมดาๆคนหนึ่ง"
          เธอขมวดคิ้ว ราวกับสงสัยในคำพูดของชายหนุ่ม
          "ดร.ไคลร์...พ่อของคุณ เขาแต่งเพลงนี้ขึ้นมาให้ผมซ้อมเล่นเปียโนโดยเฉพาะ"
         "งั้นเหรอ ฉันไม่เคยเห็นพ่อฉันเล่นดนตรีอะไรเลยด้วยซ้ำ"
          เขาหัวเราะเบาๆ"งั้นนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่คุณเล่นเปียโนไม่เป็นสินะ"
          "คงงั้นมั้ง"เธอตอบในขณะที่จ้องมองไปยังคีย์เปียโนอยู่"เราจะเริ่มกันได้รึยัง"
          เบิร์ตผงกหัวนิดหน่อย เขาหันกลับไปมองเปียโนตรงหน้าอีกครั้ง ในหัวยังคงคิดหาวิธีที่ทำให้เธอเล่นเปียโนได้ในเวลาอันสั้นนี้ เขารู้อนู่แล้วว่าเธอคงจะเข้าใจเรื่องตัวโน๊ต แต่เธอคงติดเรื่องวางจังหวะและการจำโน๊ตของเธอนั้นมันก็อยู่ในขั้น...แย่มากเลยทีเดียว เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออีกครั้งหนึ่ง
          "มาสิ"เขาพูดพลางส่ายหน้าไปทางเก้าอี้อีกตัวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับที่ๆเขานั่ง"คุณต้องมาดูใกล้ๆไม่งั้นคุณจะเล่นเป็นเหรอ"
          "โอเคๆ ก็ได้"
          หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้นด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไรนัก เธอยกมือขึ้นกอดอกก่อนจะเหล่มองไปยังมือทั้งสองข้างของเบิร์ตที่วางอยู่บนคีย์เปียโน ในใจยังคงคิดไปเรื่อยเปื่อยถึงการสอบเรื่องเปียโนนี่...ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็ต้องสอบให้ผ่านถึงแม้ว่าจะเล่นไม่เก่งก็ตาม
          ...เธอต้องได้ที่หนึ่งในการสอบครั้งนี้...
          เบิร์ตเปิดดูโน๊ตเพลงเรื่อยๆจนไปสะดุดตากับเพลงหนึ่ง มันคงจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเล่นเปียโนของเธอ เพราะมันง่ายมาก
          "ก่อนจะเล่นเพลงของผม ลองฝึกเพลงนี้ก่อนดีกว่ามั้ย"
          "เพลงอะไรเหรอ"เธอถามอย่างสนใจพลางชะเง้อไปดูโน๊ตเพลงๆนั้น
          มันเป็นเพลงที่เอาไว้ฝึกเท่านั้นเอง แต่ดูเหมือนว่ามันอาจจะช่วยฝึกเธอให้เล่นเปียโนเก่งขึ้นก็ได้ ลองดูสักหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไรนี่...
           "รู้ตัวโน๊ตแล้วใช่มั้ย งั้นลองฝึกเล่นเพลงนี้ดู"
          "เข้าใจแล้ว ฉันจะพยายาม"
          เธอยกมือทั้งสองขึ้นวางบนคีย์เปียโน ก่อนจะเริ่มกดมันลงไปเบาๆ  เนื่องจากกลไกบางอย่างของคีย์นั่นทำให้มีเสียงออกมาจากเปียโน เพลงดำเนินไปอย่างช้าๆราวกับไม่มีทีท่าว่าจะจบ แอดเลอร์ต้องคอยเงยหน้าดูโน๊ตเพลงสลับกับก้มลงดูจังหวะนิ้วที่ดีดเปียโน ถึงแม้ว่าจะจำโน๊ตไม่ค่อยได้ แต่ในภาพรวมแล้ว...เธอก็เล่นเปียโนเก่งเหมือนกัน
          ...!
          แอดเลอร์สะดุ้งขึ้นมานิดหน่อย เมื่อครู่นี้รู้สึกว่าเธอจะกดตัวโน๊ตผิด ความรู้สึกประหม่าค่อยๆประดังเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่กดจังหวะตัวโน๊ตผิดเพียงตัวเดียว เธอก็เริ่มจะเสียสมาธิไปทีละน้อย
          และเธอก็หยุดเล่นไปทันที...
          "ขอโทษนะ..."เธอกล่าวขึ้นเบาๆ"ฉัน...คงสอบไม่ผ่านแน่ๆเลยพรุ่งนี้"
          เบิร์ตขมวดคิ้วขึ้น เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงขอโทษเขาเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ นี่คือข้อเสียของเธอ...ไม่มีความมั่นใจในตนเอง
          "แค่กดคีย์ผิดทำไมต้องขอโทษผมด้วยละ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย"
          เธอก้มหน้าลง...
          "เมื่อกี้คุณคงไม่ได้ยินสินะ....ฉันกดคีย์ผิดตัวและแค่พลาดเพียงครั้งเดียวคะแนนของฉันก็จะลดไปหนึ่ง ซึ่งหนึ่งคะแนนนั่นมันมีค่าสำหรับฉันมาก..."
          เขาหัวเราะเบาๆ 
          "นี่เงยหน้าขึ้นซิ..."เขาพูดก่อนจะเดินไปด้านหลังเปียโน เพื่อให้มองเห็นหน้าเธออย่างชัดเจน
          หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา เธอพยา ยามตำหนิตัวเองที่กดคีย์ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอเริ่มจะรู้ว่า...เปียโนมันคงไม่เหมาะกับเธอเท่าไรนัก
          "แค่กดคีย์ผิดคะแนนมันไม่ลดหรอกน่า"เขาพูดราวกับกำลังให้กำลังใจเธออยู่
         "คุณคงยังไม่รู้จักอาจารย์ที่สอนเปียโนของฉันดีสินะ..."เธอพูดพลางมองตาของเขา"พลาดหนึ่งครั้งหักหนึ่งคะแนน พลาดสองครั้งหักห้าคะแนน และถ้าหากพลาดห้าครั้ง...สอบตก"
          เขาหัวเราะอีกครั้งก่อนใช้มือที่สวมถุงมือหนังสีดำแตะไปที่ใบหน้าของเธออย่างนุ่มนวล ดวงตาคู่สวยของเธอยังคงจับจ้องมายังเขา
          "ฟังนะ..."เขาพูด"การขอโทษน่ะ...มีคนๆหนึ่งที่ผมเคารพมากเคยกล่าวไว้ว่ามันเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ นาซีไม่เคยถูกฝึกให้ขอโทษใครเวลาทำผิด คุณก็เหมือนกัน...หากคุณไม่อ่อนแอ ก็จงอย่าเอ่ยคำว่า..ขอโทษ เข้าใจสินะ"
          "..."
          แอดเลอร์ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น เธอได้แต่มองลงไปบนโน๊ตเพลง...เมื่อกี้เธอกดคีย์ผิดไปเพียงตัวเดียวก็ทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจไปหมดสิ้น ฉะนั้น....คราวนี้เธอต้องเอาใหม่
          "จำเอาไว้ซะ...ถ้าเล่นผิดก็จงเล่นต่อไปจนกว่าจะจบเพลง"
          เธอพยักหน้าอีกครั้งแล้วรวบรวมความมั่นใจของเธอกลับมา แอดเลอร์เริ่มบรรเลงเปียโนต่อไปเรื่อยๆจนจบเพลง เธอกดคีย์ผิดบ้าง ดูโน๊ตผิดตัวบ้าง...แต่เธอก็ยังคงเล่นต่อไป...จนจบเพลง
          เธอวางมือลงบนคีย์เปียโนเบาๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอเล่นเพลงนี้จนจบ...ที่ผ่านมา..เพียงแค่สองนาทีเธอยังเล่นไม่จบเพลงเลยซักนิด แต่ครั้งนี้ใช้เวลานานไปกว่าเดิมนิดหน่อย...เธอก็สามารถเล่นเปียโนได้จนจบเพลง...!
          "อา..นี่ฉัน...เล่นเปียโนได้แล้วเหรอ?"เธอถามตัวเองราวกับไม่เชื่อในความสามารถของตน"สุดยอดไปเลย...นี่มันเหลือเชื่อชัดๆ!"
          หญิงสาวค่อยๆเผยอยิ้มขึ้นอย่างดีใจ เธอไม่เคยทำสิ่งที่ตนเองทำไม่เป็นได้ดีมากแค่นี้มาก่อน เธอเริ่มจะมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้นทีละน้อย
           "คาร์ล..."เธอพูดขึ้น"...ขอบคุณนะ คุณช่วยให้ฉันเล่นเปียโนได้ดีขนาดนี้...ขอบคุณ"
          เขาพยักหน้ารับนิดหน่อย มันแตกต่างกันอยู่ที่ว่าคำขอบคุณของเธอไม่เหมือนกับของเรน่า...หญิงสาวอเมริกันคนนั้น...เขายังจำคำขอบคุณของเธอได้ดี และไม่อยากจะนึกถึงมันอีก...
          "ถึงเวลาแล้วเฟราไลน์..."เขากล่าวขึ้น"ของสำคัญของคุณ..."
          "ห๊ะ...นี่ไม่ได้ล้อเล่นหรอกเหรอ"
         เขาหัวเราะขึ้นอีกครั้ง ทุกๆคำที่เขาพูดไปคือความจริงทั้งหมด และเขาไม่มีวันล้อเล่นแน่
          "เปล่าหรอก ผมล้อเล่น"เขาพูด ถึงความจริงมันจะไม่เป็นแบบนั้น"ว่าแต่ใครสอนดนตรีคุณล่ะ"
          เธอขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย"ไอรีนน่ะสิ มีอะไรเหรอ"
          ไอรีน....
          "เปล่า ไม่มีอะไร"
          "งั้นฉันขอตัวนะ ได้เวลากลับบ้านแล้วล่ะ"
          หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปเก็บกระเป๋าของตนที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเดิม เธอเดินไปที่ประตูแต่ก็แปลกใจว่า...มันล็อกอยู่...ใช่มันล็อกจากด้านใน เขาล็อกไว้
    เหรอ...เธอเริ่มสลัดความคิดพวกนี้ออกไป ไม่อยากสงสัยอะไรเขาอีก ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปด้านนอก
            เขามองตามหบังเธอไปจนเธอลับสายตาเขา เบิร์ตค่อยๆนั่งลงบนเปียโนตัวนั้นก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าในเครื่องแบบ มันคือซองบุหรี่นั่นเอง เขาหยิบบุหรี่ออกมาม้วนหนึ่งแล้วก็ค่อยๆหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดมัน เขาสูบมันช้าๆก่อนจะพ่นควันสีขาวออกมาจากปาก ในหัวยังคงคิดถึงชื่อๆนั้นอยู่เสมอ 
          ดูเหมือนกับว่า...เขาเจอของสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอแล้วล่ะ....และในอีกไม่กี่ชั่วโมงด้านหน้า...เธอก็จะสูญเสียมันไป...
          "แอดเลอร์...."เขากล่าวขึ้นมาเบาๆ"...ผมแค่อยากจะให้คุณรู้เอาไว้ว่า..."
          เขาลากเสียง ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก
          "ทุกๆคำที่ผมพูด....ผมไม่ได้ล้อเล่น"
          ---------------------------------
          *NCIS (Naval Investigative Criminal Service.) เป็นหน่วยที่ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมต่างๆที่เกี่ยวกับทหารเรือ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่พิเศษที่ต้องทำหน้าที่นี้ แอล.เจ.กิบส์ คือหนึ่งในเจ้าหน้าที่พิเศษในหน่วย (ในที่นี้คือ NCIS เป็นซีรี่ย์ทีวีนะ ฟฟฟว์)


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×