ความรัก เจ้าชาย ความตายและเจ้าหญิง - ความรัก เจ้าชาย ความตายและเจ้าหญิง นิยาย ความรัก เจ้าชาย ความตายและเจ้าหญิง : Dek-D.com - Writer

    ความรัก เจ้าชาย ความตายและเจ้าหญิง

    เชิญรับชม เรื่องสั้นแนวเจ้าหญิงเจ้าชายในมุมมองของนายจันทร์เสี้ยวได้ ณ บัดนี้ครับผม!

    ผู้เข้าชมรวม

    464

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    464

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ย. 53 / 10:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ความรักบทที่หนึ่ง


         ไม่มีคำใดๆสามารถบรรยายความรู้สึกของข้าในเวลานี้ได้อีกแล้ว ความรักที่สมปรารถนาของข้า การรอคอยที่นานแสนนาน ข้าเฝ้าตามหาเจ้าหญิงมากมายใต้ผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ แต่หาได้มีใครถูกใจข้าไม่

      มีเพียงนางผู้เดียวผู้อยู่บนหอคอยหิน ข้าเห็นนางครั้งแรกข้าก็รับรู้ได้ทันทีว่า นางจะต้องเป็นคู่พรหมลิขิตของข้า  ตั้งแต่วันที่ข้าได้เห็นใบหน้างดงามของนาง ข้าก็กลับไม่อาจนอนหลับได้สนิทเหมือนก่อน

      ข้าฝันถึงนางทุกคืน ฝันถึงวันที่ข้าไปพานางลงมาจากหอคอยหินท่ามกลางซากวัฒนธรรมเก่าแก่ ข้ายื่นแขนขวาให้นางจับแทนราวบันได ข้าอุ้มนางขึ้นม้าและควบขี่ไปจากหอคอยอันเปล่าเปลี่ยว เสียงฝีเท้าม้าที่กระแทกกับพื้นหินดังกุบกับราวกับอวยพรที่เราสองคนได้ครองรักกัน

      และเมื่อมาถึงพระราชวังข้าก็ได้กราบทูลเสด็จพ่อถึงเรื่องคู่ครองที่คู่ควรกับข้า โดยไม่มีใครคัดค้าน ทั้งหมดนี้เป็นฝันที่ข้าได้เห็นอยู่ทุกค่ำคืน

      แม้ในความเป็นจริงแล้วข้าจะต้องรอเวลาอันสมควรก่อนก็ตาม  และก่อนที่จะถึงเวลานั้นเจ้าอย่าหนีข้าไปไหนนะ ความรักของข้า เจ้าหญิงของข้า

      ความรักของบทที่สอง

         ข้าเติบโตอยู่ในหอคอยหินแห่งนี้ ท่ามกลางการฝึกฝนตัวเองให้เป็นเจ้าหญิงที่ดี ข้าไม่รู้ว่า ใครกันนะ ที่กำหนดให้เจ้าหญิงต้องรอเจ้าชายอยู่บนนี้ และต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะมีเจ้าชายมารับข้า

      ในยามว่างจากการอ่านนิทานปรัมปราเจ้าหญิงเจ้าชาย ข้าก็มักจะมานั่งทอดถอนใจที่ชั้นบนสุดของหอคอยเสมอ ข้าไม่ได้ทอดถอนใจเพราะความลำบากจากการถูกกักขัง ที่นี่มีข้ารับใช้ที่มาคอยบริการข้าตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

      แต่ข้าทอดถอนใจเพราะการรอคอยที่นานแสนนาน ยิ่งข้าได้อ่านเรื่องราวของเจ้าหญิงที่ได้ครองรักกับเจ้าชายมากเท่าใด ข้ายิ่งรู้สึกว่าเวลายิ่งไปอย่างเชื่องช้ามากขึ้นเท่านั้น

      เมื่อไหร่กันนะ ที่เจ้าชายจะมา

      จนกระทั่งวันหนึ่ง มีชายหนุ่มรูปงามควบขี่ม้าขาวมาหยุดหน้าหอคอยหินผู้เดียวดาย เขามองมายังข้าที่นั่งมองเมฆก้อนกลมบนท้องฟ้า ข้าแปลกใจกับกิริยาท่าทางของเขาที่ยังคงจ้องมองข้าอย่างไม่วางตา

      ก่อนที่จะควบขี่ม้าออกไป…วันต่อๆมาก็เช่นกัน เขาไม่พูดอะไร เขาเพียงแต่จ้องมองข้า แล้วจากไป เป็นเช่นนี้หลายสิบวัน ข้าไม่เข้าใจว่า

      มันเกิดอะไรขึ้นกับข้า ในทุกวันข้าเอาแต่เฝ้ารอที่ชั้นบนสุดเพื่อที่จะได้มีโอกาสพบกับเขา ณ เวลาเดิม

      จนสิ้นสุดการรอคอยของข้า เขามาหาข้าที่หอคอย เขาถามถึงสิ่งที่ข้าทำในยามว่าง เขาถามถึงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับตัวข้า เขาสนใจข้า ข้าสนใจเขา เขารักข้า ข้าก็รักเขาเช่นกัน

      แต่ทว่า...เขากลับบอกว่า ยังไม่ถึงเวลา เขาอยากให้ข้ารออยู่ที่เดิมต่อไปจนกว่าจะถึงเวลาอันสมควร ข้ายินดีรอท่าน ข้ายินดีที่จะรอ ความรักของข้า เจ้าชายของข้า...
         
      เจ้าชาย

          ความจริงแล้วมันยังไม่ถึงเวลาที่ข้าจะไปหาเจ้าหญิงบนหอคอยนั้น ทุกคนต่างห้ามข้าไว้ แม้แต่อำมาตย์ข้างกายที่ข้าไว้ใจก็ยังเตือนเช่นนั้น

       เขาบอกข้าว่า มันยังไม่ถึงเวลาที่ข้าควรไปพบนาง แต่ข้าห้ามตัวเองไม่ได้

      ข้าตอบอำมาตย์ผู้รู้ใจของข้าไปว่า ถ้าเจ้าได้พบคู่พรหมลิขิตของเจ้า เจ้าจะเข้าใจข้า... ข้าไม่อาจมีชีวิตอยู่โดยไม่เห็นหน้านางได้อีก

      เขาถอนหายใจเสียงดังครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะบอกให้ข้ารู้จักการอดทนรอเฉกเช่นเดียวกันเจ้าหญิงบนหอคอย กาลเวลาจะพิสูจน์ทุกสิ่ง ถ้าข้ากับนางเป็นคู่พรหมลิขิตกันจริง ก็ไม่มีทางที่นางจะจากข้าไปไหน

      แต่ข้าไม่อยากฟัง ข้าอยากจะเห็นหน้านาง ข้าอยากไปพบนางเหลือเกิน...

      จนในท้ายที่สุด เขาก็ยอมให้ข้าไปหานางได้ แต่ก็มีเงื่อนไข ข้าตกลงตามเงื่อนไขนั้น และข้าก็ได้เจอนางทุกวันอย่างที่ข้าปรารถนาไว้

      ทุกครั้งที่ข้าควบขี่ม้าขาวกลับมาจากหอคอยหิน ตัวข้านั้นช่างเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอิบใจ  

      นี่ถ้าได้นางมาอยู่ข้างกาย ทุกครั้งก่อนนอนข้าได้เห็นหน้านาง ทุกครั้งตื่นนอนข้าได้เห็นหน้านาง ข้าคงเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้ ข้าไปหานางทุกวันที่เก่า เวลาเดิม

      จนกระทั่งถึงเวลาแล้ว ที่ข้าจะได้ไปพบกับเจ้าหญิงของข้า ข้าไม่ต้องเฝ้าดูเจ้าจากตรงนี้อีกต่อไป ข้าจะได้อยู่ข้างกายเจ้า เจ้าและข้าจะได้เป็นของของกันและกัน ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าต้องทนเดียวดายอีก และแน่นอนว่า คำแรกที่ข้าจะพูดกับเจ้าคือคำว่า “ข้ารักเจ้า”

      ความตายบทที่หนึ่ง

         ข้าจำได้ว่าข้ากำลังเต้นรำกับเจ้าชายของข้า เขาถามข้าว่า เจ้าเต้นรำเป็นหรือเปล่า? ข้าตอบไปอย่างกระตือรือร้นว่า เป็นเพคะ

      เขาก็บอกอีกว่า เรามาเต้นรำฉลองความสำเร็จกันไหม? และข้าก็ตอบรับ

      ข้ากับเขาเต้นรำด้วยกัน ข้าชอบเต้นช้าๆในจังหวะเบาๆและโอบกอดเขาไว้

      เราสองคนเต้นรำกันอยู่บนหอคอยสูง ขณะที่ข้ากำลังหลับตา กอดเขาไว้หลวมๆพลางกระซิบข้างหูของเขาว่า ต่อจากนี้เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแล้วนะ เจ้าชายของข้า

      เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า เจ้าหญิงกับเจ้าชายต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปอยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลไป...

      ข้ามีความสุขเหลือเกินจนเผลอคิดไปว่า ถึงข้าจะตาย ณ ที่นี่ เวลานี้ข้าไม่เสียดายเลย

      และข้าก็ได้ตายตามที่ข้าคิดไว้จริงๆ...ข้าพลัดตกจากหอคอยหินระหว่างเต้นรำ ข้าสะเพร่าจริงๆ...ที่ไม่กุมมือเขาไว้ให้แน่นกว่านี้

       แต่ถึงอย่างนั้นข้าคงมีความสุขจวบจนวาระสุดท้ายอย่างแท้จริง ถ้าไม่เห็นสิ่งที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นหินชั้นล่างสุดของหอคอยเป็นภาพสุดท้ายในชีวิต

      ความตายบทที่สอง

         ข้าได้ไปพบกับเจ้าหญิงที่ชั้นบนสุดของหอคอย ข้าบอกให้อำมาตย์คู่ใจรออยู่ที่หน้าประตูชั้นบนสุดแทนที่จะรออยู่ที่ชั้นล่าง เพราะข้าอยากให้เขาได้เห็นช่วงเวลาที่ข้ามีความสุขที่สุด

      และในที่สุดข้าก็ได้พบกับนาง สิ้นสุดกันทีการรอคอยของเราทั้งสอง ต่อจากนี้ไปจะเป็นการเริ่มต้นของความสุขเช่นเดียวกับตอนจบในนิทานที่มีเจ้าหญิงและเจ้าชาย

      ข้ากอดนางไว้ในอ้อมแขน แต่นางกลับบอกว่า ช้าก่อน ข้ามีอะไรบางอย่างจะให้ท่าน ข้ายิ่งตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมเพราะนางเองก็เฝ้ารอข้า แถมยังเตรียมอะไรไว้ให้ข้าอีก

      นางบอกให้ข้าหลับตาเพราะนางอาย ช่างเป็นเจ้าหญิงที่น่าทนุถนอมจริงๆ ก็ได้ ข้ายอมหลับตาตามที่นางบอก

      นางจูงมือข้าเดินไป และบอกให้ข้านั่งลง ข้าก็ทำตามที่นางบอก ยิ่งข้ามองอะไรไม่เห็นยิ่งทำให้ข้าคิดฟุ้งซ่านว่านางจะมอบอะไรให้ข้า ข้าเดาว่ามันน่าจะเป็นจุมพิต

      แต่ว่าที่ไหนกันล่ะ หน้าผาก แก้มหรือริมฝีปากกันนะ นางกระซิบบอกข้าเพื่อย้ำอีกครั้งว่า ห้ามลืมตาเป็นอันขาด

      ข้าทำตามที่นางบอกจนรู้สึกได้ว่า ข้าเองรู้สึกหวิวๆบรรยากาศรอบข้างข้ามันแปลกไป

      หลังจากที่ถูกแรงผลักที่ยอดอก ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันเกิดอะไรขึ้น

      แต่...ไม่ได้ ไม่ได้ นางกำชับข้าไว้แล้วว่า ห้ามลืมตาเป็นอันขาด ข้าจะไม่ลืมตาจนกว่าเจ้าจะมอบจุมพิตให้กับข้า แต่จนแล้วจนเล่าข้าก็ยังไม่ได้รับจุมพิตนั้นจากเจ้าหญิงของข้า...

      เจ้าหญิง

         วันที่ข้าได้รู้ความจริง ข้าเสียใจมากที่เขาไม่ใช่เจ้าชายของข้า เขามาบอกกับข้าว่า เขาไม่ใช่เจ้าชาย โอ...ทำไมกัน ทำไมฟ้าถึงกลั่นแกล้งข้าเช่นนี้ ข้าจริงจังกับเขา ข้ารักเขาสุดหัวใจ เขาก็รักข้าสุดหัวใจ เฝ้ามองข้ามาโดยตลอดแต่ข้าไม่อาจครองรักกับเขาได้ ฟ้าช่างกลั่นแกล้งเราสองเสียจริง

      ...ข้าถามเขาว่า จะมีทางไหนบ้างที่ข้าจะได้ครองรักกับเขา เขาตอบด้วยรอยยิ้มว่า ถ้าข้าเป็นเจ้าชายจริงๆข้าอาจจะได้ครองรักกับเจ้าก็ได้ ข้าเข้าใจแล้ว...

      เจ้าชายมีได้แค่เพียงหนึ่งข้าจะฆ่าเขาเสีย เพราะถึงเขาจะเป็นเจ้าชายแต่เขาก็ไม่ใช่เจ้าชายของข้า เจ้าชายของข้ามีได้แค่เพียงคนเดียว เขาบอกวันเวลาที่เจ้าชายจะมา

      และก็บอกอีกว่า เขาก็จะมาด้วยเช่นกัน เขาหวังว่าข้าจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง เจ้าชายของข้า ตรงตามเวลาที่เขาบอก เจ้าชายได้ขึ้นมาหาข้างที่ด้านบน

      ข้าเหลือบไปเห็นเขาผ่านบานประตูที่แง้มอยู่ เขายิ้มและพยักหน้าให้สัญญาณข้า ข้าล่อลวงเจ้าชายให้หลับตาโดยบอกว่า ข้ามีของจะมอบให้ ช่างโง่เขลาเสียจริง

      เจ้าชายเบื้องหน้าข้ายังไม่รู้ตัวอีกว่าจะตายในไม่ช้านี้แล้ว เจ้าชายหลับตาแต่โดยดี ข้าพาเจ้าชายผู้โง่เขลาไปที่ริมหน้าต่างบอกให้เขานั่งลง

      ก่อนที่ข้าจะลงมือผลักยอดอกเขาเต็มแรง เขาร่วงลงไปทั้งที่ยังหลับตาอยู่อย่างนั้น ลาก่อนเจ้าชาย...ข้าเดินไปที่ประตูที่ยังคงแง้มอยู่ พร้อมกับพูดว่า ยินดีต้อนรับเพคะ เจ้าชายของข้า

      เขายังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสักครู่ก่อนที่จะเดินเข้ามานั่งในห้อง ข้าสัมผัสร่างกายของเขาที่ข้าถวิลหามานาน ตัวของเขาช่างเย็นยิ่งนัก แต่ข้าไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ก็เขาเป็นเจ้าชายของข้านี่นา ...

      เขาเอ่ยปากชวนข้าเต้นรำ เขาคงอยากฉลองความสำเร็จกับข้า ข้ารู้สึกดีจริงๆถึงข้าจะตายไปตอนนี้ข้าก็ไม่เสียดายแต่อย่างใด ข้าโอบกอดเขาไว้และสัมผัสอย่างแผ่วเบา

      เขาเริ่มเร่งจังหวะการก้าวเท้าให้เร็วขึ้น ข้ารู้แล้วเขาจะจบด้วยท่านั้น ท่าที่เราทั้งสองหมุนไปด้วยกันเป็นวงกลม ข้ากลับไม่สามารถสู้แรงของเขาได้อีกทั้งไม่ยอมกุมมือเขาไว้ให้แน่นกว่านี้

      ข้าจึงถูกแรงเหวี่ยง เหวี่ยงออกไปทางหน้าต่างบานเดียวกับที่ข้าผลักเจ้าชายผู้โง่เขลาลงไป...

         ข้าได้ตายโดยไม่เสียดายจริงๆ...แต่มันคงดีกว่านี้ถ้าข้าไม่เห็นศพเจ้าชายที่นอนกองอยู่ข้างล่างนั่นเป็นภาพสุดท้ายในชีวิต


      อำมาตย์หนุ่ม

         สายตาของกระหม่อมไม่ดีสักเท่าไหร่ มองที่ไกลๆไม่ค่อยชัด แต่ถึงอย่างนั้นกระหม่อมก็จงรักภักดีกับพระองค์เสมอมา กระหม่อมถูกเลี้ยงดูพร้อมกับเจ้าชาย
      เจ้าชายทรงให้เกียรติกระหม่อมไม่ต่างกับพระสหายคนอื่นๆ สิ่งนั้นทำให้คนต่ำต้อยผู้นี้ซาบซึ้งใจมาก

      ยิ่งเมื่อได้ทราบเรื่องราวจากปากขององค์ราชาแล้วว่า พระองค์ได้เลี้ยงดูเจ้าหญิงไว้ในหอคอยหินเพื่อจะให้เป็นเจ้าหญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะกับเจ้าชาย ยิ่งทำให้กระหม่อมอยากให้ทั้งสองได้ครองรักกัน อยู่ด้วยกันตราบนานเท่านาน

      แล้ววันหนึ่งเจ้าชายก็ได้มาบอกว่า ท่านพบเจ้าหญิงแล้ว กระหม่อมกลับไม่รู้สึกดีใจเท่าไหร่เพราะกระหม่อมยังไม่แน่ใจว่า เจ้าหญิงนั้นคู่ควรกับเจ้าชายหรือเปล่า

      กระหม่อมจึงกึ่งหยอกกึ่งสอนไปว่า จะรีบร้อนไปไย? ถ้าเจ้าชายเป็นคู่ของนางจริงๆ คงไม่แคล้วกันหรอก เรื่องอย่างนี้ต้องใช้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะพะย่ะค่ะ

      แต่ดูท่าเจ้าชายจะอดรนทนไม่ไหวจริงๆ กระหม่อมเองก็อยากจะเห็นเจ้าหญิงที่เจ้าชายพูดถึง ในวันต่อมากระหม่อมจึงควบม้าขาวที่ได้รับพระราชทานจากองค์ราชาเพื่อจะได้เห็นหน้าของเจ้าหญิง

      กระหม่อมเห็นว่ามีสตรีนางหนึ่งอยู่ที่ชั้นบนสุดของหอคอยหิน กระหม่อมเพ่งมองไปที่เธอคนนั้นอยู่นานแต่ก็มองไม่ชัดอยู่ดี กระหม่อมเพ่งจนเธอรู้ตัวจึงต้องรีบควบกลับพระราชวัง

      ในวันนั้นเจ้าชายถามถึงเจ้าหญิง กระหม่อมทูลไปตามตรงว่าเจอนาง เจ้าชายดูจะร้อนพระทัยมากเพราะเจ้าชายไม่มีโอกาสเห็นหน้านางสักครั้ง กระหม่อมจึงเสนอให้ไปในเวลาเดียวกับกระหม่อม

      แต่เจ้าชายเองก็ไม่กล้าไปตามลำพัง จึงขอให้กระหม่อมไปก่อน เป็นอย่างนี้เกือบทุกวันที่กระหม่อมจะไปปรากฏตัวให้เจ้าหญิงเห็น และเจ้าชายก็จะแอบมองเจ้าหญิงจากด้านล่างของหอคอย

      กระหม่อมคิดว่า ถ้ายังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปกระหม่อมคงไม่มีทางได้เห็นใบหน้าชัดๆของเจ้าหญิงบนหอคอย อีกทั้งยังไม่รู้ด้วยว่าเจ้าหญิงมีคุณสมบัติเหมาะสมกับเจ้าชายจริงหรือเปล่า

      กระหม่อมตัดสินใจไปหาเจ้าหญิงด้วยตัวเอง ถามไถ่ถึงสิ่งที่เธอทำในยามว่าง และความสามารถอื่นๆ จากการประเมินของกระหม่อม กระหม่อมเห็นว่าเจ้าหญิงมีคุณสมบัติเหมาะสมกับเจ้าชายจริงๆ เจ้าหญิงถูกเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นคู่ครองของเจ้าชาย

      แต่ทว่า...เจ้าหญิงยังคงเข้าใจผิดคิดว่า กระหม่อมเป็นเจ้าชาย และเมื่อกระหม่อมบอกความจริงไปดูเจ้าหญิงจะเสียพระทัยพอควร อาจเป็นเพราะอย่างนั้น เจ้าหญิงจึงถามกระหม่อมด้วยคำถามไร้สาระว่า จะมีทางไหนบ้างที่เจ้าหญิงจะได้ครองรักกับกระหม่อม

      กระหม่อมได้ยินดังนั้นจึงตอบด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงว่า ถ้ากระหม่อมเป็นเจ้าชาย กระหม่อมก็คงได้ครองรักกับเจ้าหญิง เมื่อได้ฟังดังนั้นเจ้าหญิงก็แสดงท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไร

      กระหม่อมคิดว่า เจ้าหญิงคงจะเข้าใจในเรื่องที่ว่า กระหม่อมไม่ใช่เจ้าชายแล้ว และในที่สุดวันที่เจ้าชายมาพบเจ้าหญิงด้วยพระองค์เองก็มาถึง กระหม่อมขออยู่ข้างล่างเพื่อให้พระองค์ได้อยู่กับเจ้าหญิงตามลำพังแต่เจ้าชายขอให้กระหม่อมรออยู่ที่หน้าประตู เรื่องทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี

      กระหม่อมเห็นเจ้าหญิงบอกให้เจ้าชายหลับตาลง กระหม่อมยิ้มดีใจในความสำเร็จครั้งนี้และพยักหน้าเห็นด้วยกับการที่เจ้าหญิงจะมอบจุมพิตให้แก่เจ้าชาย

      ...แต่ทว่า เจ้าหญิงกลับพาเจ้าชายไปริมหน้าต่างและผลักพระองค์ ...ภาพที่เห็นทำให้กระหม่อมตัวเย็นเฉียบราวกับเป็นเป็นผู้ลงมือสังหารเจ้าชายด้วยมือคู่นี้

      เจ้าหญิงจูงมือกระหม่อมเข้าไปในห้องและแสดงอาการพอพระทัย สรวลไม่หยุด ต่างจากกระหม่อมที่นั่งนิ่งเพราะสิ่งที่เห็นเมื่อครู่...กระหม่อมทำพลาดไป...กระหม่อมไม่คิดเลยว่า นางจะเป็นคนใจวิปริต จิตวิปลาสเช่นนี้

      ...เป็นความผิดของกระหม่อมเอง และในเมื่อเจ้าชายกับเจ้าหญิงไม่อาจเคียงคู่กันในยามมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีอีกหนทางหนึ่งคือ ให้ทั้งสองได้เคียงคู่กันในยามที่สิ้นชีวิต

      กระหม่อมชักชวนให้เจ้าหญิงผู้วิปลาสมาเต้นรำคู่กับกระหม่อม ดูนางเองจะไม่สงสัยอะไร กระหม่อมให้นางจับมือกระหม่อมไว้หลวมๆ

      และเมื่อสบโอกาสกระหม่อมก็เหวี่ยงนางออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อกระหม่อมได้ยินเสียงกระแทกจากพื้นหินด้านล่าง กระหม่อมก็ตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ทุกคนที่อ่านได้ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมด

      เมื่อพวกท่านได้อ่านจดหมายฉบับนี้ย่อมเป็นเครื่องแสดงว่า กระหม่อมได้จากโลกนี้ไปแล้วด้วยมีดที่เจ้าชายได้พระราชทานไว้ให้กระหม่อม

      สุดท้ายนี้ กระหม่อมอยากให้ทุกคนสาปแช่งกระหม่อมเพียงผู้เดียว เพราะเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากความไม่รอบคอบของกระหม่อมเอง ที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ขึ้น กระหม่อมได้แต่ภาวนาให้เจ้าหญิงและเจ้าชายได้ครองรักกันอย่างมีความสุขในชาติภพหน้าด้วยเถิด...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×