ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : บทที่ 18 :: เรื่องของหัวใจ
                    แสงแดดสีขาวสาดทอลอดผ่านผ้าม่านบางเบาเข้ามากระทบเปลือกตาคนป่วยให้ค่อยๆปรือเปิดขึ้น ดวงตาสีอำพันกวาดมองรอบๆก่อนจะรับรู้ได้ถึงลมหายใจสม่ำเสมอของคนหลับที่ฟุบอยู่ข้างๆเตียง
                    \"ตื่นแล้วก็อย่าเผลอไปปลุกกเขาเข้าล่ะ เพิ่งจะหลับไปเมื่อกี้นี้เอง\"
                    เสียงนุ่มๆที่เอ่ยขึ้นเรียกให้เครสหันไปมองเจ้าของคำพูด ชายร่างสูงในเสื้อกาวน์สีขาวเรือนผมสีดำสนิทตั้งเป็นทรงอย่างดี ใบหน้าคมคายแย้มรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แกมขบขันที่ทำให้เธอต้องชั่งใจอยู่ชั่วครู่ว่าคนผู้นี้มาดีหรือมาร้ายกันแน่
                    \"ลูเครเซีย เชอร์ครี ไนเจลล์?\" ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยถาม ชายหนุ่มก็พลิกแฟ้มประวัติของเธอออกอ่านอย่างไม่เกรงใจใคร เครสขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะตัดสินใจเป็นฝ่ายนิ่งเงียบปล่อยให้เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียว
                    \"หืม?...มาจากโซรินท์ ได้ข่าวว่าที่นั่นทะเลสวยนี่ สงสัยไปเที่ยวเมื่อไหร่คงต้องรบกวนให้คุณเป็นไกด์ซะแล้ว\" เจ้าตัวแย้มรอยยิมก่อนจะเปิดแฟ้มประวัติต่อไป
                    \"จะว่าอึดหรือโชคดีก็ไม่รู้ แผลคุณไม่โดนจุดสำคัญ แต่ก็เล่นเอาผมลำบากแทบแย่\"
                    เครสมองหน้าเขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ชายหนุ่มอมยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ยตอบ
                    \"แหม... เย็บแผลไม่ได้ง่ายเหมือนปักผ้านี่ครับ แล้วกว่าจะหาเลือดสำรองมาให้คุณได้ก็เลือดตาแทบกระเด็น ดีที่ว่าโรงพยาบาลมีกรุ๊ปนี้เหลืออยู่ไม่งั้นผมคงต้องเชือดเอาเลือดเป็ดเลือดไก่มาใส่ตัวคุณแทนแล้ว\" หมอหนุ่มพูดติดตลก แต่คนฟังกลับยิ้มแห้งๆ พลางนึกหวาดๆคุณหมอคนนี้อยู่ในใจ
                    \"หมอชื่ออะไรคะ?\" เครสเอ่ยถามเป็นครั้งแกรหลังจากตัดสินใจแล้วว่าคุณหมอประหลาดคนนี้คงไม่มีพิษภัยอะไรกับเธอ
                    \"อ้าว! นึกว่าเป็นใบ้ซะอีก ปล่อยให้ผมพูดอยู่คนเดียวตั้งนาน\" ถ้อยคำหยอกล้อเอ่ยแซวขณะเขาเดินเข้ามาตรวจชีพจรของเธอก่อนจะลุกขึ้นไปตรวจดูปริมาณน้ำเกลือที่แขวนอยู่ข้างเตียง
                    \"อย่าเฉไฉสิ!\" เด็กสาวค่อนเข้าให้ก่อนจะพยายามเพ่งมองป้ายชื่อที่เจ้าตัวเบี่ยงหลบออกไปได้ทัน
                    \"ทุกอย่างเรียบร้อยดี ผมขอตัวไปตรวจคนไข้คนอื่นก่อนนะครับ หายเร็วๆนะ\" เจ้าตัวหันหลังโบกมือลาก่อนจะเปิดประตูออกไปทิ้งให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน...
                    คนพิลึก... เครสคิดในใจก่อนจะเหลือบสายตามองคนที่หลับสนิทได้ตั้งแต่ต้นจนจบ... แขนสองข้างที่หนุนต่างหมอนมีทั้งรอยขีดข่วนฟกช้ำนับไม่ถ้วน ใบหน้ามีรอยเขียวเป็นจ้ำๆราวกับหลักฐานแสดงว่าเมื่อวานพวกเธอเพิ่งผ่านสมรภูมิกับครึ่งอสูรนับร้อยมาจริงๆ
                    \"อือ...\" เด็กหนุ่มส่งเสียงอยู่ในลำคอ ก่อนจะค่อยๆปรือเปลือกตาเปิดขึ้น เจ้าตัวยกมือขึ้นขยี้ตาด้วยอากัปกิริยาเหมือนเด็กที่เรียกรอยยิ้มน้อยๆให้ผุดขึ้นบนหน้าพี่สาว
                    \"อรุณสวัสดิ์ ซัน\" เครสเอ่ยทัก
                    \"ห๋า!! เฮ้ย!! เครสตื่นแล้วหรอ เป็นไงมั่งเจ็บตรงไหนรึเปล่า!!\" ดูเหมือนซันจะตื่นได้เต็มตาก็คราวนี้ เรือนผมสีชายุ่งเหยิงยิ่งกว่าที่เคย ดวงตาสีเหล็กจ้องมองเธออย่างเป็นห่วง ดวงหน้าของเขาดูอิดโรยกว่าทุกครั้งเหมือนคนที่นอนไม่พอ
                    \"โอ๊ย!\" เครสพยุงตัวลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่ลืมไปว่าเจ็บอยู่ ซันยิ่งดูเป็นกังวลขึ้นอีกแต่พอเห็นเธอไม่เป็นไรเด็กนุ่มก็เผลอถอนหายใจก่อนจะทำหน้าตึง
                    \"สมน้ำหน้า\"
                    \"อ้าว! ทำไมพูดงั้นล่ะ\" เครสทำหน้ายุ่ง แต่น้องชายตัวดีกลับหันหน้าหนีไปทางอื่นซะดื้อๆ นี่เธอไปทำอะไรผิดตรงไหนหรือไง??...
                    \"ซัน...\" เครสเอ่ยเรียก แต่อีกฝ่ายยังคงนิ่ง...
                    \"ซัน...ซัน หันมาคุยกันก่อนสิ\" มือเล็กขยับไปดึงแขนเสื้อของน้องชาย แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงนิ่งเฉยจนเธอเริ่มร้อนใจ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไปชั่วครู่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมเอ่ยคำพูด ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่รู้จะเอ่ยคำง้อยังไง
                    \"ซัน... โกรธหรอ?\" เครสเอ่ยถามค่อย คราวนี้เด็กหนุ่มหันหน้ากลับมานิดหนึ่งแต่ไม่ยอมสบตาเธอ
                    \"โกรธสิ!\" ซันตอบ \"โกรธมากเลยรู้รึเปล่า... ทำไมไม่เชื่อล่ะ รู้ไม่ใช่หรอว่าฉันกำลังจะทำอะไร รู้แล้วทำไมถึงได้ทำแบบนั้น\"
                    \"ก็...มันทำไม่ได้นี่...\" เครสเอ่ยตอบค่อยๆ ซันหันหน้ากลับมาหาเธอ ดวงตาสีเหล็กมองเธออย่างอ่อนโยน แต่กลับดูเจ็บปวดลึกในคราเดียวกัน
                    \"พี่สาว...เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือไง? แล้วผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่...\" น้ำเสียงของเด็กหนุ่มขาดห้วงลง ดวงตาหลุบลงต่ำก่อนจะเอ่ยต่อ \"ความสูญเสียมันมากเกินพอแล้วสำหรับเราสองคน... สิ่งมีค่าสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ของผมก็คือพี่สาวโง่ๆคนนี้... ได้โปรดเถอะ... อยู่กับผมต่อไปเถอะนะ\" มือสั่นเทาของเด็กหนุ่มกุมมือเธอแน่น ความอ่อนแอที่เธอไม่เคยได้เห็นจากน้องชายคนนี้ ในเวลานี้มันกลับปรากฏชัด...
                    \"ขอโทษนะ...\" เครสเอ่ยแผ่วเบาก่อนจะกุมมือซันไว้แน่น
                    ผัวะ!
                   
                    \"เฮ้ย ซัน! พี่แกเป็นไงมั่ง- -\" กรถีบประตูยันเข้ามาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือก่อนจะชะงักกับภาพตรงหน้า เพียงชั่วครู่ดวงหน้าของเด็กหนุ่มก็ยิ้มพรายด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่กลับสร้างความร้สึกหนาวยะเยือกให้กับสองพี่น้องที่อยู่ในห้อง
                    \"แหม... ไม่รู้นะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้แกรสนิยมพี่น้อง...โอ๊ะๆ แต่ก็พี่น้องคนละสายเลือดนี่นาไม่เป็นไรล่ะมั้ง?\" กรเสแสร้งทำตาใสได้อย่างน่าถีบ ก่อนจะหัวเราะเสียงแหลมเสียดแทงโสตประสาทผู้ฟังได้อย่างดีเยี่ยม
                    \"ไอ้...กร.........\" เหมือนมีรัศมีอันตรายแผ่พุ่งออกจากร่างของซัน เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะย่างสามขุมเข้าหาเพื่อนรักที่ยืนหน้าเจื่อนอยู่ตรงประตู
                    \"แหะๆ...ซันเอ๊ย...ฉันล้อเล่น ใจเย็นๆน่ะ...\"
                    \"แก๊!!!!!!!! ตายยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!\"
                    \"เย้อ!!!!\"
                    กรรีบใส่เกียร์หมาโกยอ้าวก่อนจะโดนฆ่าตายคาที่ตรงนั้น ส่วนเรที่เพิ่งเดินสวนเข้ามาก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองเจ้าตัวยุ่งสองที่คนวิ่งสวนออกไปเหมือนเด็กไม่รู้จักโต
                    \"ไงล่ะ ตื่นแล้วหรอ?\" เด็กหนุ่มเอ่ยทักก่อนจะปิดประตูแล้วเดินเข้ามาข้างเตียง
                    \"เอ้านี่\" เด็กหนุ่มยื่นมีดสีเงินส่งกลับคืนให้เจ้าของ มีดที่เป็นของดูต่างหน้าสุดท้ายของแม่ และเกือบจะฆ่าเธอไปเมื่อคืนนี้ เวลานี้มันกลับดูสงบนิ่ง สง่างาม เหมือนวัตถุล้ำค่า คมมีดถูกเก็บไว้ในปลอกเงินสลักลายพระจันทร์คดโค้งราวเส้นไหม มูนสโตนที่ฝังอยู่บนด้ามมีดทอประกายยามต้องแสงแดด...
                    \"ขอบใจนะ\" เครสรับมีดมาก่อนจะกอดมันไว้แนบอก
                    \"รู้ว่าสำคัญก็หัดดูแลดีๆ อย่าเอาไปใช้ทำอะไรบ้าๆเหมือนเมื่อวานอีกล่ะยัยบ๊อง\" เรขยี้หัวเพื่อนสาวก่อนจะส่งยิ้มกวนประสาทน้อยๆมาให้
                    \"แกกับฉันจะคุยกันดีๆซักคำไม่ได้เลยสินะ...\" เครสยิ้มแยกเขี้ยวส่งให้เด็กหนุ่มที่หัวเราะเบาๆอยู่ข้างๆ
                    \"ก็เธอมันงี่เง่าเอง รู้ทั้งรู้ก็ยังทำอะไรโง่ๆ ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ตาย\" เรว่าเสียงเรียบแต่เล่นเอาคู่สนทนาพูดอะไรไม่ออกไปครู่ใหญ่ เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาก่อนจาลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
                    \"นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังบ้างก็ดีนะ...รู้อะไรไหม?...คนที่จะลำบากถ้าไม่มีเธอน่ะคือซัน...\"
                    \"...ฉัน...\"
                    \"ไม่ต้องพูดหรอกน่า แค่อย่าทำแบบนี้อีกก็พอ... นอนพักซะ ฉันไปล่ะ สงสัยป่านนี้ซันกับกรมันตีกันตายไปข้างแล้ว\" เด็กหนุ่มแย้มรอยยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง ทิ้งคนป่วยไว้ให้อยู่เพียงลำพัง...
                    ขอบใจนะ...เร...
                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                   
                    อีกด้านหนึ่งที่คฤหาสน์ของเหล่าจตุจันทรา ทุกสิ่งดูเหมือนจะเงียบสงัดไร้ผู้คน แต่ที่จริงแล้วกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในห้องประชุมด้านบนทั้งลูกหมู ปาร์โก้ สตอร์ม่า อาคเนย์และเงารุ้งกำลังเปิดประชุมกันเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวาน ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่แปลกใจเลยเมื่อสิชากับแพมเดินอาดๆเข้าไปรายงานเรื่องให้ฟัง
                    \"ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ทุกคนพักเอาแรงไว้ก่อนดีกว่า เรื่องวุ่นวายที่เหลือพวกเราจะเคลียร์ให้เอง\"
                    ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่เธอก็ยังไม่วางใจสักเท่าไหร่ ถึงเธอจะรู้จักจตุจันทรามาตั้งแต่จำความได้ แต่สมาชิกต่างก็เปลี่ยนหน้าไปตามรุ่น เธอไม่เคยรู้จุดประสงค์จริงของคนกลุ่มนี้ ทั้งไม่รู้ว่าพวกเขารวมตัวกันได้อย่างเรื่องใด รู้เพียงแต่ว่า...ไม่มีงานไหนที่พวกเขาจะทำพลาด...
                    ฝีเท้าของหญิงสาวหยุดลงตรงหน้าประตูบานหนึ่ง... เธอแง้มเปิดมันออกอย่างเงียบเชียบ โสตประสาทได้ยินเสียงลมหายใจดังสม่ำเสมอจากเจ้าของห้องที่ยังคงหลับเป็นตายมาตั้งแต่เมื่อวานจนนี่เกือบจะบ่ายแล้วชายหนุ่มก็ยังนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่เช่นเดิม เจแย้มรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาใกล้คนหลับมากยิ่งขึ้น เรือนผมสีเงินปัดอยู่บนใบหน้ากร้าน ลำแขนแกร่งทอดวางอยู่บนลำตัว รอยแผลเป็นจางๆนับไม่ถ้วนทอดยาวเต็มท่อนแขนราวกับเป็นสักขีพยานว่าบุรุษผู้นี้ผ่านการต่อสู้มามากมายเพียงใด หญิงสาวโน้มตัวเหนือใบหน้าของชายหนุ่ม ไม่บ่อยนักที่เธอจะได้สำรวจเขาใกล้ขนาดนี้ หางคิ้วข้างซ้ายของเขามีรอยแผลเป็นจางๆที่ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตามใบหน้ามีรอยฟกช้ำที่เพิ่งได้เป็นของฝากมาจากพวกครึ่งอสูรเมื่อวาน ดวงตาของชายหนุ่มยังคงปิดสนิทถึงแม้ว่าตอนนี้หน้าของเธอและเขาจะอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบ...
                    สายลมพัดหอบเอาไอหนาวผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดกว้าง ลมหายใจของเธอแทบจะประสานไปกับบุรุษตรงหน้า ดวงตาสีเลือดคู่สวยจับจ้องริมฝีปากของชายหนุ่มราวกับต้องมนตร์สะกด แล้วริมฝีปากบางก็ประทับจุมพิตลงอย่างอ่อนโยน...
                    \"คิดจะลักหลับกันแบบนี้ผมเสียหายนะเนี่ย\"
                    !!!!
                    ยังไม่ทันที่คนฉวยอาสจะได้ร้องตกใจ มือแกร่งก็คว้าหมับเอาร่างของเธอให้ล้มลงบนเตียงก่อนจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคร่อมร่างเธอไว้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กวนประสาทฉาบอยู่บนริมฝีปากที่เพิ่งถูกขโมยจูบไปเมื่อครู่ ส่วนใบหน้าของขโมยตัวดีบัดนี้ขึ้นสีแดงเรื่อราวกับคนเป็นไข้
                    \"คนบ้า!!!!!!!\" นึกคำพูดไม่ออกเจ้าหล่อนก็ด่าใส่หน้าเอาดื้อๆ เล่นเอาจิ้งตีหน้ายุ่ง
                    \"อะไร?...จู่ๆก็มาว่าผม เจน่ะแหละที่มาลวนลามผมก่อนแบบนี้ต้องชดใช้นะเนี่ย\" คำพูดส่อความคิดกับเสียงหัวเราะหึๆยิ่งเรียกเลือดให้ฉีดพุ่งขึ้นบนดวงหน้างามจนแดงก่ำ จะโกรธก็โกรธ จะอายก็อาย แต่ใจกลับเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่ออยู่ใกล้กับคนๆนี้ขนาดนี้
                    \"ปล่อยนะ!\" น้ำเสียงดุดันกับแววตาเกรี้ยวกราดชนิดแทบพุ่งทะลุคอหอยคนถูกมอง เล่นเอาจิ้งต้องยอมศิโรราบแต่โดยดี ชายหนุ่มปล่อยเธอให้เป็นอิสระก่อนจะยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้แต่รอยยิ้มก็ยังคงอยู่บนใบหน้า
                    \"เมื่อกี้มันเรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละน่า! เจไม่ได้คิดจะ- -จะทำอย่างนั้นสักหน่อย!\" ใบหน้าแดงก่ำชนิดที่ปิดความจริงไว้ไม่มิดยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้กับชายหนุ่มจนต้องหัวเราะตัวงอน้ำหูน้ำตาเล็ด
                    \"ขำอะไรนัก- -!!!!!!!!!\"
                    ยังไม่ทันที่คำพูดจะได้จบประโยค ริมฝีปากของคนพูดก็ถูกประกบปิดซะก่อน ดวงตาสีเลือดเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง เมื่อมือแกร่งดึงโอบเอวของเธอเข้ามาจนชิด ทั้งๆที่เธออยากจะดิ้นแต่เรี่ยวแรงกลับถูกช่วงชิงไปจนหมด ลมหายใจร้อนราวกับจะหลอมริมฝีปากของทั้งคู่ให้เป็นหนึ่งเดียว ยามเมื่อชายหนุ่มบรรจงถอนริมฝีปากออก ก็ดูเหมือนกับว่าสติของเธอจะถูกช่วงชิงตามไปด้วย
                    \"ถือว่าผมเอาคืนแล้วกัน...\" จิ้งเอ่ยก่อนจะปล่อยตัวเจให้เป็นอิสระแล้วก้าวออกจากห้องไป ทิ้งให้คนโดนฉวยโอกาสนั่งแปะลงกับพื้นอย่างหมดแรง...
                    ...ตาจิ้ง...คนบ้า!!...
                    \"ตื่นแล้วก็อย่าเผลอไปปลุกกเขาเข้าล่ะ เพิ่งจะหลับไปเมื่อกี้นี้เอง\"
                    เสียงนุ่มๆที่เอ่ยขึ้นเรียกให้เครสหันไปมองเจ้าของคำพูด ชายร่างสูงในเสื้อกาวน์สีขาวเรือนผมสีดำสนิทตั้งเป็นทรงอย่างดี ใบหน้าคมคายแย้มรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แกมขบขันที่ทำให้เธอต้องชั่งใจอยู่ชั่วครู่ว่าคนผู้นี้มาดีหรือมาร้ายกันแน่
                    \"ลูเครเซีย เชอร์ครี ไนเจลล์?\" ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยถาม ชายหนุ่มก็พลิกแฟ้มประวัติของเธอออกอ่านอย่างไม่เกรงใจใคร เครสขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะตัดสินใจเป็นฝ่ายนิ่งเงียบปล่อยให้เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียว
                    \"หืม?...มาจากโซรินท์ ได้ข่าวว่าที่นั่นทะเลสวยนี่ สงสัยไปเที่ยวเมื่อไหร่คงต้องรบกวนให้คุณเป็นไกด์ซะแล้ว\" เจ้าตัวแย้มรอยยิมก่อนจะเปิดแฟ้มประวัติต่อไป
                    \"จะว่าอึดหรือโชคดีก็ไม่รู้ แผลคุณไม่โดนจุดสำคัญ แต่ก็เล่นเอาผมลำบากแทบแย่\"
                    เครสมองหน้าเขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ชายหนุ่มอมยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ยตอบ
                    \"แหม... เย็บแผลไม่ได้ง่ายเหมือนปักผ้านี่ครับ แล้วกว่าจะหาเลือดสำรองมาให้คุณได้ก็เลือดตาแทบกระเด็น ดีที่ว่าโรงพยาบาลมีกรุ๊ปนี้เหลืออยู่ไม่งั้นผมคงต้องเชือดเอาเลือดเป็ดเลือดไก่มาใส่ตัวคุณแทนแล้ว\" หมอหนุ่มพูดติดตลก แต่คนฟังกลับยิ้มแห้งๆ พลางนึกหวาดๆคุณหมอคนนี้อยู่ในใจ
                    \"หมอชื่ออะไรคะ?\" เครสเอ่ยถามเป็นครั้งแกรหลังจากตัดสินใจแล้วว่าคุณหมอประหลาดคนนี้คงไม่มีพิษภัยอะไรกับเธอ
                    \"อ้าว! นึกว่าเป็นใบ้ซะอีก ปล่อยให้ผมพูดอยู่คนเดียวตั้งนาน\" ถ้อยคำหยอกล้อเอ่ยแซวขณะเขาเดินเข้ามาตรวจชีพจรของเธอก่อนจะลุกขึ้นไปตรวจดูปริมาณน้ำเกลือที่แขวนอยู่ข้างเตียง
                    \"อย่าเฉไฉสิ!\" เด็กสาวค่อนเข้าให้ก่อนจะพยายามเพ่งมองป้ายชื่อที่เจ้าตัวเบี่ยงหลบออกไปได้ทัน
                    \"ทุกอย่างเรียบร้อยดี ผมขอตัวไปตรวจคนไข้คนอื่นก่อนนะครับ หายเร็วๆนะ\" เจ้าตัวหันหลังโบกมือลาก่อนจะเปิดประตูออกไปทิ้งให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน...
                    คนพิลึก... เครสคิดในใจก่อนจะเหลือบสายตามองคนที่หลับสนิทได้ตั้งแต่ต้นจนจบ... แขนสองข้างที่หนุนต่างหมอนมีทั้งรอยขีดข่วนฟกช้ำนับไม่ถ้วน ใบหน้ามีรอยเขียวเป็นจ้ำๆราวกับหลักฐานแสดงว่าเมื่อวานพวกเธอเพิ่งผ่านสมรภูมิกับครึ่งอสูรนับร้อยมาจริงๆ
                    \"อือ...\" เด็กหนุ่มส่งเสียงอยู่ในลำคอ ก่อนจะค่อยๆปรือเปลือกตาเปิดขึ้น เจ้าตัวยกมือขึ้นขยี้ตาด้วยอากัปกิริยาเหมือนเด็กที่เรียกรอยยิ้มน้อยๆให้ผุดขึ้นบนหน้าพี่สาว
                    \"อรุณสวัสดิ์ ซัน\" เครสเอ่ยทัก
                    \"ห๋า!! เฮ้ย!! เครสตื่นแล้วหรอ เป็นไงมั่งเจ็บตรงไหนรึเปล่า!!\" ดูเหมือนซันจะตื่นได้เต็มตาก็คราวนี้ เรือนผมสีชายุ่งเหยิงยิ่งกว่าที่เคย ดวงตาสีเหล็กจ้องมองเธออย่างเป็นห่วง ดวงหน้าของเขาดูอิดโรยกว่าทุกครั้งเหมือนคนที่นอนไม่พอ
                    \"โอ๊ย!\" เครสพยุงตัวลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่ลืมไปว่าเจ็บอยู่ ซันยิ่งดูเป็นกังวลขึ้นอีกแต่พอเห็นเธอไม่เป็นไรเด็กนุ่มก็เผลอถอนหายใจก่อนจะทำหน้าตึง
                    \"สมน้ำหน้า\"
                    \"อ้าว! ทำไมพูดงั้นล่ะ\" เครสทำหน้ายุ่ง แต่น้องชายตัวดีกลับหันหน้าหนีไปทางอื่นซะดื้อๆ นี่เธอไปทำอะไรผิดตรงไหนหรือไง??...
                    \"ซัน...\" เครสเอ่ยเรียก แต่อีกฝ่ายยังคงนิ่ง...
                    \"ซัน...ซัน หันมาคุยกันก่อนสิ\" มือเล็กขยับไปดึงแขนเสื้อของน้องชาย แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงนิ่งเฉยจนเธอเริ่มร้อนใจ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไปชั่วครู่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมเอ่ยคำพูด ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่รู้จะเอ่ยคำง้อยังไง
                    \"ซัน... โกรธหรอ?\" เครสเอ่ยถามค่อย คราวนี้เด็กหนุ่มหันหน้ากลับมานิดหนึ่งแต่ไม่ยอมสบตาเธอ
                    \"โกรธสิ!\" ซันตอบ \"โกรธมากเลยรู้รึเปล่า... ทำไมไม่เชื่อล่ะ รู้ไม่ใช่หรอว่าฉันกำลังจะทำอะไร รู้แล้วทำไมถึงได้ทำแบบนั้น\"
                    \"ก็...มันทำไม่ได้นี่...\" เครสเอ่ยตอบค่อยๆ ซันหันหน้ากลับมาหาเธอ ดวงตาสีเหล็กมองเธออย่างอ่อนโยน แต่กลับดูเจ็บปวดลึกในคราเดียวกัน
                    \"พี่สาว...เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือไง? แล้วผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่...\" น้ำเสียงของเด็กหนุ่มขาดห้วงลง ดวงตาหลุบลงต่ำก่อนจะเอ่ยต่อ \"ความสูญเสียมันมากเกินพอแล้วสำหรับเราสองคน... สิ่งมีค่าสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ของผมก็คือพี่สาวโง่ๆคนนี้... ได้โปรดเถอะ... อยู่กับผมต่อไปเถอะนะ\" มือสั่นเทาของเด็กหนุ่มกุมมือเธอแน่น ความอ่อนแอที่เธอไม่เคยได้เห็นจากน้องชายคนนี้ ในเวลานี้มันกลับปรากฏชัด...
                    \"ขอโทษนะ...\" เครสเอ่ยแผ่วเบาก่อนจะกุมมือซันไว้แน่น
                    ผัวะ!
                   
                    \"เฮ้ย ซัน! พี่แกเป็นไงมั่ง- -\" กรถีบประตูยันเข้ามาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือก่อนจะชะงักกับภาพตรงหน้า เพียงชั่วครู่ดวงหน้าของเด็กหนุ่มก็ยิ้มพรายด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่กลับสร้างความร้สึกหนาวยะเยือกให้กับสองพี่น้องที่อยู่ในห้อง
                    \"แหม... ไม่รู้นะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้แกรสนิยมพี่น้อง...โอ๊ะๆ แต่ก็พี่น้องคนละสายเลือดนี่นาไม่เป็นไรล่ะมั้ง?\" กรเสแสร้งทำตาใสได้อย่างน่าถีบ ก่อนจะหัวเราะเสียงแหลมเสียดแทงโสตประสาทผู้ฟังได้อย่างดีเยี่ยม
                    \"ไอ้...กร.........\" เหมือนมีรัศมีอันตรายแผ่พุ่งออกจากร่างของซัน เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะย่างสามขุมเข้าหาเพื่อนรักที่ยืนหน้าเจื่อนอยู่ตรงประตู
                    \"แหะๆ...ซันเอ๊ย...ฉันล้อเล่น ใจเย็นๆน่ะ...\"
                    \"แก๊!!!!!!!! ตายยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!\"
                    \"เย้อ!!!!\"
                    กรรีบใส่เกียร์หมาโกยอ้าวก่อนจะโดนฆ่าตายคาที่ตรงนั้น ส่วนเรที่เพิ่งเดินสวนเข้ามาก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองเจ้าตัวยุ่งสองที่คนวิ่งสวนออกไปเหมือนเด็กไม่รู้จักโต
                    \"ไงล่ะ ตื่นแล้วหรอ?\" เด็กหนุ่มเอ่ยทักก่อนจะปิดประตูแล้วเดินเข้ามาข้างเตียง
                    \"เอ้านี่\" เด็กหนุ่มยื่นมีดสีเงินส่งกลับคืนให้เจ้าของ มีดที่เป็นของดูต่างหน้าสุดท้ายของแม่ และเกือบจะฆ่าเธอไปเมื่อคืนนี้ เวลานี้มันกลับดูสงบนิ่ง สง่างาม เหมือนวัตถุล้ำค่า คมมีดถูกเก็บไว้ในปลอกเงินสลักลายพระจันทร์คดโค้งราวเส้นไหม มูนสโตนที่ฝังอยู่บนด้ามมีดทอประกายยามต้องแสงแดด...
                    \"ขอบใจนะ\" เครสรับมีดมาก่อนจะกอดมันไว้แนบอก
                    \"รู้ว่าสำคัญก็หัดดูแลดีๆ อย่าเอาไปใช้ทำอะไรบ้าๆเหมือนเมื่อวานอีกล่ะยัยบ๊อง\" เรขยี้หัวเพื่อนสาวก่อนจะส่งยิ้มกวนประสาทน้อยๆมาให้
                    \"แกกับฉันจะคุยกันดีๆซักคำไม่ได้เลยสินะ...\" เครสยิ้มแยกเขี้ยวส่งให้เด็กหนุ่มที่หัวเราะเบาๆอยู่ข้างๆ
                    \"ก็เธอมันงี่เง่าเอง รู้ทั้งรู้ก็ยังทำอะไรโง่ๆ ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ตาย\" เรว่าเสียงเรียบแต่เล่นเอาคู่สนทนาพูดอะไรไม่ออกไปครู่ใหญ่ เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาก่อนจาลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
                    \"นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังบ้างก็ดีนะ...รู้อะไรไหม?...คนที่จะลำบากถ้าไม่มีเธอน่ะคือซัน...\"
                    \"...ฉัน...\"
                    \"ไม่ต้องพูดหรอกน่า แค่อย่าทำแบบนี้อีกก็พอ... นอนพักซะ ฉันไปล่ะ สงสัยป่านนี้ซันกับกรมันตีกันตายไปข้างแล้ว\" เด็กหนุ่มแย้มรอยยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง ทิ้งคนป่วยไว้ให้อยู่เพียงลำพัง...
                    ขอบใจนะ...เร...
                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                   
                    อีกด้านหนึ่งที่คฤหาสน์ของเหล่าจตุจันทรา ทุกสิ่งดูเหมือนจะเงียบสงัดไร้ผู้คน แต่ที่จริงแล้วกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในห้องประชุมด้านบนทั้งลูกหมู ปาร์โก้ สตอร์ม่า อาคเนย์และเงารุ้งกำลังเปิดประชุมกันเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวาน ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่แปลกใจเลยเมื่อสิชากับแพมเดินอาดๆเข้าไปรายงานเรื่องให้ฟัง
                    \"ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ทุกคนพักเอาแรงไว้ก่อนดีกว่า เรื่องวุ่นวายที่เหลือพวกเราจะเคลียร์ให้เอง\"
                    ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่เธอก็ยังไม่วางใจสักเท่าไหร่ ถึงเธอจะรู้จักจตุจันทรามาตั้งแต่จำความได้ แต่สมาชิกต่างก็เปลี่ยนหน้าไปตามรุ่น เธอไม่เคยรู้จุดประสงค์จริงของคนกลุ่มนี้ ทั้งไม่รู้ว่าพวกเขารวมตัวกันได้อย่างเรื่องใด รู้เพียงแต่ว่า...ไม่มีงานไหนที่พวกเขาจะทำพลาด...
                    ฝีเท้าของหญิงสาวหยุดลงตรงหน้าประตูบานหนึ่ง... เธอแง้มเปิดมันออกอย่างเงียบเชียบ โสตประสาทได้ยินเสียงลมหายใจดังสม่ำเสมอจากเจ้าของห้องที่ยังคงหลับเป็นตายมาตั้งแต่เมื่อวานจนนี่เกือบจะบ่ายแล้วชายหนุ่มก็ยังนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่เช่นเดิม เจแย้มรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาใกล้คนหลับมากยิ่งขึ้น เรือนผมสีเงินปัดอยู่บนใบหน้ากร้าน ลำแขนแกร่งทอดวางอยู่บนลำตัว รอยแผลเป็นจางๆนับไม่ถ้วนทอดยาวเต็มท่อนแขนราวกับเป็นสักขีพยานว่าบุรุษผู้นี้ผ่านการต่อสู้มามากมายเพียงใด หญิงสาวโน้มตัวเหนือใบหน้าของชายหนุ่ม ไม่บ่อยนักที่เธอจะได้สำรวจเขาใกล้ขนาดนี้ หางคิ้วข้างซ้ายของเขามีรอยแผลเป็นจางๆที่ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตามใบหน้ามีรอยฟกช้ำที่เพิ่งได้เป็นของฝากมาจากพวกครึ่งอสูรเมื่อวาน ดวงตาของชายหนุ่มยังคงปิดสนิทถึงแม้ว่าตอนนี้หน้าของเธอและเขาจะอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบ...
                    สายลมพัดหอบเอาไอหนาวผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดกว้าง ลมหายใจของเธอแทบจะประสานไปกับบุรุษตรงหน้า ดวงตาสีเลือดคู่สวยจับจ้องริมฝีปากของชายหนุ่มราวกับต้องมนตร์สะกด แล้วริมฝีปากบางก็ประทับจุมพิตลงอย่างอ่อนโยน...
                    \"คิดจะลักหลับกันแบบนี้ผมเสียหายนะเนี่ย\"
                    !!!!
                    ยังไม่ทันที่คนฉวยอาสจะได้ร้องตกใจ มือแกร่งก็คว้าหมับเอาร่างของเธอให้ล้มลงบนเตียงก่อนจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคร่อมร่างเธอไว้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กวนประสาทฉาบอยู่บนริมฝีปากที่เพิ่งถูกขโมยจูบไปเมื่อครู่ ส่วนใบหน้าของขโมยตัวดีบัดนี้ขึ้นสีแดงเรื่อราวกับคนเป็นไข้
                    \"คนบ้า!!!!!!!\" นึกคำพูดไม่ออกเจ้าหล่อนก็ด่าใส่หน้าเอาดื้อๆ เล่นเอาจิ้งตีหน้ายุ่ง
                    \"อะไร?...จู่ๆก็มาว่าผม เจน่ะแหละที่มาลวนลามผมก่อนแบบนี้ต้องชดใช้นะเนี่ย\" คำพูดส่อความคิดกับเสียงหัวเราะหึๆยิ่งเรียกเลือดให้ฉีดพุ่งขึ้นบนดวงหน้างามจนแดงก่ำ จะโกรธก็โกรธ จะอายก็อาย แต่ใจกลับเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่ออยู่ใกล้กับคนๆนี้ขนาดนี้
                    \"ปล่อยนะ!\" น้ำเสียงดุดันกับแววตาเกรี้ยวกราดชนิดแทบพุ่งทะลุคอหอยคนถูกมอง เล่นเอาจิ้งต้องยอมศิโรราบแต่โดยดี ชายหนุ่มปล่อยเธอให้เป็นอิสระก่อนจะยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้แต่รอยยิ้มก็ยังคงอยู่บนใบหน้า
                    \"เมื่อกี้มันเรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละน่า! เจไม่ได้คิดจะ- -จะทำอย่างนั้นสักหน่อย!\" ใบหน้าแดงก่ำชนิดที่ปิดความจริงไว้ไม่มิดยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้กับชายหนุ่มจนต้องหัวเราะตัวงอน้ำหูน้ำตาเล็ด
                    \"ขำอะไรนัก- -!!!!!!!!!\"
                    ยังไม่ทันที่คำพูดจะได้จบประโยค ริมฝีปากของคนพูดก็ถูกประกบปิดซะก่อน ดวงตาสีเลือดเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง เมื่อมือแกร่งดึงโอบเอวของเธอเข้ามาจนชิด ทั้งๆที่เธออยากจะดิ้นแต่เรี่ยวแรงกลับถูกช่วงชิงไปจนหมด ลมหายใจร้อนราวกับจะหลอมริมฝีปากของทั้งคู่ให้เป็นหนึ่งเดียว ยามเมื่อชายหนุ่มบรรจงถอนริมฝีปากออก ก็ดูเหมือนกับว่าสติของเธอจะถูกช่วงชิงตามไปด้วย
                    \"ถือว่าผมเอาคืนแล้วกัน...\" จิ้งเอ่ยก่อนจะปล่อยตัวเจให้เป็นอิสระแล้วก้าวออกจากห้องไป ทิ้งให้คนโดนฉวยโอกาสนั่งแปะลงกับพื้นอย่างหมดแรง...
                    ...ตาจิ้ง...คนบ้า!!...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น