ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF SHINee Yaoi&Yuri] HOOn Only!

    ลำดับตอนที่ #25 : More than love

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 511
      1
      30 ก.ค. 57

     

     

    More than love

    *สีนี้คืออดีตนะคะ* แนะนำว่าอย่าปิดเพลงนะคะ ลองฟังดู
    ฟังไปอ่านเนื้อเพลงไป แล้วค่อยฟังพร้อมอ่านอีกทีเพื่อความอินนะคะ

     

    เพลง : more than love

    ศิลปิน : Brown Eyed Girls

     

     내밀면 닿을 거리에

    son naemilmyeon daheul georie

    สถานที่ที่เราสองคนได้จับมือกันไว้

    불러보면 들릴  곳에

    bulleobomyeon deullil geu gose

    สถานที่ที่เธอจะได้ยินเสียงเรียกของฉัน

    그대가 있어요

    geudaega isseoyo

    นั่นคือสถานที่

    나의 반이 있어요

    naui bani isseoyo

    ที่มีครึ่งหนึ่งของฉันอยู่

     사랑  사랑

    nae sarang nae sarang

    ที่รัก ที่รักของฉัน

    그대가

    geudaega

    ก็คือเธอ

    당신께 마음  내주고

    dangsinkke maeum da naejugo

    ถึงแม้ว่าฉันจะให้เธอหมดหัวใจองฉัน

    소라껍질처럼  비어도

    sorakkeopjilcheoreom nal bieodo

    แต่เธอก็ยังทิ้งฉันให้ว่างเปล่า ไม่เหลืออะไรเลย

    그댈 보는게  좋아요

    geudael boneunge nan johayo

    ฉันมีความสุขเหลือเกินที่ได้เฝ้ามองเธอ

    가슴 아파도 행복해요

    gaseum apado haengbokhaeyo

    ถึงแม้ว่าใจของฉันจะต้องเจ็บปวด แต่ฉันก็มีความสุข

    그대를 사랑할수있으니까

    geudaereul saranghalsuisseunikka

    เพราะว่าฉันสามารถรักเธอได้นั่นเอง

    님이여  맘을 당신께 줬으니

    nimiyeo nae mameul dangsinkke jwosseuni

    ฉันพร้อมที่จะมอบหัวใจดวงนี้กับเธอ

    님이여 이제 …나는 없어요

    nimiyeo ije …naneun eobseoyo

    เวลาที่ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่มากแล้ว

    하얗게 흐른  눈물도

    hayake heureun i nunmuldo

    น้ำตาของฉันที่ขาวบริสุทธิ์ดั่งหิมะ

    아픈  사랑도

    apeun i sarangdo

    แม้ว่านี่จะเป็นความรักที่เจ็บปวด

    모두 그대랍니다..

    modu geudaeramnida..

    แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ มันเป็นเพราะเธอ

    하루는 당신만 그리다

    haruneun dangsinman geurida

    ฉันเฝ้าคิดถึงเธอทุกคืนวัน

     모습 남김없이 지워도

    nae moseup namgimeobsi jiwodo

    หากแม้ว่าฉันจะลบความเป็นตัวเองออกไปได้ล่ะก็

    그댈 보는게  좋아요

    geudael boneunge nan johayo

    ฉันมีความสุขที่ได้เฝ้ามองเธอ

    가슴 아파도 행복해요

    gaseum apado haengbokhaeyo

    ถึงแม้ว่าใจของฉันจะต้องเจ็บปวด แต่ฉันก็มีความสุข

    그대를 사랑하수 있으니까

    geudaereul saranghasu isseunikka

    เพราะว่าฉันสามารถรักเธอได้นั่นเอง

    님이여  맘을 당신께 줬으니

    nimiyeo nae mameul dangsinkke jwosseuni

    ฉันพร้อมที่จะมอบหัวใจดวงนี้กับเธอ

    님이여 이제 …나는 없어요

    nimiyeo ije …naneun eobseoyo

    เวลาที่ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่มากแล้ว

    하얗게 흐른  눈물도

    hayake heureun i nunmuldo

    น้ำตาของฉันที่ขาวบริสุทธิ์ดั่งหิมะ

    아픈  사랑도

    apeun i sarangdo

    แม้ว่านี่จะเป็นความรักที่เจ็บปวด

    모두 그대랍니다..

    modu geudaeramnida..

    แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ มันเป็นเพราะเธอ

     그댈 만났던 순간부터

    na geudael mannatdeon sunganbuteo

    ตั้งแต่เพียงชั่วครู่เดียวที่ฉันได้พบเธอ

     전불 드릴거죠

    nae jeonbul deurilgeojyo

    ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถทำได้ทุกอย่าง

     숨도  삶도 모두

    nae sumdo nae sarmdo modu

    ลมหายใจของฉัน ชีวิตของฉัน และทุกๆสิ่งของฉัน

    그대여 이제  없어요

    geudaeyeo ije nan eobseoyo

    เวลาที่ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่มากแล้ว

    잠시도  사랑을 잊지 말아요

    jamsido nae sarangeul itji marayo

    ได้โปรดอย่าลืมความรักของฉันแม้เพียงชั่วครู่

    한시도 혼자 두지 말아요

    hansido honja duji marayo

    โปรดอย่าทอดทิ้งฉันไว้เพียงลำพัง แม้ในเสี้ยววินาที

    한발씩  멀어져도

    hanbalssik deo meoreojyeodo

    แม้ว่าเราจะต้องห่างกันออกไป ทีละก้าว..ทีละก้าว

    가슴끝에 걸린 나를

    gaseumkkeute geollin nareul

    หัวใจของเธอก็ยังผูกติดกับหัวใจของฉัน

    그대뿐인  제발 잊지 말아요

    geudaeppunin nal jebal itji marayo

    ฉันมีเพียงแต่เธอ ได้โปรดอย่าลืมฉันเลย

    님이여  맘을 당신께 줬으니

    nimiyeo nae mameul dangsinkke jwosseuni

    นับตั้งแต่ที่ฉันได้มอบสัญญานั้นแก่เธอ

    님이여 이제 …나는 없어요

    nimiyeo ije …naneun eobseoyo

    นับแต่นี้ฉันคงเหลือเวลาอยู่ที่นี่ไม่มากนัก

    하얗게 흐른  눈물도

    hayake heureun i nunmuldo

    น้ำตาของฉันที่ขาวบริสุทธิ์ดั่งหิมะ

    아픈  사랑도

    apeun i sarangdo

    แม้ว่านี่จะเป็นความรักที่เจ็บปวด

    모두 그대랍니다

    modu geudaeramnida

    แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเพราะเธอ

    이제 나는 없어요..

    ije naneun eobseoyo..

    ตอนนี้ฉันเหลือเวลาอยู่ที่นี่น้อบลงทุกทีแล้ว

    ในผืนป่าที่ดำทะมึนและน่ากลัว ต้นไม้สูงชะลูดราวกับเงาร่างของปีศาจที่ตั้งตระหง่านดักรอมนุษย์ที่หลงทางเข้ามา ไร้ซึ่งสายลมและเสียงสรรพสัตว์ใดๆจนน่าหวาดหวั่น จันทราที่ยามปกติจะเป็นสีเหลืองนวลกลับแดงชาดจนราวกับจิตรกรผู้บ้าคลั่งใช้หยาดเลือดของตนละเลงลงเพื่อรังสรรค์ผลงานที่งดงามและน่าสะพรึงกลัวในคราเดียวกัน

                ภายใต้ถ้ำหนึ่งบนภูเขานั้นมีปีศาจหนึ่งตนที่นั่งพิงผนังถ้ำด้วยท่าทางอ่อนแรง ฝ่ามือขาวนั้นกดลงปากแผลบริเวณช่วงท้องที่ยังมีเลือดไหลซึมออกมาไม่หยุด ดวงตาเรียวสีแดงก่ำกวาดมองไปรอบๆถ้ำนี้พลางเผยอยิ้มบาง

                บนผนังถ้ำนั้นราวกับมีภาพวาดของความทรงจำที่หอมหวานระบายไว้ทั่วทุกพื้นที่

                “เจ้าเป็นใครน่ะ! ออกไปจากถ้ำของข้านะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”เสียงเล็กๆที่ตวาดแว้ดออกมาไม่ได้ทำให้เด็กชายอีกคนในชุดของเชื้อพระวงศ์หวาดกลัว ดวงตาโตนั้นกวาดมองไปรอบๆพลางวิ่งเข้ามากอดอีกฝ่ายทั้งที่ประหลาดกว่ามนุษย์ทั่วไปมากนัก

                “อะ อะไรกัน! เจ้ามนุษย์ปล่อยข้านะ!”ปีศาจจิ้งจอกน้อยร้องโวยวายหากแต่กลับถือฝ่ามืออีกฝ่ายปิดปากไว้แน่น

                “เจ้าจิ้งจอกเงียบๆหน่อย ข้าหนีคนอยู่”ดวงตาเรียวสีแดงสดนั้นมองมายังองค์ชายน้อยด้วยความประหลาดใจที่ไม่กลัวหรือขู่จะฆ่าเขาอย่างที่คนอื่นเขาทำกัน

                เวลาเดินผ่านไปเชื่องช้าจนองค์ชายน้อยมั่นใจว่าพวกกบฏไม่ตามมาจึงยอมปล่อยมือออกจากริมฝีปากและตัวของปีศาจน้อย

                “ไม่กลัวข้าหรือ?”องค์ชายน้องมองเพ่งพินิจราวกับกำลังพิจารณาว่าเขาสมควรกลัวปีศาจตนนี้ดีหรือไม่ เจ้าตัวมีผิวขาวจัด เส้นผมยาวเองก็ยังเป็นสีขาวแต่มีสีดำแซมประปรายหากแต่ดูนุ่มสวย ตัดกับดวงตาสีแดงสดที่กำลังมองมาด้วยความงุนงง บนศีรษะมีใบหูสีขาวแบบจิ้งจอก ซึ่งเจ้าตัวเองก็มีหางยาวสีขาวเช่นกัน

                “ไม่ ในตำนานน่ากลัวกว่าหลายเท่า เจ้าน่ะตัวเล็ก”

                “แล้วเจ้าไม่กลัวพ่อแม่ข้าออกมาจับเจ้ากินรึไงกัน”

                “ถ้าเจ้ามีพ่อแม่อยู่ด้วยตอนนี้ พ่อแม่เจ้าคงออกมาตั้งแต่เจ้าตะโกนครั้งแรกแล้ว”เจ้าจิ้งจอกน้อยพยักหน้ารับพลางอดชื่นชมอีกฝ่ายไม่ได้ว่ามีสติปัญญาที่สูงกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน

                “แล้วเจ้าเป็นใครกัน หนีใครมาจนถึงถ้ำของข้า”

    .....

                “จินกิ!”เสียงเรียกจากปากถ้ำ ทำให้เด็กหนุ่มวัยสิบห้าต้องเดินออกมาหา องค์รัชทายาทพุ่งเข้ากอดแน่นจนจิ้งจอกขาวนั้นเซถลา

                “เจ้าเล่นบ้าอะไรน่ะมินโฮ!”ถึงริมฝีปากจะร้องว่าแต่พวงแก้มขาวนั้นขึ้นสีแดงเรื่อ ซึ่งดูก็รู้ว่าองค์รัชทายาทนั้นหนีเรียนมาทางป่าหลังวัง ธิดาเทพได้บอกไว้ว่าปีศาจนั้นคือสิ่งคุ้มครองราชวงศ์ ไม่ได้มาทำร้าย แต่มนุษย์ก็ไม่ควรเข้ามาใกล้มากนักถ้าไม่ใช่คนของราชวงศ์จริงๆ

                “ข้าไม่ได้เล่นนะจินกิ ข้าไม่อยากเรียนวิชาการปกครองน่าเบื่อพวกนี้แล้ว ข้าเข้าใจและจำได้แล้วก็ยังให้ข้าอ่านต่ออีก ตาแก่ชางมินเอ๊ย”จินกิเองก็ทำหน้ายุ่งไม่แพ้องค์ชาย เจ้าตัวดันเด็กหนุ่มที่สูงเอาๆออกจากตัว

                “เจ้าน่ะเป็นองค์รัชทายาทนะ จะมาขี้เกียจแบบนี้ได้รึไง นั่งเล่นแถวนี้ก่อนแล้วกัน”ร่างบางที่พูดจบยังไม่ทันจะเดินออกไป หางยาวสีขาวถูกจับไว้แน่นจนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก

                “ข้าบอกแล้วไงว่าจะจับก็บอกก่อนน่ะ”ดวงตาโตนั้นพราวแวววาวราวกับดวงดาว เจ้าตัวล้วงหยิบหวีอันเล็กออกมาจากสาบเสื้อ

                “มานั่งนี่ ข้าไปขโมยหวีของเสด็จแม่มา ข้าชอบหางของเจ้า ข้าจะหวีให้”จิ้งจอกขาวเองก็อยากจะปฏิเสธเพราะรู้ว่าหวีนั้นเป็นของราชวงศ์ แต่สายตาดุจากดวงตาโตนั้นยอมให้นั่งเฉยๆแต่โดยดี

                สัมผัสนุ่มนวลที่มาจากช่วงหางนั้นทำเอาเจ้าจิ้งจอกน้อยครางอืออย่างสบายใจ ใบหูนั้นขยับขึ้นลงก่อนจะฮัมเพลงเสียงหวานออกมาให้คนที่อยู่ด้วยได้ฟัง จนคนฟังอดยิ้มตามได้ ดวงตาโตมองปีศาจตรงหน้าที่เคยเล่าว่า แม่ของตนเป็นจิ้งจอกขาว ส่วนพ่อนั้นเป็นจิ้งจอกดำ และทั้งคู่ก็จากไปแต่จินกิยังเด็ก

                ด้วยสัญญาที่มีมาแต่โบราณ จะมีเพียงพระราชา องค์รัชทายาทและธิดาเทพเท่านั้นที่สามารถเดินทางเข้ามาในป่านี้ได้และจะพบเจอกับถ้ำนี้ เขาเองก็ไม่เคยมาจนกระทั่งเจอกลุ่มกบฏที่ลอบเข้ามาในตำหนักจึงทำให้เขาต้องหนีมาที่ป่านี้

                แต่เดิมเขาคิดว่าเป็นตำนาน แต่สุดท้ายคือเรื่องจริง พอเขาไปถามเสด็จพ่อท่านก็พากลับมาอีกครั้งพร้อมแนะนำให้รู้จัก และเรื่องนี้ก็จะเป็นความลับระหว่างพระราชา ธิดาเทพ และองค์รัชทายาทเท่านั้น

                “คิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้าบ้างรึเปล่า”

                “คิดถึงสิ แต่ตามที่พวกข้าทำสัญญาไว้กับราชวงศ์ของเจ้า พวกเราจะต้องคอยปกป้องเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์โดยเฉพาะพระราชาและองค์รัชทายาท และในป่านี้พวกเราก็อยู่ได้แค่ตนเดียว ท่านแม่พอมีข้าก็ดูแลข้า แล้วค่อยออกเดินทางไปหาท่านพ่อ ข้าเองก็ต้องมีครอบครัว เพื่อวันหนึ่งข้าจะได้ออกไปพบโลกภายนอก ไปหาท่านแม่”ฝ่ามือหยาบจากการฝึกดาบลูบเส้นผมนุ่มของอีกฝ่ายแผ่วเบาเป็นการปลอบประโลม

                “แล้วทำยังไงสัญญานี้จะสิ้นสุดลงล่ะ”ดวงตาเรียวสีแดงก่ำสบกับดวงตาโตสีดำ ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มบางก่อนจะตอบคำถาม

                “ฆ่าข้าซะ เมื่อใจของเจ้ารังเกียจข้า ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อสัญญานั้นก็จะจบลง เพื่อแลกกับชีวิตที่สงบสุขจนกว่าข้าจะโตพอดูแลตัวเอง สัญญานี้ถือว่าคุ้มค่านะ”

                “ข้าว่าฟังยังไงก็ไม่คุ้มเลย ว่าแต่เจ้าจะไปหาจิ้งจอกตัวเมียที่ไหนได้ล่ะ เจ้าออกจากป่านี้ไม่ได้นี่”จินกิขมวดคิ้วมุ่นพลางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย หางสีขาวสะบัดไปมา

                “ปกติตระกูลข้าจะให้กำเนิดแต่ลูกสาว จิ้งจอกตัวผู้ก็จะได้กลิ่นและมาหา อย่างท่านพ่อข้าไง แต่ข้าดันเกิดเป็นผู้ชาย คงไม่มีจิ้งจอกตัวเมียที่ไหนตามกลิ่นผู้ชายมาถึงนี่หรอกนะ งั้นข้าก็จะอยู่ไปเรื่อยๆละกัน จนกว่าจะแปลงร่างเหมือนคนปกติ แล้วออกไปหาจิ้งจอกตัวเมียซักตัว เพราะข้าออกจากป่าและวังหลวงได้สามวัน”ดวงตาโตเบิกกว้างกว่าเดิมพลางจ้องหน้าคนพูด

                “กว่าเจ้าจะแปลงร่างได้ก็สองร้อยปีเลยนะ!

                “อายุขัยข้าตั้งพันปีเจ้าบ้า! เวลาแค่สองร้อยปีมันเป็นเพียงเสี้ยวชีวิตข้าด้วยซ้ำ”

    More than love

    จิ้งจอกวัยสิบแปดปีนั่งอ่านหนังสือในถ้ำพลางถอนหายใจออกมา ดวงตาเรียวมองไปยังทางปากถ้ำด้วยความเศร้าสร้อย

                “มินโฮแต่งงานแล้วสิ”ปีศาจจิ้งจอกที่มีเพื่อนคุยอยู่เพียงคนเดียวถอนหายใจออกอีกครา เป็นวันที่สามแล้วที่คนที่เขารักไม่มาหาเช่นเคย ป่านนี้คงกำลังอยู่กับพระชายาเป็นแน่

                ดวงตาเรียวมีน้ำตาคลอจนเจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะปาดมันออก แต่ยิ่งทำยิ่งเหมือนกับทำให้น้ำสีใสนี้ไหลออกมามากกว่าเดิม แต่เมื่อเสียงฝีเท้าดังขึ้นทำให้เจ้าตัวหยุดร้องไห้โดยทันที ริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งไปปากถ้ำ

                “เป็นอย่างไรบ้างจินกิ”แต่คนที่มากลับเป็นพระราชาและธิดาเทพ ดวงตาที่ทอประกายเมื่อครู่หม่นลงทันที ร่างโปร่งบางทำความเคารพก่อนจะตอบคำถาม

                “ข้าสบายดี แล้วท่านล่ะสบายดีรึเปล่า”พระราชาซีวอนมองปีศาจน้อยตรงหน้าก่อนจะยิ้มบาง ชายวัยกลางคนดึงปีศาจมากอดไว้ก่อนจะลูบหัวแผ่วเบา

                “มินโฮสบายดี มันฝากบอกว่าคิดถึงเจ้ามาก ขอโทษด้วยที่ต้องแต่งงาน มันจะรีบกลับมา”การแต่งงานเพื่อบ้านเมืองนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  แม้หัวใจนั้นจะไม่ต้องการ ทีแรกซีวอนเองก็นึกกังวลไม่น้อยว่าเจ้าจิ้งจอกน้อยจะไปขัดขวางหรือถล่มงาน แต่ก็ไม่ทำอะไร มีเพียงแค่รอให้คนรักของตนกลับมาหาก็เท่านั้น

                ปีศาจหนุ่มไม่พูดอะไร มีเพียงความเปียกชื้นที่ซึมผ่านเสื้อลงมาเป็นคำตอบว่าคนรับฟังรู้สึกอย่างไร ฝ่ามือนุ่มนวลของธิดาเทพแตะลงไหล่ลาดแผ่วเบา

                “เดี๋ยวทุกอย่างก็จะผ่านไปนะจินกิ ไม่นานหรอก”กงล้อแห่งโชคชะตาเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ อนาคตสำหรับสองคนนี้นั้นช่างน่ากลัวจนเธอเองไม่อยากจะพูดมันออกมา เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรก

    More than love

                ควันสีขาวออกมาจากริมฝีปากอิ่มตามจังหวะการหายใจ เลือดแดงเข้มนั้นเหมือนจะหยุดไหลลงมากแล้ว ร่างบางนั้นอยากจะหลับตาลงจากความเหนื่อยล้า แต่ก็กลัวว่าจะไม่ลืมตาขึ้นมาเจออีกคนที่คิดเอาไว้ว่าจะมาหา ดวงตาเรียวนั้นจับจ้องทางปากถ้ำ แต่มันก็ดูพร่าเบลอจนอดกลัวไม่ได้ว่าตนเองจะจากไปทั้งที่ยังไม่ได้พบหน้าคนสำคัญ

                ดวงน้ำใสดั่งหิมะที่หลอมละลายกลั่นตัวออกจากดวงตาคู่สวย ความเจ็บปวดจากแผลมันชาจนไม่รู้สึกอะไรอีก เสียงสะอื้นดังขึ้นก่อนจะตามด้วยเสียงไอและหยดเลือดที่ออกมาจากริมฝีปากซีดเซียว

                “มินโฮ ข้ากลัวเหลือเกิน อย่าทิ้งข้าไว้แบบนี้เลย”น้ำเสียงนุ่มเบานั้นราวกับใช้สายลมเป็นตัวช่วยในการส่งคำขอไปให้ถึงอีกฝ่าย..เพราะพวกกบฏนั้นทำให้เขาต้องออกมาเปิดเผยตัวตนปกป้ององค์รัชทายาทตามสัญญา

                แต่มันกลับเลวร้ายกว่าเก่าเพราะปีศาจแบบเขา..ปีศาจที่กลายมาเป็นตัวทำลายล้างราชวงศ์ แม้ว่าธิดาเทพและพระราชาจะอธิบายเท่าไหร่ ก็เหมือนเทน้ำลงผืนทรายที่ไร้ค่าไปอย่างรวดเร็ว แต่เพราะองค์รัชทายาทต้องทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง และกำจัดปีศาจจิ้งจอกแทนซะ

                เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นทำให้ร่างบางนั้นดึงสติกลับมา แล้วร่างที่คุ้นเคยก็วิ่งเข้ามาหาพร้อมหยูกยาเต็มมือ

                “จินกิ เจ้าเจ็บมากรึเปล่า ข้อขอโทษ ข้าขอโทษ”ดวงตาคมโตนั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำที่เอ่อคลอ ฝ่ามือหยาบนั้นสั่นระริกพลางพยายามทำแผลนั้นให้เบามือและรวดเร็วที่สุด

                บาดแผลที่เขาเป็นคนลงดาบด้วยตัวเอง

    More than love

                ฝ่ามือนุ่มขาวขยี้ตาของตนพลางเดินออกมานอกถ้ำ พระอาทิตย์ที่เริ่มส่องแสงนั้นไม่ได้ทำให้จิตใจที่มืดมนส่องสว่างขึ้นมาได้เลย เจ้าตัวตัดสินใจลงนั่งกับพื้นพลางชันเข่าขึ้นกอดแน่น ดวงตาสีแดงสดยังคงจ้องไปยังทางเดินเบื้องหน้าเพื่อรอคอยคนที่ให้คำสัญญาเอาไว้ว่าเมื่อคืนจะมาหา

                “นี่มันก็จะเช้าแล้วนะ”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คำสัญญาถูกบิดพลิ้วไป ร่างบางถอนหายใจออกมาก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าที่พักของตน

                ไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ทำใจให้ชินไม่ได้เสียที

                จินกิทรุดตัวลงนั่งพลางมองกระจกที่สะท้อนเงาของตนออกมา บางทีเขาก็นึกเกลียดชาติกำเนิดที่เคยภูมิใจ เกลียดร่างกายที่ไม่เหมือนมนุษย์ เกลียดสายเลือดของตนที่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังคงเป็นเลือดของปีศาจอยู่วันยังค่ำ

                ฝ่ามือนุ่มไล้ไปตามใบหูของตนแล้วลากลงมาผ่านนัยน์ตาสีแดงสด เส้นผมนั้นก็ดูประหลาดจนตัวเขาเองอดรู้สึกไมได้ว่ามันน่ารังเกียจเหลือเกิน บางทีเขาเองก็คิดว่ามินโฮนั้นชอบตัวเขาจริงหรือ ทั้งที่ร่างกายเขาแปลกประหลาดแบบนี้

                หางสีขาวที่เคยภาคภูมิใจ แต่บัดนี้เขารู้สึกอยากจะตัดมันทิ้งไปเสีย อยากให้ตนเองดูเหมือนคนธรรมดาที่ออกไปหาคนที่ตนรักได้ ไม่ใช่หลบซ่อนตัวอยู่แบบนี้

                บานกระจกถูกเขวี้ยงแตกไม่มีชิ้นดีพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามา ดวงตาโตนั้นเบิกกว้างด้วยความตกใจพลางมองคนรักของตนที่กำลังนั่งตัวสั่นเม้มปากแน่น

                “จินกิ เจ้าเป็นอะไรน่ะ”ฝ่ามือหนานั้นวางลงไหล่ลาดแผ่วเบาแต่กลับถูกปัดออก ร่างบางนั้นหยัดกายขึ้นเต็มความสูงพลางมองใบหน้าคมนั้นนิ่ง

                    “ทำไมเจ้าถึงไม่แสดงท่าทางรังเกียจข้า จริงๆแล้วเจ้าเกลียดรูปร่างข้าที่แปลกประหลาดใช่รึเปล่า บอกข้ามาสิ!

                “จินกิเจ้าเป็นอะไรน่ะ จินกิ!”เสียงทุ้มต่ำตวาดลั่นพลางกอดอีกฝ่ายไว้แน่น จิ้งจอกขาวหายใจหอบถี่แรงก่อนจะดันตัวออก ความน้อยเนื้อต่ำใจที่สะสมมาครั้งแล้วครั้งเล่ามันทำให้อดคิดมากไม่ได้ ดวงตาเรียวนั้นจ้องร่างกายที่ปกติดีของคนรักตนแล้วแค่นยิ้ม

                “พระชายาของเจ้าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ปีศาจอย่างข้า เจ้าถึงไม่มาหาข้าเลย”

                “จินกิ เราเคยคุยกันแล้วใช่รึเปล่า ข้าไม่ได้รักนาง เจ้าไม่ได้แปลกประหลาดเลยแม้แต่น้อย”

                “ดวงตาข้า สีผม หู และหางนี่ เจ้าว่ามันไม่แปลกรึไง ถ้าไม่แปลกทำไมเจ้าถึงหายไปล่ะ ทำไมต้องผิดสัญญาด้วย”องค์รัชทายาทเองก็รู้ดีว่าตนนั้นเองก็มีความผิด ฝ่ามือหนานั้นรั้งเอวบางกลับมาก่อนกดจมูกลงเส้นผมนุ่ม

                “มันเป็นหน้าที่ และข้าไม่เคยมองเจ้าเป็นตัวประหลาด ข้ารักเจ้านะ เจ้าจะไม่เชื่อใจข้าหน่อยหรือไงกัน?”

                “เจ้าไม่ควรมารักปีศาจแบบข้า และข้าเองก็ไม่ควรรักเจ้าเลย ไม่สมควรจริงๆ”น้ำเสียงที่แสนเจ็บปวดนั้นมันทำให้มินโฮเจ็บปวดมากกว่าหลายพันเท่า

                “เจ้ารักข้าได้ ข้าเองก็รักเจ้าได้เช่นกัน ไม่ว่าเจ้าจะเป็นปีศาจหรือเป็นมนุษย์ ไม่ว่าอย่างไรเราก็มีสิทธิ์รักกัน ข้าจะพยายามไม่ผิดสัญญาอีก ข้าขอโทษ”

                ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะพูดเสียงแผ่วเบา

                “แค่เจ้าพูดแบบนี้ ข้าก็มีความสุขแล้ว”

    More than love

                การก่อกบฏครั้งยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้น เสียงดาบฟาดฟันกันดังสนั่นและแน่นอนว่าเป้าหมายนั้นคงไม่พ้นองค์รัชทายาทเป็นแน่

                ร่างสูงใหญ่นั้นเหวี่ยงดาบสังหารคนที่ปองร้ายตนอย่างไม่ย่อท้อ วันนี้คือวันที่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มกบฏ พระราชาที่ได้ชื่อว่าเทพเจ้าแห่งการรบออกไปดูตรงหัวเมือง พร้อมกำลังทหารจำนวนมาก จนในวังมีเพียงทหารองครักษ์

                กับดักล่อสิงห์ออกจากถ้ำเสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงลูกสิงห์ที่เขี้ยวเล็บยังไม่แหลมคมพอ

                ขาขาวนั้นกำลังก้าวกระโดดมาตามต้นไม้ ดวงตาเรียวนั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นเพราะหูของตนนั้นได้ยินเสียงการต่อสู้ชัดเจน การทำตามคำสัญญาแต่โบราณกาลกำลังเริ่มต้นขึ้น...

                องค์ธิดาเทพกำลังสวดภาวนาต่อเทพเจ้าให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ภาพเหตุการณ์ในอนาคตแล่นเข้ามาสู่ดวงตาไม่ขาดสายจนน้ำตาใสไหลรินออกมาไม่หยุด...

                องค์รัชทายาทหายใจหอบถี่พลางกลบความหวาดหวั่นที่เกิดขึ้น แผ่นหลังกว้างนั้นชนเข้ากับผนังกำแพงวังที่ติดกับป่าที่เขาคุ้นเคย ต่อให้เป็นทายาทของพระราชาผู้เก่งกาจมีพรสวรรค์มากมายแต่จำนวนคนที่มากมายนั้นไม่สามารถเอาชนะได้เลย

                กลุ่มกำลังที่เป็นกบฏเคลื่อนอาวุธพุ่งเข้าหาองค์ชายโดยไม่ลังเล วินาทีที่ปลายดาบจะสัมผัสตัวนั้น ศีรษะของทุกคนก็ขาดสะบั้น..

                ดวงตาโตเบิกกว้างมองคนรักของตนที่กำลังจัดการศัตรูราวกับนกน้อยที่เริงระบำใต้ผืนฟ้าที่มืดมิด ปลายดาบที่แวววาวดุจแสงดาวนั้นไหววูบพร้อมกับหัวของกบฏที่หล่นลงพื้น และร่างในอาภรณ์สีขาวนั้นถอยมาประชิดร่างสูงไว้

                “เจ้าไม่ต้องกลัวนะ”เขาทำได้เพียงมองแผ่นหลังบอบบางนั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา หางยาวนั้นที่เขาเคยหวีให้เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของมนุษย์ที่เพิ่งสังหารไป

                “ใครเข้ามาข้าจะฆ่าให้หมด!”เหล่ากบฏมองสิ่งที่ควรเป็นตำนานด้วยความพรั่นพรึง แต่เมื่อแผนการที่ใกล้สำเร็จอยู่แค่เอื้อม..ต่อให้เป็นปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวกว่านี้พวกเขาก็ต้องกำจัดมันออกไป

                เสียงสัญญาณของกบฏดังขึ้นพร้อมกับกบฏที่เหลือมารวมกันตรงหน้าเขาจำนวนมาก ดวงตาเรียวกวาดมองด้วยความสมเพชก่อนจะเขวี้ยงดาบในมือที่เก็บมาได้ก่อนมาถึงให้พุ่งไปข้างหน้าจนกลุ่มกบฏต้องแหวกตัวหลบเป็นทาง

                “วิ่ง!!”แขนเรียวนั้นกระชากคนตัวสูงพลางพาก้าวกระโดดข้ามเส้นทางที่เปิดออกไว้ไปยังตำหนักที่พระมเหสีและพระชายาถูกจับอยู่ มินโฮเองไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนว่าคนที่พาเขาหนีนั้นเพิ่งสังหารคนจำนวนมากภายในพริบตา

                “เจ้าไปหาพระมเหสีและพระชายาเถอะ คนพวกนี้ข้าจะจัดการเอง อย่าออกมาเลยนะ”คนตัวสูงได้แต่อ้ำอึ้งก่อนจะตัดสินใจเข้าตำหนักที่จินกิตามกลิ่นมาเพื่อปกป้องตามที่เขาควรทำ

                ร่างบางที่ยังยืนหยัดอยู่หน้าตำหนักนั้นกอดอกมองกลุ่มกบฏราวกับกำลังมองมดปลวก เขารู้ตัวดีว่าการที่เขาออกมาแบบนี้อนาคตของเขามันจะเป็นอย่างไร เขาไม่ได้มาตามสัญญาที่ผูกมัด แต่เขามาเพราะเขารักมินโฮ และพร้อมจะเสียสละทุกอย่าง

                “ไหนๆข้าก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว เรามาฆ่ากันเถอะ!”ปีศาจที่อย่างไรก็เป็นปีศาจหัวเราะร่ากับอนาคตที่ตนคิดว่ามันจะย่ำแย่จนน่าสมเพช ดวงตาเรียวนั้นมองปราดด้วยความโกรธเกลียดและชิงชังมนุษย์ที่บีบให้เขาต้อเผชิญกับอนาคตที่โหดร้ายที่รออยู่

                ร่างบางในชุดสีขาวนั้นพุ่งทะยานด้วยความเร็วผิดธรรมชาติ ฝ่ามือนั้นทะลวงเข้าควักหัวใจคนหนึ่งออกพร้อมกับอีกมือที่ดึงดาบจากมือนั้น เขาฝึกการต่อสู้แต่ยังเล็ก ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับปีศาจด้วยกันเขานั้นอ่อนแอและไม่มีฝีมือ แต่กลับมนุษย์พวกนี้...เหมือนกับการขยี้มดปลวกอย่างง่ายดาย

                มินโฮรุดออกมาดูพลางทรุดตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยล้า ปีศาจนั้นกำลังเข่นฆ่ากลุ่มกบฏโดยไม่ให้เหลือซาก ดวงตาโตนั้นมองด้วยความเจ็บปวดกับภาพตรงหน้า ภาพของการเข่นฆ่าโดยปีศาจที่เริงร่าใต้ผืนนภา เขาไม่รังเกียจ แต่เขากำลังหวาดกลัว กลัวอนาคตที่มันจะมาถึง

                ร่างชายหนุ่มนั้นแปรเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกขนาดยักษ์ เมื่อเห็นว่าจำนวนคนนั้นมันมากเกินไป เสียงหอนคำรามนั้นแสนปวดร้าวราวกับการระบายความโกรธา อุ้งเท้าทั้งสี่เหยียบย่ำมนุษย์ตัวกระจ้อยให้แหลกเละ ไม่ก็ตะปบจนกระเด็นหายไป

                “มินโฮ นี่มันอะไรกัน”เสียงพระมเหสีนั้นสั่นเครือด้วยความกลัวกับภาพตรงหน้า เลือดสีแดงฉานกำลังย้อมพื้นดินให้แดงก่ำ

                “เสด็จแม่อย่ากลัวไปเลย เขาแค่ต้องการปกป้องเรา”ใบหน้าของปีศาจจิ้งจอกหันมาตามต้นเสียง ดวงตาแดงสดคู่นั้นดูตกใจระคนเสียใจ เขาเห็นพวกองครักษ์ที่ยังเหลือ พระมเหสีและพระชายะจับจ้องมายังเขาด้วยความหวาดกลัว..แต่มันก็ไม่สำคัญ ตราบใดที่มินโฮยังไม่มองเขาด้วยสายตาแบบนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไร

                เพียงไม่นานเหล่ากบฏก็ถูกสังหารเสียจนสิ้น ปีศาจจิ้งจอกที่กลับร่างเดิมในอาภรณ์ขาวหากแต่บัดนี้กลับถูกย้อมไปด้วยเลือด เส้นผมและหางสวยนั้นถูกชโลมจนแดงก่ำแทบไม่เห็นสีเดิม

                “องค์ชาย ท่านปลอดภัยรึเปล่า”ร่างบางนั้นสาวเท้าเข้ามา แต่องครักษ์ผู้ภักดีกลับรีบเอาดาบขวางกั้นไม่ให้ใกล้องค์รัชทายาทมากกว่านี้ สายตาที่จับจ้องมานั้นมีแความหวาดกลัว ดวงตาเรียวสีแดงสดไหววูบก่อนหลุบต่ำลงพื้น จ้องมองฝ่ามือของตนที่มีคราบเลือดเต็มไปหมด

                “ทำไมเจ้าถึง..” “ข้าเป็นปีศาจจิ้งจอกตามพันธะสัญญาแต่โบราณกาล ถวายความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ให้อยู่สืบต่อไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ต้องปกปักษ์รักษาพระราชาและองค์รัชทายาทด้วยชีวิต ข้าขออภัยที่ทำให้ท่านต้องหวาดกลัว”ขาเรียวนั้นคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมพรั่งพรูคำพูดออกมาไม่ให้มินโฮได้พูดแม้แต่น้อย

                เสียงอาชาที่ควบดังพร้อมบุรุษผู้น่าเกรงขามเรียกให้ทุกคนต้องหันมอง พระราชานั้นควบม้ามาหยุดพลางจ้องไปยังกองเลือดและซากศพด้วยแววตานิ่งเฉยเป็นการเข้าใจทุกอย่าง ดวงตาคมกริบนั้นมองไปยังปีศาจตัวน้อยทีเขาเอ็นดูนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ดวงตาสีแดงสดนั้นกำลังสั่นระริกจนเขาเองยังอดสงสารไมได้

                “เสด็จพ่อ ข้า..” ซีวอนรีบลงจากหลังม้าแล้วกดมือแตะไหล่กว้างของลูกชายพลางบีบแผ่วเบาเป็นการไม่ให้พูดอะไร

                “เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ข้าไม่น่าถูกหลอกไปเลย จินกิ ขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยลูกชายของข้า”

                “ฝ่าบาทรู้จักเจ้าปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวแบบนี้ด้วยหรือเพคะ?”พระมเหสีร้องถามเสียงสูง ใบหูขาวของปีศาจนั้นลู่ลงตามอารมณ์ความเศร้าโศกที่เพิ่มขึ้น คิ้วเข้มหนาขมวดขึ้งก่อนจะพูดต่อว่า

                “จินกิเป็นปีศาจที่ดี เขาทำเพื่อปกป้องพวกเรา เจ้าก็เห็นไม่ใช่รึไงกัน”

                “ฝ่าบาท! หม่อมฉันคิดว่าปีศาจตนนี้ในอนาคตต้องมีพิษภัยต่อบ้านเมืองเราแน่ ได้โปรดสังหารมันเถอะพะย่ะค่ะ!

                “หุบปากนะเจ้ามนุษย์! ถ้าไม่ได้ข้าเจ้าคิดว่าเจ้าจะมีโอกาสมาพูดให้ข้าถูกประหารรึเปล่า เจ้าจะมีโอกาสกลับไปหาคนที่เจ้ารักรึเปล่า”เสียงนุ่มนั้นเย็นเยียบและแทบจะกลายเป็นเสียงคำราม องครักษ์นั้นตัวสั่นงั่นงก ก่อนจะรีบหลบหายไปรวดเร็ว

                เหล่าทหารที่เหลือเริ่มเดินทางมาถึงพลางมองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวระคนดีใจ เนื่องจากองค์รัชทายาทของพวกเขาปลอดภัยดี แต่ซากศพที่แหลกเละและปีศาจนั้นก็น่าหวาดหวั่นจนไม่กล้ามอง

                ซีวอนทอดสายตามองปีศาจจิ้งจอกที่ยังคงคุกเข่าที่เดิมด้วยสายตาที่เจ็บปวด สิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นกลับเกิดขึ้นมาจนได้ จนอดไม่ได้ที่จะโทษความโง่เง่าของตนที่หลงอุบายตื้นๆ ทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากจนบีบให้ปีศาจตนนี้ต้องออกมาสู่โลกภายนอก

                “เสด็จพ่อ! ข้าไม่ยอมให้ท่านสังหารจินกิหรอกนะ ท่านก็รู้ว่า โอ๊ย!”สันมือถูกสับลงหลังคอลูกชายตนทันทีท่ามกลางความตกใจของทุกคน แขนแข็งแรงนั้นประคองร่างมินโฮไว้ก่อนพูดเสียงนิ่ง

                “จินกิกลับเข้าป่าไปซะ ทุกคนแยกย้ายเก็บกวาดพวกนี้แล้วท่านแม่ทัพฝ่ายซ้ายไปสืบหาตัวการ แม่ทัพฝ่ายขวาวางกองกำลังส่วนหนึ่งคุ้มกับรอบวังให้แน่นหนา เร็ว!”จินกิมองคนรักของตนที่สลบไปก่อนจะตัดสินใจทำตามคำสั่งของนายเหนือหัว เจ้าตัวผลุบหายไปจากวังด้วยความรวดเร็ว

                ดวงตาคมกล้าขององค์ราชันย์มองท้องฟ้าที่มืดมิดก่อนจะส่งตัวองค์ชายให้ทหารองครักษ์ เขาไม่รู้ว่าตนนั้นจะมีความสามารถมากพอที่จะทำให้เรื่องนี้จบลงได้ดีแค่ไหน

                “ข้าควรทำอย่างไรดี?”

    More than love

                ร่างโปร่งบางนั่งนิ่งพลางทอดมองไปยังปากถ้ำด้วยแววตาสิ้นหวัง ถึงจะตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้แล้ว แต่ความตายที่รออยู่เบื้องหน้ามันก็น่ากลัวเสียจนร่างกายสั่นสะท้าน หวังเพียงว่าคนรักของเขาจะเดินทางมาหา จะปลอบประโลมแล้วพูดว่าทุกอย่างมันจะผ่านไปด้วยดี

                แต่มินโฮนั้นต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ตามที่เขาสัญญาไว้กับซีวอน ซึ่งสิ่งที่พระราชาผู้ปรีชาคาดเดาไว้ถูกต้อง ตอนนี้พระราชากำลังถูกโจมตีหนักเรื่องรักษาปีศาจเลี้ยงไว้ใช้งาน เป็นการกระทำที่ขัดต่อสวรรค์ ถึงแม้ธิดาเทพและพราราชาจะพูดเท่าไหร่ก็ไม่มีใครฟัง

                “จินกิ”น้ำเสียงนุ่มหวานของธิดาเทพเหมือนสายน้ำที่หยดลงมาหล่อเลี้ยง ความอ้างว้างหวาดกลัวนั้นผลักดันให้ร่างบอบบางนั้นโผเข้ากอดร่างกายอรชรนั้นไว้แน่น

                “ท่านธิดาเทพ ข้ากลัว ข้าอยากเจอมินโฮ”ฝ่ามือเรียวสวยนั้นลูบเส้มผมนุ่มยาวเบามือ นางรู้ดีว่าทุกอย่างมันกำลังจะจบลงในไม่ช้า

                “จินกิ..ฟังข้านะ นี่คือคำสั่งจากพระราชา”

                “ตอนนี้ทุกอย่างมันเลวร้ายมาก และเพื่อรักษาศรัทธาที่เสียไป พรุ่งนี้จะมีการจัดงานประหารปลอมๆเกิดขึ้น แต่เจ้าจะต้องเจ็บตัวบ้าง หลังจากนั้นให้เจ้าหนีมาที่นี่แล้วไม่ต้องออกมาอีก”

                “ธิดาเทพ แต่ข้าหนีคำสัญญาไม่พ้นหรอก นอกจากข้าจะตาย หรือมินโฮเกลียดข้า และความลับไม่เคยมีในโลก ท่านก็เห็นอยู่”ใบหน้างดงามของธิดาเทพหม่นลง น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ

                “ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำอะไร แต่การทำแบบนั้นกับการซ่อนตัวจนเรื่องเงียบหายมันน่าจะดีกว่า”

                “แต่ถ้ามินโฮถูกจับได้ล่ะ ตำแหน่งของเขา ราชวงศ์ที่พวกข้าปกป้องกันมานานจะเป็นอย่างไรกัน ถึงข้าจะลบความทรงจำได้..แต่คนเห็นเหตุการณ์มีเป็นร้อย ข้าทำไม่ไหว และข้าเองก็ไม่อยากให้มินโฮลืมข้า”

                “เจ้าตัดสินใจแน่แล้วรึเปล่า เจ้าไม่คิดบ้างรึไงว่าเจ้าเห็นแก่ตัวโดยการทิ้งให้องค์รัชทายาทเผชิญกับความทรงจำนี้เพียงลำพัง”

                “ข้าตัดสินใจแล้ว..ได้โปรดอย่าบอกมินโฮนะ บอกเขาแค่ให้เตรียมยามาให้ข้าหลังจากการประหารปลอมๆนั่นก็พอแล้ว ฝากบอกพระราชาด้วยว่าพรุ่งนี้หลังจากมินโฮมาหาข้าแล้วลงเขาไป ให้ฝ่าบาทรอรับของจากข้าด้วย

    “ธิดาเทพ ข้ารู้ว่าข้าเห็นแก่ตัว แต่ตลอดเวลาข้าไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย ข้าขอร้อง”น้ำเสียงที่มุ่งมั่นนั้นทำให้ธิดาเทพเองก็ไม่มีข้อใดๆมาโต้แย้ง หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะเดินกลับออกไปตามเส้นทางเดิม

                จินกิเหม่อมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีไปทีละน้อย ความรักที่เขามีมันช่างเจ็บปวดมากเสียจนเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าตนผ่านมันมาได้อย่างไร เส้นทางที่เชื่อมกับวังนั้นดูเหมือนจะห่างไกลกว่าเดิมมากโข ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นมินโฮนั้นเร่งรุดมาหาตน

                “มินโฮ..”ร่างบางนั้นโผเข้ากอดอีกฝ่ายแน่น ใบหน้าหวานซุกลงแผ่นอกกว้างก่อนจะสะอื้นออกมา..พอเห็นใบหน้าคนที่ตนรัก การตัดสินใจที่จะตายนั้นมันก็เลยไขว้เขว

                ยังอยากเห็น อยากสัมผัส อยากพูดคุย อยากใช้เวลาอยู่กับคนรักของตนไปตลอด

                “ไม่ต้องกลัวนะ เจ้าจะไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกลัว เจ้ารู้เรื่องที่จะเกิดพรุ่งนี้แล้วใช่รึเปล่า ไม่ต้องกลัวนะ”น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นยิ่งรั้งความรู้สึกไม่อยากจากไปมากกว่าเดิม

                “ข้าคงต้องกลับแล้ว ข้ามีเวลาไม่มาก”แต่ท่อนแขนขาวนั้นยังคงโอบรัดร่างสูงไว้แน่น ปีศาจแบบเขาคงเห็นแก่ตัวมากจริงๆ..

                “อยู่กับข้านะ ได้โปรด อยู่กับข้าจนกว่าจะเช้าเถอะ”

    More than love

                ร่างสูงระบายลงหายใจออกพลางยิ้มโล่งอก เมื่อบาดแผลนั้นไม่มีเลือดไหลซึมออกมาอีก ริมฝีปากหยักประทับลงหน้าผากใสแล้วผละออก

                “ข้านึกว่าข้าจะทำพลาดจนแทงโดนจุดสำคัญของเจ้าเสียแล้ว ข้ากลัวจะเสียเจ้ามากเลยรู้รึเปล่า”

                “เจ้ากำลังคุยอยู่กับใครกัน? ข้าน่ะเป็นถึงลูกของจิ้งจอกขาวและจิ้งจอกดำเชียวนะ แผลแค่นี้มันไม่ทำให้ข้าตายหรอกน่า”ริมฝีปากอิ่มนั้นยิ้มยียวนก่อนจะมองดวงตาคมโตนั้นไว้

                “ข้ารู้ แต่การจะทำร้ายคนที่ข้ารักมันยากนะ ข้าคงจะมาหาเจ้าบ่อยๆไม่ได้”

                “ไม่เป็นไรหรอก นั่งข้างๆข้าหน่อยสิ”คนตัวสูงทำตามอย่างว่าง่าย หัวกลมทุยนั้นเอนซบไหล่กว้างไว้แล้วถูไปมา

                “อ้อนจังนะวันนี้”คนตัวเล็กหัวเราะเสียงเบา ฝ่ามือนุ่มนั้นกุมมือหนาที่อบอุ่นไว้แน่นราวกับเป็นการซึมซับความอุ่นนี้เอาไว้

                “ก็ข้าอยากอ้อนนี้ ข้าทำไม่ได้รึไงกัน”

                “ได้สิ อย่าขยับมาก เดี๋ยวแผลมันจะช้ำและเลือดออกอีก”ดวงหน้าหวานซีดงอง้ำก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยท่าทางเอาแต่ใจ

                “หวีของข้าหาย หางข้าเละแล้วดูสิ เจ้าไปเอาหวีมาหน่อย”ไม่พูดเปล่า หางยาวสีขาวนั้นขยับโบกไปมาผ่านหน้าคนตัวสูงกว่าจนมินโฮอมยิ้ม ร่างสูงหยัดกายขึ้นก่อนจะพูดออกมา

                “ได้สิ เจ้าเจ็บเพราะข้า ข้าจะดูและและเอาใจเจ้าเองนะ”จินกิยิ้มกว้างแล้วรีบบอกให้อีกฝ่ายรีบลงไป ใบหูแหลมนั้นขยับคอยฟังเสียงฝีเท้าที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ฝ่ามือนุ่มลูบไล้หางของตนที่ตนหวงมากที่สุด

                ไม่มีใครรู้ว่าถ้าจะฆ่าปีศาจจิ้งจอก ให้ตัดหัวทิ้ง หรือไม่ก็ตัดหางทิ้งซะ

                “ขอโทษนะ มินโฮ”

                มินโฮรีบไปเอาหวีของตนและหลบเลี่ยงหน่วยลาดตระเวน ขายาวนั้นรีบสาวไปยังป่าหลังวังที่มีทางเดินสำหรับพระราชา องค์รัชทายาทและธิดาเทพเท่านั้นที่เห็น

                ริมฝีปากหยักนั้นระบายยิ้มบางเมื่อนึกถึงดวงหน้าหวานที่มีความสุขยามที่เขาใช้หวีแปรงหางให้สวย ดวงตาคมโตนั้นมองไปเบื้องหน้าก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นบิดาของตนยืนนิ่งอยู่หน้าผืนป่าที่เคยมีเส้นทาง

                “เสด็จพ่อ! ทางเดินมัน..นั่นอะไรน่ะ!?”ความสุขชั่วครู่นั้นมลายหายไปรวดเร็ว เมื่อบิดาของตนหันกลับมาพร้อมในมือนั้นถือประครองสิ่งที่เรียกว่าหางไว้

                มันไม่สมควรอยู่ตรงนี้ ควรอยู่กับเจ้าของร่างที่รอเขาอยู่บนถ้ำนั้นไม่ใช่หรือ?

                “จินกิขอร้องให้พ่อทำ..หางคือชีวิตของปีศาจจิ้งจอก เขาลงมาแล้วส่งหางมาให้”คำว่าส่งคงผิดกับภาพที่ฟ้อง แอ่งเลือดที่อยู่ถัดจากซีวอนนั้นเป็นตัวบ่งบอกว่าจินกิลงมาทำอะไร

                “ทำไมเสด็จพ่อไม่ห้าม! ทำไม!!!”น้ำตาค่อยๆไหลออกจากดวงตาคมโตนั้น ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่ภายในช่วงเวลาสั้นๆจนเขาเองไม่ทันตั้งตัว ร่างกายนั้นเหมือนไร้เรี่ยวแรงจนขายาวนั้นทรุดลงกับพื้น

                “จินกิฝากขอโทษเจ้าด้วย และหางนี้..เขาหวังว่าเจ้าจะไม่ลืมเขา”คนเป็นพ่อเองก็เสียใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นลูกชายของตนเจ็บปวดมากถึงเพียงนี้ องค์ราชาผู้ทระนงไม่เคยคุกเข่าให้ใครกลับคุกเข่าลงพื้นแล้วดึงลูกชายที่ตนรักมากอดแน่น

                “จินกิเขาเหนื่อยมามากแล้วล่ะ ให้เขาได้พักเถอะนะ”ไม่มีเสียงสะอื้น ไม่มีคำพูดใดๆ มีเพียงน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาแทนคำพูดไม่หยุด

                “เส้นทางไปถ้ำนั้นไม่มีอีกแล้ว พอหมดคำสัญญาระหว่างราชวงศ์กับปีศาจ ให้ภูเขานี้เป็นสุสานของจินกิเถอะ”หวีไม้นั้นร่วงลงพื้น ร่างสูงผละกายออกจากพ่อของตน แล้วรับหางสวยที่เขาเคยหวีให้นั้นมามองดู

                “ทำไมเจ้าถึงใจร้ายกับข้าถึงขนาดนี้ เจ้าทิ้งให้ข้าอยู่เพียงลำพังได้อย่างไรกัน ทำไมเจ้าถึงเป็นแบบนี้”

                น้ำตาของคนเป็นพ่อแทบไหลรินกับภาพตรงหน้าตน เพียงเพราะความโลภของคนกลุ่มหนึ่ง ความหวาดกลัวไม่ยอมรับรู้อะไรของมนุษย์ ทำให้หนึ่งปีศาจต้องตายไป และเหลืออีกหนึ่งคนไว้เหมือนตายทั้งเป็น

                ดวงตาเรียวนั้นพร่าเลือนจนเจ้าตัวแยกไม่ออกว่าเพราะน้ำตาหรือเพราะความตายที่เข้าใกล้ เส้นทางเดินนั้นค่อยๆปิดลงไล่มาเรื่อยๆเหมือชีวิตของเขาที่ใกล้หมดลงทุกที

                ร่างกายที่พยายามพาร่างของตนกลับสู่ที่เดิมไม่เหลือแรงจะเคลื่อนไหวอีกต่อไป ภาพความทรงจำที่เด่นชัดขึ้นมาราวกับมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงหน้าทับซ้อนกับผนังถ้ำเต็มไปหมด ริมฝีปากอิ่มนั้นเผยอยิ้มบางก่อนจะแค่นหัวเราะหึกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา

                ดวงตานั้นมองไม่เห็นสิ่งใดแล้ว สัมผัสอุ่นร้อนที่เพิ่งได้รับก็เหมือนจะจางหายไปเช่นกัน ความตายนั้นมันเจ็บปวดและน่ากลัวกว่าที่เขาคิดเอาไว้หลายเท่าตัว โดนเฉพาะการตายที่ทิ้งคนสำคัญไว้เพียงลำพัง ใบหูที่เคยตั้งรับฟังเสียงนั้นตกลง

                และสรรพเสียงทุกอย่างก็หายไป...

    Special

                “หวา~~”เสียงนุ่มของลีดเดอร์ชายนี่ร้องเสียงหลงเมื่อขาไม่รักดีดันสะดุดจนหน้าแทบจะทิ่มลงพื้น แต่ยังดีที่อ้อมแขนแข็งแรงนั้นรั้งเอาไว้ได้เสียก่อน

                “ซุ่มซ่ามจริง”น้ำเสียงเข้มดูดุแต่ก็ระอาจนคนฟังหันมาชักสีหน้าใส่

                “งั้นก็ปล่อยพี่สิ เอาให้หัวทิ่มพื้นไปเลยไป”มินโฮส่ายหน้าอีกครั้งก่อนจะจับคนตัวนุ่มมายืนให้ดีๆ

                “อย่าดื้อน่า พี่ก็รู้ว่าผมห่วงพี่แค่ไหน ปล่อยตกไปพื้นพังพอดี”

                “ไอ้เด็กบ้า!”ว่าจะเขินกับคำพูดหวานๆแต่ก็เปลี่ยนมาต่อยเบาๆทีต้นแขนนั้นแก้ความหมั่นไส้ของคนรักตนไปหนึ่งที

                “อ้วนแล้วยังมือหนักอีก”ถึงปากจะพูดยียวนแต่เขาก็ห่วงและหวงพี่ชายตัวขาวของวงมากที่สุด ตั้งแต่แรกเจอเขาก็อดหลงรักท่าทางและรอยยิ้มนั้นไม่ได้..เหมือนกับผูกพันกันมานาน

                “ไม่ได้ผอมเหมือนแกนี่ เออ ฉันจะอดขาวอดน้ำ อดๆๆๆให้มันผอมไปเลย!

                “ไม่ต้องเลย แบบนี้ดีแล้วอุ่นดี นุ่มด้วย เดี๋ยวพี่ก็ไปเป็นลมล้มที่ไหนอีก แค่นี้ก็สะดุดลมทุกวันจนผมจะตามรับไม่ทันแล้ว”อีจินกิเบ้ปากกับความจริงของตน แต่ก็ยังไม่วายที่จะพูดแหย่

                “รักอ่ะดิ ห่วงล่ะสิ โถ่เอ๊ยย พูดดีๆสิถ้าห่วงน่ะ พูดจายียวนแบบนี้เดี๋ยวไม่รักเลย”คิ้วเข้มนั้นขมวดมุ่นกับคำว่าไม่รักจนจินกิหัวเราะสะใจในศึกครั้งนี้ที่ชนะไปอย่างงดงาม

                มินโฮเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องรักต้องไม่อยากห่างจากตัวอีกคนแบบนี้ เหมือนกับเขาเคยทำผิดพลาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาก่อน ริมฝีปากร้อนจึงป้อนความหวานให้คนตัวขาวแน่น แล้วเริ่มรุกหนักขึ้นจนหัวหน้าวงเริ่มฟาดไหล่ฟาดแขน

                “เด็กบ้า! นี่มันห้องนั่งเล่นนะ”เสียงติดแหลมนะโวยวายออกมาทันที ดวงหน้าน่ารักแดงเรื่อชวนมอง

                “ผมรักพี่นะ ผมไม่อยากเสียพี่ไป อย่าพูดว่าจะไม่รักผมอีก”พอเจอดวงตาคมนั้นก็ทำเอาจินกิซ่าไม่ออก

                “รักเหมือนกันไง ไม่พูดแล้วๆ หลบสิจะไปอาบน้ำ เหนื่อย”มินโฮยิ้มกว้างก่อนจะจับคนตัวนุ่มขึ้นอุ้มแล้วพาเข้าห้องน้ำเอง

                “ผมอาบให้~

                “เดี๋ยว! ปล่อยนะ ปล่อยย!

                แล้วทุกอย่างก็เงียบลง...รึเปล่านะ?

    THE END

                จบแล้ววว ดราม่ามั้ยฮับ-w- จริงๆตอนพิมพ์ก็จะร้องไห้นะ..แต่รีดเดอร์จะเศร้ากันบ้างมั้ย กระซิก..จริงๆตอนแรกมันจะเป็นฟิคกุ๊กกิ๊ก แต่ดันหาเพลงประกอบไม่ได้และเจอเพลงนี้แทนก็นะ กลายเป็นดราม่า หวังว่าจะชอบกันนะค้าบ~

    อยากอ่านฉากที่หายไปในห้องน้ำ กรุณาไปจิ้มตอนที่ 1 นะเจ้าคะ อาจจะยุ่งยากแค่แปปเดียว แต่ดีกว่าการเสียเวลาคอยเมล์จากไรท์หลายวันนะคะ

     

    Cr : lyricsthai & White Exorcist

    quality
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×