ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    War and Sacrifice : Route to the War

    ลำดับตอนที่ #19 : Stalemate. จนมุม

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 58


              Stalemate with you…
         ....     2 วันต่อมา..
         พรึ่บ..
         "อรุณสวัสดิ์"
         ชายหนุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของคำทักทายคำนั้น เธอไม่ใช่สาวเจ้าที่เคยเอาแขนรัดคอเขา...แต่เป็นหญิงสาวอีกคนหนึ่ง..ผมสั้นของเธอเป็นสีแดงเหลือบน้ำตาลนิดหน่อย ใบหน้าสะสวยนั่นทำให้เขารู้ทันทีว่า เธอคนนี้คือคนอเมริกัน...ศัตรูของฝ่ายนาซีเยอรมนี...
          "คุณ..."
          หญิงสาวยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากที่เพิ่งถูกทาด้วยลิปสติกสีแดงของเธอก่อนจะพ่นลมออกมาเบาๆ เป็นเชิงว่าอยากให้ชายหนุ่มอยู่นิ่งๆเงียบๆ เสียน่าจะดีกว่า
           เขาจำเป็นต้องหยุการกระทำนั้นเอาไว้ทันทีเมื่อเห็นหล่อนแสดงกิริยานั้นออกมา เขาเพ่งมองหน้าเธอผ่านลูกกรงที่กั้นกลางเขาและหญิงสาวเอาไว้ ใบหน้าของเธอช่างคุ้นตาจริงๆ...ราวกับว่า เขาและเธอแเคยพบเจอกันที่ใดมาก่อน เขามองเธอสลับกับการใช้ความคิด เขาต้องนึกให้ออกว่า...เขาเคยเจอหญิงสาวคนนี้มาก่อนหรือไม่
           และทันใดนั้น...
           "ฮิลล์...เรน่า ฮิลล์.."
           "แหม่--จำฉันได้แล้วเหรอ"
           หญิงสาวเผยอริมฝีปากสีแดงขึ้นกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะปล่อยหัวเราะออกมาเบาๆ กะแล้วเชียวว่าเขาต้องเคยเห็นหญิงผมแดงคนนี้มาก่อน...ไม่งั้นเขาก็ไม่ต้องคิดหนักขนาดนี้หรอก..
           "คุณเป็น...คุณเป็นสายให้กับ
    รูดอล์ฟฟ์ไม่ใช่เหรอ...ทำไมคุณ..."
           หญิงสาวยิ้มอีกครั้งก่อนจะเริ่มตอบคำถามของเขา"ใช่...ฉันเป็นสายให้คิวานอฟ รูดอล์ฟฟ์ มีอะไรเหรอ?"
           "เบิร์ต...ไอ้เบิร์ตอยู่ไหน!?"
           "อย่าพูดหยาบคายกับพันตรีเบิร์ต คาร์ลเช่นนั้นสิคะ..."เธอค่อยๆเลิกตาขึ้น"...เพราะคุณอาจโดนฉันฆ่าตายได้...เข้าใจมั้ย.."
          "ผมไม่กลัวคำขู่หรอก"
          เรน่าหัวเราะก่อนจะเผยอปากขึ้นพูดอีกครั้ง"ฉันไม่ได้ขู่ค่ะ"
          "มีปัญหาอะไรรึเปล่าจ่า"
          เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังของหญิงสาว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่หันไปดูก็รู้ได้เลยว่าผู้มาเยือนคนนั้นเป็นใคร เธอยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้ง ราวกับเตือนให้ชายหนุ่มเก็บเรื่องสายลับสองหน้าของเธอไว้เป็นความลับ ก่อนจะถอยห่างออกไปจากลูกกรง เธอเดินผ่านหญิงสาวในชุดเครื่องแบบอีกคนก่อนจะเดินออกไปด้านนอก แอดเลอร์มองเธอด้วยหางตาก่อนจะกลับมาจดจ่อกับงานที่ได้รับมอบหมายอีกครั้ง
             "ครีนัส..."
             "หุบปากไปซะ คุณคงไม่อยากกรามหักก่อนที่ฉันจะได้คุยกับคุณหรอก"
            เธอขู่เขาพร้อมกับแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเครียดของเธอให้เขาเห็นอีกด้วย จะไม่ให้เธอเครียดได้อย่างไร...ในเมื่อข่าวที่ได้รับมาเมื่อวันก่อน...เป็นข่าวที่แทบจะทำให้อเมริกันถึงกับ"จนมุม"ได้เลยซะทีเดียว...
           "ก่อนที่จะพูดอะไรกับเขา...ผมอยากจะเตือนใจคุณไว้สักข้อ"
           เธอหันไปดูคู่หูของเธอที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ ก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้าไป
           "อะไรมิทราบ ฉันกำลังรีบอยู่นะ"
           "เอาอาวุธของคุณมา...ทั้งปืนแล้วก็มีดพก..."
           ดูเหมือนว่าแอดเลอร์จะไม่ค่อยอยากทำตามนั้นมากเท่าไร แต่อย่างไรก็ตาม...อีกฝ่ายก็มียศสูงกว่าหล่อน...ถึงแม้จะไม่รู้ว่าโทษที่ตามมาหลังจากขัดคำสั่งของคาร์ลคืออะไร แต่ว่าในความคิดของเธอนั้น...บอกให้ทำตามสิ่งที่เขาต้องการซะ...
           "โอเค...ก็ได้"
           แอดเลอร์หยิบปืนออกมาจากซองแล้วส่งให้กับคาร์ล เขารับมันไว้ แล้วเธอก็หยิบมีดพกที่เก็บเอาไว้ในเครื่องแบบออกมาแล้วส่งคืนให้เขาเช่นกัน เขาคงไม่อยากให้เธอพลั้งมือหยิบปืนขึ้นมาฆ่าวูล์ฟฟ์หรือหยิบมีดออกมาแทงเขา นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขาขออาวุธของเธอไว้
           "ไม่ใช่ผมไม่ไว้ใจคุณนะ แต่ผมไม่ควรให้คุณอยู่กับวูล์ฟฟ์พร้อมกับอาวุธ"
          "กลัวฉันจะพลั้งมือหยิบปืนขึ้นมายิงเขาสินะ ดีแล้วล่ะ ถ้าคุณไม่ยึดอาวุธฉันไว้...ฉันคงจะทำแบบนั้นจริงๆล่ะ"
            "เข้าใจเล่นมุขนะ ผมจะยืนดูคุณอยู่ด้านหลัง...มีอะไรก็เรียกได้ละกัน"
            หญิงสาวพยักหน้านิดหน่อยก่อนจะกลับหลังหันมาที่กรงขังซึ่งมีอดีตคู่หมั้นของเธออยู่ในนั้น เพียงแค่เอาปืนฟาดหัวไปแค่นั้น...เขาก็สลบไปสองวันเต็มๆ จะเรียกว่าอ่อนแอหรือเปราะบางดีล่ะ
            "ไง"
           เธอทักทายเขาด้วยถ้อยคำสั้นๆ เขาเงยหน้าขึ้นมานิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจคำทักทายนั่นเท่าไรนัก 
           "ฉันมีคำถามที่ต้องถามคุณเยอะมากๆเลยล่ะ--"
            "ผมไม่มีคำตอบให้คุณหรอก อย่าเสียเวลาเลยแอดเลอร์"
           หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ท่าทางเขาจะไม่ยอมตอบคำถามจริงๆ แต่เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกนะ...การเสียเวลาครั้งนี้ก็ต้องมีประโยชน์บ้างล่ะ
           "สองวันที่ผ่านมานี้...ฉันได้ยินมาว่านาซีมีแผนใหม่ขึ้นมา...แผนอะไรเหรอ?"
           คำตอบของเขาเป็นแค่เสียงหัวเราะที่ดังก้องในลำคอเท่านั้น หญิงสาวเอียงคอไปมาอย่างสงสัย เธอไม่ได้คิดว่าเขาจะยอมตอบคำถามของเธอง่ายๆหรอกนะ แต่อย่างไรก็ตาม...เธอก็รู้จักนิสัยใจคอของเขานั่นแหละ...และไม่อยากจะพูดถึงมันด้วย
           "โอเค..ก็ได้ คำถามนี้ข้ามไป"แอด
    เลอร์หยิบแว่นขึ้นมาสวม พลางก้มมองดูเอกสารในมือ"..คำถามต่อไป...ทำไมนาซีถึงต้องการตัวฟองชัวส์มากขนาดนั้นด้วย"
           "..."
           คำตอบของเขากลับกลายเป็นความเงียบ...นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสอบปากคำคนอื่น ดูเหมือนว่าเพียงแค่ครั้งแรกเธอก็ทำได้ไม่ดีเท่าไรซะแล้ว ไม่ใช่เพราะเธอที่ทำงานนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควรทั้งๆที่เป็นครั้งแรก--แต่เป็นเพราะ"เขา"ต่างหากที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ การสอบปากคำจะมีความหมายอะไรถ้าหากอีกฝ่ายไม่ยอมพูดจริงไหม
          คาร์ลเห็นเหตุการณ์นี้มาตลอด...เขาสังเกตเห็นเธอเอาแต่ยิงคำถามใส่วูล์ฟฟ์เพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าจะบีบบังคับให้เขาคายคำตอบออกมา แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสอนเธอสอบปากคำ...เธอกำลังวิตกกังวลอยู่มากถ้าหากดูจากสีหน้า...เขาคงต้องเป็นตัวช่วยของเธออีกแล้วสินะ..
            "ให้ตายสิ..เราไม่ได้อะไรเลยซักนิด"แอดเลอร์พูดด้วยความเหนื่อยใจ
            คาร์ลมองเธอด้วยสายตานิ่งๆ เขาอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรต่อไปหลังจากนี้...เธอจะบีบให้วูล์ฟฟ์พูดออกมาได้หรือเปล่า...หรือเขาจะต้องช่วยเธอจริงๆ
            "เมื่อวันก่อน..."ดูเหมือนว่าเธอเริ่มจะพูดต่อแล้ว แต่คราวนี้น้ำเสียงของเธอดูจริงจังมาก"...ฉันได้ข่าวมาว่าทหารอเมริกันจากแนวที่มาทำภารกิจร่วมกับฉันเมื่อสองวันหายไปจากกองทัพ...พร้อมกับฟองชัวส์ด้วย...พวกคุณคงมีแผนจับตัวทหารของเราไปใช่มั้ย..."
            "ผมโดนคุณจับมานี่แล้วผมจะรู้ได้ยังไงกันคิดดูสิ!"
           นี่เป็นครั้งที่เขากระชากเสียงใส่เธอแบบนี้ แอดเลอร์มองเขาด้วยสายตาเรียบๆผ่านเลนส์แว่นตาของเธอ...ใช่...มันเป็นเหมือนที่เขาพูด...ทำไมเธอถึงถามเขานะทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว...และความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกัน...
            "..."เธอเงียบครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มพูดขึ้นอีกครั้ง...
            "ฉันเกลียดคุณจริงๆเลยวูล์ฟฟ์ คุณมันไอ้นาซีไร้ประโยชน์ที่ทำอะไรไม่เคยเป็นเลย...บอกตรงๆเลยนะว่า...คุณน่ะมันช่างไร้ค่าซะยิ่งกว่ากระป๋องเบียร์เปล่าอีก..."
               ฟึ่บ...
               "คุณต้องการตัวช่วยรึเปล่า"
              ดูเหมือนการสอบปากคำครั้งนี้จะ"เละ"มากกว่าเดิม เบิร์ต คาร์ลทนเห็นแอดเลอร์พูดอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้อีกต่อไป....ดูเหมือนว่าเขาจะต้องช่วยเธออีกครั้ง
            "ไม่หรอก ฉันยังไหวอยู่"
            เธอหันกลับไปมองหน้าคู่หูของเธอ...สายตาของเขาที่มองตรงมานั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ..ถึงเธอไม่ควรจะปฏิเสธความช่วยเหลือของเขาก็ตาม แต่งานนี้เป็นงานของเธอ เพราะฉะนั้นเธอควรทำมันให้สำเร็จด้วยตัวเองนั่นล่ะดีที่สุด..
             วูล์ฟฟ์สังเกตเห็นแววตาที่อยู่ในตาของอดีคู่หมั้นขเขา...ยามใดที่เธอหันไปมองตาเบิร์ต มันทำให้เขาเห็นประกายแวบๆที่อยู่ในตาของเธอทุกที ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาทนไม่ได้เมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงท่าทีแบบนี้ให้เขาเห็น ขนาดเขาเรียกชื่อเธอ เธอแทบจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ
             ให้ตายสิวะ!ทำไมครีนัสถึงมองไอ้
    เบิร์ตด้วยสายตาแบบนั้นกัน!?

             "เฮ้ย!"
            เสียงโวยวายของวูล์ฟฟ์ทำให้แอดเลอร์กลับมามีสติอีกครั้ง เธอรีบหันมาทันทีพร้อมกับขยับขาแว่นตาให้เขาที่ เมื่อครู่เธอเป็นอะไรไปนะ? ทำไมเหมือนกับ...
            "ท่าทางคุณจะไม่ไหวนะผู้หมวด"
            คาร์ลกระซิบเบาๆให้เธอได้ยินก่อนจะเดินมานั่งข้างๆหญิงสาว แค่เขามองแวบเดียวก็เห็นความเครียดที่อยู่ในตาของเอแล้ว ฉะนั้นถ้าหากเธอฝืนทำงานนี้ตัวคนเดียวต่อไป...มันอาจจะเละกว่านี้ก็ได้
             "ก็ได้ถ้าคุณอยากช่วย"
              แอดเลอร์เปิดเอกสารในมืออ่าน
    พลางๆในขณะที่เธอกำลังคิดคำถามต่อไป ไม่ว่าจะอย่างไร...เธอก็ต้องทำให้วูล์ฟฟ์เปิดปากออกมาให้ได้...เรื่องการหายไปของฟองชัวส์และจ่าแฮนสัน ต้องเกี่ยวข้องกับพวกหน่วย ss แน่ๆ ไอ้พวกนั้นคงต้องใช้ความสามารถของฟองชัวส์ให้ทดลองบางอย่างในขณะที่แฮนสันโดนพวกทหารซ้อมจนปางตาย แต่ก็ใช่ว่าพวกนั้นจะได้เปรียบ ในเมื่อวูล์ฟฟ์ตกมาอยู่ในกำมือของอเมริกันแล้ว....ก็เท่ากับว่าพวกหน่วย ss จะต้องจนมุมเช่นเดียวกับอเมริกันที่เสียทหารมือดีคนหนึ่งอย่างจ่าไมเคิล แฮนสันให้พวกนั้นไป
            "งั้นฉันขอตัวก่อนละกัน"แอดเลอร์พูดก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันไปยังคาร์ล "...คาร์ลฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ"
           แอดเลอร์เดินป่านประตูออกมาด้านนอก เธอคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้วูล์ฟฟ์เปิดปากออกมา ความจริงเขาไม่ได้เป็นคนปากแข็งแต่อย่างใด เหตุผลที่เขาไม่ยอมพูดกับเธอก็เพราะตอนนี้...เขาทั้งสองได้อยู่คนละฝ่ายแล้วต่างหาก...
          "คุณควรจะพอสำหรับเรื่องนี้ก่อนนะแอดเลอร์"
          ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด แต่แอดเลอร์รู้ดีว่าเขาไม่ได้เป็นห่วงเธอ...เขาเป็นห่วงงานที่เธอทำต่างหาก
           "ที่ฉันพาคุณออกมานี่น่ะ...ฉันมีเหตุผลต่างหาก ฉันจะต้องทำให้วูล์ฟฟ์เปิดปากให้ได้ไม่ว่าจะเสียเวลาไปเท่าไหร่"
           คาร์ลยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความ เครียด"งั้นจะให้เขาเปิดปากยังไง ทรมานเขาเหรอ หัวอย่างคุณไม่คิดเรื่องนี้แน่"
           อ๊ะ...ใช่แล้ว!
           ในที่สุดความคิดก็บังเกิด!"ทรมาน"
    เหรอ ทำไมเธอลืมคิดเรื่องนี้ไปได้นะ!?
            แอดเลอร์หันไปหาคู่หูของเธอที่ยืนเครียดอยู่"คาร์ล! ฉันคิดว่าฉันมีแผนแล้วล่ะ!"
           "แผนเหรอ...คงไม่ใช่จับวูล์ฟฟ์ไปถ่วงน้ำสินะ"
           เธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์"ไม่ใช่แน่ๆ--ฉันไม่ได้มีความคิดมากขนาดนั้น.."
           "งั้นแผนอะไร"
           แอดเลอร์แสยะยิ้มก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบข้างหูของเขา...
           "ง่ายๆ..ฉันกับคุณก็แค่..."
           15 นาทีต่อมา
           ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องอีกครั้ง
    วูล์ฟในทักซิโดสีดำเก่าๆยังคงนั่งอย่มุมของห้องขังที่ถูกกั้นกับโลกภายนอกด้วยกรงเหล็ก แอดเลอร์เดินมาหยุดตรงหน้ากรงขังก่อนจะนั่งลง ณ ที่แห่งเดิม
            "ฉันเคยได้ยืนพ่อพูดอยู่เสมอว่า...
    ความลับ...ไม่มีวันที่จะเป็นความลับหรอก"
            แอดเลอร์เปรยขึ้นขณะที่กำลังใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับเอกสารในมือ คาร์ลเดินไปมาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินมานั่งด้านหลังของหญิงสาว
           "ไม่ใช่ว่าฉันบอกคุณว่า คุณไม่มีวันปกปิดความลับของคุณได้"เธอยังคงพูดต่อไป...สายตาแน่นิ่งไร้แววตาจับจ่องไปยังตัวหนังสือในเอกสาร"...มันตรงกันข้ามต่างหาก"
            "..."
           แอดเลอร์ยกมือขึ้นปาดใบหน้าของตนเองราวกับกำลังเช็ดน้ำตา วูล์ฟฟ์เหล่มองมายังเธอนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะคุยกับเธอ เขายังคงไม่ปักใจเชื่อกระมั้ง 
          "ฉันมีความลับ...คุณมีความลับ...ใครๆก็มีความลับ..."
          ดูเหมือนว่าเสียงสะอื้นจะมาแทนที่เสียงคำพูดของเธอแทน อยู่ดีๆแอดเลอร์ก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาไม่รู้ว่าเธอร้องไห้เรื่องอะไร แต่ไม่ว่าเธอจะมาไม้ไหนก็ตาม...เขาก็เตรียมพร้อมต้านมันไว้อยู่แล้ว
            "แต่..."
             แอดเลอร์พูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากืี่ก้มก้มตาเช็ดคราบน้ำตาที่เปรอะเปื่อนอยู่บนใบหน้าของตนเอง วูล์ฟฟ์ก้มหน้าลงมองใบหน้าของเธอแต่หากว่าเธอก้มซะมิดเลยทำให้เส้นผมสีน้ำตาลล่วงลงมาปิดบังใบหน้าของเธอไว้ 
           ฟึ่บ!
           "...ฉันจะทำให้คุณคายมันออกมาเอง"
           แอดเลอร์เงยหน้าขึ้นมา ใบหน้านั่นเปื่อนไปด้วยรอยยิ้มนิดหน่อย มันยังคงปรากฏเป็นคราบน้ำตาอยู่นิดหน่อย เธอค่อยๆหันไปทางคู่หูของเธอ
          "เบิร์ต วันนี้วันที่เท่าไหร่"
          "11 กันยายน 1944"
          "เฮ้ย! นี่คุณเรียกมันว่า"เบิร์ต"เรอะ ไปสนิทกับมันตอนไหนกัน!?"
          แอดเลอร์หัวเราะในลำคอเบาๆจนเป็นเสียงที่ทำให้นาซีหนุ่มในชุกทักซิโดเกิดอาการหวั่นขึ้นมา เขาไม่รู้เลยว่าเธอไปสนิทกับเบิร์ต คาร์ล ตอนไหน ที่จริงเขาเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า...เขาทั้งสองเป็น"คู่หู"กัน แต่เขาจำได้ว่าเธอยังเรียกเขาว่าคาร์ลนี่..
            "อย่าหยาบคายต่อหน้าฉันวูล์ฟฟ์ คุณรู้รึเปล่าว่า...ทำไมเบิร์ตถึงยึดเอาอาวุธฉันไปก่อนจะที่ฉันจะเริ่มต้นถามคำถามคุณน่ะ"ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มผุดขึ้นมา"เขากันไม่ให้ฉันหยิบปืนขึ้นมายิงคุณน่ะสิ"
            "คิดว่าผมกลัวคำขู่คุณเหรอครีนัส"
            "มันจะน่ากลัวกว่านี้อีกถ้าเกิดฉันบอกว่า..."หญิงสาวลากเสียง สายตามองลอดออกมาป่านแว่นกรอบสีน้ำเงินเข้มที่สวมอยู่"...ฉันไม่ไดขู่"
           บรรยากาศเงียบลงชั่วขณะ วูล์ฟฟ์กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอหลังจากที่วิเคราะห์ท่าทางของอดีตคู่หมั้นสาว สายตาที่จ้องลงมาที่เขานั้นเหมือนกับสายตาของนกอินทรีที่กำลังจ้องมองหนูตัวเล็กๆบนพื้นหญ้ารกๆ สายตานั้นทำให้เขาเกิดอาการกลัวขึ้นมาทันที คำพูดของเธอที่เปล่งออกมาเมื่อครู่นั้นอาจจะจริงก็ได้...เขาสัมผัสได้ว่า เธอไม่ได้ขู่แน่นอน
          "ถึงกับเงียบเลยเหรอ"เธอเชิ่ดหน้าขึ้นเล็กน้อยพลางยกมือขึ้นกอดอก สายตายังคงจับจ้องมาที่เขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเลิกง่ายๆ
          เบิร์ตเลิกปลายแขนเครื่องแบบขึ้นเล็กน้อย นาฬิกาข้อมือเรือนเก่าๆยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ มันบ่งบอกให้เขารู้ว่าตั้งแต่ที่แอดเลอร์เรียกเขาออกไปด้านนอกนั้น เวลามันก็ล่วงเลยมาหลายนาทีแล้ว เขาหันไปด้านข้างแต่สายตากลับเหลือบไปด้านหลังมองหญิงสาวเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่นั่งอยู่ด้านหลังของเขา 
            "แอดเลอร์"เขาพูดขึ้นเบาๆจนเสียงนั่นแทบจะกลืนไปกับความเงียบ
            หญิงสาวพยักหน้านิดหน่อย ก่อนจะเริ่มบทสนทนาบทใหม่
            "คุณต้องไม่รู้แน่ๆเลยว่าสองวันก่อนที่งานนั่นน่ะ...คู่เต้นรำของฉันคือใคร"
            "เหอะ..."เขาเปล่งวาจาขึ้นอย่างวางท่า"...คงต้องเป็นไอ้ทหารยศด้อยที่มานั่งคุยกับคุณคนนั้นสินะ ช่างหัวมันเถอะ ป่านนี้คงโดนซ้อมปางตายแล้วละมั้ง ฮะๆ"
           "ยิ่งกว่านั้นอีกนะ"เธอยิ้มละไม"...ไม่ใช่เขา"
          คำพูดนั้นทำให้ชายหนุ่มในชุดทักซิโดสีดำเงยหน้าขึ้นมา นี่เขาทายผิดหรือ...ถ้าไม่ใช่แล้ว เขาคนนั้นเป็นใครกัน
          "ติ๊กต็อกๆ..."เธอมำเสียบเหมือนกับนาฬิกาในระหว่างที่ดูสีกน้าเครียดของชายหนุ่ม"หมดเวลาแล้วเฉลยก็ได้"
            "ดีรีบเฉลยเลย ผมไม่อยากตอบคำถามไร้สาระนี่หรอก"
            ชายหนุ่มก้มหน้าสักพักหนึ่งแล้ว้งยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่าคู่แข่งตลอดการของเขาที่เคยนั่งอยู่ด้านหลังของหญิงสาว ได้ขยับมานั่งอยู่ข้างเธอแล้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาสงสัย หรือว่า...
            ....อย่าเป็นอย่างที่เขาคิดเลย...ขอร้องล่ะ...
           "เขา...อยู่นี่แล้ว"แอดเลอร์หันไปมองด้านข้างของตน"ใช่มั้ย เบิร์ต"
           หลังจากที่เธอพูดประโยคนั้นจบ วูล์ฟฟ์ก็ถึงกับตาโต หันควับไปที่แอดเลอร์ทันที เธอยิ้มอย่างยียวนให้เขาก่อนจะยกขึ้นมาไขว่ห้าง คู่หูของเธอ...เบิร์ตก็ยังจ้องมองไปยังเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื่้อเขาอย่าไรอย่างนั้น แอดเลอร์ก้มลงอ่านเอกสารอีกรอบโดยไม่สนใจสายตาของอดีตคู่หมั้นหนุ่มอย่างวูล์ฟฟ์เลยสักนิดเดียว
            "ด...เดี๋ยวนะ คุณกับไอ้หมอนี่..."
            "สรุปจะพูดหรือเปล่า"
            แอดเลอร์ยิงคำถามเดิมใส่เขาอีกครั้งโดยไม่มีวี่แววว่าจะสนใจคำถามนั่นแม้แต่น้อย เธอไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ๆ...แปนของเธอต้องสำเร็จ
            "ผมจะไม่พูดจนกว่าคุณจะตอบคำถามของผม"
           เขาก้มหน้าลงอีกที่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองสองคนนั้น พวกเขาพากันยิ้มให้วูล์ฟฟ์เหมือนกับกำลังเยาะเย้ยชายหนุ่ม 
           "เฮ้อ...ตายจริง ในที่สุดก็ไม่พูดสินะ แต่ก็...ไม่ว่ากัน"
            "บอกแล้วไงว่าเสียเวลาเปล่า"คราว
    นี้เบิร์ตเป็นคนพูดบ้าง"ฆ่าเลยดีกว่า..."
            "ใจเย็นเบิร์ต"เธอกระซิบ"เดี๋ยวเขาก็พูดเอง"
             หญิงสาวหันไปยิ้มมุมปากให้คู่หูของเธอก่อนจะโน้มหน้าไปกระซิบอะไรบางอย่าง
            "เฮ้ยครีนัส! เธอทำอะไรน่ะ!?"
            ชายในกรงขังตะโกนโหวกเหวกโวยวายออกมาหลังจากที่หันไปเห็นอดีตคนรักชะโงกหน้าไปหาชายอื่น มันทำให้เขาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม
            "อะไร ฉันพูดกับเบิร์ตอยู่ คิดว่าฉันทำอะไรล่ะ"
            เบิร์ตยกมือทั้งสองขึ้นจับขาแว่นที่หญิงสาวสวม ก่อนจะดึงมันออกมาช้าๆ ภาพนี้ทำให้วูล์ฟฟ์...เดือด!
            "ถ้าคุณไม่สวมแว่น...มันจะดูดีกว่านี้"
            "ก็ได้...เอาแว่นมา"
            หญิงสาวยื่นมือไปที่เขาเพื่อขอของของตัวเองกลับ แต่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะให้มันกลับเลย
            "ถ้าจะขอก็ขอดีๆ มีมารยาทหน่อยสิ"
            เธอยิ้มก่อนจะปัดเส้นผมสีน้ำตาลของเธอขึ้นไป "ขอคืนด้วยค่ะ"
            "ใช่...มันต้องแบบนั้น..."
            เขาคืนแว่นให้เธอก่อนจะหันไปมองวูล์ฟฟ์ที่กำลังเดือด เขาจ้องเขม็งมายัง
    เบิร์ตราวกับเพชรฆาต ส่วนชายหนุ่มเองก็มองกลับไปด้วยสีหน้านิ่งๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปาก แอดเลอร์กำลังเก็บแว่นอยู่จึงไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีของทั้งสอง
            "โอเค ก็ได้คุณชนะ"วูล์ฟฟ์พูดพลางยกมือขึ้นกุมขมับ"ผมบอกก็ได้"
            "เหอะ...บอกตั้งแต่แรกก็เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องมาลำบากถึงตอนนี้หรอก สรุปว่าไง"
            หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอกก่อนจะเพ่งมองไปยังชายในกรงขังที่โดนเธอต้อนจนหมดทางสู้ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยังไงๆเขาก็มีทางเดียวแล้ว...บอกเธอไปน่าจะดีกว่า
            "ทหารของคุณกับนักวิทยาศาสตร์คนนั้นอยู่ที่พอทสดัม...บ้านเก่าของคุณไง"
            "อืม แผนนี่คุณรู้อยู่แล้วสินะ แล้วไงต่อ"
            "ผมบอกไปหมดแล้ว...รู้แค่นี้ล่ะ"
            แกร๊ก...
            แอดเลอร์เผลอทำปากกาในมือหล่นลงบนพื้นหลังจากที่ได้ยินประโยคต่อมา เธอค่อยๆก้มลงหยิบมตนอย่างช้าๆ...เป็นไปไม่ได้หรอกถ้าหากว่าเขาจะรู้แค่นี้ แต่การที่เธอพาตัวเขามานี่นั้นอาจทำให้เขาไม่รู้อะไรเพิ่มเติม...มันอาจเป็นความจริง
            "งั้นก็ไม่เป็นไร"เธอเก็บปากกาที่ได้นั้นใส่กระเป๋าเครื่องแบบ"แค่นี้ก็มากเกินพอแล้วล่ะ"
            หญิงสาวยิ้มเป็นนัยๆก่อนจะหันไปด้านหลังของเธอ เบิร์ต คู่หูของเธอยังอยู่ตรงนั้น และเธอคิดว่าควรจะบอกให้เขาออกไปก่อน เพราะเธอมีเรื่องที่จะต้องคุยกับวูล์ฟฟ์
            "คาร์ล ขอโทษนะ..ฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกับเขา"เธอกระซิบ"คุณออกไปรอข้างนอกก่อนได้มั้ย.."
            ชายหนุ่มพยักหน้านิดหน่อย"ได้สิ"
             "ขอบคุณ"
            เบิร์ตตัดสินใจเดินออกไปด้านนอกตามคำขอของหญิงสาว หล่อนมองตามหลังของคู่หูของหล่อนไป ก่อนจะหันมาที่กรงขัง
            ทีแรก...เธอตั้งใจว่าจะพูดอะไรกับเขาซักหน่อย...แต่เธอกลับต้องฟังเขาพูดเองเสียอย่างนั้น
            "ครีนัส! คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย!?"เขาโวยลั่นกรงขัง"คิดดีแล้วรึไงที่ไปเชื่อใจไอ้คนทรยศอย่างนั้นน่ะ!?"
            "ใจเย็นสิ"
            แอดเลอร์เดินเข้าไปนั่งตรงที่เดิม เธอเพ่งมองเข้าไปภายในกรงขังด้วยสายตานิ่งๆ ส่วนคนที่อยู่ในนั้นเองก็ไม่พอใจกับท่าทางของหญิงสาวในตอนนี้มาก 
            "ฉันไม่มีอะไรที่จะเถียงกับคุณแล้วเฮอร์มัน ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากๆเลย"
            "ตอนอยู่กับผมไม่เห็นคุณจะมีท่าทีแบบนี้เลยด้วยซ้ำ หลังจากที่ไอ้หมอนั่นเจอคุณที่บาร์ คุณก็เปลี่ยนไป!"
              แอดเลอร์เลิกตาขึ้นมองเขา
              "นั่นก็ผ่านมาหลายปีแล้ว คุณยังจะเห็นอีกเหรอ"
            "ใช่! ผมเห็นไอ้บ้านั่นผลักคุณลิดกำแพงร้านเหล้า แล้วชะโงกหน้าเขาไปหาคุณ สายตาของคุณที่มองตรงไปยังไอ้เบิร์ต....มันไม่เหมือนกับสายตาที่คุณมองมายังผมเลยซักนิด!"
              "งั้นเหรอ"เธอพูดสั้นๆด้วยน้ำเสียงแผ่วบาง"คุณรู้รึเปล่าว่าทำไมฉันถึงมองคนสองคนด้วยสายตาที่ไม่เหมือนกัน"
            หญิงสาวถอนหายใจเฮือกยาว ความ เครียดเริ่มเกาะกุมจิตใจของเธอมากขึ้นทีละน้อย จนหญิงสาวต้องยกมือขึ้นกุมขมับ ไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่เครียด...แต่วันนี้มันแทบจะทำให้สมองของเธอระเบิดเลยล่ะ เพราะมันเครียดซะยิ่งกว่าเครียด
            "เอาตรงๆเลยนะ..."แอดเลอร์ลากเสียง ในหัวยังคงคิดประโยคต่อไป"สำหรับฉัน
    แล้วน่ะ...ฉันเชื่อใจเบิร์ต คาร์ลซะยิ่งกว่าคุณอีก...ฉะนั้นไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้ซ้ำสองล่ะ"
            "อะไรนะ!? นี่คุณ...."
            หญิงสาวก้มหน้าลงนิดหน่อยก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้งด้วยความเหนื่อยใจ วูล์ฟฟ์จ้องมองสีหน้าของเธออย่างเพ่งพินิจ มันเหมือนกับว่าเธอกำลังขอโทษเขาอยู่อย่างไรอย่างนั้น...มันอาจจะเป็นความจริง...คำขอโทษที่เธอไม่สามารถแสดงออกมาทางกายได้
             "วูล์ฟฟ์ ฉันเคยเชื่อใจคุณ แต่คุณทำลายความเชื่อใจนั้น....ทำลายความสัมพันธ์ของเรา"
            เขาไม่ทันได้พูดอะไรต่อแอดเลอร์ก็ลุกเดินออกไปด้านนอกแล้ว เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มานานเหลือเกินนับตั้งแต่วันนั้น...คำพูดของเธอทุกๆคำเหมือนกับกำลังย้ำเตือนจิตใจของเขาให้หวนกลับไปสำนึกในความผิดพลาดของตนเองในอดีต เขาทรุดลงกับพื้น...น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินอาบแก้มทั้งสอง มันหยดลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นเกร่อะ เขายกมือขึ้นปาดน้ำตานั่นออกก่อนจะหันไปทางอื่น...ไม่จริง...นี่มันไม่ใช่ความผิดของเขา!
            ตึก...ตึก...ตึก...
            เสียงก้าวเท้านั่นทำลายความคิดของเขาทั้งหมด ฉับพลันร่างระหงของหญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาลแดงก็ปรากฏตรงหน้าของเขา เธอคงจะเดินมาเฝ้ากรงขังกระมัง? หล่อนเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากกรงขังเท่าไรก่อนจะหยิบบางอย่างออกมา...มันคือร็อคเก็ตรูปใบโพธิ์สีเงินเก่าๆ เธอเปิดมันออกก่อนจะมองลงไปในร็อคเก็ตนั่น...น่าแปลกทุกๆครั้งที่เธอจ้องมองมันเธอมักจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เสมอ
            รูปของใครกันวะนั่น...
            วูล์ฟฟ์ตัดสินใจก้าวไปที่ประตูกรงขัง มันล็อกอยู่...แหงล่ะ ใครจะปล่อยให้คนในกรงขังออกมาด้านนอกได้อย่างไรกัน แต่เขาต้องทำอะไรสักอย่างให้ออกไปจากกรงขังโง่ๆนี่ให้ได้ แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ?
            ฉันต้องออกไปให้ได้...แต่จะทำไงดีวะ เวลานี้ไม่มีแผนดีๆเลยซักนิด...
            ...!

            แต่แล้วเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้...เป็นแผนที่ค่อนข้างดีทีเดียว ตัวช่วยอยู่หน้ากรงขังเขานี่เอง...
            "เฮ้..นี่เธอคนนั้นน่ะ.."เขาร้องเรียกเรน่าเบาๆ แต่เธอไม่เงยหน้าขึ้น
            "อะไร"
            "ฉันมีเรื่องที่จะคุยกับเธอ มานี่หน่อย"
            หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เธอเก็บร็อคเก็ตสีเงินใส่กระเป๋าเครื่องแบบก่อนจะเดินไปหน้ากรงขัง มองชายที่ร้องเรียกเธอเมื่อครู่อย่างสงสัย เธอไม่รู้ว่าเขามีแผนอะไรหรือเปล่า...ฉะนั้นเธอจึงจำเป็นต้องระวังทุกคำพูดของเขาทุกครั้ง..
            "มีอะไรก็ว่ามา ฉันไม่มีเวลาว่างทั้งวันนะ"
            "ผมขอดูร็อคเก็ตนั่นหน่อย.."เขาพูดพร้อมกับยื่นมือขวาออกไปนอกกรงขัง"รูปของใครอยู่ในนั้นเหรอ"
            "ไม่ใช่เรื่องของคุณ อยู่ในกรงขังเงียบๆนั่นล่ะดีแล้ว"
            ดูเหมือนว่ามันจะยากกว่าที่คิดเสียอีก หญิงสาวผู้นี้เหมือนกับจะไม่เชื่อใจเขาง่ายๆเลยสักนิด แต่อย่างไรก็ตาม...แผนของเขาก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปจนสำเร็จ และไม่มีทางที่จะหยุดเพราะเหตุผลเล็กๆไร้สาระอย่างนี้แน่นอน
            "ถ้าให้ผมลองคาดเดาดู...."วูล์ฟฟ์ลากเสียง ก่อนจะเผยอยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์"....รูปของไอ้เบิร์ตสินะ...หรือผมควรจะเรียกว่าหัวหน้าของคุณดีกันละ"
            "..."
            เรน่าเงียบเสียงลง สายตาคมกริบยังคงจับจ้องไปยังรูปในร็อคเก็ตอยู่อย่างเดิม เขากล้าดีอย่างไรถึงเรียกคนสำคัญของเธอด้วยคำหยาบคายอย่างนั้นกัน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ชายผู้นี้ก็ยังเดาใจของเธอถูกว่า...รูปในร็อคเก็ต คือรูปของพันตรีเบิร์ต คาร์ล... หัวหน้าหน่วยของเธอนั่นเอง
            "เป็นไงล่ะ...ผมว่าต้องใช่แน่ๆเลยใช่มั้ย"
            "ใช่ เหมือนที่คุณคิดนั่นแหละ"
            หญิงสาวถอนหายใจเฮือกยาวก่อนจะตัดสินใจเก็บร็อคเก็ตสีเงินนั่นเอาไว้ในกระเป๋าเครื่องแบบ เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในกรงขังก่อนจะเผยอริมฝีปากสีแดงขึ้นยิ้ม หล่อนพอจะรู้แล้วว่า...เขาต้องการอะไรจากเธอ
            "ต้องการอะไร....จากฉันเหรอคะ"
            วูล์ฟฟ์ยิ้ม เธอคนนี้ฉลาดมากเลยทีเดียว เธอรู้ทันความคิดของเขาภายในเวลาไม่กี่นาทีเอง...
            "เข้าใจอะไรเร็วดีนี่ครับ.."เขามองตรงไปยังใบหน้าสะสวยนั่น"..ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรกับหัวหน้าของคุณ...ใช่มั้ยครับ"
            "..."เธอยังคงยิ้ม
            "ผมมีข้อเสนอ...ทั้งคุณและผมจะได้ผลประโยชน์เหมือนกัน"
            เรน่าเชิ่ดมองหน้าเขาอย่างสนใจ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นข้อเสนออะไรที่นาซีหนุ่มผู้นี้หยิบยื่นมาให้เธอ...
            ...แต่มันก็ฟังดูน่าสนใจดีเหมือนกัน
            "มีอะไรก็ว่ามา เดี๋ยวมันจะเสียเวลาเอานะคะ"
            แม่สาวผมแดงยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่ เธอเดินมาหน้าประตูกรงขังก่อนจะนั่งลงบนพื้นตรงหน้าชายหนุ่มนั่นเอง 
            "คุยกับผมไม่เสียเวลาหรอกที่รัก..."เขาลากเสียง"คุณจะต้องมีความสุขแน่ๆ"
            "ข้อเสนออะไรเหรอ"
            วูล์ฟฟ์ยิ้มให้เธออีกครั้ง
            "ง่ายๆ แค่คุณเปิดประตูกรงขังนี่ให้ผม..."เขายกมือขึ้นเกาะกรงขังที่กั้นกลางระหว่างเขากับเธอ"...แล้วผมจะบอกวิธีการซื้อใจเบิร์ต คาร์ลให้"
            เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรน่าก็เผยอยิ้มอีกครั้งให้เขา ข้อเสนอดูน่าสนใจดีจริงอย่างที่เธอคิด เพราะสำหรับเธอแล้วนั้น...เบิร์ต คาร์ลคือคนสำคัญมากของเธอ และต้องมีเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของใจของเขา การเขี่ยร้อยโทแอดเลอร์ให้ห่างจากคนสำคัญของเธอคืองานต่อไปที่เธอต้องทำหากเธอรับข้อเสนอของนาซีหนุ่มผู้นี้แล้วดำเนินการแผนจนสำเร็จ
            "ก็ได้...งั้นบอกฉันมา"
            "หึ..คุณต้องเปิดล็อกกลอนให้ผมก่อน"
            หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเครื่องแบบ แล้วหยิบกุญแจสำหรับไขกรงขังนี้ออกมา ตอนนี้เธอกำลังจะทำสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุด การปล่อยนักโทษคนสำคัญไปนั้น...อาจเปลี่ยนวิถีชีวิตในกองทัพของเธอไปตลอดกาล
           เธอเสียบลูกกุญแจเข้าไปในช่องตรงประตูกรงขังก่อนจะหมุนมันอย่างช้าๆ สักพักเสียงบางอย่างก็ดังขึ้น มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้ชายหนุ่มรู้ว่า...ประตูกรงขังเปิดล็อกแล้ว
            "เสร็จแล้ว....เอาละ คราวนี้ถึงเวลาคุณแล้วนะคะ"
            วูล์ฟฟ์ยื่นมือไปผลักประตูกรงขังออกช้าๆก่อนจะเผยอริมฝีปากขึ้นยิ้มอย่างภูมิใจ 
            "ก็ได้ๆ ผมจะบอกเดี๋ยวนี้แหละ"เขาถอนหายใจออกมาเฮือกยาว"คุณสามารถซื้อใจเบิร์ต คาร์ลได้อย่างง่ายๆเลยล่ะ...เพียงคุณแค่...."
            ....
            ...
            ..
            .
            "รุกฆาต"
            "แพ้อีกแล้วเหรอเนี่ย!?" นี่มันรอบที่สามแล้วนะคาร์ล!"
            หญิงสาวเอามือฟาดลงบนกระดานหมากรุกอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นว่ามนการเล่นหมากรุกครั้งนี้...คนที่ชนะคือคู่หูของเธอ ส่วนฝ่ายที่แพ้ก็คือเธอเอง มันจะไม่น่าโมโหจนถึงกับบรรดาลโทสะใส่กระดานหมากรุกได้อย่างไรก็เมื่อนี่มันครั้งที่สามแล้วที่เธอแพ้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอยังเล่นเก่งกว่านี้ เธอยังไม่ทางชนะเขาได้เลยด้วยซ้ำ!
            "คุณทำให้ผมนึกถึงตัวเองในสมัยเด็กๆ"ผู้เป็นฝ่ายชนะในการเล่นหมากรุกพูดขึ้นอย่างวางท่า"เล่นหมากรุกแพ้พ่อ แล้วก็ต้องโวยวายทุกที"
            "นี่คุณหาว่าฉันเป็นเด็กเหรอ!?"
            ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง 
            "ไปดูไอ้คู่หมั้นตัวแสบของคุณหน่อยดีกว่านะ"
             "ทำไมล่ะ กลัวเรน่าโดนเขาหว่านเสน่ห์ใส่รึไง"แอดเลอร์หัวเราะในลำคอเบาๆ
            "ไม่มีทางหรอก จ่าฮิลล์ไม่ได้เป็นแบบนั้น"เขาพูดเสียงค่อยลง"แต่ถ้าเขามีข้อแลกเปลี่ยนที่เธอสนใจแลกกับเปิดประตูกรงขังให้เขา มันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเธออาจจะทำตามข้อแลกเปลี่ยนนั่นจริง"
            แอดเลอร์หันมาหาเขาพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก"คุณรู้จักเรน่ามาก่อนเหรอ"
            "ผมเคยรู้จักเธอมาก่อน"
             หญิงสาวก้มหน้าลงนิดหน่อยก่อนจะหันไปด้านหน้าแล้วก้าวเดินต่อไป ถ้าเขาไม่อยากจะบอก เธอเองก็ไม่ควรที่จะไปบีบบังคับให้เขาบอก เพราะเธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายมียศที่สูงกว่า ถ้าเขาไม่ต้องการที่จะบอกเธอ....ก็ควรหยุดมันซะ
            "คงจะจริงล่ะมั้งที่ฉันอ่านประวัติของคุณไม่ละเอียด"เธอเกริ่นขึ้นหลังจากที่เงียบไปไม่นานนัก"มีอะไรหลายๆอย่างที่ฉันยังไม่รู้เกี่ยวกับคุณเยอะแยะไปหมด"
            "ใช่...ถึงคุณจะอ่านมันละเอียดมามากพอ..."เขาลากเสียง"...คุณก็ยังไม่รู้จักตัวตนของผม"
            หญิงสาวหัวเราะเบาๆอย่างขบขัน เธอหยุดเดินและหันหลังกลับมาที่คู่หูของเธอเอง เธอเดินเข้ามาหาเขาเรื่อยๆก่อนจะหยุดแล้วเอามือผายไว้ด้านหลัง ดวงตาสีฟ้าคู่สวยจับจ้องมายังชายหนุ่มโดยไม่มีทีท่าจะละง่ายๆ 
            "มีอะไรอีกละผู้หมวด"เบิร์ตพูดด้วยเสียงแผ่วบางเหมือนกับสายลม
            แทนที่จะตอบคำถาม หญิงสาวกลับเงียบ ก่อนจะชักมือที่ผายไว้ด้านหลังกลับมา เธอยกมือข้างนั้นขึ้น...
            "หมวกสวยดีนะ ขอยืมชั่วคราวละกัน!"
            เธอยื่นมือไปจับหมวกทรงสามเหลี่ยมนั่นออกจากศรีษะของเบิร์ตด้วยความรวดเร็วก่อนจะเอามันมาสวมอย่างอารมณ์ดี นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอเอาหมวกของเขามาเล่น
            "เฮ้--เดี๋ยวสิ เอาคืนมาเลยนะ"
            เขาร้องห้ามแต่ไม่ทัน หญิงสาวขยิบตาให้ชายหนุ่มก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดไปด้านหน้าต่อ ถ้าเขาไล่ตามเธอตอนนี้ก็คงเสียเวลาเปล่าๆ นี่คงเป็นการแก้แค้นเรื่องหมากรุกกระมัง เขาคงต้องคิดหาวิธีการแย่งหมวกกลับมาให้เร็วที่สุดแล้วล่ะ
            แต่ไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรทั้งสิ้น พลทหารคนหนึ่งก็วิ่งหน้าตื่นมาทางเขา ดัลตันนั่นเอง
            "มีอะไรเหรอสเวกเกอร์"เขาถามขึ้นหลังจากที่พลทหารหนุ่มหยุดหอบหายใจอยู่
            "หัวหน้าครับ..."เขายังคงหอบอยู่ 
             "..."
           "น..นาซีคนนั้นหนีไปแล้วครับ!"
            -------------------------------


    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×