ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    War Of Heaven :: สงครามล้างพันธุ์อสูร

    ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 26 :: ฝ่าพายุ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 76
      0
      11 ก.ค. 49

                    "บ้าเอ๊ย!!!" เรสบถดังลั่นเมื่อเห็นสภาพภายในห้องเครื่อง น้ำรั่วเข้ามาราวๆสองฟุตได้แล้ว แต่ยังดีที่เครื่องยนต์ส่วนมากไม่ได้รับความเสียหาย

                    "จะเอาไงล่ะ?" ซันหันกลับมาถามเพื่อนที่ยืนข้างๆ

                    "ชินก็บอกแล้วนี่... ต้องรีบปิดประตูกั้นน้ำก่อนที่มันจะท่วมไปห้องเครื่องที่สอง"

                    "งั้นก็แยกกันไปปิด ฉันจะปิดประตูกั้นน้ำ นายไปปิดแผงวงจรไฟฟ้าในเรือ" ซันเอ่ยเรียบก่อนจะเดินลุยน้ำไปทางแผงควบคุมข้างประตู ขณะที่เรเดินมุ่งหน้าไปอีกทาง

                ครืน!!

                    ประตูเหล็กกว่าสามนิ้วค่อยๆเลื่อนลงมาเรื่อยๆในขณะที่กระแสน้ำยังไหลทะลักเข้ามาไม่หยุด จากความสูงเพียงสองฟุตในตอนแรก ตอนนี้กลับท่วมขึ้นมาอีกราวๆหนึ่งฟุตได้ และกำลังจะท่วมล้ำเข้ามายังห้องเครื่องที่สอง

                    จะเอาอยู่ไหม?...

                    ความกังวลปรากฏขึ้นรางๆในใจ ในขณะที่ประตูตรงหน้าเลื่อนปิดลงจนสนิท...

                    .......................

                    ทุกอย่างเงียบงันลงเหลือเพียงแต่เสียงคำรามครืนครานข้างนอก...แต่แล้ว...

                    ครืน!!!!

                เรือถูกซัดเอียงวูบอย่างไม่ทันตั้งตัว ซันรู้สึกเพียงแต่ว่าตัวเองเสียหลักล้มลง และก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบไป เขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งกำลังเรียกหาเขา ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างรุนแรง...

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    ครืน!!!!

                "โอ๊ย!" เครสล้มลงจากบันไดโครเมียมลงมาราวๆห้าขั้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ดูเหมือนว่าคลื่นจะซัดโถมเข้าหาเรืออีกระลอก เธอคลำข้อเท้าเบาๆก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้น

                    มืดสนิท...

                    จากหลอดไฟที่เคยติดๆดับๆ แต่ตอนนี้มันกลับดับสนิทไปแล้ว ตั้งแต่เดินลงมาจากดาดฟ้ายังพอมีไฟสำรองกะพริบๆให้อุ่นใจอยู่บ้าง แต่พอเข้ามาในส่วนท้องเรือ...ทุกอย่างกลับมืดสนิท...

                    เธอต้องอยู่ตัวคนเดียวในความมืด...ในเรือลำนี้ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะจมลงก้นทะเล...

                    เครสพยายามเดินต่อไปข้างหน้าเอยๆ มือทั้งสองข้างควานไปในความมืด... ไม่มีแม้แต่แสงไฟ...

                    "ซัน...เร..." เสียงแหบพร่าเอ่ยเรียกทั้งๆที่ใจก็กลัวเหลือเกิน... ไม่ได้กลัวที่ต้องอยู่คนเดียว... ไม่ได้กลัวที่เรือจะล่ม... แต่กลัว... ถ้าจะหาสองคนนั้นไม่เจอ...

                    "ซัน...เร...ตอบมาสิ ไอ้พวกบ้า!" ยิ่งเดินก็ยิ่งมืด ยิ่งเงียบลงทุกทีๆ ทำไมล่ะ? ทำไมไม่ตอบ?

                    "ไหนสัญญาไว้ไง... ก็ไหนบอกไว้ว่าจะไม่ทิ้งเราไง..." เสียงเริ่มขาดห้วงลง ลำคอร้อนผ่าว น้ำตาค่อยๆไหลลงอาบแก้มช้าๆ

                    ไม่เอาอีกแล้ว...การสูญเสีย...

                    ไม่เอาอีกแล้ว...ถ้าจะต้องอยู่คนเดียว...

                    ไม่เอาอีกแล้ว...

                    ทั้งพ่อกับแม่...ก็เป็นแบบนี้ ทิ้งเธอไปทั้งๆยังงี้... แล้วเธอจะเหลือใคร? จะเหลือใครอยู่อีก?

                    แล้วแสงไฟลำเล็กๆก็ปรากฏขึ้นที่สุดทางเดิน...

                    "เร!!! ซัน!!!" เครสตะโกนลั่น ยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะลุกขึ้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งปางแสงไฟนั้น เธอได้ยินเสียงผู้ชายตะโกนตอบกลับมาแว่วๆกับเสียงฝีเท้าก้องหนักๆ... กำลังวิ่งมาทางนี้...

                    แล้วร่างที่ปรากฏตรงสุดปลายทางเดินนั่นก็เป็นคนที่เธอกำลังหา

                    "เร!!" ร่างบางพลันโถมเข้าหาเด็กหนุ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงร้องไห้เบาๆดังอยู่ข้างหูเขามือเล็กๆที่สั่นเหลือเกินกำลังดึงเสื้อเขาแน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะหนีไปไหนเสียไกล

                    "ยัยบ้า! บอกแล้วว่าให้อยู่ข้างบนลงมาทำไม?" ถ้อยคำที่เหมือนจะว่าแต่กลับแฝงแววอ่อนโยนอย่างทุกครั้ง

                    "พวกนายนั่นแหละ! ฉันลงมาตามพวกนายขึ้นไปเพราะพอลกำลังจะปิดประตูกั้นน้ำ ฉันกลัวพวกนายจะถูกขังอยู่ในห้องเครื่อง" เครสผละถอยออกมาจากร่างสูง ก่อนจะทันสังเกตเห็นสิ่งที่หายไป...

                    "แล้วซันล่ะ?"

                    "หมอนั่นอยู่ห้องเครื่อง ไปปิดประตูนั่นแหละ ไม่ต้องห่วงหรอก ประตูกั้นน้ำมันจะค่อยๆปิด มันน่ะยังไงก็ออกมาทันอยู่แล้ว" เรว่าเมื่อเห็นสีหน้าซีดๆของเพื่อน...รู้ว่ายังไงมันก็ต้องเป็นห่วง...ห่วงมากกว่าตัวเอง...

    "ไปดูเถอะ... รู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้" เจ้าหล่อนว่าก่อนจะสาวเท้าเดินนำทั้งๆที่ขาตัวเองก็ยังเจ็บ

    ทั้งคู่เดินต่อไปจนถึงห้องเครื่องที่สาม ผนังเรือบริเวณนั้นปริร้าวใกล้จะทะลุเต็มที ห้องเครื่องที่สองถูกน้ำซัดจนผนังยุบไปด้านหนึ่ง และน้ำก็กำลังไหลบ่าเข้ามาเรื่อย แต่สวิตซ์ไฟที่ผนังห้องยังเรืองแสงสีแดงๆเป็นสัญญาณว่าประตูที่กั้นระหว่างห้องที่สองและสาม กำลังปิด...

    แต่สิ่งที่อยู่ในนั้นคือร่างของคนอีกคนที่พวกเธอตามหา...

    "ซัน!!!"

    ทั้งคู่ถลาเข้าไปหาประตูที่กำลังปิดลงนั้น แต่ทว่ามันช้าเกินไป ประตูปิดต่ำลงมาจนเกือบจะถึงพื้นอยู่แล้ว!!!

    "ซัน!!! ซัน!!! ตื่นสิโว้ยไอ้บ้า!!!! โธ่เว้ย!!" เรทุบประตูเสียงดังพยายามจะดันมันขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผล

    "ซัน!!! ลุกสิ!!! ซัน!!! ได้โปรด... ได้โปรด... อย่านะ..." เครสพึมพำแผ่วเบา ก่อนจะหันไปมองเรอย่าตื่อนตระหนก

    "ที่ห้องบังคับการข้างบนมีแผงควบคุมเปิดประตู... เครส อยู่ที่นี่ รออยู่ตรงนี้นะ ฉันจะกลับมาฉันสัญญา" ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่นั้นมองเธอ เหมือนจะเป็นคำยืนยัน

    "เราจะต้องรอดไปด้วยกัน... ฉันสัญญา..."

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    "โอย..."

    ซันค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นกุมหัวที่ปวดตุบด้วยสัญชาติญาณ... เขาหมดสติไปนานเท่าไหร่กันนะ? แต่เท่าที่รู้ตอนนี้... น้ำเริ่มสูงขึ้นมาราวๆฟุตหนึ่งได้แล้ว ตอนสลบเขาไม่ได้นั่งพิงกำแพงไว้ ป่านนี้คงจะจมน้ำตายไปอย่างไม่ต้องสงสัย

    "โธ่เว้ย!" เด็กหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย... ตอนนี้เขาอยู่ในห้องปิดตาย... ประตูเหล็กหนาหนักทั้งสองข้างปิดลงโดยสมบูรณ์...

    จะทำยังไง?...

    เขาได้ยินเหมือนเสียงทุบปึงๆดังมาจากข้างนอก แต่น่ากลัวว่านั่น...อาจจะเป็นเสียงน้ำ...

    ผนังเริ่มร้าวมากกว่าเดิม ตอนนี้น้ำท่วมเข้ามาถึงเอวเขาแล้ว

    ...ถ้าไม่ออกไป มีหวังได้ตายอยู่ที่นี่แน่...

    สวิตซ์ตรงนี้ทำได้แค่ปิดประตู หรือถ้ามันจะเปิดได้มันก็คงจะพังแล้วไปอย่างไม่ต้องสงสัย...

    คิดสิ... คิด!!

    "โธ่เว้ย!!!" เด็กหนุ่มเตะประตูดังโครมก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วรวบรวมสมาธิ... ตอนนี้ ต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน...

    เขามีพลังจิตนี่!! ใช้พลังจิตละลายกำแพงออกไปก็สิ้นเรื่อง!!!

    ซันยกแขนขึ้นตั้งฉากกับพื้น ดวงตาสีเหล็กเพ่งมองไปยังประตู...

    ถ้าประตูละลายออก... หมายความว่าน้ำจะรั่วเข้าไปถึงทางเดิน ตัวเรือด้านบนก็ไม่มีประตูกั้นน้ำ...หมายความว่าเรือลำนี้จะจมลงสู่ทะเลน้ำตา...

    ทุกคน...จะจมลงไปในก้นมหาสมุทรอันมืดมิดแห่งนี้...

    โครม!!!

    กระแสน้ำพุ่งทะลักเข้ามามากกว่าเดิม เพียงแค่โครมเดียว แต่น้ำกลับไหลเข้ามาจนท่วมอกเขาแล้ว!!!

    ไม่เหลือเวลาให้ตัดสินใจอีกต่อไป ถึงเขาจะอยากใช้พลังจิตในตอนนี้ ประตูเหล็กหนาสามนิ้วก็ใช่ว่าจะระเหยออกได้ง่ายๆ หรือถ้าจะทำได้จริงเขาคงจมน้ำตายไปก่อนแล้ว...

    เขายืนอยู่ตรงนั้น แย้มรอยยิ้มราวกับว่าถอดใจ...ตัวเองจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ...แต่สุดท้ายแล้ว...

    ขอแค่ทุกคนรอดไปได้ก็พอ...

    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    กึง! กึง!

    เรกระโจนขึ้นบันไดทีละสามขั้นด้วยด้วยความใจร้อน เขาอยากจะบินไปซะด้วยซ้ำ อยากจะทำอะไรก็ได้ที่จะช่วยซันให้เร็วที่สุด!

    "พอล!!!" เด็กหนุ่มตะโกนก้องทันทีที่โผล่ขึ้นมาบนดาดฟ้า สีหน้าของทุกคนที่มองเขาดูเหมือนจะโล่งใจและตกใจไปพร้อมๆกัน

    "เร... ไม่เป็นไรใช่ไหม?" ทรายเอ่ยถามก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาคนอีกสองคนที่ควรจะขึ้นมาด้วย แต่ก็กลับไม่มีวี่แวว

    "ไม่! ซันยังติดอยู่ข้างล่าง มันออกมาไม่ได้ แผงควบคุมอยู่ไหนผมจะไปเปิดสวิตช์…"

    "ไม่ได้!!"

    คำประกาศกร้าวของกัปตันเรือ ทำเอาทุกชีวิตในที่นั้นหันกลับไปมองอย่างไม่อยากจะเชื่อหู เรถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อของแอ๊คขึ้นมาก่อนจะตะโกนลั่น

    "จะปล่อยให้ซันมันตายรึไง!!! พี่มีเหตุผลอะไรที่จะทิ้งมันไว้ยังงั้น มันเป็นเพื่อนผมทั้งคนนะ มันต้องรอดสิ!!!"

    "เร!!!" ชายหนุ่มตวาดกลับแทบจะในทันที

    "...น้ำท่วมห้องเครื่องที่สองไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว..."

    ถ้อยคำที่เหมือนประกาษิตเรียกให้ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยเบิกกว้างก่อนที่มือแกร่งจะค่อยๆคลายออก

    "พ...พี่แอ๊ค...หมายความว่าไง..."

    "อย่าหลอกตัวเองเร! ถ้าซันยังอยู่ในห้องนั้นจริง...ต่อให้เปิดประตูขึ้นมาตอนนี้...มันก็ไม่ทันแล้ว..."

    สายฝนโหมกระหน่ำซัดเรือลำน้อยที่อยู่กลางทะเล ราวจะตอกย้ำคำพูดทั้งหมดว่าเป็นเรื่องจริง ร่างสูงของเด็กหนุ่มทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

    "โธ่เว้ย!!!" กร วิล แชง ทุบกำปั้นลงกับพื้นเรือ มือของเขากำแน่นจนเห็นข้อนิ้วซีดขาว ใบหน้าของเด็กหนุ่มก้มลงถูกปิดบังไว้ด้วยเรือนผมสีทองที่เปียกชุ่ม

    ...ไม่มีอีกแล้ว...เพื่อนที่เคยต่อสู้ร่วมกันมา...

    เพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ...

    ทรายทรุดฮวบลงกับพื้น ร่างของเธอสั่นเทา ไม่ใช่เพราะความหนาวเย็นที่มาจากน้ำฝน แต่เพราะความหนาวยะเยือกจากในหัวใจ...

    หัวใจที่เพิ่งจะแบกรับการสูญเสีย...

    "ท...ทำไม..." หยาดน้ำตาค่อยพร่างพรูลงมาเป็นสาย น้ำคำที่ขาดห้วงไปด้วยเสียงสะอื้น เมกับหลินก็ได้แต่เข้ามากอดเพื่อนไว้แน่น ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

    "ผมจะไปหาเครส..." เรลุกขึ้นเอ่ยเสียงแผ่วเบา ไม่มีใครรั้งเขาไว้ ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงแห่งความอาดูรของตนเองกับหยาดน้ำตาที่ไหลรวมไปกับสายฝนที่พร่างพรม...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×