War and Sacrifice : Route to the War
เรื่องราวของเหล่าทหารผู้รับใช้สงคราม กับบางสิ่งที่พวกเขาจะต้องเสียสละ
ผู้เข้าชมรวม
7,783
ผู้เข้าชมเดือนนี้
141
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
*******************************************************************************
ผักกาดค่า------
แอร๋ เราอิม้อดเองนะแหะๆ ก็ไม่มีไรหรอกแค่จะบอกว่าเรามีแผนจะรีไรต์ตอนเก่าๆในเร็วๆนี้ค่ะ ก็เนื่องจากว่าข้าเซ็งไง เนื่อหาตอนแรกๆกับตอนล่าสุดดันไม่สอดคล้องกันอ่ะ(ไม่นับเรื่องสำนวนนะ ฟฟฟ) นั่นแหละเหตุผล จริงๆกะจะเริ่มรีไรต์ตอนจบภาคแรกซึ่งตอนนี้กะลังดำเนินไปอย่างหอยทากที่ถูกลูกตุ้มหนักตันกว่าๆถ่วงเอาไว้ ทำไงได้อ่ะก็เราไม่ค่อยสบาย หวัดบ้างไข้บ้าง หึๆ ตามนั้นเลยยยยย
ปล. 1 เนื่องจากข้อมูลข้องข้าไม่ค่อยแน่น ต้องมีคลาดเคลื่อนบ้างเรื่องสงครามนะ
ปล. 2 คำผิดเยอะแน่นอนเลยค่ะ เพราะเราพิมพ์ในโทรศัพท์ ฉะนั้นอย่าเพิ่งปวดหัวจนอันแฟบไปก่อนนะ หึฟ์
ก็เท่านี้แหละ มีอะไรก็จะมาเพิ่มให้ละกันนนน
เคารพมาก ฟฟฟ
Sin Clarity :v
----------------------------------------------------------------
------------ .:Story Status :.------------
Story Open: 29 Oct. 2014
Story Close: xx xx xxx
---------------------------------------------------------------------------------------
------------ .:Special Thanks :.------------
---------------------------------------------------
ผลงานอื่นๆ ของ Z Y C / L O N ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Z Y C / L O N
"ไม่มี 'มิตร' หรือ 'ศัตรู' ที่แท้จริงในยามสงคราม"
(แจ้งลบ)ช่วงนี้ว่างจัด เราตามอ่านนิยายม้อดมาหลายตอนละ ไม่ดิ ต้องเรียกว่านานมาแล้วนะ 555 ดังนั้นก็เลยกะจะสับ(?)ซะหน่อย เริ่มนะ เรื่องย่อ-โครงเรื่อง War and Sacrifice เป็นนิยายสงคราม-พีเรียด-โรแมนซ์ บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของแต่ละตัวละครที่ต่างเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์อันซับซ้อนนี้ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เรื่องราวส่วนใหญ่ถูกเล่าผ่านมุมมองของคร ... อ่านเพิ่มเติม
ช่วงนี้ว่างจัด เราตามอ่านนิยายม้อดมาหลายตอนละ ไม่ดิ ต้องเรียกว่านานมาแล้วนะ 555 ดังนั้นก็เลยกะจะสับ(?)ซะหน่อย เริ่มนะ เรื่องย่อ-โครงเรื่อง War and Sacrifice เป็นนิยายสงคราม-พีเรียด-โรแมนซ์ บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของแต่ละตัวละครที่ต่างเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์อันซับซ้อนนี้ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เรื่องราวส่วนใหญ่ถูกเล่าผ่านมุมมองของครีนัส แอดเลอร์...หญิงสาวผู้ผันตัวเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยนาซี มีแรงจูงใจเดียวคือต้องการสืบสาวหาตัวคนร้ายที่สังหารพ่อของเธอ และคู่หูของเธอ --เบิร์ต คาร์ล พลซุ่มยิงหนุ่มฝีมือระดับพระกาฬแห่งกองทัพนาซีที่ต้องการยุติสงครามครั้งนี้ให้เร็วที่สุดไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ทว่าในสงครามนั้นไม่มีมิตรหรือศัตรูที่แท้จริง...แล้วจะรู้ได้อย่างไร...ว่ามิตรชิดใกล้จะไม่เงื้อมีดขึ้นมาแทงข้างหลังพวกเขาเข้าในวันใดวันหนึ่ง! ตัวละคร ตัวละครของผู้เขียนปั้นออกมาได้ดี ติอย่างนึงตรงที่ผู้เขียนไม่ค่อยเพิ่มมิติและแบ็คกราวนด์ของตัวละครอื่นมากนักนอกจากตัวนางเอกกับพระเอก จริงอยู่ว่าตัวที่ไม่สำคัญก็ไม่ต้องเพิ่ม แต่ตัวประกอบที่จะมาเป็นกุญแจในตอนต่อๆ ไป ก็ควรจะลงลึกกับตัวตนของมันให้มากกว่านี้เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในเรื่องกับผู้อ่านนะแจร้ เอาล่ะ เรามาเริ่มกันที่ตัวเอกดีกว่า ครีนัส แอดเลอร์ --> เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก เท่าที่อ่านมา นางมีคาแรคเตอร์แบบสาวซึน นิ่งๆ ขรึมๆ ด้วยความที่ตอนยังเด็กไม่มีเพื่อนคบ ก็เลยกลายเป็นคนเย็นชา พูดน้อย ต่อยหนัก(หรือเปล่า? ยังไม่เคยเห็นแอดเลอร์บู๊เลย 555) รักศักดิ์ศรียิ่งชีพ ตรงไปตรงมา หัวแข็ง ยอมหักไม่ยอมงอ และฉลาดพอตัว แต่ผู้เขียนจะฟังคำติหรือคำชมของตัวละครตัวนี้ก่อนดีล่ะ? ชมก่อนละกันเนอะ 555 ต้องขอบอกว่าตัวละครนี้ค่อนข้างชัดเจนมากและเด่นมาก เป็นตัวดำเนินเรื่องที่ดีตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผู้เขียนทำให้คนอ่านรู้สึกได้จริงว่าแอดเลอร์เคยมีตัวตนอยู่จริง ทำให้คนอ่าน 'อิน' ไปกับสิ่งที่นางคิดและสิ่งที่นางทำได้ มีความเป็นเหตุเป็นผลของตัวละครอยู่ในระดับน่าพอใจ และเป็นตัวละครที่เราคิดว่าน่าจดจำมากที่สุดตัวหนึ่ง แต่ข้อเสียก็มี แอดเลอร์เนี่ย ตามที่ผู้เขียนบรรยายไว้คือ ฉลาดระดับอัจฉริยะ แต่ในหลายๆ บริบท ความอัจฉริยะที่ผู้เขียนวางไว้นั้นไม่ได้แสดงออกมาเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ในหลายๆ สถานการณ์ แอดเลอร์ยังไม่มีความสามารถพอที่จะแก้ต่างให้กับตัวเองหรือแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองคนเดียวได้ คำพูดบางประโยคในบางสถานการณ์ก็ยังดูไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่ ดังนั้นในทัศนคติของเราแล้ว แอดเลอร์นั้น 'ฉลาด' ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น 'อัจฉริยะ' (ยกเว้นว่าอัจฉริยะในห้องเรียน อันนี้ไม่เถียง 555) ที่จริงคาแรคเตอร์แบบนี้ก็โอเคแล้วนะ ถ้าปรับแก้อีกนิดจะดีมากๆ เลย เบิร์ต คาร์ล --> ยินดีด้วยครัช ตัวละครตัวนี้ไม่มีข้อให้ติสักเท่าไหร่เลย สิ่งที่เขาแสดงออกนั้นตรงกับสิ่งที่ผู้เขียนวางไว้ ตรงกับสิ่งที่ผู้เขียนพยายามจะสื่อให้คนอ่านรับรู้ได้ดีมาก ชอบในการที่ผู้เขียนทำให้คนอ่านทั้งสงสัย ทั้งหลงรัก ทั้งไม่ไว้ใจอีตาคาร์ลคนนี้ได้ในเวลาเดียวกัน คาร์ลเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากที่สุดตัวหนึ่งในโลกวรรณกรรมเท่าที่เราเคยรู้จัก (แม้ว่าหลังๆ เฮียจะหลุดคาแรกเตอร์ ทำตัวกวนสร้นนางเอกนิดๆ ก็เถอะ) จะว่าอะไรไหมถ้าเราชอบตัวละครคาร์ลมากกว่าตัวดำเนินเรื่องหลักอย่างแอดเลอร์ 555 เอาใจเราไปเลยค่ะเฮียคาร์ล ขอย้อนกลับไปเกิดในช่วงสงครามโลกแปบ รักมากจริงๆ เฮียคนนี้ ผู้เขียนประสบความสำเร็จในการสร้างคาร์ลให้เป็นที่ประทับใจคนอ่านแล้ว ณ จุดๆนี้ การใช้ภาษา การใช้ภาษา บอกได้เลยว่ามีการพัฒนาการไปมากกว่าตอนแรกๆ มาก สังเกตได้ว่าตอนแรกๆ นั้น ภาษาที่แต่ละตัวละครใช้จะติดวัยรุ่นๆ อยู่นิดๆ ทำให้บรรยากาศของเรื่องยังไม่คลาสสิค ยังไม่เป็นแนวพีเรียดมากเท่าที่ควร อีกทั้งการบรรยายบรรยากาศรอบข้างตัวละครก็ยังดูห้วนสั้นไป เหตุการณ์ต่างๆ ยังเรียงลำดับและปะติดปะแต่ละจิ๊กซอว์ในเรื่องต่อได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่นานๆ ไป เออ...นิยายเรื่องนี้พัฒนาขึ้นมากแฮะ มีการสร้างปมซับซ้อนขึ้น การบรรยายสวยงามและอินขึ้นเยอะ อ่านแล้วลื่นไหล แม้จะอ่านแล้วติดๆขัดๆบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ตัวละครดูมีมิติล้ำลึกขึ้นและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ภาษาที่ใช้เก่าลง มีเหตุมีผลมากขึ้น และดูมีความเป็น 'พีเรียด' ตามธีมของนิยายได้อย่างเป็นธรรมชาติ พิเศษ: มุมกล้อง แสง สี (?) ถ้าเปรียบเสมือนมุมกล้อง นิยายเรื่อง War and Sacrifice มีมุมกล้องแบบกล้องแทนสายตาของแต่ละครนั้นๆ ไปเลย สังเกตได้จากการที่ผู้เขียนมักจะโฟกัสอยู่ที่ตัวละครแค่ตัวเดียวในฉากหนึ่งฉาก เช่นฉากโฟกัสที่ความคิดของแอดเลอร์คนเดียวในขณะที่มีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น นั่นมีข้อดีคือเราจะสามารถ 'อิน' ไปกับตัวละครแอดเลอร์ได้ง่ายกว่ามุมกล้องแบบที่ฉายความคิดและท่าทางของคนอื่นในฉากไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ข้อเสียคือความเป็นไปต่างๆ อารมณ์ในสถานการณ์นั้นๆ คนอ่านจะรับรู้ได้ค่อนข้างแคบเพราะมองจากสายตาของแอดเลอร์คนเดียว แสง สี - นิยายเรื่องนี้ให้ฟีลลิ่งเหมือนดูภาพยนตร์สงครามโลกแบบคลาสสิคแต่ฉายในฟิล์มสมัยใหม่ เทคนิคการใช้แสงเงาต่างๆ จะคล้ายๆ กับหนังเรื่อง Inglourious Basterds ของเควนติน ทารันติโน แต่บรรยากาศเรื่องจะดูหรูกว่านิดๆ และยังไม่แสบ เผ็ด กวนทรีนเท่า Inglourious (เอ่อ ไม่ต้องงงนะ เราเอามาจากภาพในหัวเวลาอ่านนิยายเรื่องนี้อ่ะ =.= ) ให้ความรู้สึกแบบหนังเก่าๆ แต่ใช้ฟิล์มสีสด แตกต่างกันตรงที่มุมกล้องใน War and Sacrifice จะโฟกัสที่ตัวละครตัวเดียว ในขณะที่ในหนังโฟกัสไปที่หลายตัวพร้อมกัน ปล. ก็ฝากไว้ด้วยนะครัชสำหรับคำวิจารณ์ พิมพ์มาชั่วโมงนึงละ ขอให้ไรต์เตอร์เจริญๆ เขียนนิยายไปอย่าหยุดนะะะ ด้วยรักจาก Crimson Rose บายแจร้ อ่านน้อยลง
Crimson Rose/กุหลาบทับทิม | 25 ต.ค. 58
1
0
"ไม่มี 'มิตร' หรือ 'ศัตรู' ที่แท้จริงในยามสงคราม"
(แจ้งลบ)ช่วงนี้ว่างจัด เราตามอ่านนิยายม้อดมาหลายตอนละ ไม่ดิ ต้องเรียกว่านานมาแล้วนะ 555 ดังนั้นก็เลยกะจะสับ(?)ซะหน่อย เริ่มนะ เรื่องย่อ-โครงเรื่อง War and Sacrifice เป็นนิยายสงคราม-พีเรียด-โรแมนซ์ บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของแต่ละตัวละครที่ต่างเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์อันซับซ้อนนี้ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เรื่องราวส่วนใหญ่ถูกเล่าผ่านมุมมองของคร ... อ่านเพิ่มเติม
ช่วงนี้ว่างจัด เราตามอ่านนิยายม้อดมาหลายตอนละ ไม่ดิ ต้องเรียกว่านานมาแล้วนะ 555 ดังนั้นก็เลยกะจะสับ(?)ซะหน่อย เริ่มนะ เรื่องย่อ-โครงเรื่อง War and Sacrifice เป็นนิยายสงคราม-พีเรียด-โรแมนซ์ บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของแต่ละตัวละครที่ต่างเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์อันซับซ้อนนี้ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เรื่องราวส่วนใหญ่ถูกเล่าผ่านมุมมองของครีนัส แอดเลอร์...หญิงสาวผู้ผันตัวเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยนาซี มีแรงจูงใจเดียวคือต้องการสืบสาวหาตัวคนร้ายที่สังหารพ่อของเธอ และคู่หูของเธอ --เบิร์ต คาร์ล พลซุ่มยิงหนุ่มฝีมือระดับพระกาฬแห่งกองทัพนาซีที่ต้องการยุติสงครามครั้งนี้ให้เร็วที่สุดไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ทว่าในสงครามนั้นไม่มีมิตรหรือศัตรูที่แท้จริง...แล้วจะรู้ได้อย่างไร...ว่ามิตรชิดใกล้จะไม่เงื้อมีดขึ้นมาแทงข้างหลังพวกเขาเข้าในวันใดวันหนึ่ง! ตัวละคร ตัวละครของผู้เขียนปั้นออกมาได้ดี ติอย่างนึงตรงที่ผู้เขียนไม่ค่อยเพิ่มมิติและแบ็คกราวนด์ของตัวละครอื่นมากนักนอกจากตัวนางเอกกับพระเอก จริงอยู่ว่าตัวที่ไม่สำคัญก็ไม่ต้องเพิ่ม แต่ตัวประกอบที่จะมาเป็นกุญแจในตอนต่อๆ ไป ก็ควรจะลงลึกกับตัวตนของมันให้มากกว่านี้เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในเรื่องกับผู้อ่านนะแจร้ เอาล่ะ เรามาเริ่มกันที่ตัวเอกดีกว่า ครีนัส แอดเลอร์ --> เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก เท่าที่อ่านมา นางมีคาแรคเตอร์แบบสาวซึน นิ่งๆ ขรึมๆ ด้วยความที่ตอนยังเด็กไม่มีเพื่อนคบ ก็เลยกลายเป็นคนเย็นชา พูดน้อย ต่อยหนัก(หรือเปล่า? ยังไม่เคยเห็นแอดเลอร์บู๊เลย 555) รักศักดิ์ศรียิ่งชีพ ตรงไปตรงมา หัวแข็ง ยอมหักไม่ยอมงอ และฉลาดพอตัว แต่ผู้เขียนจะฟังคำติหรือคำชมของตัวละครตัวนี้ก่อนดีล่ะ? ชมก่อนละกันเนอะ 555 ต้องขอบอกว่าตัวละครนี้ค่อนข้างชัดเจนมากและเด่นมาก เป็นตัวดำเนินเรื่องที่ดีตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผู้เขียนทำให้คนอ่านรู้สึกได้จริงว่าแอดเลอร์เคยมีตัวตนอยู่จริง ทำให้คนอ่าน 'อิน' ไปกับสิ่งที่นางคิดและสิ่งที่นางทำได้ มีความเป็นเหตุเป็นผลของตัวละครอยู่ในระดับน่าพอใจ และเป็นตัวละครที่เราคิดว่าน่าจดจำมากที่สุดตัวหนึ่ง แต่ข้อเสียก็มี แอดเลอร์เนี่ย ตามที่ผู้เขียนบรรยายไว้คือ ฉลาดระดับอัจฉริยะ แต่ในหลายๆ บริบท ความอัจฉริยะที่ผู้เขียนวางไว้นั้นไม่ได้แสดงออกมาเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ในหลายๆ สถานการณ์ แอดเลอร์ยังไม่มีความสามารถพอที่จะแก้ต่างให้กับตัวเองหรือแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองคนเดียวได้ คำพูดบางประโยคในบางสถานการณ์ก็ยังดูไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่ ดังนั้นในทัศนคติของเราแล้ว แอดเลอร์นั้น 'ฉลาด' ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น 'อัจฉริยะ' (ยกเว้นว่าอัจฉริยะในห้องเรียน อันนี้ไม่เถียง 555) ที่จริงคาแรคเตอร์แบบนี้ก็โอเคแล้วนะ ถ้าปรับแก้อีกนิดจะดีมากๆ เลย เบิร์ต คาร์ล --> ยินดีด้วยครัช ตัวละครตัวนี้ไม่มีข้อให้ติสักเท่าไหร่เลย สิ่งที่เขาแสดงออกนั้นตรงกับสิ่งที่ผู้เขียนวางไว้ ตรงกับสิ่งที่ผู้เขียนพยายามจะสื่อให้คนอ่านรับรู้ได้ดีมาก ชอบในการที่ผู้เขียนทำให้คนอ่านทั้งสงสัย ทั้งหลงรัก ทั้งไม่ไว้ใจอีตาคาร์ลคนนี้ได้ในเวลาเดียวกัน คาร์ลเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากที่สุดตัวหนึ่งในโลกวรรณกรรมเท่าที่เราเคยรู้จัก (แม้ว่าหลังๆ เฮียจะหลุดคาแรกเตอร์ ทำตัวกวนสร้นนางเอกนิดๆ ก็เถอะ) จะว่าอะไรไหมถ้าเราชอบตัวละครคาร์ลมากกว่าตัวดำเนินเรื่องหลักอย่างแอดเลอร์ 555 เอาใจเราไปเลยค่ะเฮียคาร์ล ขอย้อนกลับไปเกิดในช่วงสงครามโลกแปบ รักมากจริงๆ เฮียคนนี้ ผู้เขียนประสบความสำเร็จในการสร้างคาร์ลให้เป็นที่ประทับใจคนอ่านแล้ว ณ จุดๆนี้ การใช้ภาษา การใช้ภาษา บอกได้เลยว่ามีการพัฒนาการไปมากกว่าตอนแรกๆ มาก สังเกตได้ว่าตอนแรกๆ นั้น ภาษาที่แต่ละตัวละครใช้จะติดวัยรุ่นๆ อยู่นิดๆ ทำให้บรรยากาศของเรื่องยังไม่คลาสสิค ยังไม่เป็นแนวพีเรียดมากเท่าที่ควร อีกทั้งการบรรยายบรรยากาศรอบข้างตัวละครก็ยังดูห้วนสั้นไป เหตุการณ์ต่างๆ ยังเรียงลำดับและปะติดปะแต่ละจิ๊กซอว์ในเรื่องต่อได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่นานๆ ไป เออ...นิยายเรื่องนี้พัฒนาขึ้นมากแฮะ มีการสร้างปมซับซ้อนขึ้น การบรรยายสวยงามและอินขึ้นเยอะ อ่านแล้วลื่นไหล แม้จะอ่านแล้วติดๆขัดๆบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ตัวละครดูมีมิติล้ำลึกขึ้นและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ภาษาที่ใช้เก่าลง มีเหตุมีผลมากขึ้น และดูมีความเป็น 'พีเรียด' ตามธีมของนิยายได้อย่างเป็นธรรมชาติ พิเศษ: มุมกล้อง แสง สี (?) ถ้าเปรียบเสมือนมุมกล้อง นิยายเรื่อง War and Sacrifice มีมุมกล้องแบบกล้องแทนสายตาของแต่ละครนั้นๆ ไปเลย สังเกตได้จากการที่ผู้เขียนมักจะโฟกัสอยู่ที่ตัวละครแค่ตัวเดียวในฉากหนึ่งฉาก เช่นฉากโฟกัสที่ความคิดของแอดเลอร์คนเดียวในขณะที่มีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น นั่นมีข้อดีคือเราจะสามารถ 'อิน' ไปกับตัวละครแอดเลอร์ได้ง่ายกว่ามุมกล้องแบบที่ฉายความคิดและท่าทางของคนอื่นในฉากไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ข้อเสียคือความเป็นไปต่างๆ อารมณ์ในสถานการณ์นั้นๆ คนอ่านจะรับรู้ได้ค่อนข้างแคบเพราะมองจากสายตาของแอดเลอร์คนเดียว แสง สี - นิยายเรื่องนี้ให้ฟีลลิ่งเหมือนดูภาพยนตร์สงครามโลกแบบคลาสสิคแต่ฉายในฟิล์มสมัยใหม่ เทคนิคการใช้แสงเงาต่างๆ จะคล้ายๆ กับหนังเรื่อง Inglourious Basterds ของเควนติน ทารันติโน แต่บรรยากาศเรื่องจะดูหรูกว่านิดๆ และยังไม่แสบ เผ็ด กวนทรีนเท่า Inglourious (เอ่อ ไม่ต้องงงนะ เราเอามาจากภาพในหัวเวลาอ่านนิยายเรื่องนี้อ่ะ =.= ) ให้ความรู้สึกแบบหนังเก่าๆ แต่ใช้ฟิล์มสีสด แตกต่างกันตรงที่มุมกล้องใน War and Sacrifice จะโฟกัสที่ตัวละครตัวเดียว ในขณะที่ในหนังโฟกัสไปที่หลายตัวพร้อมกัน ปล. ก็ฝากไว้ด้วยนะครัชสำหรับคำวิจารณ์ พิมพ์มาชั่วโมงนึงละ ขอให้ไรต์เตอร์เจริญๆ เขียนนิยายไปอย่าหยุดนะะะ ด้วยรักจาก Crimson Rose บายแจร้ อ่านน้อยลง
Crimson Rose/กุหลาบทับทิม | 25 ต.ค. 58
1
0
ความคิดเห็น