ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF SHINee Yaoi] .....X Onew and ETC.

    ลำดับตอนที่ #13 : Roommate [HYUNEW]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 258
      3
      18 พ.ย. 60

     

     

    Roommate

    By: Crazy_Dragon

    คิมจงฮยอนน่ะหรอ..ก็แค่ผู้ชายกวนประสาทก็เท่านั้น

                “ฉันชื่อจงฮยอนนะ คิมจงฮยอน ยินดีที่ได้รู้จัก”ดวงตาของอีจินกิตวัดมองผู้มาใหม่ก่อนจะพยักหน้ารับและหันกลับไปสนใจข้าวของที่กำลังจัดวางบนโต๊ะอีกครั้ง

                “อีจินกิ ยินดีเช่นกัน”

                “แต่น้ำเสียงนายไม่ยินดีซักนิดเลยแฮะ”

                “อะไรนะ?”คราวนี้ร่างเพรียวยอมหันมาทั้งตัว และก็เห็นรอยยิ้มกว้างๆบนใบหน้าของเพื่อนร่วมห้องที่จะมาอยู่ด้วยกัน

                “ได้เห็นหน้าชัดๆซักที ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากมองหน้ารูมเมทให้ชัดๆน่ะ”

                “กวนประสาท”และพวกเขาสองคนก็ไม่มีบทสนทนาใดๆในวันนั้นอีกเลย..

    อีจินกิน่ะหรอ..ก็แค่ผู้ชายที่เงียบมากๆก็เท่านั้น

                “นายไปเรียนยังไงน่ะ”จงฮยอนถามเพื่อนร่วมห้องที่บังเอิญว่าพวกเขามาเช่าห้องพักห้องเดียวกัน ความจริงคือห้องมันเต็มและเหลือห้องเดียว ถึงเขาจะชอบอยู่คนเดียวมากกว่าก็เถอะ แต่อยู่กับจินกิก็คงเหมือนอยู่คนเดียวนั่นแหละ

                “รถเมล์”ตอบทั้งทีไม่เงยหน้าขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ หนุ่มนักศึกษาสถาปัตย์ก็เงียบรอเพื่อที่ว่าโดยปกติแล้วคนทั่วๆไปมักจะถามกลับมาเช่นกันว่าเดินทางยังไง

                แต่จนแล้วจนรอดเด็กวิทยาก็ยังคงเงียบเฉย

                หน้าตาก็น่ารักอยู่หรอก แต่เล่นตีหน้านิ่งไม่พูดไม่จาเลยแบบนี้ถึงจงฮยอนจะพูดเก่งถึงขั้นพูดไม่หยุดก็เถอะนะ แต่อีแบบนี้ก็คงไม่สามารถหาบทสนทนาต่อได้เช่นกัน

                “ฉัน..จะไปซื้อข้าวนะ นายจะฝากซื้ออะไรมั้ย”

                “ไม่ล่ะ ขอบคุณ”

                โอเค..คิมจงฮยอนจะต้องชินกับการมีรูมเมทก็เหมือนไม่มีละกันนะ

    คิมจงฮยอนน่ะหรอ..ชอบทำห้องสกปรกอยู่เรื่อย

                อีจินกิที่เพิ่งเลิกเรียนและกลับมาที่ห้องเช่าได้แต่ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าข้าวของถูกวางค่อนข้างจะเกะกะพอสมควร ทั้งๆที่ก่อนไปเขาเพิ่งจะเก็บมันเข้าที่แท้ๆ

                กองหนังสือ ถ้วยชาม เครื่องเขียน รวมทั้งโต๊ะของจงฮยอนเองก็ด้วย

                “เชื่อเขาเลย”คนทนความไร้ระเบียบไม่ค่อยจะได้โยนกระเป๋าที่ใช้ลงบนเตียงก่อนจะเริ่มต้นเก็บกองหนังสือไปไว้ตรงตู้ปลายเตียงที่มีโทรทัศน์ตั้งอยู่ เพราะห้องสำหรับสองคนมันเล็กและมีห้องน้ำในตัวเท่านั้น ทำให้การจะกินจะนอนเลยต้องรวมในพื้นที่เดียวกันไปเลย

                หนังสือถูกเรียงในชั้นฝั่งของจงฮยอนจนกระทั่งเป็นระเบียบดีและร่างเพรียวก็ลุกมาหยิบเอาถ้วยชามไปล้างให้สะอาด โต๊ะตรงหัวเตียงข้างเตียงจงฮยอนก็เละเทะบ่งบอกว่าก่อนจะไปเรียนเจ้าตัวรีบหาชีทเรียนกับสมุดขนาดไหน

                บอกเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักจำว่าให้จัดโต๊ะได้แล้ว มีบางครั้งยังเอาชีทตัวเองมาทิ้งไว้โต๊ะเขาอีกต่างหาก ชอบทำให้ห้องสกปรกทุกที..

                ถ้ามีห้องแยกอีกไม่รู้ว่าห้องจงฮยอนมันจะอยู่ในสภาพไหนเลยล่ะนะ

    อีจินกิน่ะหรอ..ไม่ค่อยจะพูดหรอก แต่พออ้าปากบ่นนะไม่มีหยุดเลย

                “กลับมาแล้ว~ อ้าว นายเก็บของให้ฉันอีกแล้วหรอ”พออยู่ด้วยกันมาหลายเดือนแล้วก็ไม่แปลกที่จะรู้สึกสนิทกันมากขึ้นและชินกับการกระทำของรูมเมทมากขึ้นด้วย จงฮยอนอมยิ้มพลางมองสภาพห้องที่เรียบร้อยหลังจากเขาทำห้องรกอีกแล้วก่อนไปเรียน

                “ใช่น่ะสิ นายทำห้องรกอีกแล้วนะ”เสียงนุ่มที่เริ่มไม่พอใจกับคิ้วที่ขมวดกำลังบอกจงฮยอนกลายๆว่าตอนนี้อีจินกิกำลังเข้าสู่โหมดคุณแม่ขี้บ่นอีกแล้ว

                ขนาดออกจากบ้านมายังเจอคนที่ตามบ่นได้อีก แต่ก็รู้สึกเพลินตาดีน่ะนะ และก็สบายหูซะด้วยสิ

                “ทีหลังน่ะกินข้าวเสร็จก็เอาจานไปล้างเลย ของเนี่ยเก็บเข้าที่ด้วยจะได้ไม่เดินสะดุดหรือเตะเอา แล้วนี่ชีทนายมากองบนโต๊ะฉันอีกแล้ว วางให้เป็นที่เป็นทางบ้างสิ ถ้ามันหายขึ้นมานายแหละจะแย่เอา”

                “ครับ ครับ จะไม่ทำอีกแล้วนะ”

                “นายก็พูดแบบนี้ทุกทีแหละจงฮยอน แล้วเห็นโต๊ะนายมั้ย เอาขนมมากินก็ระวังหน่อยสิ พอมันหกมดก็มากันพอดี”จงฮยอนอมยิ้มให้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาบ่นแม้ว่ามือจะกวาดฝุ่นตรงพื้นอยู่ ดูๆไปจินกินี่ก็น่ารักดีเหมือนกัน

                “ฉันรู้ว่านายห่วงนะ แต่ในเมื่อมีนายคอยช่วยเก็บแบบนี้ฉันก็เคยตัวน่ะสิ จะพยายามปรับละกัน”

                “....ไม่ได้ห่วงซักหน่อย”และบทสนทนาก็สิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้

    คิมจงฮยอนน่ะหรอ..ก็พอพึ่งพาได้บ้างแหละนะ

                จินกิถอนหายใจออกมาก่อนจะปิดหนังสือที่อ่านอยู่ เพราะช่วงใกล้สอบทำให้ต้องเริ่มอ่านหนังสือและมันก็ยากซะจนชักจะล้าแล้วเหมือนกัน

                เขาไม่ถนัดพวกการตลาดอะไรแบบนี้เอาซะเลย ถึงแม้ว่าจะคิดว่ามันน่าสนใจเลยลงเรียนไปก็เถอะ

                “อ่านการตลาดอยู่หรอ”

                “อื้ม มันไม่ค่อยเข้าใจน่ะ”จงฮยอนยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าพอปรับตัวเข้าหากันได้ จินกิก็พูดมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่ากว่าแปดสิบเปอร์เซ็นจะเป็นการบ่นและจิกกัดเขาบ้างก็เถอะ แต่เพราะเริ่มมีการจิกกัดนี่แหละถึงได้รู้สึกดีว่าจินกิเริ่มสนิทกับเขาแล้ว

                แต่ก็ถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานอยู่เหมือนกัน

                “ให้ฉันช่วยอธิบายให้มั้ย”ดวงตาเรียวเล็กช้อนขึ้นมองเมื่อคนถามถามพร้อมกับการเดินเข้ามายืนตรงหลังเก้าอี้ แขนแข็งแรงเอื้อมผ่านไหล่ลาดก่อนจะเปิดหนังสือขึ้นดู

                “อันนี้ฉันเรียนไปเมื่อเทอมที่แล้ว โห นี่เราอยู่ห้องเดียวกันมากว่าห้าเดือนแล้วหรอเนี่ย”

                “ก็ใช่น่ะสิ นายว่างมั้ย ช่วยอธิบายหน่อย”

                “พูดจาไม่เพราะเลย ไหนลองพูดแบบ อาจารย์จงฮยอน ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยได้มั้ย”พอแหย่ไปก็ได้เห็นคิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นกลับมาตามคาด ร่างหนาหัวเราะออกมาก่อนจะเอานิ้วไปแตะตรงระหว่างคิ้วเบาๆ

                “ล้อเล่นน่า วิชานี้ฉันได้บีมาเลยนะ สงสัยตรงไหนล่ะ”

                “จงฮยอนก็ออกไปก่อนได้มั้ยล่ะ ไปนั่งที่พื้นกัน”

                สุดท้ายก็พากันมานั่งติวกันตรงพื้น ดวงตาเรียวเล็กมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่นั่งตรงข้ามกันก่อนจะแอบยิ้มออกมาตอนที่อีกฝ่ายก้มหน้าลงไป

                ก็หน้าจงฮยอนตอนจริงจังน่ะ มันทำให้รู้สึกอบอุ่นพึ่งพาได้บอกไม่ถูกเลย

    อีจินกิน่ะหรอ..ก็ชอบเอาใจใส่ดีนะ

                “จงฮยอน”เสียงนุ่มที่ดังออกมาทำให้ร่างหนาที่ขะมักเขม้นกับการต่อโมเดลชะงักมือลง จงฮยอนหันไปมองคนเรียกที่เพิ่งกลับเข้ามาในห้อง

                “มีอะไรรึเปล่า”

                “ฉันซื้อข้าวมาฝาก โทรมาก็ไม่รับเลยไม่รู้ว่านายจะกินอะไร ยังไม่ได้กินข้าวใช่มั้ยล่ะ”

                “จริงด้วย ลืมไปเลย”พอพูดแค่นั้นก็ได้รับการขมวดคิ้วกลับมาทันที ร่างเพรียวเดินเข้าไปก่อนที่จะเริ่มแกะกล่องใส่อาหารออกให้ รวมถึงริมฝากที่เริ่มขยับบ่นคนตัวหนาที่กำลังมองมา

                “นายก็เป็นแบบนี้ทุกที ชอบลืมกินข้าวอยู่เรื่อย นี่ถ้าฉันเลิกเรียนช้านายจะหิวตายคาห้องก่อนมั้ย  จะต้องให้โดนบ่นอีกเท่าไหร่นะถึงจะยอมไปกินข้าวเนี่ย”

                “ฮ่าๆ ก็มีจินกิคอยทำให้นี่นา”

                “วันหลังจะไม่ทำให้แล้ว”จงฮยอนอมยิ้มกับคำพูดที่มีเป็นร้อยครั้งแล้วว่าวันหลังจะไม่ทำให้ แต่เอาเข้าจริงพอเห็นโต๊ะเขารก ยังไม่กินข้าว หรืออะไรก็ตามแต่จินกิจะเข้ามาทำให้ในทันที

                มีรูมเมทเหมือนมีแม่ คิดไปคิดมาอาจจะเป็นแม่ทูนหัวซะมากกว่า อีจินกินี่น่ารักจริงๆ

                “ขอบคุณนะจินกิ”ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่เขาก็มั่นใจแน่ๆล่ะว่าจินกิกำลังยิ้มอยู่แน่ๆ กว่าจะเห็นรอยยิ้มแต่ละทีนี่ไม่ใช่ง่ายๆเลย แต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยจะยอมให้เห็นซะด้วยเนี่ยสิ

                “ไม่ได้ทำอะไรให้ซักหน่อย ประสาท”

    คิมจงฮยอนน่ะหรอ..เป็นคนที่ทำให้เขินล่ะมั้ง

                “อิ่มละครับ~”ปิดท้ายด้วยรอยยิ้มกว้างน่าหมั่นไส้จนจินกิชักอยากจะเอาอะไรไปตีปากเป็ดๆนั่นซักที มือนุ่มที่เตรียมเก็บถ้วยไปล้างหยุดชะงักเมื่อมือหนาของอีกฝ่ายวางลงบนมือเขาอีกที

                “ทำอะไรน่ะ”ถามเสียงดุแม้ว่าจะรู้สึกถึงหน้าตนเองที่มันร้อนขึ้นมาหน่อยๆเสียแล้ว ดวงตาเรียวเล็กทำเป็นมองดุแต่เหมือนทุกทีแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้อีกนานแค่ไหน

                “จะไปล้างเอง”

                “ไม่ต้อง ทำงานต่อได้แล้ว ปล่อยมือสิจงฮยอน”

                จะให้จงฮยอนเห็นไม่ได้เด็ดขาดว่าเขาหน้าแดง..

                “ก็อยากล้างเองนี่”พอเผลอสบตากับแววตาที่ขี้เล่นก็รู้ตัวดีว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป จินกิดึงมือออกแล้วรีบลุกขึ้นหันหลังหนีทันที

                “ก็ ไปล้างสิ ถ้าอยากล้างนักน่ะ ประสาทจริงๆ”

                “นายจะไปไหนน่ะ”

                “ซื้อขนม!

                ให้ตายเถอะ..ได้ยินเสียงหัวเราะก่อนออกจากห้องอีก กระเป๋าสตางค์ก็ไม่ได้หยิบมา ให้มันได้อย่างนี้สิอีจินกิ!

                “ร้อนชะมัด..”มือนุ่มที่ทาบทับแก้มตัวเองรู้สึกถึงอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นจนเผลอพูดออกมา ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นก่อนจะตัดสินใจเดินลงจากตึกไปเดินเล่นแทน

                ทำไมจงฮยอนถึงชอบทำให้เขินนักนะ...

    อีจินกิน่ะหรอ..น่ารัก ไม่มีคำไหนเหมาะกว่านี้อีกแล้ว

                “เฮ้ นั่นรูมเมทนายใช่มั้ย”จงฮยอนหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อรูมเมทของเขาที่ไม่เคยมาหาถึงคณะกลับยืนอยู่ไม่ไกล และดูท่าว่ากำลังหาใครซักคนอยู่

                “จินกิ!”พอไปถึงตัวก็เห็นว่าจินกิมองมาแล้วเกือบจะยิ้มออกมานิดนึงแต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ร่างหนาก้าวเข้าไปหาก่อนจะถามออกไปด้วยความสงสัย “มาหาใครน่ะ”

                “หานายน่ะแหละ ฉันลืมเอาทั้งโทรศัพท์ทั้งกุญแจห้องออกมา ดีจังที่นายอยู่แถวนี้”

                “อ้าวหรอ จริงๆฉันก็ว่าจะกลับห้องแล้วล่ะ วิชาถัดไปอาจารย์ไม่สบายน่ะ รอตรงนี้แปปนะ”ถึงจะไม่ยิ้มให้เห็นแต่พอมองลงไปตรงดวงตาของจินกิก็จะเห็นทั้งดีใจ และโล่งใจ ที่สำคัญคือเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงที่คุยกับเขาน่ะ...อ้อนสุดๆไปเลย

                “อ้าวมึง เมียมาตามกลับบ้านหรอ”หนึ่งในเพื่อนสนิทเอ่ยแซวจึงโดนเขาต่อยแขนไปทีนึงแม้ว่าจะยิ้มออกมากับคำหยอกนั่น อีจินกิน่ารักขนาดนั้นแม้ว่าจะเข้าถึงยากและทำหน้าดุตลอดก็เถอะ แต่เพื่อนเขาหลายคนก็ชอบไม่น้อยแถมยังคอยให้เล่าเรื่องในห้องให้ฟังอีก

                และพวกนี้ก็สรุปเลยว่าจินกิเหมือนเมียเขา และเขาโชคดีเป็นบ้าที่มีจินกิอยู่ด้วยแบบนี้

                “กูกลับก่อนล่ะ”

                “ไม่ไปดูหนังด้วยกันแล้วหรอวะ”

                “ไม่ล่ะ อยากกลับบ้านกับเมีย”และคำตอบก็เรียกเสียงแซวจากไอ้พวกลิงทโมนพวกนี้ได้อย่างดี

                “โทษที รอนานมั้ย”

                “ไม่หรอก เพื่อนนายพูดอะไรถึงฉันรึเปล่า ทำไมมองกันแบบนั้น”เสียงนุ่มนั้นมีความไม่พอใจปะปนมานิดหน่อยเป็นการบอกเขากลายๆว่าไม่ชอบให้ตัวเองไปตกเป็นประเด็นให้ใครเขานินทา จงฮยอนยิ้มออกมาก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่อีกฝ่ายเอาไว้

                “อยากรู้? ถ้าบอกจะรับได้มั้ยล่ะ”

                “ดีกว่าไม่รู้ใช่มั้ยล่ะ”หันมาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังจนยิ่งทำให้รู้สึกว่าจินกิดูน่ารักบอกไม่ถูก “พวกนั้นน่ะชอบนาย และเรียกนายว่าเป็นเมียฉัน”

                “อะไรนะ!?”

                “พวกนั้นบอกนายเหมือนเมียฉันเลยน่ะ”แกล้งตอบย้ำแม้จะรู้ว่าสิ่งที่จินกิพูดออกมาเมื่อครู่จะเป็นเพราะความตกใจ แต่ก็เพราะหน้าแดงๆนี่แหละถึงทำให้อยากแกล้ง

                “บะ บ้า! พวกนายนี่..”ใบหน้าหวานน่ารักก้มต่ำและไม่พูดอะไรอีก แต่คนที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างจงฮยอนจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอาการนี้มันคืออาการของคนที่เขินจัดจนพูดอะไรไม่ออก

                น่ารัก ทำอะไรก็ดูน่ารักไปซะหมด อีจินกิของเขานี่เหมาะสมที่จะเป็นเมียเขาที่สุดแล้วล่ะ

    คิมจงฮยอนน่ะหรอ..ก็ ฮยอนของจินกิไง

    อีจินกิน่ะหรอ..ก็ จินกิของฮยอนไง

                “กลับมาแล้วครับ”เสียงทุ้มดังลอดเข้ามาทำให้ร่างเพรียวที่กำลังแต่งตัวรีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำ ริมฝีปากอิ่มเผยอยิ้มออกมาและได้รับรอยยิ้มของจงฮยอนกลับคืนมา

                “อาบน้ำเสร็จพอดี ไปอาบน้ำสิ”ห้องที่อยู่มาเกือบสี่ปียังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง มันเปลี่ยนไปแค่สถานะของเจ้าของห้องทั้งสองก็เท่านั้น

                “เรียนจบแล้วนายจะทำงานเลยหรอ”ร่างหนาก้าวเข้ามาก่อนจะกอดเอวคอดของร่างเพรียวไว้แน่น ดวงตาเรียวเล็กมองไปยังจงฮยอนด้วยความสงสัย

                “ก็ว่าจะทำงานเลยนะ แต่ก็อยากต่อโทเรียนให้ละเอียดกว่านี้อีกหน่อย ทำไมหรอ”แต่คำตอบที่ได้รับกับเป็นการหอมแก้มจนเสียงดังฟอด เรียกริ้วสีแดงๆให้ขึ้นมาตามใบหน้าเนียนใสได้ไม่ยากนัก

                “ขยันจังเลยนะ ฉันจะบอกว่าพ่อกับแม่ซื้อคอนโดไว้ให้ นายสนใจจะไปอยู่ด้วยกันมั้ย มันเดินทางสะดวกด้วย นายจะเรียนหรือทำงานก็น่าจะไม่ลำบากอะไร”

                “หา? คอนโดนายนะ มาถามฉันทำไม ฉันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ”คำถามของเขาเหมือนจะทำให้จงฮยอนรู้สึกตลกจนเจ้าตัวเผลอขำออกมา และแค่นั้นจงฮยอนก็ได้เห็นว่าคิ้วเรียวขมวดมุ่นอีกแล้ว

                “ขำอะไรน่ะฮยอน”

                “นายนี่นะ~ ฉันหมายถึงเราจะไปอยู่ด้วยกัน จินกิ เราเป็นแฟนกันนะ”

                “ฉันเกรงใจ ไม่เอาหรอก”ร่างหนาอมยิ้มกับคำพูดนั้นก่อนจะพูดขึ้นต่อ “แม่อยากเอาไว้ให้อยู่กับลูกสะใภ้น่ะ ไม่ได้ให้อยู่ฟรีๆซักหน่อย ต้องคอยดูแลทำความสะอาด ทำอาหาร สนใจมั้ย”

                ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยและหน้าก็แดงขึ้นจนดูน่ารัก ริมฝีปากอิ่มนั้นเหมือนจะพูดอะไรออกมาแต่ก็เลือกไม่พูด..หรือความจริงอาจจะไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมาดี

                “ตกลงมั้ยจินกิ มาดูแลฉันต่ออีกหลายๆปี”

                “ยังไงก็ต้องดูแลคนแบบฮยอนอยู่แล้วนี่ ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง”เสียงนุ่มนั่นตะกุกตะกักแม้ว่าจะพยายามทำหน้านิ่งขนาดไหนแต่สุดท้ายใบหน้าหวานก็เผยรอยยิ้มกว้างส่งให้ร่างหนาได้เห็น และสุดท้ายร่างเพรียวก็โถมเข้ากอดจงฮยอนไว้แน่น

                ยังไงซะอีจินกิจะต้องเป็นรูมเมทให้คิมจงฮยอนไปตลอดชีวิตน่ะนะ...

               

    THE END

              ช็อตฟิคสั้นๆอีกแล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆๆ ฮยอนยูทีไรต้องแนวนี้ทุกทีสิน่า มันอาจจะห้วนๆแปลกๆไปหน่อยก็ขออภัยนะคะ เวลาในเรื่องไม่ได้ระบุชัดเจนเท่าไหร่ อยากจะให้ผ่านไปกี่เดือนต่อเหตุการณ์ก็ตามสบายเลยค่ะ ฮ่าๆ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะคะ!

     
    Matcha
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×