ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    War Of Heaven :: สงครามล้างพันธุ์อสูร

    ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 17 :: มิตร...หรือศัตรู?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 116
      0
      10 ธ.ค. 48

                         \"ทราย!!!!!!!!\"



                         พายุทรายโหมพัดผ่านประตูหน้าต่างที่แตกพังเข้ามาภายในกวาดข้าวของทุกอย่างให้พังราบเป็นหน้ากลอง เม็ดทรายเล็กละเอียดฝังคมลงบาดเนื้อศัตรูให้ถอยร่นลงไปตั้งหลักด้วยความงุนงง



                         Marine anger!!!



                         เกลียวคลื่นสีฟ้าครามสาดซัดเข้าซ้ำไม่รอให้ใครได้ทันตั้งตัว ก่อนที่เมโลดี้ เบิร์นบลิซจะก้าวออกมายืนอยู่ข้างทราย...



                         \"ใครอยากตายก็ดาหน้าเข้ามา\" ทรายเอ่ยเสียงกร้าวแววตาเอาจริงอย่างที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน บรรดาครึ่งอสูรผงะถอยหลังก่อนจะแยกเขี้ยวคำรามแค่นเสียงหัวเราะออกมา



                         \"แม่สาวน้อย... เธอจะทำอะไรพวกเราได้หือ?\" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากเบื้องบน ก่อนที่หลังคาจะถูกกระแทกโครมพังลงมา ฝุ่นควันฟุ้งตรลบขึ้นบดบังทัศนวิสัยก่อนจะค่อยๆจางลงพร้อมกับการปรากฏตัวของหัวหน้าทีมผู้บุกรุก... ครึ่งอสูรรูปร่างหน้าตาเหมือนค้างคาวยักษ์ ร่อนลงพื้นช้าๆ ดวงตาสีเหลืองปูดโปนกวาดมองอย่างมาดร้าย มันแสยะแยกเขี้ยวคมกู้ร้องคำรามเสียงดังก้อง ร่างผอมเกร็งกับผิวสีเทาหม่นเหมือนว่าจะหุ้มไว้เพียงข้อกระดูกสร้างความฉงนให้แก่คนมองว่ามันสามารถเดินอยู่ได้อย่างไรโดยที่ไม่ร่วงหักลงมาเป็นชิ้นๆ



                         \"แกจะลองดูหน่อยมั้ยล่ะ? เห็นแล้วนี่ว่าเมื่อกี้น้องชายฉันส่งเพื่อนแกไปลงนรกยังไง?\" ทรายกล่าวตอบพร้อมก้าวข้ามร่องพื้นเข้ามายืนข้างซัน



                         \"ทำเป็นปากเก่งไป ขนาดจตุจันทรายังทำอะไรฉันไม่ได้ นับประสาอะไรกับแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม- -\"



                         ครืน!!!!!!!



                         จู่ๆบ้านทั้งหลังก็สั่นสะเทือนรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ ผืนดินปริแยกออกเป็นเสี่ยงๆขวางกั้นเหล่ามนุษย์ให้พ้นจากครึ่งอสูร ซากบ้านที่ร้าวอยู่แล้วพังครืนลงมาไม่เป็นท่า เปลี่ยนจากที่อยู่ศัยให้เป็นเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น



                         เฟี้ยว!!!- -ฉึก!!!!



                         ขนนกสีขาวสะอาดพุ่งลงปักพื้นเฉียดร่างค้างคาวยักษ์ด้วยความเร็วสูงราวกับเป็นสาสน์ท้ารบ ดวงตาสีเหลืองมาดร้ายเหลือบขึ้นมองด้านบนก่อนจะพบกับเจ้าของสาสน์ที่ว่า...



                         Feather pin!!!!!!!!



                         เฟี้ยว!!!! - -ฉึก ฉึก ฉึก!!!!



                         ขนนกแหลมคมนับร้อยพุ่งลงมาราวห่าฝนเข้าทิ่มแทงร่างครึ่งอสูรทั้งหมดอย่างไร้ความปรานี เด็กสาวร่างเล็กแย้มรอยยิ้มเย็นอยู่กลางอากาศ... เบื้องหลังเธอคือปีกนกสีขาวสะอาด เรือนผมสีดำสนิทปลิวไสวตามสายลม ผิวขาวนวลดูราวกับว่าเธอคือนางฟ้า จะผิดก็แต่เพียงแววตาเยือกเย็นอำมหิตเท่านั้น ที่บ่งบอกว่าเธอไม่ได้น่ารักเหมือนรูปกายภายนอกแต่อย่างใด...



                         \"ที่แกบอกว่าจตุจันทราไม่สามารถแตะต้องแกได้น่ะ เป็นเพราะเขาไม่อยากทำมากกว่าล่ะมั้ง?\" ถ้อยคำเสียดสีแกมขบขันดังขึ้นจากด้านหลัง เด็กสาวเรือนผมสีชมพูสดก้าวเข้ามาช้าๆ เจ้าหล่อนค่อยๆดึงริบบิ้นผูกผมออก ก่อนจะสบัดสายริบบิ้นเป็นวงพลิ้วดูสวยงาม แต่ทว่า...



                         ฉัวะ!! ฉัวะ!!!!



                         \"อ๊ากกกกกกกก!!!!!!!\"



                         ริบบิ้นที่คมยิ่งกว่าใบมีด เฉือนร่างเหล่าอสูรเป็นชิ้นๆ เลือดสีเขียวสาดกระเซ็นเป็นสาย ร่างเหล่าอสูรล้มลงไปกองกับพื้นราวใบไม้ร่วงโรย ทว่ารอยยิ้มยังคงฉาบอยู่บนใบหน้าของพวกมัน



                         \"เปล่าประโยชน์น่า... ยังไงพวกข้าก็ฟื้นฟูบาดแผลได้อยู่ดี ฮ่าๆๆๆ!!\"



                         \"อ้อ... ก็อาจจะใช่นะ... แต่คงจะอีกสองวัน สามวัน หรือหนึ่งอาทิตย์...\"



                         \"พูดบ้าๆ!!! แค่ไม่กี่นาที ไม่สิ...วินาที พวกข้าก็ลุกขึ้นมาฆ่าแกได้แล้ว!!\" มันตวาดก้องก่อนจะแสยะรอยยิ้ม ทว่าบีบีกลับหัวเราะเสียงดังยิ่งกว่า



                         \"แกนี่มันโง่ชะมัด... รู้อะไรไหม? ว่าอาวุธของฉันกับรีริสน่ะฉาบด้วยสารเคมีพิเศษ... สารเคมีที่ชะลอการฟื้นฟูเซลล์ของพวกแกไงล่ะ เพราะฉะนั้น... กว่าที่แกจะสมานแผลตัวเองลุกขึ้นมาฆ่าฉัน ฉันก็อาจจะจุดไฟเผาแกให้แหลกเป็นจุณๆส่งแกลงนรกไปก่อนแล้วก็ได้\"



                         \"ป...เป็นไปไม่ได้\" แววตาตื่นตระหนกปรากฏบนดวงตาสีเหลืองเข้มของมันก่อนที่ปีกสีเทาหม่นจะสยายออกรวดเร็ว



                         \"ถอย!!! วันนี้พอแค่นี้!!!\" คำสั่งถอนกำลังดังขึ้นในทันที แต่ถึงต่อให้ไม่มีคำสั่งก็ไม่มีอสูรตนไหนคิดจะอยู่ที่นั่นต่อ พวกมันถอยร่น พลางหอบหิ้วร่างเพื่อนไปด้วย เจ้าค้างคาวยักษ์ตวัดสายตามองบีบีอย่างมาดร้ายก่อนจะออกบินเหนือนน่านฟ้ายามราตรีลับหายไป



                         \"พอล...ไป!!\" จิ้งตวาดเอ่ยคำสั่งเสียงห้วน เรียกพอลให้คืนสติ เด็กหนุ่มมีท่าทีลังเลเมื่อรีริสกับบีบีค่อยๆหมุนตัวกลับมามองพวกเขา



                         \"ไปสิ!!!!!\"



                         Warp dome!!!



                         วาบ!!!!



                         .................................



                         \"ฮึ... รู้ตัวเร็วเป็นบ้าเลย\" ซินเธียก้าวออกมาจากเงามืดหลังจากที่พวกจิ้งงลับหายไปกับหลุมมิติของพอลเรียบร้อยแล้ว



                         \"ก็มีแต่เฉพาะคัลลิสโต เท่านั้นแหละ\" คิลตามเข้ามาสมทบเพื่อนๆ เด็กหนุ่มมองเศษซากที่เหลือของครึ่งอสูรด้วยแววตาดูถูกอย่างไม่ปิดบัง



                         \"ช่างเถอะน่า เราไม่ได้มาดี แต่ไม่ได้มาร้าย ที่มานี่เพราะท่านซูสสั่งมาหรอก\" หยกขาวบ่นก่อนจะยักไหล่เชิงไม่แยแส



                         \"ไม่ใช่มิตร แต่ไม่ใช่ศัตรูสินะ?\" รีริสเอ่ยรับพลางผูกริบบิ้นกลับไว้ที่ผมเหมือนเดิม ขณะที่บีบีร่อนลงมายืนที่พื้นก่อนจะสลายปีกออกเป็นเศษขนนกธรรมดา ดวงตาสีดำกลมโตเหลือบมองท้องฟ้าก่อนจะแย้มรอยยิ้ม



                         \"ใครจะไปรู้?... พวกเราอาจจะเป็นทั้งมิตรเป็นทั้งศัตรูในคราวเดียวกันก็เป็นได้...\"



                         ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~



                         วาบ!!!!



                         สิบสองชีวิตปรากฏขึ้นหน้าอาคารสีขาวหลังใหญ่... อาคารที่คุ้นตา... ที่อยู่ของพวกจตุจันทรา...



                         \"พอลวาร์ปพาเครสกับซันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวผมจะเข้าไปคุยกับซูส\" จิ้งเอ่ยคำสั่งต่อเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าพอลต้องพาพวกเขามาที่นี่อยู่แล้ว ชายหนุ่มพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่กลับต้องทรุดลงไปอีกหน

                        

                         \"พี่จิ้ง พี่จิ้งไม่ไหวแล้วนะ พักก่อนเถอะ\" เจเอ่ยเสียงเครียดก่อนจะเข้าไปช่วยพยุงร่างชายหนุ่มให้ค่อยๆทรุดลงนั่งกับพื้น



                         \"ถ้าใช้พลังพิเศษมากเกินไปจนร่างกายถึงขีดจำกัด ร่างกายจะได้รับอันตรายถึงชีวิต\" ทรายเอ่ยเรียบๆ เธอยังคงเลี่ยงไม่มองหน้าเจ จิ้ง หรือแม้แต่หลิน แต่เพียงฟังจากน้ำเสียงของเธอทุกคนก็รู้...



                         \"พี่จิ้งเชื่อทรายเถอะนะ เห็นยังงี้ก็เถอะ แม่ทรายเป็นหมอเชียวนะ\" เมเอ่ยสำทับพร้อมรอยยิ้ม



                         \"งั้นผมไปล่ะนะ พี่เจ พี่หลิน ฝากทางนี้ด้วย\" พอลทิ้งท้ายก่อนจะเปิดหลุมมิติวาร์ปพาพวกเครสไปส่งที่โรงพยาบาลพร้อมทรายและเม



                         \"ซูสนี่คนที่มาบ้านเมื่อวันนั้นใช่ไหม? เดี๋ยวสิชาจะเข้าไปคุยให้แล้วกัน\" สิชาเอ่ยก่อนจะส่งร่างแพมให้หลินแล้วก้าวอาดๆเปิดประตูรั้วเข้าไปอย่างไม่เกรงใจใคร โดยไม่ลืมที่จะพาแพนไปด้วย



                         ชายหนุ่มถอนหายใจเบาเชิงยอมแพ้ ก่อนจะพลันสบกับดวงตาสีเลือดโดยบังเอิญ ถึงสีหน้าจะดูเฉยชาอยู่สักหน่อย ถึงบางทีเธอออกจะทำตัวห้าวไปสักนิด แต่เวลานี้เธอคนนี้กลับเป็นห่วงเขายิ่งกว่าใคร...



                         \"งั้น...ผมยืมตักเจหน่อยแล้วกันนะ\"



                         \"เฮ้ย!! จะบ้าหรอ!! เดี๋ยวสิพี่จิ้ง จะมานอนอะไรตรงนี้เล่า!!!\"



                         แต่จิ้งดูเหมือนจะหลับไปแล้ว หรืออาจจะแกล้งหลับได้อย่างแนบเนียนที่สุด เจถอนลอบหายใจก่อนจะใช้ปลายนิ้วเขี่ยผมของชายหนุ่มให้พ้นจากใบหน้าแผ่วเบา หลินมองภาพตรงหน้าด้วยอาการทำตัวไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจหันหน้าหนีเอาซะดื้อๆ นึกบ่นพี่จิ้งอยู่ในใจว่ามุกจีบสาวของเขานี่แทบจะไม่ลงทุนเอาซะเลย ดวงตาสีนิลเหลือบขึ้นมองท้องฟ้าที่พร่างพราวได้วยดาวนับสิบดวง...



                         ...ไกลออกไป...ดวงตาสีเหลืองหม่นของเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังจับจ้องขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน...เรือนผมสีเงินปลิวไสวไปตามสายลมยามราตรี... มือข้างขวาของเด็กหนุ่มเปรอะเปื้อนเลือดสีเขียวข้นไล่ตั้งแต่ข้อศอกจนถึงปลายนิ้วสวมถุงมือที่กุมกระโหลกศีรษะของครึ่งอสูรตนหนึ่งอยู่...



                         \"ก...แก...ทำไม...\" ศีรษะอาบเลือดของครึ่งมนุษย์ค้างคาวที่นำทีมบุกทำร้ายพวกจิ้งเอยคำถามอย่างยากลำบาก แววตระหนกปรากฏอยู่ในดวงตาสีเหลือที่ปูดโปนจนแทบถลน แต่เดย์วอกลับเพียงแค่ปรายตามองอย่างเยือกเย็น



                         \"ฉันเตือนแกแล้ว คาฮีร์...\"



                         \"แต่นายน้อยไม่เป็นอะไร...ฉันไม่ได้ทำอะไร!\"



                         \"แกทำให้เขาโกรธ และนั่นคือสิ่งทำฉันกับเดรโกลงความเห็นว่าแกผิด\" เดย์วอเอ่ยเสียงเย็นเยียบ \"แกน่าจะขอบใจ ที่ฉันไม่นำเรื่องนี้ไปรายงานท่านจ้าวมอนเดโอ\"



                         \"ไม่ๆ... ฉันจะไม่มีวันทำอีก ได้โปรด\" ริมฝีปากม่วงคล้ำสั่นระริก เดย์วอเหลือบมองร่างที่นอนทอดอยู่ไม่ไกล มันกำลังฟื้นฟูบาดแผลอยู่ และอาจจะแตกเซล์สร้างศีรษะขึ้นมาใหม่ในไม่ช้าขณะที่ศีรษะเดิมถูกย่อยสลายไปเป็นเพียงฝุ่นเซลล์ ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันจะกลัวเขา ถ้าหากเขาไม่มีสิ่งนี้...



                         \"แกรู้ดีว่าสิ่งนี้คืออะไร...\" เดย์วอชูขวดใสเล็กๆที่บรรจุของเหลวสีแดงข้นไว้ครึ่งขวด ดวงตาของคาฮีร์เบิกกว้างจ้องมองด้วยความตระหนก ก่อนจะพร่ำอ้อนวอนเด็กหนุ่มผู้กำชีวิตของมันไว้ในอุ้งมือ เดย์วอเพียงแต่ขยับรอยยิ้มที่คาฮีร์ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต... ว่ากันว่า รอยยิ้มขององครักษ์เดย์วอจะปรากฏก็ต่อเมื่อยามที่เขาจะส่งวิญญาณศัตรูไปลงนรกเท่านั้น...



                         เปรี๊ยะ!!



                         ขวดแก้วถูกบีบลงกับศีรษะของคาฮีร์ เลือดสีแดงข้นเพียงไม่กี่หยดไหลซึมลงในบาดแผล คาฮีร์กรีดร้องทุรนทุรายในขณะที่เดย์วอรินเลือดหยดสุดท้ายลงบนร่างมัน



                         แทนที่จะได้ยินเสียงกรีดร้องทรมานทุรนทุรายกลับไม่มีสรรพเสียงใดๆ ดวงตาคาฮีร์ปูดโปนถลนมากกว่าเดิมเผยให้เห็นเส้นเลือดสีเขียวคล้ำในตาขาวชัด ผิวหนังเริ่มพุพองแตกออกราวกับผิวน้ำเดือด เค้าโครงหน้าค่อยๆซูบซีดลง เลือดเขียวข้นหยดลงไม่ทันถึงผื้นก็แห้งแตกเหลือเพียงผงเซลล์ จนในที่สุด...ในมือของเดย์วอก็มีแต่ความว่างเปล่า...



                         เด็กหนุ่มถอดถุงมือออก ก่อนจะจ้องมองเลือดสีแดงสดที่ปลายถุงมือด้วยสายตาพินิจพิจารณา... อานุภาพของมันร้ายแรงอย่างนี้นี่เอง... ครึ่งอสูรที่มีความสามารถเป็นเลิศในการพัฒนาซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอให้กลับมาอยู่ในสภาพเสถียรในเวลาอันสั้น ครึ่งอสูรที่ไม่ว่าถูกทำร้ายสาหัสถึงเพียงใดก็มิอาจถูกฆ่าให้ตายได้ถ้าไม่ใช่การทำลายถึงระดับอนุภาคของเซลล์ แต่เพียงสัมผัสเลือดนี่หยดเดียว ถึงกับต้องสลายเหลือแต่ฝุ่นผง... มิน่าเล่า จ้าวมอนเดโอถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนจนต้องส่งพวกเขามาที่นี่...



                         เป้าหมายของเขาคือกลุ่มคนที่มีเลือดแบบนี้ ชาวสวรรค์ที่มีเลือดทรงอานุภาพ...พวกเขาตามฆ่าคนกลุ่มนี้มาเกือบห้าสิบปี เท่าที่รู้ตอนนี้เป้าหมายของเขาเหลืออยู่เพียงคนเดียว... คนที่เป็นเจ้าของเลือดหยดเมื่อครู่...



                         อิสเมย์!!!



                        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×