ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    War and Sacrifice : Route to the War

    ลำดับตอนที่ #10 : Conviction. เชื่อใจ

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 59


    คนที่ฉันเชื่อใจได้มันไม่เหลือแล้วบนโลกใบนี้...

    -Krinas Adler-

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
         19.45 PM
          ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงปารีส
          เบ็ธและนาตาชาร์รีบตรงไปที่แอดเลอร์ซึ่งนั่งอยู่หน้าห้องทำแผลทันทีเมื่อได้เห็น หญิงสาวทั้งสองรีบเข้าไปหาเพื่อนของหล่อนทันทีด้วยความเป็นห่วงหลังจากโดนพวกนักเลงซ้อมมาปางตาย เบ็ธเข้าไปหา
    แอดเลอร์ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ท่าทางของเธอและนาตาชาร์ดูเป็นห่วงเพื่อนสาวของพวกหล่อนมาก
           "โชคดีนะที่ไม่โดนไอ้พวรนั้นฆ่าตายซะก่อน เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?"เบ็ธถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
          "พูดได้ดีนี่"แอดเลอร์พึมพำก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
          "ว้ายตาย! ตาเธอเป็นอะไรละเปล่าแอดเลอร์"
          "ขอบคุณที่เป็นห่วงเบ็ธ.."หล่อนพูดก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง"...โดนต่อยที่ท้องแล้วก็โดนลากมาซ้อมอีกทีน่ะ ไม่เป็นไรหรอก "
         แอดเลอร์ก้มหน้าลงอีกครั้ง ตาขวาที่ถูกคาดด้วยผ้าพันแผลสีขาวขุ่นทำให้มองไม่ค่อยถนัด แต่แค่นี้รอดมาก็ดีเท่าไหร่แล้วล่ะ..ใช่หล่อนคิดแบบนั้น แผลแค่นี้ไม่ตายหรอก 
         และทันใดนั้นประตูห้องทำแผลก็เปิดออกมา พยาบาลผมบลอนด์คนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับชายในเครื่องแบบสีดำเต็มยศ
    คาร์ลนั่นเอง ถึงแม้ว่าเขาบาดเจ็บไม่มาก แต่เขาก็ทำท่าเดินเซไปมาเหมือนกับทรงตัวไม่ได้ แอดเลอร์เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง พวกเพื่อนๆของหล่อนเองก็เช่นกัน หล่อนมองไปที่ใบหน้าของชายในเครื่องแบบตรงหน้า ใบหน้าของเขามีแต่ผ้าพันแผล ถ้าไม่ถอดหมวกออกก็จะดูไม่ออกเลยว่าเป็นใคร
             "ดีใจด้วยนะที่คุณไม่เป็นไร"นั่นคือคำพูดที่ออกมาจากเขาก่อนจะเดินผ่านหน้าแอดเลอร์ไป หญิงสาวมองตามก่อนจะตั้งคำถาม
             "คุณจะไปไหน.."
             "บางเรื่องคุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้
    แอดเลอร์  อีกยี่สิบนาทีเดี๋ยวผมกลับมา"
             หญิงสาวเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลมองตามนาซีหนุ่มเดินตามหลังพยาบาลคนนั้นไป หล่อนไม่รู้ว่าพวกเขามีเรื่องอะไรกัน แต่ตอนนี้การอยู่ห่างจากเขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด..เพราะ.. นาซีคนนั้นเพิ่งจะฆ่าคนไปสี่คนเมื่อราวๆสี่สิบนาทีที่แล้ว พ่อเคยสอนหล่อนไว้เสมอว่า...ให้อยู่ห่างจากคนเลวให้มากที่สุด โดยเฉพาะคนที่เคยฆ่าคนมาก่อน 
               "พวกนั้นไปไหนกันนะ"เบ็ธถามเพื่อนสาวทั้งสองคนพลางมองตามหลังนาซีคนนั้นตาไม่กระพริบ แต่ไร้ซึ่งคำตอบใดๆทั้งสิ้นออกมาจากปากของสองคนนั่น
             
              
    “ครีนัส...เธอไม่เป็นอะไรจริงๆใช่มั้ย”

    ฟึ่บ..

    แอดเลอร์ตัดสินใจเดินออกจากกลุ่มเพื่อนโดยไม่สนใจที่จะตอบคำถามที่มาพร้อมกับความเป็นห่วงของนาตาชาร์เลยซะด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้หล่อนกำลังใช้ความคิด และมันไม่มีสมาธิเลยที่จะตอบคำถามของตัวเอง อาจเป็นเพราะความเป็นห่วงของเพื่อนทั้งสอง มันอาจทำให้หล่อนไม่มีสมาธิ..ใช่ ตอนนี้ความรู้สึกรำคาญเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจ และการเดินออกมาหาที่สงบๆหรือเดินตามคาร์ลไปนั้น ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุด

    ตอนนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าคาร์ลไปไหน แอดเลอร์พูดกับตัวเอง พยาบาลนั่นมีท่าทางแปลกๆเมื่อถึงคิวที่จะทำแผลให้คาร์ล บางที่หล่อนอาจจะเป็นมากกว่าพยาบาล ใช่..ถ้าลางสังหรณ์ของตัวเองเป็นจริง พยาบาลคนนั้นก็อาจไม่ใช่พยาบาลเหมือนที่คนอื่นคิดก็ได้!

    ตึกๆๆ... 
                
    เสียงพื้นรองเท้ากระทบกับขั้นบันไดดังออกมาในความเงียบ แอดเลอร์หันกลับไปทันที สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือหลังของใครบางคนที่เดินขึ้นบันไดไป หล่อนไม่รอช้ารีบเดินตรงไปที่บันไดอย่างรีบเร่ง แต่เมื่อชะเง้อหน้าขึ้นมองด้านบนของอีกชั้นหนึ่งแล้ว กลับไร้ซึ้งเงาของบุคคลปริศนานั่น เสียงเดินนั้นดังไกลออกไปจนแทบไม่ได้ยิน แอดเลอร์รีบก้าวเท้าเดินขึ้นบันได้ไปทันที

    เสียงของเบ็ธยังคงไล่หลังมา เบ็ธเป็นคนที่พูดดังที่สุดในกลุ่มแต่ก็ใช่ว่าลักษณะการพูดของหล่อนจะดีไปด้วย เบ็ธเป็นคล้ายๆกับนางร้ายในละครน้ำเน่า หล่อนเป็นเด็กอายุสิบแปดที่มีสมองเป็นยายแก่หัวรั้น ความดื้อรั้นและเอาแต่ใจของหล่อนเป็นสิ่งหนึ่งที่หล่อนได้รับฉายา”เจ้าหญิงหัวรั้น”ในห้องเรียน แต่ถึงหล่อนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เบ็ธก็มีความเป็นผู้นำและฉลาดมาก และหล่อนก็เป็นเพื่อนที่แอดเลอร์ไว้ใจที่สุดด้วย

    ฉันเกลียดแอดเลอร์...

    กึก...
                
    เสียงที่ดังตามหลังมาทำให้แอดเลอร์หยุดเดินและหยุดคิดเรื่องเมื่อครู่ทันทีก่อนจะหันกลับไป คำพูดเมื่อกี้เป็นเสียงของเบ็ธ คำพูดที่ปะปนมากับความเกลียดชังเมื่อครู่ทำให้แอดเลอร์ใจสั่น ความคิดที่บอกว่า”เชื่อใจ”เบ็ธมากที่สุดกลับกลายเป็นสิ่งอื่นแต่ไม่ใช่ความเกลียดชัง เพราะยังไงเบ็ธก็คือเพื่อนคนหนึ่งของหล่อนเอง แต่ความรู้สึกเมื่อกี้มันยังไงกันนะ

    “เธอพูดอะไรของเธอน่ะเบ็ธ”เสียงของนาตาชาร์

    “ก็บอกไปตามนั้นแหละ!”เบ็ธพูด ฟังเหมือนกับแค้นใครสักคนมานาน”นังนั่นมันก็แค่ผู้ดีอังกฤษในคราบของพวกนาซีแค่นั้นแหละ”

    “แต่เราเป็นเพื่อนกันนะ..เบ็ธ ครีนัสไม่ใช่นาซีซักหน่อย!

    “ก็ไม่เชิงและน่า!!

    เบ็ธ....

    “อ..อะไรนะ..”

    “ฉันแค่อยากได้ไอ้นาซีนั่น!

    คาร์ล...เธอหมายถึงคาร์ลสินะ...?

    “เธอ...”

    เสียงของนาตาชาร์เงียบไป หรือบางทีหล่อนอาจตั้งตัวไม่ถูกเหมือนกับแอดเลอร์ในตอนนี้

    “แนต..ฟังนะ! ฉันเกลียดที่แอดเลอร์กับคาร์ลอยู่ใกล้กันมากเกินไป ฉันเป็นคนทำให้นังนั่นมาโรงพยาบาลเองล่ะ!
                
    “เธอหมายความว่าอะไร..”

    “ฉันแค่อยากจะฆ่านังนั่น!! เข้าใจมั้ย!?”

    ...

    ตึกๆๆ..

    แอดเลอร์กลับหันหลังและเดินขึ้นบันไดต่อไป ไม่อยากจะฟังสิ่งที่เบ็ธจะพูดต่อ..ความผิดหวังประดังเข้ามาหาหล่อนโดยไม่ทันตั้งตัว หล่อนกำมือแน่น..และตัดสินใจที่จะเข้าไปหาเขาคนนั้นอีกครั้ง..เขาเป็นคนเสนอทางเลือกให้เธอเดินตามเพื่อตามหาคนที่เป็นคนฆ่าพ่อของตัวเอง คนที่หล่อนเกลียดนักเกลียดหนา..

    คาร์ล..ช่วยฉันที...
              
    ฟิ้ว...

    ลมที่พัดมาระลอกหนึ่งต้อนรับแอดเลอร์ที่ขึ้นมาถึงดาดฟ้าพร้อมกับคราบน้ำตานิดหน่อย หล่อนได้กลิ่นควันบุหรี่ที่ปลิวมากลับสายลม และกลิ่นนั่นเป็นกลิ่นที่หล่อนรู้ว่าที่มาของมันอาจอยู่ไม่ไกลจากที่หล่อนยืนเท่าไหร่ หญิงสาวค่อยๆเดินตามหาที่มาของกลิ่นควันบุหร่นั่นทันที และเมื่อเดินไปไม่ไกลจากประตูดาดฟ้าเท่าไหร่ บุคคลที่หล่อนจากเจอที่สุดก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าหล่อน รอบตัวของเขามีแต่ควันบุหรี่ แอดเลอร์เดินฝ่าควันพวกนั้นเข้าไปยืนข้างๆเขา

    ตรงหน้าคือหอไอเฟิล สัญลักษณ์ของกรุงปารีส มันถูกประดับด้วยไฟนานาชนิด ถึงแม้จะดึกมากแล้วแต่ผู้คนก็ยังตื่น ดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับและพระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่ช่วยประดับท้องฟ้ายามรัตติกาลให้ดูสวยสดงดงามอยู่เสมอ เขาทั้งสองมองวิวข้างล่างโดยไม่พูดอะไรกัน เป็นสัญญาณที่ทำให้ความเงียบเข้าปกคลุมทันที..

    “...”

    คาร์ลทิ้งบุหรี่ในมือลงบนพื้นก่อนจะเหยียบมันจนมอดไป

    “มีอะไร”

    เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงสะอื้นเบาๆของแอดเลอร์เท่านั้น สิ่งนี้ทำให้คาร์ลรู้ทันทีว่าคนที่ยืนอยู่ข้างคิดอะไรอยู่...

    “คาร์ล..”หญิงสาวพูดขึ้นอย่างแผ่วบางในความเงียบหลังจากที่เงียบมานาน

    “...”

    “คุณเคยโดนคนที่สนิทเกือบที่สุดทำร้ายจิตใจจนร้องไห้มั้ย..”

    แอดเลอร์หลับตาลงเพื่อรอคำตอบ สิ่งที่หล่อนถามไปเมื่อครู่มันก็คล้ายกับถามรูปปั่นเท่านั้นแหละ คนอย่างเขาไม่เคยร้องไห้หรอก ..

    “เคยสิ..”นั่นคือคำตอบ”..แต่ผมไม่ร้องไห้หรอก แค่เจ็บใจเท่านั้นแหละ”

    “งั้นเหรอ..”

    คาร์ลเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ดำสนิท”หมอนั้นมันเคยทำงานกับผม มันเป็นคนที่ทำงานดีมากที่สุดคนหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยได้เลื่อนยศเลยซักครั้ง”

    “..”

    “วันหนึ่งเขาได้มาทำงานร่วมกับผม แล้วเขาก็ใช้ผมเป็นสะพาน..ต่อไปยังสิ่งที่เขาอยากได้”

    “ยศเหรอ..”แอดเลอร์ตั้งคำถาม

    “ไอ้เลวนั่นมันชอบทหารหญิงคนหนึ่งที่เป็นหน่วยเสนารักษ์ และมันก็ให้ผมยิงมัน..”

    “แล้วคุณทำมั้ยล่ะ”

    “ใช่..”เขาพูด”แต่ตอนนั้นเสนารักษ์คนนั้นมาเห็นซะก่อน...”

    แล้วเขาก็เงียบไปพักนึง

    “ตอนนั้นผมลั่นไกไปแล้วด้วย..ทำตามคำขอของมัน”

    “...”

    “เสนารักษ์คนนั้นออกมาจากกองทัพ มาเป็นพยาบาลในปารีส..”

    พยาบาลคนเมื่อกี้..หล่อนคิด

    คาร์ลหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด แต่..

    “คุณโดนพวกยศสูงถีบส่งสินะ”

    “ไม่อยากเชื่อว่าคุณมีอารมณ์ขันด้วยนะ”เขาพูดก่อนจะสูดควันบุหรี่เข้าไป”สุดท้ายไอ้หมอนั้นก็ได้ยศของผมไป แต่มันกตายในสนามรบที่เบอร์ลินเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน”
                 
    แอดเลอร์ไม่รู้ว่าอยู่บนนั้นนานเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้หล่อนลืมคำพูดที่ทำร้ายจิตใจมาก่อนหน้านั้นจนหมดสิ้น มันเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่หล่อนสามารถเข้าถึงตัวตนของนาซีคนนั้นได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มาก แต่มันก็ดีกว่าจะเข้าไปใกล้คนอย่างเบ็ธ หรือบางทีหลังจากนี้..คำว่าเพื่อนอาจไม่มีอยู่แล้วในความรู้สึกของหล่อน ไม่แน่ว่าหลังจากนี้เบ็ธจะถูกลบออกจากความทรงจำของหล่อนออกไป และไม่มีวันที่จะกลับเข้ามาอีก...

    “คาร์ล..”

    “หืม?”

    “ขอบคุณที่ช่วยให้ฉันระบายมันออกมานะ..”

    -------------------------------------------------------------------------

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×